ผู้มีองค์กับผู้มีสัมผัสที่ 6 เหมือนกันหรือไม่

ไม่ใช่เรื่องเดียวกันเลย


............จงเชื่อมั่น ในศักยภาพแห่ง กายมนุษย์...........กายมนุษย์ มีค่ามากนัก สำหรับการสร้างบารมี และ การหลุดพ้น มีค่าน้อยนัก เมื่อถึงเวลาต้องไป



( แต่ อย่าก่อกรรมทาง กาย วาจา ใจ กับ สิ่งที่เราสัมผัสได้ไม่กระจ่าง ทางใครทางมัน)

 

ถ้าร่างทรงต้องการช่วยผู้อื่นจริงทำไมเค้าถึงเก็บตังค์ล่ะคะ?

 

การช่วยเหลือมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม อย่างเช่น ช่วยให้คำปรึกษาและแก้ปัญหาชีวิต ช่วยพยากรณ์ให้เพื่อจะได้ไม่ประมาทในชีวิต หรือแก้คุณไสย์ ต่างๆ เป็นต้น หลักการดูง่ายๆ ว่าผู้เป็นร่างทรงน่าเชื่อถือหรือไม่ ก็ดูจากการประพฤติธรรมของร่าง ลูกศิษย์ลูกหามีเยอะไหม เก็บเงินมากน้อยเพียงใด หากเก็บเป็นร้อยก็ไม่ต้องไปหา ค่ายกครู สิบสลึงบ้าง เก้าบาทบ้าง ก็พอทำเนา แล้วที่เก็บนะ ก็เพราะต้องการนำเงินพานครูนี้ ไปสร้างบุญกุศลให้กับผู้มาถวาย เพราะคนพวกนี้ส่วนใหญ่ เวลามีทุกข์ ก็จะมาหาให้แก้ทุกข์ให้ แต่พอสมหวังแล้ว ก็หายเข้ากลีบเมฆ บอกให้ทำบุญทำทาน ก็ไม่ทำ เลยต้องมีเก็บเงินพานครูไว้สำหรับการนี้โดยเฉพาะ

ตราบใดเราเป็นมนุษย์ด้วย ความเมตตาจะช่วยค้ำจุนให้เกิดสันติ และโปรดอย่าได้รังเกียจคนเป็นร่างทรงเลย คงไม่มีใครอยากเป็นนะหรอก แต่หากไม่เกิดกับเราก็คงไม่สามารถรับรู้ได้ถึงความรู้สึกเช่นนี้ได้เช่น

รักคนมีองค์และร่างทรง มนุษย์ก็เป็นอย่างนี้แหละมีทั้งดีทั้งชั่ว สมดุลกันไป เป็นธรรมดาของมนุษย์โลกใบนี้ ขอสันติภาพและภราดรภาพจงบังเกิดดัวยเทอญฯ

 

แล้วคนที่ รับแก้กรรม แก้เคราะห์
รวมถึงพยากรณ์ ดูดวงชะตา
ทำไมเค้าถึง เก็บตังละครับ

ก็คงเหตุผลเดียวกันนะผมว่า

 

ผมไม่แน่ใจว่าคุณแอมเคยมีประสบการณ์การเป็นร่างทรงหรือมีเพื่อนในหมู่ร่างทรงหรือไม่ แล้วเหตุใดร่างทรงเหล่าจึงได้ถูกเลือกให้มาสร้างบารมี? ผมเองก็สงสัยเหมือนคุณ? อยากศึกษาวิจัยเรื่อร่างทรงต่างๆ เพื่อจัดทำเป็นหนังสือคนมีองค์และร่างทรง อยากทำมาก แต่ไม่มีเวลาหาข้อมูลจริงๆ

