ฝึก มโนมยิทธิอย่างไรให้ถูกต้อง...

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ศิษย์น้อย, 20 เมษายน 2005.

  1. ศิษย์น้อย

    ศิษย์น้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    427
    ค่าพลัง:
    +3,047
    ผมเคยอ่านผ่านๆ... คุ้นว่าสิ่งบูชาพระต้องมีดอกไม้ 3 สี เงิน ฯลฯ...

    แต่ปกติ ผมแค่มีมาลัยดอกมะลิ หรือไม่ก็ดอกไม้เป็นกำๆ แล้วก็ธูปเทียนแค่นั้น..


    แล้วพอเรากล่าวคำอาราธนาพระกรรมฐานเสร็จ เราต้องเริ่มต้นด้วย

    อาณาปาณสติ พุท โธ ก่อนหรือไม่

    หรือเริ่มที่ นะมะ พะธะ ได้เลย...


    อยากลองฝึกเอง อีกสักตั้งครับ(deejai)
     
  2. มหาธาตุ

    มหาธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +524
    ขั้นตอนและ เทคนิคสำหรับการฝึกเต็มกำลัง ตามนี้เลยครับ
    http://www.konmeungbua.com/webboard/aspboard_Question.asp?GID=4454
    ส่วนแบบครึ่งกำลังครั้งแรก ๆ ต้องมีคนนำเช่นที่บ้านสายลม หากอยากซ้อมดูก่อนก็ฟังไฟล์ของป้านิภา ซึ่งหาได้ใน webboard นี้
     
  3. ศิษย์น้อย

    ศิษย์น้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    427
    ค่าพลัง:
    +3,047
    ขอบคุณที่ช่วยค้นให้ครับป๋ม[b-wai]
     
  4. ศิษย์น้อย

    ศิษย์น้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    427
    ค่าพลัง:
    +3,047
    ผมเชื่อมต่อ เวป ของคนเมืองบัว ไม่ได้เลย เป็นแบบนี้มาเกือบ 3 สัปดาห์ แล้ว ...

    ใครเข้าได้ช่วยรายงานผลด้วยนะครับ....
     
  5. มหาธาตุ

    มหาธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +524
    นำเนื้อหาตามลิงก์ที่อ้างถึงมาโพสต์ครับ

    <TABLE width=550 border=0><TBODY><TR><TD>การนำเทคนิคการฝึกมโนมยิทธิแบบเต็มกำลังของข้าพเจ้ามาเผยแพร่ในที่สาธารณชนในครั้งนี้ มิได้มีเจตนาที่จะอวดอ้างคุณวิเศษในตนแต่อย่างใด เป็นแต่เพียงแนวทางปฏิบัติส่วนตนเท่านั้น หรือมิได้มีเจตนาที่จะดัดแปลงคำสอนของครูบาอาจารย์แต่อย่างใด หากแต่เป็นการแลกเปลี่ยนทัศนะ และมุมมองในการปฏิบัติซึ่งกันและกันเท่านั้น หากท่านใดมีข้อเสนอแนะ และข้อปรับปรุงแก้ไข กระผมก็ขอน้อมรับไว้ ณ ที่นี้ครับ

    1. ในการกล่าว บทบูชาพระรัตนตรัย คำขอขมาพระรัตนตรัย คำอาราธนาศีล 5 (หรือศีล 8) และคำสมาทานพระกรรมฐานนั้น ขอให้ทุกท่านกล่าวด้วยความ "เคารพ และตั้งใจ" เมื่อผมฝึกใหม่ๆ ใจมันร้อนอยากจะเริ่มเข้าสู่ขั้นตอนการฝึกไวๆ ก็เลยสักแต่ว่าท่องบ่นไปตามขั้นตอนที่วางไว้ (ซึ่งอาจจะเป็นการปรามาสแบบอ้อมๆ โดยไม่รู้ตัว) ปัจจุบันผมจึงหันมากล่าวด้วยความตั้งใจ และมองขั้นตอนนี้เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้การฝึกมโนมยิทธิแบบเต็มกำลัง มีความชัดเจนแจ่มใส และมีความคล่องตัวในการปฏิบัติ

    2. กล่าว "บทบูชาพระรัตนตรัย"

