พบปะ พูดคุย ประสาเพื่อนพ้องน้องพี่ แบบกันเอง

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย tiger-k007, 6 มิถุนายน 2011.

  1. tiger-k007

    tiger-k007 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,204
    ค่าพลัง:
    +1,597
    ขออนุโมทนา สาธุ ครับผม
     
  2. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,117
    ผมมีเพื่อนท่านหนึ่งมีอาชีพเป็นวิศวกร รับผิดชอบโครงการใหญ่ๆ มากมาย และตามธรรมดาของอาชีพนี้จะต้องมีเรื่องเข้าสถานที่อโคจร เลี้ยงเหล้า, ปูเสื่อ (รู้ๆ กันนะครับคืออะไร) และการรับค่าคอมฯ ชีวิตช่วงนั้น ถ้ามองแบบบุคคลทั่วไปก็จะดูว่าน่าอิจฉาเสียนี่กระไร

    แต่เมื่อเกือบ 3 ปีที่ผ่านมาเพื่อนผมท่านนี้ได้มีโอกาสสัมผัสเรื่องอจินไตย โดยจิตใจตอนนั้นเกิดจะมุ่งมั่นตามหาแก้วเสด็จ (เพชรพญานาค) ให้ได้ และเมื่อมีโอกาสได้มาพบเรื่องอจินไตยมากเข้า..มากเข้า.... พบครูบาอาจารย์ทั้งพระและฆราวาส ทำให้ตอนนี้เพื่อนผมคนนี้เปลี่ยนไปดังนี้ครับ....

    จาก น้ำเมา กลายเป็น น้ำปานะ
    จาก คาราโอเกะ กลายเป็น เสียงสวดมนต์
    จาก เมามาย กลายเป็น กรรมฐาน
    จาก ค่าเลี้ยงดู กลายเป็น ทานบารมีในพุทธศาสนา
    และจากคนธรรดา ในไม่ช้า ก็จะกลายเป็น "อาริยะสงฆ์"

    ผมขอโมทนาสาธุกับบุญของเพื่อนผมคนนี้ในทุกประการด้วยครับ
     
  3. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,117
    ข้อความจากพี่ที่นับถือท่านหนึ่ง
    ----------------------------
    บางคนบอกว่าแขวนพระเพราะเป็นของเก่าโบราณ แล้วหินแต่ละก้อนอายุมากกว่าพระทุกองค์ในไทย ไม่เก่าพอหรือ

    อย่าบอกว่าแขวนแล้วทำให้ไม่ตายโหง แล้วหากไปเมา เดินตัดหน้าขบวนรถไฟล่ะครับ จะเหลือไหม หากทุกอย่างเดินอยู่บนทางสายกลางจะดีที่สุด

    แขวนเป็นร้อยองค์ แต่ไม่ทำดี ไม่มีบุญ ก็หนักคอเปล่า
    ไม่แขวนเลย หากประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ย่อมมีทางเจริญ
    หากเราสามารถผสานจิตศรัทธากับพระเครื่องได้ องค์เดียวก็เห็นผล
    พยายามเห็นสิ่งธรรมดาในธรรมให้มากไว้ ก็จะดีเองครับ
    และที่ต้องไม่ลืมคือดีภายนอกก็ควรทำ ดีภายในก็ต้องไม่ลืม

    แม้แต่พระอริยะผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ยังมีแนวคิดต่างกันในการปฏิบัติ ท่านล้วนแต่ค้นหาและรู้ในปรัชญาธรรมด้วยตัวเอง และนำมาเผยแผ่สั่งสอนเรา
    อย่างท่านปัญญาฯ ท่านพุทธทาสฯ ท่าน ว.วชิรเมธี หรือ หลวงปู่ดุลย์ ล้วนต่างแนวคิด ต่างแนวปฏิบัติ


    ดังนั้นอย่าไปยึดแนวทางของใครมาเป็นบรรทัดฐานร้อยเปอร์เซ็นต์โดยต้องบีบบังคับตัวเองมากไปนัก เอาให้แต่พอดีสมแก่การจะทำได้ ไม่อึดอัดใจ สุขสบายใจที่จะทำ

    ค้นหาตนเองให้พบ อะไรที่เหมาะสมและพอดีกับตัวเอง ควรเป็นวิถีของตนเอง เราทำเราได้
     
  4. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,117
    ของฝากจากพี่
    ----------------------------------------------

    คนที่ไม่ได้ทำธุรกิจอะไร หรือรับแต่เงินเดือนเท่านั้น
    อาจมองว่า ตนเองไม่รู้จะไปก้าวหน้าอย่างไร มีลาภอะไร
    หรือจะเกิดโชคลาภใหญ่ๆให้ร่ำรวยดีขึ้นเร็วๆกับเขาบ้างอย่างไร

    ที่จริงแล้ว คนเราหากมีวาสนา ชะตาลิขิต ชีวิตมีพลังเกื้อหนุน
    ไม่ว่าวันนี้ทำอาชีพอะไร ก็จะมองเห็นช่องทางเพิ่มได้เองในวันใดวันหนึ่ง
    ทุกอาชีพที่สุจริต ได้รับการยอมรับนับถือทั้งสิ้น อย่าท้อ อย่าน้อยใจ อย่าสิ้นหวัง

    เรามาถึงวันนี้ได้ ก็ไม่ธรรมดาแล้ว เกินครึ่งทางฝั่งฝันกันแล้ว
    อาจไม่ได้มีมากเท่ากันทุกคนไป แล้วแต่บุญกุศล ช่องทางและโอกาสของแต่ละคน

    หากเราได้ตัวช่วยดีๆ รวมกับการขยัน รอบคอบ หาโอกาสเพิ่มในการดำรงชีพของเราเองแล้ว รับรองว่าจะมีช่องทางมาหาและเพิ่มจังหวะดีๆของชีวิตโดยเราเองยังแปลกใจ

    พระเครื่องเป็นพลังใจที่ดี แต่อย่าลืมพลังกายและการหาโอกาสในชีวิตด้วยครับ
     
  5. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,117
    ข้อความจากพี่ที่นับถือ


    จะมีคนเชื่อไหม หากจะบอกว่าพระมงคลมหาลาภมีดีไม่น้อยกว่า พระชุดโสฬสมหาพรหมของหลวงปู่ทิมที่องค์ละหลายหมื่นและปลอมเหมือนมากๆ และน่าแขวนบูชามากกว่าพระเครื่องราคาเรือนแสนอีกหลายรุ่น

    พระมงคลมหาลาภสร้างเพื่อให้คนเอาไปบูชาให้รุ่งเรืองก้าวหน้า เอาไว้ช่วยทำมาหากิน ยายของผมที่เสียไปแล้วเมื่ออายุ 98ปี ซึ่งเป็นลูกศิษย์แม่ชีบุญเรือนและอยู่ในพิธีในคณะของอุบาสิกาเมื่อครั้งปลุกเสกพระที่วัดสารนารถ ระยอง บอกว่า มีแต่พระเก่งๆทั้งนั้น ขณะนั้นหลวงปู่ทิมไม่มีคนรู้จัก หลวงพ่อโตที่ดังๆของระยองตอนนั้น ยังนั่งท้ายๆของพิธีเลยครับ เพราะพระอาวุโสมีมากมายและจัดพิธีแบบบูชาเทพชั้นสูง ไม่มีเสียงประกาศหรือเสียงรบกวนเลย
    อยู่ที่วาสนาของแต่ละคนก็แล้วกันครับ
     
  6. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,117
    เรื่องจากพี่ที่นับถือท่านหนึ่ง

