พระคำข้าว (แท้และเลียนแบบ)

ในห้อง 'วิธีดูพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง' ตั้งกระทู้โดย Pattana, 9 สิงหาคม 2006.

  1. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    ผมโชคดีที่ได้พระคำข้าวจากคุณพัฒนามา 3 องค์ องค์หนึ่งผมมอบให้พี่บริษัทในเครือ ซึ่งก็เป็นลูกศิษย์สายหลวงพ่อนี่แหละ อีกองค์หนึ่งผมจะมอบให้พี่อีกคนที่เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อเหมือนกัน ผมจะเก็บไว้บูชาเอง 1 องค์

    ส่วนอีก 2 องค์ที่คุณพัฒนาฝากให้พี่ benyapa ผมยังติดต่อพี่เค้าไม่ได้ เพราะเค้าไปฮอนดูรัส ต้องรอให้กลับมาก่อน แล้วค่อยถามที่อยู่เพื่อจัดส่งพระต่อไป อย่างไรก็ตามกระทู้นี้นับว่ามีประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจในพระคำข้าว จะได้ไม่ต้องถูกหลอก
     
  2. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    พระคำข้าว 4 องค์ และ พระหางหมาก 1 องค์....
    ที่คุณพัฒนาฯ ได้ซื้อหามานั้น.. ผมได้เห็น ได้จับ ได้ดม ครบถ้วนครับ....

    ได้นัดพบกับคุณพัฒนาฯ ที่บ้านสายลม เมื่อวันเสาร์ที่ 5 ส.ค. นี้ เพราะว่า....
    1. จะได้มีโอกาสได้ทำบุญ
    2. จะนำพระ"สมเด็จองค์ปฐมทันใจ" 1,150 องค์ เพื่อไปช่วยทหารหาญชายแดนใต้
    3. ช่วยกันดำเนินการ บูชาพระ และซื้อหนังสือ ที่บ้านสายลม เพื่อมอบให้ทหารหาญ

    ก็เลยมีโอกาสได้ เห็น "พระคำข้าว / พระหางหมาก" ชุดดังกล่าว

    จากประสบการณ์ส่วนตัวเท่าที่มี.... ขอตอบว่า....

    เป็น "พระ" แท้ ครับ....
    แต่ว่าจะมี "เครื่อง" หรือไม่.. ข้อนี้ ก็ไม่แน่ใจครับ....

    หากเป็นสมัยที่องค์หลวงพ่อฯ ยังทรงชีพอยู่....
    แล้วเอา"พระ"ที่ทำเทียมขึ้นมาภายหลัง ไปถามท่าน....
    (ผมเดาเองว่า) องค์หลวงพ่อก็(คง)จะตอบว่า "แท้"....

    เพราะว่า เมื่อตั้งใจสร้างเป็น"รูปพระ" ก็ย่อมถือว่า เป็นองค์แทน พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    จะตั้งใจสร้างขึ้นมาด้วยเหตุใด ๆ ก็ตาม.. ก็ถือว่า เป็นการสร้างพระพุทธเจ้าขึ้นมาอยู่ดี

    เพียงแต่เป็น"พระ" แล้วจะมี"เครื่อง" หรือไม่..
    นี่.. ก็คงเป็นอีกเรื่องหนึ่ง....
     
  3. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    องค์หลวงพ่อฯ ท่านได้เคยบอกว่า....

    หากเรามีความเชื่อมั่นสูง กำลังใจยอดเยี่ยม ก็ไม่ต้องคล้องพระเครื่อง....
    เพราะว่า จะสามารถอาราธนาให้พระคุ้มครอง ด้วยความมั่นใจในกำลังใจของตัวเอง

    (ตรงนี้.. ผมก็ขอเดาว่า.. ท่านที่มีกำลังใจสูงอย่างนี้.. ก็ต้องทรงความเป็นอริยะ ในขั้นต่าง ๆ ตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไป ยิ่งความเป็นพระอริยะสูงขึ้นไป กำลังใจก็ย่อมสูงขึ้นตามไป หรือไม่ก็ อย่างน้อย ๆ ท่านผู้นั้น ก็ต้องทรงฌาน และมีญาณ พอแก่ตนเอง)

    แต่ถ้ากำลังบารมีย่อมลงมา ก็ต้องมีพระเครื่อง อันเป็นองค์แทนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    หรือตัวแทนพระสงฆ์ อันเป็นครูบาอาจารย์ หรือองค์ที่เราเลื่อมใส ศรัทธา มั่นใจ ว่า....