    โย โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ
    สวากขาโต เยนะ ภะคะวะตา ธัมโม
    สุปะฏิปันโน ยัสสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
    ตัมมะยัง ภะคะวันตัง สะธัมมัง สะสังฆัง
    อิเมหิ สักกาเรหิ ยะถาระหัง อาโรปิเตหิ อะภิปูชะยามะ
    สาธุ โน ภันเต ภะคะวา สุจิระปะรินิพพุโตปิ
    ปัจฉิมาชะนะตานุกัมปะมานะสา
    อิเม สักกาเร ทุคคะตะปัณณาการะภูเต ปะฏิคคัณหาตุ
    อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ ฯ

    อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา
    พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ (กราบ)
    สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม
    ธัมมัง นะมัสสามิ (กราบ)
    สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
    สังฆัง นะมามิ (กราบ)

    3. กล่าว "คำขอขมาพระรัตนตรัย"
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

    สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง
    สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต ฯ (ถ้าหลายคนว่า.....ขะมะตุ โน ภันเต, ฯลฯ....
    ขะมะตุ โน ภันเต , อุกาสะ ขะมามะ ภันเต ฯ )

    หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ด้วยทางกายหรือวาจาก็ดี และด้วยเจตนาหรือไม่มีเจตนาก็ดี รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย และผู้มีพระคุณทุกท่าน ได้โปรดอดโทษให้แก่ข้าพระพุทธเจ้าตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ ฯ

    4. กล่าว "คำอาราธนาศีล 5 (หรือศีล 8)"

    มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ
    ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ
    ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

    (ถ้า ศีล ๘ ให้เปลี่ยน ปัญจะ เป็น อัฏฐะ)

    กระผมขอเพิ่มเติมว่า หลังจากกล่าวคำอาราธนาศีลแล้ว ขอให้เราตั้งใจว่านับจากนาทีนี้ไป เราจะไม่ละเมิดศีล 5 (หรือศีล 8) เป็นอันขาด

    5. กล่าวคำ "สมาทานพระกรรมฐาน"

    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
    (ว่าพร้อมกัน ๓ จบ)

    อิมาหัง ภะคะวา อัตตะภาวัง ตุมหากัง ปริจัจชามิ

    ข้าแต่สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เจริญ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอมอบกายถวายชีวิตแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายขออาราธนาบารมีพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบๆ กันมามีหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค และพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยานเป็นที่สุด
    ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้า ขึ้นสู่ภาวะพระกรรมฐาน ทั้ง ๔๐ ทัศ พระปีติทั้ง ๕ และวิปัสสนาญาณทั้ง ๙ ขอพระกรรมฐานทั้ง ๔๐ ทัศ พระปีติทั้ง ๕ และวิปัสสนาญาณทั้ง ๙ จงมาบังเกิดปรากฏในกายทวาร ในวจีทวาร ในมโนทวาร ของข้าพระพุทธเจ้า ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
    ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้าขึ้นสู่ภาวะแห่งเมฆจิต สามารถกำหนดจิต รู้ภาวการณ์ต่าง ๆ ทั้งเหตุ ผล อดีต อนาคต และปัจจุบัน ได้ทุกขณะจิต ที่ปรารถนาจะรู้ เมื่อรู้แล้วขอให้เห็นภาพนั้นได้ชัดเจนแจ่มใสและพยากรณ์ได้ ตามความเป็นจริงทุกประการ เหตุใดที่จะพึงบังเกิดแก่ข้าพเจ้า ขอให้ข้าพเจ้าได้รู้เหตุนั้นได้โดยมิต้องกำหนดจิตแม้แต่ประการใด ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด

