ผีตายเเล้ว ตายอีกได้มั๊ยครับ

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย VAKILLOS, 23 กันยายน 2016.

  1. VAKILLOS

    VAKILLOS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +340
    พอดีได้อ่านเรื่องจริงอิงนิทาน
    ของท่านตุ๊พ่อสิงห์ วิสุทฺโธ เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ อ.ลี้ จ.ลำพูน

    เคยถาม องค์หลวงพ่อ(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)ว่า ผีที่ถูกฆ่าตายนั้นเขาตายจริง ๆ เหรอ องค์ท่านตอบว่า ผีไม่มีตายวิญญาณทั้งหลายไม่ตาย มีคนเล่าให้ฟังว่า มีอยู่คราวหนึ่ง ผีจะเข้ามาทำร้ายพระอาจารย์เล็ก พระอาจารย์เล็กคิดว่า เอ เทวดาทำไมไม่ช่วยเรา จึงขอแหวนจักรพรรดิช่วย แหวนก็บังเกิดไฟทิพย์ออกไป เผาทั้งเทวดาทั้งผีหายไปเลย ถ้าผู้ใดสงสัยว่าผีตายแล้วไปไหน ขอเชิญให้ไปถามท่านอาจารย์เล็กเอาเถิดเน้อ พระอาจารย์เล็กวัดท่าขนุนนั้นล่ะนะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กันยายน 2016
  2. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    หลวงพ่อท่านก็พูดถูกแล้วหละครับ..
    และการโดนไฟเผาอย่างนั้น ก็เพียงทำให้หายไป
    แล้วไปอยู่ในเขตแดนพิเศษ
    มีชื่อเรียกเฉพาะอยู่แต่จำไม่ได้ครับ..
    รู้แต่ว่า ผู้ที่จะเข้าไปได้ ต้องเป็นระดับผู้โปรด
    เท่านั้นถึงมีความสามารถผ่านเข้าไปได้ครับ..
    และอีกนานถึงนานมากจนไม่รู้ว่านาน
    เท่าไรกว่าจะมีผู้โปรดซักท่านผ่านมาเจอ
    และกว่าจะกลับมาได้
    ซึ่งก็ไม่รู้ว่าอีกนานเท่าไร
    คล้ายๆกรณีใช้ไฟเผาวิญญานปอบ
    หรือใช้กสิณไฟเผาดวงวิญญานนิสัย
    ไม่ดีนั่นอะไรนั่นหละครับ
    ประมาณนี้หละครับ
     
  3. VAKILLOS

    VAKILLOS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +340
    เผาแล้ว ไปอยู่อีกแดนนึง. กลับเองไม่ได้ด้วย. แล้ว จะรับผลบุญได่มั้ยครับ
    ขอลายละเอียดได้มั้ยครับ อยากรู้มากๆ
    เคยคุยกะหมอผีคนนึง. ท่านปราบผีเก่ง แต่ท่านไม่ทำลายผี เพียงแต่จับไปปล่อย. ท่านบอกว่า ทำลายดวงวิญญาณมันเป็นวรกรรม
     
  4. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    เขตแดนที่ว่า รับผลบุญได้
    แต่ไม่ใช่บุญที่เกิดจากการอุทิศส่วนกุศลใดๆ
    หรือการขอบารมีใดๆครับ
    คล้ายๆเขต ดวงจิตที่บุคคลที่ทำร้ายพระพุทธศาสนาอย่างใดอย่างหนึ่ง
    เช่น พวกบิดเบือนคำสอน พวกที่สร้างกรรมกับพระพุทธฯเป็นต้น
    ที่พระองค์สีเขียวมีชื่อ ท่านเตรียมไว้ให้เฉพาะ
    ในเรื่องของการไม่สามารถรับบุญอะไรได้นะครับ
    เหมือนๆที่ พระเทวทัตท่านโดนตรึงๆแขน
    ในระดับที่ยกแขนสูงกว่า องค์ที่อยุ่บนไม้กางแขนหน่อยหนึ่ง
    ไว้อยู่ ณ ปัจจุบันนี้นะครับ(ฟังหูไว้หู)

