พระดี พิธีใหญ่ รับประกันแท้ทุกรายการ!!! เชิญชม บูชา ในกระทู้ได้เลยครับ"

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย HMMAmulet296, 4 กุมภาพันธ์ 2022.

  1. HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,311
    ค่าพลัง:
    +460
    576.พระดีพิธีใหญ่ พระผงล้างอาถรรพณ์ "หลวงปู่ศรีจันทร์..รุ่นสุดท้าย" ฝังตะกรุด หลวงปู่หมุน หลวงปู่ครูบาอิน ปลุกเสกร่วมกับเกจิหลายรูป ให้บูชาองค์ละ 650 บาท








    มวลสารต่าง ๆ ที่ใช้สร้างพระผง และมวลสารอุดก้นพระกริ่ง – พระชัยวัฒน์ มหาจักรพรรดิเนื้อโสฬสมหาจักรพรรดิธาตุเหล็กไหล
    พระธาตุ 500 อรหันต์
    พระธาตุข้าว
    แก้วขนเหล็ก
    เพชรหน้าทั่ง
    เหล็กไหลฤาษี
    เหล็กไหลเงินยวง
    เหล็กไหลตาแรด
    โคตรเหล็กไหลสีเงินยวง
    ขี้เหล็กไหล เหล็กย้อย
    เหล็กทรหด
    หยกพันปี
    แร่บางไผ่
    ผงตะไบเหล็กน้ำพี้ แร่เหล็กน้ำพี้ ไหลเพชรดำ
    ขมิ้นหินหมื่นปี
    ข้าวตอกพระร่วง แก่นไม้สักหินอายุ 160 ล้านปี มะพร้าวหินล้านปี
    ลูกมณีโคตร
    กะลาตาเดียว กาลาไม่มีตา(กะลามหาอุด)
    กัลปังหาแดง กัลปังหาดำ
    ดินโป่ง ดินกลางใจเมือง และน้ำจากศาลหลักเมือง 76 จังหวัด
    ข้าวสารหิน คดหอย ทรายเสก
    ผงหลวงปู่ดู่วัดสะแก ผงหลวงปู่แหวน ผงหลวงปู่ทิมวัดระหารไร่ แป้งเสกหลวงปู่อยู่วัดไทรโยง ผงว่านยาหลวงพ่อเมี้ยนวัดโพธิ์กบเจา
    เศษพระหักหลวงพ่อมีวัดมารวิชัย เศษพระหักหลวงปู่คำพันธ์วัดธาตุมหาชัยและวัดต่าง ๆ อีกมากมาย
    เขากวางคุด น้ำมันมนต์หลวงพ่อเมี้ยนวัดโพธิ์กบเจา ชานหมากเสกหลวงพ่อคำวัดท่าทอง ดินวิเศษสีเหลือง
    สมุนไพร 300 กว่าชนิด น้ำมนต์ 100 ตุ่ม หลวงปู่หงส์วัดเพชรบุรี ดินวิเศษสีเขียว แร่เงิน แร่ทอง แร่นาค ผงธูป สมเด็จโตวัดระฆัง ผงธูปวัดเกศไชโย ผงธูปหลวงปู่ทวดวัดช้างไห้ ผงธูปหลวงพ่อแช่มวัดท่าฉลอง ผงธูป ล.พ.จรัญวัดอัมพวัน เจ้าแม่ลิ้มกอเนี้ย ผงธูปศาลเจ้าพ่อเสือ ผงธูปวัดเล่งเน่ยยี่ ผงธูปวัดไต่ฮงกง หินพระธาติเขา 300 ยอด พระธาตุสิวลีขาว พระธาตุสิวลีสีทอง พระธาตุแก้ว อุกามณี (สะเก็ดดาว) ไม้กลายเป็นหิน ดอกไม้หิน เพชรน้ำค้าง หินเขี้ยวหนุมาน ขมิ้นขาวเปลือกหอย 75 ล้านปี ไม้งิ้วดำ คดปลวก ลูกธนูคนธรรพ์ แร่ทรายเงิน แร่ทรายทอง ผงงาช้าง งาช้างตายพราย งาช้างกระเด็น งาช้างกระดอน ผงเพชรแท้ เศษพลอยเมืองจันทร์ ผงสร้างพระของหลวงพ่อคูณวัดบ้านไร่ หลวงพ่อแพวัดพิกุลทอง หลวงพ่อเปิ่นวัดบางพระ หลวงพ่อคงวัดบางกระท้อน หลวงปู่นิลวัดครบุรี หลวงพ่อยิดวัดหนองจอก หลวงพ่อเชิญวัดโคกทอง หลวงปู่คำพันธ์วัดธาตุมหาชัย หลวงพ่อเกษม สุสานไตรลักษณ์ และผงสร้างพระของพระอาจารย์ต่าง ๆ อีก 300 กว่ารูป(ซึ่งไม่สามารถลงหมดได้) เศษพระหักของวัดระฆัง เศษพระหักวัดปากน้ำ พระเครื่องเก่าที่ชำรุดอีกเป็นจำนวนมาก ผงตะไบพระกริ่ง เนื้อนวะวัดสุทัศน์ ชานหมากหลวงปู่นิลวัดครบุรี ชานหมากหลวงพ่อเมี้ยนวัดโพธิ์กบเจา แป้งเสกหลวงปู่บุดดา ผงยาจินดามณีหลวงปู่ บุญวัดกลางบางแก้ว ผงยาจินดามณีหลวงปู่เพิ่มวัดกลงบางแก้ว น้ำมันงาเสกหน่วงพ่อคง วัดเขาสมโภชน์ น้ำมันงาเสก แร่บางไผ่ น้ำมันมนต์ไพรดำ น้ำมันมนต์จากพระคณาจารย์ต่าง ๆ และศาลหลักเมืองทั่วประเทศดินกากยายักษ์ ดินวิเศษสีขาว ว่าน 108 เกสร 108 สมุนไพร 108 ผงยันต์ 108 ผงอิทธิเจ ผงปถมัง ผงมหาราช ผงตรีนิสิงเห ผงนวหรคุณ แร่อาถรรพณ์จากภูเขาควายประเทศลาว ผงฤาษีผสมแล้ว ผงศักดิ์สิทธิ์จากถ้ำแก่งละว้า ผงศักดิ์สิทธิ์จากถ้ำม้าร้อง ผงศักดิ์สิทธิ์จากถ่ำไก่หล่น ผงศักดิ์สิทธิ์จากถ้ำเนินมะปรางค์ ผงใบลานคัมภีร์คาถาต่าง ๆ อีกมากมาย ผงเก่าสมัยอยุธยา ผงเก่าสมัยทวาราวดี ใบเสมาศิลาแลง สมัยอยุธยา ผงเก่าซึ่งอยู่ในไหขุดได้จากวัดร้างอายุหลายร้อยปี ทองคำเปลวจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทั่วประเทศ ตะไคร่โบสถ์ ตะไคร่วิหาร ตะไคร่พระปรางค์สามยอด ตะไคร่กำแพงเมืองเก่า ดินจากเนินดินพระอรหันต์ ดินจากสถานที่ประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน และสถานที่ปฐมเทศนาจากประเทศอินเดีย(ดินสังเวชนียสถานทั้ง 4 แห่ง)กระเบื้องโบสถ์และวิหารหลวงพ่อโสธร กระเบื้องโบสถ์และวิหารหลวงพ่อชินราช กระเบื้องโบสถ์และวิหารพระแก้วมรกต กระเบื้องโบสถ์และวิหารวัดไร่ขิง กระเบื้องโบสถ์และวิหารหลวงพ่อโต วัดบางพลีใน กระเบื้องโบสถ์หลวงพ่อพระร่วงโรจน์ฤทธิ์ กระเบื้องโบสถ์และวิหารหลวงพ่อวัดเศวตฉัตร ชิ้นส่วนหรืออิฐเก่าจากองค์พระธาตุพนม ชิ้นส่วนหรืออิฐเก่าจากองค์พระปฐมเจดีย์ ชิ้นส่วนหรืออิฐเก่าจากองค์พระธาตุและตะไคร่พระบรมสารีริกธาตุ จ.นครศรีธรรมราช และเจดีย์บริวารอีก 150 กว่าเจดีย์ ผงตะไบสัมฆวานร ผงลูกแก้วสามดวงและแป้งเสกหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค ผงลูกแก้วสีชมพู และสีขาว หลวงปู่ดู่ วัดสะแก ผลใต้ดานหลวงพ่อคล้อย วัดถ้ำเขาเงิน ผงหลวงปู่โต๊ะวัดประดู่ฉิมพลี ผงหลวงพ่อแดงวัดศรีมหาโพธิ์ ผงหลวงปู่ทองฤทธิ์วัดป่าฉันทนิมิตร ผงหลวงพ่อโอดวัดจันทร์เสน จ.นครสวรรค์ ผงหลวงพ่อสุรเสียง วัดป่าเลิงจาน ไหลคำดำ ประเทศลาว จีวรหลวงพ่อทองคำวัดท่าทอง ชานหมากหลวงปู่หงส์วัดเพชรบุรี ชานหมากหลวงปู่ทิมวัดพระขาว ชานหมากหลวงพ่อพุธวัดป่าสะลาวัน สีผึ้งหลวงพ่อพรหมวัดช่องแค น้ำมันมนต์นะหน้าทองหลวงพ่อคล้อยวัดถ้ำเขาเงิน ไม้เทพทาโร่ พระธาตุแม่พระธรณี แร่ธาตุตระกูลเหล็กไหลตามถ้ำต่างๆ อีกมากมาย
    เส้นเกศาของ 39 พระคณาจารย์ที่นำมาฝังไว้ในพระกริ่ง มีดหมอ และ พระขรรค์ คือ 1. หลวงพ่อพุธวัดเขาไม้แดง จ.ชลบุรี
    2. หลวงพ่อเมี้ยนวัดโพธิ์พบเจา จ.อยุธยา
    3. หลวงปู่ศรีจันทร์ วัดศรีสุธาวาส จ.เลย
    4. หลวงปู่ทองคำวัดท่าทอง จ.อุตรดิตถ์
    5. หลวงพ่อประเทืองวัดหนองย่างทอย จ.เพชรบูรณ์
    6. หลวงพ่ออาคมวัดดาวนิมิต จ.เพชรบูรณ์
    7. พระราชพัชราภรณ์(ม.)เจ้าคณะ จ.เพชรบูรณ์
    8. พระราชพุทธิมงคง วัดโรงธรรมสามัคคี จ.เชียงใหม่
    9. พระเทพรัตนดิลก(ธ) วัดเพชรวราราม จ.เพชรบูรณ์
    10. หลวงพ่อจ้อย วัดศรีอุทุมพร จ.นครสวรรค์
    11. หลวงพ่อบุญนำ วัดนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์
    12. หลวงปู่ต่อ วัดเขาแก้ว จ.นครสวรรค์
    13. หลวงพ่อสะอาด วัดเขาแก้ว จ.นครสวรรค์
    14. หลวงปู่อยู่วัดไทรโยง จ.อยุธยา
    15. หลวงปู่หงษ์วัดเพชรบุรี จ.สุรินทร์
    16. หลวงปู่กองวัดสระมณฑล จ.อยุธยา
    17. หลวงพ่อคีย์วัดศรีลำยอง จ.สุรินทร์
    18. หลวงปู่ฤทธิ์วัดชลประทานราชดำริ จ.สุรินทร์
    19. เส้นเกศาหล่วงพ่อเที่ยงพระพุทธบาทเขากระโดง จ.บุรีรัมย์
    20. หล่วงพ่อสาคร จ.ระยอง
    21. หลวงปู่ครูบาชัยวงษ์ศาพัฒนาวัดพระพุทธบาทห้วยต้ม จ.ลำพูน
    22. หล่วงปู่หลวง วัดป่าสำราญนิวาส จ.ลำปาง
    23. พระครูอภิรักษ์วัดเป่าสามขา จ.เชียงใหม่
    24. หลวงปู่ครูบาคำตั๋นวัดสันทรายหลวง จ.เชียงใหม่
    25. หลวงปู่ครูบาอิ่นคำ วัดข้าวแท่นหลวง จ.เชียงใหม่
    26. หล่วงปู่ครูบาหล้าวัดป่าลาน จ.เชียงใหม่
    27. หลวงปู่ครูบาอิ้นคำวัดมหาวัน จ.เชียงใหม่
    28. หลวงปู่ครูบาบุญปั๋นวัดร้องขุ้ม จ.เชียงใหม่
    29. หลวงปู่ครูบาคำวัดธรรมชัย จ.เชียงใหม่
    30. ครูบาอินทร วัดสันป่ายางหลวง จ.ลำพูน
    31. หลวงปู่ครูบาดวงจันทร์วัดป่าเส้า จ.ลำพูน
    32. หลวงปู่ครูบาอินตาวัดวังทอง จ.ลำพูน
    33. หลวงปู่ครูบาสุขวัดป่าซางน้อย จ.ลำพูน
    34. หลวงปู่ครูบาจ๋อนวัดป่าตาล จ.ลำพูน
    35. หลวงปู่ครูบาศรีนวลวัดช้างค้ำ จ.ลำพูน
    36. ครูบาอินตา วัดห้วยไซใต้ จ.ลำพูน
    37. หลวงพ่อสมควร วัดถือน้ำ จ.นครสวรรค์
    38. หลวงพ่อเวิน วัดน้ำวิ่ง จ.เพชรบูรณ์
    39. หลวงพ่อเปรื่อง วัดสันติวัฒนาจ.เพชรบูรณ์