    จะสามารถคุ้มครองเราได้....(เรียกว่ามั่นใจได้ว่า มี"เครื่อง")

    เหมือนกับว่า เมื่อเราต้องออกสู้ศึก มีแต่ปืน มีแต่มีด ไว้สู้กับศัตรู....
    แต่ไม่มีเครื่องป้องกันภัย เช่น เสื้อเกราะกันกระสุน....
    อย่างนี้ ก็ย่อมต้องขาดความมั่นใจ....

    พระเครื่อง ก็เสมือนกับว่า เป็นเครื่องป้องกันภัยแก่ตัวเรา นั่นเอง....
    ไม่ว่าจะออกศึก หรือต้องเดินทางไกล เราก็ต้องหา มีเครื่องช่วย ให้ปลอดภัยไว้ก่อน....
    นี่เป็นปุถุชน ครับ.... ใคร ๆ ก็กลัวตาย (ผมก็กลัว ครับ)

    พวกเรายอมรับว่า "จริง" ไหม....

    หากท่านบอกว่า "ไม่ใช่".. ก็ต้องอยู่เหนือปุถุชน คือ อริยชน แล้วครับ....
     
  4. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    เรื่อง "พระเครื่อง"

    เกี่ยวกับเรื่อง "พระเครื่อง" ก็เคยมีคนวิจารณ์กันมากมาย มีคำถามเยอะแยะ เช่น สร้างกันขึ้นมาทำไม แทนที่จะให้คนติดในธรรมะแต่ไปสร้างพระขึ้นมาทำให้ผู้คนติดในวัตถุกันทำไม

    มีวัตถุประสงค์อย่างไร และในเมื่อพระอยู่ที่ใจอยู่แล้ว ทำไมต้องสร้างพระมาห้อยคอกัน

    พระที่สร้างพระมาให้บูชาเป็นวัตถุมงคล ให้บูชาคล้องคอไว้เพื่อป้องกันภัยบ้าง เป็นเครื่องลางของขลังบ้าง นี่คงเป็นเป็นพระประเภท "พระพาณิชย์" หรือเปล่า

    คำถามมีมากกว่านี้ เท่าที่ยกตัวอย่างมานี่ กระผมเองก็รู้สึกว่า "มึน"ที่จะตอบให้เข้าใจได้ จึงได้พยายามค้นหาคำตอบ จากหนังสือของ องค์หลวงพ่อฯ ก็พอดีไปพบ "เรื่องพระเครื่อง" ที่ องค์หลวงพ่อฯ ท่านได้กล่าวไว้แล้ว

    จึงขอคัดลอกจากหนังสือสนทนาธรรม เล่ม 4
    โดยพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง อุทัยธานี

    เพื่อให้ท่านได้ทราบตามแต่ที่ท่านจะพอเข้าใจ ได้ ดังนี้
    (ข้อความต่อไปนี้ ไม่ได้มีการเพิ่มเติม เสริมแต่ง แม้แต่ประการใดทั้งสิ้น)

    ผู้ถาม “พระเครื่อง หรือ เครื่องลางของขลัง สามารถป้องกันอันตรายได้จริงไหมครับ”

