พระกรุลป.แบนเศรษฐีเรือทองรูปหล่อพระสมเด็จไตรมาสลพ.คงพระสมเด็จวัดสิงห์สุทธาวาสปี ๒๕๑๖ พิธีใหญ่

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Jumbo A, 17 สิงหาคม 2022.

  1. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,482
    ค่าพลัง:
    +21,327
    FB_IMG_1721904904781.jpg FB_IMG_1721904907571.jpg
    พระสมเด็จไตรมาสลพ.คงและรูปหล่อไตรมาสหลวงพ่อคง
    ประวัติ หลวงพ่อคง จตฺตมโล
    วัดเขาสมโภชน์ จ.ลพบุรี
    หลวงพ่อคง จตฺตมโล ท่านมีนามเดิมว่า คง นามสกุล บุญเอก ท่านถือกำเนิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 เดือน มีนาคม พ.ศ. 2456 ซึ่งตรงกับวันอังคาร ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 ปีฉลู ณ หมู่บ้าน โนนพุดซา ตำบลกระชอน อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา
    โยมบิดาของท่านมีนามว่า ดี โยมมารดามีนามว่า แจ้ง นามสกุล บุญเอก ซึ่งมีอาชีพกสิกรรมทำนาทำไร่ ท่านถือกำเนิดเกิดมาเป็นทายาทคนที่ 2 ในบรรดาพี่น้องทั้งหมด 9 คน จนถึงปัจจุบันนี้ ก็มีแต่พวกน้อง ๆ ที่เป็นหญิง ซึ่งมีเพียง 6 คนเท่านั้นที่ยังมีชีวิตอยู่ นอกจากนั้นถึงแก่กรรมไปตามกาลเวลา
    ในการการศึกษา ในปฐมวัยหลวงพ่อเคยเป็นเด็กวัดหัดเรียนเขียนอ่านอักษรธรรม อักษรขอมและอักษรไทยในระยะเวลา 2 ปี แต่จำต้องมาช่วยบิดามารดาในการประกอบอาชีพกสิกรรมทำไร่ไถนา
    ต่อมาเมื่ออายุครบกำหนด 20 ปี จึงได้มีการเข้าวัดไปเป็นนาค แล้วได้รับการอุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนาแล้ว ท่านก็ได้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนพระปริยติธรรมอยู่เป็นเวลา 3 พรรษา และได้ขออนุญาติจากโยมบิดามารดา เพื่อเดินทางลงมาศึกษาต่อที่กรุงเทพฯ แต่ท่านก็ไม่ได้รับอนุญาติจากโยมบิดามารดา ท่านจึงไม่มีโอกาสเดินทางลงมาศึกษาเล่าเรียนดังที่ตั้งใจไว้
    ดังนั้นท่านจงลาสิขาจากเพศบรรพชิตออกไปดำรงวิถีชีวิตอยู่ในเพศฆราวาสวิสัย ซึ่งในที่สุดท่านก็ได้แต่งานมีครอบครัวไป โดยตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนอยู่ที่อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ท่านมีบุญธิดารวมทั้งหมด 7 คน แต่ถึงแก่กรรมไปแล้วตั้งแต่เด็ก ๆ 1 คน จึงยังคงเหลือบุตรธิดาที่มีชีวิตอยู่ต่อมาเพียง 6 คนเท่านั้น ซึ่งทุกคนต่างก็ได้แต่งงานมีครอบครัวเป็นหลักปักฐานไปหมดทุกคนแล้ว
    ต่อมาในช่วงเวลาที่หลวงพ่อคง ท่านยังอยู่ในเพศฆราวาส ในปี พ.ศ. 2504 นั้น ก็ได้มีพระคุณเจ้า หลวงพ่อพระมหาธนิต ปญญาปสุโต ปธ.9 นักวิปัสสนาจารย์ชื่อดังได้เดินธุดงค์มาและ ได้เข้าจำพรรษาสอนวิปัสสนาแก่ญาติโยม อุบาสกอุบาสิกาและพุทธศาสนิกชนทั่วไปที่อยู่วัดบัวใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราชสีมา ซึ่งเป็นเวลาที่หลวงพ่อคงยังเป็นอุบาสก คง อยู่นั้นเอง ท่านเป็นคนหนึ่งที่ได้น้อมกายใจ เข้าไปรับการปฏิบัติธรรมเจริญวิปัสสนากรรมฐานกับหลวงพ่อมหาธนิตอย่างเคร่ง ครัดอยู่เป็นเวลา ถึง 7 ปี