    และ 80 สุดยอดเกจิดังอธิษฐานจิตเสกเดี่ยว ให้ในปี พ.ศ. 2544 (ศตวรรษที่ 21)
     
  2. HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,311
    ค่าพลัง:
    +460
    577. สุดยอดของดีของหลวงพ่อครับ !!! สมเด็จพิมพ์เล็ก สิริมหากาฬ ยุคแรก พระอาจารย์นก วัดเขาบังเหย เนื้อว่านสิริมหากาฬ หายาก ให้บูชา 750 บาท





    *** พระเครื่องของ พระอาจารย์นก วัดเขาบังเหย ประสบการณ์มากมายจริงๆ ลองหาอ่านจาก facebook ได้ และเนื้อว่านสิริมหากาฬ ยุคแรกๆท่านนับวันจะหายากเป็นตำนานแล้วนะครับ

    สมเด็จสิริมหากาฬ พระอาจารย์นก วัดเขาบังเหย นับว่าเป็นวัดถุมงคลของท่านในยุคแรกๆเลยครับ บวกกับเป้นพิมพ์ใหญ่ที่หาไม่ค่อยเจอได้ง่ายๆ พระสิริมหากาฬ เป็นพระพุทธรูปที่ศักสิทธิ์มากครับของวัดเขาบังเหย มีพุทธศิลป์ที่สวยงาม มีความเข้มขลัง และที่สุดเป็นที่เคารพศรัทธาของลูกศิษย์ลูกหาของวัดเขาบังเหย องค์นี้พิมพ์ในตำนานครับ หายากมาก

    พระอาจารย์นก วัดเขาบังเหย ท่านเป็นพระสายกรรมฐาน วัตถุมงคลของท่านประสบการณ์ มหาอุตม์ คงกระพัน แคล้วคลาด เมตตาครบทุกด้าน พระสมเด็จเนื้อว่านสิริมหากาฬ ต้องหาว่านจากบนเขา และนำมาทำเองท่านจึงไม่ได้แจกใครง่ายๆครับ พระท่านต้องทำงานแลก ถึงแจกฟรี ให้ไม่ขายบูชา คนที่ได้มา คนที่มีอยู่มักจะเก็บไว้กับตัว และหวงแหนมาก


    พระอาจารย์นกวัดเขาบังเหยสร้างพระแจกฟรี!ที่มากด้วย'พุทธคุณ'
    พระอาจารย์นก วัดเขาบังเหยสร้างพระแจกฟรี! ที่มากด้วย 'พุทธคุณและประสบการณ์' : เรื่องและภาพ ไตรเทพ ไกรงู
    พระอาจารย์เฉลิมชัย ฐิตตธมโม หรือพระอาจารย์นก ฐิตตธมโม แห่งวัดเขาบังเหยชุมพลสีมาราม หมู่บ้านซับมงคล ต.โป่งนก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ เป็นพระสายปฏิบัติศิษย์หลวงปู่แหวน สุจิณโณ แห่งดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ ท่านบวชเณรมาจาก จ.ชัยภูมิ ไปอยู่ปรนนิบัติหลวงปู่แหวน สุจิณโน ที่เชียงใหม่ ก่อนที่หลวงปู่จะละสังขาร วิชาและความรู้หลวงปู่แหวนได้เมตตาถ่ายทอดให้พระอาจารย์นก เป็นอย่างมาก
    หลังจากหลวงปู่แหวนละสังขาร มีการพระราชทานเพลิงศพแล้ว พระอาจารย์นกได้ธุดงค์เดินทางด้วยเท้ารอนแรมอยู่ในป่าทางภาคเหนือเพื่อทบทวนวิชาและความรู้ที่เล่าเรียนมา เมื่อเดินทางมาถึงเขาพังเหยบริเวณตำบลโปร่งนก ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดในปัจจุบัน ท่านเห็นว่าอาณาบริเวณนี้เป็นป่าที่สามารถฟื้นฟูเป็นป่าธรรมชาติได้ เป็นสถานที่สงบเหมาะสมแก่การปฏิบัติธรรมเพื่อเจริญสติ ตามแนวทางที่ครูบาอาจารย์ที่ท่านศึกษาเล่าเรียนมา
    สิ่งหนึ่งที่พระอาจารย์นกได้ตั้งสัจจะและยึดปฏิบัติโดยถือว่าเป็นกฎประจำตัวตั้งแต่บวชจนถึงทุกวันนี้ คือ พระเครื่องและวัตถุมงคลตั้งแต่รุ่นแรกจนถึงรุ่นปัจจุบันที่สร้างมากว่า ๓๐ ปี คือ สร้างเพื่อแจกฟรีเพื่อเป็นทานเท่านั้น เพื่อให้คนจน คนไม่มีได้มีของดีไว้ใช้ มีของยึดเหนี่ยวทางจิตใจ เพียงเพื่อให้เป็นบุญเท่านั้น ผู้ที่รับไปล้วนมีประสบการณ์เล่าขานกันมากมาย
    พระอาจารย์นกบอกว่า “วัตถุมงคลแม้ว่าจะขึ้นชื่อว่ามีพุทธคุณสูง แต่ไม่มีวัตถุมงคลชนิดใดในโลกกันตายได้แต่ช่วยเหลือไม่ให้ได้ตาย และไม่ได้หมายความว่าวัตถุมงคลชนิดเดียวกันจะช่วยเหลือคนได้ทุกคนเหมือนกัน หากต้องขึ้นอยู่กับความศรัทธาด้วย เมื่อมีศรัทธาปฏิหาริย์ย่อมเกิดขึ้นได้ เมื่อไร้ศรัทธาก็ไร้ปาฏิหาริย์ ไม่ว่าโจรหรือตำรวจหากมีศรัทธาปาฏิหาริย์ย่อมเกิดขึ้นได้ไม่ต่างกัน”
    เมื่อถามว่า “การสร้างวัตถุมงคลเป็นเปลือกของพุทธศาสนาทำให้คนติดและหลงใหลในวัตถุมงคล” ทั้งนี้พระอาจารย์นกได้ตอบคำถามไว้อย่างน่าคิดว่า “ทุกอย่างมีเปลือก ต้นไม้อยู่ได้เพราะเปลือกที่คอยปกป้องเลี้ยงกระพี้และแก่นให้เจริญเติบโต ศาสนาก็มีเปลือกที่คอยปกป้องอุ้มชูเลี่ยงกระพี้และแก่น ถ้าศาสนามีแต่แก่นทุกคนมุ่งแต่หลุดพ้นอย่างเดียววันนี้คงไม่มีพุทธศาสนาแล้ว เพราะถ้าคนไม่ทำทานไม่ทำบุญซึ่งถือว่าเป็นเปลือกของศาสนา แล้วจะมีการสร้างศาสนสถานอย่างที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ ถ้าพุทธศาสนาไม่มีเปลือกพระเณรก็จะอยู่ไม่ได้”
    อย่างไรก็ตามแม้ว่าพระอาจารย์นกจะเป็นหัวแรงสำคัญในการนำศรัทธาญาติโยมและลูกศิษย์ในการสร้างวัดเขาบังเหย แต่ท่านไม่ได้เป็นและรับตำแหน่งเจ้าอาวาส พระที่เป็นเจ้าอาวาสชื่อ “พระครูไพบูลย์ธรรมกิจ” ซึ่งมีชื่อเสียงมาก ญาติโยมในพื้นที่แถบนี้ไม่น้อยกว่า ๓ อำเภอ พากันหลั่งไหลไปกราบ กอปรกับวัดนี้มีพระภิกษุรูปหนึ่งเป็นพระหมอยา มีความสามารถ “ผสมยา” ในป่า ต้มให้ญาติโยมอาบ อบ รักษาโรคฟรี ไม่ต้องใช้เงินบูชาเอายาใดๆ คนป่วยส่วนใหญ่หายจากโรคภัยไข้เจ็บอย่างน่าอัศจรรย์ใจ
    ความพิเศษของพระอาจารย์นกนอกจากสร้างพระเครื่องและวัตถุมงคลแจกฟรีแล้ว สิ่งหนึ่งที่พิเศษและแตกต่างจากวัดอื่นๆ อย่างสิ้นเชิง คือ ในวัดก็ไม่ได้ตั้งตู้รับบริจาค เงินที่ได้มาเปิดโรงทาน (อาหารฟรีตลอดปี) ได้มาจากญาติโยมฐานะดีบริจาคเป็นกองทุน “ลอยเอาไว้” ทั้งปี รวมทั้งมีเศรษฐีบริจาคเงินสร้างศาลา สร้างกุฏิ และกำลังสร้างพระอุโบสถหลังใหญ่ ด้วยพลังศรัทธาในวัตรปฏิบัติและคำสอนในวัตรปฏิบัติของพระอาจารย์นก
     
