พระครูปลัดราชันย์-พระมหาตุ้ยนุ้ย"๒ พระนักแหล่สร้างสีสันแห่งธรรม"

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 31 พฤษภาคม 2006.

  1. NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,496
    <CENTER></CENTER>
    พระครูปลัดราชันย์ อริโย และ พระมหาตุ้ยนุ้ย จาก วัดวังศาล ต.วังโป่ง อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ ที่โด่งดังจาก การเทศน์ประกอบการแหล่มหาเวสสันดรชาดก ที่สอดแทรกมุกตลก มีอารมณ์ขัน สร้างความฮาตลอดการเทศน์
    ยิ่งกว่านั้น เป็นการเทศน์ที่มีเนื้อหาทันสมัย โดยเฉพาะในช่วงเดือนตุลาคมของทุกปี จะได้รับกิจนิมนต์ให้ไปเทศน์กว่า ๖๐ งานทั่วประเทศ
    ชื่อเสียงของพระนักเทศน์ทั้งสอง เป็นที่รู้จักอย่างดี ถึงขนาดที่อาจจะพูดได้ว่า โด่งดังมากทางภาคอีสาน ต้องเดินสายยิ่งกว่านักร้องดังหลายๆ คนก็ว่าได้
    ไปเทศน์ที่ไหน ญาติโยมเป็นต้องขำ ฮากลิ้ง แทบทุกครั้ง รับประกันด้วยจำนวนคนฟังเป็นหมื่นมาแล้ว ที่เป็นรองจำนวนคนก็วงดนตรี "นกน้อย อุไรพร" เท่านั้น
    ทุกครั้งที่เทศน์ต้องมีการร้องเพลงแหล่ประกอบ ท่านให้เหตุผลว่าเพื่อเป็นการเผยแผ่ธรรมะ ในสภาวะสังคมปัจจุบัน ถ้าเทศน์แต่เนื้อธรรมะในพระไตรปิฎกอย่างเดียว ญาติโยมคงไม่ฟัง จึงคิดว่าทำยังไงจะหากุศโลบาย คือนำเรื่องใกล้ๆ ตัวมาเทศน์ให้คนฟังแล้วมองภาพออกเลย ไม่ต้องยกนิทานมาอ้าง เพราะคนสมัยนี้เครียดอยู่แล้ว
    เทศน์อย่างไรให้พวกเขามาฟังแล้วมีความสุข มีความสนุก เรียกว่าธรรมะตลก แต่ไม่ใช่ตลกไร้สาระ ท่านอนุญาตให้สัมภาษณ์แบบ "คม ชัด ลึก" ดังนี้
    * แหล่ประกอบการเทศน์ หรือเทศน์ประกอบการแหล่นี่ดีอย่างไรครับ?
    - เพื่อเป็นการเผยแผ่ธรรมะ สังคมปัจจุบัน ถ้าเทศน์แต่เนื้อธรรมะในพระไตรปิฎก ญาติโยมคงไม่ฟัง จึงคิดว่าทำยังไงจะหากุศโลบาย คือนำเรื่องใกล้ๆ ตัวมาเทศน์ให้คนฟังแล้วมองภาพออกเลย ไม่ต้องยกนิทานมาอ้าง คนสมัยนี้เครียดอยู่แล้ว เทศน์อย่างไรให้พวกเขามาฟังแล้วมีความสุข มีความสนุก เรียกว่าธรรมะตลก แต่ไม่ใช่ตลกไร้สาระ
    คนเราฟังเรื่องพระเวสสันดรชาดกกันมาตั้งแต่เป็นเด็ก ก็เหมือนกินอาหารแล้วมีกับข้าวอยู่อย่างเดียวซ้ำๆ กันทุกวัน จึงมาคิดว่าการแหล่เป็นเรื่องของใกล้ๆ ตัว จึงนำเรื่องพระเวสสันดรมาแหล่ดูบ้าง รวมทั้งการนำเรื่องพระคุณพ่อพระคุณแม่ ที่เป็นชีวิตประจำวันมาแต่งแล้วแหล่ให้ญาติโยมฟัง
    อาตมานำการแหล่มาประกอบการเทศน์ก็เพื่อต้องการให้คนสมัยใหม่เข้าใจความเป็นมาของเรื่องราวพระเวสสันดร และเรื่องราวของพระคุณพ่อพระคุณแม่
    * ครั้งแรกที่แหล่ประกอบการเทศน์ ตั้งความหวังไว้แค่ไหนครับ?
    - อาตมาคิดว่าการเทศน์แบบเอาเนื้อธรรมะล้วนๆ เด็กรุ่นใหม่คงไม่ฟัง และไม่ยอมรับด้วย เขาจะรับกันได้ก็ต้องเป็นพี่เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ หรือไม่ก็ต้องพวกโปงลางสะออน จริงๆ ทุกวันนี้ยังเห็นว่าผู้หญิงไปวัดประมาณ ๙๕% แต่ผู้ชายเข้าวัดไม่เกิน ๕% อาตมาจึงเน้นการเทศน์ในเรื่องพระคุณพ่อพระคุณแม่ให้ลูกรักพ่อรักแม่ และอย่าลืมพระคุณพ่อพระคุณแม่ คุณไม่เอากับข้าวมาให้พระที่วัดฉันไม่เป็นไร แต่ขอให้มีกับข้าวให้พ่อแม่ก็พอแล้ว มีลูกคนไหนบ้างที่ทำความสบายใจให้พ่อแม่ดีใจบ้างหรือเปล่า เช้าๆ เคยพูดหวานๆ ให้พ่อแม่ฟังแล้วชื่นใจบ้างไหม


