ผลที่คาดไม่ถึงของการทำนายภัยพิบัติ

ผมขอตั้งกระทู้นี้เอาไว้รวบรวมผลจากการปล่อยข่าวลือโดยไม่รับผิดชอบของผู้ที่ชื่นชอบการปล่อยข่าวลือเรื่องภัยพิบัติต่างๆ เอาไว้ป็นเครื่องเตือนสติ

กรรมที่ท่านทำเอาไว้มันส่งผลถึงบุคคลอื่นถึงขั้นเสียชีวิตโดยที่ท่านคาดไม่ถึง

ก่อนที่จะปล่อยข่าวที่ฟังมา หรือสร้างข่าวขึ้นมาเอง กรุณาตั้งสติแล้วนึกถึงตัวอย่างของผลที่ตามมาในกระทู้นี้ครับ

หากใครมีตัวอย่างผลของข่าวลือภัยพิบัติ เชิญโพสได้ตามสบายครับ

 

เครียด หลุมดำ ฆ่าตัวหนีโลกดับ สลดสาว ที่ "อินเดีย" กินยาตาย ชี้ดินไหว ไม่เกี่ยว!


สาวอินเดียเครียดจัด หวั่นการทดลองของ "เซิร์น" จะทำให้เกิดหลุมดำและเป็นวันสิ้นโลก กินยาฆ่าแมลงฆ่าตัวตาย พ่อเผยลูกสาวติดตามข่าวการทดลองยิงอนุภาคและเครียดจัดกลัวโลกจะดับ แม้ญาติพยายามอธิบายแต่ก็ไม่เป็นผล อินโดฯ-ญี่ปุ่นผวาหลังเกิดแผ่นดินไหวหลังการทดลองของเซิร์น แต่สุดท้ายไม่มีอะไรรุนแรง นักวิทยาศาสตร์ชี้แผ่นดินไหวไม่เกี่ยวกับการทดลอง เตือนอย่าวิตก เพราะการทดลองไม่ส่งผลกระทบกับโลก

เมื่อวันที่ 11 ก.ย. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานข่าวสลดใจจากประเทศอินเดีย ว่า น.ส.ชยา ชาวบ้านในรัฐมัธยประเทศ กินยาฆ่าแมลงฆ่าตัวตายเมื่อวันที่ 10 ก.ย. เพราะดูข่าวการทดลองไขปริศนาการกำเนิดจักรวาลของ "เซิร์น" จนเครียดจัด กลัวจะถึงวันสิ้นโลก

นายพิหารีลาล บิดา น.ส.ชยา เปิดเผยว่า ลูกสาวดูข่าวและกลัวมากว่าการทดลองสร้างปรากฏการณ์ "บิ๊กแบง" ขององค์กรวิจัยนิวเคลียร์แห่งยุโรป หรือ "เซิร์น" ในวันที่ 10 ก.ย. จะทำให้เกิดหลุมดำดูดกลืนโลกหายไปทั้งใบตามที่สื่อมวลชนประโคมข่าว

"วันที่ 8 และ 9 ก.ย. ลูกสาวเอาแต่ถามผมกับญาติๆ ว่า โลกจะถึงจุดจบวันที่ 10 ก.ย. จริงหรือไม่ พวกเราก็พยายามหาทางพูดไม่ให้ชยาคิดมาก บอกว่าอย่าไปกังวลมากนักเลย แต่ก็ไม่สำเร็จ" นายพิหารีลาล กล่าว

ทั้งนี้ สังคมอินเดียเชื่อถือเรื่องเหนือธรรมชาติมาก เมื่อสื่ออินเดียต่างพากันปลุกกระแสเรื่องการทดลองของเซิร์นกับวันสิ้นโลก ทำให้ชาวบ้านในทางภาคตะวันออกหลายพันคนไปรวมตัวกันที่วัดเพื่อสวดมนต์และร่วมถือศีลหมู่ เพื่อขอให้โลกไม่แตกดับ

วันเดียวกัน เกิดแผ่นดินไหวระดับรุนแรง เขย่าบางพื้นที่ของประเทศญี่ปุ่นและอินโดนีเซีย วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.9 และ 6.6 ริกเตอร์ตามลำดับ ทางการทั้งสองชาติต้องประกาศเตือนภัยคลื่นยักษ์สึนามิซัดเข้าฝั่ง และประกาศยกเลิกภายหลังเมื่อไม่มีเหตุร้ายเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ประชาชนในบางชาติ รวมทั้งประเทศไทยวิตกกังวลว่าแผ่นดินไหวอาจเป็นผลกระทบจากการทดลองของเซิร์น

ศ.ดร.สุทัศน์ ยกส้าน นักทฤษฎีฟิสิกส์ ที่ปรึกษาด้านวิชาการศูนย์สื่อสารวิทยาศาสตร์ไทย สวทช. ให้สัมภาษณ์กรณีมีประชาชนวิตกกังวลเกี่ยวกับการเกิดเหตุแผ่นดินไหวที่ประเทศญี่ปุ่น และอินโดนีเซีย หลังการทดลองจำลองการเกิดปรากฏการณ์บิ๊กแบง โดยใช้เครื่องเร่งอนุภาคความเร็วสูงเกือบเท่าแสงหรือ Large Hadron Collider (LHC) ของนักฟิสิกส์ที่ห้องปฏิบัติการศูนย์วิจัยนิวเคลียร์แห่งยุโรป หรือ "เซิร์น" บริเวณพื้นที่รอยต่อระหว่างประเทศฝรั่งเศสและสวิตเซอร์แลนด์ ว่า...

