พระพุทธชินราช เป็นผู้ตรัสรู้องค์แรก มีบารมีสูงถึง 111 อสงไขย
พระพุทธชินราช (พิษณุโลก)
ประวัติ
พระพุทธชินราชเป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมืองมาแต่โบราณกาล จึงมีตำนาน พระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์ พระศรีศาสดา พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งทรงพระราชนิพนธ์ใน พ.ศ. 2409 โดยอาศัยหลักฐานจากพงศาวดารเหนือ แต่หลักฐานทางประวัติศาสตร์โบราณคดียุติได้ ดังนี้ คือ
พระพุทธชินราช สร้างโดยพระมหาธรรมราชาที่ 1 (พญาลิไท) กษัตริย์ลำดับที่ 5 แห่งกรุงสุโขทัย ซึ่งในตำนานพระพุทธชินราชฯ เรียกพระเจ้าศรีธรรมไตรปิฎก โดยสร้างพระพุทธรูปพร้อมกัน 3 องค์ เพื่อประดิษฐานในพระวิหารทิศ ของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุเมื่อพิษณุโลกเมื่อ พ.ศ. 1900 ในตำนานพระพุทธชินราชฯ มีชื่อช่างหล่อพระพุทธชินราชเป็นช่างพราหมณ์ฝีมือดี 5 นาย คือ บาอินท์ 1 บาพรหม 1 บาพิษณุ 1 บาราชสังข์ 1 บาราชกุศล 1
[แก้]ตำนาน
ตำนานกล่าวไว้ว่า พระเจ้าศรีธรรมไตรปิฏกหรือพระมหาธรรมราชา (พญาลิไท) กษัตริย์องค์ที่ 4 ในพระราชวงศ์พระร่วง สมัยกรุงสุโขทัย เป็นผู้สร้างพระพุทธชินราช เมื่อราว พ.ศ. 1900 ทรงโปรดให้ช่างสวรรคโลก ช่างเชียงแสน และช่างหริภุญไชย สมทบกับช่างกรุงศรีสัชนาลัย ช่วยกันหล่อพระพุทธรูปขนาดใหญ่ 3 องค์ ได้แก่ พระศรีศาสดา พระพุทธชินราช และพระพุทธชินสีห์ จวบจนถึงวันพฤหัสบดี ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 ปีเถาะจุลศักราช 717 ราว พ.ศ. 1898 ได้มงคลฤกษ์ กระทำพิธีเททองหล่อพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ เมื่อเททองหล่อเสร็จแล้ว และทำการแกะพิมพ์ออกปรากฏว่า พระพุทธชินสีห์และพระศรีศาสดา องค์พระสมบูรณ์สวยงามดี ส่วนพระพุทธชินราชนั้นได้หล่อถึง 3 ครั้งก็ไม่เสร็จเป็นองค์พระได้ กล่าวคือทองแล่นไม่ติดเต็มองค์ พระเจ้าศรีธรรมไตรปิฏกจึงทรงตั้งสัตยาธิษฐานเสี่ยงเอาบุญบารมีของพระองค์เป็นที่ตั้ง ครั้งนั้นจึงร้อนถึงอาสน์พระอินทร์เจ้าจึงนฤมิตเป็นตาปะขาวลงมาช่วยทำรูปพระ คุมพิมพ์ปั้นเบ้า ด้วยอานุภาพพระอินทราธิราชเจ้าทองก็แล่นรอบคอบบริบูรณ์ทุกประการหาที่ติมิได้ พระเจ้าศรีธรรมไตรปิฏกทรงปิติโสมนัสเป็นอย่างยิ่ง จึงตรัสให้หา "ตาปะขาว" ผู้นั้น แต่ตาปะขาวได้หายตัวไปแล้ว หมู่บ้านและวัดที่ตาปะขาวหายไปนั้นได้ชื่อว่า บ้านตาปะขาวหายและวัดตาปะขาวหายต่อมาจนถึงทุกวันนี้ และจากวัดตาปะขาวหายขึ้นไปทางทิศเหนือประมาณ 800 เมตร ได้ปรากฏหลักฐานเกี่ยวกับการหายตัวไปของตาปะขาว เล่ากันว่ามีผู้พบเห็นว่าท้องฟ้าเปิดเป็นช่องขึ้นไป ชาวบ้านเห็นเป็นที่อัศจรรย์จึงได้สร้างศาลาขึ้นไว้ ณ พื้นดินเบื่องล่างไว้เป็นที่ระลึก เรียกว่า "ศาลาช่อฟ้า" ตราบจนทุกวันนี้
ที่มา http://th.wikipedia.org/wiki/พระพุทธชินราช_(พิษณุโลก)
ผู้ที่เห็นรูปหล่อ ปูนปั้นเป็นพระพุทธเจ้าย่อมตกนรก
ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย อุรุเวลา, 12 พฤษภาคม 2012.