    องค์หลวงพ่อฯ “พระที่มีเครื่อง ป้องกันได้ แต่พระที่ไม่มีเครื่องนี่ ไม่แน่หรอกนะ ความมุ่งหมายในการใช้พระคล้องคอ โดยมากพวกเรามักจะเข้าใจผิดกัน ที่พระท่าน ทำพระไว้ให้คล้องคอ ก็หมายถึงว่า บุคคลที่มีความเคารพในพระพุทธเจ้า ที่มีใจเคารพในพระธรรม ที่มีใจเคารพในพระอริยะสงฆ์ แต่ทว่า มีกำลังใจที่เข้าถึงใน พระรัตนตรัยทั้ง 3 ประการ ยังอ่อนอยู่ ฉะนั้น จึงได้ทำรูปเปรียบของพระพุทธเจ้าก็ดี ทำรูปเปรียบของพระสงฆ์ที่เป็นที่เคารพนับถือ องค์ใดองค์หนึ่งก็ดี ห้อยคอไว้ ถ้าหากว่าเรานึกถึงพระท่านไม่ออก จะได้นำพระขึ้นมาดูว่ารูปนี้เป็นรูปขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ทรงแนะนำให้เราปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ตามระบอบแห่งความดี ที่เรียกว่า "พระธรรมวินัย"
    นี่ ความจริงเป็นความมุ่งหมายของผู้ทำ ต้องการอย่างนี้ หมายความว่า คนที่พระห้อยคอควรจะทำใจอย่างพระ หรือ มิฉะนั้น คนที่มีพระห้อยคอ ควรทำใจอย่างที่พระแนะนำ ให้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ แต่ทว่าพวกเราก็กลับมาพลิกแพลงเสีย เอาพระไปตีกับชาวบ้าน ไปยุให้พระตีกัน “พระ”ที่นำมาห้อยคอนี่ พระท่านทำขึ้นมาก็ด้วยอาศัยอำนาจของพุทธานุภาพ อำนาจของพุทธานุภาพนี่สามารถที่จะช่วยคนที่ไม่ถึงอายุขัยให้พ้นจากอันตรายได้

    มีตัวอย่างอยู่เรื่องหนึ่ง แต่เรื่องนี้มันยาวหน่อยนะ คือเรื่อง พระเจ้าพิมพิสาร ความจริงพระเจ้าพิมพิสารกับพระพุทธเจ้านี่ เป็นเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน ไปศึกษาวิชาที่ตักศิลาพร้อมกัน ๔ คน คือเจ้าชายสิทธัตถะ(พระผู้มีพระภาคเจ้า) พระเจ้าพิมพิสาร พระเจ้าปเสนทิโกศล และ ท่านพันธุระเสนา ทั้งสี่เป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก

    ต่อมา เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะ(องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า)ออกแสวงหาอภิเนษกรมณ์ ก็ไปพักอยู่ใกล้เมืองพระเจ้าพิมพิสาร พระเจ้าพิมพิสารก็ทรงคิดว่าเจ้าชายสิทธัตถะคงจะขัดคอกับใคร จึงได้ออกบวช ท่านจึงไปชวนให้เข้ามาร่วมกันครองเมือง เจ้าชายสิทธัตถะท่านก็บอกว่า ที่ออกบวชนี่ไม่ได้ขัดคอกับใครหรอก แต่ ตั้งใจจะแสวงหาโมกขธรรม คือธรรมที่เป็นเครื่องพ้นจากความตาย เพราะขึ้นชื่อว่าโลกนี้ย่อมมีของที่คู่กัน มีมืดได้ ก็สว่างได้ มีดีมันก็ต้องมีชั่ว มีขาวมันก็ต้องมีดำ คนที่เกิดมาแล้วตายได้ ธรรมที่ทำให้คนเกิดมีอยู่ ฉะนั้น ธรรมที่ทำให้คนไม่เกิด ไม่ตาย ก็ต้องมีอยู่เช่นกัน เมื่อพระเจ้าพิมพิสารทรงทราบอย่างนั้น จึงขอพรว่า หากพระองค์ทรงบรรลุซึ่งอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ เมื่อใดแล้ว ขอให้มาโปรดข้าพระองค์ก่อน เจ้าชายสิทธัตถะก็ทรงรับคำ