  3. HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,311
    ค่าพลัง:
    +460
    578.สุดยอดพระดีแดนใต้ ปิดตารุ่นแรกท้องอุ เนื้อผงว่านผสมน้ำนมควาย หลวงพ่อเขียว วัดหรงบล จ.นครศรีธรรมราช พ.ศ. 2510 ให้บูชา 3,000 บาท ปิดรายการครับ





    พ่อท่านเขียว เกิดปี พ.ศ. 2424 อุปสมบทที่วัดคงคาวดีเมื่ออายุได้ 22 ปี ท่านศึกษาวิชากับสำนักพ่อท่านเอียด วัดหรงบน ซึ่งเชี่ยวชาญวิปัสสนา คาถาอาคม อักขระโบราณต่าง ๆ พ่อท่านเป็นพระคงแก่เรียน ปฏิบัติพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด มีอาจารย์ดีหลายท่านถ่ายทอดวิชาอาคมให้ พ่อท่านเขียวออกธุดงค์ จาริกตามป่าเขาในเขตภาคใต้จนถึงปี 2459 ท่านกลับไปวัดหรงบนแต่อาจารย์เอียดมรณภาพไปแล้ว ชาวบ้านจึงอาราธนาท่านขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัดหรงบน ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ยุคเดียวกับอาจารย์นำ วัดดอนศาลาและพ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง ซึ่งทั้งสามท่านได้รับนิมนต์ร่วมในงานปลุกเสกวัตถุมงคลของหลวงปู่เพิ่มที่ วัดกลางบางแก้วในปี 2513 เกียรติคุณของพ่อท่านเขียวยิ่งโด่งดังเมื่อท่านมรณภาพแล้ว (ปี 2519) ทางวัดทำพิธีฌาปนกิจท่านแต่ปรากฏว่าเผาแล้วร่างท่านไม่ไหม้ไฟ แม้กระทั่งจีวรเก็บไว้ก็ไม่เน่าเปื่อยกลายเป็นหินเป็นความมหัศจรรย์จากความ ศักดิ์สิทธิ์ของพ่อท่านเขียว

    พ่อท่านเขียว วัดหรงบน สมัยท่านมีชีวิตอยู่คนไม่ค่อยจะรู้จัก เคยอ่านพบในหนังสือเล่มหนึ่งว่าตอนที่ท่านมาปลุกเสกพระกริ่งพุทธชัยศรีที่ วัดกลางบางแก้วช่วงที่นั่งพักผ่อน ญาติโยมที่ไปร่วมงานไม่มีใครสนใจท่านเพราะไม่เป็นที่รู้จัก แต่พระดังๆในสมัยนั้นคนรุมล้อมเพียบ

    คนที่เขียนบทความนั้นก็ไม่รู้จักท่านแต่ได้เข้าไปถามท่านว่ามาจากไหน ท่านบอกว่ามาจากวัดหรงบน ท่านได้มอบรูปหล่อให้ด้วย ตอนท่านอยู่ชื่อเสียงของท่านเป็นที่รู้จักในวงแคบ วัตถุมงคลของท่านมีประสบการณ์มากมายในพื้นที่ แต่ไม่มีการประชาสัมพันธ์ จนหลังจากท่านมรณภาพไปแล้วก็ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก ท่านมาดังเอาจริง ๆจัง ๆก็ตอนงานฌาปนกิจศพของท่าน หลังจากท่านมรณภาพแล้วศพของท่านไม่เน่าเปื่อย กลับแข็งเป็นหิน พอถึงวันฌาปนกิจ ศพของท่านเผาไฟไม่ไหม้ แม้แต่จีวรห่อศพก็ไม่ไหม้ เป็นที่อัศจรรย์ ทางวัดจึงเก็บสรีระของท่านเอาไว้ให้คนไปกราบไหว้ นอกจากสังขารของท่านจะไม่เน่าเปื่อยแล้ว เล็บและผมของท่านงอกยาวออกมาเรื่อยๆ ต้องได้ปลงทุกปี

    วัตถุมงคลอย่างหนึ่งที่ท่านได้สร้างเอาไว้ องค์นี้ก็คือ พระปิดตา ซึ่งสร้างเพื่อแจกแก่ผู้มาร่วมทำบุญในงานก่อเจดีย์ทรายของวัดหรงบนในปี 2510 พ่อท่านเขียวได้มอบผงวิเศษให้ลูกศิษย์นำไปผสมกับมวลสารอย่างอื่น เช่น ว่าน เกสรดอกไม้ ดินกรุ ชันโรง ชานหมาก เส้นเกศา ฯลฯ โดยนำมวลสารมาคลุกเคล้าให้เข้ากันโดยมี "น้ำนมควาย" เป็นตัวผสมช่วยในการประสานเนื้อพระ โดยในครั้งนั้นได้พระจำนวนมากพอสมควร จากนั้นท่านได้ปลุกเสกเดี่ยวตลอด 15 คืน แล้วนำออกแจกในงานก่อเจดีย์ทราย เมื่อปี 2510 พระปิดตารุ่นนี้ส่วนมากเนื้อหาจะแก่ว่านและผงมาก มีหลายโซนสีทั้งสีออกแดง ,เทา สีใบลานผิวไขหว่านขาว ๆ นอกจากนี้ในคราวเดียวกัน พ่อท่านเขียวก็ได้สร้างพระปิดตาด้วยเนื้อตะกั่วลงถม ขนาดเท่านิ้วก้อย อีกด้วยจำนวนการสร้างก็พอ ๆ กับเนื้อว่านผสมชานหมาก

    ว่าไปแล้วชาวบ้านทางใต้ เขานิยมใช้พระปิดตาของท่าน มากกว่าเหรียญกับรูปเหมือนของท่านเสียอีกเพราะท่านพูดเสมอๆ ว่าเหรียญกับรูปเหมือนเป็นของที่คนอื่นทำมาให้ท่านปลุกเสก สู้ของที่ท่านทำเอง สร้างเองไม่ได้ ประสบการณ์ก็ดีครบทุกด้าน ตั้งแต่เมตตามหานิยม โชคลาภ แคล้วคลาด คงกระพัน มหาอุตม์

    ท่านบอกวันมรณะภาพให้ศิษย์และพระในวัดรู้ แต่ก็ไม่มีใครสนใจกันนัก คงจะลืม แล้วท่านก็จากไปด้วยความสงบเมื่อเผาร่างของท่านเป็นชั่วโมง ๆ ไฟที่จุดนั้นไม่ลุกติดจีวรของท่านเลยแสดงถึงบุญอภินิหาร และท่านฉันว่านยาเป็นนิจ ทำให้ร่างกายของท่านเผาไม่ไหม้ไฟปัจจุบันร่างท่านแข็งเป็นหินไปแล้วพระสงฆ์ ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ขนาดว่ามรณะภาพแล้วเผาไฟก็ไม่ไหม้ นานไปร่างก็แข็งเป็นหินอีก ในประเทศไทยมีกี่รูปกันครับ
     