หน้า 4 ของ 4
-
-
"อะไรที่มั่วๆ ชอบจังเอามาประจานตัวเอง ไม่ศึกษาว่าจริงหรือเท็จ"
กรวดน้ำ เข้าใจผิดอย่างไร
ในเมื่อมีพิธีนี้ตั้งแต่บรรพกาลแล้ว สมัย
ที่พระพุทธเจ้ากรวดน้ำให้เปรตตนนึง ก็ใช้วิธีกรวดน้ำให้เช่นกัน
ไหนว่าอ่านพระไตรฯ มาแล้ว
ส่วนไหว้พระ ก็ได้อนิสงค์ ก็ไปหาอ่านได้ในพระไตรฯ นั่นแหละ
พระพุทธรูป นี่ มีมาตั้งแต่สมัยพระพุทธเจ้ามีพระชนชีพอยู่ ผมเคยตั้งกระทู้ไว้
ไปหาอ่านเอาเอง
ฝังลูกนิมิต อันนี้ไม่รู้ -
-
PANTIP.COM : Y12087714
ถ้าเจ้าชายสิทธัตถะเชื่อครูอาจารย์ก็จะไม่มีวันได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า
ไปห้องศาสนา patip บ้างก็ดีครับ จะได้อ่านหลายๆ ความคิดเห็น เขาไปกันไกลมากแล้วครับ -
ผมศึกษามา ไม่ได้มั่วแบบคุณ อันไหนผมไม่รู้ ผมไม่มามั่วแบบคุณเลย
ผมศึกษามานานแล้วเกี่ยวกับพระโพธิสัตว์กับพระพุทธเจ้า และกำเนิดพุทธวงส์
จนมาเข้าใจว่าเกี่ยวข้องกับจิตโดยตรง จากจิตธาตุ ที่แตกออกเป็นอนันต์
ได้เวียนว่ายตายเกิดนับครั้งไม่ถ้วน จนมีผู้ที่เบื่อหนายจากทุกข์ เพราะได้
ระลึกชาติได้ จึงปราถนาหลุดพ้น จึงเป็นที่มาของการเข้านิพพาน และพระพุทธเจ้าพระองค์แรก นั่นก็คือพระพุทธชินราช
ยังมีบททดสอบมากมายเกี่ยวกับทุกข์ทั้งหลาย ที่เราทุกคนต้องเจอ
ต้องใช้ปัญญาและความเพียรในการหาทางให้หลุดพ้น
คุณลองถามใครหลายคนในนี้ คิดว่ามีหลายคนที่รู้เรื่องเกี่ยวกับพระพุทธชินราช -
จะบอกให้พันทิป มั่วก็เยอะ ต้องใช้ปัญญาแยกแยะ
ไม่ใช่สรุปว่าเป็นจริงทั้งหมดที่เค้าเอามา
ที่ว่าไปไกล ก็คงจริง คือไกลจากพระนิพพาน เพราะไม่ได้กะพี้และแก่นเลย -
-
-
ทิฐิมานะนั้นแก้ได้ยาก
-
ผมอ่านมามากและนานมาก คงจะไปหาหลักฐานเกี่ยวกับพระพุทธชินราชให้คุณคงไม่ได้ และไม่ได้บอกว่าพระพุทธชินราชมีในพระไตรฯ เพียงแต่ว่าในพระไตรฯ เคยกล่าวไ้ว้ถึงพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
หากคุณไม่เชื่อ นั่นก็คงจะต้องไปแย้งกับพระที่มีฌานและเคยได้เข้าเฝ้า
พระปฐมพุทธเจ้า (พระพุทธชินราช) -
แนะนำไปฟังให้จบครับ ไม่ต้องเชื่อใครไม่ต้องเชื่อผม ท่านจงเชื่อตนเองครับ
หน้า 4 ของ 4