พระดี พิธีใหญ่ รับประกันแท้ทุกรายการ!!! เชิญชม บูชา ในกระทู้ได้เลยครับ"

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย HMMAmulet296, 4 กุมภาพันธ์ 2022.

  1. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,772
    ค่าพลัง:
    +466
    916. เหรียญ รุ่น 8 รุ่นพุทโธ...หลวงปู่สิม พุทธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง เนื้อทองแดง ปี 2517 ให้บูชา 1350 บาท

    upload_2022-10-10_17-17-32.png


    วัตถุมงคลชุดพุทโธจัดสร้างโดย คณะกรรมการ วัดม่อนศรีบุญโยง ต.เกาะคา อ.เกาะคา จ.ลำปาง เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ร่วมทำบุญบริจาคเงิน สร้างพระอุโบสถหลังใหม่ขึ้นแทนวิหารหลังเก่า ที่วัดม่อนศรีบุญโยง ซึ่งชำรุดทรุดโทรมจนเกิดอันตรายได้ หลวงปู่ได้เห็นเจตนาความตั้งใจจริงที่จะสร้างอุโบสถ ได้เมตตาช่วยส่งเสริมบำรุงพุทธศาสนา อนุญาตจัดสร้างพร้อมทั้งกล่าวต่อไปอีกว่าจะช่วยสร้างอุโบสถให้สำเร็จไม่ต้องเป็นห่วง และยังให้นามวัตถุมงคลชุดนี้ว่า"พุทโธ"

    1.เนื้อทองคำ สร้างจำนวนที่สั่งจอง
    2.เนื้อเงิน สร้างจำนวน 409 เหรียญ
    3.เนื้อนวโลหะ สร้างจำนวน 1009 เหรียญ
    4.เนื้อทองแดง(โลหะผสม) สร้างจำนวน 9999 เหรียญ
    5.พระหล่อรูปเหมือน สร้างจำนวน 209 องค์(จัดเข้าชุดกล่องกรรมการ)
    6.พระเนื้อผงรูปเหมือนสี่เหลี่ยม สร้างจำนวน 999 องค์
     
  2. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,772
    ค่าพลัง:
    +466
    917. เหรียญในหลวงพระราชสมภพครบ 4 รอบ ปี 2518 บล็อคผม 3 เส้น นิยม ให้บูชา 1650 บาท


    upload_2022-10-10_20-21-6.png

    เหรียญในหลวงพระราชสมภพครบ 4 รอบ ปี 2518 คณะสงฆ์จัดทำเหรียญนี้ขึ้นมาด้วยพิธีการที่ ยิ่งใหญ่สุด ๆ เหรียญนี้มีขนาดเล็กกระทัดรัด และออกแบบได้สวยงามยิ่งนัก เหรียญนี้มีหลายบล๊อค เพราะผลิตจำนวนมาก ดังนั้นจึงใช้บล๊อคหลายอัน เหรียญนี้เป็นบล๊อคนิยม เหล่านักสะสมเรียกว่า บล็อคผม 3 เส้น เป็นเหรียญที่มีพิธีใหญ่ และพุทธคุณสูง สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช ได้ขอพระบรมราชาณุญาต สร้างเหรียญพระบรมฉายาลักษณ์ เพื่อทูลเกล้าฯถวาย เพื่อที่จะพระราชทานแก่ทหารตำรวจและอาสาสมัครรักษาดินแดนและประชาชนทั่วไป ทางคณะสงฆ์ได้อาราธนาพระเถราจารย์ มาร่วมประกอบพิธีชัยมังคลาภิเษก ที่พระอุโบสถวัดรพระศรีรัตนศาสดาราม กำหนดพิธีมหาฤกษ์มหามงคลตรงกับวันที่ 1 เมษายน 2520 ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๓ ค่ำ เดือน๕ โดยท่านสมเด็จพระสังฆราชเป็นประธานจุดเทียนชัย พระเถราจารย์ชั้นผู้ใหญ่ 9 รูป จากวัดหลวงประจำรัชกาลทั้ง9วัด เจริญพระพุทธมนต์ พระเกจิอาจารย์49รูป ร่วมเจริญคาถานั่งปรกบริกรมมปลุกเสก ประกอบด้วย
    1.สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรฯ
    2.สมเด็จพระธีรญาณมุนี วัดจักรวรรดิราชาวาส
    3.พระวิสุทธิวงศาจารย์ (สงี่ยม) วัดสุทัศน์
    4.พระธรรมศิริชัย วัดพระปฐมเจดีย์
    5.พระเทพสาครมุนี (ลพ.แก้ว) วัดช่องลม
    6.พระเทพคุณาธาร (เจียม) วัดโสธรฯ
    7.พระเทพวราลังการ (ลป.ศรีจันทร์) วัดเลยหลง
    8.พระเทพวุฒาจารย์ (ลพ.เปลื้อง) วัดสุวรรณภูมิ
    9.พระราชอุทัยกวี
    10.พระราชญาณดิลก (ลพ.ชิต) วัดเขาเต่า หัวหิน
    11.พระราชภัทราจาร วัดราชบพิธฯ
    12.พระญาณสิทธาจารย์
    13.พระชินวงศาจารย์ (ลพ.พุธ) วัดป่าสาลวัน
    14.พระวิมลกิจจารักษ์ วัดชนะสงคราม
    15.ลป.โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    16.ลพ.ชา วัดหนองปาพง
    17.ลป.พรหมา วัดพระบาทตากผ้า
    18.ลพ.สนิท วัดศีลขันธ์
    19.ลป.ดุลย์ วัดบูรพาราม
    20.ลพ.ใหญ่ วัดสะแก อยุธยา
    21.ลพ.บาง วัดหนองพลับ สระบุรี
    22.ลพ.เชื่อม วัดเกศไชโย อ่างทอง
    23.ลพ.เส็ง วัดน้อยนางหงษ์
    24.ลพ.เที่ยง วัดม่วงชุม
    25.ลพ.ผิว วัดสง่างาม
    26.ครูบาอินทจักร วัดบ่อหลวง เชียงใหม่
    27.ลป.บุญ วัดวังมะนาว
    28.ลพ.เชื้อ วัดใหม่บำเพ็ญบุญ
    29.ลพ.แพ วัดพิกุลทอง
    30.ลพ.เริ่ม วัดจุกกระเฌอ ชลบุรี
    31.ลพ.ทอง วัดบ่อนอก ประจวบฯ
    32.ลพ.อ่อน วัดเพียมาตร ศรีสะเกษ
    33.ลพ.จ้วน วัดพระบาทเขาลูกช้าง
    34.ลพ.อุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม
    35.ลพ.เนื่อง วัดจุฬามนี
    36.ลพ.จ้อย วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์
    37.ลพ.กี๋ วัดหูช้าง
    38.ลพ.สิน วัดกิ่งแก้ว
    39.ลพ.ท่อน วัดศรีอภัยวัน จ.เลย
    40.ลพ.เฟื่อง วัดธรรมสถิต ระยอง
    41.พระอาจารย์บุญมา วัดสิริสาลวัน หนองบัวลำภู
    42.ลป.สาม วัดป่าไตรวิเวก
    43.พระอจ.แว่น ธนปาโล วัดสุทธาวาส
    44.พระอจ.บุญ วัดศรีสว่างแดนดิน
    45.อจ.ผั่น วัดถ้ำเอราวัณ จ.เลย
    46.พระอจ.วัน อุตตโม วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม
    47.พระอจ.หนู วัดดอยแม่ปั๋ง
    48.พระอาจารย์ศรี มหาวีโร ร้อยเอ็ด
    49.พระอจ.สมชาย วัดเขาสุกิม
     
  3. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,772
    ค่าพลัง:
    +466
    918.นางพญาเนื้อกัลปังหาแดง หลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย พิมพ์ใหญ่ ให้บูชา 750 บาท


    upload_2022-10-11_7-3-38.png

    upload_2022-10-11_7-6-45.png

    พระสมเด็จนางพญาเนื้อกัลปังหาแดง หลัง ทสร ปี21 คณะผู้จัดสร้างได้นำมาให้หลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย อธิษฐานจิตปลุกเสกที่วัด เพราะส่วนใหญ่หลวงพ่อสงฆ์ไม่เคยเดินทางไปร่วมพิธี (แบบเป็นคณะ) ร่วมปลุกสกวัตถุมงคลที่ใดสักเท่าไหร่ , รวมทั้งหลวงปู่โต๊ะ ก็ร่วมเสก พิธีพุทธาภิเษก ณ อุโบสถ วัดทุ่งเสรี หัวหมาก กทม.เมื่อ 6 มิย.2521 ให้อีกครั้ง โดยพระพิมพ์นางพญานี้ จัดสร้างขึ้นโดย วัดทุ่งเสรี หัวหมาก กรุงเทพฯ ท่านเจ้าอาวาสที่จัดสร้างนี้ เป็นศิษย์ของหลวงพ่อสงฆ์ ได้ขอความเมตตาจากหลวงพ่อสงฆ์ให้ อธิษฐานจิตปลุกเสกให้ เป็นอย่างดี มีมวลสารสำคัญก็คือ กัลปังหาแดง ซึ่งเชื่อกันว่ามีดีอยู่เองตามธรรมชาติ จัดเป็นอีกหนึ่งของดีในสายหลวงพ่อสงฆ์ ที่สามารถบูชาได้สนิทใจ
     
  4. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,772
    ค่าพลัง:
    +466
    919.เหรียญดี พิธีศักดิ์สิทธิ์ เหรียญ กรมหลวงชุมพร วัดทุ่งเสรี ปี 2519 พิธีพรหมศาสตร์ อาจารย์ชุม ไชยคีรี เจ้าพิธี ให้บูชา 850 บาท

    upload_2022-10-11_7-8-10.png

    พิธีพรหมศาสตร์ วัดทุ่งเสรี พ.ศ. 2519 อาจารย์ชุม ไชยคีรี เจ้าพิธีปลุกเสกในพิธีพรหมศาสตร์ (พิธีเดียวกับมีดครู ปี 2519) ร่วมกับพิธีมหาพุทธาภิเศกครั้งยิ่งใหญ่

    ครั้งที่ 1. พระคณาจารย์ผู้ทรงเวทย์ ปลุกเศกทั่วประเทศ 108 รูป เมื่อวันศุกร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2519
    ท่านอาจารย์ชุม ไชยคีรี ได้เชิญพราหมณ์และโยคี จากประเทศอินเดีย และประเทศลังกา รวมทั้งพราหมณ์ในประเทศไทยด้วย ท่านทั้งหมดล้วนแต่เป็นผู้ที่รอบรู้ในพระเวทเรียนจบไตรเภทอย่างเชี่ยวชาญ มาทำพิธีบวงสรวงสังเวยเชิญมหาเทพตามลัทธิศาสนาพราหมณ์
    พร้อมกันนี้ ได้อาราธนาพระคุณเจ้าพระสงฆ์ระดับพระอาจารย์ผู้ทรงคุณมากระทำพิธีพุทธาภิเศก และเชิญอาจารย์ไสยศาสตร์ทั่วประเทศรวม 108 อาจารย์ มาร่วมนั่งบริกรรม ปลุกเสก บรรจุไสยคุณอีกด้วย
    เช่น 1. หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพมหานคร 2. หลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย 3. พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา จ.พัทลุง 4. หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง 5. พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง จ.นครศรีธรรมราช และพระเกจิสายเขาอ้อ ร่วมปลุกเสก ฯลฯ ซึ่งพิธีทั้งหมดนี้ เป็นพิธีที่ถูกต้องและใหญ่ยิ่งกว่าครั้งใดๆทั้งหมด

    ครั้งที่ 2. ณ.สถานที่ตรัสรู้ พุทธคยา ต.อุรุเวลาเสนานิคม รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย

    ครั้งที่ 3. ณ.อุโบสถวัดทุ่งเสรี วันที่ 29 มิถุนายน2519 อาจารย์ดังๆที่ร่วมปลุกเศกอาทิเช่น
    - หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    - หลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย
    - หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง
    -หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง
    - หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม
    - หลวงปู่เส่ง วัดกัลยาณ์
    - หลวงพ่อผล วัดมหาธาตุ
    - หลวงพ่อผ่อง วัดสามปลื้ม
    - พระมงคลราชมุนี วัดสุทัศน์
    - พระอาจารย์สมพวง วัดเวฬุราชิน
    - อาจารย์ ชุม ไชยคีรีเป็นต้น

    นอกจากจะได้มีการสร้างรูปมหาเทพต่างๆไว้บูชาเป็นจำนวนมากแล้ว ยังมีเหรียญสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เหรียญพ่อขุนรามคำแหง เหรียญรัชกาลที่ 5 และ เหรียญเสด็จเตี่ย กรมหลวงชุมพรฯ ศิวะลึงค์ และ มีดครู รวมถึงเครื่องรางของขลังต่างๆ ฯลฯ
     
  5. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,772
    ค่าพลัง:
    +466
    920. สุดยอดเกจิอาจารย์แห่งลุ่มแม่น้ำกลอง พระนางพญาหลวงพ่อนารถ วัดศรีโลหะ รุ่นแรก ให้บูชา 750 บาท

    upload_2022-10-11_7-15-52.png

    upload_2022-10-11_7-18-24.png


    ลักษณะเป็นพระพิมพ์นางพญา สร้างขึ้นเพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ร่วมบริจาคทรัพย์เพื่อพัฒนาวัดศรีโลหะ โดยหลวงพ่อนารถได้รวบรวมผงวิเศษจากที่ต่างๆมาเป็นชนวนในการสร้างพระ จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้ องค์พระบางองค์จะมีการติดชันโรงเสกของหลวงพ่อมาด้วย

    ด้านหน้า เป็นรูปพระพุทธประทับนั่งปางสมาธิ แบบพระนางพญา องค์พระประทับนั่งบนฐานบัว ๒ ชั้น มีเส้นบังคับพิมพ์สวยงาม ด้านบนขององค์พระมีการติดชันโรงเสกของหลวงพ่อ ในบางองค์จะมีการทาบรอนซ์ทอง

