เรื่องเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว เราเป็นคนรับนวดรักษาเจ็ปปวดทางร่างกาย อยู่ต่างประเทศ ทำงานมาสิบห้าปีแล้วนวดรักษาคนให้มีอาการดีขึ้นได้ จะเรียกว่าอยู่ในระดับฝีมือที่รักษาคนได้ทีเดียว แต่ไม่เคยมีครูหรือครอบครูที่ไหน เราได้วิชามาจากการสอนของคนเก่าแก่สมัยอยู่เมืองไทย เริ่มจากนวดไปเรียนไปตามประสบการณ์จนเก่งเมื่อผ่านไปหลายๆปี แต่ช่วงปีที่แล้วเรานวดแล้วปวดเข้าตัวบ่อยๆ ไหล่จมรักษาที่ไหนก็ไม่หาย มีคนแนะนำว่าให้กลับไปรับขันธ์ ครอบครูพ่อปู่ แล้วจะหายมีแรงครูช่วย เราก็เลยไปหาหมอนวดรักษาร่างพ่อปู่ท่านหนึ่ง ท่านมีความกินอยู่สมถะ รักษาคนโดยไม่เรียกร้องเงินทอง แล้วแต่จะทำบุญให้ ซึ่งเราก็คิดว่าน่านับถือในความมุ่งมั่นทำความดีช่วยเหลือคนของท่านมาก เมื่อไปถึงปู่ได้ทำพิธีให้รับขันธ์เก้า เพื่อเรียนและครอบครู ตอนนั้นเรารู้สึกว่าพลังงานแน่นมากในห้องพิธี หัวมึนไปหมด ขาก็ลอยๆตอนท่องบทขอเชิญปู่ แล้วท่านให้กินไข่ต้ม หลังจากนั้นพอปู่ลงร่างก็สั่งสอนเราและทำการปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกจากร่าง เราสั่นมากตอนครอบเศียรพ่อปู่ ร้องไห้น้ำตาไหลลืมตาไม่ขึ้น แต่รู้ตัวทุกอย่าง พอหลังจากนั้นเราบินกลับมาพร้อมกับรูปปั้นหุ่นพ่อปู่สององค์ที่ ปู่ร่างทรงให้มาจากแท่นของท่าน หลังจากที่กลับมาต่างประเทศทำงาน ลูกค้าคับคั่งมากขึ้น อาการปวดสะบักไหล่จมก็หายไป แรงมากมายมาจากไหนไม่รู้ทำงานทั้งวันไม่เหนื่อยเลย แต่มึนหัว มึนๆตลอด ผ่านไปได้ เกือบเดือนเรามาป่วยมากๆ เกือบตาย ปอดปวมหามส่งโรงพยาบาลเกือบตายจริงๆ ตอนที่ป่วยเราเห็นเงาดำเดินตามเราตลอด และก่อนป่วยหนัก เวลาเรานั่งสมาธิเหมือนปู่จะมาลงร่าง มันแน่นมาก เหมือนมีอีกร่างซ้อนอยู่ หายใจลำบาก หัวใจเต้นเร็ว ร่างสั่นๆๆ แล้วครางฮีมๆ ในลำคอ เราไม่รู้จะทำยังไง พยายามสื่อสารกับท่านไม่ได้ ออกสมาธิก็ไม่ได้ นั่งสั่นอยู่อย่างนั้นเป็นชม. จึงหลุด เดินไปไหนมาไหนในบ้านอากาศมันแน่นๆๆ เหมือนมีพลังงานกดดันรอบ หายใจไม่ออก มึนหัวทั้งวัน จนวันนั้นเราหายป่วยออกจากโรงพยาบาล กลับมาหมอให้ยากลับมากินต่อ เรากินยาเม็ดแรกเข้าไป ปรากฎว่าเป็นยาที่เราเคยแพ้ เล่นเอาเกือบตายอีก หามส่งโรงพยาบาลอีกรอบ พอเราออกมางวดนี้ ร้อแร่ เราคิดว่าต้องมีอะไรผิดปรกติในบ้าน ป่วยขนาดนี้ต้องมีอะไรที่ไม่ปรกติรอบตัวเรา เลยมาจุดธุปนั่งถามพ่อปู่ กับกุมารทองที่เช่าจากวัดสามง่ามว่าท่านอยากกลับบ้านไหม เราจะส่งท่านกลับเมืองไทยเอาไหม เราร้องไห้โดยไม่มีสาเหตุ ให้แฟนที่เป็นฝรั่งมานั้งถามเค้าก็มีอาการสั่นๆ และนำ้ตาไหลเหมือนกัน เราเลยตัดสินใจส่งทั้งหมดกลับเมืองไทยให้ปู่ที่เป็นครูเราดูแลท่านเหมือนเดิม หลังจากที่ส่งของทั้งหมดกลับบ้าน อาการป่วยเราก็หายเป็นปลิดทิ้ง ความดัน และหัวใจเต้นปรกติ แรงกดดันในบ้านหายไป เราเองก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น กันกับเราแน่ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ได้ครอบครู และรับขันธ์เก้า แต่ไหล่กลับมาปวดเหมือนเดิม ร่างกายเหนื่อยหลังทำงานอย่างปรกติ ไม่ได้มีแรงมหาศาลอย่างแต่ก่อน รบกวนท่านผู้มีประสบการณ์ช่วยแนะนำ ไขความกระจ้างให้ทราบด้วยคะ รู้สึกว่าทุกวันพระจะมึนหัวมาก อึดอัดกระวนกระวาย ไม่กล้าออกไปไหนเลย เพราะจิตไม่สงบ ส่วนตัวเองแล้วเป็นคนนั่งสมาธิ ภาวนา และถือศิลห้าคะ ฝึกสติปฐาน 4 เค่รงครัด แต่เรื่องทรงร่างนี่ไม่เคยและไม่เข้าใจจริงๆ ทุกวันนี้รอดตายมาได้ก็เพราะบุญบารมีจากการถือศีลทำสติสมาธินี่แหละคะ
ผู้เป็นร่างทรง กรุณาช่วยให้ความกระจ่างด้วย
ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Kschardonnay, 2 พฤษภาคม 2016.
หน้า 1 ของ 2
-
-
อีกอย่างที่คือหลังจากที่รับขันธ์เก้าและครอบครู ไม่ได้นำขันธ์กลับมาด้วยเพราะ นำขึ้นเครื่องมาไม่ได้กลัวว่าจะถูกยึดแล้วนำไปทำลายทิ้งที่ด่านทางเข้าประเทศ ไม่ดีแน่ จึงบอกครูให้ทราบแล้วฝากไว้ที่สำนัก นำกลับมาแต่รูปปั้นหุ่นบูชาพ่อปู่ และกุมารทอง วัดสามงาม แรงมาก นำมาด้วยช่วยเรียกลูกค้ามากจริงๆ และออกมาทำอะไรก๊อกๆแก๊ก ให้ได้ยินบ่อย ไม่เคยเข้าฝันเราหรอกแต่เรารู้สึกได้ว่าเค้าอยู่ในบ้าน เราก็ถวายอาหารการกินทุกวัน ทั้งชากาแฟผลไม่ของพ่อปู่ และกุมารทอง แต่เรามาป่วยแบบที่ไม่เข้าใจจริงว่าเราได้ทำอะไรผิดไป ตอนที่เริ่มป่วยไปหาหมอให้ยามาฆ่าเชื้อ มากินสามวัน อาการไม่ดีขึ้น หามเข้าโรงพยาบาลปรากฎว่า ยาไม่สามารถฆ่าเชื้อในปอดได้เชื้อแพร่ลุกลาม จึงต้องให้ยาทางสายน้ำเกลือเข้าเส้นเลือด เราอาการแย่มาก หัวใจเต้น 110 ต่อนาที นอนพะงาบๆ ทำสติภาวนาเอา จิตแยกออกมา ร่างไม่ทรมานมาก แต่จิตเฝ้าดูร่างนอนพะงาบๆ ไม่หลับรู้ตัวทุกอย่าง ขนาดตอนพยาบาลมาเจาะเลือดไปตรวจหาเชื้อ เรารู้ว่าเลือดมันจะไหลออกมาหรือไม่ พยาบาลกลัวเราจะกลัวที่เจาะแล้วเลือดไม่ออกมาก็ปลอบเราว่าไม่เป็นไรนะ เดี่ยวหาเส้นเลือดใหม่เจาะเดี่ยวก็ได้ละ เราก็ตั้งจิตขอให้เลือดมันไหลออกมาง่ายเถิด โดนไปสามเส้นกว่าจะได้เลือดไป เราบอกเค้าไม่เป็นไรค่อยๆทิ่มไปเดี่ยวก็ได้ เราอยูโรงพยาบาล 1 อาทิตย์เต็มๆ ออกมาก็วันแรก กลับเข้าบ้านไม่ถึงครึ่งวันกินยาที่หมอสั่งให้ ทั้งๆที่รู้ประวัติแพ้ยาของเรา แต่สั้งยาทีเราแพ้ปางตายมาให้เรากิน ก็โดนไปสองยกเต็มๆ เราก็สู้อึดมากรอดมาได้ กราบบุญบารมีรักษาท่วมหัวเลย ถ้าเราไปวันนั้นลูกเต้าเราคงลำบาก เราอยากรบกวนผู้ที่รู้ ให้ความกรุณาแนะนำด้วย อนุโมทานบุญรักษา ช่วยให้ความกระจ่างด้วยเถอะ ว่าเราสมควรจะกลับไปครอบครูทุกๆปีไหม เพราะรับขันธ์ครูมาแล้ว เรากลุ้มใจจริง
-
ความเป็นจริง...ขันธ์หรือครอบครู ที่คุณรับมา มันก็ดี คือ ช่วยให้คุณ งานเยอะขึ้น
เรื่องๆร้ายๆ ไม่เกี่ยวกับครอบขันธ์ แต่มันเกี่ยวกับ กรรมเก่าของคุณ ที่ตามมาให้ผลครับ
คุณเมื่อ ร่างกายกลับมาดี เมื่อได้ทรัพย์ ต้องแบ่งทำบุญครับ
เหมือนว่า คุณถึงเวลาต้องใช้กรรม....แล้วเช่น เจ็บป่วยหมดแรง..ต้องรับ
แต่คุณ กลับ ไปรับขันธ์มาเพื่อ ที่จะเหมือนไม่รับกรรม...ที่ตามมา แต่สุดท้าย ...มันก็เหมือนหนีไม่พ้นนั่นเอง
ข้อแนะนำครับ ถือศีลห้าให้ครบ แบ่งเงินที่ได้ไปบำรุงพระศาสนาครับ ครูที่ครอบ กุมารที่เลี้ยง เขาจะได้บุญไปด้วย และคุณก็อุทิศบุญให้ครูกับกุมารด้วย..ไม่ไช่เลี้ยงด้วยอาหารอย่างเดียวครับ.... -
แผ่เมตตาหลังจากที่ทำบุญกับเจ้ากรรมนายเวร ที่ทำให้คุณป่วยด้วย นะครับ
-
ผ่านไปได้ เกือบเดือนเรามาป่วยมากๆ เกือบตาย ปอดปวมหามส่งโรงพยาบาลเกือบตายจริงๆ ตอนที่ป่วยเราเห็นเงาดำเดินตามเราตลอด และก่อนป่วยหนัก เวลาเรานั่งสมาธิเหมือนปู่จะมาลงร่าง มันแน่นมาก เหมือนมีอีกร่างซ้อนอยู่ หายใจลำบาก หัวใจเต้นเร็ว ร่างสั่นๆๆ แล้วครางฮีมๆ ในลำคอ เราไม่รู้จะทำยังไง
ร่างที่มาลงซ้อนในร่างกายเป็นสัมภเวสีค่ะ น้อยมากที่จะเป็นเทพพรหมลงมาประทับร่าง เพราะสัมภเวสีส่วนใหญ่จะคอยเกาะติดอยู่กับร่างกายทำให้เกิดอาการเจ็บปวดป่วยไข้ หรือ เกิดอากการบกพร่องทางร่างกายอย่างใดอย่างหนึ่ง สร้างความทุกข์ทรมานแก่คนนั้น -
ส่วนเรื่อการปวดไหล่ต้องหาสาเหุตทางการแพทย์ค่ะ เพราะรักษามา 50 ปีไม่เป็นอะไรเพิ่งมาเป็นก็มีได้หลายสาเหตุค่ะ ถ้าหากเราอุทิศบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวรของผู้ป่วยทุกครั้งแล้วถือว่าเราช่วยเหลือผู้อื่นให้พ้นทุกข์ทั้งทางตรงคือผู้ป่วยเอง หรือ โดยอ้อมคือเจ้ากรรมผู้ป่วยอีกทางหนึ่งก็ดีค่ะ -