การเกิดแผ่นดินไหวไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการทดลอง LHC จึงไม่อยากให้ประชาชนเกิดความวิตกกังวล หรือตื่นเต้นตกใจไปกับการทดลองครั้งนี้ และไม่อยากให้นำเรื่องของการทดลองทางวิทยาศาสตร์มาเกี่ยวโยงกับภัยธรรมชาติ เนื่องจากการทดลอง LHC เป็นการทดลองที่อยู่ในมาตรฐานความปลอดภัยสูง และยังอยู่ในพื้นที่ที่ห่างไกลออกไป ซึ่งจะไม่มีผลกระทบจนทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้ เป็นคนละเรื่องกัน แต่อาจจะประจวบเหมาะที่มาเกิดในเวลาไล่เลี่ยกันเท่านั้น

ศ.ดร.สุทัศน์ กล่าวต่อว่า อยากอธิบายให้ประชาชนที่สนใจการทดลองครั้งนี้เข้าใจง่ายๆ ว่า การทดลอง LHC ดังกล่าวเป็นความร่วมมือของนักฟิสิกส์ที่ต้องการจะทดลองนอกกรอบทฤษฎีเดิม เนื่องจากทฤษฎีในปัจจุบันอธิบายไว้สำหรับการใช้พลังงานในระดับหนึ่งเท่านั้นตามที่เคยทดลองกันมา แต่สำหรับพลังงานที่มากกว่านั้นยังไม่เคยมีการทดลองกันแบบจริงๆ มาก่อน เพียงแต่ใช้การจินตนาการ หรือการคำนวณตามทฤษฎีเท่านั้น ดังนั้นการทดลอง LHC ครั้งนี้จะเป็นการพิสูจน์ว่าหากเราใช้พลังงานที่มากกว่าในระดับนั้นจะเกิดอะไรขึ้น

"เปรียบเสมือนว่าที่ผ่านมาเราเคยขับรถกันอยู่แค่ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่เราจะทดลองขับเป็น 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงดูแบบนี้ว่าผลจะเป็นอย่างไร เป็นการทดลอง ที่จะทำให้เรารู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น เป็นการสร้างสสารชนิดใหม่ๆ เกิดขึ้นเป็นร้อยเป็นพันชนิด และเมื่อได้ผลเราจะรู้ว่าทฤษฎีเดิมที่เคยคิดๆ กันมานั้นถูกต้องหรือไม่ ซึ่งถ้าไม่ถูกต้องตามการทดลอง ก็จะต้องเปลี่ยนทฤษฎีทางฟิสิกส์กันใหม่ จึงเป็นเรื่องที่นักฟิสิกส์ทั่วโลกตื่นเต้นกันมาก" ศ.ดร.สุทัศน์กล่าว พร้อมกับกล่าวต่อว่า ในส่วนที่มีคนเกรงกันว่าจะเกิดหลุมดำขึ้นนั้น อยากชี้ว่าการทดลองครั้งนี้จะทำให้เกิดหลุมดำขนาดจิ๋วมาก และจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อโลกได้ การทดลองจะยังคงดำเนินต่อไปอีกอย่างต่อเนื่อง และใช้เวลายาวนาน 2-3 ปีกว่าจะสรุปได้ ไม่อยากให้ประชาชนหวั่นวิตก เพราะการทดลองจะไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อโลกแน่นอน
--
ที่มา: http://hilight.kapook.com/view/28782

 

"วันสิ้นโลก"สังคมมะกันป่วนตั้งสายด่วนกันฆ่าตัวตาย

วอชิงตัน-ประชากรโลกยังคงดำเนินชีวิตตามปกติ หลังจากผ่านเวลา 18.00 น.วันเสาร์ (21 พ.ค.) ซึ่งเป็น "วันสิ้นโลก" ตามคำทำนายของบาทหลวงนิกายอีแวนเจเลียน ที่ทำให้ชาวอเมริกันวุ่นวายหนัก
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันอาทิตย์ (22 พ.ค.) ว่า คำทำนายของบาทหลวงแฮโรลด์ แคมปิ้ง แห่งนิกายอีแวนเจเลียน ที่พยากรณ์ว่าจะเกิดเหตุพิบัติภัยทั่วโลกในเวลา 18.00 น. ตามเวลาสหรัฐอเมริกา ในวันเสาร์ (21 พ.ค.) ซึ่งบาทหลวงผู้นี้ระบุว่าเป็น "วันสิ้นโลก" และพระผู้เป็นเจ้าจะนำวิญญาณของผู้ทำความดีขึ้นสวรรค์ ตั้งแต่ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลในสังคมชาวอเมริกันไม่เป็นจริงตามคำทำนายแต่อย่างใด

บาทหลวงแคมปิ้งวัย 89 ปี ผู้ก่อตั้งเครือข่ายสื่อคริสเตียนที่มีมูลค่าหลายล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้เผยแพร่คำทำนายผ่านรายการวิทยุในเครือข่ายแฟมิลี่ เน็ตเวิร์ก และเว็บไซต์ ระบุว่า ประเทศนิวซีแลนด์จะเผชิญเหตุพิบัติภัยเป็นแห่งแรกในโลกก่อนที่จะเกิดเหตุในยุโรป และสหรัฐ ก่อนหน้านี้บาทหลวงแคมปิ้งก็เคยทำนายว่าจะเกิด "วันสิ้นโลก" ผิดมาแล้วครั้งหนึ่งในปี 2537

คำทำนายของบาทหลวงแคมปิ้งได้ก่อให้เกิดความวุ่นวายและแรงกดดันในหลายสังคมของโลก ชาวอเมริกันบางรายได้ลาออกจากงาน เพื่อใช้เวลาที่เชื่อว่าจะเหลืออยู่ในช่วงสุดท้ายทำในสิ่งที่ตนเองต้องการก่อนที่จะสายเกินไป วอชิงตัน โพสต์ รายงานด้วยว่า มีการจัดตั้งโทรศัพท์สายด่วนป้องกันการฆ่าตัวตายเพราะเกรงพิบัติภัยวันสิ้นโลก ที่บาทหลวงรายนี้ระบุว่าจะมีวิญญาณเพียง 200 ล้านดวง จากประชากรโลก 8,000 ล้านคน ที่ได้ขึ้นสวรรค์