    ด้านหลัง เป็นเรียบ ไม่มีอักขระยันต์ใดๆ
     
  6. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,772
    ค่าพลัง:
    +466
    921. สุดยอดเมตตามหานิยม สมเด็จสาวหลง เนื้อขาว หลังยันต์ วัดเภตราสุขารมณ์ ระยอง ผสมผงบางขุนพรหม และผงของ หลวงปูทิม วัดละหารไร่ หลวงปูทิม ท่านร่วม ปลุกเสก ปี 2508 - 11 (ยุคแรก) แก่ผงเก่าบางขุนพรหม ให้บูชา 3500 บาท

    upload_2022-10-11_10-55-38.png
    สมเด็จสาวหลง วัดเภตราสุขารมณ์ อ.เมือง จ.ระยอง
    พระผงยุคเก่าเมืองระยอง ที่เลื่องชื่อทางเมตตา มหาเสน่ห์แบบสั่งได้
    สามารถแบ่งการสร้างพระเนื้อผง ผสมว่านสาวหลงของวัดเภตราสุขารมณ์ได้เป็นสามยุค
    -ยุคแรก สร้างไว้สองครั้ง คือครั้งแรกช่วงปี 2507 - 08 และครั้งที่สองในปี 2510-11
    -ยุคสอง สร้างในปี 2522-23
    -ยุคสาม สร้างในปี 2537
    ยุคแรก
    สมเด็จสาวหลงยุคแรกของ วัดเภตราสุขารมณ์ ระยอง เป็นพระผงปูนที่ผสมผงกรุบางขุนพรหมที่เจ้าคุณในเมืองหลวงมอบให้ ผงพุทธคุณชั้นดีเพื่อสร้างพระจากคนในกรุงเทพนำมาถวาย ผงจากพระเกจิชั้นนำต่างๆที่ร่วมมอบให้ ผงพุทธคุณอื่นๆที่รวบรวมได้จากพระเกจิต่างๆในภาคตะวันออก และผงของ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ที่ท่านมอบให้เจ้าอาวาสมาโดยเฉพาะ โดยเริ่มสร้างครั้งแรกในปลายปี 2507 และกดพิมพ์พระแบบสร้างกันเองเรื่อยๆติดต่อกันไปจนถึงปี 2508 มีเฉพาะเนื้อขาวเป็นพิมพ์ใหญ่หลังเรียบ (พิมพ์ใหญ่จัมโบ้) และพิมพ์มาตรฐาน(นิยม)หลังเรียบขนาดสมเด็จทั่วๆไป ทั้งสองแบบเป็นพระเนื้อปูนแก่ผงพุทธคุณผสมผงว่านสาวหลงล้วนๆ หลังเรียบแบบกระดานมีรอยครูดของการปาดหลังเป็นส่วนใหญ่ สำหรับพิมพ์นิยมนั้น เป็นรุ่นที่นักสะสมจะรู้จักในนามของสมเด็จสาวหลงบ้านเพ พิมพ์ฐานเกย ซึ่งมีค่านิยมสูงลิ่วหลักหมื่นบาทมานานหลายปีแล้วด้วยประสบการณ์ล้วนๆแบบลองได้และเชื่อได้ ทั้งเรื่องเมตตามหาเสน่ห์ที่เป็นเยี่ยมและด้านคงกะพันเป็นยอด ปัจจุบันสภาพสวยงามมีราคาประมาณสามหมื่นบาทและใบสั่งคนพื้นที่ให้หาก็มีจำนวนมาก พระผงที่สร้างในครั้งแรกนี้มีจำนวนไม่มากนักประมาณพันองค์หรือขาดเกินไปบ้างก็คงไม่มากนัก ด้วยเพราะเป็นการสร้างครั้งแรกแบบชาวบ้านๆ ไม่คมชัดสวยงาม ส่วนผสมยังไม่ลงตัวมากนัก ทางหลวงพ่อโต่งเจ้าอาวาสวัดเภตราสุขารมณ์ ได้นิมนต์พระเกจิในละแวกใกล้เคียงและพระเกจิเก่งๆมาร่วมปลุกเสกในประมาณช่วงปี 2508 โดยเลือกเฟ้นพระเกจิดังๆและเก่งจริงๆเพื่อมิให้เสียชื่อพระรุ่นแรกของวัด ที่สู้อุตส่าห์สร้างขึ้นมาด้วยวิริยะอุตสาหะนานแรมปีด้วยแรงกายแรงใจของพระเณรในวัด พระเกจิที่มาร่วมเสก10 รูปในพิธีครั้งนั้นประกอบด้วย

    1.หลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง จ.ระยอง เจ้าของสีผึ้งสีเขียวที่เลิศในด้านเมตตามหานิยม
    2.หลวงพ่อทิม วัดไร่วารี (วัดละหารไร่) จ.ระยอง คณาจารย์ที่มีพลังจิตกล้าแข็งแห่งยุค
    3.หลวงพ่อเจ้าคุณวรพรตฯ วัดป่า จ.ชลบุรี เจ้าของพระปิดตาเมตตามหานิยม
    4.หลวงพ่อกัน วัดเขาแก้ว จ.นครสวรรค์ ศิษย์เอกหลวงพ่อเดิม
    5.พระครูพิพิธวรญาณ (หลวงพ่อชื่น) วัดมาบข่า จ.ระยอง
    6.พระครูภาวนานุโยค (หลวงพ่อหอม) วัดป่าเรไร จ.ระยอง
    7. หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส อ.ขลุง จ.จันทบุรี
    8.หลวงพ่อกล้วย วัดหมูดุด ท่าใหม่ จ.จันทบุรี
    9.หลวงพ่อสวน วัดบางกระดาน จ.ตราด
    10.หลวงพ่อโต่ง เจ้าอาวาสวัดเภตราสุขารมณ์

    พิธีปลุกเสกครั้งนี้หลวงพ่อโต่ง บอกกับพระเกจิทุกองค์ก่อนเข้านั่งในโบสถ์ว่า นิมนต์เสกเอาแบบเต็มที่ไปเลย เอาให้ดีที่สุดเลย โดยคณาจารย์ทั้ง10 ท่านได้ใช้พลังจิตอันกล้าแข็ง ทุมเทกระแสจิตลงไปในวัตถุมงคลอย่างเต็มที่เพื่อให้วัตถุมงคลเหล่านั้น เพียบพร้อมไปด้วย อิทธิฤทธิ์ บุญฤทธิ์ อุดมลาภผล และสามารถป้องกันตัวได้ ถือเป็นพิธีที่ยิ่งใหญ่ของละแวกนั้น ที่ทำถูกต้องตามตำรับโบราณตลอดจนถึงพิธีทางไสยเวทย์ทุกประการ การปลุกเสกครั้งนี้จึงว่ากันแบบยาวนานและม้วนเดียวจบ องค์ใดกำหนดจิตปลุกเสกเสร็จแล้วก็ถอยออกจากสมาธิไปพักผ่อนก่อนได้เลย
    เริ่มแต่ช่วงบ่ายแก่ๆพอแดดร่มลมตกไปเรื่อยๆจนเมื่อเริ่มจุดตะเกียงเจ้าพายุก็มีพระเกจิถอนจากสมาธิไปแล้วเกือบครึ่งและเดินทางกลับวัด และที่เหลือก็ยังนั่งปรกไปเรื่อยๆจนเกือบจะสองทุ่มก็เหลือเพียง 3 องค์ที่นั่งปลุกเสกนิ่งเงียบ คือ ลป.ทิม ระยอง ลพ.กล้วย และลพ.คง จันทบุรี โดยหลวงพ่อโต่งและกรรมการวัดได้คอยดูแลอย่างใกล้ชิดเพราะเป็นเจ้าอาวาสวัดและวัดจัดพิธีปลุกเสกเป็นครั้งแรก เมื่อถึงใกล้จะเที่ยงคืนย่างเข้าวันใหม่แล้ว ก็เหลือเพียงหลวงปู่ทิมเพียงองค์เดียวที่ยังนั่งนิ่งอยู่บนอาสนะในโบสถ์มหาอุดหลังเก่าของวัด เมื่อเวลาล่วงเลยมามากขนาดนั้นแล้ว พระรูปอื่นๆก็เข้าพักผ่อนกันหมดสิ้น ท่านเจ้าอาวาสวัดเภฯก็เข้าไปปลุกเรียกหลวงปู่ทิม เพราะคิดว่าท่านอาจหมดสติหรือแข็งค้างจากการนั่งนานมากไปเพราะเวลาที่ท่านนั่งปลุกเสกก็เกิน6ชั่วโมงแล้วโดยไม่ขยับลุกเลย แต่เขย่าเรียกเท่าไรก็ไม่ตื่น เพียงเนื้อตัวยังอุ่นยังเป็นปกติเท่านั้น จึงงับประตูโบสถ์หุบไว้เบาๆเพื่อไม่ให้ใครเข้าไปรบกวนหลวงปู่ทิมที่ยังนั่งอยู่ในโบสถ์เพียงองค์เดียว โดยมีชาวบ้านที่มาช่วยงานอีกสามสี่คนคอยเฝ้าอยู่เพื่อช่วยเหลือในเรื่องที่อาจมีขึ้น และทุกคนก็งีบหลับไปในเวลาดึกใกล้รุ่งโดยไม่รู้ว่า หลวงปู่ทิมออกมาจากโบสถ์ในเวลาใดและกลับไปวัดอย่างไร จนรุ่งเช้าเมื่อเปิดประตูโบสถ์และไม่เห็น ลป.ทิมที่เคยเห็นนั่งปลุกเสกในโบสถ์อยู่เมื่อตอนเที่ยงคืน ความตกใจโกลาหลจึงเกิดขึ้นกับคนชนบท แบบลือกันไปทั่วบางว่าท่านหายตัวได้ จนยังเป็นตำนานมาจนทุกวันนี้ เมื่อมีคนขี่รถเครื่องไปดูที่ไร่วารี บ้านค่าย จึงพบว่าท่านได้มาถึงวัดเรียบร้อยแล้วและก็ไม่มีคนรู้อีกว่า ท่านมาถึงในเวลาใด
    (เรื่องราวการปลุกเสกในครั้งนี้ ต้องขอกราบขอบคุณทั้ง คุณลุงเหนาะ บ้านต้นลำดวน และคุณลุงเล็ก บ้านกะเฉด ที่เรียบเรียงความจำอย่างยากลำบากและถ่ายทอดให้คนรุ่นหลังได้เก็บไว้เป็นความรู้ในวันต่อไป ซึ่งส่วนมากแล้วคนเพ คนละแวกพื้นบ้านแถบนั้นรุ่นเก่าๆยังจำการเล่าขานแบบปากต่อปากเรื่องนี้กันได้ดีหลายท่าน))
    เมื่อปลุกเสกเสร็จแล้วก็แจกฟรีให้คนที่มาร่วมงานคนละองค์ และเปิดให้คนเช่าบูชาในราคาองค์ละ 25 บาท (ปี 2508) แต่คนละแวกนั้นก็ไม่ได้เช่ามากมายนักเพราะเป็นคนชาวชายทะเลพื้นบ้านหาเช้ากินค่ำทั่วๆไป จนพระเหลือจำนวนหนึ่งและทางวัดตัดสินใจจะเก็บไว้เพื่อวันข้างหน้าโดยนำไปเก็บไว้บนเพดานโบสถ์เก่า ต่อมาเมื่อพระผงรุ่นนี้ที่คนได้เช่าบูชาไปแล้วบ้างนั้น ก่อประสบการณ์ด้านตีรันฟันแทงแบบเห็นกันจะจะว่า อยู่มีดอยู่ปืน ผู้คนทั้งใกล้และไกลก็เริ่มหากันอีกครั้ง แต่พระผงที่ทางวัดเหลืออยู่นั้นได้นำไปไว้บนเพดานโบสถ์ตีไม้กั้นทับแบบปิดตายไว้แล้ว จึงไม่มีพระเปิดให้บูชากันอีก แต่ก็มีคนอยากจะได้ไปคุ้มครองตัวตามแบบคนชนบทที่หวังพึ่งคุณพระคุณเจ้าด้วยเพราะบ้านเพในยุคนั้น ยังเต็มไปด้วยนักเลงและการอยู่แบบใครดีใครอยู่ ซึ่งในยุคนั้น คมแฝก เงี่ยงกระเบน เหล็กขูดชาร์ฟ มีดพกเสือซ่อนเล็บและปืนเถื่อนคือเพื่อนคู่ใจของแท้
    ทางวัดเภฯ จึงมีการสร้างออกมาใหม่เป็นรุ่นที่สอง ซึ่งยังถือว่าเป็นพระยุคแรกเช่นกัน โดยเริ่มสร้างใหม่ในปี2510 เรื่อยไปจนถึงต้นปี 2511 ใช้เนื้อเก่าที่เหลืออยู่จากการสร้างในครั้งแรก ตำผสมพระที่แตกหักจากที่สร้างในครั้งแรก ผสมด้วยว่านมหาเสน่ห์สาวหลงที่มีมากในแถบบ้านเพ แถบสัตหีบ และบางเสร่ เป็นพระผงที่เนื้อแน่นตัวมากกว่าครั้งแรกเพราะรู้วิธีทำให้พระสวยงามเนื้อแน่นไม่ร่วนยุ่ยฟูแบบครั้งแรก โดยผสมกาวและปูนเปลือกหอย ผงตะไบทองลงไปด้วย มีทั้งเนื้อดำผงใบลานและเนื้อขาวทั่วๆไป เป็นพิมพ์สมเด็จทั้งใหญ่ กลาง เล็กครบทั้ง 3ขนาด แต่เป็นพระที่ด้านหลังมียันต์กำกับไว้ทั้งสิ้นเพื่อให้แตกต่างจากครั้งแรก ทั้งยันต์อะ (ร-ร) ยันต์อุ และยันต์เฑาะว์อุข้าง (ยันต์สามแถว) โดยแม่พิมพ์ครั้งนี้ของยันต์อะ (ร-ร) จะเป็นแบบหัวตัว ร. กลวงเท่านั้น (จะมีการนำพิมพ์ไปสร้างครั้งต่อไปแต่หัวตัว ร.จะตัน) จำนวนที่สร้างค่อนข้างมากหลักพันองค์ แต่ไม่แน่ชัดว่ากี่องค์กันแน่ แต่มากกว่าที่สร้างในครั้งแรกเป็นเท่าตัว และยังสร้างรูปหล่อลอยองค์อุดกริ่งของหลวงพ่อทอง พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์เก่าแก่ประจำวัดขึ้นมาอีกอย่างหนึ่งด้วย มีสองแบบคือ บล็อคตัวหนังสือนูนและตัวหนังสือจม และเหรียญสี่เหลี่ยมด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อทอง หรือที่ชาวระยองเรียกพระรุ่นนี้ว่า เหรียญฝาบาตร เสร็จแล้วหลวงพ่อโต่งเจ้าอาวาสได้นิมนต์พระเกจิดังในเวลานั้นเข้าพิธีปลุกเสกในโบสถ์ของวัดเภฯ รวมหลวงพ่อโต่งเป็น 16 องค์พอดี
    1 หลวงปู่ทิม วัดไร่วารี (วัดละหารไร่) จ.ระยอง
    2 หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ จ.อยุธยา
    3 หลวงพ่อวงษ์ วัดปริวาส จ.กรุงเทพฯ
    4 หลวงพ่อหอม วัดซากหมากป่าเรไร จ.ระยอง
    5 หลวงพ่อสน วัดตะเคียนทอง จ.ระยอง
    6 หลวงพ่อชื่น วัดมาบข่า จ.ระยอง
    7 หลวงพ่อรวย วัดท่าเรือ จ.ระยอง
    8 หลวงพ่อกล้วย วัดหมูดุด ท่าใหม่ จ.จันทบุรี
    9 หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จ.จันทบุรี
    10 หลวงพ่อสวน วัดบางกระดาน จ.ตราด
    11 หลวงพ่อกี๋ วัดแหลมมะขาม จ.ตราด
    12 หลวงพ่อโต่ง วัดเภตราสุขารมย์ จ.ระยอง
    13
    14
    15
    16
    พระเกจิอีก 4 องค์ที่เหลือนั้น ท่านผู้เล่าจำไม่ได้แน่นอนว่าเป็นใครบ้าง จึงขอละไว้ พิธีปลุกเสกครั้งนี้จัดขึ้นในโบสถ์หลังเดิมและมีการโยงสายสิญจน์ในพิธีไปยังด้านบนเพดานโบสถ์ที่เก็บพระผงสมเด็จสาวหลงที่สร้างในครั้งแรกปี 07-08ไว้ด้วย การปลุกเสกครั้งนี้ก็ว่ากันแบบม้วนเดียวจบเหมือนเคยและมีขึ้นในช่วงบ่ายไปจนเวลาค่ำจึงเสร็จสิ้นพิธี พระทั้งสองรุ่นในยุคแรกนี้มีประสบการณ์มากในทุกเรื่องและมีมานานแล้วโดยเฉพาะเรื่องเมตตามหาเสน่ห์ที่แรงจริง ดีจริง เพียงแต่คนยังไม่รู้ข้อมูลที่แท้จริงซึ่งปกปิดเก็บเงียบกันมานานแล้วและสับสนปนเปทั้งเรื่องปีที่สร้าง เนื้อพระ พิมพ์พระ ยันต์ด้านหลังที่มีข้อแตกต่างกันเล็กๆน้อยๆ ปัจจุบันบางคนก็เหมารวมว่าสร้างพร้อมกันไปแล้ว บางรายก็เอาพระผงปี 2522 มาผสมรวมเข้าด้วยกัน เพราะพิมพ์ เนื้อหาและอายุใกล้เคียงกัน เพียงแต่รายละเอียดของพิมพ์พระและการผสมเนื้อพระแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง บางองค์เป็นยุคสองที่เนื้อใกล้เคียงแต่มีการเซาะแต่งตัวยันต์ด้านหลังให้เป็นยุคแรก บางองค์เนื้อขาวยุคแรกรุ่นสองแต่ฝนหลังลบยันต์ทิ้งไปเพื่อจะได้เป็นพระรุ่นแรกสุดหลังเรียบเพียงคนละเนื้อกันชัดเจน ข้อมูลที่นำมาลงไว้นี้เป็นแนวทางเดียวกันกับนักสะสมคนพื้นที่โดยกำเนิดทุกประการ
    ยุคสอง
    เป็นการสร้างเพื่อหาทุนบูรณะวัด ในปีประมาณ 2522 (ก่อนหน้านั้น ทางวัดก็สร้างเหรียญและพระเครื่องอื่นๆออกมาบ้างแล้วตั้งแต่ปี 13 เป็นต้นมาอีกหลายครั้ง) โดยใช้สูตรการผสมเนื้อเหมือนเดิมทุกประการ มีหลายพิมพ์และนำแม่พิมพ์ด้านหน้าและยันต์ด้านหลังบางตัวมาใช้เหมือนเดิมคือ ยันต์หลังตัวอะ (ร-ร) แต่มีการเจียรแต่งส่วนนูนของแม่พิมพ์ยันต์หลังให้แตกต่างออกไปจากครั้งแรก (แม่พิมพ์เดิมจะเป็นปุ่มนูนตรงหัวตัว ร) เมื่อกดเป็นองค์พระแล้ว ยันต์ด้านหลังจะเป็นเหมือนตัว ร.แต่ไม่กลวงที่หัว คนพื้นที่เรียก ร.หัวตัน แต่มีคนหัวใสใช้เครื่องกรอฟันเซาะแต่งให้หัวตัว ร.กลวงเหมือนที่กดพระในครั้งแรก แต่ก็ยังมีจุดแตกต่างกันในจุดอื่นๆให้พอดูได้ และมีพิมพ์อื่นๆที่แกะขึ้นมาใหม่ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งจะแตกต่างไปจากยุคแรกที่สร้างในปี 2511 และจะพบมากในพื้นที่ระยองและในเวปพระปัจจุบันที่เหมารวมเป็นพระยุคแรกไปหมดแล้ว
    ยุคสาม
    เป็นการสร้างพระสมเด็จสาวหลงออกมาใหม่ในปี 2537 โดยในชั้นแรกทางวัดได้รื้อเพดานโบสถ์เพื่อซ่อมแซมตามอายุการใช้งานที่ชำรุดทรุดโทรม แต่พบว่าพระเครื่องยุคแรกที่นำไปบรรจุไว้บนเพดานโบสถ์นั้น ได้บิดเบี้ยวงอตัวจากอากาศบนเพดานที่ร้อนอบอ้าวและทำให้แตกร้าว จนเสียหายไปมากกว่าครึ่ง เหลือที่พอจะนำมาเปิดให้บูชาได้ไม่มากนัก จึงได้แกะแม่พิมพ์ใหม่และนำพระผงที่แตกหักเสียหายนั้นมาตำผสมด้วยผงอื่นๆและว่านสาวหลงที่ยังพอหาได้ กดเป็นพระสมเด็จขึ้นมาใหม่หลายรูปแบบ มีทั้งแบบด้านหลังเป็นยันต์อะ (ร-ร) แต่เป็นแบบจมลงไปในเนื้อพระ แบบสมเด็จหูจุดแต่หลังเรียบ แบบสมเด็จทั่วๆไป โดยพระสมเด็จที่กดใหม่นี้จะมีเนื้อเดิมผสมอยู่ไม่น้อย มีความคมชัดสวยงามตัดขอบได้รูปทรงพอดี ทางวัดนำมาออกให้บูชาพร้อมกับพระสมเด็จสาวหลงยุคแรกที่เคยนำไปบรรจุไว้บนเพดานโบสถ์และยังพอมีสภาพสมบูรณ์ โดยราคาพระเก่ายุคแรกชุดบรรจุกรุที่ให้บูชาจากวัดในเวลานั้น วัดกำหนดไว้องค์ละ 1,000.บาท( ราคาปี 2537) พระเนื้อผงแบบที่ลงกรุไว้จะเป็นพระเครื่องที่สร้างในครั้งแรกสุด ได้รับการปลุกเสกไว้สองครั้ง หายากมากแล้วในปัจจุบัน

