พระประสบการณ์จริงๆ ปี 56-57 มาแชร์กันครับ

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย tee_tores, 8 กุมภาพันธ์ 2013.

  1. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,809
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    งามครับ :cool::cool::cool::cool::cool:

    ด้านขวามือคล้ายกับฝังพระธาตุหรือเปล่าครับ
     
  2. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,982
    ค่าพลัง:
    +53,093

    คงต้องรอท่านที่รู้จริงๆละครับ ถ้าแท้นี่ น่าแขวนเช่นกัน หลวงปู่แก้ว
    :cool::cool:
     
  3. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,982
    ค่าพลัง:
    +53,093

    [​IMG]
     
  4. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,982
    ค่าพลัง:
    +53,093
    วันนี้ผมมีตัวอย่างพระขุนแผนหลวงพ่อแดงมาให้ชมครับ ขอบคุณท่าน jcainfo เจ้าของพระด้วยครับ พระผงญาณวิลาศสร้างขึ้นโดยวัดเขาบันได อิฐ ในปี 2513 หลวงพ่อแดงปลุกเสกเดี่ยวเป็นเวลา 1 ปีเต็ม แล้วจึงนำออกแจกในปี 2514 (ที่กล่องจะเขียนว่าปี 2514) และมีการนำพระบางส่วนมาฝากไว้ภายในอุโบสถวัดบวรฯ อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เมื่อทางวัดมีการปลุกเสกวัตถุมงคลต่าง ๆ ก็จะโยงสายสินจน์มายังตู้เก็บพระเพื่อเข้าพิธีปลุกเสกด้วยทุกครั้ง ล่าสุดได้เปิดตู้นำพระออกมามอบให้ทางวัดเขาบันไดอิฐเพื่อหารายได้สร้าง พระองค์ใหญ่บนเขา โดยสามารถแบ่งได้เป็น 3 ลักษณะ คือ

    1. พิมพ์พระสมเด็จ แบ่งออกเป็น พิมพ์ตื้นซึ่งสร้างขึ้นก่อน หายาก, พิมพ์ลึกเป็นพิมพ์ที่พบเห็นกันทั่วไปในวงการ และพิมพ์คะแนน
    2. พิมพ์สามเหลี่ยมหรือพิมพ์นางพญา
    3. พิมพ์พระปิดตา

    โดยทั้ง 3 แบบมีเนื้อ 5 สีคือ ขาว (อมเหลือง) เหลือง แดง เทา และดำ และนอกจากเนื้อผงแล้วก็มีเนื้อชินอีกด้วย

    นอกจากนั้นยังมีพระพิมพ์อื่น ๆ เช่น พิมพ์พระขุนแผน พิมพ์พระพุทธและพระอัครสาวก เป็นพระที่สร้างขึ้นเพื่อแจกจ่ายแก่คณะจัดสร้าง ในวงการพระเครื่องทั่วไปไม่รู้จัก และมักตีเป็นนอกพิมพ์ แต่ความเป็นจริงแล้วเป็นของที่จัดสร้างในครั้งเดียวกัน เพียงแต่แจกจ่ายกันเฉพาะวงในเท่านั้น.....