    ต่อมา เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะทรงแสวงหาอภิโมกขธรรม จนกระทั่งได้บรรลุเป็น "พระพุทธเจ้า" จึงตั้งใจมาโปรดพระเจ้าพิมพิสาร เมื่อเดินทางผ่านมาก็ทรงโปรดผู้คน มาตามลำดับ ในที่สุดก็เสด็จมาใกล้กรุงราชคฤห์มหานคร จอมบพิธอดิศรพระเจ้าพิมพิสารบรมกษัตริย์ และ อำมาตย์ข้าราชบริพาร ก็ไปเฝ้าพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าก็ทรงเทศน์กัณฑ์แรกให้พระองค์ฟัง เมื่อเทศน์จบ พระเจ้าพิมพิสาร และข้าราชบริพารส่วนใหญ่ ได้บรรลุเป็น พระโสดาบัน เหลือนอกนั้น เป็น "ผู้เข้าถึงไตรสรณคมณ์"

    คำว่า "ผู้เข้าถึงไตรสรณคมณ์" หมายความว่า เป็นผู้มีความเคารพในพระพุทธเจ้า เป็นผู้มีความเคารพในพระธรรม เป็นผู้มีความเคารพในพระอริยะสงฆ์

    คนที่เข้าถึงไตรสรณคมณ์ต้องมีศีล ๕ บริสุทธิ์ เขาดูกันที่ว่า มีศีล ๕ นะ
    ไม่ใช่นับถือในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แต่กลับเป็นผู้ทำลายศีล
    คนประเภทนี้ไม่ถือว่าเป็น "ผู้เข้าถึง ไตรสรณคมณ์"

    ต่อมาหลังจากนั้น พระเจ้าพิมพิสารก็ถวายที่อยู่ให้พระพุทธเจ้า ที่เรียกว่าพระเวฬุวัน แปลว่า สวนไม้ไผ่ให้เป็นที่ประทับของพระพุทธเจ้า และพระอริยะสงฆ์

    ขอเล่าลัดตัดความว่า มาในวาระหนึ่งสมัยเดียวกันนั้น ก็มีพระราชาท่านหนึ่ง มีพระนามว่า "พระเจ้าชมพูบดี" พระเจ้าชมพูบดีนี่มีอำนาจบุญญาธิการคล้าย ๆ กับ พระเจ้าจักรพรรดิ มีเกือกแก้ว เกือกแก้วนี่ใส่ไปแล้วเหาะได้ มีพระขรรค์แก้ว มีฤทธศร เป็นต้น
    คืนหนึ่งเดือนหงาย พระเจ้าชมพูบดีใช้เกือกแก้ว และพระขรรค์แก้ว เหาะไปในอากาศ เห็นยอดปราสาทของพระเจ้าพิมพิสารมีความสวยงามมาก งามกว่าปราสาทของตัว ด้วยความริษยา

    จึงคิดว่า ไอ้พระราชาเมืองนี้มันดีขนาดไหน จึงมีปราสาทสวยงามกว่าของเรา ก็เหาะลงมาที่ยอดปราสาท อันดับแรก ทรงใช้พระขรรค์ฟันยอดปราสาท พระขรรค์แก้วนี่สามารถตัดเหล็กได้โดยง่ายดาย แต่ด้วยอำนาจของพระเจ้าพิมพิสารที่เป็นพระโสดาบันมีกำลังใจเคารพในไตรสรณคมณ์เป็นเหตุ จึงยับยั้งพระขรรค์ของพระเจ้าชมพูบดี ไม่สามารถทำลายยอดปราสาทอีกทั้งพระขรรค์แก้วกลับบิ่นไป

    พระเจ้าชมพูบดียิ่งโมโหจึงยกเท้ากระทืบยอดปราสาท ไอ้เหล็กยอดปราสาทก็เลย ตำทะลุเกือกแก้วของท่านเข้าไปอีก ท่านก็ยิ่งโกรธ