     
  7. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,772
    ค่าพลัง:
    +466
    922. เกจิอาจารย์สุดขลังแห่งนครชัยศรี พระเนื้อดินพิมพ์ขุนแผน หลวงพ่อห่วง วัดท่าใน จ.นครปฐม ราวๆ ปี 2495 พระชุดนี้ส่วนใหญ่จะออกที่กรุ วัดบางแก้ว ให้บูชา 1850 บาท

    upload_2022-10-11_11-4-12.png


    หลวงพ่อห่วง หรือพระครูสิริวุฒาจารย์ ท่านได้สร้างไว้ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่หลายอย่าง เช่น ตะกรุดโทน ด้ายมงคล พระผงเกสรที่ท่านสร้าง เมื่อท่านพิมพ์พระตากแห้งสนิทดีแล้วท่านจะใส่ไว้ในบาตรที่มีน้ำเต็มขอบบาตรและนั่งบริกรรมปลุกเสก จนพระผงเกสรลอยขึ้นมาเหนือน้ำจึงจะใช้ได้ ส่วนองค์ไหนที่จมไม่ลอยขึ้นมาท่านว่าเป็นพระเสีย ใช้ไม่ได้ พระเครื่องของท่านจึงเป็นอิทธิวัตถุชิ้นเอกที่ผู้ได้รับจะหวงแหนกันมาก เหรียญรุ่นแรกที่สร้างขึ้นในปี 2499 เนื่องในงานฉลองสมณศักดิ์ ลักษณะเป็นรูปเหรียญเสมาคว่ำ ด้านหน้าเป็นรูปท่านครึ่งองค์หน้าตรง ขอบโดยรอบล้อมด้วยลายกระหนกแข้งสิงห์ ด้านหลังขององค์ท่านเขียนไว้ว่า “หลวงพ่อห่วง” องค์ท่านห่อมจีวรเฉวียงบ่าพาดสังฆาฏิ ด้านหลังพื้นเรียบตึงมียันต์กระต่ายสามขาซ้อนกันอยู่ 2ยันต์ อักษรขอม 3 ตัวบนอ่านว่า นะ อุ มะ แล้วขึ้นยอดเป็นอุณาโลม อักษรขอม 4 ตัวล่าง อะ นะ จะ อุ ยันต์กระต่ายสามขานี้เป็นยันต์คงกระพันชาตรีที่มักนิยมสักกันมากในบรรดาชายอกสามศอกสมัยนั้น เหรียญส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อเงิน ทองแดงมีบ้างแต่น้อย ตัวเหรียญจะเป็นหูปั๊มในตัว หลวงพ่อได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นสัญญาบัตรที่ พระครูสิริวุฒาจารย์ โดยมีพระอธิการรุ่ง วัดทรงคะนอง เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการแจ่ม วัดทรงคะนอง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงพ่อห่วง หรือพระครูสิริวุฒาจารย์ วัดท่าใน ได้มรณภาพลงเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2506 ตรงกับวันวิสาขบูชา สิริอายุได้ 75 ปี พรรษา 56
     
  8. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,772
    ค่าพลัง:
    +466
    923. พระชุดสร้างโรงพยาบาลสงฆ์ ปี2500 พิมพ์พระพุทธชินราช / พิมพ์นางพญา ให้บูชาองค์ละ 999 บาท (ยกคู่ 1850 บาท)

    upload_2022-10-11_11-22-34.png

    upload_2022-10-11_11-23-7.png


    โรงพยาบาลสงฆ์เป็นโรงพยาบาลที่สร้างขึ้นแห่งเดียวในโลก ที่รัฐบาลได้ดำเนินการสร้างขึ้นเพื่อมีวัตถุประสงค์ในการบริการและการรักษาพยาบาลแก่พระภิกษุสงฆ์ และสามเณร ที่อาพาธจากทั่วประเทศ

    ทั้งนี้เมื่อ พ.ศ.๒๔๙๒ จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีของไทยในขณะนั้น ได้ดำริให้มีการก่อสร้างโรงพยาบาลขึ้น โดยได้เลือกที่ดิน ณ ตำบลพญาไท คือที่ตั้งในปัจจุบันนี้ วางศิลาฤกษ์เมื่อวันพุธที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๔๙๒ ตรงกับวันวิสาขบูชา โดยสมเด็จพระสังฆราชเจ้ากรมหลวงวชิรญาณวงศ์ วัดบวรนิเวศวิหาร ทรงวางศิลาฤกษ์และทรงขนานนามให้ว่า “โรงพยาบาลสงฆ์” พิธีเปิดโรงพยาบาลสงฆ์ อย่างเป็นทางการ เมื่อวันพุธที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๔๙๔

    อย่างไรก็ตามเพื่อระดมทุนก่อสร้างอาคาร และซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ เมื่อ พ.ศ.๒๕๐๐ ได้มีการจัดสร้างพระเครื่อง และพระบูชา ทั้งเนื้อโลหะและเนื้อผง ตลอดจนวัตถุมงคลต่างๆ ในส่วนของพระชุดเนื้อดินเผาผสมผงวิเศษ ซึ่งมีอยู่ ๓ แบบด้วยกัน คือ
    ๑.พระพุทธชินราช
    ๒.พระนางพญา
    ๓.พระรอด