    สำหรับมวลสาร ผมขอนำมาลงคร่าวๆ ดังนี้ครับ

    1. ชิ้นส่วนพระสมเด็จวัดระฆังและบางขุนพรหมที่ชำรุด
    2. ปูนจากส่วนที่เป็นอุณาโลมของหลวงพ่อโต วัดอินทรวิหาร
    3. ผงพระวัดเงินคลองเตย
    4. ผงพระวัดสามปลื้ม
    5. ผงพระหลวงปู่พริ้ง วัดบางปะกอก
    6. ผงพระหลวงปู่มวด วัดช้างให้ ปี 2497
    7. ผงดินที่ประสูติ ตรัสรู้ แสดงปฐมเทศนาและที่ปรินิพพาน
    8. ทองคำเปลวที่ติดเสาหลักเมืองจังหวัดต่างๆ หลายจังหวัด
    9. ดินใจกลางเมือง "ชัย" 9 แห่งคือ ชัยภูมิ ชัยนาท พิชัย ชัยบาดาล เด่นชัย ไชยา มหาชัย นครไชยศรีและหริภุญไชย
    10. เหล็กยอดปราสาท ยอดเจดีย์ เหล็กบ่อน้ำพี้ เหล็กตรึงปั้นลม ฯลฯ
    11. ดินโป่ง 7 โป่ง ดินท่า 7 ท่า
    12. น้ำพระพุทธมนตร์และเทียนชัย พุทธาภิเษกจาก 109 วัด
    13. ว่าน 108
    14. ชนวนพระกริ่งต่างๆ
    15. ผงอิทธิเจ ผงปถมัง ผงมหาราช ผงพุทธคุณและผงตรีนิสิงเห ของหลวงพ่อแดงและพระเกจิหลายรูป
    16. ชานหมากของหลวงพ่อแดง
    ฯลฯ

    ทางคณะผู้จัดสร้างพระชุดนี้ได้นำมวลสารไปเข้าพิธีปลุกเสกตามวัดต่าง ๆ มากกว่า 300 แห่งตั้งแต่ปี 2511 นอกจากนี้ยังนำไปให้ท่านเจ้าคุณนรฯ และหลวงปู่แหวนอฐิษฐานจิตอีกด้วย



    [​IMG] [​IMG]
     
  5. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,809
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    มวลสารเยี่ยม เ้รียกว่าพระร้อยพิธีก็ได้ครับ :cool::cool::cool::cool::cool:

    [​IMG]
     
  6. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,982
    ค่าพลัง:
    +53,093

    ใช่ครับพี่วรรณ
    :cool::cool::cool::cool::cool::cool:
     
  7. Norr

    Norr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +127,435
    [​IMG]
     
  8. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,982
    ค่าพลัง:
    +53,093
    [​IMG] [​IMG]

    หลวงพ่อถิรแห่งวัดป่าเลไลย์ สุพรรณบุรี ท่านเป็นชาวเมืองขุนแผนโดยกำเนิด

    หลวงพ่อถิรมีชื่อเสียงมากในยุคสมัยก่อน เวลามีงานพุทธาภิเษกในเมืองสุพรรณบุรีหรือแถบจังหวัดใกล้เคียงคราใด

    ท่านจะต้องได้รับนิมนต์ไปร่วมทุกครั้ง พระขุนแผนไข่ผ่าซีกเป็นหนึ่งในพระเครื่องจำนวนมากมายหลายพิมพ์

    ที่ท่านจัดสร้างขึ้น โดยส่วนมากพระเครื่องที่ท่านจัดสร้างด้วยเนื้อดินด้านหลังมักมีตรามงกุฎ

    อันเป็นเครื่องหมายของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวประทับอยู่ ซึ่งเป็นตราเดียวกับที่ประดิษฐาน

    อยู่ที่หน้าบรรณวิหารหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลย์ สำหรับพระขุนแผนไข่ผ่าซีกรุ่นแรกที่ท่านจัดสร้างขึ้นในราวปี

    พ.ศ. 2500 นั้นได้ถอดแบบมาจากพระขุนแผนกรุเก่าของวัดพระรูป พระชุดนี้มีประสบการณ์ด้านแคล้ว

    คลาดคงกระพัน ไม่แพ้พระกรุเลยทีเดียว โดยเฉพาะด้านเมตตามหานิยม
     
  9. apichet40

    apichet40 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    815
    ค่าพลัง:
    +5,758
    ด้านหลังมวลสารอลังการมากๆๆเลยครับ :cool::cool:
     
  10. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,982
    ค่าพลัง:
    +53,093
    หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ จ.ระยอง

    หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ศิษย์เอกของ "หลวงปู่ทิม อิสริโก" อดีตเกจิอาจารย์ ชื่อดังแห่งวัดระหารไร่ จ.ระยอง ต้นตำรับ "ขุนแผนผงพรายกุมาร" อันลือลั่นสนั่นวงการ พระเครื่อง ได้เมตตาให้สัมภาษณ์พิเศษ ทีมข่าวพระเครื่อง "คม ชัด ลึก" เกี่ยวกับการ สืบทอด วิชาคาถาอาคมต่างๆ จากหลวงปู่ทิม ตลอดจนการสร้างศาสนวัตถุ โดยเฉพาะ "พิพิธภัณฑ์ยันต์" แห่งแรก และแห่งเดียว ในเมืองไทย เชิญติดตามอ่าน กันได้โดยพลัน



    ไม่ทราบว่า หลวงพ่อไปร่ำเรียนวิชากับ "หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่" ได้อย่างไรครับ?


    อาตมาเป็นคนที่นี่ (บ้านหนองกรับ อ.บ้านค่าย อยู่ห่างจากวัดระหารไร่ประมาณ 10 กิโลเมตร) ไปหาท่านครั้งแรก ตอนนั้นอาตมาอายุประมาณ 15 ปี เรียนอยู่ชั้นมัธยม ก็เข้าไปอยู่ที่วัดระหารไร่ ไปกินนอนที่วัดเลย ไปรับใช้หลวงปู่ทิม โดยได้ขออนุญาตจากทางบ้านแล้ว ตอนนั้น หลวงพ่อรู้ได้อย่างไรว่าหลวงปู่ทิมมีวิชาคาถาอาคมแก่กล้า
    เพราะหลวงปู่ทิมก็เพิ่งมีชื่อเสียงในช่วงที่ชราภาพมากแล้ว ซึ่งตอนที่ หลวงพ่อได้เจอท่าน ตอนนั้น หลวงปู่ทิมก็ยังไม่แก่เท่าไหร่ ใช่มั้ยครับ
    อาตมาก็ดูจากที่ท่านปฏิบัติ อาตมาดู และเห็น เรื่องอย่างนี้ มันขึ้นอยู่กับสัญชาตญาณ ของแต่ละคน เมื่อตอนที่หลวงพ่อได้พบกับ "หลวงปู่ทิม" ครั้งแรก ตอนนั้นหลวงพ่อ รู้สึกอย่างไรบ้างครับ?
    ท่านปฏิบัติดี อาตมาเห็นแล้วก็เกิดความเลื่อมใสศรัทธา มีความรู้สึกว่าหลวงปู่ทิม ไม่ใช่พระธรรมดา จึงได้ฝากเนื้อฝากตัวเป็นศิษย์ท่าน โดยโยมพ่อกับโยมแม่ได้ ถวายอาตมาให้เป็น "บุตรบุญธรรม" ของหลวงปู่ทิม จากนั้น จะขออะไร จะเรียนอะไร ก็จะได้ทั้งหมด เพราะปกติท่านจะไม่ค่อยถ่ายทอดวิชาให้กับใคร



    ทำไม "หลวงปู่ทิม" จึงไม่ค่อยยอมถ่ายทอดวิชาให้ใครง่ายๆ ล่ะครับ
    ท่านกลัวว่าเมื่อถ่ายทอดวิชาให้คนที่เรียนไปแล้ว กลัวไม่เอาไปใช้จริง



