###พระกริ่งดีหลวงพระกริ่งที่กลายเป็นตำนานที่กล่าวขาน###หมดเเล้วทุกเนื้อ

ในห้อง 'กระทู้เก่า' ตั้งกระทู้โดย jummaiford, 11 มกราคม 2009.

  1. jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,941
    สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทว) วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพมหานคร ผู้ทรงเชี่ยวชาญในการสถาปนาพระกริ่ง และพระชัยวัฒน์ทรงเล่าถึงมูลเหตุแห่งแรงบันดาลใจในการสร้างพระกริ่งของพระองค์ท่านว่า เมื่อพระองค์ทรงสมณศักดิ์เป็นพระศรีมหาโพธิ์ครั้งนั้น สมเด็จพระวันรัต (แดง) สมเด็จพระอุปัชฌาย์ของพระองค์ยังมีชีวิตอยู่และครั้งหนึ่งสมเด็จพระวันรัต (แดง) ได้อาพาธเป็นอหิวาตกโรค สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรสครั้งยังทรงเป็นกรมหมื่นเสด็จมาเยี่ยม เมื่อสั่งถามถึงอาการของโรคเป็นที่เข้าพระทัยแล้ว รับสั่งว่าเคยเห็นกรมพระยาปวเรศฯ สมเด็จพระอุปัชฌาย์ของพระองค์อาราธนาพระกริ่งแช่น้ำอธิษฐาน ขอน้ำพระพุทธมนต์ให้คนไข้เป็นอหิวาตกโรคกินหายเป็นปกติ พระองค์จึงรับสั่งให้มหาดเล็กที่ตามเสด็จ ไปนำพระกริ่งที่วัดบวรนิเวศ แต่สมเด็จฯ ทูลว่าพระกริ่งที่กุฏิมี สมเด็จสมณเจ้าจึงรับสั่งให้นำมาแล้ว อาราธนาพระกริ่งแช่น้ำอธิษฐานขอน้ำพระพุทธมนต์แล้วนำไปถวายสมเด็จพระวันรัต (แดง) เมื่อท่านฉันน้ำพระพุทธมนต์โรคอหิวาต์ก็บรรเทาหายเป็นปรกติ โดยพระกริ่งที่อาราธนาขอน้ำพระพุทธมนต์นั้นเป็นพระกริ่งเก่าหรือไม่ ก็คงเป็นพระกริ่งของสมเด็จกรมพระยาปวเรศฯ องค์ใดองค์หนึ่ง
    ตั้งแต่นั้นมา พระองค์ก็เริ่มสนพระทัยในการสร้างพระกริ่งนี้ขึ้นเป็นลำดับ โดยการสร้างพระกริ่งสมเด็จฯ จะได้รับตำราการสร้างพระกริ่งมาจากผู้ใดนั้นปรากฏหลักฐานตามหนังสือหลายเล่มได้สันนิษฐานไว้เป็นสองทาง คือ บางเล่มก็สันนิษฐานว่าได้รับตำรามาจาก “พระพุฒาจารย์” (มา) วัดจักรวรรดิราชาวาส บางเล่มก็สันนิษฐานว่าได้รับตำรามาจาก “พระมงคลทิพย์มณี” (เทียบ) วัดพระเชตุพนฯ
    สมเด็จฯ ภายหลังจากที่ได้รับตำราการสร้างพระกริ่งมาแล้วพระองค์ก็ทรงค้นคว้า มุ่งแสวงหาแร่ธาตุที่มีคุณมีอิทธิฤทธิ์ต่าง ๆ มาทดลองหล่อผสม หาวิธีการที่จะทำเนื้อโลหะ ให้เกิดความบริสุทธิ์และมีฤทธิ์สมดังคำบรรยายที่มีเขียนไว้ในตำรา และทรงค้นควาอย่างจริงจังดังปรากฏตามคำบอกของท่านเจ้าคุณราชวิสุทธาจารย์ (แป๊ะ) วัดสุทัศน์ฯ และอาจารย์นิรันดร์ แดงวิจิตร ว่า เมื่อคราวจัดงานพระศพของเจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้ลงไปใต้ถุนตำหนัก เพื่อสำรวจสถานที่ที่เตรียมจัดงานพระศพได้พบก้อนแร่หลายชนิด พบอ่างเคลือบประมาณ 10 กว่าใบ พบครกเหล็กขนาดใหญ่วัดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 14 นิ้วฟุต มีรอยตำมาอย่างมากจนก้นทะลุ พบสูบนอนทำด้วยไม้สัก แต่ผุจวนจะหมด แสดงว่าเลิกค้นคว้ามานาน พบเบ้าหลอมแร่ที่แตก ๆ จำนวนมากเป็นกองโต พร้อมกับก้อนแร่เป็นจำนวนมาก เป็นที่น่าเสียดายว่าขณะนั้นเป็นการเวลาที่รีบเร่ง เพราะกำลังจัดงานพระศพ ประกอบกับการเสียใจในการจากไปของท่าน ทำให้ผู้ที่พบทั้งสองท่านไม่ได้คิดว่าจะอนุรักษ์ความเพียรพยายามของสมเด็จฯ ไว้ให้อนุชนรุ่นหลังดูจึงได้ทำการเกลี่ยดินและกระทุ้งจนแน่น เทพื้นซีเมนต์ทับ ทำให้หลักฐานหมดไปอย่างน่าเสียดาย เมื่อทรงพระชนม์อยู่เคยรับสั่งกับอาจารย์นิรันดร์ แดงวิจิตร ขณะอุปสมบทว่า “ค้นหาแร่ธาติที่นำมาสร้างพระกริ่ง ถ่านหมดไปหลายลำเรือ เป็นความจริงตามหลักฐานปรากฏ และเป็นหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่าทรงพยายามค้นคว้าอย่างจริงจัง ด้วยเจตนาที่ต้องการความเข้มขลัง <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff></TD></TR><TR><TD class=bot2 bgColor=#f9f9f9 height=25>Rboonluen511(1).jpg </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,941
    อนึ่ง คำว่า"กริ่ง"นี้ สมเด็จพระสังฆราชแพ ติสฺสเทวมหาเถระ วัดสุทัศนเทพวราราม เคยรับสั่งเสมอว่า “กริ่ง” นี้มาจากคำถามที่ว่า “กึ กุสโล” ซึ่งแปลว่า "นี้เป็นกุศลอะไร..???"คือเมื่อพระโยคาวจรบำเพ็ญสมณธรรม มีจิตผ่านกุศลธรรมทั้งปวงเป็นลำดับไปแล้ว ถึงขึ้นสุดท้าย จิตเสวยอุเบกขา เวทนา ปฺญญาภิสังขารเปลี่ยนไป อเนญชา เป็นเหตุให้พระโยคาวจาร เอะใจขึ้นใจ “กึ กุสโล” (นี้เป็นกุศลอะไร) เพราะเป็นธรรมที่เกิดขึ้นแปลกประหลาดไม่เหมือนกับกุศลอื่นที่ผ่านมา ดังนั้นคำว่า "กึ กุสโล" จึงเป็นชื่อของ "อเนญชา" คือ “นิพฺพุติ” แปลว่า “ดับสนิท” คือหมายถึง "พระนิพพาน" นั่นเอง
    <!-- / message -->
     