    การประสมผงศักดิ์สิทธิ์ลงในพระเครื่องดินเผา

    ในการที่นายแพทย์ผู้อำนวยการโรงพยาบาล สังกัดกรมการแพทย์ทั่วพระราชอาณาจักร ทุกจังหวัด ได้ไปนมัสการพระอาจารย์เจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์ในจังหวัดนั้นๆ ขอลงอักขระในแผ่นโลหะต่างๆ ฯลฯ นั้น โอกาสนี้ได้ขอผงศักดิ์สิทธิ์จากพระอาจารย์นั้นๆ สำหรับมาประสมใส่ในพระเครื่องดินเผา ซึ่งได้จัดสร้างขึ้นด้วย และได้รับความกรุณาจากพระอาจารย์ต่างๆ มอบให้ด้วยดี โอยได้รับผงศักดิ์สิทธิ์จากพระอาจารย์ทั้งสิ้น 709 องค์ รวมทั้งดินจากสังเวชนียสถานทั้ง 4 แห่ง คือ สถานที่ ประสูติ ตรัสรู้ แสดงปฐามเทศนาและสถานที่ปรินิพพานของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    นอกจากนี้ยังมีผงชิน และผงศักดิ์สิทธิเก่าแก่ซึ่งพระอาจารย์ต่างๆมากท่านได้เก็บรักษาเป็นมรดกสืบมาแต่โบราณกาล ได้มอบให้คณะกรรมการด้วยความเต็มใจ สำหรับสร้างพระเครื่องดินเผาในครั้งนี้เป็นจำนวนมากด้วยกัน

    ผงศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ทั้งสิ้นเหล่านี้ ได้นำมาประสมรวม ณ พระวิหารโรงพยาบาลสงฆ์ โดยอธิบดีกรมการแพทย์ ประธาน คณะกรรมการ ได้ควบคุมจัดการประสมเองอย่างใกล้ชิด

    ต่อจากนั้น จึงได้นำผงทั้งสิ้นซึ่งรวมเสร็จแล้วนี้ ไปประสมใส่ในพระเครื่องดินเผา โดยคลุก-เคล้าอย่างละเอียดทั่วทุกองค์พระที่สร้างขึ้น เพื่อให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์โดยถ้วนทุกองค์

    พิธีกรรม

    พิธีกรรมในการสร้างพระพุทธรูปชนิดต่างๆ รวมทั้งพระเครื่องดินเผาของคณะกรมการแพทย์ครั้งนี้เป็นไปอย่างมโหฬารครบถ้วนเต็มตามตำราทั้งด้านพุทธเวทย์ และไสยศาสตร์ทุกประการ ก่อให้เกิดความเลื่อมใสศรัทธาแก่ผู้ที่ได้เห็นเหตุการณ์เป็นอย่างยิ่ง

    การสร้างพระเครื่องดินเผา

    คณะกรรมการฯ ได้ตกลงสร้างพระเครื่องดินเผารวม 3 ชนิดด้วยกัน คือ
    1. พระพุทธชินราช สำหรับประจำตัวชาย
    2. พระนางพญา สำหรับประจำตัวหญิง
    3. พระรอด สำหรับประจำตัวเด็ก


    พระเครื่องทั้ง3 ชนิดนี้ ได้แยกทำ 2 แห่ง เพื่อให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์และเรียบร้อยสมบูรณ์แบบ ดังนี้

    พระพุทธชินราช และพระนางพญา ประกอบพิธีสร้างที่พระวิหารหลวง พระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลก (ดินแดนกำเนิดพระนางพญา และที่สถิตพระพุทธชินราช ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่สวยงามที่สุด)

    พระรอด ประกอบพิธีสร้างที่พระวิหารหลวงวัดพระธาตุหริภุญชัย จังหวัดลำพูน (จังหวัดลำพูน เป็นแหล่งกำเนิดพระรอด) การประกอบพิธีสร้างพระเครื่องทั้ง 2 แห่ง มีพิธีดังต่อไปนี้

    การสร้างพระพุทธชินราช และพระนางพญา
    งานนี้ได้รับความร่วมมือจากท่านเจ้าคุณพิษณุบุราณาจารย์ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก และท่านเจ้าคุณศรีรัตนมุนี วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เจ้าคณะตรวจการผู้ช่วยภาค 6 เป็นผู้ควบคุมและจัดพิธีการทั้งสิ้น โดยโรงพยาบาลพระพุทธชินราช จ.พิษณุโลก ช่วยอุปถัมภ์ พร้อมด้วย นายพร้อม อินทูฤทธิ์ ไวยาวัจกร วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ

    ประกอบพิธีสร้างวันที่ 30 และ 31 มกราคม 2500
    ท่านเจ้าคุณพระธรรมวโรดม วัดพระเชตุพน และอธิบดีกรมการแพทย์ ประธานคณะกรรมการได้ไปจัดการโดยตลอด มีรายการโดยย่อดังนี้

    วันที่ 30 มกราคม 2500
    ได้เตรียมพิธีที่ในพระวิหารหลวงพระพุทธชินราช เจ้าหน้าที่นำพิมพ์พระ ดิน และผงศักดิ์สิทธิ์ที่จะประสมตั้งภายในพระวิหาร วงสายสิญจน์จากองค์หลวงพ่อพระพุทธชินราชลงล้อมสิ่งของเครื่องพิธีทั้งปวง

    เวลา 19.00 น. โหรชุมนุมเทพยาดา ประธานในพิธีจุดเทียนชัยและตั้งสัตยาธิษฐาน พระสงฆ์ 10 รูป มีเจ้าคุณจังหวัดเป็นประธานเจริญพระพุทธมนต์ 12 ตำนานเต็มบท และธรรมจักรกัปปวัตตนสูตร มหาสมัยสูตร ฯลฯ จบแล้วพระสงฆ์สวดพุทธาภิเษกตลอดคืน พระอาจารย์เจ้าผู้ทรงคุณวิทยามากองค์นั่งปรกบริกรรมปลุกเสก โดยมีหลวงพ่อไซ้ (พระครูนิกรธรรมรักษ์) วัดช่องลม จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นประธาน

    รุ่งขึ้น วันที่ 31 มกราคม 2500 เวลาเช้าได้ปฐมฤกษ์ ท่านเจ้าคุณพระธรรมวโรดมได้พิมพ์พระพุทธชินราช และพระนางพญาเป็นปฐมฤกษ์ พระสงฆ์สวดชัยมงคลคาถาแล้วดับเทียนชัย ต่อจากนั้น ทำการพิมพ์พระจนกระทั่งได้ครบจำนวนทั้งสิ้น

    การสร้างพระรอด
    งานสร้างพระรอด คณะกรรมการได้มอบให้เจ้าคุณอมรเมธาจารย์ วัดมหาธาตุ และโรงพยาบลาลำพูน ดำเนินงาน โดยได้รับความกรุณาจัดการจากเจ้าคุณราชสุธี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหริภุญชัย ลำพูน เจ้าคณะตรวจการผู้ช่วย ภาค 5 เป็นผู้จัดพิธีทั้งสิ้น

    ได้ประกอบพิธีสร้างในวันที่ 31 มกราคม 2500 เริ่มแต่เวลา 08.05 น. ได้มีการเจริญพระพุทธมนต์และสวดเบิก (สวดเบิกคือ สวดในบทมนต์ต่างๆของเมืองเหนือแบบพุทธาภิเษก)ตามแบบเมืองเหนือเพื่อปลุกเสกให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์ดังที่โบราณาจารย์แห่งภาคนี้ได้ประกอบพิธีการสร้างพระรอดแบบเก่าแต่ครั้งก่อนมาแล้ว เสร็จพิธีแล้วได้นำผงศักดิ์สิทธิ์ที่รวมไว้คลุกเคล้าลงในดินที่จะพิมพ์เป็นองค์พระรอดอย่างทั่วถ้วนทำการพิมพ์พระต่อไป

    สถานที่พิธี ได้กระทำ ณ พระวิหารหลวง วัดพระธาตุหริภุญชัย ซึ่งเป็นพระอารามหลวง ซึ่งมีความสำคัญศักดิ์สิทธิ์อย่างมากในภาคเหนือ พิธีกรรมต่างๆ ได้สำเร็จเรียบร้อยท่ามกลางความอนุโมทนาและชื่นชมของพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชน จังหวัดนั้นเป็นอย่างยิ่ง

    พระเครื่องดินเผาทั้ง 3 ชนิด มีแบบและเนื้องดงามเป็นพิเศษ เพราะการประสมดินและผงศักดิ์สิทธิ์ได้เป็นไปโดยความประนีตบรรจง เหมาะสำหรับนำไปเลี่ยมไว้ติดตัว เพราะสวยงามอย่างยิ่ง
    พระเครื่องทุกชนิด เมื่อสร้างแล้วเสร็จได้นำมาเข้าพิธีพุทธาภิเษก และฉลองที่โรงพยาบาลสงฆ์อีก รวมเป็น 3 ครั้งด้วยกัน

    พระเกจิคณาจารย์ 108 รูป ร่วมพิธีปลุกเสกอาทิ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสระเกศ, หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี, หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก, หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธิ์นิมิตร, หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม, หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม, หลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง, หลวงพ่อกึ๋น วัดดอนยานนาวา, หลวงปู่เหรียญ วัดหนองบัว,หลวงพ่อบุญธรรม วัดพระปฐมเจดีย์, หลวงพ่อเมี้ยน วัดพระเชตุพน, หลวงพ่อหลาย วัดราษฎร์บำรุง, หลวงพ่อถิร วัดป่าเลย์ไลยก์ และเกจิดังๆอีกมาก เมตตาปลุกเสก

    หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม และท่านเจ้าคุณธรรมวาทีคณาจารย์ (หลวงพ่อเงิน) วัดดอนยายหอม อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม ได้แสดงความเห็นในอภินิหารคุณค่าของพระเครื่องต่างๆ ดังนี้ "พระเครื่องต่างๆ ซึ่งคณะกรมการแพทย์ประกอบพิธีสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2500 มีอภินิหารปรากฎชัดในด้านเมตตามหานิยม อยู่ยงคงกระพัน และดีมากในการมีไว้ประจำตัวเพื่อคุ้มครองภัยให้บังเกิดเป็นสิริมงคล ได้มาบริกรรมปลุกเสกทั้งงานสร้างและฉลอง นิมิตต่างๆ บังเกิดล้วนเป็นสิริสวัสดิ์ทั้งสิ้น"

    ท่านพระครูธรรมธร หลายราชสิทธิ์ วัดราษฎร์บำรุง อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ได้แสดงความเห็นในคุณานุภาพของพระพุทธรูปและพระเครื่องต่างๆ ดังนี้
    "อาตมภาพได้มานั่งปรกบริกรรมพิธีสร้างพระพุทธรูปต่างๆ ของคณะกรมการแพทย์ ซึ่งประกอบพิธีสร้างที่โรงพยาบาลสงฆ์ เมื่อวันที่ 7-8 มีนาคม 2500 และทำพิธีฉลองเมื่อเดือนพฤษภาคม 2500 มีนิมิตและอภินิหารที่ปรากฎของพระเครื่องต่างๆ ดังนี้

    1. ดีในด้านเมตตามหานิยม
    2. ดีในด้านแแคล้าวคลาด อยู่ยงคงกระพัน
    3. พิธีกรรมครบถ้วนเต็มตามตำรา
    4. นิมิตทั้งปวงเป็นศุภมงคล"
     
  9. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,772
    ค่าพลัง:
    +466
    924.สมเด็จ หลังตุ๊กตา โรยแร่ศักดิ์สิทธิ์ หลวงพ่อเพี้ยน วัดตุ๊กตา ให้บูชา 500 บาท

    upload_2022-10-11_16-4-35.png

    upload_2022-10-11_16-5-4.png

    upload_2022-10-11_16-15-58.png
     
  10. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,772
    ค่าพลัง:
    +466
    925. สุดยอดพระดีของหลวงปู่ครับ ตลับยาหม่องพิมพ์เล็ก หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม ให้บูชา 2850 บาท

    upload_2022-10-11_16-40-13.png


    upload_2022-10-11_16-35-1.png

    ตลับยาหม่องหรือ"เหรียญสัมฤทธิ์พระรูปหลังหนังเสือ" ก็เป็นหนึ่งในวัตถุมงคลยอดฮิตของสายนี้ ซึ่งคนส่วนใหญ่ทราบถึงพุทธคุณและประสบการณ์ดีแต่น้อยคนมากๆจะเคยเห็นใบฝอยในสมัยนั้น

    ของดีจากหลวงพ่อเต๋ คงทอง เหรียญสัมฤทธิ์พระรูปหลังหนังเสือ
    พระคาถาบูชา นะโม 3 จบ อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ ภะ
    จงระลึกตั้งใจภาวนา นับถือให้มั่นจะสมดังใจปรารถนา จะขอกล่าวพรรณาแต่ย่อๆ พอสมควร มีเมตตามหาอำนาจ ทั้งแคล้วคลาดอาวุธทั้งมวล อีกอสรพิษ ภูติผีปีศาจ มิกล้ำกลายมารบกวน คุ้มครองคุณไสยถ้วน ทั้งโรคภัยมิแผ้วพาล นำติดไว้กับคนประเสริฐล้นมหาศาล ขับไล่ภูตผีลมเพพัดเป็นสัจจัง
    ท่านให้ภาวนา พระคาถาบูชาเหรียญสัมฤทธิ์พระรูปหลังหนังเสือเป็นประจำอยู่เสมอ จะบันดาลสวัสดิ์พิพัฒนมงคล เป็นที่รักใคร่และเกรงขามแด่เทพยดาภูตผีปีศาจ และมนุษย์ทั้งหลายด้วยทุกประการ
    ของดีที่ประกอบเหรียญสัมฤทธิ์พระรูปหลังหนังเสือ
    1.เนื้อหลอมด้วยทองสัมฤทธิ์
    2.ผงพระพุทธคุณ 108 ใส่ด้านหลัง
    3.พระเกษาของหลวงพ่อท่านใส่ด้านหลัง
    4.แร่มหานิล (คงกระพัน) ใส่ด้านหลัง
    5.หนังเสือลงด้วยอักขระวิเศษ ปิดทับด้านหลัง

    ของดีมีน้อย จำนวนจำกัด เพราะสิ่งที่รวมประกอบเป็นของที่หาแสนยากทั้งสิ้น สานุศิษย์ท่านผู้ใดสนใจจะได้ไว้บูชา โปรดกรุณามารับกับมือของหลวงพ่อท่าน จะได้รับของที่มีความศักดิ์สิทธิ์ตามความประสงค์
    หลวงพ่อเต๋ คงทอง เจ้าอาวาส วัดสามง่าม อ.กำแพงแสน จ นครปฐ
     