ในโลกอินเทอร์เน็ตก็มีการพูดคุยถึงคำทำนายของบาทหลวงนิกายอีแวนเจเลียนผู้นี้กันอย่างมาก โดยมีทั้งผู้เชื่อถือและไม่เชื่อถือ

ทั้งนี้ บาทหลวงแคมปิ้งระบุว่า คำพยากรณ์ของตนอ้างอิงจากคัมภีร์ไบเบิลที่ระบุว่า ทุกๆ 1 สหัสวรรษ จะเกิดพิบัติภัยครั้งใหญ่ทั่วโลกในวันใดวันหนึ่ง แต่อาจเกิดความคลาดเคลื่อนในวันที่จากความผิดพลาดของปฏิทินในคัมภีร์ไบเบิลเก่าและคัมภีร์ใหม่
--

ที่มา: http://www.komchadluek.net/detail/20110523/98224/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%94%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%86%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A2.html


--

ข่าวเดียวกัน


สหรัฐเปิดศูนย์ฮอตไลน์ช่วยสาวกวันสิ้นโลก หลังโลกไม่แตกตามคำทำนาย

บีบีซี รายงานว่า ที่สหรัฐมีการตั้งศูนย์ฮอตไลน์ป้องกันคนคิดฆ่าตัวตายขึ้น เพื่อรองรับสาวกเครือข่ายวิทยุชุมชนผู้ปลุกกระแสวันสิ้นโลก 21 พ.ค. หรือจัดจ์เมนต์เดย์โดยเฉพาะ หลังจากโลกผ่านพ้นวันดังกล่าวมาได้โดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่สาวกบางคนหมดตัวเพราะทุ่มเงินไปกับการรณรงค์เรื่องนี้

โรเบิร์ต ฟิตซ์แพตทริก อดีตพนักงานขนส่งมวลชนที่ปลดเกษียณแล้ว กล่าวว่า ได้ใช้เงินที่เก็บออมในชีวิตกว่า 1.4 แสนเหรียญสหรัฐ (ราว 4.2 ล้านบาท) ไปกับการทำโฆษณาเพื่อช่วยเผยแพร่ข่าวเรื่องวันสิ้นโลก แต่เมื่อเวลา 18.00 น. ของวันที่ 21 พ.ค. ในสหรัฐตามคำทำนาย ผ่านพ้นไปโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตัวเองก็รู้สึกช็อกเป็นอย่างยิ่ง

“ผมไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมบอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไรในตอนนี้ แต่ที่แน่ๆ ผมสับสนไปหมด เพราะพวกเรายังมีตัวตนยืนกันอยู่ในตอนนี้” ฟิตซ์แพตทริก กล่าว

แฮโรลด์ แคมปิ้ง ผู้นำกลุ่มดังกล่าวเก็บตัวเงียบอย่างไร้ร่องรอย หลังวันทำนายผ่านพ้นไป ขณะที่สาวกบางราย กล่าวว่า รู้สึกตะขิดตะขวงใจในคำทำนายเหมือนกัน แต่พยายามไม่คิดอะไร เพราะเอาความเชื่อในพระเจ้าเป็นที่ตั้ง หรือบางคนเข้าเป็นสาวก เพราะหวังว่าโลกหน้าจะดีกว่าโลกปัจจุบัน

ด้านนิวยอร์กไทมส์ ระบุว่า กลุ่มศาสนาแห่งหนึ่งในแคลิฟอร์เนียได้มารวมตัวกันในวันที่ 22 พ.ค. เพื่อคอยให้กำลังใจเหล่าสาวกที่เชื่อในคำทำนาย ทว่า ยังคงมีสาวกอีกจำนวนหนึ่งมองว่าวันที่ 21 พ.ค. เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น

ทั้งนี้ แม้จะไม่มีเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้นตั้งแต่นิวซีแลนด์ซึ่งเป็นซีกโลกตะวันออก ไปจนถึงซีกโลกตะวันตกอย่างสหรัฐ และคนส่วนใหญ่ต่างก็ไม่เชื่อในเรื่องนี้ แต่ข่าวเรื่องวันสิ้นโลกก็เป็นข่าวที่มีผู้สนใจมากที่สุด และติดตามสูงที่สุดในหลายเว็บไซต์ อย่างรอยเตอร์สและบีบีซี ไปจนถึงหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นในหลายเมือง

ที่มา: http://www.dmh.go.th/sty_libnews/news/view.asp?id=15459

 

วันสิ้นโลก.........


ฉันเพิ่งได้อ่านข่าวสารบ้านอื่นเมืองอื่นจากหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ที่เขียนข่าวเกี่ยว ลัทธิวันสิ้นโลก มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานพอสมควรแล้วเกี่ยวกับลัทธิความเชื่อนี้ ก็น่าจะสักประมาณปลายปีที่แล้วมา ( 2550 ) แต่ครั้งนี้คงเป็นข่าวความเคลื่อนไหวของผู้ที่อยู่ในลัทธิวันสิ้นโลกนี้เอง

ทางการของรัสเซียได้ใช้เวลาในการเกลี่ยกล่อมให้สมาชิกลัทธิดังกล่าวนี้ออกมาจากภายในถ้ำเมืองนิโคลสโคเย ที่ใช้เป็นที่หลบซ่อนตัวของสมาชิกที่เหลือประมาณ 11 คน ที่ยังคงเก็บตัวอยู่ภายในถ้ำตั้งแต่เดือน พฤศจิกายนปี 2550 แต่ได้รับการยืนยันว่าจะคงขอใช้ชีวิตต่อไปภายในถ้ำแห่งนี้

นายพาเวล คูซเนสนอฟ หัวหน้าหรือเจ้าลัทธิวันสิ้นโลก ซึ้งเป็นผู้ทำให้เป็นข่าวในครั้งนี้ โดยการพยายามที่จะฆ่าตัวตาย ด้วยการเอาศีรษะตนเองวางบนตอไม้แล้วใช้ท่อนไม้ตี ทุบศีรษะตัวเองจนได้รับบาดเจ็บก่อนที่จะมีผู้พบเห็นนำตัวส่งโรงพยาบาล............นายพาเวล มิได้อาศัยอยู่ในถ้ำกับพวกที่เหลืออีก 11 คน ย้ำว่านายพาเวล คูซเนสนอฟ ไม่ได้อยู่ในถ้ำ.........แต่ยังคงมีอิทธิพลต่อคนที่อาศัยอยู่หรือยังมีอำนาจสั่งการทางด้านจิตใจต่อคนที่อยู่ภายในถ้ำ..


ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น..?

แล้วเหตุใดเจ้าลัทธิถึงพยายามจะฆ่าตัวตาย...?
แรงจูงใจของการฆ่าตัวตายคือ วันสิ้นโลกยังไม่มาถึงเสียที..................
ก็มันยังไม่ถึงเวลานี่.........สมาชิกของลัทธิวันสิ้นโลกอ้างไว้ว่า วันสิ้นโลกจะเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมนี้.....

ข่าวนี้ถูกล้อมกรอบเล็กๆในหน้าหนังสือพิมพ์ ที่รายล้อมไปด้วยข่าววิกฤตเศรษฐกิจ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ภัยพิบัติทางความคิด (การเมือง)


เฮอริเคนถล่มรัฐทัสมาเนีย
เศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในช่วงตกต่ำ
ผู้ประท้วงชาวทิเบตเดินขบวนต่อต้านจีนที่เข้ามายึดครองดินแดน
ชาวพม่าในกรุงเดลี ประเทศอินเดียเดินขบวนประท้วงการมาเยือนของผู้นำอันดับ 2 ของขณะรัฐบาลทหารพม่า
ฟิลิปปินส์อนุมัติ บริษัทต่างชาติสร้างกาสิโน...........
รัฐบาลไทยเข้าชื่อแก้รัฐธรรมนูญ ในมาตราที่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง อ้างเพื่อประโยชน์ของ POWER ประชาชน...
พายุฤดูร้อนพัดถล่มนิคมอุตสาหกรรม....
นอร์เวย์เล็งคว่ำบาตรพิธีเปิดการแข่งขันโอลิมปิกที่ประเทศจีน เพื่อประท้วงการที่จีนใช้กำลังในการปราบปรามผู้ชุมนุมชาวธิเบต

รวมๆแล้วก็ใกล้เดือนพฤษภาคมพอดี....นายพาเวล คูซเนสนอฟ ไม่น่าที่จะใจร้อน รอ รอ อีกสักเดือนสองเดือน อาจจะมีอะไรดีๆ มากกว่าการเอาไม้ทุบหัวตัวเองเล่น.....อย่างน้อยมันก็เป็นช่วงที่อากาศกำลังร้อนได้ที่เลยเชียวละ.....ว่ามัย.....................................
--

ที่มา

 

ข่าวชิ้นเดียวกับข้างบน

---
สาวกสิ้นโลกยังอยู่ในถํ้าเจ้าลัทธิทุบหัวฆ่าตัวตาย

เมื่อวันพฤหัสบดี ทางการรัสเซีย ต้องเล่นเกมรอกับสมาชิกของลัทธิวันสิ้นโลก ซึ่งปิดกั้นตัวเองอยู่ภายในถ้ำเพื่อรอวันสิ้นสุดของโลกในเมืองนิโคลสโคเย ห่างจากกรุงมอสโกไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 700 กิโลเมตร ในขณะที่การเจรจาเกลี้ยกล่อมสมาชิกของลัทธิดังกล่าว 11 คนที่ยังหลบซ่อนตัวอยู่ในถ้ำตั้งแต่เดือน พ.ย.ปีที่แล้ว ยังคงดำเนินต่อไป แต่ความสนใจกลับไปอยู่ที่นายพาเวล คูซเนสซอฟ หัวหน้าลัทธิ ซึ่งเป็นผู้เตือนว่าวันสิ้นโลกกำลังจะมาถึง แต่กลับไม่เคยเข้าไปร่วมอยู่ในถ้ำกับสาวก เมื่อเย็นวันพุธที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กล่าวว่า หัวหน้าลัทธิหนวดเครายาวผู้นี้ ถูกพบว่าทำร้ายตัวเองโดยใช้ท่อนไม้ตีที่ศีรษะพยายามที่จะฆ่าตัวตาย และในเวลาต่อมาต้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาบาดแผลที่ศีรษะ

นายโอเลก เมลนิเชนโก รองผู้ว่าการเขตเปนซา ถูกอ้างในเว็บไซต์ของสถานีโทรทัศน์เอ็นทีวี ระบุว่า มันเป็นความพยายามที่จะฆ่าตัวตาย เขาวางศีรษะของเขาไว้บนตอไม้และเริ่มตีศีรษะตัวเองด้วยท่อนไม้ เขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเนื่องจากได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ

ขณะที่ สำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์ ของรัสเซียรายงานว่า นายกรีกอรี ซีเตเนฟ อัยการอาวุโส กล่าวต่อที่แถลงข่าวในเมืองเอกของเขตเปนซาว่า แรงจูงใจของการฆ่าตัวตาย คือวันสิ้นโลกไม่เกิดขึ้นสักที

สมาชิกของลัทธิวันสิ้นโลกจำนวน 35 คน ได้หลบเข้าไปอยู่ในถ้ำในเมืองนิโคลสโคเยเมื่อเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว อ้างว่า วันสิ้นโลกจะเกิดขึ้นในเดือน พ.ค.นี้.