    6. เข้าสู่ขั้นตอนการปฏิบัติ เทคนิคที่สำคัญของการผมอยู่ตรงนี้ครับ ส่วนที่หลวงพ่อ ท่านพยายามเน้นย้ำเป็นพิเศษก็คือเรื่องของ "การตัดขันธ์ ๕" ซึงหมายถึงการพิจารณาให้เห็นโทษของร่างกาย และการเกิด ยิ่งจิตเห็นโทษของร่างกาย และการเกิดมากเพียงใด กำลังในการปฏิบัติ และความชัดเจนแจ่มใสก็จะยิ่งมากตามไปด้วยครับ
    เนื่องจากผมยังเป็นปุถุชนผู้หนาแน่นไปด้วยกิเลส จึงใช้ปัญญาพิจารณา ตัดขันธ์ ๕ ได้ไม่ละเอียดถี่ถ้วน จำต้องอาศัย "สัญญา (ความจำ)" มาเป็นเครื่องช่วยครับ เบื้องต้นกระผมจะท่องบทพิจารณาตัดขันธ์ ๕ ที่หลวงพ่อท่านลงไว้ใน ธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ ๕๗ ให้ขึ้นใจก่อน พอกล่าวบทบูชาพระรัตนตรัย คำขอขมาพระรัตนตรัย คำอาราธนาศีล 5 (หรือศีล 8) และคำสมาทานพระกรรมฐานเสร็จแล้ว ก็นั่งขัดสมาธิ หลับตา ประนมมือไว้ที่หน้าอก จากนั้นก็พิจารณาตัดขันธ์ ๕ โดยเอาบทที่ผมท่องมานั่นแหละครับ กล่าวในใจ "ที่สำคัญต้องเอาจิตน้อมตามให้เห็นโทษตามนั้นด้วย ผลจึงจะเกิด 100 %" โดยบทพิจารณาตัดขันธ์ ๕ ที่คัดลอกมาจาก ธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ ๕๗ ที่ผมใช้อยู่มีดังนี้ครับ

    "การเกิดเป็นมนุษย์นี่มันเต็มไปด้วยความทุกข์ หรือการทำมาหากินมันเต็มไปด้วยความเหนื่อยยากไม่สบาย การพบกับคนก็ไม่ใช่ดีเสมอไป บางครั้งก็ยิ้มแย้มแจ่มใสเข้าหากัน บางครั้งก็หน้านิ่วคิ้วขมวด คนที่เราเคยรักบางเวลาก็เป็นศัตรู คนที่เป็นศัตรู บางเวลาก็แสดงความเป็นมิตร ทั้งหมดนี้ไม่มีอะไรจริงจัง เราจะมีความสุขด้วยความเป็นอยู่มากเท่าไรก็ตาม อย่าลืมว่าเราก็แก่ทุกวัน วันเวลาที่ผ่านไปมันก็มากับความแก่ ลมหายใจออกและลมหายใจเข้า ลมหายใจ เข้าเมื่อไหร่มันก็ดึงความแก่มาหาเราเมื่อนั้น เราต้องแก่ตามลมหายใจ ลมหายใจเข้าเพิ่มชีวิตใหม่คือความแก่เข้ามา ลมหายใจออก หายใจออกพ่นความแก่น้อยมันก็ดึงความแก่มากขึ้นมาทุกที รวมความว่าความแก่ เข้ามาถึงเราทุกวันทุกวินาทีขณะที่ทรงตัวอยู่
    เมื่อความแก่เกิดขึ้นเรามีแต่ความทุกข์ และนอกจากนั้น ขณะที่ทรงตัวอยู่ก็มีความป่วยไข้ไม่สบายเป็นปกติ ความทุกข์คืออาการใดที่ต้องทนคือทนในด้านของความที่ไม่ดี พระพุทธเจ้าเรียกว่าทุกข์ ทนกับ เสียงที่พูดจาไม่ชอบใจมันก็ทุกข์ ทนกับอาการป่วยไข้ไม่สบายมันก็ทุกข์ ไอ้ความตายจะเข้ามาถึงมันก็ทุกข์ ก็รวมความว่าไอ้โลกระยำนี่ไม่น่าจะมาอยู่
    ร่างกายเลว ๆ อย่างนี้ไม่ควรจะมีอีก ถ้าชีวิตนี้ร่างกายนี้ต้องพังเมื่อไหร่ ขึ้นชื่อว่าการเกิดเป็นคนไม่มีสำหรับเรา คือในโลกนี้จะเป็นคน จะเป็นสัตว์เราไม่มาอีก ถ้าการเป็นเทวดาหรือพรหมก็ตามก็ไม่ดีสำหรับเราอีก เราไม่ต้องการมัน คือคำว่าไม่ต้องการมันเพราะอะไร เพราะว่าเป็นเทวดาหรือพรหมมีความสุขจริง แต่สุขไม่นาน หมดบุญวาสนาก็ต้องกลับมาเกิดใหม่ จุดที่เราต้องการนั่นคือ นิพพาน"