ผมเคยมีน้องสะใภ้แฟนเป็นร่างทรงพระแม่... ดังมากๆ ประทับทรงเดือนละครั้ง ลูกศิษย์ลูกหาเต็มไปหมด กว่าจะได้พบคุย ก็รอจนถึงสามทุ่มสี่ทุ่มโน้น แต่ดีว่าที่สนิทกันกับร่าง จึงได้สอบถามเรื่องราวเหตุใดจึงมาเป็นร่างทรง ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ฐานะดี มีคู่ครองที่ดี และมีบริวารที่ดี ที่สำคัญเป็นนักปฏิบัติธรรมที่เคร่งครัด แต่เมื่อสอบถามไปแล้ว ก็แทบจะเหลือเชื่อว่ามนุษย์ผู้หญิงคนหนึ่งประพฤติธรรมดีมาตลอด ต้องมารับใช้พระองค์นานถึงยี่สิบปี ได้ผ่านวิบากกรรมต่างๆ มากมาย มีทั้งทุกข์ สุข สมหวัง และผิดหวัง คลุกเคล้ากันไป เธอได้ถ่ายทอดเรื่องราวได้อย่างน่าสนใจ ไว้ว่างๆ ผมจะขอให้เธอเล่าให้ฟัง เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนมีองค์และร่างทรงทั้งหลาย ในโอกาสต่อไป

 

ขอถามท่านแล้วกันว่า แล้วใครบ้างละจะมีบุญบารมีมากถึงเพียงนั้น อย่าว่าแต่จะเอยพระนามเลย แม้แต่จะเข้าถึงพระพักตร์ท่านยังยากเลย แม้เราจะไม่ใช่มนุษย์ผู้สูงศักดิ์ แต่เราก็สามารถเป็นผู้นำจิตวิญญาณของตนเองได้ ของกลุ่มเพื่อนกัลยาณมิตรได้

พระศาสดากี่ภพกี่ชาติ กว่าท่านจะได้มาถึงจุดนี้ "ผู้นำจิตวิญญาณ" เราก็ไม่ขอความเป็นเลิศใดๆ เพียงเพื่อกิเลสหรอก แค่เรามีจิตเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์และนำพาไปให้ถึงฝั่งหมายได้บ้าง ก็นับได้ว่าประเสริฐแล้ว เพียงแต่ในชาติปัจจุบันนี้ เราเริ่มกันบ้างแล้วยัง ลองถามใจตัวเองก่อน

 

รออ่านอยู่คร้าบ

 

<TABLE id=post1985682 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175>^บัวหลวง^<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1985682", true); </SCRIPT>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Oct 2008
ข้อความ: 88
<IF condition="">
</IF>Groans: 0
Groaned at 1 Time in 1 Post
ได้ให้อนุโมทนา: 226
ได้รับอนุโมทนา 326 ครั้ง ใน 58 โพส
พลังการให้คะแนน: 16



</TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_1985682 class=alt1><!-- icon and title --><CENTER>ปัญหาการเข้าทรง

</CENTER>
<HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message --><!-- ads code --><SCRIPT type=text/javascript><!--google_ad_client = "pub-2576485761337625";/* 250x250, created 31/01/09 */google_ad_slot = "7252767143";google_ad_width = 250;google_ad_height = 250;//--></SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>window.google_render_ad();</SCRIPT><IFRAME height=250 marginHeight=0 src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=ca-pub-2576485761337625&dt=1238254758609&lmt=1238254758&output=html&slotname=7252767143&correlator=1238254758609&url=http%3A%2F%2Fpalungjit.org%2Fshowthread.php%3Ft%3D179817&ea=0&ref=http%3A%2F%2Fpalungjit.org%2Fforumdisplay.php%3Ff%3D12%26order%3Ddesc%26page%3D3&frm=0&ga_vid=1037035579.1229087361&ga_sid=1238251159&ga_hid=686059884&ga_fc=true&flash=10.0.22.87&u_h=600&u_w=1024&u_ah=570&u_aw=1024&u_cd=32&u_tz=420&u_his=15&u_java=true&dtd=78" frameBorder=0 width=250 allowTransparency name=google_ads_frame marginWidth=0 scrolling=no></IFRAME>

ปัญหาการเข้าทรง​

ผู้ถาม หลวงพ่อคะ อยากจะกราบเรียนถามว่า ผีที่มาเข้าทรง มันเข้ามาทางไหนคะ?