    เหล็กไหลไม่ได้มีสีเดียว และไม่ได้มีมาตรฐานตายตัวอะไร ทดสอบได้หลายวิธี แต่เอาที่ง่ายๆที่มีคนชอบลองของคือ ใช้ปืน ใช้ไม้ขีด และใส่ในน้ำร้อนบนเตาไฟ

    ผมได้เข้าบุกป่าฝ่าดงในเทือกเขาใหญ่ของถ้ำวัวแดงในปี 2541 เพื่อพาเพื่อนต่างประเทศกลุ่มหนึ่งไปชมและขอบูชาเหล็กไหลโดยมีพรานและผู้มีวิชาดีพาไป ในคณะมีทั้งนายแพทย์ นายพลทหาร นายห้างใหญ่ในกรุงเทพ พระสงฆ์ และคนอยากรู้ อยากมีเช่นพวกผม รวมแล้ว 12 คนพอดี

    เมื่อทำพิธีแล้วครบถ้วนในยามดึกแล้ว หมอพิธีจึงได้ขออัญเชิญบารมีเหล็กไหลเพื่อให้ทุกคนชมว่าเป็นของมีจริง ซึ่งทุกคนก็ได้เห็นว่าในจุดที่เป็นโพรงถ้ำมีวัตถุเล็กๆค่อยๆยืดออกมาและโค้งเข้าหาถ้วยน้ำผึ้งที่อยู่บนพื้น เมื่อจะจับก็จะหายไปแบบทันทีในพริบตา

    หมอทำพิธีขอตัดบูชาสามองค์ แต่ได้เพียง 1 องค์ ก็ไม่มีการอนุญาตอีกต่อไป ทุกอย่างหายเข้าไปในผนังถ้ำหมดสิ้น การแย่งชิงด้วยปากก็มาถึงจุดที่ถกเถียงกันอย่างไม่มีใครยอมใคร จนมาสรุปที่คณะฝรั่งขอเอาไปบูชาโดยมีข้อแม้เพียงคือ ขอทดลองยิงด้วยปืนในตอนเช้า 3 ครั้ง และหากผ่านการทดลองจะไห้ค่าตอบแทนฝ่ายคนไทยรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 300 ล้านบาท

    และในที่สุดเมื่อเมื่อแสงแรกของพระอาทิตย์ยามเช้าส่องเข้ามาที่ปากถ้ำท่ามกลางการรอทดสอบเสียงดังคล้ายสะบัดผ้าก็เกิดขึ้น เหล็กไหลที่ตัดได้และวางอยู่ในพานพิธีได้หายไปต่อหน้าคนนับสิบทันที ทั้งๆที่หมอพิธีได้ทำพิธีและสะกดไว้แล้ว ทุกคนทั้งไทยและฝรั่งต่างงุนงงกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ไม่มีใครโทษใครอีกต่อไป ทุกคนหนาวยะเยือกในหัวใจ

    เราจึงสรุปกันได้ว่าเหล็กไหลมีจริง มีฤทธิ์จริงแต่ไม่อาจซื้อขายแลกเปลี่ยนเป็นเงินได้ เพื่อคุ้มครองและอำนวยผล เสริมอำนาจวาสนา ต่อผู้มีบุญกุศลเท่านั้น จนถึงบัดนี้ยังไม่เห็นใครสามารถซื้อขายเหล็กไหลกันได้แม้แต่รายเดียว
     
  7. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,117
    ลอกเขามาให้นะครับ ลองดูนะ
    สุดยอดสถานที่ปฏิบัติกรรมฐาน คู่มือสำหรับผู้แสวงหาที่ปฏิบัติธรรม

    ๑.วัดธรรมมงคล
    ซอยปุณณวิถี ๒๐ ถ. สุขุมวิท ๑๐๑ บางจาก พระโขนง กรุงเทพฯ
    โทร.๗๔๑-๗๘๒๑-๒, ๓๓๒-๒๘๒๖-๗
    วิปัสสนาจารย์ หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร
    แนวการปฏิบัติ แนวพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ภูริทัตโต ภาวนา “พุทโธ”
    สถานที่ปฏิบัติมีหลายแห่ง คือ ๑. ศาลาปฏิบัติธรรม เป็นห้องมุ้งลวด
    ๒.ถ้ำวิปัสสนา (จำลอง) ๓. ศูนย์สมาธิวิริยานุภาพ มี ๘๐ ห้องพักทุกห้องมีเครื่องปรับอากาศ
    ๔. ห้องสำหรับทำสมาธิ ๕. สถานปฏิบัติธรรม จ.เชียงราย ๖. สำนักสงฆ์น้ำตกแม่กลาง

    ๒. วัดอัมพวัน
    ๕๓ บ. อัมพวัน ถ.เอเชีย กม. ๑๓๐ หมู่ที่ ๔ ต. พรหมบุรี อ. พหรมบุรี จ.สิงห์บุรี
    โทร. (๐๓๖)๕๙๙-๓๘๑), (๐๓๖) ๕๙๙-๑๗๕
    วิปัสสนาจารย์ หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม
    แนวการปฏิบัติสติปัฏฐาน ๔ บริกรรม “ยุบหนอ พองหนอ”

    ๓. ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
    ๕๘/๘ ถ.เพชรเกษม ๕๔ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ ๑๐๑๖๐
    โทร.๔๑๓-๑๗๐๖, ๘๐๕-๐๗๙๐-๔
    วิปัสสนาจารย์ คุณแม่สิริ กรินชัย
    แนวการปฏิบัติแนวสติปัฏฐาน ๔ เจริญสติอย่างต่อเนื่อง
    ตามแนวพระธีรราชมหามุนี วัดมหาธาตุ
    สถานที่เป็นตึกทันใหม่ทันสมัยหลายหลัง โดยทั่วไปการอบรมใช้เวลา ๘ วัน ๗ คืน

    ๔. สวนโมกขพลาราม
    ๖๘ หมู่ ๖ ต. เลเม็ด อ. ไชยา จ. สุราษฎร์ธานี ๘๔๑๑๐
    วิปัสสนาจารย์ ท่านพุทธทาสภิกขุ
    แนวการปฏิบัติ อานาปานสติภาวนา

    ๕.วัดป่าสุนันทวราราม
    บ้านลิ่นถิ่น ต. ท่าเตียน อ. ไทรโยค จ. กาญจนบุรี
    วิปัสสนาจารย์ พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก
    แนวการปฏิบัติ อานาปานสติภาวนา
    เปิดอบรม “อานาปานสติภาวนา” แก่ผู้สนใจ ครั้งละ ๙ วัน
    เปิดรับครั้งละ๑๐๐-๑๕๐ คน เป็นการปฏิบัติที่เคร่งครัด กินอาหารวันละ ๑ มื้อ
    สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่คุณดารณี บุญช่วย (๐๒) ๓๒๑-๖๓๒๐

    ๖.วัดภูหล่น
    ๙ ต. สงยาง อ. ศรีเมืองใหม่ จ. อุบลราชธานี
    ปฐมวิปัสสนาหลวงปู่มั่นฯ (สถานที่หลวงปู่มั่นออกธุดงค์ครั้งแรกกับหลวงปู่เสาร์)
    วัดนี้ค่อนข้างจะห่างจากตัวเมือง บรรยากาศดีมาก เย็นสบาย และเงียบสงบ
    มีสิ่งปลูกสร้างที่อยู่บนเขาไม่สูงนักสามารถกางกลดอยู่ได้
    มีโบสถ์บนเขาและมีกุฏิโดยรอบ บ้างก็ซ่อนอยู่ตามซอกเขา
    ที่นี่เหมาะกับผู้เคยปฏิบัติธรรมมาแล้ว ต้องการมาปฏิบัติขั้นอุกฤษฎ์