  3. jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,941
    อนึ่ง ในการสร้าง "พระกริ่งไทย" ตามมติของสมเด็จพระสังฆราชแพ ซึ่งน่าสืบทอดต้นวิชามาจากตำรับของสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว แห่งกรุงศรีอยุธยานั้น ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราช (แพ) ทรงจารพระยันต์ 108 นะ 14 ด้วยเนื้อนวโลหะอันได้แก่ พระยันต์ประทุมจักร พระยันต์พระควัมบดี พระยันต์พระไตรสรณคม พระยันต์นวโลกุตรธรรม พระยันต์พระนรา พระยันจตุราริยสัตย์ พระยันต์รัตนตรัย พระยันต์จักรสิรโลก พระยันต์มงกุฎพระพุทธเจ้า พระยันต์พระบารมี 30 ทัศ พระยันต์สุกิตติมา พระยันต์ปถมัง พระยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ พระยันต์องครักษ์ พระยันต์โสฬสมงคล พระยันต์พระพุทธคุณ พระยันต์นวภา พระยันต์พระชฎามหาพรหม พระยันต์จตุโร เป็นอาทิ และยังมีนะปถมังอีก 14 นะ ดังนี้คือ นะบังสมุทร นะนาคบาศก์ นะวชิราวุธ นะทน นะกำจาย นะปรีชาทุกทิศ นะครอบจักรวาล นะบังไตรภพ นะบังเมฆา นะสะท้านดินไหว นะกำจัด นะปิด นะปิดอากาศ นะล้อม เป็นต้น ซึ่งเป็นที่รู้จักกันเจนตาเจนใจและสร้างตามอย่างกันแพร่หลายทั่วไปในขณะนี้...
    <!-- / message -->
     