 

มนุษย์ต่างดาว มาช่วยพาให้พันภัยวันสิ้นโลก

พ.ศ.๒๕๔๐ (ค.ศ.1997) ที่สหรัฐอเมริกา วันที่ ๒๖ มีนาคม ได้พบศพคนฆ่าตัวตายหมู่ ๓๙ คน ในคฤหาสน์หลังหนึ่ง ที่ชานเมืองซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ปรากฏว่าเป็นสมาชิกของขบวนการศาสนา “ประตูสวรรค์” (Heaven’s Gate) ซึ่งเป็นกลุ่มหนึ่งในลัทธิ UFO (unidentified flying object ที่เรียกกันว่าจานบิน และมักโยงกับเรื่องมนุษย์ต่างดาว) มีผู้นำเรียกว่าท่าน “โบ” (“Bo”) และท่าน “ปี๊ป” (“Peep”)

เรื่องมีความเป็นมาว่า เมื่อปี 1972/๒๕๑๕ Marshall Applewhite คือท่าน “โบ”/ “Bo” ซึ่งบางทีเรียกตัวเองว่า “โด”/ “Do”) ได้พบกับ Bonnie Nettles ผคงจะได้แก่ท่าน “ปี๊บ” / “Peep” แต่ะระยะแรกเรียกว่า “ตี้” / “Ti”, บุคคลนี้สิ้นชีวิตไปก่อนในปี 1985/๒๕๒๘) ทั้งสองมั่นใจว่าตนเป็น “my two witnesses” (“พยานทั้งสองของเรา” ผู้รู้เห็นวาระโลกประลัยและการที่พระผู้เป็นเจ้าทรงพิพากษาประดาคนที่ได้ตายไป) ซึ่งพระผู้เป็นเจ้าทรงระบุไว้ในพระคัมภีร์ (Revelation 11:3) และถือว่าตนเป็นตัวแทนมาจากโลกอื่นที่เป็นภพภูมิอันสูง โดยเฉพาะท่านโบนั้นอ้างว่าได้เคยมายังโลกนี้ครั้งหนึ่งแล้วในร่างของพระเยซู

หลังจากนั้น ทั้งสองก็ได้จัดชุมชนรวมคนที่รัฐแคลิฟอร์เนีย และรัฐออริกอน แล้วก็เริ่มมีสาวกรุ่นแรก ซึ่งถอนตัวออกจากสังคมมาอยู่กับท่านทั้งสองเพื่อเตรียมตัวไปมีชีวิตใหม่ในยานอวกาศ ต่อมา คนกลุ่มนี้ก็ได้ไปตั้งชุมชนอยู่สงบเงียบแทบไม่ติดต่อกับใครในรัฐเทกซัส ถือข้อปฏิบัติเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมที่จะไปอยู่ในภพภูมิอันสูงแห่งอาณาจักรสวรรค์ (kingdom of heaven)

ครั้งถึงปี 1994/๒๕๓๗ ก็เริ่มงานเผยแพร่ใหม่ ได้สละทิ้งทรัพย์สมบัติและออกจาริกไปยังรัฐแคลิฟอร์เนีย แล้วตั้งสำนักที่ชานเมืองซานดิเอโกในปี 1996/๒๕๓๙ ใช้เครือข่าย Internet จัดทำ Web site ของตนเองขึ้นมานำเสนอให้ผู้คนรู้จัก “ประตูสู่สวรรค์”

ครั้นถึงเดือนมีนาคม ๒๕๔๐ ตามกำหนดเวลาปรากฏของดาวหางเฮล-บ๊อปป์ (Comet hale-Bopp) สมาชิก ๓๙ คน ซึ่งรวมทั้งท่านผู้นำ “โบ” ก็พร้อมกันกินยาพิษฆ่าตัวตาย เป็นการทิ้งร่างสลัดพ้นออกกไปจากโลกที่กำลังจะถึงวาระมหาประลัยวันสิ้นโลก เพื่อจะได้โดยสารยานอวกาศที่แฝงตามท้ายดาวหางนั้นมา แล้วเหินไปเข้าสู่ประตูสวรรค์เบื้องบนข้างหน้าตามคำสอนของท่านผู้นำต่อไป
--
ที่มา: มนุษย์ต่างดาว มาช่วยพาให้พันภัยวันสิ้นโลก :: i-dhamma

 

พวกเขาอ่อนแอกันเกินไป

 

"พวกเขา" เป็นคนประเภทเดียวกับที่เห็นๆ ในเว็บบอร์ดนี้แหล่ะครับ

เพียงแต่ยังไม่มีใครนำไปฆ่าตัวตายหมู่

 

ฆ่าตัวตายหมู่ 235 คน หนีวันสิ้นโลกในอูกันดา
235 Sect Members Reported in Suicide By Fire in Uganda

At least 235 members of a millennium sect, including dozens of children, are believed to have died by mass suicide in a blazing church in southwestern Uganda, the police said today.

Expecting the end of the world, followers of the obscure Movement for the Restoration of the Ten Commandments of God locked themselves in the church in the small town of Kanungu at breakfast time on Friday, the police said.

After several hours of chanting and singing, they set the church on fire, dying in the world's second biggest mass suicide of recent times.

The largest mass suicide took place in 1978 when a United States pastor, Jim Jones, led 914 followers including 294 children under 18 to their deaths at Jonestown, Guyana, by drinking a cyanide-laced fruit drink. Sect members who refused the drink were shot.

A Ugandan police spokesman, Assuman Mugenyi, who visited the scene 200 miles southwest of the capital, Kampala, said that all 235 registered members of the sect had probably perished in the fire and that unregistered new arrivals might also have died. He said the police were having difficulty counting bodies burned beyond recognition.

 

ฝรั่งเศสหวั่นว่าจะมีการฆ่าตัวตายหมู่วันสิ้นโลก 2012
Apocalypse prediction could spark mass suicide, French agency warns


The specter of a mass suicide tied to the widely predicted end of the world in December 2012 has prompted a warning from a government official in France, where people are already gathering at a place believers predict may provide the only escape from the apocalypse.