    ในที่สุดก็กลับมายังพระราชนิเวศน์ คว้าเอาฤทธศรขึ้นมายิงไปฤทธศรนี้มีฤทธิ์มาก สั่งอะไรก็สั่งได้ เมื่อแผลงศรออกจากแหล่ง ก็สั่งให้ไปร้อยหูพระเจ้าพิมพิสารมา

    เมื่อศรมาแล้ว ก็ประกาศว่า เราจะร้อยหูพระเจ้าพิมพิสาร พระเจ้าพิมพิสารเห็นลูกศรมา ได้ยินเสียงดังแบบนั้นก็ตกใจว่า อันตรายแบบนี้ ไม่เคยมีสำหรับเรา เราไม่เคยพบ เราจะหาที่พึ่ง ก็ไม่มีใครเป็นที่พึ่ง จึงได้หนีไป เฝ้าพระพุทธเจ้าที่พระเวฬุวัน

    ฤทธศรนั้น ก็ตามพระเจ้าพิมพิสารไป พระพุทธเจ้าเห็นเช่นนั้นว่าจะมีอันตราย จึงได้ใช้พุทธานุภาพ ใช้วาโยกสิณ หอบเอาลูกศรนั้นกลับไปสู่แหล่งของตน เป็นอันว่าพระเจ้าพิมพิสารก็ปลอดภัย จากอันตราย

    ต่อมาจากนั้น พระพุทธเจ้าได้ทรงทรมานให้พระเจ้าชมพูบดี ให้ยอมรับ นับถือ แล้วจึงทรงเทศน์สั่งสอนให้สามารถเข้าถึงธรรมได้ ต่อไป

    เรื่องนี้มันยาวมาก ก็ขอนำมาเล่าแต่เพียงเท่านี้

    ที่เรียกว่า "พระเครื่อง"อันนี้ใช้ได้ แต่ถ้าหากเรียก “เครื่องลางของขลัง”อันนี้ใช้ไม่ได้

    พระทุกองค์ที่ท่านทำมา ไม่ใช่ของขลัง ท่านทำมาด้วยวิชาที่เขาเรียกว่า "พุทธศาสตร์" ไม่ใช่ "ไสยศาสตร์"

    พุทธศาสตร์ กับ ไสยศาสตร์ มีค่าแตกต่างกัน
    พวก "ของขลัง"นี่เป็น ไสยศาสตร์ เขาทำมาเพื่อ "ทำลาย"

    สำหรับ "พุทธศาสตร์" เขาทำมาเพื่อเป็นการสงเคราะห์ เพื่อให้บุคคลที่มี "พระ" ประเภทนี้ไว้ ถ้ามีใจเคารพในคุณพระรัตนตรัย ถ้าไม่ถึงอายุขัย ถ้าอันตรายต่อชีวิต
    จะพึงเกิดขึ้น ก็สามารถปลอดภัยจากอันตรายนั้นได้..จบ”

    ..................................................................................

    ทั้งหมดนี้ เป็นคำอธิบายขององค์หลวงพ่อฯ
    ก็พอจะสรุปได้ว่า "วัตถุมงคล"ที่สร้างขึ้นด้วยพุทธศาสตร์ นั้นผู้บูชานำมาบูชาด้วยความเคารพ ในพระรัตนตรัยโดยแท้จริงแล้ว สามารถปกป้องอันตรายผู้บูชา ได้อย่างแท้จริง

    แต่ก็ขึ้นอยู่กับกฎแห่งกรรม ถ้ามีกำหนดตามกรรมว่า "สิ้นอายุขัย"แล้ว ก็คงจะไม่มีอะไรคุ้มครอง ให้รอดชีวิตต่อไปได้

    จำได้ว่า องค์หลวงพ่อ เคยบอกไว้ว่า บรรดาพระที่ท่านสามารถสร้างวัตถุมงคลต่าง ๆ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากในด้านกันภัยให้กับผู้อื่น ส่วนใหญ่ท่านก็ได้ตายไปแล้วทั้งนั้น