    ๗.วัดถ้ำขาม
    บ้านคำข่า หมู่ที่ ๔ ตำบาลไร่ อ. พรรณานิคม จ. สกลนคร
    วิปัสสนาจารย์ อาจารย์ฝั้น อาจาโร
    วัดมีเนื้อที่ ๘๔๐ ไร่พื้นที่จรดเขตอุทยานป่าแนวเทือกเขาภูพาน วัดอยู่บนเขาสูง
    แต่ก็มีบันไดขึ้นลงสะดวก มีลิงป่า และไก่ป่า
    ที่พัก มีที่พักเป็นกุฏิ (กุฏิละ ๑ คน) หรือพักรวมบนศาลาก็ได้
    เหมาะสำหรับไปปฏิบัติแบบอุกฤษฎ์

    ๘. สำนักปฏิบัติกรรมฐาน วัดมเหยงคณ์
    ต. หันตรา อ. พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
    แนวปฏิบัติ เดินจงกรม นั่งสมาธิ กำหนดรู้ รูป-นาม

    ๙.สำนักปฏิบัติธรรมแสงธรรมส่องชีวิต
    ต. โคกแย้ อ. หนองแค จ. สระบุรี ๑๘๒๓๐
    โทร. (๐๓๖) ๓๗๙-๔๒๘
    แนวปฏิบัติ เน้นให้ผู้ฝึกมีสติรู้ในอิริยาบท
    ทุกวันเสาร์ อาทิตย์ และวันสำคัญทางศาสนา
    จะมีการจัดอบรมฝึกวิปัสสนากรรมฐานบวชชีพราหมณ์ เนกขัมมะ
    ดูเพิ่มเติม:


    ๑๐. วัดสนามใน
    ๒๗ ต.วัดชลอ อ. บางกรวย จ. นนทบุรี
    โทร. ๔๒๙-๒๑๑๙, ๘๘๓-๗๒๕๑
    วิปัสสนาจารย์หลวงพ่อเทียน จิตตฺสุโภ
    แนวปฏิบัติ เน้นการเจริญสติวิธีที่เป็นที่นิยมคือวิธีสร้างจังหวะ
    เป็นวิธีสร้างสติแบบนั่งทำสมาธิแต่ไม่ต้องหลับตา
    ดูเพิ่มเติม:


    ๑๑. วัดป่านานาชาติ
    บ้านบุ่งหวาย หมู่ ๗ ต. บุ่งหวาย อ. วารินชำราบจ. อุบลราชธานี
    (สาขา ๑๑๙ ของวัดหนองป่าพง)
    เป็นวัดป่าที่มีต้นไม้ใหญ่มากมียุงและแมลงต่าง ๆ มาก
    คนที่แพ้ยุงก็ควรหายากันยุงไปด้วย อากาศเย็นสบายทานอาหารวันละ ๑ มื้อ
    การไป ให้เขียนจดหมายไปขออนุญาตจากเจ้าอาวาสแล้วจึงเดินทางไปอยู่

    ๑๒. วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร
    ถ. พระราม ๑ ปทุมวันกรุงเทพฯ ๑๐๓๓๐
    โทร. ๒๕๑-๒๓๑๕, ๒๕๒-๕๔๖๕
    วิปัสสนาจารย์ พระอาจารย์ถาวรจิตฺตถาวโร
    แนวปฏิบัติ แนวพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ภาวนา “พุทโธ”
    นั่งปฏิบัติในศาลาพระราชศรัทธา มีอาสนะและผ้าคลุมตักให้หยิบใช้ได้
    บริเวณโดยรอบมีการปลูกแต่งด้วยต้นไม้ใหญ่น้อย ร่มรื่นสวยงาม
    กำหนดการปฏิบัติธรรมที่ศาลาฯ ประจำวันจันทร์ – ศุกร์ วันละ ๓ เวลา
    เช้า๗.๐๐ – ๘.๐๐ น. กลางวัน ๑๒.๐๐ – ๑๓.๐๐ น. เย็น ๑๗.๐๐ – ๒๐.๐๐ น.

    ๑๓.วัดปากน้ำภาษีเจริญ
    เลขที่ ๘ แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ
    วิปัสสนาจารย์ พระมงคลเทพมุนี (หลวงพ่อสด)
    แนวปฏิบัติ ตามแนวธรรมกายใช้คำบริกรรม “สัมมาอรหัง”
    สถานที่ปฏิบัติ ๑. หอเจริญวิปัสสนาฯ ชั้น ๒เป็นห้องแอร์ปูพรม
    ๒. หอสังเวชนีย์มงคลเทพนิมิต ๓. ตึกบวรเทพมุนี

    ๑๔.วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎ์
    เลขที่ ๓ ท่าพระจันทร์ แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนครกรุงเทพฯ
    แนวปฏิบัติ ตามแนวสติปัฏฐาน ๔ ใช้คำบริกรรม “ยุบหนอ พองหนอ”
    สถานที่ปฏิบัติ คณะ ๕ สำนักงานกลาง กองการวิปัสสนาธุระ
    เปิดทุกวันสอนเดินจงกรมและนั่งสมาธิ
    เช้า ๐๗.๐๐ – ๑๐.๐๐ น. กลางวัน ๑๓.๐๐ – ๑๖.๐๐ น. เย็น๑๘.๐๐ – ๑๙.๐๐ น.

    ๑๕. วัดอินทรวิหาร
    อาคารปฏิบัติธรรม “เฉลิมพระเกียรติ” วัดอินทรวิหาร บางขุนพรหม
    กรุงเทพฯ ๑๐๒๐๐ โทร. ๖๒๘-๕๕๕๐-๒
    แนวการปฏิบัติ แนวหลักสูตรของคุณแม่สิริ กรินชัย ๘ วัน ๗ คืน หรือ ๔ วัน ๓ คืน
    เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมขยายผล จากผู้ปฏิบัติธรรมกับคุณแม่สิริ กรินชัย
    เป็นอาคารทันสมัย ๕ ชั้น จุได้ประมาณ ๕๐๐ คน

    ๑๖. สำนักงานพุทธมณฑล
    พุทธมณฑล ถ. พุทธมณฑลสาย ๔ ต. ศาลายา อ. พุทธมณฑล จ. นครปฐม
    โทร. ๔๔๑-๙๐๐๙, ๔๔๑-๙๐๑๒
    แนวปฏิบัติ สติปัฏฐาน ๔ กำหนดรู้อารมณ์ บริกรรม “ยุบหนอ พองหนอ”
    สถานที่ปฏิบัติ ชั้น ๒ ของหอประชุม มีเครื่องปรับอากาศ ห้องนอน
    มีเครื่องนอน เช่น หมอน มุ้ง ผ้าห่มให้พร้อม หรือนำไปเองก็ได้ ทานอาหาร ๒ มื้อ

    ๑๗. ศูนย์วิปัสสนายุวพุทธฯ เฉลิมพระเกียรติ
    คลองสาม จ. ปทุมธานี โทร.๙๘๖-๖๔๐๔-๕
    เป็นสาขาของยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย – ภาษีเจริญ

