ผลของการให้ทาน

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย ngern42, 30 ตุลาคม 2007.

  1. ngern42

    ngern42 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2007
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +588
    <TABLE class=blog_center_data><TBODY><TR><TD>ทักขิณาวิภังคสูตร (๑๔/๗๑๑) พระพุทธเจ้าตรัสถึงผลการให้ทานว่า
    ๑. ให้ทานในสัตว์เดรัจฉานได้ผลร้อยเท่า
    ๒. ให้ทานในปุถุชนผู้ทุศีลได้ผลพันเท่า
    ๓. ให้ทานในปุถุชนผู้มีศีลได้ผลแสนเท่า
    ๔. ให้ทานในบุคคลภายนอกผู้ปราศจากความกำหนัดในกามได้ผล
    แสนโกฏิเท่า
    ๕. ให้ทานในท่านผู้ปฏิบัติเพื่อทำโสดาปัตติผลให้แจ้งได้ผลนับประมาณมิได้
    ๖. ถ้าให้ทานในพระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี พระอรหันต์
    พระปัจเจกพุทธะ และพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผลยิ่งไม่อาจนับประมาณได้เลย
    สัปปุริสทานสูตร (๒๒/๑๔๘) พระพุทธเจ้าตรัสถึงทาน ๕ ประการ
    ๑. ทานที่ให้ด้วยศรัทธา ทำให้ร่ำรวยและมีรูปงาม
    ๒. ทานที่ให้โดยเคารพ ทำให้ร่ำรวยและมีบุตร ภรรยา บริวารที่เชื่อฟัง
    ๓. ทานที่ให้โดยกาลอันควร ทำให้ร่ำรวยตั้งแต่ปฐมวัย
    ๔. ทานที่ให้ด้วยจิตอนุเคราะห์ ทำให้ร่ำรวยและพอใจใช้ของดีๆ
    ๕. ทานที่ให้โดยไม่กระทบตนและผู้อื่น ทำให้ร่ำรวยและทรัพย์นั้นปลอดภัย
    จาก ไฟ น้ำ หรือการแย่งชิงของผู้อื่น
    ทานสูตร (๒๓/๔๙) พระพุทธเจ้าตรัสถึงการให้ทาน ๗ อย่าง
    ๑. การให้ทานด้วยคิดว่า ตายไปจักได้เสวยผลทานนี้ เมื่อตายแล้วย่อมเกิด
    ในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา
    ๒. การให้ทานด้วยคิดว่า ทานเป็นการดี เมื่อตายแล้วย่อมเกิดในสวรรค์
    ชั้นดาวดึงส์
    ๓. การให้ทานด้วยคิดว่า บิดามารดา ปู่ย่า ตายายเคยให้ เราไม่ควรทำให้
    เสียประเพณี เมื่อตายแล้วย่อมทำให้เกิดในสวรรค์ชั้นยามา
    ๔. การให้ทานด้วยคิดว่า เราหุงหากินได้จะไม่ให้ทานแก่สมณะผู้ไม่หุงหา
    ไม่สมควร เมื่อตายแล้วย่อมเกิดในสวรรค์ชั้นดุสิต
    ๕. การให้ทานด้วยคิดว่า เราจักเป็นผู้จำแนกแจกทานเหมือนฤษีครั้งก่อน
    เมื่อตายแล้วย่อมเกิดในสวรรค์ชั้นนิมมานรดี
    ๖. การให้ทานด้วยคิดว่า เมื่อเราให้ทานอย่างนี้ จิตจะเลื่อมใสเกิดความ
    ปลื้มใจสุขใจ เมื่อตายแล้วย่อมเกิดในสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตตี
    ๗. การให้ทานเพื่อเป็นเครื่องปรุงแต่งจิต เมื่อตายแล้วย่อมเกิดในพรหมโลก
    (ชั้นสุทธาวาส) ภายหลังย่อมปรินิพพานในภพนั้นเอง (อรรถกถาอธิบายว่า เขา
    ไม่อาจไปเกิดในพรหมโลกด้วยทาน แต่ด้วยจิตอันประดับด้วยทานนั้น เขาทำ
    ฌานและอริยมรรคให้บังเกิด ย่อมเกิดในพรหมโลกด้วยฌาน)
    อรรถกถาธรรมบท ภาค ๔ กล่าวถึงทาน ๔ ประการ คือ
    ๑. ให้ทานด้วยตน ไม่ชักชวนผู้อื่น ย่อมได้โภคสมบัติ ไม่ได้บริวารสมบัติ
    ๒. ชักชวนผู้อื่น ไม่ให้ด้วยตน ย่อมได้บริวารสมบัติ ไม่ได้โภคสมบัติ
    ๓. ไม่ให้ด้วยตน ทั้งไม่ชักชวนผู้อื่น ย่อมไม่ได้โภคสมบัติ ไม่ได้
    บริวารสมบัติ
    ๔. ให้ด้วยตนเอง ทั้งชักชวนผู้อื่น ย่อมได้ทั้งโภคสมบัติ และบริวารสมบัติ
    อรรถกถากล่าวว่า ทานที่มีผลมากประกอบด้วยองค์ ๓ คือ
    ๑. ผู้รับมีศีลมีคุณธรรม
    ๒. ของที่ให้ได้มาอย่างสุจริต มีประโยชน์และสมควรแก่ผู้รับ
    ๓. มีเจตนาบริสุทธิ์ มีจิตใจที่ยินดี แจ่มใส เบิกบาน ทั้งก่อนให้ ขณะให้
    และเมื่อให้แล้ว
    อรรถกถากล่าวว่า ผลแห่งบาปจะมากหรือน้อยขึ้นกับองค์ ๓ คือ
    ๑. ถ้าคน สัตว์ หรือสิ่งของที่ล่วงละเมิด มีความดี ประโยชน์หรือมูลค่ามาก
    บาปก็มาก ถ้าความดี ประโยชน์หรือมูลค่าน้อย บาปก็น้อย
    ๒. ถ้าความพยายามมาก ก็บาปมาก ถ้าความพยายามน้อย ก็บาปน้อย
    ๓. ถ้าเหตุจูงใจคือราคะ โทสะ โมหะมากก็บาปมาก ถ้าราคะ โทสะ โมหะ
    น้อยก็บาปน้อย
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,274
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,095
    อภัยทาน สูงสุดครับ เพราะตัดความโกรธในใจ ชื่อว่าเป็นทานที่ทำได้ยากมากครับ โมทนาครับ ในธรรมทาน สาธุ
     
  3. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
    ขออนุโมทนาบุญกับผู้ post และทุกๆท่านที่ร่วมอนุโมทนาครับ<O:p</O:p
    สาาาาา...ธุ<O:p</O:p
    สาาาาา...ธุ<O:p</O:p
    สาาาาา...ธุ<O:p</O:p
    ให้ดังไปถึงพระนิพพาน<O:p</O:p
     

แชร์หน้านี้

Loading...