    จะเห็นว่าผู้สร้างก็ตาย ผู้บูชาก็ต้องตาย องค์พระผู้มีพระภาคเจ้า นับเป็นเอกบุรุษของโลก พระองค์ท่านก็ละสังขารเสด็จเข้าสู่ พระปรินิพพานแล้วเช่นกัน

    เราก็ไม่รู้ว่ากรรมที่มีผลให้เราต้องตายก่อนอายุขัยนั้น เราอาจจะมี....
    และจะได้รับผลกรรมนั้น เมื่อไรก็ไม่รู้....
    ถ้าเรามีวัตถุมงคลไว้ก็จะช่วยคุ้มครองได้....

    ส่วนคนที่คิดว่าตัวเองกำลังใจสูงแล้ว มีพระอยู่ในใจแล้ว ก็คงไม่ต้องการ
    ....................................................................
     
  5. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    ที่ได้นำเรื่อที่เกี่ยวข้อง มาเล่าสู่กันฟังนี้ ก็เพราะว่า....

    1. จะได้เป็นประโยชน์ ต่อสาธารณชน
    2. เพื่อจะได้เข้าใจถึงความเป็น "ปุถุชน" และ "พระอริยชน"
    3. จะได้เข้าใจถึงความหมายของการสร้าง "พระ" และการสร้าง "พระเครื่อง"

    ทีนี้.. ก็อยู่ที่ตัวเรากันแล้วครับ ว่า.. เราเป็นปุถุชน หรือ พระอริยชน

    แล้วถ้าหากเรา มีโอกาสเลือก ระหว่าง "พระ" กับ "พระเครื่อง" เราจะเลือกอย่างไหน
    คำตอบ ก็คงจะวนไปที่ ปุถุชน และอริยชน อีกนั่นเอง ครับ.
    .......................................................
     
  6. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    ดังนั้น เรื่องที่จะคุยกันต่อไปนี้.. ขอตั้งเงื่อนไขว่า....

    เป็นเรื่องของปุถุชน นะครับ....
    (เพราะว่า ผมเอง ก็เป็นเพียงปุถุชน นั่นเอง)
     
  7. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    เรามาลองพิจารณาจากการเห็นภาพ และความรู้สึก กันสักหน่อยนะครับ ว่า....

    "พระ" ที่ถูกสร้างขึ้นมา 4 องค์ นี้

    องค์ไหนบ้าง ที่ผ่านพิธีพุทธาภิเศก ขององค์หลวงพ่อฯ

    องค์ไหนบ้าง ที่น่าจะถูกสร้างขึ้นมาใหม่ ภายหลัง
    และคงจะไม่ได้ผ่านพิธีพุทธาภิเศกโดย องค์หลวงพ่อฯ

    นับองค์ซ้ายสุด เป็นองค์ที่ 1.. 2.. 3.. และ 4 ไปทางขวา ของผู้ชมภาพ
    (ด้านหน้า และด้านหลัง ของ "พระ" รูปที่แสดง จะตรงกัน ครับ)

    ภาพที่โพส ได้จากเครื่องสแกนภาพ ความคมชัด จึงด้อยไปบ้าง นะครับ....

    แล้วผมจะเฉลย ภายหลังครับ....
    ................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 สิงหาคม 2006
  8. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    รุ่นนี้....
    ของที่ผ่านพิธีพุทธาภิเศก โดย องค์หลวงพ่อฯ ก็มีครับ....
    แต่เป็นการออกวัดอื่น.. หากจำไม่ผิด น่าที่จะเป็น วัดท้องคุ้ง หรืออย่างไร นี่....

    แต่ทว่า องค์(รูป)ที่คุณพัฒนาฯ โพสมานี้....
    หากมอบให้ผม.. ผมก็จะขอเก็บรักษาไว้เพื่อศึกษาถึงลักษณะ เท่านั้นเอง....
     
  9. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    ......................................................