  4. HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,311
    ค่าพลัง:
    +460
    579.สมเด็จหลังสิงห์ หลวงปู่บัว วัดบางเป้ง ชลบุรี ผสมผงเก่าบางขุนพรหม ผสมผงเก่าบางขุนพรหม พระชุดนี้คนเมืองชลรู้จักกันดีครับ โดยเฉพาะคนแถวหนองมนครับ ให้บูชา 1,550 บาท



    พระสมเด็จหลังสิงห์ผงาด หลวงปู่บัว วัดบางเป้ง มวลสารบางขุนพรหมและ ผงสูตรวัดเครือวัลย์สุดเข้มข้น

    หลวงปู่บัว วิปุโล วัดบางเป้ง ตำบลแสนสุข จังหวัดชลบุรี (ศิษย์เอก เจ้าคุณศรี วัดอ่างศิลา, หลวงพ่อหลาบ วัดบางเป้ง) เนื้อผงมหาพุทธคุณ จัดสร้างราวปีพ.ศ. 2500-2505 มวลสารหลักที่ใช้ในการจัดสร้าง คือ ผงสมเด็จบางขุนพรหมที่เเตกหัก จากคราวที่เปิดกรุอย่างเป็นทางการเมื่อปี2500 มีการผสมในปริมาณที่ค่อนข้างมากและจำนวนการจัดสร้างก็น้อย เนื่องจากมวลสารของพระสมเด็จของท่านแต่ละองค์เนื้อหาเข้มข้นมาก เหมือนเนื้อพระสมเด็จบงขุนพรหมเลย

    พระสมเด็จบางขุนพรหมที่ท่านนำมาใช้เป็นส่วนผสมนี้ หลวงปู่บัวท่านได้รับมาจากนายอำเภอพานทอง ในสมัยนั้น นำมาถวายให้ท่านด้วยความศรัทธา ซึ่งก่อนหน้านี้หลวงปู่บัว มีเพียง 1ถุง ซึ่งได้ขอแบ่งมาจากหลวงพ่อปี่ วัดโคกเจริญ (ท่านมีอยู่ 1 ปี๊บ นายอำเภอพานทองถวายก่อนหน้าที่จะมาถวายให้หลวงปู่บัว) เอกลักษณ์พระสมเด็จหลวงปู่บัว พระ สมเด็จที่ท่านหลวงปู่บัวจัดสร้าง มีพุทธศิลป์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ทั้งเนื้อหามวลสาร คือมวลสารจัดเก่า, เนื้อหามวลสารจะเห็นเป็นเม็ดเหมือนตำไม่ละเอียด เนื้อเดิมเป็นก้อนๆ หรือที่เรียกว่า เม็ดพระธาตุ , มีรอยยุบแยกย่นในเนื้อองค์พระ ส่วนในแง่ของพุทธศิลป์ รูปแบบพิมพ์ทรงของท่านจะไม่เหมือนใคร รวมถึงสิงห์ผงาดนูนต่ำที่ประทับอยู่ด้านหลัง เห็นที่ไหนก็บอกได้ว่าพระสมเด็จหลวงปู่บัว การจัดสร้างพระของหลวงปู่ไม่ธรรมดาครับ พระ เครื่องของหลวงปู่บัว ท่านจะแกะบล็อกเอง (พิมพ์จะตื้นกว่าพระทั่วไป) ผสมมวลสาร และกดพิมพ์เอง ตลอดจนการปลุกเสกเดี่ยวโดยไม่ยอมให้ใครมายุ่งเกี่ยวเลย หรือช่วยเหลือท่าน

    โดยผงมหาพุทธคุณที่ใช้ผสมนี้ จะใช้ผงลบ ตามสูตรของ หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ซึ่งจดบันทึกไว้เป็นสมุดข่อย สำหรับเนื้อผงพระของท่านทุกองค์จะผสม ว่านดอกทอง และ ว่านไก่กุ๊ก ตามตำรับหลวงพ่อแก้ว ซึ่งว่านทั้งสองนี้เป็นว่านที่หายากมาก ๆ มีสรรพคุณในตัวเด่นด้านมหาเสน่ห์อย่างสูง

    ประวัติโดยย่อของ หลวงปู่บัว วิปุโล พระ ครูพิพัฒน์ศีลคุณ ชื่อเดิมบัว เป็นบุตรนายหล่ำ นางหลาม อุ่นจิตต์ เกิดเมื่อวันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2442 ปีกุน ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี อุปสมบท ณ วัดอ่างศิลา อ.เมือง จ.ชลบุรี พระครูสุนทรธรรมรส (ศรี) วัดอ่างศิลา อ.เมือง จ.ชลบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการหลาบ วัดบางเป้ง อ.เมือง จ.ชลบุรี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ.2495 ได้รับฉายาว่า วิปุโล อุปสมบทแล้วได้มา จำพรรษาอยู่ที่วัดบางเป้ง ท่านได้สร้างวัตถุมงคลมากมายแบบหลายพิมพ์ อาทิเช่น พระพิมพ์สมเด็จสีรุ้งหลังสิงห์ พระพิมพ์ขุนแผน พิมพ์นางพญา พิมพ์ซุ้มกอ พระปิดตา เป็นต้น วัตถุมงคลของหลวงพ่อบัว จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สีสันหลากหลาย ลักษณะพิมพ์มีแบบแผนตามหลักพิมพ์นิยม ตั้งแต่ขนาดเล็กมากจนถึงขนาดใหญ่ จึงเป็นวัตถุมงคลที่สร้างตามสูตรและหลักการโบราณประเพณีในคาถาอาคมไสยเวท ต่าง ๆ มีเอกลักษณ์เฉพาะตนเป็นที่เสาะแสงหาของนักนิยมวัตถุมงคลชาวชลบุรีและประชาชน ในละแวกวัดบางเป้งเป็นอันมาก
     
  5. HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,311
    ค่าพลัง:
    +460

    ###ปิดรายการครับ
     
  6. HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,311
    ค่าพลัง:
    +460
    580.พระนางพญา เสน่ห์จันทร์ หลวงพ่อไซร้ วัดช่องลม จ.อุตรดิตถ์ เนื้อดินผสมแร่เหล็กน้ำพี้ ปี 2503 ให้บูชา 650 บาท







    พระนางเสน่ห์จันทร์ ล.พ.ไซร้ ท่านสร้างตั้งแต่ปี2502-2503
    ช่างแกะพิมพ์ปี 2502 พระมีขนาดใหญ่ๆเท่าๆกับนางเสน่ห์จันทร์ ของสุโขทัยและยังได้มีการแกะพิมพ์หลวงปู่ทวด ขึ้นมาอีกหนึ่งพิมพ์ หลังจากสร้างพระโดยท่านกดพิมพ์พระทำกันเองที่วัดกันเสร็จแล้วจึงได้นำมาเข้าพิธีปลุกในปี 2503
    ว้ตถุมงคลที่สร้างขึ้นมาในชุดนี้ นอกจากพิมพ์ พระนางเสน่ห์จันทร์ พระหลวงปู่ทวดแล้วยังมีพิมพ์แม่ย่าสุโขทัยอีกด้วย เนื้อหาของพระปี 2503 เนื้อหามีส่วนผสมของพุทธคุณวิเศษต่างๆของท่าน ผงพระกรุเก่าสุโขทัย,กรุกำแพงเพชรกรุพระเก่าชำรุดมากมาย ผงดินมงคล แร่เหล็กน้ำพี้ค่อนข้างมาก และเนื้อว่านด้านหลังจะมีทั้งหลังยันต์ตรีนิสิงเห,ยันต์กงจักร และ หลังเรียบ
    พิธีปลุกเสกนั้นมีเกจิดังมาร่วมปลุกเสกถึง 9 รูปด้วยกันเช่น
    ล.พ.ไซร้วัดช่องลม
    ล.พ.ปี้ วัดด่านลานหอย
    ล.พ.ทบ วัดชนแดน
    ล.พ.เขียน วัดถ้ำขุนเณร
    ครูบาวัง วัดบ้านเด่น
    ลพ.กัน วัดเขาแก้ว
    ลพ.อั้น วัดพระญาติ
    ลพ.เฮี้ยง วัดป่า

     
  7. HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,311
    ค่าพลัง:
    +460
    581. พระดีในตำนานครับ!!! พระกลีบบัว กรุวัดลิงขบ จัดเป็นพระกรุเนื้อดินเผายุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์ จัดสร้างในราวปี พ.ศ.2410 ให้บูชา 3,500 บาท



    พระกรุวัดลิงขบเป็นพระกรุเนื้อดินเผาละเอียด สีแดงอมส้ม และ สีหม้อใหม่ มีทรายทองอยู่ในเนื้อเป็นบางแห่ง แตกกรุเมื่อประมาณปี พ.ศ.2509 จัดเป็นพระกรุเนื้อดินอีกกรุหนึ่ง