  4. jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,941
    ในคติฝ่ายมหายาน แสดงว่ามีพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งสถิตอยู่เป็นนิรันดรในสรวงสวรรค์ คือ พระสยัมภูพุทธเจ้า หรือ พระอาทิพุทธเจ้า และมีพระพุทธเจ้าอีก ๕ พระองค์ เกิดด้วยอำนาจญาณสมาบัติทั้ง ๕ ของพระอาทิพุทธเจ้า สถิตอยู่ในสวรรค์เช่นเดียวกัน เรียกว่า พระธยานิพุทธเจ้า ๕ พระองค์.

    ๑. พระไวโรจนะ ทำหัตถ์อย่างปางปฐมเทศนา

    ๒. พระอัฏโษภยะ ทำหัตถ์อย่างปางมารวิชัย

    ๓. พระรัตนสัมภวะ ทำหัตถ์อย่างปางประทานพร

    ๔.พระอมิตาภะ ทำหัตถ์อย่างปางสมาธิ

    ๕. พระอโมฆสิทธะ ทำหัตถ์อย่างปางประทานอภัย.

    ต่อมา มีเพิ่มขึ้นมาใหม่อีกปางหนึ่ง เรียกว่า พระไภษัชคุรุ ทำพระหัตถ์อย่างปางสมาธิ ถือวชิระ ดูเป็นหม้อน้ำมนต์หรือสมอไปบ้าง เป็นต้นแบบพระกริ่งทั้งปวง.

    พระพุทธเจ้าเหล่านี้ เป็นผู้บันดาลให้พระโพธิสัตว์จุติลงมาเกิดเป็นพระมนุษยพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าของเราทั้งหลาย หรือแม้พระพุทธเจ้า ๒๘ พระองค์ ตลอดจนถึงพระศรีอารย์ที่จะตรัสรู้ข้างหน้าเป็นพระมนุษยพุทธเจ้าทั้งนั้น
    แม้...พระไภษัชคุรุ บางพวกถือว่า เป็นพระมนุษยพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งด้วยเช่นกัน....





    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff></TD></TR></TBODY></TABLE>

    ด้วยปฐมเหตุดังกล่าวแล้ว พุทธศาสนิกชนฝ่ายมหายานจึงนิยมสร้างรูปแห่งองค์พระไภสัชยคุรุไว้บูชาประจำพระอารามต่างๆ ส่วนมากจะมีขนาดใหญ่ นอกจากนั้นแล้ว ก็ยังได้จำลองให้มีขนาดเล็กกระทัดรัด เหมาะแก่การพกติดตัวไปยังสถานที่ต่างๆ เผื่อว่า หากเมื่อถึงคราวจำเป็น จักได้นำมาบูชาทำน้ำพระพุทธมนต์บำบัดความทุกข์ลำเค็ญให้ปลาสนาการไป
    สำหรับพุทธลักษณะของพระไภสัชยคุรุนั้น เป็นพระปางมารวิชัยคล้องลูกประคำที่พระศอเฉวียงพระพาหา พระหัตถ์ซ้ายถือเครื่องพุทธบริโภค อาทิ วัชระ,คนโทน้ำอมฤต หรือวชิระ ประทับบนดอกบัว ซึ่งถือกันว่าเป็นครรภธาตุมณฑล อันเป็นสัญลักษณ์ของโพธิจิตแห่งคัมภีร์มหาไวโรจนสูตร <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff></TD></TR><TR><TD class=bot2 bgColor=#f9f9f9 height=25>ansPic_4199_1.jpg </TD></TR></TBODY></TABLE>