    ๑๘.วัดอโศการาม
    ๑๓๖ หมู่ ๒ กม. ๓๑ ถ. สุขุมวิท (สายเก่า) ต. ท้ายบ้าน อ. เมือง จ.สมุทรปราการ
    วิปัสสนาจารย์ หลวงพ่อลี ธมฺมชโช
    บริเวณกว้างขวางมีสระน้ำใหญ่ในบริเวณวัด
    กุฏิพระ แม่ชีและที่พักแยกเป็นสัดส่วนเรียงรายรอบวัดเป็นร้อย ๆ หลัง
    ส่วนมากอยู่ติดริมทะเลซึ่งเป็นป่าชายเลน

    ๑๙. วัดญาณสังวรารามวรวิหาร
    ต. ห้วยใหญ่ อ. บางละมุง จ. ชลบุรี โทร. (๐๓๘) ๒๓๗-๖๔๒
    สถานที่ปฏิบัติเป็นอาคารคอนกรีต ๒ ชั้น มีอาคาร ญส. ๗๒ ชาย และ ญส. ๗๒ หญิง
    ชั้นละ ๑๐ ห้องมีห้องน้ำในตัว เรือนปฏิบัติธรรมมี ๑๗ หลัง

    ๒๐. สำนักวิปัสสนาวิเวกอาศรม
    ซ. ประชานุกูล ๗ ถ. ชลบุรี-บ้านบึง ต. บ้านสวน อ. เมือง จ. ชลบุรี
    โทร (๐๓๘) ๒๘๓-๗๖๖
    วิปัสสนาจารย์ พระอาจารย์ภัททันตะ อาสภมหาเถระ
    แนวปฏิบัติสติปัฏฐาน ๔ ใช้คำบริกรรม “ยุบหนอ พองหนอ”
    มีเรือนพักปฏิบัติธรรมทั้งหญิงชายแยกเป็นสัดส่วนอยู่จำนวนมาก
    การอยู่ปฏิบัติให้พักคนเดียว เน้นการเก็บอารมณ์ ไม่พูดคุยกัน อย่างเคร่งครัด
    การรับประทานอาหารจะมีปิ่นโตส่งถึงห้อง ๒ มื้อ
    ทุกวันจะมีการสอบอารมณ์กรรมฐานโดยพระอาจารย์
    ค่าน้ำไฟ อาหาร วันละ ๕๐ บาทหรือเดือนละ ๑,๕๐๐ บาท ห้ามอยู่เกิน ๙๐ วัน

    ๒๑. สำนักวิปัสสนาสมมิตร – ปราณี
    จ. ชลบุรี โทร. พระอาจารย์ใหญ่ (๐๑) ๙๒๑-๑๑๐๑
    เป็นสถานที่ซึ่งมีผู้บริจาคเพื่อขยับขยายมาจากวิเวกอาศรม
    แนวปฏิบัติสติปัฏฐาน ๔ ใช้คำบริกรรม “ยุบหนอ พองหนอ”
    สถานที่ล้อมรอบด้วยทุ่งและธรรมชาติมีกุฏิสงฆ์สร้างในแบบธรรมชาติมุงจาก
    อาคารปฏิบัติธรรมขนาดกลางและอุโบสถยังรับผู้ปฏิบัติธรรมได้ไม่มากนัก

    ๒๒. วัดเขาสุกิม
    ต. เขาบายศรี อ.ท่าใหม่ จ. จันบุรี
    วิปัสสนาจารย์ หลวงพ่อสมชาย ฐิตวิริโย
    แนวปฏิบัติแนวพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ใช้คำบริกรรม “พุทโธ”
    วัดตั้งอยู่สูงขึ้นไปบนเชิงเขา กว้างขวางกว่า ๓,๒๘๐ ไร่
    มีทางบันไดและรถรางขึ้นไปบนวัด บริเวณร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่น้อย
    มีศาลาที่พักที่สะดวกสบายเป็นห้องมุ้งลวด มีเตียง ที่นอน หมอนให้
    หรือพักที่กุฏิว่างต่าง ๆ

    ๒๓.วัดจันทาราม (วัดท่าซุง)
    ๖๐ บ้านท่าซุง หมู่ ๑ ต. น้ำซึม อ. เมือง จ. อุทัยธานี
    วิปัสสนาจารย์ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
    แนวปฏิบัติ มโนมยิทธิ บริกรรม “นะ มะ พะธะ” และสอนอนุสติ บริกรรม “พุทโธ”

    ๒๔. สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง
    อ. เชียงดาวจ. เชียงใหม่
    วิปัสสนาจารย์ หลวงปู่สิม พุทธจาโร
    สำนักสงฆ์แห่งนี้อยู่บนดอยทางขึ้นลงเทปูนเป็นบันไดเดินได้สะดวกแต่ค่อนข้างสูง
    หลวงปู่เคยเล่าไว้ว่าที่ถ้ำผาปล่อง และถ้ำเชียงดาวนี้ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
    ให้สำรวมระวัง รักษาความสงบ ไม่ร้องรำทำเพลง เล่นตลกคะนอง
    เพราะเคยมีพระอรหันต์ตั้งแต่สมัยพระพุทธเจ้ากกุสันโธ
    พระอรหันต์สมัยพระพุทธเจ้าโกนาคม พระอรหันต์สมัยพระกัสสโป
    และพระอรหันต์สมัยพระพุทธโคดม มาบำเพ็ญเพียรและละสังขารอยู่หลายองค์
    การนั่งภาวนาที่นี่จะทำเหมือนสมัยที่หลวงปู่ยังอยู่ คือ
    ท่านจะให้ทุกคนที่ไปภาวนานั่งสมาธิเพชรฟังเทศน์ ด้วยเหตุผลว่า
    ”การนั่งสมาธิเพชรนั้นเป็นการฝึกฝนคนเราให้เกิดความตั้งใจมั่น”

    ๒๕.วัดป่าสาละวัน
    อ. เมือง จ. นครราชสีมา
    วิปัสสนาจารย์ หลวงพ่อพุธ ฐานิโย
    วันที่ ๑-๕ ของทุกเดือน จะมีการอบรมการปฏิบัติแก่อุบาสกอุบาสิกา
    ที่ใต้ศาลาและบนวิหารชั้น ๒ โดยจะมีพระให้การอบรม

    ๒๖. วัดสมเด็จแดนสงบ (แสงธรรมเวฬุราราม)
    ๙๙ ซอย ๑๙ ถ. มิตรภาพ อ. เมือง จ. นครราชสีมา ๓๐๐๐๐
    โทร. (๐๔๔) ๒๑๔-๑๓๔, ๒๑๔-๘๖๙-๗๐
    วิปัสสนาจารย์ พระครูภาวนาวิสิฐ
    แนวปฏิบัติ สติปัฏฐาน ๔

    ๒๗. วัดป่าวะภูแก้ว
    ต. มะเกลือใหม่ อ.สูงเนิน จ. นครราชสีมา
    แนวปฏิบัติ แนวหลวงปู่เสาร์ - หลวงปู่มั่น ภาวนา “พุทโธ”
    วัดอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ มีต้นไม้ใหญ่น้อยมาก สถานที่เงียบสงบ สวยงาม
    มีอาคารอบรมขนาดใหญ่ สำหรับผู้มาทำสมาธิเป็นหมู่คณะ

    ๒๘. วัดหนองป่าพง
    ๔๖ หมู่ ๑๐ ต. โนนผึ้ง อ. วารินชำราบ จ. อุบลราชธานี
    วิปัสสนาจารย์หลวงพ่อชา สุภทฺโท
    แนวปฏิบัติ เน้นให้มีสติสม่ำเสมอ ฝึกสมาธิแบบอานาปานสติ

