ผู้หญิงต้องรู้! ทำบุญแบบไหน ให้เกิดมาสวยได้ทุกชาติไป

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย picko, 14 กันยายน 2017.

  1. picko เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2014
    โพสต์:
    635
    กระทู้เรื่องเด่น:
    97
    ค่าพลัง:
    +2,133



    พระนางรูปนันทา เกิดมาสวยทุกชาติเพราะอะไร?


    พระธรรมเทศนาหลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง

    … ทำไมพระนางรูปนันทาจึงสวยมาก ตอนนี้องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงไว้ในที่บางตอน ท่านกล่าวว่า พระนางรูปนันทาเป็นคนในตระกูลศากยราช เกิดในตระกูลของเจ้าก็จริงแหล่ แต่ทว่าเป็นเจ้าที่มีความสวยงดงามเป็นกรณีพิเศษ ไม่มีหญิงใดในกรุงกบิลพัสดุ์มหานครจะสวยเท่าพระนางรูปนันทา

    คำว่า รูปนันทา แปลว่า มีรูปเป็นเครื่องบันเทิง คือมีรูปเป็นเครื่องดีใจ สมเด็จพระจอมไตรตรัสว่า ในอดีตชาติก่อน คือว่าทุกชาติที่ผ่านมามันเป็นนิสัยนะ พระพุทธเจ้าบอกว่านิสัยนี้ละไม่ได้ คนจะละนิสัยได้มีคนเดียวคือพระพุทธเจ้า ถ้ายังไม่เป็นพระพุทธเจ้าเพียงใด ก็ทรงนิสัยตามนั้น เมื่อได้บรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณแล้วก็ละนิสัยนั้นได้ มีองค์เดียว คนอื่นนอกจากพระพุทธเจ้าแม้แต่พระอรหันต์ทั้งหลายก็ละนิสัยเดิมไม่ได้ อย่างพระสารีบุตรอดีตเห็นจะเกิดเป็นลิงมามาก เป็นอัครสาวกขององค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า เวลาพบลำคลองหรือลำราง พระอื่นค่อย ๆ ข้ามไป หรือค่อยๆ ถกผ้าลุยน้ำไป แต่พระสารีบุตรขัดเขมรแล้วก็โดดไป เป็นอันว่านิสัยนี้ทิ้งไม่ได้แม้ว่าจะเป็นอัครสาวก

    สำหรับพระนางรูปนันทาก็เหมือนกัน ที่สมเด็จพระภควันต์บรมศาสดาตรัสว่า ชาติในอดีตของรูปนันทาทุกชาติที่เกิดเป็นมนุษย์ นี่หมายความว่าทุกชาติที่เกิดเป็นมนุษย์ เวลาที่เธอจะทำบุญทำทาน ภาชนะทุกอย่างต้องสะอาดหมด ตั้งแต่สมัยเป็นคนยากจนก็ตามที ภาชนะมันอาจจะไม่ดีเท่าชาวบ้านเขา แต่ว่าการทำความสะอาดภาชนะที่จะไปทำบุญต้องสะอาด ถ้าไม่สะอาดเธอไม่ทำ ต่อมาจนกระทั่งเป็นลูกเศรษฐีหรือลูกกษัตริย์มาก็หลายวาระ เวลาที่จัดภัตตาหารไปถวายพระภิกษุสงฆ์ในพระพุทธศาสนา ภาชนะทุกอย่างเธอต้องล้างเอง ต้องเช็ดเอง ต้องทำเองทุกอย่างจนกระทั่งเป็นที่พอใจ





    องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า อาศัยที่รูปนันทาเป็นคนชอบความสะอาด รักความสะอาด เวลาให้ทานหรือบำเพ็ญกองการกุศล เหตุนี้เป็นปัจจัยให้รูปนันทาเป็นคนสวยทุกชาติ มาชาติสุดท้ายนี่เป็นคนสวยที่สุด แต่ว่าไอ้ความสวยก็อยู่ไม่ได้นาน

    แล้วองค์สมเด็จพระพิชิตมารจึงได้กล่าวแก่บุคคลทั้งหลายว่า ภิกขเว ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความจริงท่านเทศน์กับพระกับคน แต่พระนั่งอยู่ใกล้จึงปรารภกับพระว่า

    ภิกขเว ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงดูสภาวะของหญิงที่มีรูปงามที่ถวายงานพัดตถาคตอยู่ ในไม่ช้าไม่นานเท่าไร องค์สมเด็จพระบรมครูคือตถาคต เทศน์ไม่ทันจะจบเธอก็ตาย เวลานี้กระดูกเรี่ยรายลงบนพื้นปฐพี จะหาสิ่งที่ปรากฎเป็นร่างกายนี้ก็ไม่ปรากฎฉันใด


    พวกท่านทั้งหลายที่สดับรับรสพุทธพจน์เทศนาอยู่เวลานี้ ภายหลังไม่ช้าจากวันนี้ไป วันคืนล่วงไปๆ ชีวิตก็เสื่อมไปทีละน้อย เข้าไปหาความตาย ถ้าอายุยืนสักหน่อยก็มีอายุถึงแก่ แก่แล้วก็ตาย ถ้าบาปกรรมที่เป็นอกุศลทำไว้มากไซร้ เช่น ปาณาติบาต ก็สามารถจะตัดชีวตไปในระหว่างกลางให้ถึงแก่ความตายได้ ฉะนั้น พวกเธอทั้งหลายจงอย่าประมาทในชีวิต อย่าคิดว่าชีวิตจะยืนยาวต่อไป

    แล้ว องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงนำมาซึ่งอริยสัจโดยย่อ นั่นก็หมายความว่า เธอทั้งหลายจงรู้สภาพว่าการเกิดนั้นมีสภาพเป็นทุกข์ การทรงชีวิตอยู่นั้นมีสภาพเป็นทุกข์ทุกอย่าง ความหิวก็เป็นทุกข์ ความกระหายก็เป็นทุกข์ การป่วยไข้ไม่สบายก็เป็นทุกข์ การประกอบการงานก็เป็นทุกข์ การปวดอุจจาระปัสสาวะก็เป็นทุกข์ มีความปรารถนาไม่สมหวังก็เป็นทุกข์ มันทุกข์ทั้งหมด เพราะว่าปรากฎแล้วว่าคนเกิดมาแล้วไม่มีความสุขแท้จริง

    ขอบคุณที่มาจาก กฎแห่งกรรม – ภพภูมิ
     
  2. PonP_1565 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2017
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +19
    สาธุค่ะ
     

แชร์หน้านี้