    เมื่อมีศรัทธาแก่กล้า อุบาสกคง บุญเอก จึงได้ตัดสินใจสละเหย้าเรือน ออกไปมอบกายถวายตนเข้ารับการอุสมบทเป็นภิกษุในพระพุทธศาสนาอีกหน ณ พัทธสีมา วัดบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 12 เพื่อพฤษภาคม พ.ศ. 2511 โดยมีพระเดชพระคุณท่านคุณ พระปทุมญาณมุนี วัดบัวใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัด นครราชสีมา เป็นพระอุปชฌาย์ ซึ่งเป็นผู้ทำการอุปสมบทให้
    ต่อมาหลังจากออกพรรษแล้ว ตกมาถึง ปี พ.ศ. 2516 หลวงพ่อได้ดำรงปฏิปทาเป็นพระป่าออกสัญจรธุดงค์ไปตามป่าเขาลำเนาไพรอยู่ เรื่อยมาจนถึงลุถึงซึ่งดินแดนถิ่นป่าใหญ่ มวลหมู่พฤกษาร่มรื่นน่าอภิรมย์ ซึ่งเป็นสถานที่ถูกกกับจริยาวัตรสำหรบนักปฏิบัติธรรมในการเจริญภาวนากรรมฐาน หลวงพ่อคงท่านได้เข้าอาศัยอยู่ถ้ำพระอรหันต์ ตามนิมิต ได้ทำการเจริญจิตภาวนา แล้วก็เลยอยู่จำพรรษา ณ สถานที่วิเวกแห่งนั้น ในพรรษที่ 6
    และแล้วหลวงพ่อคงท่านก็ได้ยึดสถานวิเวกแห่งนั้นในการปฏิบัติธรรมอยู่จำพรรษา เรื่อยมาจนถึงกาลเวลามรณภาพไปด้วยอาการอันสงบ ในวันที่ 13 ธันวาคม 2536 ณ โรงพยาบาลศิริราช อายุรวมกัน ได้ 80 ปี 9 เดือน 3 วัน 26 พรรษา
    ขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    พระสมเด็จไตรมาสหลวงพ่อคง เขาสมโภชน์และรูปหล่อไตรมาสหลวงพ่อคง ๒ องค์ ผู้บูชา 350 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
    FB_IMG_1721904913444.jpg FB_IMG_1721904910610.jpg FB_IMG_1721904916755.jpg IMG_20240725_175337.jpg IMG_20240725_175407.jpg IMG_20240725_175425.jpg IMG_20240725_175450.jpg IMG_20240725_175258.jpg
     
  2. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,482
    ค่าพลัง:
    +21,327
    FB_IMG_1721935703591.jpg

    เหรียญมั่งมีเงินทองชิตังเมหลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม
    หลวงพ่อเที่ยง เจ้าอาวาสวัดม่วงชุม อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ท่านเป็นหลานของหลวงปู่เปลี่ยน วัดไชยชุมพลชนะสงคราม ( หลวงพ่อวัดใต้ ) ซึ่งท่านได้รับถ่ายทอดวิชามาจากหลวงพ่อวัดใต้โดยตรง เมื่อสมัยนั้นมีงานพิธีพุทธาภิเษกที่ไหน หลวงพ่อเที่ยงท่านจะได้รับนิมนต์ไปไม่เคยขาด เพราะเหตุนี้ท่านจึงได้เป็นสหธรรมิกกับหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี เนื่องจากท่านจะได้เจอกันในงานพุทธาภิเษกอยู่เป็นประจำ
    หลวงพ่อเที่ยง ท่านจะขึ้นชื่อสุด ๆ ในเรื่องเหนียว ทั้งมีดทั้งปืน เล่ากันว่าของ ๆ ท่านเวลานำออกมาจากพิธี ก็ลองกันตรงนั้นเลย วัตถุมงคลของท่านจึงโด่งดังเป็นที่เล่าขานกันมาก เคยมีทหารใส่เหรียญของท่านไปขับเฮลิคอปเตอร์ แล้วเฮลิคอปเตอร์ตกทหารคนนั้นรอดตายมาได้ราวกับปาฏิหาริย์ วัตถุมงคลที่มีชื่อเสียงโด่งดังและผู้คนนิยมเล่นหามากที่สุดของท่าน ก็คือตะกรุดหนังเสือเพราะใช้ดีมีประสบการณ์ ในด้านคงกระพันชาตรีและเหนียวสุด ๆ หลวงพ่อเที่ยงท่านเคยไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง จ.