หลวงพ่อ คุณให้เข้าทางไหนล่ะ ฉันไม่เคยเห็นเข้าใครเลยนี่ ถ้าเข้าไปเหม็นขี้ตาย

ผู้ถาม (หัวเราะ)

หลวงพ่อ นั่นเขาไม่ได้เข้า เราใช้ศัพท์ผิดเองต่างหาก เขาอยู่ข้างนอก แต่เขาใช้กำลังจิตบังคับคน ฉันเคยเห็นเขาอยู่นอก อย่างเป็นผีเข้าก็ดี เจ้าทรงก็ดี เขาอยู่ข้างนอก ถ้าเป็นเทวดาอยู่สูงกว่า เขาใช้กำลังจิตบังคับ คือกำลังจิตคนนั้นสู้ไม่ได้ คุณจะเห็นว่าคนที่ผีเข้าก็ดี คนที่เข้าทรงก็ดี พวกนี้ตกใจง่าย จิตใจอ่อน ถ้าไม่ตกใจง่าย จิตใจอ่อน ไม่มีทางเข้าได้ เราใช้ศัพท์ว่าเข้า แต่ความจริงเขาไม่ได้เข้า

ผู้ถาม แล้วทำไม จะต้องมีวิญญาณอื่นเข้ามาแทรกแซง ขอให้เป็นร่างทรง ทำไมต้องเป็นแบบนี้...?

หลวงพ่อ ไม่รู้นะ ต้องให้ตายเสียก่อน แต่ว่าการทรงนี้เราต้องสังเกตนะ ที่เขามาเข้าทรงเราอย่าไปตำหนิว่าเขาไม่ดี หรือว่าเขาทรงเราอย่าเพิ่มชมเขาว่าดี ต้องดูเหตุผล คือว่าเหตุผลที่เขาพูดออกมา เขาสั่งออกมาจะมีผลตามที่เขาพูดไหม เพราะว่าพวกที่เข้ามาทรงเป็นคนหลายชั้นถ้าเป็น อสุรกาย หรือ สัมภเวสี นี่เขาก็มีความสามารถตามที่เขาสามารถ เขารู้ได้แต่ว่ามันระยะสั้นๆ และถ้าเป็น อากาศเทวดา เขาจะมีความสามารถสูงกว่านั้น และถ้าเป็น พรหม ก็มีความสามารถสูงกว่า
เราจะสังเกตได้ว่าถ้าเป็นพรหม เขาจะมาเฉพาะวัน ถ้ามาวันนี้เขาจะบอกวันไหนเขาจะมาอีก แต่เขาไม่มาทุกวันและใช้เวลาน้อย เขาพูดน้อย สมมุติว่าเขาจะมารักษาใคร เขาจะบอกเลยว่า วันนั้นจะมีคนเป็นโรคอะไรมา เขาจะเตรียมยาไว้เลย แล้วก็วันที่เขาบอกว่าไม่มา อย่าไปเชิญเขานะ เขาไม่มา ทีนี้คนทรงที่มีเทวดาและพรหมมาทรง อันนี้ก็มีแทรกได้เหมือนกัน เราก็ไม่โทษคนทรง เพราะคนทรงเป็นคนใจอ่อน คือ ใครเข้าก็ได้ง่ายๆ บางทีพอเริ่มเชิญเทวดาประจำหรือพรหมประจำตัวแทรกมันมาก่อน เคยถามเหมือนกันว่าทำไมปล่อยเขาเข้ามาเขาเข้าไปแล้วนี่ เขาก็เคารพกันอยู่แล้ว เขาเกรงใจเหมือนกัน แต่ตัวแทรกนี่เขาก็มีความสามารถ ป่วยไข้ไม่สบายเขาก็รักษาได้ ถามอะไรเขาก็บอกได้ เขามีสภาพเป็นทิพย์เหมือนกัน