Georges Fenech, president of French government agency Miviludes, which observes sect movements and warns the public of potential risks, told CNN that he had alerted French public authorities, including the prime minister, to the issue.

"We fear that this message of fear could have serious consequences on fragile members of the French population," he said.

The small southern mountain village of Bugarach is prophesized by some to be one of the few places, if not the only place, that will survive the devastation.

According to Miviludes, settlements in the surrounding area have been established by members of the American Ramtha School of Enlightenment. The head of this presumed sect, Judy Zebra Knight, claims be in contact with Ramtha, a Lemurean warrior who fought the residents of the mythical Atlantis 35,000 years ago.

She has delivered messages about the 2012 apocalypse in front of thousands of followers in the United States, according to Miviludes.

The coordinator for the Ramtha School of Enlightenment in France, Valerie Sautereau, says that group has no apocalyptic beliefs and no link with the village of Bugarach

Suicide resulting from apocalyptic beliefs has already occurred in France in recent years. In 2002 a suicide and several suicide attempts occurred in the town of Nantes within a small circle of people who believed the end of the world was imminent.

"We know from history and experience that apocalyptic discourse can lead to tragedy," Fenech said. "This is why we have taken measures to notify police and other public authorities in order to monitor the situation."

In the late 1990s there was a series of 74 suicides in the late 1990s in France, Switzerland and Canada by followers of the Order of the Solar Temple.

"Around 500 000 French people belong to cults. They affect all kinds of people from all kinds of social backgrounds, including children." Fenech added.

 

พวกคุณที่ชื่นชอบการแพร่ข่าวลือมหาภัยพิบัติหรือวันทำลายล้างโลกเคยคิดบ้างไหมว่าผลของกรรมที่คุณกระทำมันส่งผลไปไกลถึงเพียงใด

และคุณๆ พร้อมที่จะรับผลของกรรมที่คุณทำต่อบุคคลอื่นโดยไม่ยั้งคิดหรือไม่

 

ไม่อยากบอกเลยครับ ที่บ้านผมเค้าเรียกว่า กลัวตายจนเพี้ยน

 

มันมีกันทุกชาติทุกภาษาแหล่ะครับ คนประเภทที่หลงเชื่อง่าย

เมืองไทยยังโชคดีที่ (ยัง) ไม่มีผู้นำกลุ่มชนที่นำคนไปฆ่าตัวตายหมู่

แต่เชื่อว่าสักวันคงมี

และอย่าคิดว่าคุณจะไม่ไปไกลจนถึงฆ่าตัวตายนะครับ

ที่ห็นในข่าวๆ นั่น แต่ละคนไม่เคยคิดว่าจะฆ่าตัวตายมาก่อนทั้งนั้น

ตอนเริ่มแรกแต่ละคนคิดว่าตัวเองต้องการ "อยู่รอด" ทั้งนั้น

พอมาอยู่ด้วยกันเป็นหมู่คณะ มันก็ไหลไปกับเขา

ผมเห็นสมาชิกในนี้แล้วหวั่นใจ เพราะเป็นชุมชนใหญ่ ไหลตามกันไปง่ายมาก

จึงขอออกมาเตือนสติ

หากจะด่าผมก็ไม่ว่ากัน ผมรู้ว่าผมมีวัตถุประสงค์ดีและบริสุทธิใจ

ไม่อยากเห็นเหตุการณ์แบบข้างบนเกิดขึ้นในเมืองไทย กับสมาชิกในเว็บนี้

หน่วยงานราชการไทยก็ประมาท ไม่เคยสนใจกรณีศึกษาอย่างนี้ว่ามีโอกาสเกิดในเมืองไทยได้ง่ายเพียงใด

นั่งรอให้เกิดแล้วจึงต่อยมาล้อมคอก

ผมจึงถือว่าเป็นหน้าที่พลเมืองดี ที่จะออกมาแจ้งเตือนสติผู้ที่กำลังมึนเมากับข่าวสาร

ตั้งสติให้ดี สูดหายใจลึกๆ เอาตัวออกห่างจากแหล่งมั่วสุมที่ทำให้จิตใจตกต่ำ

นั่นคือภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุดที่จะทำให้คุณรอดจากปี 2012 ได้ :d:d

 

เห็น drift หน้าตาเฉยแบบไทยๆ ไปแล้ว มาดู drift แบบฝรั่งกันมั่ง



ฮาโรลด์ แคมปิ้ง ผู้พยากรณ์วันสิ้นโลกผิดพลาดหลายครั้ง ยันอีกแล้ว 21 ต.ค.“วันสิ้นโลก"
เอเจนซี – ฮาโรลด์ แคมปิง นักจัดรายการวิทยุเพื่อเผยแผ่คริสตศาสนา ชาวอเมริกัน ซึ่งเคยหน้าแตก เนื่องจากทำนายวันสิ้นโลกผิดพลาดไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จนเป็นเรื่องทั่วโลก ได้ออกมายืนยันอีกครั้งว่าวันโลกาวินาศจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในวันศุกร์ที่ 21 ตุลาคมนี้

แคมปิง วัย 90 ปี ผู้ดำเนินรายการวิทยุ แฟมิลี เรดิโอ เคยประกาศว่า วันพิพากษาโลกจะเกิดขึ้นในวันที่ 21 พฤษภาคม เมื่อพระเยซูเสด็จกลับมายังโลก และผู้ที่ประพฤติดีเท่านั้นถึงจะถูกพาขึ้นสวรรค์

แม้ว่าวันดังกล่าวได้ผ่านพ้นไป โดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่นักเผยแพร่ศาสนาชาวสหรัฐฯ รายนี้ยังคงอ้างว่า วันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม ที่จะถึงนี้ต่างหากเป็นวันโลกาวินาศที่แท้จริง