    * มีการเอาประเด็นการเมืองมาแหล่บ้างไหมครับ?
    - อาตมาบอกเลยว่า จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองเลย อาตมาเอาเรื่องชีวิตจริงดีกว่า การเมืองก็คือการเมือง คนไหนทำดีทำชั่ว เขาก็รู้อยู่กับตัวเขาเอง และอีกอย่างหนึ่ง ความรู้ความสามารถของอาตมาคงไม่สามารถไปสอนพวกเขาได้หรอก อาตมาคิดว่าสอนคนชนบท กับคนชั้นกลางดีกว่า อาตมาอยู่กับคนชนบท มีแต่ความสบายใจ สอนพวกเขาให้รักพ่อรักแม่ คนมีสตางค์ก็เลี้ยงลูกด้วยสตางค์ เขาก็อยู่กันได้ ไม่ต้องไปห่วงเขาหรอก
    * เคยมีคนมาฟังมากสุดขนาดไหนครับ?
    - เวลาที่อาตมาไปเทศน์ทรงเครื่อง พระเวสสันดรชุดใหญ่ ญาติโยมจะมาฟังกันเยอะมาก เป็นหมื่นคน สูงสุดประมาณ ๓๕,๐๐๐ คน เพียงแค่คนมาฟังน้อยกว่าวงดนตรีอยู่วงเดียว คือวง "นกน้อย อุไรพร" อาตมาเห็นแล้วว่าการนำแหล่มาประกอบการเทศน์ ทำให้คนสนใจมาก มีญาติโยมมาฟังกันเพิ่มขึ้น ขนาดเทศน์ ๒-๓ ชั่วโมง ยังไม่ค่อยมีใครลุกไปไหนกันเลย อาตมาเทศน์ไปก็ดูรู้ว่าเขาชอบที่จะฟัง ถ้าเขาไม่ชอบเขาก็คงเดินหนีกันหมด นี่เทศน์อยู่ ๓ ชั่วโมง เขาไม่เดินหนีกันเลย แสดงว่าเขาให้ความสนใจกันจริงๆ
    * มีการเตรียมมุกก่อนเทศน์หรือเปล่าครับ?
    - พระครูปลัดราชันย์-อาตมาไม่ค่อยได้เตรียมมุกอะไรกันมาก จะเล่นและคิดแบบสดๆ มากกว่า อาตมากับ "พระมหาตุ้ยนุ้ย" จะไม่บอกและไม่แนะกันเลยว่า วันนี้จะเทศน์เรื่องอะไร เพราะถ้าแนะแล้ว อาตมาเกรงว่าพระมหาตุ้ยนุ้ยจะประหม่า
    พระมหาตุ้ยนุ้ย-ส่วนใหญ่อาตมาจะเล่นจะเทศน์กันตามธรรมชาติมากกว่า
    * ทำไมพระมหาตุ้ยนุ้ยถึงโดนแซวบ่อยครับ?
    - ความที่พระมหาตุ้ยนุ้ยมีความเป็นเด็กว่าอาตมา ก็จะโดนบ่อย ถ้าพูดแบบทั่วๆ ไป เหมือนเขายังไม่เจนจัดบนเวทีการเทศน์ อาตมาก็จะแหย่ แซวพระมหาตุ้ยนุ้ยให้ญาติโยมหัวเราะ สร้างบรรยากาศการฟังให้มีความสนุกสนาน แต่ไม่ไร้สาระที่จะนำเสนอ
    * มีคนวิจารณ์ว่าพระอาจารย์เทศน์ทำไมมีเสียงออกทางตุ้งติ้งครับ?
    - อาตมาคิดว่าการเทศน์เรื่องลูกในทุกที่ อาตมาต้องพูดให้พวกเขาเข้าใจความเป็นแม่ ความเป็นพ่อ สื่อให้เขาเห็น พออาตมาพูดแบบนี้ก็ทำให้เห็นภาพ ไม่อธิบายแบบนี้เดี๋ยวจะหาว่าพระเป็นกะเทย ความจริงไม่ใช่ๆ (หัวเราะ)
    * ที่ผ่านมามีเสียงตอบรับอย่างไรครับ?
    - อาตมาเชื่อว่า ๙๙% ญาติโยมทุกคนยอมรับในสิ่งที่อาตมาเทศน์ได้ อาตมาคิดว่าคนที่ยอมรับอาตมาไม่ได้ก็คงเป็นคนที่หูตึง ฟังอะไรไม่รู้เรื่อง เพราะถ้าคนลองมานั่งฟังอาตมาเทศน์ จะรู้ว่าสิ่งที่เทศน์เป็นการนำเสนอ คืออะไร ไม่ใช่อาตมาเทศน์เป็นการนำเสนอแต่เรื่องตลกโปกฮา ให้คนได้เฮได้ฮา ตรงนั้นไม่ใช่ แต่เป็นการนำเสนอความจริงมาเป็นสื่อแห่งการสอน คือคนเราเป็นลูกจะทำอย่างไรให้พ่อแม่เรามีความสุขก่อนตาย เราเป็นลูกต้องเลี้ยงท่านตอนเป็น ดีกว่าเห็นท่านตอนตาย ลูกบางคนจะให้เงินพ่อแม่กินแต่ละร้อย ต้องเหลือจากผัว เหลือเดนจากเมียก่อน ซึ่งความจริงไม่ใช่