​

(หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม ๑ หน้า ๑๐๙-๑๑๐)​

อ้างตาม คุณบัวหลวง<!-- / message -->
</TD></TR></TBODY></TABLE>
<SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>window.google_render_ad();</SCRIPT><IFRAME marginHeight=0 src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=undefined&dt=1238254911968&format=undefinedxundefined&output=html&correlator=1238254911968&ea=0&frm=1&ga_vid=1037035579.1229087361&ga_sid=1238251159&ga_hid=978747480&ga_fc=true&flash=10.0.22.87&u_h=600&u_w=1024&u_ah=570&u_aw=1024&u_cd=32&u_tz=420&u_his=18&u_java=true&dtd=16" frameBorder=0 allowTransparency name=google_ads_frame marginWidth=0 scrolling=no></IFRAME><SCRIPT>window.google_render_ad();</SCRIPT>

 

ไปถึงไหนครับนั่น หากเรากล่าวถึง ในหลวง นี่พระองค์ท่านเป็นพระองค์ แต่ไม่ใช่
องค์ที่จะมาทรงเจ้าในแบบที่คุณนึกคิด

เราย่อมเทิดทูล ในหลวง ท่านเหนือเศียรเกล้า

แล้วอะไรที่เป็น "คำพ่อสอน" ก็ให้น้อมมาปฏิบัติไปตามนั้นสิครับ

ท่านสอนให้พอเพียง เราก็พอเพียง

ท่านสอนให้เราเป็นคนดี สนับสนุนคนดีให้ปกครองบ้านเมือง เราก็ทำไปสิครับ

อื่นๆ อีกเยอะแยะ

น้อมมาทำก็ทำให้เราเจริญได้ ทำบุญแก่คนทั่วไปได้ และกว้างขวางกว่าตั้งเยอะ

* * *

หากคุณเข้าใจจุดประสงค์ที่ผมกล่าวไม่ได้ ก็ให้มันผ่านๆไปเถอะครับ

เห็นได้แค่ไหน ก็แค่นั้นไปแหละ

 

รออ่านอยู่นะครับ อยากเรียนถามคุณภราดรภาพด้วยว่าการที่คนๆนึงจะมีองค์
เบื้องบนท่านพิจารณาอย่างไร แล้วถ้าคนๆนั้นร่างกายไม่สมบูรณ์เจ็บป่วยหรือพิการ ท่านจะใช้ร่างเช่นนี้มั้ย

 

ผมอาจตอบประเด็นที่คุณกล่าวมาเบี่ยงเบนก็ได้ มันก็คงไม่ต่างที่คุณอยู่ๆ มาตอบในที่นี้ หัวข้อมันก็บ่งอยู่แล้ว ช่างมันเถอะทำหูทวนลมไปเสีย

 

เรื่องกรรมบันดาล เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ทำไมคนที่ประสบเคราะห์หนัก เช่น เป็นโรคมะเร็งใกล้ตาย หรือเป็นโรคปัจจุบันที่รักษาได้ยาก พูดง่ายๆ อาการสาหัสทั้งนั้น บางคนที่พบเจออุบัติเหตุรถชน นึกว่าตายเพราะสลบไปสามสี่วัน คนแรกหมอหยอง นึกว่าตาย แต่ฟื้นเพราะมีมหาเทพมาช่วย อีกคนหนึ่ง นึกว่าตายเช่นกัน แต่กลับฟื้นขึ้นมา เพราะมีมหาเทพมาช่วยอีกราย ส่วนน้องสะใภ้ โรคเบียดเบียนต้องผ่าตัดโน้นผ่าตัดนี้ บ่อยมากๆ จนนึกว่าต้องอายุสั้นแน่นอน แต่แล้วทำไมคนเหล่านี้ จึงกลับอยู่ต่อไปได้อีกยาวนาน ก็เพราะกรรมผูกพันกับพระองค์ท่าน จึงสามารถอยู่ต่อเพื่อสร้างบุญบารมีได้ สามารถสงเคราะห์ผู้อื่นได้ ซึ่งเป็นเหตุสำคัญที่พระองค์ยอมแปดเปื้อนกรรม พระมหาเทพย่อมอยู่เหนือกฎแห่งกรรม อาจฟังดูมันแปลกๆ เพราะปกติ ไม่มีใครจะอยู่กฎแห่งกรรมได้ แต่นี้คือข้อยกเว้น หากเป็นองค์อื่นๆ อาจทำได้ แต่ต้องขอพระบัญชาจากมหาเทพก่อน แต่โดยปกติแล้วจะไม่ค่อยได้พบมากนัก อีกทั้งสายพระโพธิสัตว์ท่านจะไม่แปดเปื้อนกรรมในลักษณะนี้ครับ