ร่างทรงผมได้ยินมีแค่รับขันธ์ ๕ ไม่ใช่เหรอครับ นี่รับถึงขันธ์ ๙ เลยเหรอครับ...แปลกนะ ทำไมขันธ์เยอะถึงขนาดนั้นล่ะครับ อยู่ภูมิไหนเหรอ
-
ส่วนเรื่องนั่งสมาธิแล้ว รู้สึกเหมือนร่างแฝงนั้น เราโทรไปถามครูปู่ ที่ครอบครูให้เรา เค้าบอกว่าถ้ารู้สึกแบบนี้ให้ปล่อยลงเต็มตัวเลย พ่อปู่จะลงร่าง ต้องมีคนนั่งช่วย ถามว่าเป็นใครท่านมาลงต้องการอะไร เราเองฟังแล้วก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ทำยังไงให้ลงเต็มร่าง จิตเราไม่เคยดับ และรับรู้ทุกอย่างในการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย มันสืบเนื่องมาจากการฝึกสติ การภาวนาสมาธิของเรา เหมือนเครื่องสแกน เรารู้หมดว่าร่างกายรู้สึกอย่างไร จิตเราจะยืนโด่เด ดูร่างอยู่อย่างนั้น ไม่ไปไหน แล้วเราจะปล่อยให้อีกร่างออกมาพูดได้ยังไงคะ เราสับสนมากกับเรื่องนี้ และที่นี่ไม่มีวัดไทย แต่เราก็แบ่งเงินที่ได้มาจากการทำงานตั้งใจไว้กลับไปทำบุญให้พ่อปู่กับครูปู่ที่สอน ก็ได้แต่นั่งสมาธิแผ่ส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร ก็ยังโดนเต็มๆเลย กรรรมเก่าเราคงแย่มาก เราสับสนไม่รูจริงๆว่าจะยึดหลักไหนกันแน่ตอนนี้ ก็อย่างที่ว่าคีนวันพระทีไร เตรียมตัวมึน หงุดหงิด เหมือนอีกนิสัยมันจะออกมา เรากลัวมากเพราะเหมือนไม่ใช่เรา หัวใจเต้นเรง เราได้แต่นั่งสมาธิเก็บตัว กลัวจะเป็นบ้าไปเสีย ก็เอาสติเข้าข่ม -
-
เมื่อท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอย่างนี้แล้ว ตรงตามแนวทางคำสอนของพระพุทธเจ้า ก็ยึดหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าค่ะ
แต่เรื่องทรงร่างนี่ไม่เคยและไม่เข้าใจจริงๆ ทุกวันนี้รอดตายมาได้ก็เพราะบุญบารมีจากการถือศีลทำสติสมาธินี่แหละคะ
ใช่ค่ะเรื่องร่างทรงไม่ใช่แนวทางที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ในการปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์ เพราะเป็นไปเพื่อความลุ่มหลงงมงายต่อสิ่งที่ไม่เข้าใจว่าเราปฏิบัติสิ่งนี้ไปเพื่ออะไร ส่วนกรณีของท่านรับมาเมื่อแล้วเราเกิดความทุกข์สับสนและเกิดสภาวะที่ไม่ดีแก่ร่างกายและจิตใจ เพราะส่วนลึกแล้วใจก็ปฏิเสธว่าไม่ใช่แนวทางที่ใช่ และสิ่งที่ได้รับสำหรับตัวท่านนั้นก็เป็นผลเสียมากกว่าผลดีค่ะ -