    สำหรับจุดประสงค์ในการสร้างพระกริ่ง(แบบดั้งเดิม) นั้น ก็เพื่อให้บังเกิดมีกฤตยาคุณอาถรรพ์และอภินิหาร ซึ่งตามคัมภีร์มันตรยานเรียกว่า "จตุรอาถรรพ์" มี 4 ประการคือ
    1.สร้างความสงบสุข ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ บำบัดภัยจากคน ภัยจากธรรมชาติและภัยจากเขี้ยวงาทั้งปวง
    2.สร้างความสุขสมบูรณ์ อุดมในทรัพย์สิน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง และกันเสนียดจัญไรทั้งปวง
    3.กำราบปราบศัตรู ต่อผู้คิดร้ายและสร้างอำนาจทุกอย่าง
    4.สร้างความเมตตามหานิยม สร้างความเคารพรักใคร่และชื่อเสียงเกียรติคุณในอาชีพและวงศ์ตระกูล
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff></TD></TR></TBODY></TABLE>


    ส่วนการบรรจุ"ผลคุณ"หรือ"เม็ดกริ่ง"ในองค์พระกริ่ง ซึ่งได้อนุวัตรตามคติมหายานที่เมื่อมีการประกอบพิธีกรรม ก็ต้องมีการสั่นกระดิ่งหรือเคาะระฆังให้มีเสียงดัง ด้วยหมายจะให้เสียงกระดิ่งหรือเสียงระฆังนั้นจะได้ดังไปถึงเทพพรหมหรือพระบนสรวงสวรรค์ จะได้เสด็จลงมาร่วมพิธีกรรมหรืออวยชัยให้พรแผ่พระบารมีลงมาบันดาลให้เกิดความขลังความสำเร็จศักดิ์สิทธิ์สมดังที่ปรารถนา
    ด้วยเหตุนี้ เมื่อได้มีการสร้างพระพุทธปฏิมาขึ้นในกาลต่อมา จึงได้นำคติดังกล่าวมาแปลงใส่ โดยใส่เม็ดกริ่งเข้าในในองค์พระซึ่งมีช่องกลวงอยู่ภายใน โดยเมื่อประสงค์จะอธิษฐานหรือขอพรแล้วยกขึ้นสั่นหรือเขย่าแล้ว จะมีเสียงดังกริ๊กๆได้ยินไปถึงพระบนชั้นฟ้า ก็จะรับพระพรและความสำเร็จสมดังมโนรถที่ปรารถนาดุจเดียวกับการเคาะระฆังหรือสั่นกระดิ่งดังกล่าวข้างต้น


    อนึ่ง การที่สร้าง"ผลคุณ"หรือ"เม็ดกริ่ง"นี้ ปรากฏจุดมุ่งหมายแบบโบราณดั้งเดิมเป็น 2 นัยยะคือ
    1.พื่อให้เป็นสัญลักษณ์แห่งพุทธภาวะอันมีคุณลักษณะเป็นอนาทิ คือความเบื้องต้นไม่ปรากฏ อนันตะแผ่ซ่านอยู่ทั่วไป แม้เบื้องปลายก็ไม่ปรากฏ จึงทำเป็นเม็ดกลม
    2.อนุวัตรตามคติที่ว่า แม้เพียงได้สดับพระนามแห่งองค์พระไภสัชยคุรุ ก็อาจเกิดความสวัสดีได้ จึงได้บรรจุเม็ดกริ่งไว้ในองค์พระกริ่ง เพราะเมื่อสั่นองค์พระทุกครั้ง ก็จะได้บุญ 2 ต่อ คือผู้สั่นเท่ากับได้เจริญภาวนาถึงพระไภสัชยคุรุ ส่วนที่ผู้ที่ได้ยินเสียงกริ่ง ก็พลอยได้บุญตามไปด้วย


    เม็ดกริ่ง" ซึ่งประกอบด้วย "ปัญจโลหะ" 5 อย่าง ซึ่งถือว่า "เป็นสื่อของไสยศาสตร์"และ"มีเทวดารักษา" อันประกอบด้วย
    1.เหล็ก (เทียนเถียะ)
    2.ปรอท
    3.ทองแดง
    4.เงิน(งึ่นบ้อ)
    5.ทองคำ
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff></TD></TR></TBODY></TABLE>