นครปฐม ท่านจึงเป็นศิษย์พี่สำนักเดียวกับหลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม ซึ่งท่านจะสนิทสนมกับหลวงพ่อเต๋ ( หลวงพ่อเต๋ท่านก็ทำตะกรุดหนังเสือเช่นเดียวกัน แต่จะแตกต่างกันที่ลายถักเชือก ) ตะกรุดของหลวงพ่อเที่ยงแท้ ๆ นั้นหายากมาก ๆ เพราะตามตำราของท่านต้องทำมาจากหนังเสือ ตะกรุดของท่านจึงมีน้อย วัตถุมงคลของหลวงพ่อเที่ยงนั้น เป็นที่นิยมกันในหมู่นักสะสม เพราะมีประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์กันโดยทั่วไป โดยเฉพาะวัตถุมงคลที่เกี่ยวกับเสือ ทั้งตะกรุดหนังเสือ เหรียญรุ่นเสือเผ่น หลวงพ่อเที่ยงท่านได้ สร้างเหรียญรุ่นแรกเมื่อ ปีพ.ศ.2508
    การทำตะกรุดหนังผากเสือ หลวงพอเที่ยง วัดม่วงชุม อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ท่านสร้างไว้มากพอสมควร วิธีการทำตะกรุดของหลวงพ่อนั้นเริ่มจากท่านออกธุดงค์เป็นเวลานานหลายสิบปี มีกะเหรี่ยงที่นับถือท่านเอาหนังหน้าผากเสือไฟและเสือโคร่งมาถวายกับท่านหลายผืน เมื่อท่านกลับมาอยู่วัดจึงตัดออกเป็นชิ้นเล็กๆขนาดมัดตะกรุดได้ โดยให้แยกหนังหน้าผากเสือไว้ส่วนหนึ่ง ส่วนหนังทั้งตัวเสือ หลวงพ่อลงอักขระคาถาแผ่นตะกรุดแล้วม้วนใช้เชือกมัดหัวท้ายตะกรุดจากนั้นทารักเป็นตัวจับยึดให้แน่นแล้วนำไ ปปลุกเสกเฉพาะวันอังคารกับวันเสาร์จนครบไตรมาส จึงนำไปแจกจ่ายญาติโยมที่ศรัทธาต่อไป
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ ชิตังเมเงินทองมั่งมี ลิงถวายแหวน

    ให้บูชา 350 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20240726_022959.jpg IMG_20240726_023031.jpg
     
  3. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,482
    ค่าพลัง:
    +21,327
    08--1--70--4--72--64 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ตามเบอร์โทรศัพท์ หรือ @ line

    บัญชีธนาคาร กรุงไทย 125-00-89-239
    Supachai thu
    โอนแล้วแจ้งบอก ทางข้อความ พร้อมที่อยู่จัดส่ง ป้อง กัน การเอาข้อมูลจากมิจฉาชีพครับ
     
  4. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,482
    ค่าพลัง:
    +21,327
    FB_IMG_1722009866673.jpg

    พระพุทธกวักพระกรุหลวงปู่แบน เศรษฐีเรือทอง
    ประวัติ หลวงปู่แบน จนฺทสโร
    หลวงปู่แบน จนฺทสโร เดิมจำพรรษาวัดตาลเจ็ดชื่อ ตำบลย่านซื่อ อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง เริ่มจำพรรษาอยู่ที่วัดพุน้อย เมื่อปี พ.ศ. 2513 หลวงปู่แบนมีความรู้เรื่องยาสมุนไพรจึงรักษาญาติโยมด้วยยาแผนโบราณ และเริ่มนำชาวบ้านพุน้อยก่อสร้างเสนาสนะ
    สถานะ : แบน คุณหิรัญ
    สัญชาติ : ไทย
    ที่อยู่ : ตำบลย่านซื่อ อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง
    บิดาชื่อ : นายมี คุณหิรัญ
    มารดาชื่อ : นางเวียน คุณหิรัญ
    หลวงปู่แบน เริ่มจำพรรษาอยู่ที่วัดพุน้อยเมื่อ พ.ศ. 2513 ขณะนั้นมีพระจำพรรษาอยู่ 3 รูป หลวงปู่แบน มีความรู้เรื่องยาสมุนไพร จึงรักษาญาติโยมที่เจ็บป่วยด้วยยาแผนโบราณ