เขายืนกรานว่า พระเจ้าทรงกำหนดสิ่งที่พระองค์ประสงค์ให้เกิดไว้แล้ว และการพิพากษาทางจิตวิญญาณได้เกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม เพื่อหาวิธีสำหรับการทำลายล้างทางกายภาพในวันศุกร์นี้

นอสตราดามุส ยุคปัจจุบันรายนี้ใช้ทฤษฎีเลขศาสตร์กับพระคัมภีร์ไบเบิลในการคำนวณหาวันที่คาดว่า เป็น “วันสิ้นโลก” ซึ่งก่อนหน้านี้ เขาเคยคาดคะเนผิดพลาดมาแล้วหลายครั้ง ทั้งในวันที่ 21 พฤษภาคม ปี 1988 และ 6 กันยายน ปี 1994

ขณะที่เมื่อ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา ในปีนี้ แคมปิง สามารถดึงดูดผู้ศรัทธาได้เป็นจำนวนมาก หลายคนถึงขั้นลาออกจากงานมาช่วยเผยแพร่วันพิพากษา โดยการขึ้นป้ายประกาศกว่า 2,000 แห่งทั่วสหรัฐฯ

หลังจากการพยากรณ์ที่ล้มเหลวไม่เป็นท่า แคมปิง และครอบครัวของเขาต่างปิดปากเงียบ และปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นใดๆ โดยใช้วิธีโพสต์คำอธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในวันที่ 21 พฤษภาคม ไว้บนเว็บไซต์ของพวกเขาแทน
--

ฝาแฝดนายแคมปิง

 

ดีครับผมเห็นด้วยที่เปิดกระทู้นี้ขึ้นผมไปอ่านหลาย ๆกระทู้พาลจะประสาทแด๊กครับแต่ละคนมองสามารถมองเห็นอะไรต่าง ๆในการนั่งสมาธิ หลังจากเหตุเกิดทุกทีแล้วเอามาบอกเล่า(ไม่ได้ว่าใครครับ) บางคนมีจิต มีญาณสูง ๆ ผมว่านะครับภัยที่น่ากลัวคือตัวเราเป็น ๆ นี่แหละครับธรรมชาติมาแล้วก็ไป เอาง่าย ๆ อย่างน้ำท่วมน้ำมาแล้วก็ต้องไป แต่คนมาแล้วไปก็จริงแต่มันย้อนมาได้อีกถ้ามันจะเอาภัยมาให้
ในไทยผมว่าก็น่าจะมีลัทธิอะไรแปลก ๆ มั่งแหละครับเป็นกลุ่ม ๆ เป็นก้อน ๆ แต่ไม่มีใครมาเปิดเผยกันปกปิดแอ๊บกันอยู่
ผู้ที่ศึกษาธรรมน่าจะให้ความคิดดี ๆกลับนำพาไปไหนต่อไหนไม่รู้ไปกันใหญ่ผมนับถือศาสนาพุทธไม่ได้ดูแคลนใครนะครับผมไม่ได้อ่านหนังสือธรรมอะไรไม่ได้ศึกษา ไม่ได้สมาธิกรรมฐานอะไร ศาสนาสอนไม่ให้ผมฆ่าคนเล่น สอนไม่ให้ผมเที่ยวขโมยของใคร ๆ สอนไม่ให้ผมเบียดเบียน และผมเชื่อว่าศาสนาไม่ได้สอนให้ผมเป็นเทวดามาเพ้อเจ้อเรื่องภัยจิตตก
บางกระทู้มีพระสงฆ์ พระป่า มาโดนอ้างผมว่าอย่าเลยครับ
ชีวิตทุกวันนี้ก็โดนภัยพิบัติทุกวันแล้วครับ ข้าวไข่เจียวหมูสับจานละ 40
ก๋วยเตี๋ยวชามละ 35 ค่ามอเตอร์ไซค์รับจ้าง 25 ระยะทาง 1 กิโลเมตร กับลำพังเงินเดือนไม่ถึง 10000 บาท นี่แหละครับภัยเงียบ ๆ ที่เรามองข้ามไป คนมันจะตายเพราะไม่มีกินนี่แหละครับตายก่อนโลกจะแตกเสียอีก
แต่ผมก็มานั่งอ่าน นิทานภัยพิบัติ อยู่ดี สนุกครับจินตนาการในการผูกเรื่อง จับมาชนกันจนถูกจนได้

 

สำหรับคุณ scoopynoi ที่สนุกกับการอ่าน "นิทาน" ก็ไม่มีอะไรน่าห่วงครับ

แต่มีอีกหลายร้อยคนในนี้ที่ไปไกลมากแล้ว เอาจริงเอาจังจนถึงขั้นหมกมุ่น

แค่ยังขาดคนนำอีกปัจจัยเดียวเท่านั้น แหล่ะครับ

คนเหล่านี้สามารถฆ่าตัวตายอย่างที่เห็นในข่าวได้เลย

ผมเชื่อว่าสมาชิกในนี้คงเถียงว่าตัวเองไม่มีวันไปถึงขั้นฆ่าตัวตายได้

อย่างมากตัวเองก็แค่นั่งสวดมนต์เพื่อให้คุ้มครองโลก

หากคุณไปศึกษารายละเอียดในกรณีต่างๆ ที่ยกมาให้ดูข้างบน

ก็จะเห็นว่ามันเริ่มมาแบบเดียวกันนี้แหล่ะ มีกิจกรรมสวดมนต์ให้โลกปลอดภัย

เผลอแป๊บเดียว ไปสวรรค์กันหมด

 

ในที่สุดก็มีคนเห็นพ้องต้องกันว่า คนปล่อยข่าว หรือผู้วิเศษทั้งหลายถึงเวลาแล้วที่ควรจะรับผิดชอบกลับสิ่งที่ทำลงไป ใช่ไหมครับ ท่านผู้วิเศษทั้งหลาย ท่านทายได้หลายเรื่อง รู้อดีต ทะลุถึงอนาคตอันไกลโพ้น แล้วท่านเห็นอนาคตท่านเป็นเช่นไร

