หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
☆☆☆☆☆
ฝึกลืมอารมณ์ขุ่นมัวทั้งหลาย
☆☆☆☆☆
▪ต่อไปนี้ผมก็จะขอพูดถึงวิธีที่จะปฏิบัติในยามปกติ
เราพยายามลืมเสียให้หมด ลืมว่า
● คนนั้นเขาว่าเรา
● คนนั้นเขาด่าเรา
● คนนั้นเขาเกลียดเรา
○ คนนี้เขารักเรา
○ คนนั้นเขาสรรเสริญเรา
◇◇◇ อารมณ์ขุ่นมัวทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ใน โลกธรรมลืมมันเสีย ◇◇◇
》 มันจะมีลาภหรือไม่มีลาภก็ช่างมัน
》 ลาภมีแล้วมันจะหมดไปก็ช่างมัน
》 ยศถาบรรดาศักดิ์เขาจะให้หรือไม่ให้ก็ช่างมัน
◇◇◇ ลืมมัน อารมณ์อย่างนี้ลืมมัน ◇◇◇
》 เมื่อได้ยศมาแล้ว เขาจะเรียกคืนไปก็ช่างมันหรือว่า
》 การสรรเสริญนินทาจะมาจากทางไหนก็ช่างมัน
》 ความสุขความทุกข์จากอารมณ์ทางกายทางใจ
◇◇◇ ไม่มีความสำคัญสำหรับเรา เราลืมโลกธรรม ๘ ประการเสียจงพยายามลืม ฝึกลืม อย่าสนใจ ◇◇◇
● แล้วก็ลืมคำปรามาสทั้งหลาย
● ลืมอารมณ์ของความชั่วที่คิดว่าผู้ใหญ่ไม่ดี
● ลำเอียงรักคนนั้นมาก รักคนนี้มาก
● คนนั้นไม่ดี คนนี้ไม่ดี
● คนนั้นพูดไม่ถูกใจเรา
○ คนนี้เอาใจเรา
◇◇◇ ลืมมันเสีย ◇◇◇
เพราะว่านั่นเป็นอารมณ์แห่งความเลว และอารมณ์ของนิวรณ์ ๕ ตอนนี้นิวรณ์ ๕ ยังกวนใจอยู่
¤ กามฉันทะ รูปสวย เสียงเพราะ กลิ่นหอม รสอร่อย สัมผัสระหว่างเพศ
¤ ความโกรธ ความพยาบาท
¤ อารมณ์ฟุ้งซ่าน
¤ อยากจะได้อย่างนั้น
¤ อยากจะวิเศษอย่างนี้
◇◇◇ คนนั้นดีคนนี้ชั่วลืมเสียให้หมด ◇◇◇
◇◇◇ ถ้าอารมณ์เรายังมีอย่างนี้เรามันก็เลว ◇◇◇
▪เราถ้ายังรู้สึกว่าคนอื่นเขาชั่วก็แสดงว่าเราชั่วมาก
ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะว่าถ้าเราดีแล้ว ไม่มีใครชั่ว เพราะว่าเรายอมรับนับถือกฎของกรรม อะไรจะมีชั่ว เรายังนินทาว่าร้ายบุคคลอื่นนั่นเรายังชั่วอยู่
◇◇◇ อาการอย่างนี้จงลืมสียให้หมด ◇◇◇
▪ต่อไปเราก็เกาะติดอารมณ์ ความจริงปฏิปทานี้เป็นปฏิปทาของฝ่ายที่เขากำลังรุกรานประเทศเขาใช้ เขาใช้ในการรบ แต่นี่เราก็รบเหมือนกัน เรารบกับกิเลส เราก็เป็นทหารเหมือนกัน ทหารเขารบ เราก็เป็นทหาร เป็นทหารใน กองทัพธรรม ซึ่งมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นจอมทัพ
▪นี่ในเมื่อเราลืมจุดนั้น ลืมจุดเสีย เราก็เกาะติด เกาะติดจุดดี เราก็มานั่งพิจารณากายของเราว่า
โอหนอ
□ กายของเรานี้มันจะทรงอยู่ได้สักกี่วัน
□ วันคืนล่วงไป ๆ ชีวิตของเราก็ล่วงไปตามกาล
▪ความหมายในชีวิตไม่มีสำหรับเรา เพราะชีวิตนี้มีสภาพเหมือนกับผีหลอก ร่างกายของคน ร่างกายของสัตว์ วัตถุธาตุทั้งหมดมันมีสภาพเหมือนผีหลอก หลอกตรงไหน
เกิดมาเป็นเด็กโตขึ้นมาทีละน้อย ๆ มันก็หลอกเรา หลอกให้เราเห็นว่าโตขึ้น
▪โตขึ้นมาพอร่างกายสมบูรณ์ถึงความเป็นหนุ่มเป็นสาว มีความเปล่งปลั่ง
ตอนนี้มีความปรารถนากันมาก มึงรักกู กูรักมึง อยากจะเคล้าเคลียอยู่เป็นคู่สามีภรรยาซึ่งกันและกัน
ตอนนี้อารมณ์เราก็หลอกอีก หลอกยังไง หลอกเห็นว่าเขาสวย หลอกเห็นว่าเขาดี หลอกเห็นว่าเขาน่ารัก เขามีร่างกายสะอาดสดใส มันหลอก
▪ร่างกายของใครมันดี ร่างกายของใครสวย ร่างกายของใครสะอาด มันมีที่ไหน คนทุกคนมีไหมที่ใครไม่มีอุจจาระ ปัสสาวะ น้ำเลือด น้ำเหลือง น้ำหนอง เสลด น้ำลายที่มีอยู่ในร่างกาย
▪บอกมาทีซิว่าร่างกายของใครเขามีอยู่บ้าง ร่างกายเรามีไหม ถ้ามันมีเหมือกันร่างกายมันก็สกปรกเหมือนกัน แล้วทำไมเราจะไปหลงรักอยู่กับสิ่งที่มีสภาพสกปรก มันเลวแสนเลว
นี่อารมณ์นี่เราต้องเกาะติด เกาะติดอารมณ์ให้ทรงตัวว่า
▪ร่างกายนี่มันเต็มไปด้วยความสกปรก
แล้วมันก็หาความจีรังยั่งยืนไม่ได้
มีความเสื่อม มีความทรุด มีความโทรมไปทุกวัน ๆ
ไม่ช้ามันก็จะมีสภาพการตาย
เราตายเขาตาย อาการตายนี่ความจริงจิตมันไม่ได้ตาย แต่กายมันตาย ก็ช่างเถอะ ชาวบ้านเขาถือเราถือเขา เราก็คิดว่า เอ๊ะ...เราก็ตาย เขาก็ตาย
▪ไอ้เราก็สกปรก เขาก็สกปรก มองดูร่างกายนี้มันมีอะไรเป็นนิมิตเครื่องหมายที่จะทรงไว้ซึ่งความดีหาไม่ได้ ไม่มี ไม่มีสภาพใดปรากฏ ทั้งนี้เพราะอะไร
ก็เพราะว่าธาตุ ๔ ที่มันคุมเข้ามาเป็นร่างกายแบ่งเป็นอาการ ๓๒ มันเคลื่อนไปหาความพังเป็นปกติ สภาวะของมันเป็นอย่างนี้
จากหนังสือ
คำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่มที่ ๒๓ หน้าที่ ๑๐๘
โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง)
https://www.facebook.com/punyawat.tuntommarat
ฝึกลืมอารมณ์ขุ่นมัวทั้งหลาย - หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย นโมพุทธายะ๕, 4 เมษายน 2017.