    หลวงปู่แบน จนฺทสโร แห่งวัดพุน้อย ตำบลชอนม่วง อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี พระเกจิอาจารย์ต้นตำรับแห่งการปลุก เสก สร้าง “เรือแม่ตะเคียนทอง” ที่โด่งดังที่สุด เนื่องจากในอดีตกาลที่หลวงปู่แบนยังเป็นฆราวาส ได้อาศัยประกอบอาชีพค้าขายอยู่ในเรือสำปั้น ล่องไปตามแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งอดีตหลวงปู่แบนท่านชอบเรียนทางวิชาคาถาอาคม ครั้นเมื่อมาบวชเป้นพระ ท่านจึงได้แตกฉานในวิชาแขนงนี้ จนมีชื่อเสียงโด่งดัง จวบจนกระทั่งเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2516 หลวงปู่แบนท่านก็ได้รับถวายต้นตะเคียนทองต้นใหญ่ จากชาวบ้านซึ่งได้ขุดพบฝังอยู่ในดินเป็นเวลานับร้อยๆ ปี โดยมีรุกขเทวดาที่อาศัยอยู่ในต้นตะเคียนทอง
    เรื่องดี บอกต่อกันไป
    เศรษฐี เรือทอง หลวงพ่อแบน จันทสโร
    วัดพุน้อย อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี เรือ โชคลาภ เลือกเจ้าของ อาถรรพ์ แม่ตะเคียนทอง ที่มีคนกล่าวขาน กันมากที่สุด พุทธคุณ ด้านเดียว กับ พญานกถึดทือ ไม่เชื่อลองดู
    ศักดิ์สิทธิ มีจริง เชิญ พิสูจน์ ที่วัด
    ประวัติ หลวงปู่แบน (จนฺทสโร) วัดพุน้อย
    หลวงปู่แบน จนฺทสโร เดิมจำพรรษา วัดตาลเจ็ดชื่อ ตำบลย่านซื่อ อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง เริ่มจำพรรษา อยู่ที่วัดพุน้อย เมื่อปี พ.ศ. 2513 หลวงปู่แบนมีความรู้เรื่องยาสมุนไพร จึงรักษาญาติโยม ด้วยยาแผนโบราณ และเริ่มนำ ชาวบ้านพุน้อย ก่อสร้างเสนาสนะ
    หลวงปู่แบน เริ่มจำพรรษาอยู่ ที่วัดพุน้อยเมื่อ พ.ศ. 2513 ขณะนั้นมีพระจำพรรษา อยู่ 3 รูป หลวงปู่แบน มีความรู้เรื่อง ยาสมุนไพร จึงรักษาญาติโยม ที่เจ็บป่วยด้วยยาแผนโบราณ
    หลวงปู่แบน จนฺทสโร แห่งวัดพุน้อย ตำบลชอนม่วง อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี พระเกจิอาจารย์ต้นตำรับแห่งการปลุก เสก สร้าง
    “เรือ แม่ตะเคียนทอง” ที่โด่งดังที่สุด เนื่องจากในอดีตกาลที่หลวงปู่แบนยังเป็นฆราวาส ได้อาศัยประกอบอาชีพค้าขายอยู่ในเรือสำปั้น ล่องไปตามแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งอดีต
    หลวงปู่แบน ท่านชอบเรียนทาง วิชาคาถาอาคม ครั้นเมื่อมาบวชเป็นพระ ท่านจึงได้แตกฉานในวิชา แขนงนี้ จนมีชื่อเสียงโด่งดัง จวบจนกระทั่งเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2516 หลวงปู่แบน ท่านก็ได้รับถวายต้นตะเคียนทองต้นใหญ่ จากชาวบ้านซึ่ง ได้ขุดพบฝังอยู่ในดิน เป็นเวลานับร้อยๆ ปี โดยมีรุกขเทวดาที่อาศัยอยู่ในต้นตะเคียนทอง
    ครั้นเมื่อไปถึงหลวงปู่แบน ท่านก็ได้อัญเชิญวิญญาณของแม่ตะเคียนทอง ซึ่งเป็นรุกขเทวดา ที่อาศัยอยู่ในต้นตะเคียนทอง ให้มาสร้างบารมีอยู่ที่วัดพุน้อยด้วยหลังจากได้นำเอาตะเคียนทองใหญ่ มาไว้ที่ วัดพุน้อย ก็ได้เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้น
    เมื่อญาณของแม่ตะเคียนทองได้เข้าไป ในนิมิตของหลวงปู่แบน ว่า
    “อยากจะร่วมสร้างบารมีบุญกับหลวงปู่ด้วย !!!”