    * ทุกครั้งที่เดินทางไปเทศน์ต้องเสียค่าใช้จ่ายเท่าไรครับ?
    - ค่าใช้จ่ายก็เยอะนะโยม แต่ที่อาตมาอยู่ได้ทุกวันนี้ก็คือ การขายวีซีดี ที่อาตมาทำขึ้นมาแล้วบริษัทเขาก็ช่วยจำหน่ายบ้าง เมื่อไปเทศน์ที่ไหน ก็จะบอบบุญให้ญาติโยมซื้อกันไปฟัง พอหักค่าใช้จ่ายของการเดินทางของทีมงาน ที่เหลือก็จะนำไปสมทบสร้างวัดวังศาล ตอนนี้ก็ทำเมรุเผาศพเสร็จแล้ว แต่ยังเหลือการก่อสร้างศาลา ที่ต้องใช้เงินอีกประมาณสี่ล้านบาท ไม่เคยเรี่ยไรใคร อาตมาก็เอาเงินจากการเทศน์ กับขายวีซีดี ก็เอาไปก่อสร้าง
    * ได้รับนิมนต์ไปเทศน์ไกลๆ ที่ไหนบ้างครับ?
    - ถ้าไปเทศน์ไกลๆ ก็น่าจะเป็นทางใต้ จ.สุราษฎร์ธานี ส่วนต่างประเทศ ก็จะเป็นที่ประเทศเยอรมนี
    * ช่วงไหนที่ต้องเดินทางไปเทศน์มากสุดครับ?
    - ก็คงเป็นช่วงเทศกาลออกพรรษา มีงานทอดกฐิน ทอดผ้าป่าสามัคคี โดยเฉพาะเดือนตุลาคมของทุกปี จะได้รับนิมนต์ให้ไปเทศน์เกือบ ๖๐ งานทั่วประเทศ แต่ถ้าเป็นเดือนพฤศจิกายน ธันวาคม ก็มีงานเทศน์ประมาณ ๔๐ กว่างาน นิมนต์ล่วงหน้าไปถึงเดือนมีนาคม เมษายน เต็มหมดแล้ว ทุกที่ที่ไปเทศน์ อาตมาจะจดเอาไว้ เพื่อไม่ให้เทศน์ซ้ำกัน เพราะถ้าเทศน์ซ้ำกัน ก็คงไม่มีใครมาฟัง อาตมาเทศน์ก็เหมือนลิเก เหมือนฉายหนัง ที่ต้องเปลี่ยนเรื่องไปเรื่อยๆ
    - พระอาจารย์ฝึกพระสงฆ์ให้เทศน์แบบท่านบ้างไหม?
    - ให้อาตมาตอบตรงนี้ยากเหมือนกัน อาตมาก็ฝึกให้บ้าง มีพระน้อยที่อยากจะฝึกเทศน์แบบนี้ บอกตรงๆ สิ่งเหล่านี้คนเราต้องมีพรสวรรค์ บวกพรแสวง พรสวรรค์แค่ ๓๐% แต่พรแสวงต้อง ๗๐% พระรูปไหนมาฝึกเทศน์แล้วให้เป็นทันทีเลย คงไม่ได้
    * ย้อนกลับไปเมื่อสมัยก่อน พระอาจารย์เริ่มเทศน์ได้อย่างไร?