    ๒๙. ศูนย์ปฏิบัติธรรมสวนเวฬุวัน จ. ขอนแก่น
    บ้านเนินทาง ต. บ้านค้อ อ.เมือง จ. ขอนแก่น ๔๐๐๐๐
    โทร. (๐๔๓) ๒๓๗-๗๘๖, ๑๒๗-๗๙๐
    เป็นสถานปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานสาขา ของหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน
    แนวปฏิบัติสติปัฏฐาน ๔ เช่นเดียวกับวัดอัมพวัน จ. สิงห์บุรี

    ๓๐.วัดป่าวิเวกธรรมวิทยาราม
    ซ. ศรีจันทร์ ๑๓ ถ. ศรีจันทร์ ต. ในเมือง อ. เมือง จ.ขอนแก่น ๔๐๐๐๐
    โทร. (๐๔๓) ๒๒๒-๐๔๒
    วิปัสสนาจารย์ หลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม
    แนวปฏิบัติ แนวพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ภาวนา “พุทโธ”

    ๓๑.วัดถ้ำผาบิ้ง
    ต. ทรายขาว อ. วังสะพุง จ. เลย
    วิปัสสนาจารย์ หลวงปู่หลุยจันทสาโร
    เมื่อไปถึงจะพบศาลาสร้างด้วยไม้ที่โปร่งสะอาดน่านั่งสมาธิมีกุฏิหลายหลัง
    มีถ้ำอยู่ไม่สูงจากเชิงเขา มีบันได้ขึ้นสะดวกเป็นที่สงบวิเวกมาก
    เหมาะแก่การปฏิบัติอย่างอุกฤษฎ์พระในสายพระอาจารย์มั่นมักมากจำพรรษา
    และปฏิบัติธรรมที่นี่ เพราะเป็นที่สัปปายะบรรยากาศเงียบสงบ ห่างจากเมือง

    ๓๒. วัดถ้ำกองเพล
    ต. โนนทัน อ. เมือง จ.หนองบัวลำภู ๓๙๐๐๐
    โทร. (๐๔๒) ๓๑๒-๓๗๗
    วิปัสสนาจารย์ หลวงปู่ขาว อนาลโย
    แนวปฏิบัติ แนวพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ภาวนา “พุทโธ”
    เป็นวัดป่ากว้างขวางพร้อมศาลาปฏิบัติธรรมสร้างภายในถ้ำ
    ทางไปถ้ำสะดวกอยู่ริมถนน รถเข้าถึงปากถ้ำได้ไม่ต้องปีน
    บางกุฏิก็ซ่อนอยู่ตามเหลือบผาต่าง ๆ เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม
    เมื่อไปถึงให้ติดต่อศาลาประชาสัมพันธ์เพื่อขออนุญาตก่อน ปฏิบัติธรรมอย่างเข้ม

    ๓๓. วัดป่าบ้านตาด
    ต. บ้านตาด อ. เมือง จ. อุดรธานี
    วิปัสสนาจารย์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
    แนวปฏิบัติ แนวพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ภาวนา “พุทโธ”
    ในวัดมีกุฏิที่พักหลายกุฏิ มักจะมีลูกศิษย์มาอยู่ปฏิบัติกันมาก
    แต่ผู้มาปฏิบัติที่นี่ต้องกินน้อย นอนน้อย ปฏิบัติมาก
    กลางคืนมักจะเดินจงกรม นั่งสมาธิ จนดึก หรือโต้รุ่งก็มี
    ไม่ใช้ไฟฟ้าในตอนกลางคืน ผู้ปฏิบัติจึงควรจำไฟฉายหรือเทียนติดตัวไปด้วย
    เพื่อใช้ส่องทางเดิน ทางจงกรม ซึ่งมักจะเป็นทางดิน
    และอาจมีสัตว์ เช่น งูอยู่บ้าง ต้องเจริญเมตตาไม่เบียดเบียนต่อกัน

    ๓๔. วัดหินหมากเป้ง
    บ้านไทยเจริญ หมู่ ๔ ต. พระพุทธบาท อ. ศรีเชียงใหม่ จ. หนองคาย
    วิปัสสนาจารย์ หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
    แนวปฏิบัติ แนวพระอาจารย์มั่นภูริทัตโต ภาวนา “พุทโธ”
    ในวัดมีกุฏิเรือนรับรองอยู่มาก บริเวณกว้างขวางประกอบด้วยป่าโปร่ง ป่าไผ่
    ทะเลสาบใหญ่ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขงเหมาะแก่การอยู่ปฏิบัติ

    ๓๕. วัดเจติยาคีรีวิหาร (ภูทอก)
    อ. บึงกาฬ จ.หนองคาย
    วิปัสสนาจารย์ พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ
    แนวปฏิบัติแนวพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ภาวนา “พุทโธ”
    วัดตั้งอยู่บนภูทอกทางขึ้นค่อนข้างชัน
    สร้างด้วยความอัศจรรย์และด้วยจิตที่เด็ดเดี่ยวของพระเณร
    ท่านพระอาจารย์จวนได้ทำทางขึ้นเป็นขั้นบันไดและทางเดินด้วยไม้รอบภูจนถึงยอด
    บริเวณหน้าผา ท่านใช้ไม้ ๒ ลำมัดให้แน่นยื่นออกไป ๔ เมตร
    เอาเชือกบังสุกุลผูกปลายไม้ที่ยื่นออกไป ตรึงใส่เสาที่ปักไว้แล้วไปนั่งที่ปลายไม้นั้น
    เพื่อตอกหินเจาะหลุมที่หน้าผา ปรากฏว่าถ้าให้ฆราวาสไปนั่งปลายไม้ครั้งใด
    ก็ไม่สามารถควบคุมสติสมาธิได้เพราะมองไปข้างบ่างก็เกิดความหวั่นไหว
    จนไม่สามารถตอกหินได้สำเร็จผู้สร้างจึงเป็นพระและเณร สิ่งปลูกสร้างนี้มี ๗ ชั้น
    มีกุฏิที่พักเชิงเขาที่ชั้น ๒ หรือจะพักกุฏิว่างรอบเขาก็ได้ (ต้องขออนุญาตก่อน)
    เหมาะกับผู้ปฏิบัติที่ฝึกมาดีพอสมควร มีความเข้มแข็งพึ่งตนเองได้
    เนื่องจากเปลี่ยวและสูงอยู่บนภูเขา แต่บรรยากาศเย็นสบาย เงียบสงบ

    ๓๖.วัดดอยธรรมเจดีย์
    บ้านทาสีนวล หมู่ ๓ ต. ตองโขบ อ. ศรีสุพรรณ จ. สกลนคร
    วิปัสสนาจารย์ หลวงปู่กงมา จิรปุญโญ
    แนวปฏิบัติ แนวพระอาจารย์มั่นภูริทัตโต ภาวนา “พุทโธ”
    ปกติจะปฏิบัติที่ศาลา ส่วนที่พักมีกุฏิและอาคารคึกสะอาดทันสมัย

    ๓๗. วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม
    ถนน รพช หมู่ ๑ ต.ปทุมวาปี อ. ส่องดาว จ. สกลนคร
    แนวปฏิบัติ แนวพระอาจารย์มั่น ภาวนา “พุทโธ”
    ที่นี่มีหลายถ้ำ มีถ้ำหนึ่งชื่อถ้ำพวง ซึ่งพระอาจารย์มั่นเคยเล่าให้ฟังว่า
    เป็นถ้ำที่ศักดิ์สิทธิ์มาก เคยมีพระอรหันต์ชื่อ พระนรสีห์ มานิพพานที่นี่