    "วัดลิงขบ" เป็นชื่อที่ชาวบ้านเรียกกัน ชื่อทางราชการคือ "วัดบวรมงคล" เป็นพระอารามหลวงชั้นตรีชั้นราชวรวิหาร ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งธนบุรี ใกล้กับโรงงานสุราบางยี่ขัน ท้องที่บางพลัด กทม. ในแผ่นดินของ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ มีชาวรามัญ (มอญ) อพยพมาพึ่งพระบรมโพธิสมภารมาก และมีพระสงฆ์ติดตามมาด้วยล้นเกล้าฯ จึงทรงกำหนดสถานที่ให้อยู่เป็นที่ๆ รวมทั้งบริเวณ วัดลิงขบ นี้ด้วย
    ตามหลักฐานบางแห่งกล่าวว่า กรมพระยาราชวังบวรสถานมงคลมหาเสนานุรักษ์ พระเจ้าน้องยาเธอ ในรัชกาลที่ ๒ ได้ทรงสถาปนา วัดลิงขบ นี้เป็นพระอารามหลวง แล้วพระราชทานนามใหม่ว่า "วัดบวรมงคล"
    "วัดบวรมงคล" เป็นวัดรามัญส่วนกลาง มีพระราชาคณะฝ่ายรามัญมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสติดต่อกันมา จนถึงปี ๒๔๖๒ สภาพวัดทรุดโทรมมาก พระรามัญมาอยู่น้อย จึงได้มีการเปลี่ยนแปลงวัดนี้เป็นวัดทางธรรมยุตสืบมาจนถึงทุกวันนี้
    ผู้สร้าง "พระกลีบบัว"
    เมื่อ พระรามัญมุนี (ยิ้ม) เจ้าอาวาสวัดบวรมงคล รูปที่ ๓ ได้มรณภาพลง (ครองวัดปี ๒๓๘๐-๒๔๑๐) พระสุเมธาสจารย์ (ศรี) ขณะดำรงสมณศักดิ์ที่ "พระครูราชปริศ" ได้มารักษาการในตำแหน่งเจ้าอาวาสแทน พระสุเมธาจารย์ (ศรี) เป็นชาวบางพูด จ.นนทบุรี เกิดในสมัยรัชกาลที่ ๓ ปี ๒๓๗๘ ได้บวชเรียนใน สำนักวัดปรมัยยิกาวาส ตั้งแต่อายุได้ ๑๐ ปี และได้อุปสมบทแบบพระรามัญที่วัดบางพูด เมื่อปี ๒๓๙๙ มาอยู่ วัดชนะสงคราม บางลำพู แล้วย้ายมาอยู่ วัดบวรมงคล ระยะหนึ่ง ช่วงปี ๒๔๑๐ แล้วจึงกลับมาเป็นเจ้าอาวาสวัดชนะสงครามจนถึงกาลมรณภาพ เมื่อปี ๒๔๕๕ สิริรวมอายุได้ ๗๘ ปี ในขณะรักษาการตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดบวรมงคล ปี ๒๔๑๐ นั้น ท่านได้บูรณะปฏิสังขรณ์เสนาสนะภายในวัดเป็นการใหญ่ และได้สร้างเจดีย์ขึ้นองค์หนึ่งเพื่อไว้เป็นอนุสรณ์ เมื่อสร้างเจดีย์เสร็จ ได้นำเอาพระพุทธรูปพระเครื่องและสิ่งของมีค่าต่างๆ บรรจุไว้ในองค์เจดีย์ รวมทั้งได้สร้าง พระพิมพ์กลีบบัว เนื้อดินเผา บรรจุไว้ด้วย เพื่อเป็นการสืบพระศาสนาด้วย
    การสร้าง "พระพิมพ์กลีบบัว" นี้ พระสุเมธาจารย์ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์โดยมีพระเถราจารย์ผู้เรืองเวทวิทยาคมในสมัยนั้นมาร่วมพิธีปลุกเสก ซึ่งมีอยู่มากมายหลายท่านด้วยกัน มีบางท่านกล่าวว่า พระพิมพ์กลีบบัว นี้สร้างในช่วงที่ เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) วัดระฆังฯ ธนบุรี ยังมีชีวิตอยู่ จึงอาจจะเป็นไปได้ว่า เจ้าประคุณสมเด็จโตฯ จะได้รับนิมนต์มาร่วมปลุกเสกด้วยก็ได้ เมื่อเทียบปี พ.ศ.ดูแล้ว เห็นว่าตรงในสมัยของเจ้าประคุณสมเด็จฯโต จริง ก็อาจจะเป็นไปได้ อันนี้ถือเป็นข้อสันนิษฐาน มิใช่ข้อยืนยันว่าเป็นจริง
    กรุพระแตกที่วัดลิงขบ
    เมื่อเดือนมีนาคม ๒๕๐๙ มีผู้ลักลอบขุดกรุพระที่องค์เจดีย์ของ วัดลิงขบ ได้นำพระบูชา พระเครื่องออกไปเป็นจำนวนมาก ทางวัดทราบข่าวจึงได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ก็ยังมีผู้แอบมาลักลอบขุดกรุพระอีกเสมอๆ ทางวัดจึงได้แจ้งต่อกรมการศาสนา และ ขออนุญาตเปิดกรุพระ นี้ขึ้นอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ ๒๕ มี.ค.๒๕๐๙
    กรุพระที่ขุดนี้มี ๒ จุด คือ กรุที่ฐานเจดีย์และที่คอระฆังเจดีย์ ปรากฏว่าได้พระบูชา และพระเครื่องชนิดต่างๆ มากมาย และมีพระบรมสารีริกธาตุ แหวนทองคำ ตะกรุดทองคำ ปะปนอยู่ด้วย ที่มีมากเป็นพิเศษคือ พระพิมพ์กลีบบัวเนื้อดินเผา ซึ่งมีจำนวนถึง ๗๕,๐๐๐ องค์ เข้าใจว่า ในตอนสร้างคงจะมีจำนวน ๘๔,๐๐๐ องค์ ตามจำนวนพระธรรมขันธ์ แต่ได้ถูกคนร้ายลักลอบขโมยขุดออกไปก่อนหน้านี้แล้วจำนวนหนึ่ง
    พระพิมพ์นี้ชาวบ้านเรียกกันว่า "พระกรุวัดลิงขบ" มีรูปทรงสัณฐานเหมือนกับ กลีบบัว
    พุทธลักษณะ องค์พระปฏิมากรประทับนั่งขัดสมาธิเพชร พระพักตร์เป็นรูปไข่อูม พระโมลีเป็น ๒ ชั้นเรียวยาว พระกรรณห้อยย้อยระย้ายาวลงมาจรดพระอังสา ในบางองค์ที่คมชัด จะปรากฏพระขนง พระเนตร พระโอษฐ์ พระนาสิกอย่างชัดเจน
    เส้นสังฆาฏิจะปรากฏเป็นแนวคมชัด บางองค์จะปรากฏริ้วจีวรเป็นขีด ๒ เส้น พาดผ่านพระกรมาจนถึงพระกัจฉะ ลำพระองค์ที่ผึ่งผายได้สัดส่วนสง่างาม การทอดพระพาหาเป็นแบบหักพระกัปประมาประสานกันที่พระเพลา ซึ่งเป็นแบบขัดสมาธิเพชร องค์พระไม่มีอาสนะรองรับ รอบๆ องค์พระปฏิมากรจะปรากฏเส้นรัศมีเปล่งออกมาจากองค์พระ
    ด้านหลังขององค์พระจะปรากฏเป็นรอยแอ่งเว้าลงไปเล็กน้อย และมีลายมือของผู้กดพิมพ์ด้วย บางองค์หลังเรียบก็มี ด้านล่างองค์พระจะมีรู ซึ่งเกิดมาจากการใช้ไม้แหลมเสียบเข้าเนื้อพระเพื่อแกะเอาองค์พระออกมาจากแม่พิมพ์
    เนื้อหามวลสาร ละเอียดพอสมควร ไม่มีก้อนแร่หรือวัสดุอื่นใดปะปน แต่อาจจะมีบางองค์ที่มีทรายเงินทรายทองเล็กๆ ปะปนอยู่บ้าง พระส่วนใหญ่จะมีราดำจับอยู่บนผิว บางองค์มีมาก บางองค์มีน้อย ทำให้ง่ายต่อการพิจารณา
    สีขององค์พระ มีหลายสี เช่น เหลืองนวล สีแดงอิฐ สีส้มอ่อนๆ บางองค์จะมีสีเทาดำปะปนบ้าง ทั้งนี้เป็นเพราะตอนเผาความร้อนถูกองค์พระไม่เท่ากัน แบบเดียวกับพระกรุเมืองลำพูน เมืองกำแพงเพชร หรือเมืองสุพรรณบุรี ในตอนที่เปิดกรุพระออกมานั้น ทางวัดให้บูชาองค์ละไม่กี่สิบบาทปรากฏว่า ได้เงินจำนวน ๓ แสนบาท ทางวัดได้นำไปสร้างศาลาการเปรียญหลังใหญ่ ๑ หลัง ดังปรากฏเป็นถาวรวัตถุมาจนถึงทุกวันนี้
    พระพุทธคุณ ดีเด่นทางเมตตามหานิยม ป้องกันคุณไสย และคมเขี้ยวสัตว์ร้ายได้ดี
     
  8. HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,311
    ค่าพลัง:
    +460
    สวัสดีครับ ^^
     
  9. HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,311
    ค่าพลัง:
    +460
    582. ศิษย์หลวงปู่ภู วันอิทรวิหาร ตำนานไม้ครู สมเด็จพิมพ์แซยิด(พิมพ์นิยม) หลวงปู่เลี่ยม วัดศรีเรืองบุญ จ.นนทบุรี ให้บูชา 3,000 บาท





    สมเด็จพิมพ์แซยิด(นิยม) จัดเป็นพิมพ์นิยมและเล่นหามาตรฐานอีกพิมพ์หนึ่งของหลวงปู่เลี่ยม สร้างน้อยหายากครับ เนื้อผง(ผสมผงเก่าหลวงปู่ภู วัดอินทร์) หลวงปู่เลี่ยม วัดศรีเรืองบุญ นนทบุรี ท่านเป็นศิษย์หลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร บางขุนพรหม และได้รับผงเก่าที่ได้รับจากหลวงปู่ภูผสมลงในมวลสารพระของท่านด้วย พระเครื่องที่หลวงปู่เลี่ยมสร้างอยู่ในช่วงเวลา 2470กว่า ถึง 2480กว่าๆ สภาพยังสวยเดิมๆ เนื้อหาจัดจ้าน ใช้แทนพระของหลวงปู่ภู วัดอินทร์ฯได้
     