    - พระครูปลัดราชันย์-ก่อนบวชก็เป็นเด็กหนุ่มชนบทที่ดื้อเกเรไปตามประสาเด็ก ไร่นาก็ไม่มีทำ พออาตมาบวชแล้วมีความรู้สึกว่าสบายใจ แล้วไม่ได้ตั้งใจว่าจะต้องมาเป็นพระนักเทศน์อะไรเลย เมื่อครั้งที่ พ่อหลวงปู่เหลือง เป็นพระนักเทศน์ชื่อดังอยู่ที่ จ.อุทัยธานี มรณภาพ หลวงน้าก็ขึ้นเป็นเจ้าอาวาส หลวงน้าพูดขึ้นว่าเสียงอาตมาก็ดี ทำไมไม่หัดแหล่แบบพระอาจารย์เหลืองบ้าง สมัยนั้นหลวงปู่เหลืองท่านเทศน์แหล่ไพเราะมาก อาตมาเคยฟังยังชอบฟังเลย
    จากนั้นมา อาตมาก็เริ่มฝึกแหล่ประกอบการเทศน์ด้วยตัวเอง อาตมากล้าพูดได้เลยว่า เป็นพระนักแหล่รูปเดียวก็ว่าได้ที่ไม่มีอาจารย์ หัดแหล่ หัดเทศน์ ลองผิด ลองถูก มาด้วยตัวเองตลอด ฝึกฝนด้วยตัวเองทั้งนั้น แต่ถ้าเป็นพระมหาตุ้ยนุ้ย ยังมีพระอาจารย์สอนมาตั้งแต่บวชเป็นเณร
    พระมหาตุ้ยนุ้ย-อาตมาชอบเทศน์ เพราะอาตมามีใจรักในเบื้องต้น ชอบที่จะเทศน์ ทำให้ได้ฝึกฝนแล้วหัดเทศน์มาตั้งแต่เป็นเณร
    * พระอาจารย์ไปเจอพระมหาตุ้ยนุ้ยได้อย่างไร?
    - อาตมาเคยไปยืนดูพระมหาตุ้ยนุ้ยเทศน์สมัยเป็นสามเณร เมื่อประมาณ ๗ ปีที่แล้ว อาตมาไปฟังยังไม่เห็นตัว ก็คิดว่า ทำไมเณรรูปนี้เสียงดีจัง พอเดินเข้าไปดูตัว เห็นหุ่นแล้วไม่น่าเป็นนักแหล่ได้เลย ก็เลยชวนให้มาเทศน์อยู่วัดด้วยกัน อาตมาเห็นท่านอ้วนตุ้ยนุ้ยเหมือนเด็กตลกดี ถ้าเป็นฆราวาสก็เปรียบเหมือนไอ้เท้ง กับไอ้โหน่ง ก็เลยตั้งชื่อให้ เรียก พระมหาตุ้ยนุ้ย ตั้งแต่นั้นมา แต่ญาติโยมเริ่มรู้จักอาตมาทั้งสองรูปประมาณ ๔ ปีที่ผ่านมา
    * วันนี้พระอาจารย์คิดบวชตลอดชีวิตหรือเปล่าครับ?
    - ตรงนี้อาตมาไม่ได้ตั้งความหวังว่า จะบวชตลอดชีวิต คนเราไม่มีวันพรุ่งนี้สำหรับเรา มีแค่วันนี้ พอวันรุ่งขึ้นก็คือวันนี้ของเราใช่ไหม ถ้าอาตมาเลือกได้ก็อยากบวชจนแก่ตาย แต่อาตมาไม่รู้ว่า วันข้างหน้าชีวิตจะเป็นอย่างไร หากอาตมาพูดว่าจะบวชตลอดชีวิต ไม่สึก พอวันข้างหน้าเกิดอะไรขึ้นมาแล้วสึก เหมือนเราไปโกหกญาติโยม แต่วันนี้อาตมาจะทำหน้าที่ความเป็นพระให้ดีที่สุด และอาตมาจะอยู่ตรงนี้ให้วัดอาศัยเรา แต่เราสัญญาว่าจะไม่อาศัยวัดอย่างแน่นอน