    ๓๘. วัดป่าสุทธาวาส
    ๑๓๙๖ บ้านคำสะอาด หมู่ ๑๐ ต. ธาตุเชิงชุม อ. เมืองจ. สกลนคร
    แนวปฏิบัติ แนวพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ภาวนา “พุทโธ”
    มีอาคารเป็นตึกปูน ๓ ชั้นหลังใหญ่ จุคนได้หลายร้อยคน เย็นสบาย

    ๓๙.วัดคำประมง
    เลขที่ ๒๐ หมู่ ๔ บ้านคำประมง ต. สว่าง อ. พรรณนานิคม จ. สกลนคร๔๗๑๓๐
    วิปัสสนาจารย์ หลวงปู่สิม พุทธจาโร
    เนื่องจากเป็นวัดที่มีพระจำพรรษาอยู่น้อยในฤดูนอกพรรษา จึงเงียบสงบ
    มีเจ้าหน้าที่ตัดหญ้า ปลูกดอกไม้สวยงามอย่างดี
    มีพระพุทธรูปปางต่าง ๆและสิ่งก่อสร้างสวยงาม มีสระน้ำทะเลสาบใหญ่
    ฝูงปลามากมายมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้ามาเยี่ยมและให้อาหารปลาอยู่เสมอ

    ๔๐.สำนักปฏิบัติธรรมศิริธรรม (ถ้ำชี)
    เขากิ่ว ต. ไร้ส้ม อ. เมือง จ. เพชรบุรี๗๖๐๐๐
    โทร. (๐๓๒) ๔๒๘-๕๒๒
    วิปัสสนาจารย์ หลวงพ่อกนฺตสิริ
    แนวปฏิบัติสติปัฏฐาน ๔ และอานาปานสติ
    เขากิ่วเป็นภูเขาเตี้ย ๆ มีต้นไม้หนาแน่นมากอยู่ใกล้เมือง เดินทางสะดวก
    บนเขามีลิงอยู่บ้าง แต่ไม่ทำร้ายคน บนสำนักฯมีเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
    ศาลา ถ้ำชี ซึ่งใช้เป็นอุโบสถ กุฏิที่พักห้องน้ำ-ส้วม พอสะดวกสบายแก่การปฏิบัติ ที่นี่เน้นการปฏิบัติเคร่งครัด กินน้อยนอนน้อย ปฏิบัติมาก
     
  8. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,117
    วันที่ 7 ธ.ค. 2556 ผมได้นำพระบรมสารีริกธาตุที่เสด็จมาแบบอจินไตยจำนวนหลายร้อยองค์และพระเจดีย์อะคลีลิคไปถวายพระอาจารย์ เพื่อให้ท่านนำไปบรรจุในพระเจดีย์ในวัดต่างๆ ในอนาคตนั้น หลังจากที่ได้สนทนาธรรมกันแล้ว พระอาจารย์ได้มอบพระเนื้อโลหะให้องค์หนึ่ง บอกว่าเก็บไว้บูชาโดยเล่าประวัติให้ฟังว่า

    สมัยท่านยังเด็ก...เรียนชั้นประถมหกในจังหวัดทางภาคใต้ ท่านนั้นจัดเป็นเด็กที่ชอบมีเรื่องต่อยตีอยู่เสมอ จนกระทั่งวันหนึ่งท่านได้ไปขอให้คุณตาท่านหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ บ้านท่านซึ่งเป็นที่รู้กันในหมู่บ้านว่าคุณตาท่านนี้มีวิชาอาคมมากมาย และจะขอให้คุณตาได้ช่วยเสกหรือทำให้ท่านหนังเหนียวไม่แตกเพราะจะออกไปต่อยตีกับเด็กโตกว่าจำนวนมาก คุณตาก็กล่าวว่าถ้าช่วยครั้งนี้แล้วท่านจะต้องเลิกเกเรและบวชเณรนะ ในเวลานั้นท่านก็รับปาก หลังจากคุณตาท่านทำพิธีให้แล้ว ท่านก็ออกไปต่อยตีกับเด็กโตกว่าถึงสิบกว่าคนและก็พบว่าตนเองนั้นไม่ได้เสียเลือดและหนังเหนียวอย่างที่หวังไว้

    หลังจากเหตุการณ์นั้น ท่านก็ได้กลับมาให้คุณตาบวชตามสัจจะ แต่ก่อนบวช คุณตาก็ได้พาท่านไปยังห้องพระของท่านแล้วกล่าวว่า ให้ท่านเลือกพระเครื่องได้องค์หนึ่งใช้ติดกายขณะบวชเรียน ซึ่งในห้องพระนั้นท่านเห็นพระเครื่อง เครื่องลางของขลังและศาสตราวุธมากมาย แต่ท่านยังเลือกไม่ได้ จนคุณตากล่าวว่าเลือกได้หรือยัง ท่านเลยตัดสินใจว่า ขอพระ..องค์ที่คุณตาห้อยอยู่ได้มั้ย คุณตาหัวเราะแล้วกล่าวว่าพระองค์นี้ติดตัวท่านไปร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำทุกที่ที่ท่านทำราชการอยู่ แต่อย่างไรก็ตามคุณตาก็มอบพระองค์นั้นให้ท่านไว้..

    หลังจากบวชเณรแล้ว คุณตาได้เป็นโยมอุปัฎฐากท่านขณะบวชอยู่ทางใต้และต่อมาท่านได้ขึ้นมาจำพรรษาอยู่ที่วัดในกรุงเทพ จนกระทั่งท่านทราบข่าวว่าคุณตาท่านนั้นได้ถึงแก่อนิจกรรมเมื่อปีพ.ศ.2549

    หลังจากนั้นท่านได้ถามผมว่า...

    "โยมพอจะเดาได้มั้ยว่า คุณตาที่มอบพระองค์นั้นให้ท่านนั้นเป็นใคร"

    ผมเองก็เหลือที่จะเดาก็เลยกล่าวว่า

    "ผมไม่ทราบจริงๆ ครับพระอาจารย์"

    ท่านกล่าวว่า "คุณตาท่านนั้นชื่อว่า ขุนพันธรักษ์ราชเดช"

    และพระ..องค์ที่ท่านได้ขอคุณตาไว้นั้น ท่านได้มอบให้ผมไว้บูชาซึ่งผมจะนำบูชาติดกายไว้อย่างแน่นอน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 ธันวาคม 2013
  9. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,117
    อจินไตยวันที่ 10 ธ.ค. 2556 จ.สระแก้ว
    ปฏิบัติภาวนาอัญเชิญสิ่งมงคลสูงสุดในชีวิตของกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง
    ถ้ำหนึ่งนั้น ถึงกับได้ยินเสียงวัตถุขนาดใหญ่ลากหนักๆ ไปตามช่องบนเพดานถ้ำ เขามาเพื่อสักการะและชมบารมีของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เสด็จมา
    บางรูปก็มีภาพมือลางๆ ให้เห็นกันด้วย
    เป็นความเชื่อของกลุ่มบุคคลเท่านั้นครับ
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  10. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,117
    องค์นี้ครับ
    [​IMG]
     
  11. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,117
    พอเห็นภาพพระพุทธบาทหลายๆ แห่งแล้ว ย้อนมานึกถึงการไปสักการะรอยพระพุทธบาทของใครหลายๆ คนในปัจจุบันนี้มักจะกล่าวว่า ถ้าได้ไปสักการะที่เชียงใหม่บ้าง ที่จันทบุรีบ้าง ที่ภูเก็ตบ้าง ที่สกลนครบ้าง จะได้บุญมากเพราะเดินทางไปลำบาก กว่าจะได้กราบสักการะก็ต้องเดินทางเหนื่อยยากแทบแย่

    เืมื่อคิดย้อนไปในอดีต คุณยายผมเล่าให้ผมฟังว่า สมัยท่านจำความได้แล้ว ถ้าใครได้ไปกราบรอยพระพุทธบาทที่สระบุรีแล้วจะได้บุญมาก เพราะเดินทางไปยากมาก ต้องนั่งรถไฟไปลงที่สถานีสระบุรี เดินเข้าดงไปและต้องนอนค้างในดงหนึ่งคืน เช้าเดินต่อไปอีก กว่าจะถึงพระพุทธบาทก็ราวบ่ายๆ และยังตอนขากลับอีก ไปสักการะสักทีต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5 วัน

    พอสมัยนี้..รถยนต์แทบจะวิ่งไปชนภูเขาที่มีรอยพระพุทธบาท จากกรุงเทพไปไม่ถึงสามชั่วโมง แต่ผู้คนไม่ค่อยไปกันแล้ว นัยว่าเดินทางสะดวกคงจะได้บุญน้อยมั้ง....