  10. HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,311
    ค่าพลัง:
    +460
    583. หลวงพ่อแดงปลุกเสกนาน 3 เดือน พระผงน้ำมัน พิมพ์พระประทานพร หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ จ.เพชรบุรี ออกวัดเทพธิดาราม จ.กรุงเทพ ให้บูชา 1450 บาท




    พระชุดนี้ ออก วัดเทพธิดาราม กรุงเทพฯ

    หลวงพ่อแดง ปลุกเสกตลอด 1 ไตรมาส ปี 2515

    * วัตถุประสงค์ การจัดสร้าง *
    หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ ท่านได้ปลุกเสกไว้ให้กับวัดเทพธิดาราม กทม. เมื่อปี 2515
    เพื่อช่วยบูรณะปฎิสังขรณ์กุฎิคณะ 5 ซึ่งมีพระหลานชายของท่านอยู่ และเป็นผู้สร้างพระชุดนี้ขึ้นมา โดยนำมาให้หลวงพ่อแดง ปลุกเสก

    จัดสร้างทั้งหมด 5 พิมพ์
    1. รูปเหมือนหลวงพ่อแดง
    2. พระพิมพ์สมเด็จ เสตังคมุนี
    3. พระพิมพ์สมเด็จ พระปทุมรังษี
    4. พระร่วงหลังรางปืน
    5. พระประทานพร ทรง 3 เหลี่ยม

    หลังจากที่นำไปให้หลวงพ่อแดง ปลุกเสกนาน 3 เดือน แล้วจึงนำมาเข้าพิธีพุทธาภิเษกอีกครั้งหนึ่ง มีพระคณาจารย์ที่มาร่วมในพิธีปลุกเสก อาทิ
    พระราชปัญญาโสภณ (สุข)วัดราชนัดดา กทม.
    พระครูปลัดสำเริง วัดราชนัดดา
    พระญาณโพธิ์ วัดสุทัศน์
    พระครูสิริวรคุณ วัดพระยาศิริไอยสวรรค์
    พระครูนิมิตสีลคุณ วัดใหม่เทพนิมิต
    พระครูพิทักษ์วิหารกิจ (สา) วัดราชนัดดา
    พระครูปัญญาโชติวัตร (เจริญ) วัดทองนพคุณ เพชรบุรี
    หลวงพ่อมิ วัดสิงห์ (เชิงสะพานกรุงธน) กรุงเทพฯ

     
  11. HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,311
    ค่าพลัง:
    +460
    584. รูปถ่ายหลังสายสิญจน์ รุ่นบูชาครู ปี2561 วัดโฆษิตาราม ลายสกรีนกระดาษแท้มาตรฐานสากลดูง่ายๆ เลี่ยมเก่าเดิมๆจากวัด รุ่นนี้ประสบการณ์ดีพอๆกับรูปปี2558 ให้บูชา 850 บาท





     
  12. HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,311
    ค่าพลัง:
    +460
    585.พระพุทธชินราช ปี 43 หลวงปู่หมุนปลุกเสก ออกวัดพระศรีฯ จ.พิษณุโลก เนื้อขาวเทา ให้บูชา 1250 บาท



    สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก มีพระเมตตาคุณประทานพระอนุญาตให้จัดสร้าง สิ่งมงคลสักการะพระพุทธชินราช พระนามย่อ ญสส. เนื้อว่าน ตอกโค๊ดด้านหลัง งดงามมาก ด้านหน้าเป็นรูปพระพุทธชินราช นูนสูง ด้านหลังเป็นยันต์อกเลาศักดิ์สิทธิ์ จารึกพระนามย่อ ญสส. และคาถาหัวใจอริยสัจสี่ ( ทุ - สะ - นิ - มะ ) อันหมายถึง ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ความจริงอันประเสริฐ 4 ประการ ที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ *พิธีมหาพุทธาภิเษก-สมโภชน์ ครั้งยิ่งใหญ่ของเมืองพิษณุโลก ในรอบปี พ.ศ.2543 ณ วิหารพระพุทธชินราช เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 พฤศจิกายน 2543 พระเกจิอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิวิทยาคุณทั่วประเทศ นั่งบริกรรมปลุกเสก 4 ผลัดๆ ละ 21 รูป รวม 84 รูป นานถึง 12 ชั่วโมง พิธีกรรมเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ตามหลักโบราณจารย์พิธียิ่งใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์ของพิษณุโลก อัดแน่นด้วยพุทธคุณแรงสุดๆ เกจิชื่อดังทั่วประเทศในครั้งนั้น ร่วมมาปลุกเศกมากมาย หนึ่งในนั้นมี หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล แห่งวัดบ้านจาน และเกจิดังมากมายร่วมพิธีปลุกเศกอย่างเข้มขลัง

    สุดยอดพระดีพิธีใหญ่สุดยอดอีกหนึ่งรุ่นที่หลวงปู่หมุนท่านได้รับนิมนต์ร่วมพิธีปลุกเสก เมื่อปี พ.ศ.2543 สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก มีพระเมตตาคุณประทานพระอนุญาตให้จัดสร้าง สิ่งมงคล สักการะพระพุทธชินราช พระ นามย่อ ญสส. แกะพิมพ์โดยนายช่างธนยศ เศวตวิจิตร ประติมากรชั้นเอกของเมืองไทย

    โดยพิธีมหาพุทธาภิเษก-สมโภชน์ ครั้งยิ่งใหญ่ของเมืองพิษณุโลก ในรอบปี พ.ศ.2543 ณ วิหารพระพุทธชินราช เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 พฤศจิกายน 2543 พระเกจิอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิวิทยาคุณทั่วประเทศ นั่งบริกรรมปลุกเสก 4 ผลัดๆ ละ 21 รูป รวม 84 รูป นานถึง 12 ชั่วโมง พิธีกรรมเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ตามหลักโบราณจารย์ หนึ่งในนั้นมีหลวงปู่หมุน จิตสีโลแห่ง วัดบ้านจาน และเกจิดังมากมายร่วมพิธีปลุกเศกอย่างเข้มขลัง รายนามพระคณาจารย์ 84รูปที่ร่วมอธิษฐานจิต อาทิ
    1.หลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน
    2.หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม
    3.หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังวิเวการาม
    4.หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย
    5.หลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม
    6.หลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม
    7.หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว
    8.สมุห์อวยพร วัดดอนยายหอม
    9.หลวงปู่หลวง วัดป่าสำราญนิวาส
    10.หลวงพ่อสง่า วัดบ้านหม้อ
    11.หลวงปู่ฤทธิ์ วัดชลประทานราชดำริ
    12.หลวงปู่ท่อน วัดศรีอภัยวัน
    13.หลวงพ่อหวล วัดพุทไธสวรรค์
    14.หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว
    15.หลวงพ่อเก๋ วัดปากน้ำ
    16.หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ
    17.หลวงพ่อกลั่น วัดเขาอ้อ
    18.หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม
    19.หลวงปู่เหรียญ วัดอรัญบรรพตคีรี
    20.พระมหาโพธิ์ วัดคลองมอญ
    21.หลวงปู่ธีร์ วัดมิ่งเมือง
    22.หลวงพ่อสวัสดิ์ สำนักสงฆ์เม้าสุขา
    23.หลวงปู่ตี๋ วัดหลวงราชาวาส
    24.หลวงพ่อเขียว วัดระเว
    25.หลวงพ่อพรหม วัดบ้านสวน
    26.หลวงพ่อวิชัย วัดถ้ำผาจม
    27.เจ้าคุณจวบ วัดระฆังโฆสิตาราม
    28.หลวงพ่อลำใย วัดทุ่งลาดหญ้า
    29.เจ้าคุณธงชัย วัดไตรมิตร
    30.หลวงพ่อสมพงษ์ วัดใหม่ปิ่นเกลียว
    31.หลวงพ่อเฉิลม วัดพระญาติการาม
    32.หลวงพ่อพูลทรัพ์ วัดอ่างศิลา
    33.หลวงพ่อลมูล วัดเสด็จ
    34.หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง
    35.หลวงปู่รอด วัดสันติกาวาส
    39.ครูบาน้อย วัดศรีดอนมูล เป็นต้น
     
  13. HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,311
    ค่าพลัง:
    +460
  14. HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,311
    ค่าพลัง:
    +460
    สวัสดียามเช้าครับ
    9_9
     
  15. HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,311
    ค่าพลัง:
    +460
    586. พระผงรูปเหมือน พระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป พิมพ์เตารีดเล็ก ให้บูชา 650 บาท



    มวลสารในการจัดสร้างประกอบด้วยเกศาองค์หลวงพ่อ ไม้ทานาคาจากประเทศพม่า ว่านต่างๆ มากกว่า 108 ชนิด ข้าวสารดำ ของอาถรรพ์ทนสิทธิ์ และผงวิเศษอื่นๆ อีกจำนวนมาก ซึ่งรวบรวมจากทั่วประเทศ ก่อนกดพิมพ์ นิมนต์พระสงฆ์และสามเณรในจังหวัดอุดรธานี เจริญสมาธิภาวนา และอธิษฐานจิตมวลสารกว่าร้อยรูป เป็นเวลา 1 คืนเต็ม และกดพิมพ์ ณ วัดป่าเหวไฮจัดสร้างไว้ 2 พิมพ์ คือพิมพ์เล็ก (เมตตา) และพิมพ์ใหญ่ (พิเศษ)

    หลวงพ่อเปลี่ยนเมตตาอธิษฐานจิตยาวนานถึง 1 ไตรมาส

    คณะศิษย์จัดสร้างถวายท่านอาจารย์ ที่ระลึกครบรอบวันเกิด เมื่อ 16 พย. 2542 เนื้อผงผสมมวลสาร และเกศา ท่านอาจารย์ มีสี เขียว, น้ำตาล(เหลือง), แดง และ ดำ
     
