พระคาถาเงินล้าน ช่วยให้ไม่ลำบากเรื่องทำมาหากิน

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 11 มิถุนายน 2020.

  1. iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,386
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,529
    ค่าพลัง:
    +26,367


    ต้องบอกกับญาติโยมว่า เศรษฐกิจปีนี้ค่อนข้างจะแย่ถึงแย่มาก ดังนั้น..ถ้าพวกเราสามารถที่จะหาสิ่งทดแทน ก็คือการภาวนาพระคาถาเงินล้านเพื่อความคล่องตัวในความเป็นอยู่ ถ้าหากว่าเราไม่รู้จักทำทดแทน ก็อยากจะบอกว่าเสียทีที่เกิดมา..! เนื่องจากว่าปัจจุบันนี้ที่อาตมาพบเห็นมา ส่วนใหญ่แล้วญาติโยมมักง่าย ติดสบายจนเกินเหตุ ไม่ยอมลงทุนลงแรงอะไรทั้งนั้น พอชีวิตลำบากก็ไปหาหมอดูเปลี่ยนชื่อ ถามว่าใช่หรือ ? มีอะไรที่เราขวนขวายด้วยตัวเราเองบ้างไหมที่จะให้ชีวิตนี้ดีขึ้น ?

    แม้กระทั่งการสวดมนต์ภาวนาที่ทำแล้วมีแต่คุณประโยชน์ เราก็ไม่ทำกัน เพราะว่าทำแล้วลำบาก ต้องบังคับตัวเอง ต้องทำทุกวัน สู้เปลี่ยนชื่อไม่ได้..ง่ายดี สู้ไปหาร่างทรงไม่ได้ ไปไหว้ไอ้ไข่ยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่..!

    ในเมื่อเรามักง่าย ชีวิตเราก็จะยาก แต่ถ้าเรายอมทนลำบาก ก็จะเป็นอย่างที่โบราณท่านว่า “ลำบากก่อนแล้วสบายเมื่อปลายมือ” บรรดาเพื่อนพระสังฆาธิการก็ดี ผู้บังคับบัญชาก็ดี ท่านถามว่า “ทำไมอาจารย์เล็กทำอะไรสะดวกคล่องตัวไปหมด ?” ก็กราบเรียนถวายไปว่า “ก่อนที่ผมจะสะดวกคล่องตัวแบบนี้ ผมทุ่มเทปฏิบัติมาชนิดที่แทบจะไม่ได้กินไม่ได้นอนมานานครับ”

    โดยเฉพาะเรื่องของพระคาถาเงินล้าน อาตมาภาวนาแบบสบาย ๆ ทุกวัน วันละ ๓๖๐ จบ เป็นเวลา ๓ ปีเต็ม ๆ แล้วก็เคยลองเร่งรัดดูว่า ถ้ามากกว่านั้นผลจะเป็นอย่างไร ก็มี ๔๘๐ จบ ๖๐๐ จบ ๗๒๐ จบ ๙๖๐ จบ ไปถึง ๑,๒๐๐ จบต่อวัน มีใครทดลองขนาดนี้บ้าง ? ไม่มีหรอก เพราะว่าขนาด ๑,๒๐๐ จบนี่เริ่มตั้งแต่ตี ๓ ไปเลิกเอา ๑ ทุ่มทุกวัน เป็นเวลา ๒ เดือนกว่าเกือบ ๓ เดือน ไม่มีเวลาทำอย่างอื่นเลย นอกจากฉันมื้อเดียวประมาณ ๑๐ กว่านาที แล้วก็ไปห้องน้ำ แม้กระทั่งอยู่ในห้องน้ำก็ภาวนา นี่คือการที่เรายอมลำบากก่อน เมื่อถึงเวลาแล้วผลที่เกิดขึ้นมาสนอง จนกลายเป็นความคล่องตัวในปัจจุบัน

    สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ พวกเรามาเห็น เพื่อนฝูงมาเห็น ผู้บังคับบัญชามาเห็น ตอนที่ทุกอย่างประสบความสำเร็จแล้ว แต่ไม่ได้เห็นตอนที่ยากลำบาก เดินจงกรมจนพื้นเป็นร่อง เดินภาวนาทั้งวันจนฝ่าเท้าแตก หรือภาวนาไม่ได้กินไม่ได้นอนเป็นวันเป็นคืน เพราะว่าต้องการทดสอบหลายอย่างด้วยกัน อย่างแรกก็คือ กำลังสมาธิของเรายืนหยัดได้นานเท่าไร ? ก็ได้ ๑๑ วัน ๑๑ คืน ลองดูได้นะ ๒๐๐ กว่าชั่วโมงเท่านั้น..!

    แล้วถ้าหากว่าเราทรงสมาธิตั้งเวลาแต่ละช่วง นานเท่าไรที่จะไม่ลำบากตัวเรามากนัก ? ช่วงละประมาณ ๔ ชั่วโมงจะเหมาะสมที่สุด แล้วการเข้าสมาธิภาวนาของเรา ถ้าเรากำหนดใจมุ่งมั่นว่าไม่ครบ ๑,๒๐๐ จบ เราจะไม่เลิก สมาธิก็จะทรงตัวต่อเนื่องแล้วไปคลายเอาจบสุดท้าย เท่ากับเป็นการซักซ้อมการทรงสมาธิแบบตั้งเวลา และท้ายที่สุด ส่วนที่เป็นผลพลอยได้ก็คือความคล่องตัวที่เกิดขึ้น

    ดังนั้น..พวกเราที่ไม่ช่างค้นคว้า ไม่ขี้สงสัย ขอให้ทำตามก็ยังดี ไม่ต้องมากมายถึงขนาดที่อาตมาเคยทำ บอกแล้วว่าขอแค่ ๑๐๘ จบต่อวัน ถ้ารู้สึกว่ามากไปก็แบ่งเป็น ๓ ช่วง ช่วงละ ๓๖ จบเท่านั้น ก็จะไม่หนักเกินกำลังของพวกเรา แต่คราวนี้ก็อย่างที่ว่า พวกเราส่วนใหญ่แล้วมักง่าย อะไรลำบากไม่ทำ ในเมื่อเป็นอย่างนั้นถึงเวลาแล้วเราลำบาก ก็ต้องบอกว่าโทษใครไม่ได้ #ถ้าเราใช้ความพยายามได้เพียงพอ #มั่นใจเลยว่าในหมู่ลูกศิษย์สายหลวงพ่อวัดท่าซุง #จะไม่มีใครลำบากในเรื่องของการทำมาหากิน #หรือว่าเรื่องของความสะดวกคล่องตัว เพียงแต่ว่าเรายอมทนลำบากหรือไม่ ?

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เก็บตกงานสวดพระคาถาเงินล้าน
    วันอาทิตย์ที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๖๓
    ที่มา : www.watthakhanun.com

    #ชุมชนคุณธรรม #วัดท่าขนุน
    #ชุมชนคุณธรรมฯวัดท่าขนุน
    #ชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงขับเคลื่อนด้วยพลังบวร
     

แชร์หน้านี้