ผู้มีองค์กับผู้มีสัมผัสที่ 6 เหมือนกันหรือไม่

มาอีกแล้ว เอาบุญมาเกี่ยวอีกแล้ว งง

ผมจะไม่สนใจบุญหรอกนะ

แต่ผมมองว่า คุณ นิวรณ์ นั่นอะ ยึดติดอยู่แต่ข้อกำหนดมากเกินไป

ทำนั่นทำนี้ก้ผิดหลักศาสนา อ้างแต่บุญแต่กรรม

คนเราจะให้มันครบเครื่อง มันเป็นไปไม่ได้ดอก

ถามว่ามีคนชี้แนะ กับ ไม่มีคนชี้แนะดีกว่ากัน

คนนะไม่ใช่พระพุทธเจ้า จะได้ตรัสรู้เอง

 

ไปทำงานแล้ว ครับเดี๋ยวกับมาอ่าน

อะล้อเล่นนะครับ คิกๆ

ผมพอแล้วนะ ต่อด้วยไม่ไหวหรอก

ถึงอย่างไรก็แพ้ ธรรมมะ

แต่บางอย่างมันก็ต้อง แยกกันระหว่างธรรมมะ และ ทางโลกนะงับ


เหอๆๆ ตรู สงสัย คุณ นิวรณ์จะสวดยาว เดี๋ยวมาครับ

 

ต้องเข้าใจนะ ผมไม่เคยปฏิเสธ เรื่องใครจะดีได้ ย่อมต้องได้รับคำสอน

ทุกคนจะเข้าใจอะไรได้ สักคำ ย่อมต้องมี ผู้กล่าว ให้ฟังก่อนเสมอ

แต่คนๆที่ได้รับการฟังนั้น เมื่อไหร่หละที่จะเป็นจุดตัดสินว่า เขาเข้าใจคำสอน
ที่ได้รับไปนั้น

ก็ต่อเมื่อ เขานำไปปฏิบัติ และใช้ ได้ถูกต้อง โดยลำพังตัวเขาเอง

ขณะที่เขาทำได้เอง จังหวะนั้นเป็นเพราะ คนสอนเกี่ยวข้องอะไรด้วยอีกหรือเปล่า


* * * *

อาจารย์ สอนศิษย์ให้บวกลบคูณหาร

ลุกศิษย์เอาคำสอนนั้นไปประยุกต์ใช้ได้ในชีวิตประจำวัน อันนี้ครูตามมาสอน
ด้วยทุกขณะจิตที่คิดบวก ลบ คูณ หาร หรือเปล่า เขาคนนั้นย่อมทำด้วยตัวเอง

ตัดสินใจทำด้วยตัวเอง คิดเองได้ ทำเองได้ ไม่นังรอให้เกิดการนิรมิต

* * * *

ที่พูดแบบนี้ ไม่ได้พูดนะว่า ให้อกัตญญู ไม่รู้คุณของครูที่สอน มันไม่เกี่ยวกัน

กลับกันด้วยซ้ำ คนที่คิดเองได้ ทำเองได้ จิตจะระลึกเสมอว่า ที่ตนทำเองได้ก็
เพราะครูได้สั่งสอนมา และโดยความเป็นจริงแล้ว จะไม่ได้มองว่าเป็นครู
เท่านั้น แต่จะมองว่า เป็นพ่อแม่ของตนทีเดียว

 

อิอิ อย่ากลัวไปเลย ไม่มีอะไรน่ากลัวหลอก

ข้อความมันยาว มันก็ยาวไปตามประสา

ไม่ได้มีเจตนาใช้ ความยาว เป็นคุณสมบัติกดข่มนะ

ความยาวของสิ่งที่ผมโพส หลายคนรู้ดีว่า นี่เป็นปัญหาส่วนตัวของผม ที่มันติดอยู่

ก็เลยใช้ไปตามวาสนา ความเคยชินอยู่นะครับ หากตายเมื่อไหร่ ก็หมดไปเอง

 

แล้วถ้าเรา ไม่ทำเองแล้วใครจะทำให้เราละครับ พูดแปลก ๆ นะครับ

 

ไม่ทำงาน ทำการรึไง เนี้ย

เออใช่ จริงผมว่าสั้นๆ ก็ได้นะ

 