ใครมีความเห็นเป็นอื่น แสดงความเห็นได้ครับ

 

ดิฉันรู้จักร่างทรงคนหนึ่งเมื่อประมาณ2 ปีที่แล้ว ตอนนั้นไปเจอรู้แต่ว่าร่างทรงเป็นโรคตับระยะสุดท้ายหมอบอกว่าอยู่ได้ไม่เกิน 2 เดือน แต่ก็ยังช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์อยู่ทั้งที่สังขารร่างนั้นไม่ไหวท้องบวมตัวบวมไปหมด ยังช่วยคนที่มีทุกข์คือทางใจให้สบายใจ หนทางการรักษาน้อยมาก สุดท้ายลองเสี่ยงไปขอตับจากศิริราชซึ่งก็เป็นไปได้ยากเช่นเดียวกันเพราะแค่ 2 เดือนยังไงคงไม่ทัน แต่ประมาณ 1 เดือน ตอนเย็น ศิริราชโทรมาให้มาโรงพยาบาทรอเป็นตัวสำรองในการผ่าตับเปลี่ยนไต ร่างทรงได้พูดคุยกับกับผู้จองคนแรกทราบว่ารอมาไม่ต่ำกว่า 1 ปีพึ่งได้และแน่ใจด้วยว่าต้องผ่าได้ตรวจร่างกายพร้อมทุกอย่าง แต่พอผ่าตัดจริง ๆ กับต่อเส้นเลือดไม่ติด เป็นเหตุให้ร่างทรงท่านนี้ได้เข้าไปผ่าตัดทันทีและสามารถต่อกันได้ไม่มีอะไรติดขัดเลย ทำให้มีชีวิตอยู่ได้ทุกวันนี้ และยังไปบวชอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้าของตับทั้ง 2 ท่านอีก และทำไมถึงต้องเป็นเงิน พอทราบมาบ้างว่าเป็นค่าครูที่พอได้เงินก็ต้องนำไปทำบุญให้เพราะไม่อย่างนั้นร่างทรงก็จะเจ็บป่วยไม่สบายซึ่งก็ต้องเห็นใจด้วยเพราะคงไม่มีใครอย่างเป็นเช่นนี้หรอก ข้าพเจ้าคิดว่าทุกอย่างไม่ใช่เรื่องบังเอิญไม่สนุกนักหรอกที่ต้องทนนั่งรับแขกหรือคนที่เป็นทุกข์ มานั่งฟังเรื่องของคนอื่น ๆ เป็นเราล่ะเราชอบไหม บางทีมาให้ช่วยเหลือกันทีเกือบร้อยคน ทนนั่ง ทนฟัง ทนตอบ เราฟังเรายังเหนื่อยเลย มนุนษย์มีแต่เรื่องทุกข์ หาความสุขเจอกันยาก สับสนไปหมด แล้วถ้าวันหนึ่งเราต้องเป็นแบบนี้ เราจะคิดอย่างไร ลองมาเล่าสู่กันฟังบ้างน๊ะค่ะ แต่สุดท้ายแล้วทุกอย่างก็ต้องเสื่อมไป เว้นแต่คุณค่าความดี ไม่อาจเสื่อมไปกับเราได้น๊ะค่ะ