  16. HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,311
    ค่าพลัง:
    +460
    587. พระปิดตารุ่นแรกพิมพ์เดี่ยว ครูบาพรหมา วัดพระพุทธบาทตากผ้า จ.ลำพูน ปี 2526 ให้บูชา 650 บาท



     
  17. HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,311
    ค่าพลัง:
    +460
    588.ขุนศึกแห่ง ลุ่มแม่น้ำกลอง พระท่ากระดาน วัดต้นลำใย พิมพ์ใหญ่ ให้บูชา 899 บาท





    พระท่ากระดาน วัดต้นลำใย กาญจนบุรี ปี2536 วัดต้นลำใย สร้างจากตะกั่วนม ตะกั่วนี้ขุดค้นพบในกรุถ้ำลั่นทม อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ลักษณะคล้าย
    ฝาหม้อ หรือนมสาว เป็นตะกั่วพันปีที่ใช้ในการสร้างพระท่ากระดานกรุเก่า กรุศรีสวัสดิ์ และนำมาสร้างพระท่ากระดานของหลวงพ่อนารถ วัดศรีโลหะฯ พระเกจิชื่อดัง
    แห่งกาญจนบุรีในเวลาต่อมา ตะกั่วนมเก่ามีอายุมากเป็นพันปี เป็นตะกั่วที่มีพุทธคุณสูงเพราะผ่านการทำพิธีปลุกเสกแล้ว เชื่อกันว่าผู้สร้างพระท่ากระดานกรุเก่าศรีสวัสดิ์
    (ฤาษีตาไฟ)เป็นผู้ทำพิธีปลุกเสกไว้แล้ว ในปีพ.ศ.๒๕๓๖ วัดต้นลำใยได้นำตะกั่วเก่ามาจัดสร้างด้วยกัน ๓ พิมพ์ คือ พิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง และพิมพ์เล็ก ใช้วิธีการกดลงแม่พิมพ์ทั้งก้อน ไม่ได้หลอมใหม่ จึงคงความเก่าตามธรรมชาติไว้
    ได้สวยงามมาก ใครหลงใหลคราบ ไขและสนิมแดงแท้ๆ ควรหาไว้ส่องไว้ศึกษา จำนวนการสร้างพระท่ากระดานของวัดต้นลำไยรุ่นนี้ พระครูกาญจนกิตติสาร
    เจ้าอาวาสและเจ้าคณะตำบลบ้านใหม่ เล่าให้ฟังว่าสร้างไว้จำนวนพอประมาณ ไม่มากนัก เพราะต้องใช้ตะกั่วเก่าล้วนๆ มากดพิมพ์ จึงมีจำนานจำกัด เมื่อสร้างพระท่า
    กระดานชุดนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางวัดก็ได้ทำลายบล็อกแม่พิมพ์เลยเพื่อไม่ให้มีการใช้บล็อกเดิมมากดพิมพ์พระ ขึ้นมาใหม่ ทำให้รู้ว่าวัดต้นลำไยมีพระท่ากระดานรุ่น
    เพียงรุ่นเดียว

    พระรุ่นนี้ได้นำเข้าพิธีพุทธาพิเษก ในโบสถ์เก่าแบบ"มหาอุต"ของวัดต้นลำใย ซึ่งสร้างมาตั้งแต่ปลายกรุงศรีอยุธยา อายุราว ๔๐๐ ปี ทำพิธีใหญ่เป็นเวลา ๙ วัน
    ๙ คืน พระเกจิร่วมในการพุทธาพิเษก ประกอบด้วย หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ หลวงพ่ออุตตะมะ วัดวังก์วิเวการาม หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ หลวงพ่อ
    พูล วัดไผ่ล้อม หลวงพ่อหลิว วัดไร่แตงทอง พระธรรมคุณาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี หลวงพ่อฮวด วัดดอนโพธิ์ทอง, หลวงพ่อลำไย วัดทุ่งลาดหญ้า, หลวงพ่อเล็ก วัดเขาดิน กาญจนบุรี, หลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม นครปฐม, หลวงพ่อทองสุก วัดท่าตะคร้อ เป็นต้น
     
  18. HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,311
    ค่าพลัง:
    +460
    589. พระผงรุ่นพิเศษ หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม วัดป่าอรัญวิเวก จ.นครพนม ปี 2517 ให้บูชา 1500 บาท


    พระผงรุ่นพิเศษ หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม วัดป่าอรัญวิเวก จ.นครพนม ปี 2517 สร้างเพื่อมอบให้แก่ผู้ร่วมทำบุญ ที่วัดอุดมรัตนาราม อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร โดยสร้างพร้อมเหรียญรูปเหมือนของท่าน หลวงปู่อธิฐานจิต ๑ ไตรมาส ก่อนนำเข้าพิธีพุทธาภิเษก ในวันที่ 2-4 เมษายน 2517 มวลสารผสมผงวิเศษต่างๆ ข้าวก้นบาตร ชานหมาก เส้นเกษาหากต้องการอธิษฐานขอสิ่งใด ให้นั่งสมาธิเชื่อมพลัง นั่งสมาธิจนจิตว่างแล้วจึงอธิษฐานขอท่าน
     
  19. HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,311
    ค่าพลัง:
    +460
    590. สรรพสิทธิโชค เหรียญรุ่นแรก พระอาจารย์ทองบัว วัดป่าโรงธรรมสามัคคี จ.เชียงใหม่ ปี ๒๕๑๗ ให้บูชา 1650 บาท




    หลวงปู่ทองบัว นับว่าเป็นพระเถระคณาจารย์ผู้เรืองวิทยาคุณสูง ทรงศีลาจารวัตรเคยปฎิบัติ บำเพ็ญสมาธิ วิปัสนากัมมัฏฐานเป็นเวลาช้านานมากว่า ๗๐ ปี อีกทั้งมีจิตบริสุทธิ์ทรงพลังแข็งแกร่ง ดังนั้นวัตถุมงคลที่ท่านนั่งปรกบริกรรมปลุกเสกอธิษฐานจิตแผ่พลังเมตตาลงไปในเหรียญนั้นจึงดีเด่น มีพุทธคุณสูงทางด้านเมตตามหานิยม เหรียญนำโชคลาภมหาศาลอาจดลบันดาลให้มีโชคดีราวปาฎิหาริย์ เหรียญดังกล่าวนั่นก็คือ “เหรียญสรรพสิทธิโชค” รุ่นแรก พ.ศ.๒๕๑๗ ซึ่งเหรียญรุ่นนี้แกะบล็อคโดย นายช่างเกษม มงคลเจริญ ซึ่งมีฝีมือแกะเหรียญได้งามเลิศเป็นอันดับหนึ่งในขณะนั้น ซึ่งจำนวนที่สร้างมีดังนี้

    กำเนิดของเหรียญสรรพสิทธิโชค รุ่นแรก พ.ศ.๒๕๑๘ โดยคณะกรรมการจัดสร้างเหรียญนำโดยท่าน พลตรี เอนก สืบวงศ์แพทย์ – คุณนายอุบลวรรณ (บัวเที่ยง ) สืบวงศ์แพทย์ บุตรีคุณแม่บัวเขียว พรหมชนะ, พ.อ.นิวัติ หีบทอง, พ.ต.อ.ภมร ชัยศิริ, อาจารย์ถาวร แก้วญานะ บุตรชายนายซาว แก้วญานะ ผู้ร่วมแรงสร้างกุฏิศาลาถวาย พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต เมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๙ นอกจากนี้ ผู้เป็นเรี่ยวแรงสำคัญยิ่ง นำเหรียญจำนวนกว่าสองหมื่น เดินทางจากกรุงเทพฯนำไปให้ พระอาจารย์ทองบัว ตนฺติกโร วัดโรงธรรมสามัคคี ศิษย์พระอาจารย์มั่น เมตตาทำพิธีนั่งปรกปลุกเสกเหรียญนี้จนสำเร็จ บุคคลสำคัญผู้แบกภาระขนส่งเหรียญชุดนี้ก็คือ ครอบครัวนายพลอากาศตรี พีระพงษ์-อนงค์นุช ภูยานนท์ บุตรีคุณนวลอนงค์ แก้วญานะ อดีตนางสาวเชียงใหม่ และนางงามสันกำแพง ปี พ.ศ.๒๕๐๐

    ลักษณะเหรียญที่มีชื่อว่า เหรียญสรรพสิทธิโชค รุ่นแรก เป็นเหรียญรูปไข่ มีหูในตัว มีขนาดกว้าง ๒.๕ ซม. สูง ๓.๓ ซม. หนาราว ๑ มิลลิเมตรเศษ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๘
    ด้านหน้า เป็นภาพครึ่งองค์หน้าตรงของหลวงพ่อทองบัว ตนฺติกโร เจ้าอาวาส วัดโรงธรรมสามัคคี จังหวัดเชียงใหม่ ผู้เป็นศิษย์เอกหนึ่งใน ๑๐๘ องค์ สายกองทัพธรรมอันลือชื่อของ พระอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทตฺตเถระ ปรมาจารย์ด้าน วิปัสสนากัมมัฏฐาน เมื่อยังมีชีวิตเคยสร้างคุณงามความดีนานัปการ สมัยเมื่อราวปี ๒๔๗๐ นานร่วมร้อยปีมาแล้ว ท่านเกิดปี พ.ศ.๒๔๑๓ และมรณภาพเมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๒