    7. ถ้าฝึกที่บ้านไม่มี กระดาษ/ผ้ายันตร์ "นะ โม พุท ธา ยะ" มาคาด ก็ให้อาราธนาในใจก็ได้ว่า "ขอบารมีของพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ ( พระกกุสันโธ , พระโกนาคม , พระพุทธกัสสป , พระสมณโคดม และ พระศรีอาริยเมตไตรย ) ได้โปรดสงเคราะห์ ผ้ายันตร์ "นะ โม พุท ธา ยะ เพื่อการฝึกกรรมฐานมโนมยิทธิเต็มกำลังด้วยเทอญ"

    8. ( คัดลอกจากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ ๕๘ ) หลังจากนั้นทุกคนก็ภาวนาว่า นะ มะ พะ ธะ เวลาภาวนาให้ว่าตามสบาย ไม่ต้องยึดลมหายใจเข้าออก แบบนี้ไม่ต้องยึดถือลมหายใจเข้าออก ปล่อยธรรมดาไปเลย ถ้าไปยึดลมหายใจเข้าออกแล้วจะไม่ไป หลุดไปไม่ได้ ลมหายใจมันดึง ภาวนาว่า นะ มะ พะ ธะ ไปเฉย ๆ ตามแบบสบาย ๆ บางคนว่าไป ๆ มันจะเคลื่อนไปเอง บางคนพอว่าไปเข้ามันจะสั่นหนักเข้า ๆ ทีนี้ถ้าเอาอาการสั่นเกิดขึ้น ต้องปล่อยให้มันสั่น อย่าไปฝืน เพราะว่าแบบนี้ต้องทำถึงฌาน ๔ ถ้าไม่ถึงฌาน ๔ ไปไม่ได้ ไปแบบเต็มกำลัง แบบที่เราฝึกครึ่งกำลังนะแค่อุปจารสมาธิ ไม่ถึงปฐมฌานขั้นต้น เวลาจะไปจริง ๆ ก็เป็นฌาน ๔ เหมือนกัน ฌาน ๔ ละเอียด แบบนี้จะออกได้จากฌาน ๔ หยาบก่อน ฌาน ๔ หยายเป็นการแสดงทางกาย มันจะเต้นปึ้บปั้บ ๆ ท่าทางเป็นช่างไรก็ช่างหัวมัน เรื่องร่างกายอย่าไปสนใจ สนใจอย่างเดียว คือ ผลได้หรือไม่ได้ ต่อไปถ้าเราทำได้แล้ว ไปบ้านต้องฝึกฝนไว้เสมอ แล้วถ้าจิตถึงฌาน ๔ ละเอียด อาการต่าง ๆ จะไม่มีเลย จะเงียบ แต่ไอ้การออกได้นี้จะมีอาการชัดเจนแจ่มใสมาก ถ้าเราจะไปได้หรือไม่ได้ ให้สังเกตตามนี้ คือว่า เวลาภาวนาไป ๆ จะมีแสงสว่าง แสงสว่างนี้จะบอกว่าจิตเราเข้าถึงระดับหรือไม่ ถ้ามีแสงสว่างพุ่งจากข้างบนก็ดี หรือว่าแสงสว่างพุ่งจากกายข้างล่างขึ้นไปก็ดี หรือแสงสว่างปรากฏเฉย ๆ ก็ดี มันมีได้หลายแบบ เมื่อแสงสว่างปรากฏเต็มที่ ให้พุ่งจิตออกตามแสงสว่าง เพียงเท่านี้จิตจะเคลื่อนออกจากกายทันที ออกไปแล้วถ้ารู้สึกว่าเวิ้งว้างไม่รู้จะนึกถึงใคร ไปไหนไม่ถูก ถ้าคนที่เคยได้ครึ่งกำลังมาก่อนหรือยังไม่ได้ก็ตาม ให้ตั้งใจนึกถึงพระพุทธเจ้าก่อนเพื่อน ขอพระพุทธเจ้าทรงโปรด ถ้าเราจะไปไหนก็ตั้งใจไปตามทางที่เราเคยไป ไอ้ทางที่จะไปฝึกครึ่งกำลังหรือเต็มกำลัง มันทางเดียวกัน แต่ว่าทำแบบนี้มันใสสว่างกว่ามาก ไปเต็มกำลังตัว หรือ ถ้าหากว่าเรานึกถึงพระพุทธเจ้าไม่ได้ บางคนเคยทำได้ เป็นลูกแม่ก็นึกถึงแม่ไว้ก่อนก็ได้ ขอให้ท่านมาช่วย แม่ก็คือเป็นพระอรหันต์นั่นเอง ท่านเป็น พระอรหันต์ และเวลาออกไปแล้วปั๊บจะเห็นท่าน เราจะไปทางไหนก็ว่ากันไป