 

ผมว่าร่างนะไม่สนุกหรอกครับ
แต่ร่างไม่รู้เรื่อง ไม่ได้เป็นคนฟัง เอิ้กๆ
ผมถามแฟนผมบอกช่วงที่โดนประทับ จะรู้สติ แต่จะเบลอๆ จำไม่ค่อยได้
อีกอย่างองค์เค้าบอก เงินค่าครูนะ ให้ใส่เก็บไว้เป็นขององค์นะ ไม่ใช่ของร่าง
เดี๋ยวองค์จะให้ไปทำอะไรกะเงินเค้าจะบอกเอง

 

ถ้าเป็นผม ผมไม่เป็นหรอก เสียความเป็นตัวเองหมด

 

แฟนผมเค้าก็ไม่ได้อยากเป็นหรอกครับ
คงอย่างที่เค้าบอก จิตเค้าอ่อน ฝืนไม่ได้ คนเราไม่เหมือนกันหรอก

เค้าไม่เคยเชิญองค์ลงมาเองเลยนะครับ เค้ามาของเค้าเองและก้จะไปของเค้าเอง แต่พูดรู้เรื่องก็บอกกันไปว่าขอเป็นเวลาที่แน่นอน เวลางานจะไม่มา

โดยส่วนตัววิญญาณที่จะมาบังคับร่างคนได้เนี่ย ผมคิดว่าคงไม่ใช้ระดับธรรมดาหรอก


แต่เคยเห็นคนเค้าบอกที่งานศพ คนตายโหง
วิญญาณจะมาเข้าร่างที่จิตอ่อน เพื่อบอกเรื่องที่ติดค้างและร่ำลาพ่อแม่ แต่วิญญาณพวกนี้ ก็อยู่ได้แป๊บเดียวเพราะไม่มีอำนาจ

 

ก็ไม่มีอะไรหรอกครับคุณภารดร

หรือ ผมไม่ได้อยากมีอะไรกับคุณภารดรหลอกครับ

การจะกล่าวว่า ผมเข้ามาสถานการณ์ และ เวลาที่ไม่ถูก อันนี้ก็ต้องขอชี้
แจงว่า อาจจะ...อาจจะ..ไม่เป็นอย่างนั้น

ที่ผมมาปรากฏในกระทู้นี้ ก็เพราะผมทำหน้าที่พรหม เทวดาที่ส่องมาดู จขกท
ผู้ที่มีวาสนาจะมีสัมมาทิฏฐิ เพราะกระทู้นี้เป็นกระทู้ก่อนหน้าของ จขกท ก่อน
ที่เขาจะเห็นความไม่จริงแท้ที่ปรากฏ จนกระทั่งต้องออกไปตั้งกระทู้อีกอัน
เพื่อถามหาทางหลุดพ้น

ในกระทู้ทางหลุดพ้นผมได้ชี้ทางเดิน สติปัฏฐาน4 ให้ จขกท ไปแล้ว ซึ่ง
ผมก็ศรัทธาในตัว จขกท ถึงความมีสัมมาทิฏฐิ จึงได้ติดตามดูแล และธรรมดา
คนที่มีสัมมาทิฏฐิคนที่ทำหน้าที่ เทวดาอารักษ์ และ พรหมแบบสัมมาทิฏฐิที่ดี
ก็ย่อมเข้ามาแสดงวาทะธรรมให้กับคนๆ นั้น ซึ่ง หมายความว่า ผมเข้ามาเพื่อ
แสดงวาทะแก่ จขกทไม่ใช่เพื่อคุณ แต่ผมใช้ภาพของทิฏฐิที่มีในคุณนั้นแหละ
มาแจง จรนัยออก กางออก คลี่ออก เพื่อให้เห็นที่มาที่ไปของความไม่จริงแท้