    เอามาเขียนระบายให้่อ่านเล่นๆ ครับ อย่าถือเป็นเรื่องจริงจังอะไรนะครับ
     
  12. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,117

    เกริ่นนำเรื่อง....
    เพื่อนธรรมผมผู้หนึ่งได้รับชานหมากจากที่บูชาไว้ที่รูปหลวงปู่เทพโลกอุดร ณ ห้องพระของนายแพทย์ท่านหนึ่งในต่างจังหวัด ซึ่งการได้ชานหมากมานี้ก็เป็นเรื่องอจินไตยคือว่าทางคุณหมอได้จัดหมากพลูสดถวายใส่พานไว้ที่หน้ารูปหลวงปู่ฯ ในห้องพระ แล้วคุณหมอก็ออกมาสนทนากับเพื่อนธรรมผม ผ่านไปสัก 15 นาที คุณหมอก็เข้าไปในห้องพระและพบว่าหมากพลูสดที่จัดถวายนั้นได้กลายเป็นชานหมากไปแล้ว ยังความปิติแก่คุณหมอและเพื่อนธรรมผมผู้นั้นมาก และได้แบ่งกลับมาบูชาที่กรุงเทพฯ

    ผมได้พาเพื่อนธรรมท่านนี้ไปกราบพระอาจารย์ผมและเพื่อนธรรมผมได้แบ่้งชานหมากของหลวงปู่ฯ ไว้ให้พระอาจารย์จำนวนหนึ่ง ซึ่งพระอาจารย์ก็นำใส่พานบูชาไว้ที่โต๊ะพระในกุฏิของท่าน


    เรื่องอจินไตยก็มาเกิดขึ้นอีกเรื่องที่พระอาจารย์โทรศัพท์มาตามผมให้ไปฟังจากปากท่านเมื่อวันเสาร์ที่ 21 ธ.ค.นี้ โดยท่านบอกว่าให้ผมฟังเป็นนิทานไป เรื่องมีอยู่ว่า
    - วันพุธที่ 18 ธ.ค. เวลาประมาณเที่ยงคืน พระอาจารย์ได้กลับเข้ากุฏิของท่าน ซึ่งกุฏิของท่านอยู่ชั้นสอง ซึ่งได้ปิดหน้าต่างและล๊อคประตูใส่กุญแจไว้
    - พอท่านไขกุญแจเปิดประตูเข้าไป ก็ตกใจเมื่อพบพระภิกษุชราร่างใหญ่ เกศาท่านเป็นสีขาว ฝ่ามือเหี่ยวย่น แต่ใบหน้าหนุ่ม
    - พระอาจารย์จึงถามไปว่า หลวงปู่มาที่กุฏิผมนี้มีกิจอันใดขอรับ
    - หลวงปู่ฯ ตอบว่า "แวะมาดูชานหมาก กับนำพระมาให้ญาติโยมของเธอ"
    - พระอาจารย์คิดในใจว่า "เอ..เข้ามาในกุฏิได้ยังไง นี่จะเป็นผีหรือเปล่าหนอ"
    - หลวงปู่ฯ หัวเราะแล้วบอกว่า "เอ้า..มาจับแขนฉันนี่ มีเนื้อหนังนะ"
    - พระอาจารย์ก็เดินเข้าไปจับแขนหลวงปู่ฯ แล้วก็พบว่ามีเนื้อหนังจริงๆ
    - หลวงปู่ฯ ได้กล่าวเทศน์สอนพระอาจารย์ผมเกี่ยวกับเรื่องการไม่ให้ยึดถือรูปและนาม ท่านสอนอยู่ประมาณ 10 นาที แล้วก็บอกว่าจะกลับแล้ว
    - หลวงปู่ฯ เดินทะลุหายออกไปทางหน้าต่าง แต่พักเดียวก็เดินกลับเข้ามา กล่าวว่า "ขอโทษที กลับผิดทาง" แล้วหลวงปู่ฯ ท่านก็เดินทะลุประตูออกหายวับไป สร้างความตะลึงแก่พระอาจารย์เป็นอย่างยิ่ง
    - พระอาจารย์ได้นำพระที่หลวงปู่มอบไว้ให้ประมาณ 12 องค์ เก็บไว้ที่โต๊ะพระของท่าน ซึ่งรับมาครั้งแรกเป็นพระเนื้อดินสีแดงๆ 6 องค์พอผ่านมา 3 วันก็เปลี่ยนสภาพเป็นพระเนื้อเขียวเป็นแก้วใส
    - ยังมีพระพิมพ์อื่นๆ อีก มีพิมพ์รูปปู่ฤาษีเนื้อดินและเนื้อเหล็กไหลที่หลวงปู่ฯ มอบไว้ให้

    วันเสาร์ฺที่ 21 ธ.ค. ท่านก็ติดต่อให้ผมและเพื่อนธรรมไปรับพระที่หลวงปู่ฯ มอบให้นั้นมาไว้ติดตัวและบูชาไว้ที่บ้านเรือนเพื่อเป็นศิริมงคลต่อไปครับ

    สรุป - คิดว่าเป็นนิทานตามที่พระอาจารย์ผมท่านเล่าให้ฟังก็แล้วกันนะครับ







     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 ธันวาคม 2013
  13. อาณัติ

    อาณัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2006
    โพสต์:
    6,126
    ค่าพลัง:
    +22,240
    ชอบนิทานแบบนี้ เล่าต่อนะครับ

    มีภาพพระที่หลวงปู่ฯมอบให้ ให้ดูไหมครับ...............
     