การเปลี่ยนแปลง ความเชื่อใครมันยากนะครับ

อย่างแม่ยายผมเนี่ย เค้าก็ เอาแต่ไสยศาตร์อย่างเดียว ใครบอกไรเชื่อหมด ถ้าไม่ขัดกับสิ่งที่แกเชื่อนะ
ใครไปขว้าง ไม่ได้

คนเราต้องมีกลยุทธ์ ในการแนะนำครับ

หากผมเค้าไปตอนนี้และบอก ให้แกตั้ง สติไว้ จงอย่าให้ผีร้ายเข้ามา

โดนไล่ออกจากบ้านชัวร์

 

ก็นั่นแหละ คำกล่าวที่ว่า

"กรรมทั้งหลายเกิดจากเจ้านายบรรดาล"

"กรรมทั้งหลายที่เราทำกันในปัจจุบัน เกิดจากรรมเก่า"

"กรรมใหม่ที่เป็นเรื่องของตนเองเป็นผู้ทำไม่มี"

"กรรมทั้งหลายที่ปรากฏวันนี้ เป็นเพราะเราอธิษฐานอนาคตไว้แล้ว(พวก secret)"

จึงควรเอามาพิจารณาให้แยบคาย ว่าเป็นเช่นนั้นจริงหรือ

* * * *

ผมชักชวนให้พิจารณาด้วยตัวคุณเองนะ ไม่ได้บอกให้เชื่อตาม

 

อ้อ พูดมาตั้งนานรู้แระ

กรรมข้างบนอันนั้นผมก้ไม่รู้นะ เพราะไม่ค่อยได้ศึกษาศาสนา ปวดหัวถ้าพูดเรื่องหลักการ

รู้แต่ว่าอะไร ที่ทำแล้ว ไม่ว่าตัวเรา หรือเค้าสอน หากทำแล้วมันไม่ได้เสียหาย ก็ช่างมันปะไร
วกกลับไปที่เดิม และ วนไปวนมา

เหอๆ ไป ทำงานดีกว่า

 

เอาบุญมาฝากค่ะ พอดีเมื่อวันหยุดไปทำบุญวัดแถวบ้านที่ระยองเป็นงานบุญบวชสามเณรภาคฤดูร้อน ท่านเจ้าอาวาสเป็นภิกษุนักปฏิบัติกรรมฐานที่ดีท่านหนึ่ง ได้สนทนาธรรมกับท่านหลายอย่าง วันอาทิตย์ก็ได้จัดให้มีการปรงผมให้กับเด็กที่จะบวชเป็นสามเณรในวันที่ 1 เมษายน 2552 เลยนำบุญมาฝากทุกท่านค่ะ ขอผลบุญทั้งหลายที่ข้าพเจ้าได้กระทำในการบวชสามเณรภาคฤดูร้อน ส่งผลให้กับเพื่อน ๆ พี่ ๆ ทุกท่านให้มีแต่ความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมน๊ะค่ะ สาธุค่ะ

 

ท่านพี่ภารดรภาพค่ะ ถ้าหากการแบกแล้วสามารถทำให้คนอื่น ๆ ได้ไปถึงฝั่งก็เป็นบุญและกุศลน๊ะค่ะ สาธุค่ะ

 

คำตอบของพี่ ภารดร มีประโยชน์สำหรับผมมากครับ

 

มาดัน+รออ่าน พี่น้องในนี้น่ารักทุกคนเลยครับ;aa1

 

ภาพยนต์เกาหลี เรื่องนี้ ผมก็เคยดู แต่ดูบ้างไม่ดูบ้าง แต่เนื้อหาที่คุณนิวรณ์ แสดงทัศนะให้เห็นแก่นแท้ว่า แม้ท่านจะมีองค์ยิ่งใหญ่เพียงใดก็ตาม ก็อย่าได้ยึดติด เพราะสิ่งนี้ไม่ได้นำพาให้เราไปถึงฝั่งหมายได้ พระองค์เพียงแค่ผู้ช่วยเหลือให้หลุดพ้นได้ง่ายขึ้น ไม่ได้หมายความว่าเราจะรวมกับพระองค์ เพียงแต่ต้องแยกให้ออกอย่างเด็ดขาด พูดง่ายๆ เราต้องปฏิบัติเอง รู้แจ้งเอง บรรลุเอง ประหนึ่งตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ด้วยความสามารถ และโอกาสตามแต่จะอำนวย