    ผลคุณ"หรือ"เม็ดกริ่ง" ที่สร้างด้วย"ปัญจโลหะ" 5 ชนิดตามคติโบราณดั้งเดิมนั้น ท่านหมายให้เป็นสัญลักษณ์ถึง "พระพุทธเจ้า 5 พระองค์" แห่งมหายาน กล่าวคือ
    1.พระไวโรจนพุทธะ เป็นศูนย์กลาง เทียบด้วยวิมลจิตของสรรพสัตว์
    2.พระรัตนธวัชพุทธะ เทียบด้วยอาลัยวิญญาณ
    3.พระมุกดาบุษปราชาพุทธะ เทียบด้วยมโนธาตุ
    4.พระอมิตาภะพุทธะ เทียบด้วยมโนวิญญาณ
    5.พระพุนทุภิเมฆนิรโฆษพุทธะ เทียบด้วยปัญจวิญญาณ
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff></TD></TR><TR><TD class=bot2 bgColor=#f9f9f9 height=25>DSC00703.gif </TD></TR></TBODY></TABLE>
    หมายเหตุ, ก่อนที่จะผ่านตรงนี้ไป ก็ต้องขอขอบพระคุณนิตยสารที่มาของข้อมูล,รูปภาพทั้งหลายที่ได้อ้างอิง เพื่อเป็นหลักฐานในทางประวัติศาสตร์อันแท้จริงแห่ง"พระกริ่งโบราณ" เพื่อเป็นวิทยาทานที่ถูกต้องและสมบูรณ์แบบที่สุดสืบไปโดยทั่วกัน อาทิ "อภินิหารและพระเครื่อง","อุณมิลิต","ลานโพธิ์", ยูอมูเล็ตดอทคอม,อิทธิญาโณดอทคอม,phuttawong.netเป็นต้นด้วยครับ <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <!-- / message -->

    <!-- / message -->
     
  5. จิตตานุปัสสนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,840
    ค่าพลัง:
    +16,082
    เคยอ่านเรื่องพระกริ่งที่คุณเนาว์ นรญาณเคยจัดสร้างในเว็บ phuttawong.net แล้ว
    ก้ออลังการงานสร้างอย่างยิ่งครับ
    มาเจอของคณะหมอฟอร์ดทำก้อยิ่งใหญ่ปานกัน สาธุมา ณ ที่นี้
    นะโม โพธิสัตโต อาคันติมานะ อิติภะคะวา
    นะโม โพธิสัตโต พรหมปัญโญ
    สาธุ
     
  6. jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,941
    ขออนุโมทนาบุญนะครับ ทุกอย่างพระกริ่งรุ่นนี้จัดสร้างด้วยความปราณีตในพิธีกรรมเเละเนื้อหามวลสารเเละอนุรักษ์ผิวไฟเดิมๆของพระไว้เพื่อให้รู้ว่านี่คือพระกริ่งเทดินไทยทุกองค์ไม่มีการเหวี่ยงการฉีดหรือหล่อพระนอกพิธีเด็ดขาดเพราะนี่คือความตั้งใจเเละจัดสร้างด้วยความรักเเละเทิดทูนองค์บูรพาจารย์
     
  7. jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,941
    พระกริ่งดีหลวงขณะนี้หมดทุกเนื้อเเล้วกรุณาอย่าสอบถามเรื่องการจองเพราะหมดเเล้วจริงๆขออนุโมทนากับทุกๆท่านด้วยนะครับ
    และทางชมรมคนรักหลวงปู่ทวดจะจัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายทั้งหมด

    ส่วนเรื่องการรับพระให้รับได้หลังวันที่6เมษายน2551ซึ่งจะยอยจัดส่งไปนะครับ


    และท่านที่พลาดโอกาสจากพระกริ่งดีหลวงไม่ต้องเสียใจนะครับเพราะมีพระกริ่งส.โสภณ พระกริ่งครบรอบ8รอบ ของหลวงปู่ถม วัดเชิงท่า ลพบุรี ซึ่งท่านเป็นศิษย์สมเด็จพระสังฆณาชแพเเท้ๆซึ่งจัดสร้างพิธีเดียวกันกับพระกริ่งดีหลวงทั้งยังมีมวลสารที่ใกล้เคียงเเต่เน้นที่มวลสารสายอยุธยาเเละลพบุรีอีกทั้งมีของสำคัญสายตรงสมเด็จพระสังฆราชแพบรรจุไว้อีกไว้จะเเจงรายละเอียดให้ฟัง
    <!-- / message -->
     
  8. jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,941


    พระกริ่ง ส โสภณ ด้านหน้า



    พระกริ่ง ส โสภณ ด้านหลัง
     
  9. อัสดงส์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,319
    ค่าพลัง:
    +3,697
    อุนโมทนาครับ
     