    โดยแม่ตะเคียนทองได้ขอ ให้หลวงปู่แบนเอาต้นตะเคียนทองที่ตนอาศัย อยู่นั้นมาทำ เป็นเรือแม่ตะเคียนทอง เพื่อหลวงปู่จะได้นำเรือนี้ ไปช่วยเหลือผู้คนในด้านทำมาหากิน ค้าขายให้เจริญรุ่งเรืองขึ้น และด้วยนิมิตดังกล่าว
    หลวงปู่แบน จนฺทสโร ก็ได้นำเอา ตะเคียนทองใหญ่นั้นมาทำเป็นเรือสำปั้น ปลุกเสกด้วย คาถาเมตตาทำมาหากินคล่อง และอัญเชิญ ญาณบารมีแม่ตะเคียนทองนี้ไปอยู่ด้วย (ซึ่งเป็นรุกขเทวดา) ได้สถิตอยู่ในเรือทุกลำ
    ครั้นเมื่อ ญาติโยม
    ผู้ใดอยากจะได้ไปบูชาก็ต้องทำพิธีรับเรือ
    ด้วยตนเอง และ อัญเชิญบารมี แม่ตะเคียนทองนี้ไปอยู่ด้วย เพื่อจะได้ช่วยดลบันดาลให้ กิจการงาน ทำมาหาหากิน ค้าขาย เจริญรุ่งเรืองประสบผล สำเร็จ
    ซึ่งก็เป็นที่ฮือฮา อัศจรรย์จริงๆ เพราะ ถ้าหาก ว่า ใครสามารถ ที่จะยกเรือขึ้นได้ ทางวัดจึง
    จะให้บูชาไปได้ ถ้าหากใครยกไม่ขึ้น วันหลังถึงค่อยมายกใหม่
    หรือจนกว่า จะยกขึ้น ทางวัดจึงจะ ให้บูชาไป ที่เป็นอย่างนี้เพราะว่า แม่ตะเคียนทองเค้ายังไม่ยอม ให้กับเรา หลวงปู่แบน ท่านว่าอย่างนั้น ปัจจุบันแม้ท่านหลวงปู่แบน จนฺทสโร ท่านได้มรณภาพไปแล้ว แต่ก็ยังมีศิษย์ก้นกุฏิ ที่ยังสืบสาน วิชาการ ทำเรือตะเคียนทองขึ้นมาจนโด่งดัง ไม่แพ้กัน นั่นก็คือ
    ท่านพระครูสมุห์ทิน สุทินฺโน เจ้าอาวาสวัดพุน้อย รูปปัจจุบัน และดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะ ตำบลหนองเมือง ผู้ซึ่งเป็นศิษย์ใกล้ชิด หลวงปู่แบนมาก ในสมัยที่ท่านยังไม่มรณภาพ ด้วยเหตุที่ท่าน เป็นพระปฏิบัติดี นักพัฒนา และมีเมตตา หลวงปู่แบน ท่านจึงได้ถ่ายทอดวิชาการ ทำเรือแม่ตะเคียนทอง อันเป็นต้นตำรับ ที่ท่านมีอยู่จนหมดสิ้น และที่กล่าวมา ทั้งหมดก็เป็นส่วนหนึ่งของ
    ประวัติหลวงปู่แบน จนฺทสโร และรวมถึงอภินิหารของ เรือแม่ตะเคียนทอง ซึ่งเจ้าอาวาสวัดพุน้อย องค์ปัจจุบันคือ ท่านพระครูสมุห์ทิน สุทินฺโน ซึ่งเป็นศิษย์ผู้ใกล้ชิด ได้รับการถ่ายทอดสรรพวิชาการปลุกเสกทำเรือแม่ตะเคียนทองแบบต้นตำรับ อาถรรพณ์ จากหลวงปู่แบน ได้ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง สามารถพิสูจน์ได้
    ถ้าใครไปเข้าพิธีรับเรือ แล้วยกเรือไม่ขึ้น ทางวัดจะไม่ให้บูชาไป
    แต่ถ้าใครสามารถยกเรือขึ้นได้ ทางวัดก็จะให้บูชากลับบ้านไป ซึ่งนั่นก็หมายถึง บุคคลผู้นั้นมีวาสนาบุญบารมี
    รุกขเทวดาที่อาศัย ในต้นตะเคียนทอง อยากที่จะไปทำให้ท่านมีโชคลาภ ทำมาค้าขาย เจริญรุ่งเรืองนั่นเอง
    เรือแม่ตะเคียนทอง หลวงปู่แบน จนังทสโร อดีตเจ้าอาวาส วัดพุน้อย
    สวยสมบรูณ์ ความยาวเรือ 35 เซนติเมตร พร้อมธง 2 สีของแรง