ในการนั่งสมาธิก็ดี การเข้าฌาน หรือสมาบัติก็ดี เริ่มต้นนั้น ร่างกายต้องปรับสภาพให้เข้ากับพลังบารมีของพระองค์ก่อน หากฝืนไปก็จะเกิดอาการแปลกๆ ที่ไม่คาดคิด ให้ยอมรับไปจนกว่าความพร้อมจะเกิดขึ้น หลังจากนั้น เมื่อเรามีความชำนาญหรือวสีในการเข้าเพ่งทรงฌานแล้ว เราก็ต้องปฏิบัติเอง ไม่ต้องพึงพาพระองค์อีก เพราะหากเรามัวอาราธนาพระองค์ให้ช่วยอยู่อย่างนี้ เราก็ยังคงยึดติดพระองค์ท่าน เหมือนลูกติดแม่ติดพ่อ ไม่โตสักที ไม่เก่งสักที


ดังนั้น หากเราจะนั่งสมาธิด้วยตนเองจริงๆ ก็ขออาธารนาให้พระองค์เสด็จอยู่ห่างออกจากร่างเพียงแค่ปลายมวยผม หรือห่างออกหนึ่งก้าวรัศมี ขอให้ลูกได้ฝึกเอง ปฏิบัติเอง รู้แจ้งเอง แต่หากเกิดข้อผิดพลาดใดๆ ก็ขอให้พระองค์จงปกปักรักษา เพราะคนฝึกใหม่ๆ อาจมีสิ่งอัปมงคลแทรกเข้าได้


จะเห็นได้ว่าพระองค์เป็นผู้ช่วยนำพาให้เราก้าวไปข้างหน้า เปรียบเหมือนบิดามารดาที่คอยปกป้องยามลูกน้อยยังอ่อนแอ เมื่อเรากล้าแกร่งขึ้น เราก็ต้องฝ่าอุปสรรคด้วยตนเอง แต่เมื่อลูกทำผิด....


ถ้าพ่อแม่ไม่สั่งสอน สังคมจะสั่งสอน
ถ้าสังคมไม่สั่งสอน กฎหมายจะสั่งสอน
ถ้ากฏหมายไม่สั่งสอน กฎแห่งกรรมจะสั่งสอนเอง


แต่หากผมเป็นเทพที่ดูแล จูซิน ผมจะขออนุโมทนา เต็มกำลัง เพราะนี้คือผู้ทีได้เข้าถึงแก่นแท้ตัวตนที่แท้จริง และเป็นผู้ไม่ยึดมั่นในอัตตา


สำหรับใครบางคนยังติดฤทธิ์ ก็ขอให้วางไว้ แล้วใช้บุญฤทธิ์ให้มากๆ
เฉกเช่น โลกียะเหมือนไม้ค้ำถ่อ ยามต้นไม้ยังอ่อนและเล็กนัก
แต่เมื่อต้นไม้นั้น เติบโตแข็งแรง และยืนหยัดได้ด้วยตนเองแล้ว
ก็ค่อยๆ ปลดไม้ค้ำถ่อนั้นทิ้งเสีย ก็จงไปสู่ฝั่งโลกุตรธรรม ประเสริฐนักแล

 

ก็นี่แหละน้า มิน่าหายไปไหน กระทู้ท่านไม่ไป update ปล่อยข้าพเจ้าเล่าเรื่องอยู่คนเดียวเป็นวรรคเป็นเวร กลับไปกระทู้ท่านเนอะ รออยู่

 

ช่วงนี้ฝันเห็นท่านแม่กวนอิมบ่อยมาก ไม่รู้ว่าท่านต้องการจะสื่ออะไร แล้วปวดหัวแทบทุกวันไม่เป็นอันทำงานเลย เดี๋ยวปวดเดี๋ยวหาย

 

จ้ายอดยาหยี กลับรังแล้ว กลับบ้านเราดีกว่า อุ่นนี้นะ

 

[MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.552786/[/MUSIC]

 

ว่ากันตาม นิมิต ก็ต้องบอกว่า เคยยินดีกับการฆ่าสัตว์ ตัดชีวิตมามาก กรรม
คงได้ชดใช้ในภพที่ควรไปแล้ว แต่จะมีเศษกรรมคือ อาการปวดหัว เจ้าแม่กวน
อิมคงเห็นว่า คุณเป็นสัมมาทิฏฐิ กำลังเข้าสู่ทางจึงมาปรากฏในนิมิต ซึ่งก็ไม่
ได้หมายความว่าให้คุณเปลี่ยนสรณะไปเป็นเจ้าแม่ แต่หมายถึงให้ฟังเสียงสัตว์
ที่ร้องนั้นด้วยจิตเมตตาที่แผ่ออกไป

ในทางสมถะกรรมฐานก็ไปอ่านกระทู้นี้ ........เดี๋ยวมา update link

วันกันตามหลัก สติปัฏฐานภาวนา ซึ่งเป็นการตัดภพชาติ และยอมรับกรรม
ไปตามที่เห็น ไม่หนี ไม่จม และ ไม่ลอยตัวหนี คือ ไม่เลิกปฏิบัติ เรียกว่าหนี

ไม่เอาจิตไปครุ่นคิดแนบอาการปวดหัวจนเกิดเป็นอาการ32 เห็นว่า เวทนานั้น
เป็นเราเรามีเวทนา เรามีกรรม กรรมมีในเรา ประเด็นคือ เกิดคำว่า เรา ขึ้น ทำให้
มีตัวตน สภาวะที่ภาวนาด้วยมีทัศนะเห็นว่ามีตัวตน มีเรา จะภาวนาไม่เข้าเป้า
เรียกว่า จม

ส่วนลอย ก็คือ ไปทำสมถะกรรมฐานชนิดต่างๆ เพื่อแก้ เพื่อหนีเข้าไปอยู่ในภพ
ว่างๆ ที่ความปวดหัวตามไปไม่ถึง

ถ้าหากทำสติปัฏฐาน ชนิดทุบหม้อข้าบุกตีเมืองจันทร์ เราจะระลึกอาการปวด
นั้นเป็น เวทนานุสติปัฏฐาน แค่ระลึกรู้ว่า ปวด โดยให้จิตผู้รู้ ระลึกดูอยู่ห่างๆ
เหมือนกับการเห็นสังขารธรรมชนิดอื่นๆ ที่เคยทำ แต่เนื่องจาก ผู้ปฏิบัติได้
เดินกรรมฐานมาในชั้นละเอียดแล้ว มีปัญญาแล้ว จะทำให้เห็น เวทนากายได้
และจะทำให้เห็น เวทนาใจ คือ ใจยินดี ยินร้าย

เมื่อไหร่หายปวดหัว ก็จะเกิดความยินดี ที่เราไม่มีเวทนากาย

เมื่อไหร่ที่ปวดหัวขึ้นมา ก็จะเกิดความยินร้าย ที่เรามีเวทนากาย

หากปล่อยไว้ ไม่ตามดู ยินดี ยินร้าย อันเป็นกิเลสละเอียด จะค่อยถูกขันธ์มาร
และ มัจจุมาร มากระซิบหลอกให้ล้มเลิกการปฏิบัติลงในที่สุด

 

ดีนะไม่ฝันเห็น แมวดำแบบแฟนผม
เพราะหลังจากฝัน

ผีตายโหงที่ไหน ไม่รู้มาเข้า

ข้าเป็นผีๆๆๆๆ ข้าทรมานมานๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

มันบีบคอข้า มัน ฆ่าข้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

น้ำเสียง โหยหวน ชวนเสียวไปถึงกระดูกสัน หลัง

ว้ากๆๆๆๆๆๆๆๆ หนูยังหลอนไม่หายเลย ขับรถไปกะแฟนสองคน


ทำกรูได้ จะนอนหลับมั้ยเนี้ย

(โปรดใช้ วิจารณาน ในการอ่าน)

แต่หนูหลอนมากๆๆๆๆๆๆ นโม ยกมาไม่รู้กี่จบ ชินบัญชรก็แล้ว