  14. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,117
    คือว่าเรื่องแบบนี้จะทยอยเกิดขึ้นมาน่ะครับ แต่งเองก็กลายเป็นมุสาวาทะกรรม

    ส่วนภาพพระที่หลวงปู่ฯ มอบไว้และผมได้มีวาสนาไว้บูชานั้น ถ้านำมาลงในกระทู้นี้อาจจะมีคนปรามาสอันด้วยเหตุผลใดของคนผู้นั้นก็ตาม มันจะเป็นเวรกรรมติดตัวผมผู้ซึ่งนำรูปมาลง และเป็นเวรกรรมของคนปรามาสไปครับ

    บอกเคร่าๆ ก็ได้ครับ ผมได้รับมา 3 องค์ คือ
    -พระพิมพ์เนื้อดินเผาปางนาคปรก คล้ายพระกรุนาดูน
    -รูปปู่ฤาษีเนื้อดินเผา (เก่ามาก)
    -พระพิมพ์นางพญาเนื้อดินสีดำสนิท มีเม็ดทองคำฝังอยู่ตามเนื้อพระ 8 เม็ด


    พระอาจารย์บอกผมว่า พระทั้งหมดนี้ หลวงปู่ฯ ท่านเป็นผู้เสกไว้ครับ

     
  15. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,117
    ไม่ว่าผมหรือใครจะมีของวิเศษหรือพระเครื่องพระพิมพ์ดีแค่ไหนก็ตาม ก็ไม่พ้นความเจ็บ ความตายไปได้ และยิ่งหากไม่มีศีล ไม่มีความกตัญญูกตเวที ก็อย่าได้หวังว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ได้มีวาสนารับมาบูชาแบบอจินไตยนี้จะอยู่ปกปักรักษาคุ้มครองเราได้

    ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย

     
  16. tiger-k007

    tiger-k007 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,204
    ค่าพลัง:
    +1,597
    เยี่ยมมากๆครับ อนุโทนา ครับ
     
  17. อาณัติ

    อาณัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2006
    โพสต์:
    6,126
    ค่าพลัง:
    +22,240
    ขอบคุณครับ

    ผมว่าเรานำเสนอเพื่อเป็นธรรมทาน นี่มันบริสุทธิ์นะครับ เจริญศรัทธา

    ส่วนคนที่ไม่เชื่อ ไม่มีวาสนาร่วมกัน เปิดมาเจอก็ผ่านไป...ตามทาง....
     
  18. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,117
    ถ้าเช่นนั้น...ผมขออัญเชิญภาพพระและภาพปู่ฤาษีมาให้ชมเป็นธรรมทานตามที่คุณอาณัติกล่าวไว้ครับ

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  19. อาณัติ

    อาณัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2006
    โพสต์:
    6,126
    ค่าพลัง:
    +22,240
    ขอบคุณครับ เห็นแล้วก็รู้แนวทาง

    องค์กลางผมเคยเช่าไว้ เขาบอกว่ากรุนาดูน ผมดูครั้งใดผมก็ว่าไม่ใช่เพราะพระกรุนาดูนผมมีอยู่ ไม่เหมือนกัน หลายคนบอกว่าพระเก้ ความรู้สึกผมว่าไม่ใช่ จนมาเห็นองค์นี้ เป็นพระหลวงปู่ใหญ่

    ผมกราบไหว้บูชาหลวงปู่ใหญ่มานานแล้วล่ะ มีภาพท่านตัดจากหนังสือ มีเหรียญท่าน ที่ได้มาแบบท่านมอบให้ สวดคาถาบูชาท่าน........

    ปล.ถ้าไม่เชื่อ ก็ไม่มีศรัทธา มีไม่ศรัทธาก็....ว่างเปล่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ธันวาคม 2013
  20. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,117
    วันนี้ (27 ธ.ค.) ได้นำพระบรมสารีริกธาตุ พระบรมธาตุ และพระธาตุจากเพื่อนธรรมท่านที่สอง ที่สามารถอัญเชิญมาปรากฏแบบอจินไตยไปถวายพระอาจารย์อีกชุดหนึ่งเพื่อมอบให้แก่ทางวัดที่ได้ขอไปบูชาผ่านทางท่าน เมื่อได้ไปพบท่านที่กุฏิและหลังจากถวายพระบรมสารีริกธาตุ พระบรมธาตุ และพระธาตุแด่ท่านแล้ว ท่านได้แจ้งว่าพระบรมสารีริกธาตุ พระบรมธาตุ และพระธาตุชุดแรกนั้นได้ถวายต่อไปยังวัดที่จ.มุกดาหาร 2 วัดและจ.เลย อีก 1 วัด (ก็ขอให้ท่านที่เข้ามาอ่านและมีความศรัทธาได้ร่วมโมทนาบุญนี้ด้วยกันนะครับ)

    ต่อจากนั้...ท่านก็ได้เล่านิทานให้ผมฟังอีกครับ เรื่องมีอยู่ว่า

    เรื่องที่ 1 - สามวันที่ผ่านมา หลังจากล้างบาตรเสร็จแล้ว พบลูกแก้วกลมขนาดเมล็ดลำไยใหญ่ๆ สีน้ำเงินเหลือบทองวางอยู่บริเวณที่ผึ่งบาตรให้แห้ง ท่านเห็นแล้วเข้าใจว่าเป็นของเด็กๆ ที่มาเล่นในวัดแล้วลืมทิ้งไว้ ท่านจึงนำไปวางไว้ที่โคนไม้ใหญ่ในวัด พอกลับขึ้นกุฏิกลับพบว่า ลูกแก้วนั้นกลับมาวางอยู่ตรงบันไดขึ้นกุฏิ ท่านยังไม่คิดอะไรมากก็ขว้างลูกแก้วนั้นออกไปไกลๆ

    สักพักท่านลงมาจากกุฏิ ที่หน้ากุฏิมีต้นไม้ขนาดปานกลางอยู่ต้นหนึ่ง ท่านก็มองลงไปที่โคนต้นไม้นั้นก็เห็นจะจะเลยว่าลูกแก้วลูกเดิมนั้นผุดพรวดขึ้นมาจากดินที่โคนไม้พุ่งขึ้นเหนือดินไปในอากาศประมาณ 1 ฟุตก็ตกลงบนดิน (นึกภาพเหมือนเราอมลูกอมแล้วเงยหน้าเป่าลูกอมขึ้นไปในอากาศ) คราวนี้ท่านก็เลยเก็บไว้ แต่ไม่ได้นำเข้ากุฏิ แต่วางไว้ในกระถางต้นไม้แขวน ซึ่งต้นไม้นั้นมีชื่อว่าต้น "นาคราช" เล่าจบแล้วท่านก็มองหน้าผม ผมเองก็ยังเฉยๆ เพราะสิ่งมงคลที่เสด็จมาแบบอจินไตยนี้ก็พอจะมีอยู่บ้างแล้ว ท่านเห็นผมเฉยๆ ท่านก็เล่านิทานเรื่องต่อไป...

    เรื่องที่สอง - ท่านหยิบวัตถุมงคลองค์หนึ่งที่ถูกสร้างเป็นท่านท้าวเวสสุวรรณ (เนื้อผงสีน้ำตาลเทา) มาให้ชมแล้วกล่าวว่า สิ่งเหนือโลกทั้งหลายมีทั้งสัมมาทิษฐิ และมิจฉาทิษฐิ หากโยม (หมายถึงผม) หากต้องไปปฏิบัติธรรมหรือต้องเดินทางไปในถิ่นที่ห่างไกลแล้วก็ให้นำติดตัวไปด้วย... ท่านกล่าวเพียงแค่นี้แล้วก็มอบวัตถุมงคลนั้นให้ผมไว้

    ผมถามว่า...วัตถุมงคลนี้ท่านมาอย่างไร
    พระอาจารย์ตอบว่า... มาวางอยู่บนพานบนโต๊ะพระในกุฏิท่านเอง ไม่ทราบว่าใครเอามาให้

    เมื่อได้เวลาสมควร ผมก็กราบลาท่านกลับ ท่านเมตตาเดินลงมาส่ง แล้วกล่าวว่าตามอาตมามาหน่อย... ท่านก็เดินไปที่ต้น "นาคราช" นั้น ลูกแก้วนั้นก็ยังอยู่ที่เดิม ท่านจึงหยิบออกมาแล้วมอบให้ผมไว้บูชาครับ


    จบนิทานแล้วครับ... ธรรมะสวัสดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 27 ธันวาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...