    แต่มีผู้ที่จะสามารถช่วยได้
    ต้องเป็นระดับพระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่งผ่านมา
    หรือต้องเป็นระดับผู้โปรดครับ
    ผู้โปรดคือผู้มากบารมี ระดับกึ่งๆพระพุทธเจ้า
    เพราะเขตแดนพิเศษนี้ ความสามารถทางด้านสมาธิที่สูงส่งป่านใด
    ก็มิอาจเข้าไปแล้วจะทำอะไรได้ เพราะสภาวะมันจะเหมือน
    สภาวะแวดล้อมของนิโรธสมาบัติ คือ มันจะดับแทบทุกสิ่งทุกอย่าง
    แม้ว่า มีความสามารถทางจิตอะไรก็ตามถ้าเข้าไปมันจะดับหมดครับ
    จึงไม่สามารถทำอะไรได้ เหตุที่ผู้โปรดเข้าไปได้เพราะ
    ลักษณะผู้โปรดคล้ายๆว่าเหมือนมี
    บารมีที่ออกจากตัวจิตกว้างไกลมากๆซึ่งเป็นบารมีที่สร้างสะสม
    เฉพาะตน หลักสังเกตุเบื้องต้นลักษณะผู้โปรดที่เป็นร่างมนุษย์ในรูปพระสงฆ์ก็คือ
    บุคคลที่เราอยู่ใกล้ๆแล้วตัวจิตเราจะดับทุกข์เรื่องที่สงสัย และตัวจิตเรา
    ละ เราคลาย จากทุกเรื่องจนขยายออกได้ บวกทั้งมีความฉลาดลึกล้ำ
    ในการอธิบายธรรมอย่างแยบยล ตลอดจนความสามารถทางจิต
    ที่สูงมาก นี่คือหลักสังเกตุ พูดเผื่อไว้เฉยๆครับหากว่าได้เจอนะครับ..


    ส่วนการปราบดวงวิญญาน เท่าที่พอมีประสบการณ์นะครับ
    ถ้าเป็นกรณีอสูรกายรูปร่างกึ่งสัตว์
    ที่ไม่เอาบุญ คือ ไม่เอาและรับไม่ได้ และไม่ต้องลงไปใช้วิบากข้างล่าง
    พวกนี้ จำเป็นจะต้องขังครับ เพราะมีฤิทธิ์ในระดับที่แสดงได้ ให้สัมผัสได้
    ส่งผลได้ ไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืน ซึ่งนานๆจะมีซักครั้ง
    พูดง่ายๆว่า ทำอะไรเราก็ได้แบบเห็นๆกลางวันแสกๆนี่หละครับ

    ถ้าเปนกรณีดวงจิตที่เป็นปอบ จำเป็นต้องจับก่อนครับ เพราะว่าติดวิบาก
    ที่ไม่สามารถรับบุญได้เช่นกัน แต่จะไม่ขังไว้ และจำเป็นจะต้องเผา
    เพื่อให้ไปอยู่แดนพิเศษแล้วไปลุ้นเอาเองครับ
    เพราะถ้าผู้ที่ขังเสียชีวิต
    แล้วกลับมาเกิดอีก จะกลายเป็นวิบากย้อนหาผู้ที่ขังไว้ ทำให้ไม่สามารถ
    เข้าถึงนามธรรมต่างๆได้ และจะเป็นโรคร้ายแรงที่แพทย์ปัจจุบัน
    รักษาไม่หาย และทำบุญอะไรจะไม่ได้รับร่วมด้วยครับ..

    ส่วนหมอผีที่กักขังหน่วงเหนี่ยวนำดวงจิตมาใช้งาน
    ในทางที่เป็นกุศล เวลาตายจะไปเป็นภูมิอสูรกายเช่นกันครับ
    และแม้ว่าจะได้มาเกิดเป็นคน ก็จะต้องใช้วิบากอย่างที่เล่า
    ให้ฟังก่อนหน้าเช่นกันครับ

    ส่วนการปราบผี กรณีที่มาแทรก ที่นิยมทำกัน
    ก็คือ ผู้ที่ปราบจะเปนเพียงคนกลาง
    ในการนำดวงวิญญาน ไม่ว่าวิธีการใดๆก็ตาม
    จะแบบพื้นฐานด้วยการสวดมนต์ แบบใช้กำลังจิต แบบใช้อุปกรณ์เสริม
    ทั้งที่เป็นวัตถุและอุปกรณ์แบบเป็นทิพย์ แต่หลักการแล้ว
    จะดึงดวงจิตนั้นขึ้นไปข้างบนคือจบหน้าที่
    และครูบาร์อาจารย์ข้างบนท่านเป็นฝ่ายจัดการ
    ซึ่งไม่สามารถไปตามรู้ ตามดูได้