    สมัยนั้น คงจะมีผู้คนมาขอเรียนวิชากับหลวงปู่ทิมเยอะสิครับ
    ก็เยอะ แต่หลวงปู่ท่านจะดูลักษณะคนด้วยว่า ใครจริงจังจะศึกษา
    คาถาอาคมก่อนเป็นอันดับแรก เพราะถ้าเรียนไปแล้วไม่เอาจริงไม่มีความสนใจ และไม่เอาไปใช้ มันทำให้เสียเวลาในการแนะนำหรือสอน ท่านก็จะหมดกำลังใจ คือ การที่ท่านจะท่องจำนั้นไม่ไหวแล้ว
    หรือบางครั้งเรียนไปแล้วไม่เอาไปใช้ ก็ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงกับอาจารย์ผู้สอนไปด้วย ดังนั้น ท่านจะดูคน ถ้าคนไหนจะเอาจริงๆ ก็ต้องมีความเพียรจริงๆ



    นานมั้ยครับหลวงพ่อ กว่าที่หลวงปู่ทิมจะยอมถ่ายทอดวิชาให้หลวงพ่อ?
    ไม่นาน เพราะว่า ท่านดูจากลักษณะว่า มีแววเอาจริง



    มีแววอย่างไรครับ?
    ท่านคงเห็นว่าอาตมาเอาจริง และมุ่งมั่น โดยให้อาตมาไปเขียนผ้ายันต์มา 1 บททุกวัน และก็บอกว่าให้ไปท่องจำ โดยจะต้องจำให้ได้
    พอท่องจำได้แล้วก็มาท่องให้ท่านฟัง



    จากนั้น ทำอย่างไรต่อครับ?
    เมื่อเขียนบทที่ 1 เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เริ่มเขียนบทที่ 2 พอเขียนเสร็จแล้วก็มาทบทวนท่องให้ท่านฟังอีก ท่องจนกว่าจะจำได้ ท่านก็จะให้ท่องจำทุกบท ทำอยู่อย่างนี้ประมาณ 4-5 ปี



    หลวงพ่อทำแบบนี้อยู่กี่ปีครับ
    จำไม่ค่อยได้ แต่รู้ว่านานหลายปีเลยทีเดียว ซึ่งตรงนี้ทำให้อาตมาจำคาถาได้เยอะ และทำให้อาตมาจำได้ดี แต่คาถามีอยู่เยอะมาก ก็จำได้ไม่ได้ทั้งหมดหรอก มันมากมายกว่าที่เราจะจำได้ จึงได้มีการซิกแซก อาจารย์เลยท้าพูดกันง่ายๆ เลย



    ทำอย่างไรครับหลวงพ่อ
    พออาจารย์เผลอเราก็แอบเอาตำราเข้าห้องเลย เพราะเรารู้ว่า
    ตำราเล่มไหนเราเขียนไปแล้ว เราก็จะไม่ เขียนซ้ำ จะเอาหยิบไปวางไว้เอง ท่านไม่รู้หรอก เราก็เขียน เล่มต่อไปอีก พออาจารย์เผลอ
    เราก็เอาไปไว้ที่เดิม แล้วเอาเล่มใหม่ มาเขียนต่ออีก แต่สิ่งที่เราเรียน และท่องจำ มาทั้งหมดนั้น เราเข้าใจทุกอย่างแล้ว พออาจารย์รู้ ท่านก็ถามว่าเอาตำราไปใช่ไหม เนื่องจากแกสังเกตจากกองที่ตั้งหนังสือ มันไม่เรียงกัน เราก็ยอมรับว่าใช่ แต่ก็ได้บอกท่านว่า ตำราที่เรียนกับอาจารย์ ด้วยวิธีการท่องจำอย่างเดียวคงไม่ไหว เพราะมีมากมายเหลือเกิน จึงต้องลอก จากอาจารย์เก็บไว้ ท่านก็ไม่โกรธ เพราะว่าท่านเข้าใจว่าเราเอาไปก็ต้องได้ใช้ ในที่สุด ท่านก็บอกว่า ท่านก็เรียนมาแบบนี้เหมือนกัน (หัวเราะ) ถ้าอย่างนั้น เราก็ตีจบไปเลยว่า เราไม่ผิด (หัวเราะ)