เห็นด้วยกับคุณ Jityim นะครับ หน้าที่ของเราให้ดูกายดูขันธ์ ทำงาน ให้เห็นความจริงของมัน แค่ของเราก็แย่แล้วจริงไหมครับ ตั้งห้าแน่ะ แต่ถ้าเมื่อไหร่เราไปน้อม รับ สิ่งอื่น เข้ามาในจิต จะขันธ์แปด ขันธ์สิบ แน่นอนครับมันต้องหนักๆ แน่นๆ และมีผลต่อธาตุต่อขันธ์ ของเรา แค่สติเราสร้างให้เกิดยังยากแล้วครับ อย่าว่าแต่ไปรับอะไรที่แทรกแทรงเข้ามาในจิตครับ
ส่วนไอ้พวกวิญญาณทั้งหลาย ที่มันจะจ้องเสียบ จะอาศัยธาตุขันธ์ของเรานี่ (เน้นว่าเสียบ นะ ไม่ใช่ขอส่วนบุญ) แน่นอนมันชอบครับ เพราะความเป็นมนุษย์สมบัติ เกิดได้ยาก เอาไว้สร้างความดี สร้างบารมีได้ มันมีร่างกายที่ไหน เลยชอบสร้างเรื่องให้เรากลัวนั่นแหละ เข้าทางมัน (ส่วนใหญ่เป็นอสุรกายมีฤทธ์) อย่าไปกลัวมันครับ ลองดูฝรั่งซิครับ มันเชื่อที่ไหน ไอ้เรื่องพวกนี้ 555 ในความเห็นของผมจิตวิญญาณที่ดี ไม่มาอาศัยร่างมนุษย์นะครับ ไม่ว่าปู่ไหน อิอิ :mad: :mad: :mad:
-
-
เคยได้ยินมาว่า การเข้าทรงแต่ละครั้ง จะใช้พลังงานจากเซลล์ในร่างกายสูงมาก ยิ่งทรงมาก ทำให้เซลล์ในร่างกายเสื่อมไว จนกลายโรค
สมัยก่อนผมก็เคยไปถามองค์ที่ทรงนะ ว่าทำไมเขาต้องทานอาหารด้วย คำตอบก็คือ ไม่ให้สังขารร่างเหนื่อยล้าเกินไป
อันนี้จากประสบการณ์ ส่วนตัวครับ -
-
แล้วก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้วล่ะครับ -
-
-
ซึ่งทุกวันนี้ ความคิดของกลุ่มคนมันไม่ไช่เพื่อส่วนรวม แต่มันเพื่อสนองความอยากในใจเท่านั้น....ขอให้คุณ อยู่กับสมาธิ สติอยู่กับกายกับลมหายใจ ..อะไรผ่านเข้ามา ก็ให้รู้ทัน ว่ามีสิ่งอื่น อยู่..โดยไม่เข้าไปร่วม ปรุง เช่น เกลียด รำคาญ แค่รู้ทันว่า มันมา มันมี มันไป...แล้วเราสงบ เฉยๆ รู้ ก็พอ...หรือแผ่เมตตา
อีกวิธีที่ง่าย ก็คือ กำหนดในใจว่า ตัวเองหมอบกราบพระบาทของพระพุทธเจ้า ตลอดเวลาก็ได้...เรียกว่าพุทธานุสติ...ด้วยใจที่เคารพ นอบน้อม อย่างจริงใจครับ -
เพราะไม่เข้าใจในเหตุปัจจัยทั้งปวง และไม่สามารถเข้าไปรู้ความจริง ในหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้น
บางท่านก็ไม่ทราบ ความจริงในเรื่องราวแห่งโลกจิตวิญญาณ เทพพรหม ทั้งๆที่ตนเองก็เคยผ่านตรงนั้นมามากมายนับไม่ถ้วน
เดี่ยวผมจะอธิบายทุกอย่างให้ทราบครับ ขอตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดในสมาธิก่อนครับ สาธุ -
หน้า 1 ของ 2