    แต่กรณีนี้ต้องระวังมากๆ
    เพราะบางดวงจิตจะไปใช้
    การสวดมนต์ ใช้การทรมาณไม่ได้หรือ ใช้กำลังจิต ใช้สิ่งพิเศษไม่ได้
    เพราะเค้าจะยอมตาย จะส่งผลให้ร่างกายที่แทรก
    หลังจากที่ดวงจิตที่แทรกออกแล้วใช้งานไม่ได้อีกหรือตายครับ
    ซึ่งเคยมีตัวอย่างมาแล้วในอดีตหลายราย
    เป็นที่น่าสะเทือนใจต่อญาติๆผู้เสียชีวิตอย่างมาก


    เช่น กรณีที่เปนการสืบเชื้อจากบรรพบุรุษ
    สืบๆต่อกันมายังลูกหลาน กลุ่มนี้ จะยอมเฉพาะร่างทรงเท่านั้น
    จะไม่ชอบ พระสงฆ์ คนปฏิบัติธรรมหรือนุ่งขาวห่มขาวครับ...
    และต้องไปทำพิธีตัดขันธ์ ๕ โดยร่างทรงเท่านั้น
    ย้ำว่าร่างทรงเท่านั้นนะครับ

    อีกกรณีก็คือ การปลดปล่อยวิญญานออกจากวัตถุ
    ต้องใช้อะไรพิเศษเพื่อตัดสายใยเชื่อมวิญญานที่อยู่ในตัววัตถุ
    ออกครับ ตรงนี้ก็แล้วแต่ความสามารถครับ
    ซึ่งสามารถใช้ได้กับ กรณีที่พวกหมอผีนิสัยไม่ดี
    ที่ถูกจ้างจากพวกที่ไปทำสิ่งชั่วร้ายมา แล้วให้หมอผี
    ไปมัดดวงวิญญานนั้นไว้ ป้องกันดวงวิญญานไปบอก
    บุคคลต่างๆซึ่งจะมีผลต่อรูปคดี กรณีแบบนี้
    ปัจจุบันก็มีให้เห็นบ่อย โดยเฉพาะคดี
    แบบฆาตกรรมอำพรางครับ
    ..
    และก็ตัดสายใยเชื่อมวิญญาน
    ย้ำว่าตัดสายใยนะครับ ไม่ใช่ใช้กสิณไฟ
    ใช้คาถานะครับ ส่วนบุคคลที่ทำได้จะรู้เองว่าทำอย่างไร.
    ตัดดวงวิญญานอสูรกายที่มาแทรก
    ในร่างกายมนุษย กลุ่มพวกที่มักใช้เสียงหลอกล่อ
    โน้มให้เราคิดแต่เรื่องเศร้าๆในอดีต โน้มน้าวให้คิดเรื่องความรักทั้งหลาย
    หรือ หลอกว่าเราเป็นระดับโน้นนี่นั้นที่วิเศษ ยิ่งใหญ่ทั้งหลาย
    พวกที่มักมาแอบแทรกตอนที่จิตเปิดนี้
    ก็สามารถใช้วิธีตัดสายเชื่อมเลย เพราะมักเจรจาไม่ได้
    แต่ต้องมีเหตุสัมพันธ์กันถึงทำได้นะครับ
    และก็ใช้คาถาหรือยันต์ปิดท้ายทอยกันการ
    พยายามกลับมาแทรกอีกครั้งครับ

    ส่วนตัวไม่เคยเจอกรณีที่จับไปปล่อยเช่นกันครับ
    ไม่ทราบว่าเอาไปปล่อย ที่ไหน ปล่อยอย่างไรครับ
    เพราะบางกรณีดวงจิตก็ยังมีวิบากที่ไม่สามารถรับบุญได้
    ถ้าเป็นการปล่อยในลักษณะที่ ให้ครูบาร์อาจารย์ข้างบน
    ท่านจัดการอย่างนี้พอเข้าใจครับ
    เพราะว่า ส่วนมากแล้วผู้ปราบเป็นเพียงตัวกลาง
    ในการนำพาดวงจิตออกมาและดึงขึ้นบนครับ