    ส่วนด้านล่างริมขอบเหรียญเป็นลวดลายไทยที่ผูกขึ้นเป็นรูปดอกบัวชูช่ออยู่ตรงกึ่งกลาง และมีกลีบบัวคลี่ขยายเป็นลายกนกโอบโค้งควบขนาบทั้งสองฟากของเหรียญนี้ บรรจงแกะขึ้นอย่างประณีตอ่อนช้อยงดงามยิ่ง สมกับเป็นฝีมือครูช่างแกะบล็อก นายช่างเกษม มงคงเจริญ สุดยอดฝีมือแกะเหรียญพระคณาจารย์ชื่อดังแห่งยุค ๓๐ ปีก่อน

    ส่วนด้านหลังเหรียญ กึ่งกลางมียันต์เฑาะว์ ขัดตะหมาดวนสามรอบมียอดอุณาโลม มีคาถากำกับสองข้างเป็นตัวขอม อ่านว่า นะโมวิมุตตานัง นะโมวิมุตติยา

    ส่วนรอบๆ ริมขอบเหรียญมีตัวหนังสือไทย อ่านว่า พระครูวิมลคณาภรณ์ ( พระอาจารย์ทองบัว ตนฺติกโร ) วัดป่าโรงธรรมสามัคคีอ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ และตรงกึ่งกลางมีชื่อเหรียญว่า เหรียญสรรพสิทธิโชค
    ผู้ริเริ่มสร้างเหรียญ เมื่อวันที่ ๑๗ กันยายน พ.ศ.๒๕๑๗ คณะผู้จัดสร้าง เหรียญสรรพสิทธิโชค รุ่นแรก ปี พ.ศ.๒๕๑๘ ได้ขออนุญาต ท่านพระครูวิมลคณาภรณ์ ( ทองบัว ตนฺติกโร ) สร้างเหรียญชนิดต่างๆ ขึ้น ดังนี้คือ

    ๑. เหรียญสรรพสิทธิโชคเนื้อทองคำหนักราว ๒๗ กรัม จำนวน ๙ เหรียญ มีเลข ๑-๙ กำกับ
    ๒. เหรียญสรรพสิทธิโชคเนื้อเงิน จำนวนการสร้าง ๒๙๙ เหรียญ
    ๓. เหรียญสรรพสิทธิโชคเนื้อนวะ จำนวนการสร้าง ๖๙๙ เหรียญ
    ๔. เหรียญสรรพสิทธิโชคเนื้อทองแดงกละไหล่ทอง จำนวนการสร้าง๑๙๙๙ เหรียญ
    ๕. เหรียญสรรพสิทธิโชคทองแดงรมดำ จำนวนการสร้าง ๙๙๙๙ เหรียญ

    จากจำนวนทั้งสิ้นนี้ยังมี ชุดกระเป๋าเพื่อจัดเป็นชุดหากมีผู้ที่ต้องการบูชาเป็นชุด คาดว่าไม่น่าเกิน ๑๐๐ ชุด และยังมีเหรียญทองแดงผิวไฟอีกจำนวน ๑๕๐๐ เหรียญ และผ้ายันต์สรรพสิทธิโชคอีกราว ๓๐๐ ผืน ล็อกเก็ตอีก ๓ อัน

    หัวหน้าคณะกรรมการจัดสร้างมี พลตรี เอนก สืบวงศ์แพทย์, พ.ต.อ.ภมร ชัยศิริ, พ.อ.นิวัติ หีบทอง, คุณแสวง ปร่ำนาค และผู้เขียน

    ครั้นนายช่างเกษม มงคลเจริญ แกะบล็อกและปั๊มเหรียญครบถ้วนตามจำนวนดังกล่าวแล้ว ก็นำเหรียญไปเข้า พิธีพุทธาภิเษก ณ พระวิหาร (อุโบสถ) วัดโรงธรรมสามัคคี เลขที่ ๕๖ หมู่ที่ ๗ อำเภอสันกำแพง จ.เชียงใหม่ โดยท่านพระครูวิมลคณาภรณ์ (ทองบัว ตนฺติกโร) เจ้าอาวาสวัดมีเมตตาทำพิธีนั่งปรกปลุกเสกให้เรียบร้อยสมบูรณ์ครบถ้วนดีทุกประการ และได้อาราธนาพระสงฆ์ ๙ รูป เจริญสวดชัยมงคลคาถาพรมน้ำพระพุทธมนต์จนเสร็จพิธีการนี้ เมื่อวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๑๘ พร้อมทั้งให้มงคลนามแก่เหรียญดังกล่าวนี้ชื่อว่า เหรียญสรรพสิทธิโชค มีพุทธคุณดีเด่นทางโชคลาภมีทรัพย์สินทวีคูณ อีกทั้งเมตตามหานิยมและแคล้วคลาดภัยอันตรายทั้งปวง ท่านยังประสาทพรให้บังเกิดความสุขสวัสดี และอำนวยโชคลาภแก่ผู้เลื่อมใส หากมี เหรียญสรรพสิทธิโชค ไว้พกพาใช้บูชาประจำตัวสืบไปตลอดกาลนาน ท่านมีวาจาสิทธิ์ประสิทธิพรมงคล ว่าดังนี้

    สิทธิกิจจัง สิทธิวาจัง สิทธิกัมมัง
    สิทธิอริยะ ตถาคัตโต สิทธิเตโชโยนิจจัง
    สิทธิลาโภ นะรันตะรัง
    สัพพะสิทธิ ประสิทธิเต

    อนึ่ง มีเรื่องน่าพิศวงเกี่ยวกับพุทธคุณเหรียญนี้มีประสบการณ์อันเป็นที่ประจักษ์ มีหลักฐานยืนยันว่าหลายรายที่เคยมีฐานะย่ำแย่ ก็พลันมีฐานะการเงินกระเตื้องขึ้นราวปาฏิหาริย์ กลายเป็นเศรษฐีเงินล้าน ชาวสันกำแพงและเชียงใหม่ จึงพากันกล่าวยกย่องเหรียญนี้ว่า เหรียญเงินล้าน

    พุทธคุณเด่นของเหรียญรุ่นแรก ดีเด่นทางด้านโชคลาภ ทำให้ฐานะการเงินกระเตื้องขึ้นได้แทบไม่น่าเชื่อ เคยเป็นที่ประจักษ์แก่สายตามามากราย ว่าดลบันดาลให้บังเกิดโชคดีมหาศาล ดุจดังบุญหล่นทับนั่นเทียว ผู้ใดมีเหรียญรุ่นแรกนี้ จงเก็บบูชาไว้เถิด จักบังเกิดโชคลาภให้เห็นผลประจักษ์ได้แน่นอน สมกับคำอวยพรว่า สรรพสิทธิโชค ที่หลวงปู่ท่านได้แต่งชื่อเหรียญรุ่นนี้ไว้


    หลวงปู่เป็นศิษย์เอกยุคต้นหลวงปู่มั่น ภูริตเถระ หนึ่งในกองทัพธรรม ที่ขึันบุกเบิกภาคเหนือ ส่วนวัดป่าโรงธรรมสามัคคี “เดิมนั้นเป็นสวนลำไย มีเนื้อที่ประมาณไร่เศษ ชาวบ้านได้รวมกันซื้อที่ดินเพื่อสร้างเป็นวัดขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ.2481 สมัยก่อนชาวบ้านเรียกว่าวัดโรงธรรม วัดแห่งนี้เป็นสถานที่ที่พระสายวิปัสสนามาบำเพ็ญสมณะธรรมมานานแล้ว อาทิ พระอาจารย์มั่น ในปี พ.ศ.2481 และอีกหลายรูปที่มาจำพรรษาในที่นี้ อาทิ หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร, พระอาจารย์ตื้อ อจาธมฺโม วัดนี้ได้รับพระราชทานวิสูงคามสีมา เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2506 หลวงปู่ทองบัวเป็นเจ้าอาวาสจวบจนปัจจุบัน วัดนี้เจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก สมณะศักดิ์ ปี พ.ศ.2501 เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ พระครูวิมลคณาภรณ์ ปี พ.ศ.2535 เป็นพระราชาคณะที่ พระวิมลธรรมญาณเถร ปี พ.ศ.2547 เป็นพระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนามว่า “พระราชพุทธิมงคล” นอกจากนั้นแล้วหลวงปู่ทองบัว ท่านยังได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน และท่านเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน (ธรรมยุต)จวบจนท่านมรณะภาพเมื่อช่วงเช้าวันที่ 17 พฤษภาคม 2554 ยังความอาลัยแก่ลูกศิษย์
     
  20. HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,311
    ค่าพลัง:
    +460
    591. พระชุดปี 2516 หลวงปู่สี ฉฺนทสิริ วัดเขาถ้ำบุญนาค จ.นครสวรรค์ พิมพ์พระรอด และ ปิดตาข้าวต้มมัด ให้บูชาชุดละ 1450 บาท





    จัดสร้างในปี พ.ศ. ๒๕๑๖ โดยทางวัดบ้านเกิดของพระครูวิศิษฏ์สมโพธิ์ ที่ อ.บางมูลนาค จ.พิจิตร ได้มีการสร้างศาลา และกุฏิสงฆ์
    ท่านจึงขออนุญาต หลวงปู่สี ฉนฺทสิริ และหลวงปู่ท่านเมตตาอนุญาตให้ พระครูวิศิษฏ์สมโพธิ์จัดสร้างพระ เพื่อนำปัจจัยไปช่วยสร้างศาลาและกุฏิสงฆ์
    หลวงปู่สี ท่านจึงมีเมตตา แผ่พลังจิตลงไปในวัตถุมงคลที่พระครูวิศิษฏ์สมโพธิ์ ได้จัดสร้างมาถวายให้หลวงปู่สี ท่านปลุกเสกให้

    พระรุ่นนี้มีประสบการณ์มากในทางมหานิยม และแคล้วคลาด

     

แชร์หน้านี้