    คุณพัฒนาฯ ครับ .. ขอตอบแทนคุณพัฒนาฯ นะครับว่า....

    ขอแสดงความยินดีกับคุณณรงค์ฯ ด้วยนะครับ....

    เป็นของแท้ครับ หากจำไม่ผิดก็เป็นศิษย์ที่สายลมสร้าง....
    แล้วนำไปเข้าพิธี ที่วัดท่าซุง ทันสมัยองค์หลวงพ่อฯ ครับ....

    มีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ทุกองค์ด้วยครับ(แต่บางองค์มองไม่เห็น.. ฝังอยู่ด้านใน)
    ................................................................................
     
  10. Pattana

    Pattana ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2005
    โพสต์:
    12,692
    ค่าพลัง:
    +204,315
    เอาเป็นว่า พระคำข้าวและพระหางหมากที่ไม่ผ่านพิธีพุทธาภิเศก ของหลวงพ่อ ที่ผมได้ซื้อมา จำนวน 5 องค์นี้ ผมจะได้มอบให้คุณมหาหินไว้ เพื่อศึกษาลักษณะ และเอาไว้เปรียบเทียบ กับพระที่ได้ผ่านพิธีพุทธาภิเศก ของหลวงพ่อ เพื่อที่จะได้ทราบข้อแตกต่างและได้ช่วยชี้แนะ แก่ผู้ที่ยังไม่ทราบต่อไปครับ
     
  11. Tawatchai1889

    Tawatchai1889 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    6,406
    ค่าพลัง:
    +16,785
    ดูความคมชัด และพิมพ์แล้วต่างกัน ถ้าดูละเอียดๆนะครับ เช่นบัวที่ประทับ ความลึกของพิมพ์ด้วยครับ เนื้อ ของแท้ดูมีมิติดีครับ ขอบคุณมากครับที่เอามาเทียบให้ดูครับ
     
  12. เช้าใหม่

    เช้าใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2005
    โพสต์:
    318
    ค่าพลัง:
    +5,754
    ขอบคุณพี่พัฒนาและพี่ๆทุกท่าน ที่ออกมาเตือนด้วยความหวังดีแก่น้องๆทุกคนด้วยนะครับ

    ผมส่งรูปพระคำข้าวที่ผมเพิ่งได้มาครับ ให้พี่ๆทุกท่านลองดูและติชมได้ตามสบายเลยครับ จะได้เป็นความรู้ให้แก่ทุกๆคนครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. Pattana

    Pattana ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2005
    โพสต์:
    12,692
    ค่าพลัง:
    +204,315
    โมทนาครับ องค์นี้ไม่กล้าติครับ ชัดมากเลยครับ เท่าที่ทราบมา จะเป็นรุ่นแรก มีจุดเด่นอยู่หลายจุดเลยครับ สังเกตุง่ายมาก ชัดเจนครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 สิงหาคม 2006
  14. pkomsan

    pkomsan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    6,206
    ค่าพลัง:
    +21,298
    พระรุ่นนี้หลวงพ่อพุทธาภิเษกครับ อยากทราบประวัติ ลองถามคุณ fongming ดูซิครับตอนหลังนำออกมาแจกผู้ร่วมทำบุญสร้างโบสถ์ครับ
     
  15. pkomsan

    pkomsan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    6,206
    ค่าพลัง:
    +21,298
    รุ่นนี้รุ่น 1 แน่นอน ถูกต้องทั้งหน้า และหลัง ยินดีดวยครับ
     
  16. Pattana

    Pattana ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2005
    โพสต์:
    12,692
    ค่าพลัง:
    +204,315
    นำมาลงให้เปรียบเทียบกันอีกครับ เป็นพระที่ผ่านพิธีพุทธาภิเสกจากโดยหลวงพ่อฤาษีฯแล้วครับ (จากนี้ไปจะไม่ใช้คำว่าพระปลอมแล้วครับ แต่จะขอใช้คำว่า ทำเลียนแบบ หรือ ไม่ผ่านพิธีพุทธาภิเศกโดยหลวงพ่อฯ แทนนะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • แท้3F.jpg
      แท้3F.jpg
      ขนาดไฟล์:
      588.8 KB
      เปิดดู:
      2,983
    • แท้3.jpg
      แท้3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      486.3 KB
      เปิดดู:
      2,185
  17. Pattana

