ผู้ปลงใจเชื่อในพระตถาคต เห็นอมตธรรม(รายชื่อ)

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย thepkere, 1 กรกฎาคม 2013.

  1. thepkere

    thepkere เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,018
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,449
    [​IMG]
    [๓๙๕]
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ตปุสสคฤหบดีประกอบด้วยธรรม ๖ ประการเป็นผู้พึง
    ปลงใจเชื่อในพระตถาคต เห็นอมตธรรม ทำให้แจ้งอมตธรรมอยู่ ธรรม ๖ ประการเป็นไฉน คือ


    ความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระพุทธเจ้า ๑
    ความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระธรรม ๑
    ความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระสงฆ์ ๑
    อริยศีล ๑
    อริยญาณ ๑
    อริยวิมุติ ๑

    ดูกรภิกษุทั้งหลายตปุสสคฤหบดีประกอบด้วยธรรม ๖ ประการนี้แล
    เป็นผู้พึงปลงใจเชื่อในพระตถาคต เห็นอมตธรรม ทำให้แจ้งอมตธรรมอยู่ ฯ

    [๓๙๖]
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย

    ภัลลิกคฤหบดี
    อนาถบิณฑิกสุทัตตคฤหบดี
    จิตตคฤหบดีชาวมัจฉิกาสัณฑนคร
    หัตถกคฤหบดีชาวเมืองอาฬวี
    เจ้าศากยะพระนามว่ามหานามะ
    อุคคคฤหบดีชาวเมืองเวสาลี
    อุคคตคฤหบดี
    สูรอัมพัฏฐคฤหบดี
    ชีวกโกมารภัจ
    นกุลบิดาคฤหบดี
    ตวกัณณกคฤหบดี
    ปูรณคฤหบดี
    อิสิทัตตคฤหบดี
    สันธานคฤหบดี
    วิชยคฤหบดี
    วัชชิยมหิตคฤหบดี
    เมณฑกคฤหบดี
    วาเสฏฐอุบาสก
    อริฏฐอุบาสก
    สาทัตตอุบาสก

    ประกอบด้วยธรรม ๖ ประการเป็นผู้ปลงใจเชื่อในพระตถาคต เห็นอมตธรรม
    ทำให้แจ้งซึ่งอมตธรรมอยู่ ธรรม ๖ ประการเป็นไฉน คือ

    ความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระพุทธเจ้า ๑
    ความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระธรรม ๑
    ความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระสงฆ์ ๑
    อริยศีล ๑
    อริยญาณ ๑
    อริยวิมุติ ๑

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย สาทัตตอุบาสกประกอบด้วยธรรม ๖ ประการนี้แล
    เป็นผู้ปลงใจเชื่อในพระตถาคต เห็นอมตธรรม ทำให้แจ้งอมตธรรมอยู่ ฯ


    พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๒๒
    พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๔ อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต
    หน้าที่ ๔๐๕/๔๐๗
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กรกฎาคม 2013
  2. thepkere

    thepkere เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,018
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,449
    [๑๕๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
    พ่อค้าชื่อตปุสสะและภัลลิกะ เลิศกว่าพวกอุบาสกสาวกของเราผู้ถึงสรณะก่อน ฯ
    สุทัตตอนาถปิณฑิกคฤหบดี เลิศกว่าพวกอุบาสกสาวกของเราผู้ถวายทาน ฯ
    จิตตคฤหบดีชาวเมืองมัจฉิกสัณฑะ เลิศกว่าพวกอุบาสกสาวกของเราผู้เป็นธรรมกถึก ฯ
    หัตถกอุบาสกชาวเมืองอาฬวี เลิศกว่าพวกอุบาสกสาวกของเราผู้สงเคราะห์บริษัทด้วยสังคหวัตถุ ๔ ฯ
    เจ้าศากยะพระนามว่ามหานามะ เลิศกว่าพวกอุบาสกสาวกของเราผู้ถวายรสอันประณีต ฯ
    อุคคคฤหบดีชาวเมืองเวสาลี เลิศกว่าพวกอุบาสกสาวกของเราผู้ถวายโภชนะเป็นที่ชอบใจ ฯ
    อุคคคฤหบดี เลิศกว่าพวกอุบาสกสาวกของเราผู้เป็นสังฆอุปัฏฐาก ฯ
    สูรัมพัฏฐเศรษฐีบุตร เลิศกว่าพวกอุบาสกสาวกของเราผู้เลื่อมใสอย่างแน่นแฟ้น ฯ
    หมอชีวกโกมารภัจจ์ เลิศกว่าพวกอุบาสกสาวกของเรา ผู้เลื่อมใสในบุคคล ฯ
    นกุลปิตาคฤหบดี เลิศกว่าพวกอุบาสกสาวกของเราผู้คุ้นเคย ฯ

