ฝนโบกขรพรรษ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย โพธิวิถี, 22 กันยายน 2010.

  1. โพธิวิถี

    โพธิวิถี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2010
    โพสต์:
    150
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +580
    อยากฟังเรื่องฝนโบกขรพรรษ หน่อยครับ ขอท่านผู้รู้ได้แนะนำเล่าสู่กันฟังให้เกิดกุศลจิต ใจผ่องแผ้วกันเถอะครับ เรียนเชิญครับ
     
  2. ariyabut

    ariyabut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +2,415
    ในครั้งนั้นเหล่าพระประยูรญาติผู้ใหญ่ต่างเกิดมานะทิฐิ เห็นว่าพระบรมศาสดามีวัยอ่อนกว่า มิบังควรที่พวกตนผู้อาวุโสจะกระทำความเคารพ จึงให้เหล่าขัตติยราชกุมารที่มีอายุเยาว์ออกมานั่งข้างหน้า ณ ที่ประชุมสงฆ์เพื่อถวายบังคม

    เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าทราบด้วยพระญาณจึงแสดงพุทธปาฏิหาริย์เหาะเสด็จขึ้นไปลอยในอากาศ ประหนึ่งว่าละอองธุลีพระบาทได้หล่นสู่เศียรเกล้าของเหล่าพระประยูรญาติทั้งหลาย พระเจ้าสุทโธทนะพระพทุธบิดาทรงเห็นปาฏิหาริย์เป็นที่อัศจรรย์ จึงประนมหัตถ์ถวายนมัสการแล้วกราบทูลว่า

    " ข้าแต่สมเด็จพระผู้มีพระภาค แต่กาลก่อนเมือพระองค์ประสูติวันแรก หม่อมฉันไห้พี่เลี้ยงนำมาเพื่อนมัสการกาฬเทวิลดาบส หม่อมฉันได้ถวายอภิวาทเป็นปฐม ครั้นถึงงานพระราชพิธีวิปปมงคลแรกนาขวัญ พระองค์ประทับ ณ ใต้ต้นหว้า เงาร่มไม้หว้านั้นก็มิได้เคลื่อนขยับไปตามแนวดวงตะวันแม้เป็นเวลาบ่าย หม่อมฉันได้ถวายนมัสการเป็นเคารพที่สอง และครั้งนี้เป็นคำรพที่สามที่หม่อมฉ้นถวายอัญชลีนมัสการ "

    เมื่อเหล่าพระประยูรญาติได้ฟังพระเจ้าสุทโธทนะตรัสดังนี้จึงคลายมานะทิฐิถวายอภิวาทพระศาสดาด้วยความศรัทธา ต่างชื่นชมโสมนัสที่พระองค์เสด็จมาประทับ ณ ท่ามกลางพระประยูรญาติด้วยความปีติหาที่สุดมิได้ และด้วยบุญญาภินิหาร พลันเกิดมหาเมฆขึ้นในอากาศยังผลให้ ฝนโบกขรพรรษ ตกลงมาในที่ประชุม ซึ่งมีลักษณะพิเศษดังนี้


    ๑. น้ำฝนนี้มีสีแดงดังเท้านกพิราบ หลั่งไหลเสียงสนั่นลั่นออกไปไกลเหมือนเสียงสายฝนธรรมดา

    ๒. ถ้าผู้ใดปรารถนาจะให้เปียกกายจึงจะเปียก หากมิได้ปรารถนาแม้แต่เม็ดหนึ่งก็มิได้เปียก

    ๓. เมื่อถูกกายแล้วจะหล่นสู่พื้นดินเสมือนหยาดน้ำที่ตกลงสู่ใบบัวแล้วกลิ้งตกลงไปฉะนั้น

    ๔. ไม่เจิ่งนองพื้นดิน เมื่อตกลงแล้วก็ซึมหายไปในแผ่นดินทันที

    ในครั้งนั้นเหล่าภิกษุสงฆ์ที่ตามเสด็จต่างบังเกิดความพิศวงด้วยมีเคยเห็นมาก่อน พระบรมศาสดา จึงตรัสแก้ข้อกังขาว่า ฝนโบกขรพรรษนี้ในอดีตกาลเมื่อครั้งพระองค์เสวยพระชาติเป็นพระเวสสันดรบรมโพธิสัตว์ ก็เคยได้ตกลงมาแล้วในท่ามกลางที่ประชุมพระประยูรญาติเหมือนครั้งนี้ แล้วพระบรมศาสดาจึงแสดงพระธรรมเทศนาเรื่อง มหาเวสสันดรชาดก ยกพระมหาทานบารมีที่ได้ทรงบำเพ็ญเพียรโปรดเหล่าภิกษุสงฆ์และพระประยูรญาติให้ได้รับควมเบิกบานโสมนัสต่อไป.


    *********************

    ปฐมสมโพธิว่า "ในทันใดนั้นเอง มหาเมฆใหญ่ได้ตั้งเค้าขึ้นมา แล้วหลั่งสายฝนลงมาห่าใหญ่ ฝนนั้นเรียกว่า "โบกขรพรรษ" มีสีแดง ผู้ใดปรารถนาหรือประสงค์ให้เปียก ย่อมเปียก ไม่ปรารถนาให้เปียก ก็ไม่เปียก โดยเม็ดฝนจะกลิ้งหล่นจากกาย เหมือนหยาดน้ำกลิ้งจากใบบัว"

     

แชร์หน้านี้

Loading...