  11. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,772
    ค่าพลัง:
    +466
    926. พระเกจิขมังเวทย์ แห่งเมืองกรุง พระกลีบบัวสมาธิซุ้มเรือนแก้วหลวงพ่อกล้าย วัดหงษ์รัตนาราม ธนบุรี เนื้อผงใบลานเผาผสมมวลสารศักดิ์สิทธิ์มากมาย ให้บูชา 1450 บาท

    upload_2022-10-11_16-51-56.png

    upload_2022-10-11_17-1-33.png


    ประวัติพระครูพรหมยานวินิต ( กล้าย ทิบภักดี )
    อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร ท่านเกิดเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2434 เวลา 6.50 น ณ บ้านกระดาษ หมู่ที่ 1 ตำบล มดแดง อำเภอ ศรีประจันต์ จังหวัด สุพรรณบุรี บิดาชื่อนายเฉย มารดาชื่อนางกล่ำ ทิบภักดี มีน้องสาวชื่อเพริ้ง ใยเพรช ม่านได้บรรพชาและอุปสมบท เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2453 ณ พัทธสีมาวัดโบสถ์ อำเภอวิเศษไชยชาญ จังหวัดอ่างทอง เมื่อเวลา 13.30 น โดยพระอธิการเนตร วัดโบสถ์เป็นพระอุปัชฉายะ พระอาจารย์พลอย วัดโบสถ์เป็นพระกรรมวาจารย์และพระอาจารย์พักตร์ วัดโบสถ์เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายา "สุวณุณหุโส" เมื่ออุปสมบทแล้วได้ศึกษาวิชาอาคมจากหลวงพ่อพักตร์ วัดโบสถ์ จนแกร่งกล้าแล้วจากนั้นหลวงพ่อพักตร์ จึงพาพระครูกล้ายมาฝากพระรัตนมุนี (บาง) อดีตเจ้าอาวาสวัดหงส์รัตนาราม ซึ่งเป็นพระพี่ชายของหลวงพ่อพักตร์ครับหลังจากนั้นพระครูกล้ายศึกษาวิชาอยู่ที่วัดหงส์รัตนาราม นอกจากนี้หลวงพ่อกล้ายท่านยังได้ศึกษาวิชาจากอาจารย์ท่านอื่นอีกหลายองค์ ที่ทราบก็คือหลวงพ่อโหน่งวัดคลองมะดัน พระสังวรานุวงศ์ (ชุ่ม) วัดราชประสิทธารามและยังทันกับหลวงพ่อปาน วัดบางนมโคอีกด้วย หลังจากที่ได้ร่ำเรียนวิชาต่างๆมาพอสมควรแล้วหลวงพ่อกล้าย ท่านได้ย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่วัดศรีจันต์ ซึ่งเป็นวัดบ้านเกิดของท่านและได้เมตตาช่วยเหลือชาวบ้านที่ทุกข์ร้อน โดยใช้พรหมวิหาร 4 ไม่อวดตนข่มผู้อื่น ผู้ใดที่ทุกข์ร้อนมาหาท่านก็ได้รับการช่วยเหลือโดยไม่แบ่งชั้นวรรณะจึงเป็น ที่รักของชาวบ้านจำนวนมาก ภายหลังได้ย้ายมาจำพรรษาที่ วัดหงส์รัตนารามโดยท่านได้รับสมณศักดิ์ที่ "พระครูพรหมยานวินิจ" ชั้นโท และในปี 2500 จึงได้เลื่อนชั้นเอกในนามเดิม ตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร
    ส่วนการสร้างพระท่านได้สร้างพระเมื่อประมาณ ปี 2468 เป็นต้นมายุคต้นของท่านจะไม่มียันต์ ท่านเริ่มมีสัญลักษณ์หลังโดยใช้ยันต์เพราะเริ่มมีพระสงค์หลายรูปที่มาสร้างพระด้วยกันจึงกำหนดยันต์ขึ้นมาเผื่อสดวกแก่การจำว่าของท่านใดสร้างยันต์ของท่านจะมี "อุ" และ ยันต์น้ำเต้า "อิติอุนิ" เป็นยันต์ประจำตัวส่วนยันศรี และยัน นะ นั้นท่านไม่ค่อยได้ใช้มากนัก ( ยันศรี เคยใช้ลงถาดทองเหลือง งานสร้างวัตถุมงคลที่วัดราชโอรส ปี 2508 ) โดย ยันต์ "อุ" ย่อมาจาก "อุณาโลมาปะนะชายะเต อะสังวิสุโลปุสะพะภะ" และยันต์น้ำเต้า "อิติอุนิ"ย่อมาจาก อิ คือ อิสะระนัง โลเกเสฐฐัง ติ คือ ติสะสัพพะ สัพพา อุตตะยะนัง อุ คือ อุเบกขาอังคะสัมภะวัง นิ คือ นิพานัง ปรมังสุขขัง โดยใช้ยันต์ทั้ง 2 นี้ เป็นหัวใจพระคาถาที่หลวงพ่อกล้าย ได้ศึกษาและได้ภาวนาขณะปลุกเสกพระเครื่องของท่านให้มีความเข้มขลังพระที่ ท่านสร้างมีเนื้อผงใบลานและเนื้อดินเผา โดยมีผงของสมเด็จพุฒาจารย์ (โต) วัดระฆัง ผงพระขุนแผน วัดบ้านกร่าง ผงหลวงพ่อเนียมวัดน้อย ผงจากกรุวัดตาล( อาจารย์คงซึ่งเป็นอาจารย์ของขุนแผน ) ผงใต้ประธานวัดไก่เตี้ย ผงของหลวงพ่อพักตร์ วัดโบสถ์ ซึ่งเป็นอจารย์ของท่าน ผงของหลวงพ่อแฉ่งวัดบางพัง ผงของหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ผงของพระครูใบกีฎาเกลี้ยง วัดสุทัศน์ ผงที่ท่านลบเขียนเอง ดินจากที่ต่างๆเช่น ดินปิดรูหนู รูปู ดินรังหมาล่าที่ปิดหู ตา จมูก ปากของพระอิธิมงคลต่างๆ นอกจากนี้ยังมีผงของหลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาณมิตร ผงของหลวงพ่อแซมวัดนวงนรดิศ ผงของหลวงพ่อสดวัดปากน้ำ ผงของสมเด็จพระสังฆราช ( ป๋า วัดโพิ์ท่าเตียน ) ผงของพระวัดผลับ ดินหนองช้างตาย กิ่งอำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี ดิน 7 โป่ง 7 ท่าผงตะใบพระกรื่งของสมเด็จพระสังฆราชแพ ที่พระครูปรุงมอบให้ ส่วนเนื้อชินได้จากพระของหลวงเนียมวัดน้อย และ ตะปูสังขวานร จากขุนโพที่นำมาถวาย สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ ว่านยาและเกษรดอกไม้ 108 ดินขุยปูและดินปลาไหลเผือก ผสมปูนเปลือกหอย กล้วย และ น้ำตาล ตำสาวนผสมทั้งหมดจนละเอียดได้ที่ แล้วจึงกดเป็นพิมพ์พระ อนึ่งพระของท่านมักใช้ วิชาปลุกเสก ***เตโชกสิน(ไฟ) ***ปลุกเสก จึงมีสีขาวดำและแดง
    ท่านสร้างพระมาจนถึงปี 2505 จึงได้เลิกสร้างเนื้องจากท่านชราภาพ และท่านยังสร้างพระแจกแก่สาธุชนโดยไม่คิดมูลค่าแต่อย่างใดพระเครื่องที่ท่าน สร้างแจกนั้น เพื่อเป็นการบำรุงขวัญและกำลังใจให้สาธุชนยึดมั่นในพระพุทธศาสนา สร้างความดีละเว้นความชั่ว และต่อมาจนเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2510 ท่านก็ได้มรณะภาพอย่างสงบ สิริรวมอายุได้ 76 ปี แต่ยังคงเหลือคุณงามความดีให้สาธุชนทั้งหลายได้ระลึกถึงท่านไว้ส่วนพระ เครื่องที่ท่านสร้างแจกนั้น น่าเสียดายใครที่ได้รับแจกไว้เก็บไว้ต่างก็หวงแหน และัไม่ค่อยได้นำออกมาให้บูชากัน จึงไม่ค่อยมีใครรู้จักพระเครื่องของท่านมากนัก ทั้งที่มีมากมายหลายแบบ หลายพิมพ์ มีจำนวนทั้งหมดประมาณ 50000 องค์ และเนื้อชินไม่เกิน 1000 องค์ แม่พิมพ์ด้านหน้าของท่านได้ให้พระเกจิที่นับถือกันนำไปทำใหม่แต่เปลี่ยน ยันต์ที่ด้านหลัง ที่สืบมาได้คร่าวๆคือ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์ นอกจากนั้นท่านยังได้สอนวิชาต่างๆให้กับเกจิอาจารย์ที่ทราบคือ หลวงพ่อนิ่ม วัดพุทธมงคล หลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ตุลาคม 2022
  12. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,772
    ค่าพลัง:
    +466
    927.พระดีพระขลังแห่งเมืองจันทบุรี พระรูปเหมือนหล่อโบราณรุ่นแรกหลวงพ่อจิ่ม วัดไผ่ล้อม จันทบุรี อุดกริ่งมีจาร ให้บูชา 1250 บาท


    upload_2022-10-11_17-50-2.png

    upload_2022-10-11_17-56-30.png

    upload_2022-10-11_17-45-42.png

    พระครูพิศิษฐ์ปุญญาทร หรือที่เรียกขานกันในนามหลวงพ่อจิ่ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จ.จันทบุรี เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังผู้เรืองเวทวิทยาคมองค์หนึ่งในภาคตะวันออกในยุคก่อนกึ่งพุทธกาล
    .
    ท่านเกิดเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2425 มีพี่น้องรวมทั้งตัวท่านเอง 4 คนและเป็นเรื่องที่แปลกประหลาด ปรากฏว่าพี่น้องของท่านออกบวชในบวรพระพุทธศาสนาด้วยกันทั้งหมดทุกคน อีกทั้งยังได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสทั้งสิ้น เช่น
    .
    หลวงพ่อเปี๊ยก พี่ชายคนโต เป็นเจ้าอาวาสวัดวังเวียน
    หลวงพ่อย้อย พี่ชายคนรอง เป็นเจ้าอาวาสวัดคลองขุด ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านวัตถุมงคลเนื้อผง โดยเฉพาะพระปิดตา และเป็นที่เล่นหากันในระดับแนวหน้าของเมืองจันทบุรี
    หลวงพ่อเชิด พี่ชายคนที่3 เป็นเจ้าอาวาสวัดคลองขุด
    หลวงพ่อจิ่ม (พระครูพิศิษฐ์ปุญญาทร) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม
    .
    หลวงพ่อจิ่ม ท่านได้สร้างวัตถุมงคลไว้ส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อโลหะ และที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ได้แก่ รูปหล่อ เหรียญ วัตถุมงคลของท่านล้วนมีความโดดเด่นเป็นที่เลื่องลือระบือไกล
     
  13. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,772
    ค่าพลัง:
    +466
    928.พระดีแดนใต้ พระผงว่านมงคล หลวงพ่อพัฒน์ วัดใหม่พัฒนาราม อดีตพระเถราจารย์ยุคเก่าผู้เรืองนาม แก่กล้าสรรพเวทวิทยาคมเป็นที่เลื่องลือ ด้านหลังโรยแร่กายสิทธิ์ ให้บูชา 2350 บาท

    upload_2022-10-11_21-57-23.png

    upload_2022-10-11_21-57-31.png

    upload_2022-10-11_21-57-37.png

    ประกอบพิธีประจุพุทธาคมอย่างเข้มขลังเอกอุเมื่อปี 2505 โดยมีพระคณาจารย์ผู้เรืองนาม ผู้แก่กล้าวิชาอาคมในยุคนั้นมากมายทั่วภาคใต้ มาร่วมนั่งปรกปลุกเสอ อาทิ
    หลวงพ่อทิม วัดช้างให้
    พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน
    รวมทั้งสายเขาอ้อ เป็นต้น

    * ถึงแม้จะสร้างย้อนยุค หลังจากหลวงพ่อพัฒน์มรณะภาพไปแล้วเนิ่นนามก็ตาม แต่พระผงว่านมงคลรูปเหมือนหลวงพ่อพัฒน์รุ่นนี้ ยังทรงกิตตายาคมเข้มขลังเอกอุ มีประสบการณ์เป็นที่เลื่องลือระบือไกล จนเป็นที่เสาะแสวงหากันอย่างกว้างขวางมาช้านาน