    จบวรรคที่ ๖
    [๑๕๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
    นางสุชาดาธิดาของเสนานีกุฎุมพี เลิศกว่าพวกอุบาสิกาสาวิกาของเราผู้ถึงสรณะก่อน ฯ
    นางวิสาขามิคารมาตา เลิศกว่าพวกอุบาสิกาสาวิกาของเราผู้ถวายทาน ฯ
    นางขุชชุตตรา เลิศกว่าพวกอุบาสิกาสาวิกาของเราผู้เป็นพหูสูต ฯ
    นางสามาวดี เลิศกว่าพวกอุบาสิกาสาวิกาของเราผู้มีปรกติอยู่ด้วยเมตตา ฯ
    นางอุตตรานันทมาตา เลิศกว่าพวกอุบาสิกาสาวิกาของเราผู้ยินดีในฌาน ฯ
    นางสุปปวาสาโกลิยธีตา เลิศกว่าพวกอุบาสิกาสาวิกาของเราผู้ถวายรสอันประณีต ฯ
    นางสุปปิยาอุบาสิกา เลิศกว่าพวกอุบาสิกาสาวิกาของเราผู้เป็นคิลานุปัฏฐาก ฯ
    นางกาติยานี เลิศกว่าพวกอุบาสิกาสาวิกาของเราผู้เลื่อมใสอย่างแน่นแฟ้น ฯ
    นางนกุลมาตาคหปตานี เลิศกว่าพวกอุบาสิกาสาวิกาของเราผู้คุ้นเคย ฯ
    นางกาฬีอุบาสิกาชาวกุรรฆริกา เลิศกว่าพวกอุบาสิกาสาวิกาของเราผู้เลื่อมใสโดยได้ยินได้ฟังตาม ฯ

    จบวรรคที่ ๗
    ______________

    พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๒๐
    พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๒ อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต
    หน้าที่ ๒๖/๒๙๐
     
  3. thepkere

    thepkere เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,018
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,449
    โคตมสูตร
    [๕๖๕]
    สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ โคตมกเจดีย์ ใกล้พระนครเวสาลี
    ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย
    ภิกษุทั้งหลายทูลรับสนองพระผู้มีพระภาคแล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย
    เรารู้ด้วยปัญญาอันยิ่งแล้ว จึงแสดงธรรม ไม่รู้ไม่แสดง
    แสดงธรรมมีเหตุ ไม่ใช่แสดงธรรมไม่มีเหตุ
    แสดงธรรมมีปาฏิหาริย์ ไม่ใช่แสดงธรรมไม่มีปาฏิหาริย์

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย
    เมื่อเรารู้ด้วยปัญญาอันยิ่งแล้ว จึงแสดงธรรม ไม่รู้ไม่แสดง
    แสดงธรรมมีเหตุ ไม่ใช่แสดงไม่มีเหตุ
    แสดงธรรมมีปาฏิหาริย์ ไม่ใช่แสดงธรรมไม่มีปาฏิหาริย์

    ท่านทั้งหลาย
    ควรทำโอวาท
    ควรทำอนุสาสนี ก็แหละท่านทั้งหลาย
    ควรที่จะยินดี
    ควรที่จะชื่นชม
    ควรที่จะโสมนัสว่า
    พระผู้มีพระภาคตรัสรู้เองโดยชอบ
    พระธรรมอันพระผู้มีพระภาคตรัสดีแล้ว
    พระสงฆ์ปฏิบัติชอบแล้ว


    พระผู้มีพระภาคได้ตรัสคำไวยากรณภาษิตนี้จบลงแล้ว
    ภิกษุเหล่านั้นต่างชื่นชมยินดีภาษิตของพระผู้มีพระภาค
    ก็แหละเมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสไวยากรณภาษิตนี้อยู่ พันโลกธาตุได้หวั่นไหวแล้ว ฯ


    พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๒๐
    พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๒ อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต
    หน้าที่ ๒๖๔/๒๙๐
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กรกฎาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...