* * * * *

พรหมที่เป็นมิจฉาทิฏฐิ นั้น จะอ้างข้อศีล อ้างความดี และกระตุ้นให้คนทำดี

อ้างเรื่องกรรมบันดาล เป็นเรื่องเจ้านายบันดาล ทั้งๆที่ตัวเองก็อ้างอยู่ว่ากรรม
นั้นก่อโดยร่างทรงเป็นหลัก ร่างทรงมีองค์ทำดี ช่วยคน ก็อ้างว่า นั้นก็เพื่อการ
สะสมบุญของร่างทรง ในขณะเดียวกัน ร่างทรงก็งงงวยไม่รู้เรื่อง พอถามว่าใคร
ได้บุญ ก็ยกให้กับองค์ที่มาลง โอ้ละพ่อกลับไปกลับมา เพราะความไม่จริงมันแทรก
อยู่

เรื่องของกรรม การได้พบปะกัน การได้รับความช่วยเหลือกันและกัน ไม่ใช่เรื่องเจ้านาย
บันดาล และไม่ใช่กรรมบันดาล แต่เป็นกฏแห่งกรรมล้วนๆ คนที่ไม่เข้าใจกฏแห่งกรรม
โดยท่องแท้ บวกกับความอยากใหญ่ ทำให้เมื่อแก้กรรมไปพลางๆ จะเริ่มเกิดตัณหาเข้า
ครอบงำจิตตกไปทางอกุศลจิตทำให้จิตเริ่มไหลต่ำ ทำให้เกิดความคิดที่ว่า ฉันอยู่เหนือ
กฏแห่งกรรม เพราะฉันเป็นข้อยกเว้น เนื่องจากฉันทำดีกว่าคนอื่น ฉันควรเป็นใหญ่

หากมาดู จรณะสัมปันโณ ของคนฝ่ายที่มีสัมมาทิฏฐิ เขาเห็นอย่างไรในเรื่องกฏแห่งกรรม

ก็คงต้องดูไปที่ศาสนาพุทธ เพราะของเขาอ้างว่า เขาเป็นสัมมาทิฏฐิโดยแท้ และไม่ใช่
โดยส่วนเดียว อรหันต์ขีณาสพของฝ่ายพุทธศาสนาแม้จะบรรลุถึงนิพพานแล้ว กรรม
ใดๆไม่สามารถส่งผลถึงจิตได้อีกแล้ว ชาติจบแล้ว กลับไม่มีอรหันต์คนไหนไร้วินัย ทำตัว
เหนือกรรม ทุกคนต้องเคารพกฏเกณฑ์ ธรรมวินัยโดยเคร่งครัด วาทะที่พระพุทธองค์
ตรัสแก่สานุศิษย์นั้นง่ายๆ สั้นๆ

"ท่าน เทียวเทศนาสั่งสอนให้คนทำความดี รักษาศีล และเข้าถึงธรรม แต่เมื่อตัวท่านเอง
ไม่เคารพสิ่งที่ตนพร่ำพูด สอนสั่ง ไม่เคารพกฏแห่งกรรม ไม่มีวินัย เสียเอง โดยถือว่าตน
นั้นอยู่เหนือกรรมทั้งปวง แล้วใครจะเคารพสิ่งที่ท่านสอน"

 

จขกท

แปลว่าไรครับ

พึงรู้ วันนี้ ขอบคุณคับ สงสัยผม ด้อยปัญญา จริงๆ

 

ท่านภราดรภาพครับขอขยายความกระจ่างตรงนี้เป็นวิทยาทานด้วยครับ
และทำไมสายพระโพธิสัตว์ท่านจะไม่แปดเปื้อนกรรมในลักษณะนี้
dencee

 

จะหลอกใครก็ไม่ว่า ในเมื่อคุณเป็นนักปฏิบัติธรรมขั้นสูง ก็คงจะไม่หลอกตัวเอง

ไม่เป็นไรหรอกครับ ได้มาแสดงความเห็น ร่วมกันคิด แชร์ประสบการณ์แบบมีส่วนร่วมก็ดี อนุโมทนาครับ แต่จะให้ดีก็ให้ควรแก่กาละ เทศะ