    9. หลังจากออกจากกรรมฐานแล้ว ให้กล่าว "คำอุทิศส่วนกุศล" ดังนี้

    อิทัง ปุญญะผะลัง ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้าทั้งหลายได้บำเพ็ญแล้ว ณ โอกาสนี้ ข้าพเจ้าทั้งหลายขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงโมทนา ส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่วันนี้ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน
    และข้าพเจ้าทั้งหลาย ขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลายที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลายทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลาย และพระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยานในการบำเพ็ญกุศลของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด
    และขออุทิศส่วนกุศลนี้ให้แก่ท่านทั้งหลายที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลายจงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุขเช่นเดียวกับข้าพเจ้าจะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
    ผลบุญใดที่ข้าพเจ้าทั้งหลายได้บำเพ็ญมาแล้ว ณ โอกาสนี้ ขอผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าทั้งหลายได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้เถิด
    (หากข้าพเจ้ายังไม่ถึงซื่งพระนิพพานเพียงใด ขอคำว่าไม่มี จงอย่าปรากฏแก่ข้าพเจ้าตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปเทอญ)

    อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา
    พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ (กราบ)
    สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม
    ธัมมัง นะมัสสามิ (กราบ)
    สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
    สังฆัง นะมามิ (กราบ)

    10. สำหรับท่านที่ต้องการทราบข้อมูลการฝึกมนโมยิทธิเต็มกำลังโดยละเอียด สามารถเข้าไปตามลิ้งค์นี้นะครับ

    http://putthawutt.tripod.com/html/mano03.html

    ขออนุโมทนาทุกท่านครับ

    ลูกบัว

    </TD></TR><TR align=right><TD>จากคุณ ลูกบัว เมื่อวันที่ 16/4/2548 1:02:50 </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  6. 0o0bird0o0

    0o0bird0o0 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +1
    ขอถามหน่อยนะครับ

    พี่ๆครับพอดีผมมาอ่านเจอแล้วก็ปฏิบัติดูมั้งแต่ก็ไม่กล้าทำเอง เพราะว่าอ่านมาแล้วเห็นว่าพี่ๆบอกว่าทำครั้งแรกควรจะมีคนนำ
    ผมไม่รู้ว่าจะเริ่มทำเองได้หรือเปล่า
    ตัวผมเคยไปปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวันมา3วันแต่ก็คิดว่าคงไม่ได้อะไรมากนักเพราะว่ามาเริ่มนั้งสมาธินิ้งจริงๆก็วันสุดท้ายแล้วครับ
    แต่พอกลับมาบ้านก็นั้งสมาธินะครับแต่ว่ามันทำสมาธิไม่ได้เลย
    ก็เลยอยากขอคำแนะนำ
     
  7. choosake

    choosake เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    482
    ค่าพลัง:
    +647
    ลองไปฝึกที่ ซอยสายลม(กรุงเทพ) หรือ ที่วัดท่าซุง
    ก็ได้ครับ มีอาจารย์ ค่อยชี้แนะ ครับ
     
  8. 0o0bird0o0

    0o0bird0o0 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +1
    ขอบคุณ คุณcoosake นะครับสำหรับคำแนะนำ
    แต่ว่า ผมอยู่นครปฐมงะดิครับมีที่ใกล้ๆปะครับ
    เพราะว่าไม่ค่อยไปไหนกับเขางะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...