  10. ponglungwang Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    111
    ค่าพลัง:
    +72
    ขอโมทนาแด่ทุก ๆ ท่าน ขอให้ได้รับความสุขความสำเร็จสูงสุด
    ทั้งทางโลกและทางธรรม ตราบเข้าสู่พระนิพพานได้จริงด้วยเทอญ
    เอวังโหตุ ขอโมทนาสาธุ สาธุขอโมทนามิ
     
  11. Noo Norway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    23,623
    ค่าพลัง:
    +82,120
     
  12. jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,941
     
  13. jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,941
    กลายเป็นตำนานเเล้วจริงๆสำหรับพระกริ่งดีหลวงกว่าหลายเดือนที่เปิดจองขออนุโมทนากับผู้ที่จองไว้เเรกๆเลยว่าตั้งเเต่ยังไม่เห็นรูปเเบบก็เริ่มจองกัน จนมาวันนี้ทางชมรมคนรักหลวงปู่ทวด พยายามสร้างพระกริ่งดีหลวงรุ่นนี้ให้ถึงขีดสุดเพื่อสมกับความตั้งใจของผู้ทำบุญบูชา ดังนั้นพระกริ่งดีหลวงรุ่นนี้หลังจากเททองเเละอุดมวลสารปิดฐานเเละตอกโค๊ตเเละหมายเลขเสร็จจะอัญเชิญพระกริ่งทั้งหมดเเช่น้ำพระพุทธมนต์ รวมทั้งจะนำพระกริ่งนี้ถวายให้พระเถราจารย์ที่ทรงวิชชาเเละวิมุติเท่าที่เป็นไปได้อธิษฐานจิตอย่างเต็มที่เพราะพระกริ่งเป็นของสูงสร้างเเล้วต้องทำให้ดีสมศักดิ์เเละศรีทุกประการ
     
  14. HellBoy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    3,316
    ค่าพลัง:
    +2,192
    พระกริ่งรุ่นนี้ ผมได้ถวายตะกรุดเงินสองดอก ดอกโตอ้วน 1 ดอก
    ดอกผอมยาวห้านิ้ว 1 ดอก
    และแผ่นจาร 1 แผ่น

    ซึ่งหลวงปู่ทอง วัดเกาะ ศิษย์สมเด็จพระสังฆราชแพแท้ๆ ได้ร่วมหล่อ ได้ดูฤกษ์พร้อมสมเด็จพระสังฆราชแพและรุ่นน้องท่านคือ อาจารย์เทพสาริกบุตร

    และยังได้ร่วมหล่อพระกริ่งพร้อมท่านเจ้าคุณศรี(สนธิ์)

    ซึ่งตะกรุดดังกล่าวได้ลงจารด้วยมือท่านเองแท้ๆ ก่อนที่ท่านจะเข้าโรงพยาบาลครับ


    ลงบันทึกไว้เพื่อเป็นข้อมูลสืบไป ครับ
     
  15. jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,941
    อนุโมทนานะครับ
     
  16. jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,941
    ให้อดใจรอนะครับใกล้คามจริงเเล้วนะครับ
     
  17. jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,941
  18. hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,332
    ค่าพลัง:
    +10,468
    อนุโมทนาสาธุกับคุณหมอ,คุณป๋อง และทุกๆท่านที่ร่วมบุญนี้ค่ะ


    .
     
  19. jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,941
    เมื่อวานไปดูหุ่นที่ปั้นด้วยดินเเละพอกขี้ผึ้งขององค์หลวงพ่อทวดหน้าตัก3เมตรกว่าสูง4เมตร องค์ประวัติศาสตร์ ที่จะ หล่อขึ้น ณ วัดดีหลวง วัดบ้านเกิดซึ่งงานปั้นราบรื่นดี ปั้นหลวงพ่อทวดได้ใกล้เคียงองค์หน้าตักเท่าจริงที่สร้างไว้เป็นต้นเเบบวันนี้จะเข้าไปวัดดีหลวงตอนเที่ยงคืนเพื่อตรวจดูงานปั้นอีกครั้งหลังจากเเต่งขี้ผึ้งเสร็จ
     
  20. ten@hotmail.com เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2006
    โพสต์:
    249
    ค่าพลัง:
    +1,335
    สุดยอดจริงๆๆๆๆๆ ครับ

    โมทนา สาธุด้วยครับ...
     

แชร์หน้านี้