 

ผมกลัวคนจิตใจอ่อนแอเชื่อง่ายคนเหล่านี้มาอ่านกระทู้ต่าง ๆ บ่อย ๆ มันจะซึมซับง่ายมากแล้วก็จะไปเข้ากลุ่มต่าง ๆ เหล่านี้ เชื่อในการระลึกชาติ เชื่อในการมีญาณ ใช้สติในการอ่านและคิดครับ
ส่วนผู้ที่ซึมลึกไปแล้วก็อย่าว่าพวกผมนะครับ ท่านเจ้าของกระทู้ ผม และท่านอื่น ไม่อยากอ่านข่าวว่าประเทศไทยตื่นภัยพิบัติฆ่าตัวตายหมู่หนีภัย
ไม่อยากอดสูใจครับ

 

"สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย กรรมย่อมจำแนกสัตว์ให้เลวและประณีตได้"

"บัวสี่เหล่า เปรียบบุคคลเหมือนดอกบัว 4 จำพวก ที่อยู่ในฐานะของบุคคลที่สามารถฝึกสอนให้รู้ธรรมได้และไม่ได้ในทางพระพุทธศาสนา"
1. (อุคคฏิตัญญู) พวกที่มีสติปัญญาฉลาดเฉลียว เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมก็สามารถรู้ และเข้าใจในเวลาอันรวดเร็ว เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่พ้นน้ำ เมื่อต้องแสงอาทิตย์ก็เบ่งบานทันที
2. (วิปจิตัญญู) พวกที่มีสติปัญญาปานกลาง เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจารณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่มเติม จะสามารถรู้และเข้าใจได้ในเวลาอันไม่ช้า เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่ปริ่มน้ำซึ่งจะบานในวันถัดไป
3. (เนยยะ) พวกที่มีสติปัญญาน้อย แต่เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจารณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่มอยู่เสมอ มีความขยันหมั่นเพียรไม่ย่อท้อ มีสติมั่นประกอบด้วยศรัทธา ปสาทะ ในที่สุดก็สามารถรู้และเข้าใจได้ในวันหนึ่งข้างหน้า เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่ใต้น้ำ ซึ่งจะค่อยๆ โผล่ขึ้นเบ่งบานได้ในวันหนึ่ง
4. (ปทปรมะ) พวกที่ไร้สติปัญญา และยังเป็นมิจฉาทิฏฐิ แม้ได้ฟังธรรมก็ไม่อาจเข้าใจความหมายหรือรู้ตามได้ ทั้งยังขาดศรัทธาปสาทะ ไร้ซึ่งความเพียร เปรียบเสมือนดอกบัวที่จมอยู่กับโคลนตม ยังแต่จะตกเป็นอาหารของเต่าปลา ไม่มีโอกาสโผล่ขึ้นพ้นน้ำเพื่อเบ่งบาน
(จาก นัยอรรถกถา)

ดังนั้น ในความคิดของผม
ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นกับคน ก่อนภัยพิบัติจากธรรมชาตินั้น ก็คือ การไร้สติปัญญา และมีความเห็นผิด (มิจฉาทิฏฐิ) ซึ่งเราจะสามารถพบเห็นกลุ่มคนเหล่านี้ได้ จากตัวอย่างข่าวที่คุณ Leeporter นำเสนอมาครับ

"มีศัตรูผู้มีปัญญาดีกว่ามีมิตรโง่" (จาก มกสชาดก อ่านเรื่องเต็มได้ที่ http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=abhinop&month=24-08-2011&group=17&gblog=113 )

หากผู้เตือนภัยพิบัติเป็นผู้มีปัญญาและมีสัมมาทิฏฐิ แต่มีความเห็นไม่ตรงกับผม ผมยินดีผูกมิตรมากกว่า ผู้หวังดีที่แนะนำในสิ่งที่เป็นมิจฉาทิฏฐิ

"ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครจะทำให้คนทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปรกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้"
ผู้ที่เป็นคนดีคือผู้ที่มีสัมมาทิฏฐิ ผู้ที่เป็นคนไม่ดีคือผู้ที่มีมิจฉาทิฏฐิ หากเราจะปิดกั้นข่าวลือเรื่องภัยพิบัติเพื่อไม่ให้กลุ่มคนที่ไร้สติปัญญา ได้ปลอดภัยจากตัวของเขาเองนั้น สู้เราช่วยให้เขาเปลี่ยนความคิดเห็นมาเป็นสัมมาทิฏฐิ ไม่ดีกว่าหรือครับ?

เห็นด้วยที่ไม่ควรสนับสนุนผู้เตือนภัยพิบัติที่เป็นมิจฉาทิฏฐิครับ.


ถึงคุณ scoopynoi ครับ
"กรรมเป็นตัวกำหนด จงศรัทธาในกรรม"

ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นหน่อยครับ สำหรับผมแล้วคิดแบบนี้ครับ
กรรม เป็นตัวกำหนด วิบากกรรม (ผลของกรรม)
การกระทำ เป็นตัวกำหนด กรรม
เจตนา เป็นตัวกำหนด การกระทำ
ความคิดเห็น(สัมมาทิฏฐิ/มิจฉาทิฏฐิ) เป็นตัวกำหนด เจตนา
ความยึดมั่นถือมั่น (อุปทานขันธ์ทั้งห้า) เป็นตัวกำหนด ความคิดเห็น
อวิชชา/วิชชา เป็นตัวกำหนด ความยึดมั่นถือมั่น

วิชชา = ธรรม, ความรู้แจ้ง

ดังนั้น เราจึงควรศรัทธาในพระธรรมครับ

 

ผลอีกแบบหนึ่งนะครับ อันนี้เป็นผลกระทบโดยตรงเลยครับ

จาก : หนังสือพิมพ์ คมชัดลึก - คนใต้ผวาหลังพระวิปัสนาโผล่เตือนดินไหว