    * แล้วพระอาจารย์กลัวนารีพิฆาตไหมครับ?
    - พระครูปลัดราชันย์-ถ้าให้อาตมาพูดจริงๆ แล้ว ก็กลัว ทุกวันนี้สังคมไทยน่ากลัวมาก เพราะผู้หญิงไม่ค่อยกลัวพระ สิ่งที่อาตมาทำกันตอนนี้คือ การข่มใจ แม้ถ้าอาตมาข่มใจไม่ได้ คงไม่ได้อยู่มาจนป่านนี้ เชื่อไหมว่าอาตมาอยู่เป็นเจ้าอาวาสวัดวังศาลใหม่ๆ ปิ่นโตจากสาวๆ วันละ ๑๔ เถา เพื่อนพระของอาตมาต้องสึกไปมีเมียถึง ๓ คน จนญาติโยมคิดว่าอาตมาคงอยู่ไม่รอด ต้องสึกแน่ๆ
    มีอยู่วันหนึ่ง อาตมาบ่นอยากฉันน้ำพริก ปิ่นโตมาเลย ๑๔ เถา มีน้ำพริก ๑๔ ถ้วย พออยู่เป็นเจ้าอาวาส ปีที่สอง ปิ่นโตลดลงเหลือ ๘ เถา อยู่ปีที่สามเหลือ ๔ เถา มาถึงวันนี้อยู่เป็นสิบปี ก็ไม่เหลือสักเถา โยมสีกาคงไปมีสามีกันหมดแล้ว มารอหลวงพ่อหลวงพี่อย่างเราก็เหมือนรอผีในป่าช้า ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะขุดขึ้นมาฝัง แฟนคลับของอาตมาจะคนเป็นรุ่นน้ำหมากกระจายทั้งนั้น
    พระมหาตุ้ยนุ้ย-โยมดูหุ่นอาตมา เป็นแบบนี้ ใครจะมาเอา (หัวเราะ) ใครจะมาชอบล่ะ ถ้าจะมีก็จะเป็นโยมรุ่นพ่อรุ่นแม่อาตมาเสียมากกว่า
    * สุดท้ายมีธรรมะอะไรที่อยากจะฝากให้กับผู้อ่าน "คม ชัด ลึก" บ้างครับ?
    - สิ่งที่อาตมาอยากจะฝากให้เป็นข้อคิด เราจะทำอะไรก็ได้ ถ้าเราทำแล้วมีความสุข แต่เราอย่าไปทำความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น และจงจำไว้ว่า สิ่งที่บรรเจิดที่สุดในชีวิต ก็คือ การเกิดเป็นคน อย่าลืมพระคุณพ่อพระคุณแม่ เพียงแค่ขอให้เชื่อฟังคำสอนของพ่อแม่บ้าง พ่อแม่คือพระอรหันต์ของลูก พ่อแม่เป็นพระพรหมคนแรกของลูก พ่อแม่เป็นเทวดาคนแรกของลูก และพ่อแม่ก็เป็นครูคนแรกของลูก แล้วลูกคนไหนทำดีกับพ่อแม่ ให้ท่านมีแต่ความสุข ไม่ทำให้พ่อแม่กินข้าวกับน้ำตา ลูกคนนั้นก็จะมีชีวิตไม่ต่ำกว่าคนอื่น ไม่จนกว่าใครทั้งนั้น