    Pattana ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2005
    โพสต์:
    12,692
    ค่าพลัง:
    +204,315
    สำหรับองค์นี้ตอนที่ได้รับมา ไม่สังเกตุเห็นว่ามีอะไรผิดปกติ แต่พอจะนำออกมาเพื่อถ่ายรูป กลับเห็นเส้นเกศาดีดตัวออกมา (ขอบด้านล่างของพระ) ทำให้เห็นชัดเจนขึ้น ซึ่งเป็นกำลังใจให้ผมได้มากเลยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • แท้F2.jpg
      แท้F2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      196.9 KB
      เปิดดู:
      1,521
    • แท้R2.jpg
      แท้R2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      181.9 KB
      เปิดดู:
      1,384
  18. poemsakl

    poemsakl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +376
    ให้เช่าพระคำข้าว-พระหางหมาก ( ยกถุง )

    ให้เช่าพระคำข้าว-พระหางหมาก ถุงเดิมๆจากวัด ถุงละ 100 องค์
    ราคาองค์ละ 800 บาท มั่นใจของวัดแน่นอน
    สนใจ ติดต่อ คุณโชคชัย 02-5674514 , 02-9596140 ,09-7613337
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. เช้าใหม่

    เช้าใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2005
    โพสต์:
    318
    ค่าพลัง:
    +5,754
    ขอแสดงความยินดีกับพี่พัฒนาด้วยนะครับ เมื่อไร่ผมจะมีวาสนาได้พระคำข้าวที่มีเกศาหลวงพ่อบ้างนะ
     
  20. manote

    manote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2006
    โพสต์:
    924
    ค่าพลัง:
    +5,996
    สวัสดีครับ คุณ Pattana ขอโมทนาที่นำพระเก๊มาเปิดเผยต่อที่สาธารณะชน
    และว่าไปตามความเป็นปุถุชน ตามที่คุณมหาหินบอกไว้ ก่อนอื่นผมขอยินดีกับพระคำข้าวของคุณพัฒนาและคุณเช้าใหม่ครับ จากที่ดูผ่านเวบ ผมมั่นใจว่าของแท้ครับ เพราะดูแล้วขอบๆองค์พระมีจุดสีน้ำตาลเข้ม ไม่แน่ใจว่าขึ้นพระธาตุหรือไม่

    ส่วนพระเก๊ที่คุณพัฒนานำมาให้ดู ความจริงผมก็น่าจะซื้อกลับมาศึกษา เอาไว้คราวหน้า ผมจะซื้อมาเทียบดูเห็นบ่อยมากช่วงหลังๆ เหมือนมาก ผมส่องแล้วส่องอีก ลองตั้งคำถามหลายๆคำถามเพื่อดูคำตอบที่ผู้ให้เช่าตอบมา จนสุดท้ายไม่เชื่อมั่นเลยไม่เช่า อีกจุดที่ขอให้ดูกันคือหน้าองค์พระนะครับ หากใครมีรุ่นแรก รุ่นสอง ลองถ่ายรูปที่ชัดๆมาลงดูกันครับ ถ่ายมาเยอะๆ เรียงๆกัน พอเราไปดูพระตามแผงจริงๆจะพอดูออกแน่นอนครับ สโลแกนผม ดูบ่อยๆ จับบ่อยๆ จะดูออก อันนี้ผมเชื่อครับ เพราะก่อนหน้าผมได้พระคำข้าวมาจากตอนทำบุญถวายสังฆทานก็มาเก็บไว้หลังๆพึงมาส่องดูแล้วจดจำพิมพ์ ขนาด ก็พอดูได้แต่ไม่เก่งครับ เพื่อนๆลองดูนะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...