    แล้วหลวงปู่ทิม ท่านไปเล่าเรียนวิชามาจากที่ไหนครับ?
    หลวงปู่สิม วัดบ้านซ่อง อำเภอวันทอง จังหวัดชลบุรี
    ที่เป็นศิษย์สายเดียวกับหลวงปู่ทิมก็มี หลวงพ่อโด่ วัดนามะตูม
    และหลวงปู่ม่น วัดเนินตาหมาก



    หลวงปู่ทิมเคยพูดถึงเรื่องอภินิหาร และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ให้หลวงพ่อฟัง บ้างมั้ยครับ
    อันนี้ ท่านไม่เคยพูดให้ฟังเลย



    แล้วหลวงพ่อไม่ถามหลวงปู่ทิมบ้างเลยหรือครับ ว่าวิชาคาถาอาคมต่างๆ ที่เรียนมานี้ มีความศักดิ์สิทธิ์ หรือไม่ อย่างไร?
    อาตมาก็ถามเหมือนกัน แต่ท่านไม่บอก ท่านบอกว่าก็ทำไปแล้วจะรู้เอง ขอให้ฝึกจิตใจของตัวเองไปให้สงบ เดี๋ยวก็รู้เอง คนอื่นจะรู้ด้วยไม่ได้ นอกจากตัวเอง



    แล้วหลวงพ่อเคยเห็น "อภินิหาร" ของหลวงปู่ทิมบ้างไหมครับ?
    ไม่เคยมีนะ เห็นท่านเป็นพระธรรมดาๆ รูปหนึ่งเท่านั้น และท่านก็เป็นพระเงียบๆ แต่ก็พอคุยได้เหมือนกัน จริงๆ จะว่าไม่มีในเรื่องอภินิหารเลยก็ไม่ใช่นะ ก็มีเหมือนกัน



    มีอภินิหารอย่างไรครับหลวงพ่อ?
    ตอนนั้นเป็นเวลากลางวัน ประมาณบ่ายโมง แกเอาผ้าพาดบ่าไปสรงน้ำ สมัยก่อนวัดระหารไร่จะมีบึง และเป็นป่าเยอะ ไม่เหมือนปัจจุบัน
    แกก็ไปนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ เราก็จะเข้าไปคุยด้วย เพราะเห็นว่าท่านนั่งตากลมอยู่คนเดียว จากนั้นก็ได้นั่งคุยกันไปคุยกันมาตามอัธยาศัย
    คุยกันเป็นชั่วโมงเหมือนกัน แล้วแกก็หยุดคุย จากนั้น แกก็เอามือแหย่ลงไปในน้ำแล้วก็ดีด 2-3 ครั้ง ครู่เดียวปลาก็วิ่งมาเป็นฝูงเลย

    ปลาวิ่งมาหาหลวงปู่ทิมเป็นฝูงเลยเหรอครับ

    ปลาหลายชนิดได้ว่ายมาหาแกนั่นแหละ อาตมาไม่ว่าอะไร ก็นั่งดูเฉยๆ ท่านก็ดีดอีก ปลาก็วิ่งเข้ามาอีกเป็นจำนวนมาก ด้านหน้าที่มีแต่ปลาทั้งนั้น ท่านก็ไม่ว่าอะไรเฉยอย่างเดียว เสร็จแล้วสักพักก็ขึ้นไปบนศาลา อาตมาก็ไม่ได้ถามอะไรท่านในตอนนั้น หลังจากนั้นประมาณ 2-3 อาทิตย์ อาตมาจึงได้เข้าไปนั่งพูดคุย กับท่านด้านนอกกุฏิ ระหว่างคุยไปคุยมา พอได้จังหวะดี เห็นแกอารมณ์ดี ยิ้มแย้มแจ่มใส จึงได้ถามท่านว่า "หลวงพ่อวันที่ฉันได้นั่งคุยกับหลวงพ่อ อยู่ริมบึงวันนั้น เพราะเหตุใดปลาถึงวิ่งมาหาได้?" ท่านก็บอกว่า "มันมาดูเรามั้ง" ท่านก็ว่าอย่างนั้น (หัวเราะ) อาตมาก็ถามท่านต่อว่า
    ผมก็เดินมาหลายครั้ง แต่ไม่เห็นปลามันวิ่งมาดูเลย ผมว่าหลวงพ่อต้องมีอะไรสักอย่าง เมื่อคุยไปคุยมาท่าน ก็ว่าไม่มีอะไรหรอก แต่เราก็ตื้ออยู่นาน เมื่อถามไปถามมา ก็บอกว่ามี