    "ลูกคนไหนทำดีกับพ่อแม่ให้ท่านมีแต่ความสุข ไม่ทำให้พ่อแม่กินข้าวกับน้ำตา ลูกคนนั้นก็จะมีชีวิตไม่ต่ำกว่าคนอื่นไม่จนกว่าใครทั้งนั้น"

    ชาติภูมิพระครูปลัดราชันย์

    พระครูปลัดราชันย์ อริโย เจ้าอาวาสวัดวังศาล อายุ ๔๐ ปี พรรษา ๑๙ ชื่อเดิม ราชันย์ บวบนา เกิดเมื่อวันที่ ๘ เมษายน ๒๕๐๘ ปีมะเส็ง ณ บ้านเลขที่ ๒๑๒ ต.บ้านไร่ อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก บิดาชื่อ สุวรรณ มารดาชื่อ ม้วน จบการศึกษาชั้นประถมปีที่ ๖
    อายุ ๒๑ ปี อุปสมบท ณ วัดสิริสุทธาวาส ต.บ้านไร่ อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก เมื่อวันที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๒๙ เวลา ๑๕.๑๐ น. โดยมี พระครูสิริสุทธิคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูโสภณสิริพัฒน์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระครูอธิการสำเริง สิริมงฺคโล เป็นพระอนุสาวนาจารย์
    ศรัทธาญาติโยม สอบถามรายละเอียดเส้นทางไปวัดวังศาล ได้ที่โทร.๐-๑๖๐๔-๔๙๒๓, ๐-๑๓๗๔-๕๘๔๒

    ชาติภูมิพระมหาตุ้ยนุ้ย

    พระมหาตุ้ยนุ้ย อายุ ๒๖ ปี พรรษา ๔ ชื่อเดิม ณัฐวัฒน์ เอี่ยมแจง เกิดเมื่อวันที่ ๔ เมษายน ๒๕๒๒ ปีมะแม ณ ต.หนองแขม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก บิดาชื่อ ส.ต.อ.ฐณาวุฒิ มารดาชื่อ นางประเวก มีพี่น้องทั้งหมด ๙ คน จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ อาชีพรับจ้าง บรรพชาเป็นสามเณรอยู่ ๗ ปี พออายุ ๒๒ ปี ได้อุปสมบท ณ วัดมหาธาตุ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๔๔ เวลา ๑๔.๐๘ น. โดยมี พระครูพัชรธรรมโสภิต เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูอุดมพัชรธรรม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอำนาจ อคคฺธมฺโม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ศึกษาเล่าเรียนนักธรรมจนสอบได้นักธรรมชั้นเอก



    ที่มา..
     

แชร์หน้านี้