    .​
     
  14. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,772
    ค่าพลัง:
    +466
    929. สุดยอดพระดี มวลสารศักดิ์สิทธิ์ พระสมเด็จ9อรหันต์ เนื้อผสมอัฐิธาตุ อังคารธาตุ เกศา ชานหมาก ให้บูชา 850 บาท



    upload_2022-10-11_22-27-33.png

    upload_2022-10-11_22-31-41.png

    พระผงรุ่นนี้ประกอบด้วยมวลสารสำคัญ เช่น เกศา จีวร ชานหมาก เป็นต้น ตลอดจนอัฐิธาตุของเกจิอาจารย์
    ซึ่งแต่ละรูปล้วนได้รับการยอมรับว่าสำเร็จเป็นพระอรหันต์ และยังเป็นพระอาจารย์สายวิปัสสนากัมมัฎฐาน
    ที่ได้รับการนับถืออย่างสูงจนถึงปัจจุบัน 9 รูป อันได้แก่
    1. หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต แห่งวัดป่าสุทธาวาส จ.สกลนคร
    2. หลวงปู่แหวน สุจิณโณ แห่งวัดดอกแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่
    3. หลวงปู่ขาว อนาลโย แห่งวัดถ้ำกลองเพล จ.หนองบัวลำภู
    4. หลวงปู่ชา สุภัทโท แห่งวัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี
    5. หลวงปู่ดุลย์ อตุโล แห่งวัดบูรพาราม จ.สุรินทร์
    6. หลวงปู่สาม อกิญจโน แห่งวัดไตรวิเวก จ.สุรินทร์
    7. หลวงปู่บัวพา ปัญญาภาโส แห่งวัดป่าพระสถิตย์ จ.หนองคาย
    8. หลวงปู่สิม พุทธาจาโร แห่งวัดถ้ำผาปล่อง จ.เชียงใหม่
    9. หลวงปู่สี ฉันทสิริ แห่งวัดเขาถ้ำบุญนาค จ.นครสวรรค์
    นอกจากนั้นยังมีมวลสารและธาตุกายสิทธิ์ต่าง ๆ อีกมากมาย.....
    1. พระผงรูปเหมือนหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ซึ่งด้านหลังบรรจุเกศาแท้ ๆ ของหลวงปู่มั่น สร้างโดยหลวงปู่เจี๊ยะ วัดป่าภูริทัตตะฯ จ.ปทุมธานี สมเด็จชานหมากของหลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น ด้านหลังฝังเหล็กเปียกสร้างโดยพระอาจารย์โชติ อาภัคโค วัดภูเขาแก้ว จ.อุบลราชธานี
    2. พระผงรุ่นอายุยืน เส้นเกศา จีวร ชานหมาก หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค ผิวสรีระบางส่วนที่ขูดออก ครั้งเปลี่ยนจีวร สีผึ้งที่ทำจากอุจจาระ ซึ่งก่อนมรณภาพหลวงปู่สี ฉันทสิริ ได้ขับถ่ายออกมาเป็นสีผึ้ง
    3. เส้นเกศา-อัฐิธาตุ-อังคารธาตุ หลวงปู่สิม พุทธาจาโร
    4. อัฐิธาตุ-อังคารธาตุ หลวงปู่แหวน สุจิณโณ
    5. อัฐิธาตุ-อังคารธาตุ หลวงปู่ขาว อนาลโย
    6. พระผงอังคารธาตุ หลวงปู่ชา สุภัทโท
    7. อัฐิธาตุ-อังคารธาตุ ชานหมากหลวงปู่สาม อกิญจโน
    8. อัฐิธาตุ-อังคารธาตุ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล
    9. อัฐิธาตุ-อังคารธาตุ หลวงปู่บัวพา ปัญญาภาโส
    บวกด้วยผงธาตุกายสิทธิ์
    1. ผงอิทธิเจ ปถมัง มหาราช
    2. ผงว่าน 108
    3. ดินสังเวชนียสถานทั้ง 4 ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพาน
    4. ใบโพธิ์ของต้นโพธิ์ตรัสรู้แท้ ๆ จากประเทศอินเดีย
    5. ผงแร่เกาะล้าน แร่เกาะคาม แร่เกาะภูเก็ต แร่เมฆพัด
    6. ผงแร่เหล็กไหลเพลิง
    7. ผงเหล็กไหลตาแรด หลวงพ่อสัมฤทธิ์ วัดถ้ำแฝด
    8. ผงธูป ผงพระเก่า สมเด็จพระพุฒาจารย์โต
    9. ดินกากยายักษ์ที่ใช้ผสมทำพระผงหลวงปู่ทวด
    10. ผงเกสรดอกไม้บูชาพระอาจารย์หลายรูป
    11. ผงพระเก่าหลวงพ่อมงคลบพิตร
    12. ผงพระธาตุพระสิวลี ชนิดสีขาวและสีดำ
    13. ผงสะเก็ดแก้วพิสดาร
    ทั้งหมดคือมวลสารกายสิทธิ์ที่จัดสร้างสุดยอดพระผง สมเด็จ 9 อรหันต์

    มีพิธีอภิมหาพุทธาภิเษก-อธิษฐานจิต ถึง 3 ครั้ง

    ครั้งที่ ๑ ภายในโบสถ์มหาอุด วัดอินทราราม ต.เหมืองใหม่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม วันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๓๘ ซึ่งตรงกับวันเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคา โดยหลวงพ่อแดง นันทิโย และพระภิกษุผู้ทรงอิทธิจิตสูงส่งภายในวัดอินทรารามทั้งยังเป็นผู้สร้างพระ สมเด็จ ๙ อรหันต์ ตามสูตรการสร้างพระสมเด็จที่สืบทอดมาจากหลวงปู่ใจวัดเสด็จ และ หลวงปู่หยอด วัดแก้วเจริญ

    ครั้งที่ ๒ พิธีมหาพุทธาภิเษก ภายในพระวิหารพระร่วงโรจนฤทธิ์ วัดพระปรุ่มเจดีย์ราชวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.นครปฐม เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๓๘ โดยมีพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ ๙ รูป นั่งปรกแผ่เมตตาดังนี้

    1. หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม จ.กาญจนบุรี
    2. หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ จ.นครปฐม
    3. หลวงพ่อลำไย วัดทุ่งลาดหญ้า
    4. หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ จ.สมุทรสงคราม
    5. หลวงพ่อยะ วัดท่าข้าม จ.นครปฐม
    6. หลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม จ.นครปฐม
    7. หลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม จ.นครปฐม
    8. หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม
    9. หลวงพ่อสง่า วัดหนองม่วง จ.ราชบุรี

    ครั้งที่ ๓ อธิษฐานจิตแผ่พลังโดยพระป่ากรรมฐานในสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และพระเดชานุเถระในสายอื่น ๆ อีกจำนวนทั้งหมด ๒๒ รูป ดังนี้
    1. หลวงปู่โง่น โสรโย วัดพระพุทธบาทเขารวก จ.พิจิตร
    2. หลวงปู่หลอด ปโมทิโต วัดสิริกมลาวาส กรุงเทพฯ
    3. หลวงพ่อคำพอง ติสโส วัดถ้ำกกดู่ จ.อุดรธานี
    4. พระอาจารย์กิ ธัมมุตตโม วัดสนามชัย จ.อุบลราชธานี
    5. พระอาจารย์ท่อน ญาณธโร วัดศรีอภัยวัน จ.เลย
    6. พระอาจารย์บุญเพ็ง กัปปโก วัดป่าวิเวกธรรมวิทยาราม จ.ขอนแก่น
    7. หลวงปู่หลวง กตปุญโญ วัดป่าสำราญนิวาส จ.ลำปาง
    8. พระอาจารย์จันทา ถาวโร วัดป่าเขาน้อย จ.พิจิตร
    9. พระอาจารย์โชติ อาภัคโค วัดภูเขาแก้ว จ.อุบลราชธานี
    10. พระโพธินันทมุนี วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์
    11. พระอาจารย์แปลง สุนทโร วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร
    12. พระครูอุดมสังวรคุณ วัดบรมนิวาส กรุงเทพฯ
    13. หลวงพ่อเพิ่ม กิตติวัฒฑโน วัดถ้ำไตรรัตน์ จ.นครราชสีมา
    14. พระอาจารย์จำเนียร สีลเสฏโฐ วัดภ้ำเสือวิปัสสนา จ.กระบี่
    15. พระอาจารย์สมาน ชิตมาโร วัดป่าศรัทธาราม จ.นครราชสีมา
    16. หลวงพ่อเที่ยง ผาสุโก วัดหลวงปรีชากูล จ.ปราจีนบุรี
    17. พระครูพิทักษ์มัชฌิมเขต วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม จ.นครราชสีมา
    18. พระอาจารย์เคล็ม ปิยธโร วัดกระสัง จ.บุรีรัมย์
    19. หลวงพ่อแดง นันทิโย วัดอินทราราม จ.สมุทรสงคราม
    20. พระอาจารย์เฉลียว วรกิจโจ วัดป่าโคกมน จ.เลย
    21. หลวงพ่อสิทธา เชตะวัน
    22. พระอาจารย์เกษมสุข เขมสุโข วัดประดู่ธรรมาธิปัตย์ กรุงเทพฯ
     
  15. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,772
    ค่าพลัง:
    +466
    930. เขาว่าเหนียวจริง หลวงปู่หนู ผู้สยบระเบิด พระเนื้อผง พิมพ์สมเด็จฯฐานขาโต๊ะ ข้างยันต์ ด้านหลังยันต์หนุมานเชิญธง (เอกลักษณ์ประจำตัวท่าน) สร้างเป็นรุ่นแรก ยุคแรก ปี๒๕๑๖ (เหรียญรูปเหมือนรุ่นแรก ก็สร้างปี๒๕๑๖) ให้บูชา 1150 บาท

    upload_2022-10-12_12-8-21.png

    upload_2022-10-12_12-9-21.png


    หลวงปู่หนู ฉินนกาโม นามเดิมว่า หนู เจริญวิทยา เกิดเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๔๓๘ ที่อ.โพธาราม จ.ราชบุรี จบชั้นประถมปีที่ ๔ โรงเรียนวัดหนองโพ .. จากนั้นได้บวชเป็นสามเณร ณ.วัดหนองโพ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ศึกษาพระปริยัติธรรมจนสอบได้นักธรรมโท .. ขณะบวชเป็นสามเณรท่านได้สนใจศึกษาวิชาทางไสยศาสตร์และเวทมนตร์คาถาพุทธาคมต่างๆ จึงไปเรียนกับ หลวงพ่อหลาบ วัดเนินตอ และ หลวงพ่อหลุง วัดทุ่งสมอ
    .. กระทั่งอายุครบบวชในปี พ.ศ. ๒๔๕๘ จึงทำการอุปสมบทที่ วัดใหม่เจริญผล แล้วไปจำพรรษาที่สำนักสงฆ์วัดเขาคร้อ หนึ่งพรรษา .. และได้เรียนวิชาพุทธาคม และวิปัสสนา กับหลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน จ.สุพรรณบุรี ( อาจารย์หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ) จึงถือได้ว่าเป็นศิษย์อาจารย์เดียวกันกับหลวงพ่อปาน วัดบางนมโคนั่นเอง .. จากนั้นได้ไปเรียนวิชากับ หลวงปู่จันทร์ วัดบ้านยาง และ หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง จ.นครปฐม ซึ่งระหว่างเรียนวิชากับหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้องนั้น ท่านได้พบกับศิษย์อีกคนหนึ่งของหลวงพ่อแช่มที่มาเรียนด้วยคือ หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม จ.นครปฐม
    .. จากนั้นจึงไปจำพรรษาที่สำนักสงฆ์วัดเขาคร้อ จนคณะสงฆ์เห็นในศีลาจารวัตรของท่านเหมาะสม จึงนิมนต์ให้ท่านไปเป็นเจ้าอาวาสวัดกระต่ายเต้น จ.กาญจนบุรี .. ครั้นเมื่อชาวบ้านทุ่งแหลมเห็น ต่างเลื่อมใสในศีลาจารวัตร จึงนิมนต์ให้ไปจำพรรษาที่วัดทุ่งแหลม อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี โดยได้ทำการพัฒนาวัดทุ่งแหลมจนเจริญก้าวหน้าเป็นลำดับต่อมา
    .. ระหว่างอยู่วัดทุ่งแหลมนี้เอง มีประชาชนเลื่อมใสศรัทธาในตัวท่านมาก ท่านจึงได้สร้างมงคลวัตถุออกแจกจ่ายแก่ประชาชนและศิษยานุศิษย์มากมายหลายรุ่น ทั้งเหรียญ พระผง ซึ่งก็มีประสบการณ์มากมาย .. จวบจนกระทั่งถึงวันที่ ๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๒๙ สิริอายุได้ ๙๒ ปี ท่านจึงละสังขารมรณภาพอย่างสงบ คงทิ้งไว้แต่อนุสรณ์แห่งความดีงามและมงคลวัตถุตลอดจนสังขารที่ไม่เน่าเปื่อย ซึ่งทางวัดทุ่งแหลมได้ใส่หีบแก้วไว้ให้เป็นที่พึ่งทางใจแก่ศิษยานุศิษย์ผู้เลื่อมใสศรัทธาต่อไป
    .. วัตถุมงคลที่ท่านสร้างขึ้นมีจำนวนน้อยและเป็นที่ต้องการของศิษยานุศิษย์เป็นจำนวนมาก เพราะมีประสบการณ์จริง คนในพื้นที่ต่างกล่าวขานและหวงแหน
     