    ปล.ท่านที่ปราบผีเก่งที่สุด คือ ท่านที่ไม่ได้ใช้กำลังจิต
    เวทมนต์ คาถา ความสามารถพิเศษใดๆ
    แต่เป็นท่านที่ใช้เมตตานำ และมีบารมีมากมีภาคส่วนภพภูมิ
    หนุนหลังมากจนได้รับการเคารพ
    นับถือและเกรงใจจากดวงจิตนั้นๆ
    จากธรรมะและเมตตาบารมีที่ท่านมีครับ
    โดยมากเป็นพระสงฆ์ครับ
    บางทีพวกอสูรกายทีแฝงหรือร่างทรง
    แม้เจอผู้โปรดแต่เค้าไม่ออกนะครับ
    เพราะรู้ว่า ผู้โปรดท่านจะไม่ทำอะไร
    และผู้โปรดท่านมักจะให้แก้ที่ตัวของ
    บุคคลที่โดนแทรกด้วยตนเอง
    เพราะถือว่าเป็นวิบากกรรมร่วมกันครับ

    ประมาณนี้หละครับ (^_^)
     
  5. VAKILLOS

    VAKILLOS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +340
    ย้อนกลับมาที่เเดนพิเศษ แฮะ! เข้าไปนี่ก็เหมือน คนหลับ ประมาณนี้ใช่มั๊ยครับ เเละเเต่ถ้าไม่ได้เหมือนคนหลับ คือเป็นเขตเเดนนนึงเฉยๆ เรา สามารถฝึกจิต จนออกมาเองได้มั๊ยครับ
     
  6. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,324
    ค่าพลัง:
    +4,774
    โดนแบนห้ามรับบุญกุศลสินะครับ
     
  7. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    แขตแดนพิเศษเป็นเขตไร้มิติและกาลเวลา
    ไม่เหมือนคนหลับ เหมือนไร้น้ำหนัก
    เหมือนเวลานักบินอวกาศตอนอยู่นอกโลก
    เพียงแต่ว่า เคลื่อนไหวได้ปกติแต่ทำอะไรไม่ได้..
    และการจะเคลื่อนไหวได้ แม้แต่นิดเดียว
    ต้องอาศัยกำลังจิตเดิมๆล้วนๆ..

    ส่วนอีกเขตแดนหนึ่ง ที่เป็นมิติซ้อนทับ
    ที่มักจะเป็นเมืองๆหนึ่ง หรือสถานที่ใดๆก็ตาม
    หรือจะเป็นลานหินกว้างโล่งๆก็ตาม
    และ ไม่ว่าเราจะเข้าไปได้
    แบบตั้งใจคือเจตนาเข้าไปจากการทำสมาธิ
    หรือไม่ได้ตั้งใจคือไปเองตอนนอนหลับก็ตาม

    การกลับมาไม่ยากแค่เพียงมีสติระลึกรู้ตัวก็กลับได้
    ด้วยความเร็วที่มากกว่าวินาทีก็กลับมาแล้ว
    เพราะจิตมันมีสายใยวิญญานเชื่อมกับร่างกายอยู่ครับ..
    ยกเว้นจะไปแบบฟูลออฟชั่นหรือไปทั้งกาย
    ถ้าหลงก็คือหลงครับ..เคยมีเรื่องเล่าในสมัยพุทธกาลอยู่

    และในเขตแดนพวกนี้ สามารถไปทำอะไรก็ได้หมด
    สิ่งที่ทำได้ จะเป็นตัวบอกสภาวะของจิตเราที่ได้จากการปฏิบัติ
    ส่วนการจะอยู่ได้นานหรือไม่ขึ้นอยู่กับ
    สมาธิสะสมและกำลังสติทางธรรมของเรา
    ที่มี ณ เวลานั้น โดยมากถ้าจะไปฝึกจิตไม่ว่าจะฝึก
    อะไรก็ตาม จะนั่งสมาธิ เดินจงกลม จะเหาะเหิรเดินอากาศ
    จะฝึกกรรมฐานพิเศษ ฯลฯ