ก็แสดงว่า จขกท. ได้แสดงให้เห็นแนวทางทั้งสอง ก็ดีครับ แต่จะให้ดีควรแยกแยะว่ากระทู้เหมาะจริตกับคนแบบไหน จะได้แสดงธรรมได้ถูกต้องและเหมาะสม

ดีแล้วครับ ที่ไม่ใช่เพื่อผม แต่เพื่อสำหรับคนอ่านที่จะได้รับประโยชน์โดยตรง

* * * * *

ไม่ทราบพรหมคติพุทธ มีมิจฉาทิฏฐิ ด้วยหรือ?
ปกติท่านเป็นคนที่ชอบติเตียนเรื่องฌานอยู่แล้วไม่ใช่หรือ เพราะฌานอย่างไรเสีย ก็จัดอยู่ทั้งรูปฌาน (รูปพรหม) และอรูปฌาน (อรูปพรหม) ผมเพิ่งรู้นะนี้ว่า พรหมก็มีมิจฉาทิฏฐิ มีแต่คนจิตตกเท่านั้นแหละที่ด่วนสรุปเยี่ยงนี้

ความจริงกับอคติมักจะคู่กัน สภาวะธรรมคุณก็สูงมากเยี่ยงนี้ ก็ไม่น่าจะลดตัวลงมาต่ำ ไว้คนมีญาณทัศนะอย่างท่าน ได้เจริญตามพุทธองค์ และขอให้ท่านถึงบรรลุเป้าหมายโดยไว

ในเมื่อท่านเองก็ไม่เคยสัมผัส ไม่เคยสื่อได้ ต่อให้พูดให้ตายท่านก็ไม่เชื่อ ท่านเองเป็นนักปฏิบัติธรรมย่อมรู้ดีอยู่แล้ว ตามแนวทางสุขวิปัสโก ผมก็เห็นคุณโต้ธรรมกับ อ. ขันธ์ จะเอาเป็นเอาตาย ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมท่านต้องมากระฟัดกระเขวียงหัวเสียพลาดไปเสียหมด จิตที่ไหลลงต่ำเพราะความมีมานะมาเบียดบังแค่นี้เองหรือ

วาทะที่พระพุทธองค์ตรัสนั้น สั้นๆ ย่อๆ กระฉับและได้ใจความนั่น อาจเหมาะกับท่านหรือนักปฏิบัติธรรมขั้นสูง แต่เรายังต่ำต้อยอยู่ คงไม่รู้ธรรมความนัยหรอกนะ อีกอย่างนิพพาน เราก็ไม่เคยไป ไม่เคยแม้จะสัมผัส หรือว่าท่านเคยไป เคยเห็นและเคยสัมผัสมาแล้ว ก็ขอเล่าให้ฟังกันหน่อย จักขอบพระคุณอย่างสูง

อันตัวเราไม่เคยสั่งสอนใครเลย เพียงแต่เล่าในสิ่งที่รู้และประสบการณ์แบบมีส่วนร่วม ก็ขอให้เพื่อนกัลยาณมิตรได้แสดงความคิดเห็น ให้กำลังใจ และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่เคยที่จะยัดเยียดธรรมใดๆ ให้กับใคร หรือแม้แต่จะกระแทกจิตหรือทำลายความเชื่อมั่นของคนอื่น เพียงเพื่อยกตนว่าตนเองเก่งหรือดีกว่า หรือรู้แจ้งกว่า ฯลฯ แล้วเราจะทำไปเพื่ออะไร ท่านเองก็อย่าเพิ่งด่วนสรุปไปเลย คนเราต้องให้เกรียติแก่ผู้อ่านได้ใช้วิจารญาณในการตัดสินใจ เท็จจริงเพียงใด ก็ไม่ควรสรุปเยี่ยงนี้ จริงไหมท่านนิวรณ์