    ด้านโชคลาภ และค้าขายสุดยอด มาก ใครได้เป็นเจ้าของแล้ว จะไม่ยอมขาย แม่ หรือ ใครให้ราคาแพงก็ตาม ตอนนี้ของใหม่ เช่าจากวัด ลำขนาด นี้ต้องมี 6-7พัน ถึง หมื่น สอง หมื่น
    ประวัติ วัดพุน้อย 3 หมุ่ที่ 1 ต.ชอนม่วง อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี แต่เดิม พุน้อย เป็นชื่อของ น้ำที่ผุด ขึ้นมาคล้ายน้ำพุ ตลอดทั้งปี ไม่มีวันแห้ง จึงเป็นชื่อเรียกขานหมู่บ้านแห่งนี้ วันที่25 เมษายน พศ 2515 หมอเคลือบ และนาง บุญมา เหมือนเอี่ยม ได้มอบถวายที่ดิน จำนวน 6 ไร่ 1 งาน 53 ตารางวา เพื่อสร้างวัดพุน้อย หลวงพ่อชื้น บุญยกาโม นำชาวบ้านพุน้อย
    ร่วมก่อสร้าง ได้ 4 พรรษา ท่านจึงมรณภาพ ต่อมาปี พศ.2519
    หลวงปู่แบน จนฺทสโร มาอยู่จำพรรษา และ ได้ซื้อที่ดินเพิ่มอีก 15 ไร่ 2 งาน 80 ตารางวา จนกระทั้งท่านได้มรณภาพลงเมื่อ
    วันที่ 13 มกราคม พ.ศ.2543 ในขณะที่ หลวงปู่แบน จันทสโร
    ท่านเป็นเจ้าอาวาส นั้น ได้ร่วมกับชาวบ้าน พุน้อยพัฒนาวัดจน เจริญก้าวหน้า อย่างรวดเร็ว ทำให้วัดที่ไม่มีคนรู้จัก กลายเป็นวัดที่มีคนเชื่อถือ เลื่อมใสศรัทธาเดินทางมา กราบไหว้กันอย่างไม่ ขาดสาย เพียงชั่วระยะเวลาไม่กี่ปี วัดพุน้อย ก็มีสิ่งก่อสร้างที่เป็นถาวรวัตถุแทบ จะครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น โบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ และอื่นๆอีกจำนวนมาก จากวัดเล็กๆที่ห่างไกลความเจริญ กลายเป็นวัดที่มีประชาชนรู้จัก กันเกือบทั้งประเทศ
    มีการนำกฐินและผ้าป่าสามัคคี มาทอดกันอย่างล้นหลาม ตลอดจนการปฏิบัติธรรม เพื่อการกุศล ในวันมรณะภาพ
    ของหลวงปู่แบน จนฺทสโร ก็มีประชาชนให้ความนับถือมาร่วมงานอย่างเนืองแน่น เป็นประจำทุกปี ทำให้ปัจจุบัน การเดินทางไปยังวัดพุน้อย
    มีถนน ลาดยาง ถึงวัด สะดวกสบาย ตลอดการเดินทาง ปัจจุบัน พระครูสมุห์สุทิน สุทินโน เจ้าอาวาสวัดพุน้อย ท่านยังคง สืบสานวิชาอาคม ที่รับ จากหลวงปู่แบน จนฺทสโร
    ในเรื่องเมตตามหานิยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการค้าขาย ที่หลวงปู่แบนได้สร้างเรือ พุทธคุณขึ้นมา ซึ่งใครได้ไปบูชาจะประสบผลสำเร็จ กันแทบทุกคน จึงมีพุทธศาสนิกชน เดินทางมาที่วัดพุน้อยกัน อย่างเนืองแน่น ในแต่ละวัน
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    ท่านมีชื่อด้าน การค้าขาย ทุกวันนี้ ญาติโยมลูกศิษย์ลูกหายังไปวัดท่านไม่ขาดสาย เศรษฐีเรือทอง
    พระกรุพระพุทธกวักหลวงปู่แบน ให้บูชา 400 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20240726_225511.jpg IMG_20240726_225538.jpg IMG_20240726_225448.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...