  16. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,772
    ค่าพลัง:
    +466
    931. สุดยอดประสบการณ์พื้นที่ พุทธคุณ เหนียว คนยุคเก่าๆต่างทราบดี รูปเหมือนหล่อปั๊ม รุ่นแรก หลวงพ่อหงษ์ วัดชลคราม อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี ปี 2516 ให้บูชา 999 บาท

    upload_2022-10-12_12-17-57.png


    พระครูชลทานธรรมพิทักษ์ (หลวงพ่อหงษ์) วัดชลคราม ท่านเป็นสหายธรรมกับ หลวงพ่อจ้อย วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ เนื้อหาจัดจ้าน สภาพ คมชัดลึก เนื้อจัด ผิวหิ้ง ***สมัยนั้นมีการกล่าวกันว่า "หากใครไปหาหลวงพ่อขาว วัดประสพ แล้วท่านไม่อยู่ สามารถเลยไปหาหลวงพ่อหงษ์ที่วัดชลครามแทนก่อนได้" เพราะทั้งสองท่านต่างก็เป็นพระที่มีวาจาสิทธิ์และเก่งกล้าสามารถเข้มขลังในบุญญฤทธิ์ฯมากมายเป็นที่รับรู้ทั่วกันในละแวกถิ่นนั้น เพราะระยะทางระหว่าง..วัดชลครามกับวัดประสพนั้นมีพื้นที่ติดต่อกันและไม่ไกลกันมากนัก (เดิมทีเดียวนั้น วัดชลครามอยู่ในเขตอำเภอกาญจนดิษฐ์ แต่ต่อมาเมื่อได้มีการตั้งกิ่งอำเภอดอนสัก จึงได้ปรับเปลี่ยนมาขึ้นอยู่กับอำเภอดอนสัก ในภายหลัง) เท่าที่พอทราบคือ หลวงพ่อหงษ์ วัดชลคราม ท่านเป็นลูกศิษย์ของ หลวงพ่อเพชร อินทโชติ วัดวชิรประดิษฐ์ และ พ่อท่านเขียว วัดหลงบล สมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่นั้นท่านเริ่มจะมีชื่อเสียงโด่งดังมากพอสมควรในพื้นที่บริเวณตำบลท่าทองและอำเภอดอนสักนับตั้งแต่ปี 2516 เป็นต้นมา ซึ่งยุคนั้นการคมนาคมเส้นทางต่างๆเริ่มมีสัญจรได้สะดวกและรถราเริ่มจะมีกันมากขึ้น ลูกศิษย์ของท่านจะเป็นข้าราชการอยู่มากมายยิ่งทำให้ท่านเป็นที่รู้จักกันมากขึ้นและเมื่อวัตถุมงคลพระเครื่องที่ท่านสร้างไว้มาตั้งแต่ปี 2513 นั้นเริ่มที่จะมีประสบการณ์ทางด้าน อยู่ยงคงกะพันชาตรีและแคล้วคลาด อาทิ ทหารตำรวจโดนยิงด้วยอาวุธสงคราม แต่ไม่ระคายผิวสักนัดเดียว, คนในพื้นที่ฯโดนยิงแบบดาวกระจายเต็มแผ่นหลัง แต่ไม่ระคายผิวหนังแม้แต่น้อย, การโดนไล่ล่ายิงกันแบบห่ากระสุนปลิวว่อนแถวใกล้ชายแดนพม่า ซึ่งผู้ถูกไล่ยิงได้อาราธนาหลวงพ่อช่วยปกป้อง..กระสุนไม่มีโดนแม้แต่นัดเดียว ซึ่งผู้เล่าบอกว่า แทบไม่น่าจะเป็นไปได้และคิดว่าไม่น่าจะหนีรอดมาได้ด้วยในตอนนั้น หรือ กรณีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่และครอบครัวเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ แต่คนในรถไม่เป็นไรกันเลยแม้แต่น้อย ฯลฯ (เท่าที่ทราบบางท่านยังมีการเก็บเสื้อที่โดนยิงเป็นรูกระสุนไว้ในตอนนั้นเป็นอนุสรณ์กันเลยทีเดียว) นี่เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้นและประสบการณ์ที่ปรากฏชัดบ่อยในช่วงระยะเวลาใกล้เคียงกันในประมาณปี 2517-2518 และค่อนข้างต่อเนื่องหลายๆเหตุการณ์ยิ่งทำให้ชื่อเสียงท่านเป็นที่รู้จักมากขึ้น แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งที่หลวงพ่อหงษ์ท่านได้ลาสิกขาบทในภายหลัง ซึ่งหากท่านยังอยู่ในร่มกาสาวพัตร์ต่อไปชื่อเสียงของท่านย่อมคงจะโด่งดังมากแน่นอน แม้กระทั่งหลังจากที่ท่านได้มีการลาสิกขาบทแล้วก็ยังมีประชาชนไปหาท่านกันอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ท่านช่วยเหลือในด้านต่างๆเสมือนเป็นอาจารย์ฆราวาสจวบจนกระทั่งถึงวาระสุดท้ายของชีวิตท่าน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ตุลาคม 2022
  17. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,772
    ค่าพลัง:
    +466
    932. พระผงปิดตาภควัมบดี(หลังเรียบ หายาก) หลวงปู่แหวน วัดดอยแ ม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ปี 2516 ให้บูชา 2500 บาท

    upload_2022-10-12_12-37-17.png
    พระปิดตาภควัมบดีหลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง จังหวัดเชียงใหม่ รุ่นแรก สร้างแจกในปี ๒๕๑๖ โดยคณะศิษย์วัดปากน้ำ เท่าที่พบ มี ๒ พิมพ์ คือ
    ๑.พิมพ์หลังรูปปักกลด
    ๒.พิมพ์หลังเรียบ (พบน้อย) มีมวลสาร สุดยอด ดังนี้...

    1. เส้นเกศาของหลวงปู่แหวน สุจิณโณ
    2. ผงปลุกเสกตลอดไตรมาส เมื่อปี พ.ศ. 2511 โดยท่านเจ้าคุณธัมมวิตักโก ที่นำมาสร้างพระชุดวัดวิเวกวนาราม ซึ่งยังมีเหลืออยู่มาก
    3. ผงปลุกเสกตลอดไตรมาส โดยหลวงพ่อกัสสปมุณี แห่งสำนักสงฆ์ปีปผลิวนาราม อ. บ้านค่าย จ. ระยอง
    4. ผงปลุกเสกตลอดไตรมาส โดยหลวงปู่แหวน สุจิณโณ ประมาณ 1 ปีบ
    5. ข้าวเหนียวก้นบาตร ของหลวงปู่แหวน และหลวงปู่ปลุกเสกให้เป็นพิเศษ
    6. ผงสมเด็จวัดระฆัง
    7. ผงสมเด็จกรุวัดสามปลื้มจำนวนมาก ประมาณ 1 ปีบแกลลอน และทองชนวนพระ ของท่านเจ้ามา ได้มาจากท่านพระครูประสิทธิ์สมณการ คณะ 8 วัดจักรวรรดิราชาวาล เมื่อต้นปี พ.ศ. 2516
    8. พระชุดวัดวิเวกวนาราม ซึ่งปลุกเสกโดยท่านเจ้าคุณธัมมวิตักโก ที่ชำรุดแตกหัก
    9. ดินจากสังเวชณียสถาน 4 แห่ง จากอินเดีย
    10. ใบโพธิ์บัลลังก์ จากอินเดีย
    11. พระหลวงปู่ไข่ วัดบพิตรภิมุข พิมพ์ใหญ่ ที่ชำรุดแตกหัก
    12. ผงตะไบตะกรุดเก่า ๆ ของพระอาจารย์ที่สำคัญ ๆ หลายองค์
    13. ผงวิเศษซึ่งปลุกเสกโดยหลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว
    14. ผงวิเศษซึ่งปลุกเสกโดยหลวงปู่ขาวอนาลโย วัดถ้ำกลองเพล จังหวัดอุดรธานี
    15. ผงพระเนื้อกรุดินเผา เนื้อชิน ที่ชำรุดแตกหัก
    16. ผงวิเศษและแร่แสงเพชร จากที่นั่งบำเพ็ญเพียรบนลานหินใหญ่ของหลวงพ่อผาง จิตตคุตโต วัดอุดมคีรีเขต จังหวัดขอนแก่น และหลวงพ่อผางได้แผ่เมตตาให้ด้วย
    17. ผงตะไบพระท่านเจ้ามา วัดสามปลื้ม
    18. ผงวิเศษซึ่งปลุกเสกโดย หลวงพ่อพระครูสมุห์เชื้อ สุกกวัณโณ วัดใหม่บำเพ็ญบุญ ชัยนาท
    19. ผงสีลาธิคุณ
    20. ปูนที่พอกองค์พระ และอิฐจากฐานพระพุทธรูป พระเจ้านั่งช้าง อ. พร้าว จ. เชียงใหม่ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสมัยพระเจ้าเม็งรายมหาราช
    21. ข้าวตอกพระร่วง
    22. แก่นจันทน์หอม
    23. ว่านพญางิ้วดำ
    24. สีผึ้งสีปากซึ่งปลุกเสกโดย หลวงปู่แหวน หลวงปู่ขาว หลวงพ่อผาง และพระอาจารย์อื่น ๆ อีกมาก
    25. ก้อนยาฤาษีผสม
    26. เทียนชัย ซึ่งปลุกเสกโดย ท่านเจ้าคุณธัมมวิตักโก
    27. น้ำผึ้งเสกของท่านเจ้าคุณ ธัมมวิตักโก
    28. หอย 75 ล้านปี จังหวัดกระบี่
    29. แร่ธาตุที่สำคัญ ๆ เช่น แร่ถ้ำเชียงดาว แร่เกาะล้าน แร่หยด แร่ทับทิม แร่สะเก็ดดาวนอกโลก และแร่เกล็ดเพชร
    30. เกสรดอกไม้ ขี้ธูป และทองคำเปลวจากพระหัตถ์ของหลวงพ่อพระพุทธโสธร แปดริ้ว
    31. หวายลูกนิมิตเผาของวัดต่าง ๆ หลายวัด
    32. น้ำมนต์บริสุทธิ์ หลวงพ่อผาง จิตตคุตโต
    33. น้ำมนต์บริสุทธิ์ ของหลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ
    34. น้ำมนต์บริสุทธิ์ ในโบสถ์วัดวิเวกวนาราม
    35. น้ำมนต์บริสุทธิ์ วัดเทพศิรินทราวาส
    36. น้ำมนต์บริสุทธิ์ หลวงปู่ขาว อนาลโย

    **** ซึ่งทั้งผงและแร่ธาตุต่าง ๆ นี้ บดให้เป็นผงละเอียดรวมกัน นำลงในแม่พิมพ์*

     
  18. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,772
    ค่าพลัง:
    +466
    สนใจรายการไหนสอบถามได้ครับ......
     
  19. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,772
    ค่าพลัง:
    +466
    933.รุ่นแรกและรุ่นเดียวของท่าน เหรียญหลวงพ่อเวก วัดลาดศรัทธาราม(วัดศาลาหมูสี) รุ่นแรก ให้บูชา 999 บาท พระสิบทัศน์ของท่าน สุดยอดปรารถนามหาชน หลายหมื่นบาทครับ

    upload_2022-10-12_15-51-20.png

    upload_2022-10-12_16-2-20.png

    ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม

    เท่าที่ได้รับฟังประสบการณ์จากคนเก่าๆที่ทันหลวงพ่อเล่าว่า

    ท่านเก่งมาก มีบารมี สมาธิพลังจิตเข้มขลังมาก ส่วนพระเครื่องที่หลวงพ่อเวกสร้างไม่ทราบแน่ชัดว่าสร้างปีไหน

    (พระสิบทัศน์สร้างก่อนปี 2500 แน่นอน) มีทั้งหมดสามพิมพ์ เป็นพิมพ์สิบทัศน์

    (เป็นพิมพ์ที่หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม เป็นผู้แนะนำให้สร้างพิมพ์นี้)

    พิมพ์สี่เหลี่ยมสมเด็จ และพิมพ์สามเหลี่ยมนางพญา

    โดยเนื้อหามวลสารที่นำสร้างพระนั้น หลวงพ่อเวกจะสร้างตามตำราโบราณ

    ซึ่งท่านสามารถหามวลสารมาได้ครบถ้วนตามตำรา หลักๆจะเป็นแร่เยอะ

    เช่น เหล็กไหล แร่เจ้าน้ำเงิน แร่อุกาบาท เพชรหน้าทั่ง และอื่นๆอีกมาก

    ซึ่งหลวงพ่อเงินเองท่านยังหามวลสารได้ไม่ครบเท่าหลวงพ่อเวก

    จากคนเก่าๆเขาเล่าว่าการเดินทางไปหามวลสารของหลวงพ่อเวก

    จะเจอเหตุปาฎิหาร์ยอัศจรรย์หลายอย่าง

    ซึ่งเรื่องเหล่านี้จะไม่มีการบันทึก และหลวงพ่อนึก(เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน)

    จะไม่เล่าเรื่องเหล่านี้ให้ใครฟัง

    เพราะรับคำหลวงพ่อเวกไว้ จะมีแต่คนเก่าๆที่ทันหลวงพ่อเวกที่เล่ากันต่อๆมา

    เรื่องการปลุกเสก เป็นที่แน่นอนครับว่า หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม

    เป็นประธานพิธีปลุกเสก (มีรูปถ่ายยืนยันปัจจุบันอยู่ที่วัด)

    พระไม่ได้สร้างมาที่เดียวทั้งหมด แต่จะสร้างไล่ๆกันมาประมาณสามครั้ง

    สร้างครั้งแรกพิมพ์พระจะชลูดฐานพระจะแคบ

    ครั้งสองฐานจะกว้างกว่านิดหน่อย ครั้งสามพิมพ์จะป้อมๆฐานกว้าง

    พิมพ์พระจะเรียบร้อยสวยกว่าสองครั้งแรก

    เรื่องมวลสาร เรียกได้ว่ามีพระสิบทัศน์วัดนี้องค์เดียวเหมือนมีพระชุดเบญจภาคีเนื้อผง

    เพราะมีมวลสารสำคัญของพระชุดเบญจภาคีอยู่ในพระสิบทัศน์องค์เดียว

    ปัจจุบันพระที่วัดยังมีแจกอยู่ เหลือพิมพ์สิบทัศน์ และสามเหลี่ยมนางพญา

    ได้ยากมากบางคนมาขอกันเป็นปีๆ ข้ามปี

    บางคนก็เร็วหน่อย พิมพ์สี่เหลี่ยมสมเด็จหมดนานแล้ว

    พระเครื่องหลวงพ่อเวกสร้างไว้แจกอย่างเดียวไม่รับเงิน

    คนที่ได้รับพระจึงหวงกันมาก เพราะกว่าจะได้มาต้องอดทนรอกันนาน

    เพราะคนที่จะได้ต้องเกิดจากนิมิตรของหลวงพ่อเวก ว่าคนนี้เหมาะสมหรือยัง

    ถึงเวลาจะได้ครอบครองหรือยัง



    #พระครูสุภาณีวิทยาคุณ หรือ หลวงพ่อเวก วุฑฒิปัญโญ อดีตเจ้าอาวาส วัดลาดศรัทธาราม ต.บ้านลาด อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี และอดีตพระเกจิอาจารย์อีกรูปหนึ่งของจังหวัดเพชรบุรี ที่มีผู้เลื่อมใสศรัทธาจำนวนมาก วัตถุมงคลของท่านเป็นหนึ่งในตำนานพระเครื่องเมืองเพชรบุรี ที่มีประสบการณ์มากมาย

    มีนามเดิมว่า เวก คุ้มจินดา พื้นเพเดิมเป็นคนท่ายาง จ.เพชรบุรี เกิดเมื่อวันพุธ ที่ 13 ต.ค.ศ.2452