    จะต้องตัดสภาพแวดล้อมที่เห็นตรงนั้นออกก่อน
    อย่าไปอยากรู้ อยากทราบว่าคืออะไร
    ไม่งั้นจะหลุดจากสภาวะตรงนั้นกับมายังกายทันที
    พูดง่ายๆว่า ไม่สนใจดูอะไร ส่วนเราจะฝึกอะไรก็ฝึกไป
    ตามแต่เหตุและปัจจัยของเรา ณ เวลานั้น
    ปล.ประมาณนี้หละครับ ส่วนใหญ่ที่เห็นไปฝึก
    บนลานหินกว้างๆ จะเป็น ลูกศิษย์ของ ลป. ป มีชื่อในอดีต
    ถ้าไปฝึกอยู่ในป่ามีต้นไม้ที่มียอดคล้ายทรงสามเหลี่ยม
    จะเป็นสายในดง แต่ถ้าไปแล้วเป็นเมืองบ้าง เป็นป่าที่มี
    ต้นไม้เท่ากันบ้าง มีคนแต่งแต่ชุดขาวอย่างเดียว
    จะเป็นเมืองบังบด มักไม่ค่อยได้ฝึกอะไร
    หรือถ้าไปโผล่ยัง แผ่นดินที่ไม่มีดวงอาทิตย์แต่สว่างมาก
    เป็นเขตพระโพธิสัตว์ท่านอยู่ ถ้าเป็นดินแดนมีแต่ดิน
    ไม่มืด ไม่สว่างมาก คือไปอีกดาวหนึ่ง ฯลฯ
    แค่ยกตัวอย่างให้ฟังบางส่วน..(^_^)
     
  8. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    กระแสบุญไม่มีการห้ามรับ
    แต่อยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถรับได้

    เขตแดนพิเศษก็ไม่ได้เชิงห้ามรับ
    แต่เป็นเขตที่กระแสบุญที่มาจากการส่งเข้าไม่ได้
    ต่อให้เป็นยอดนักกำลังจิต
    ยอดนักอภิญญาจิต ให้ส่งไปกระแสบุญไปอย่างไร
    กระแสบุญก็ไม่สามารถผ่านเข้าไปถึงได้..
    ถึงบอกว่ามีแต่ระดับผู้โปรดกับพระพุทธฯนั่นหละ..

    ไม่ต้องห่วง ถ้าไม่เคยทำแบบท่านพระเทวทัต
    หรือไประเบิด ไปทำร้าย พระพุทธรูปมา
    หรือเจตนาบิดเบือนคำสอนพระพุทธฯ
    ก็ไม่ต้องเป็นกังวลอะไร (^_^)
     
  9. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,324
    ค่าพลัง:
    +4,774
    ถ้างั้นพวกแถวๆกลางๆนั้น ที่ทำเรื่องแบบนั้น ก็โดนเตะ ไปอยู่ที่นี่สินะครับ
     
  10. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    ใช่..(^_^)
     
  11. คุณกันฌามี

    คุณกันฌามี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +65
    ผีตายเเล้ว ตายอีกได้มั๊ยครับ

    ถ้าจะตอบแบบให้ตรงคำถามก็ต้องตอบว่าได้ จิตมีเกิดก็ต้องมีดับ ไม่งั้นก็จะเกิดอยู่เรื่อยๆ มันเป็นไปตามธรรมชาติของจักรวาล

    การดับของดวงจิตนั้นสูญสิ้นจะไม่เหลือไรไว้ กว่าจะถึงขั้นนั้นก็ขึ้นอยู่กับกฎเกณฑ์
     
  12. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    ดับแบบสูญสิ้นของจิตคือ มันไม่มีเชื้ออะไร
    ที่จะทำให้จิตมันเกิดได้นะครับ
    จิตจะเกิดได้มันจะต้องมีตัววิญญานส่งออกไปเชื่อม
    อะไรจากภายนอกเข้ามา มันจะเกิดทันที
    แต่แม้ว่ามันไม่เกิดแต่มันจะมีตัวรู้ของมันอยู่อย่างนั้น
    ภายในจิตนั่นหละครับ แต่เป็นการรู้แบบไม่มีตัว
    อะไรมากระทำครับ
    ยกตัวอย่าง การรู้ทั่วไปแบบมีตัวมากระทำ
    คือมีตัววิญญานส่งออกไปร่วม
    หรือมีจากภายนอกเข้ามาร่วม กลายเป็นรู้
    นี่คือยังมีตัวกระทำอยู่คือตัววิญญาน ตัวจิตเป็นผู้กระทำ
    ถ้ายังมีร่างกายก็คือตัวเราเป็นผู้กระทำ..
    และไม่ใช่ว่าจิตมันหายสาบสูญไปเลยนะครับ

    หรือแบบมีตัววิญญานแต่ไม่มีตัวรู้เหมือนจิต
    เช่น ต้นไม้ที่มันเป็นไปของมันเองที่จะต้อง
    ยื่นใบไปหาแสงพระอาทิตย์
    หรือดอกไม้มันรู้เองว่าจะบานเวลาไหนนั่นหละครับ
    พอเข้าใจนะครับ

    ศัพท์อาจจะไม่ถูกไม่ตรง
    แต่กิริยาประมาณที่ยกตัวอย่างครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...