    ต่อมาครอบครัวย้ายถิ่นฐานไปประกอบอาชีพที่คลองจินดา อ.สามพราน จ.นครปฐม

    เข้าพิธีอุปสมบทเมื่อปี พ.ศ.2472 ณ วัดจินดาราม อ.สามพราน จ.นครปฐม โดยมีพระราชธรรมาภรณ์ หรือ หลวงพ่อเงิน จันทสุวัณโณ วัดดอนยายหอม เป็นพระอุปัชฌาย์ ส่วนนามพระอนุสาวนาจารย์ และพระกรรมวาจาจารย์นั้น ไม่มีการบันทึกไว้

    หลังอุปสมบท ตั้งใจใฝ่รู้ขยันหมั่นเพียรศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยวิปัสสนากัมมัฏฐาน และศาสตร์ต่างๆ จากหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ผู้เป็นอาจารย์อย่างเคร่งครัด กระทั่งมีความรอบรู้ชำนาญแตกฉานในศาสตร์ต่างๆ ตามแบบอย่างของผู้เป็นอาจารย์

    นอกจากความแตกฉานด้านพระธรรมวินัย ในช่วงราวปี พ.ศ.2480 หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ได้จัดสร้างวัตถุมงคลบารมีสิบทัศ เป็นจุดเริ่มต้นที่หลวงพ่อเวกได้ศึกษาวิชาจัดสร้างพระบารมีสิบทัศ จากหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม จนแตกฉาน

    ต่อมาพระเวกได้ย้ายมาจำพรรษา ณ วัดเกาะแก้วสุทธาราม ต.ท่าราบ อ.เมือง จ.เพชรบุรี

    เมื่อเจ้าอาวาสวัดลาดศรัทธารามได้ว่างลง ชาวบ้านจึงนิมนต์พระเวกไปเป็นเจ้าอาวาส

    เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.2499 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ "พระครูสุภาณีวิทยาคุณ"

    หลวงพ่อเวก ประพฤติตนตั้งมั่นอยู่ในธรรมวินัย ท่านได้สร้างคุณูปการมากมาย ตลอดจนก่อสร้างบูรณปฏิสังขรณ์พัฒนาถาวรวัตถุศาสนสถาน เพื่อสืบต่อพระศาสนา เป็นประโยชน์ต่อพระสงฆ์ สามเณรและ พุทธบริษัทต่างๆ มากมาย จนเป็นที่เลื่อมใสได้รับความเคารพ

    พ.ศ.2512 จัดสร้างพระพุทธรูปประจำวัดลาดศรัทธาราม นามว่า พระพุทธหิรัญราช เป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธศิลป์งดงาม องค์พระนั่งขัดสมาธิอย่างปางสมาธิ พระหัตถ์เบื้องขวาห้อยพาดบนพระชานุ (เข่า) หันฝ่าพระหัตถ์ไปข้างหน้า พระหัตถ์ซ้ายพาดแบอยู่บนพระเพลา (หน้าตัก) บนพระหัตถ์วางไว้ด้วยโถน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ โดยมีหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม เป็นองค์ประธานเททองหล่อ

    ด้านวัตถุมงคลมีมากมาย อาทิ พระผงรุ่นต่างๆ แต่ที่ได้รับความนิยมสูง คือ พระบารมีสิบทัศพระพุทธหิรัญราช

    ได้รับความเมตตาแนะนำจากหลวง พ่อเงิน วัดดอนยายหอม ผู้เป็นอาจารย์ ให้จัดสร้างพระพุทธหิรัญราช พิมพ์บารมีสิบทัศขึ้น หลวงพ่อเวกจึงเสาะหา รวบรวมมวลสารเพื่อจะนำสร้างพระซึ่งท่านสามารถหามวลสารมาได้ครบถ้วนตามตำราโบราณ

    พระพุทธหิรัญราช พิมพ์บารมีสิบทัศ วัดลาดศรัทธาราม หลวงพ่อเวก จัดสร้างขึ้นระหว่าง พ.ศ.2490-2500 โดยมีหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ผู้เป็นอาจารย์เป็นประธานในพิธีและร่วมปลุกเสก

    มีสัณฐานองค์ขนาดใหญ่เป็นทรงคล้ายห้าเหลี่ยม มี 2 พิมพ์ คือ พิมพ์ป้อม และพิมพ์ชะลูด พุทธลักษณะด้านบนมีพระพุทธรูปประทับยืน 5 องค์ ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง

    หลวงพ่อเวก ดำรงตนอยู่ในร่มกาสาวพัสตร์แห่งพระธรรม เป็นศูนย์กลางแห่งความเคารพศรัทธาให้กับพุทธ ศาสนิกชนนานกว่า 50 ปี
    มรณภาพอย่างสงบ เมื่อวันอังคารที่ 6 พ.ค.2523 สิริอายุ 72 พรรษา 50
     
  20. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,772
    ค่าพลัง:
    +466
    934. เหรียญที่ระลึกงานสรงน้ำ ปี 2519 หลวงปู่คำมี พุทธสาโร วัดถ้ำคูหาสวรรค์ พระอริยสงฆ์เสาหลักพระกรรมฐานเมืองลพบุรี ให้บูชา 650 บาท

    upload_2022-10-12_21-58-48.png

    ศิษย์หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล
    ศิษย์สมเด็จลุ่น แห่งนครจำปาศักดิ์
    ศิษย์ญาท่านสีทัต สุวัณมาโจ
    ท่านเป็นพระเกจิทางลพบุรีที่ทรงอภิญาจิตถ้ามีพิธีปลุกเสกที่ไหนท่านจะได้รับเป็นหัวหอกของ
    ๓ เกจิ เมืองลพบุรี อันประกอบด้วย
    หลวงปู่คำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์
    หลวงพ่อบุญมี วัดเขาสมอคอน
    หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู
    .....ปัจจุบันสรีระอันบริสุทธิ์ของหลวงปู่ได้อยู่ภายในหีบแก้วที่วัดถ้ำคูหาสวรรค์
    โดยสังขารท่านไม่เน่าเปื่อย และ มีเส้นผมงอกได้ เป็นที่น่าอัศจรรย์ใจอย่างยิ่ง
    #เป็นเหรียญที่มีประสบการณ์มากในสงครามเวียดนาม ก่อนที่อเมริกาจะแพ้สงครามในเดือนเมษายน ๒๕๑๘ ทหารไทยที่ไปร่วมรบในสมรภูมิเวียดนาม และลาว ต่างมีประสบการณ์ในด้านการคุ้มครองป้องกันภัย ทั้งคงกระพัน มหาอุด และเหยียบกับระเบิด แต่ระเบิดไม่ทำงาน
    #นอกจากนี้บรรดานิสิตนักศึกษาที่รอดพ้นอันตรายจากการถูกจับกุม และคมกระสุนทำให้หลายคนที่ต้องหลบหนีเข้าป่าเข้าร่วมกับพรรคคอมมูนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) ในเหตุการณ์ "วันฆ่านกพิราบ" จากการปิดล้อมของทหาร และมวลชนฝ่ายขวาจัดที่ไล่ล่า เข่นฆ่า จับกุม เมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ ซึ่งได้พกพาเหรียญรุ่นนี้นับสิบรายด้วยกัน เพราะเป็นลูกหลานชาวลพบุรีนั่นเอง

    ...ปาฏิหาริย์ของหลวงปู่
    ร่างไม่เปียกฝน
    ขณะที่หลวงปู่ปักกลดเจริญภาวนาอยู่ที่ป่าบ้านหนองปลาดุกครั้งนั้นมีหลวงตาทองคำและหลวงพ่อหงษ์ ร่วมธุดงค์ไปด้วย เกิดพายุฝนตกหนักน้ำป่าไหลบ่ามาทางท่านและพระภิกษุทั้งสอง หลวงตาทองคำและหลวงพ่อหงส์ได้หนีน้ำป่าละจากกลดที่ท่านพักอยู่เดินมายังกลดหลวงปู่คำมี ท่านทั้งสองได้พบกับความแปลกใจ น้ำป่ามิได้ไหลเข้ามาบ่าท่วมทำลายกลดของหลวงปู่คำมีแต่อย่างใดไม่ อีกทั้งจีวรของหลวงปู่คำมีก็มิได้เปียกฝนอย่างเช่นพระภิกษุทั้งสอง
    ...ย่นระยะทาง
    คราวที่ท่านพำนักจำพรรษาอยู่ที่วัดถ้ำคูหาสวรรค์ใหม่ วัดดงจำปา ได้มานิมนต์ท่านไปฉันท์เพลที่บ้าน หลวงปู่สั่งให้ผู้นิมนต์เดินทางล่วงหน้าไปก่อน เมื่อผู้นิมนต์กลับไปถึงบ้านถึงกับตกตลึงเมื่อเห็นหลวงปู่กำลังตักน้ำล้างเท้า สร้างความสงสัยให้แก่พวกเขายิ่งนัก ว่าท่านมาได้อย่างไรแซงพวกเขาขึ้นมาตอนไหน เพราะทางแถวนั้นเป็นป่าทั้งหมดมีทางเดินเพียงทางเดียว
    เสกปูนให้จืด
    ทุกครั้งที่ก่อนจะเข้าพิธีหลวงปู่จะขอปูนแดงที่กินกับหมาก ก้อนขนาดเท่าหัวแม่มือมาทำการเสกให้จืดเสียก่อนเพื่อเป็นเคล็ดในด้านแคล้วคลาดปลอดภัย เคยมีผู้ทดลองชิมปูนแดงที่หลวงปู่เสกแล้วปรากฏว่าจืดสนิท
    ...หายตัวได้
    พระอาจารย์หวาน หลวงพี่จันทร์ พระทั้งสองซึ่งจำพรรษาอยู่กับหลวงปู่คำมี ที่วัดถ้ำคูหาสวรรค์เล่าให้ฟังว่า ได้มีญาติโยมหลวงปู่และพระในวัดไปฉันท์เพลที่บ้านดงน้อย ทางไปบ้านดงน้อยนั้นต้องอาศัยเพียงการเดินเท้าไปเพราะทางเดินเป็นป่าและทุ่งนา ขากลับจากฉันท์เพลผ่านสระน้ำ อากาศวันนั้นร้อนมาก หลวงปู่ได้บอกกับพระทั้งสองว่า ท่านขอสรงน้ำสักครู่ขอให้ท่านทั้งสองรออยู่ก่อน ในขณะที่ท่านสรงน้ำนั้นปรากฏว่าพระทั้งสองรูปไม่สามารถมองเห็นหลวงปู่ จึงเที่ยวตามหาในบริเวณนั้น เป็นเวลานานแต่ก็ไม่พบ พระทั้งสองรูปจึงปรึกษากันว่าหลวงปู่คงไปจากที่นั้นเสียแล้วจึงได้ชวนกันกลับวัด เมื่อพระทั้งสองรูปมาถึงที่วัดก็ถึงกับตกตลึงเมื่อพบหลวงปู่นั่งอยู่ก่อนแล้ว หลวงปู่บอกพระทั้งสองรูปว่าเห็นพระทั้งสองตามหาท่าน ทั้งที่ท่านก็ไม่ได้ไปไหน
    พระอาจารย์หวาน เป็นศิษย์สืบทอดวิชาท่านหนึ่งของหลวงปู่ ปัจจุบันมรณภาพแล้ว ส่วนหลวงพี่จันทร์ได้กลับไปจำพรรษาที่บ้านเกิดของท่านคือ วัดศรีพิมล ต.บ้านโต้น อ.พระยืน จ.ขอนแก่น
    ขโมยของไม่ได้
    จ่าสำราญ (ขอสงวนนามสกุล) ท่านเป็นทหารปืนใหญ่อยู่ในจังหวัดลพบุรี เล่าให้ฟังตอนไปทำบุญที่วัดถ้ำคูหาสวรรค์ เพื่อสมทบทุนสร้างพระอุโบสถ จ่าสำราญแกได้รับแจกเหรียญหลวงปู่คำมีมาเหรียญหนึ่ง เมื่อกลับถึงบ้านได้วางเหรียญของหลวงปู่ไว้บนหลังโทรทัศน์และลืมสนิทเนื่องจากแกไม่ได้ให้ความสนใจเรื่องเครื่องรางของขลังใดๆ เวลาต่อมาหลายวันหลังจากนั้น ได้มีขโมยได้งัดบ้านแกเข้าไปขโมยของภายในบ้าน ขโมยคนนั้นได้เข้าไปพยายามยกโทรทัศน์แต่ยกไม่ขึ้น โดยช่วยกันยกทั้งสองคนแต่ก็ยกไม่ขึ้น จ่าสำราญแกรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเห็นขโมยทั้งสองกำลังพยายามยกโทรทัศน์กันเป็นสามารถแต่ยกไม่ขึ้น ทั้งที่ความจริงโทรทัศน์เครื่องนั้นไม่ได้หนักมากแต่อย่างใด ลำพังคนเดียวก็สามารถยกขึ้นได้ และเมื่อขโมยเห็นเจ้าของบ้านตื่นขึ้นมาจึงชักปืนยิงจ่าสำราญ โดยยิงเท่าไรก็ไม่ออก เสียงดัง แชะ แชะ อยู่อย่างนั้น จ่าสำราญได้สติจึงชาร์จเข้าไปหวังจะจัดการเจ้าขโมยสองคนนั้น ขโมยทั้งสองคนเห็นว่าจ่าสำราญยิงไม่ออกจึงขวัญหนีโกยแน่บโดยไม่ได้อะไรไปแม้แต่ชิ้นเดียว ถ้าถามว่าจ่าแกมีอะไรดีปืนถึงยิงไม่ออก ก็ขอบอกว่าทั้งเนื้อทั้งตัวแกนอกจากเสื้อผ้าแล้วไม่มีอะไรเลย นอกจากเหรียญหลวงปู่คำมีที่วางอยู่บนหลังโทรทัศน์ที่เจ้าขโมยสองคนนั้นพยายามยกอยู่เท่านั้น

     

แชร์หน้านี้

Loading...