    มีอะไรครับ

    ก็มีคาถา เป็นคาถาเรียกงูเรียกปลา จากนั้นก็คุยเรื่องอื่นต่อไป เพราะรู้แล้วว่ามีแน่ จากนั้น พออาตมาบวชมาได้ 2-3 พรรษา ก็ได้ขอวิชานี้กับท่าน ขอนับสิบครั้งเห็นจะได้ แต่ก็ไม่ให้
    ทำไมหลวงปู่ทิมจึงไม่ยอมถ่ายทอดวิชานี้ให้หลวงพ่อล่ะครับ?
    เพราะว่าคงหวงวิชา แต่ที่ขอแล้วก็เฉย ถ้าแกตอบว่า อย่าเอาเลย
    เราก็คงไม่ตอแยแน่ จนในที่สุด เมื่อแกใกล้จะมรณภาพ แกถึงบอกว่า วิชานี้อย่าเอาเลย ขอให้ติดตัวแกไป เพราะอะไรครับหลวงพ่อ
    ถ้าคนเอาไปใช้ไม่มีสัจจะ ก็จะอันตรายมาก เพราะวิชานี้ไม่ได้ใช้เรียกปลาเท่านั้น สัตว์ทุกชนิด ถ้าตั้งใจจะเอา ก็จะได้ทุกอย่าง แม้แต่คนก็สามารถเรียกมาได้ ถือเป็นคาถาที่อันตราย เพราะถ้านำใช้ไปในทางไม่ดี ก็อันตรายมาก สาเหตุนี้ ท่านจึงไม่ยอมให้ใครเลย แกบอกว่าอย่าเอาเลย แต่อย่างอื่นแกให้ทุกอย่าง จริงๆ เราเสียดายก็เสียดาย แต่แกบอกอย่าเอาเลย พอตกกลางคืนก็เอาอีกนะ ถามแกว่า ไอ้วิชาที่ว่านี้มันเป็นอย่างไร ผมอยากรู้วิชาที่ดีมันว่าอย่างไร ถึงผมได้ ผมก็ไม่เอาไปใช้หรอก และจะไม่ให้ใครด้วย แกก็บอกว่า คนเราเอาแน่นอนที่ไหนได้ อนิจจังของคนไม่แน่นอน ในยามถูกใจก็ดี ในยามไม่ถูกใจก็ดี
    แสดงว่าหลวงปู่ทิมกลัวจะมีคนนำคาถานี้ไปใช้ในทางไม่ชอบ?
    ใช่ อาจมีการนำไปใช้อย่างไม่ถูกไม่ต้อง ความมุ่งหมายของแกรู้
    ฉันก็แทงใจแกถูก (หัวเราะ) ถ้าให้ฉันแล้วเรื่องของเรื่อง คือ แกกลัวฉันจะสึก และมันมีเขียนไว้ในสมุดข่อย แกก็ทำลายทิ้งไป แต่เราเห็น ก็หยิบเอามาต่อกัน ผิดบ้าง ถูกบ้างแต่ก็อ่านไม่รู้เรื่อง แต่ฉันสันนิษฐานว่า คาถานี้ ไม่น่าจะเกิน 5 คำ
    แล้วพระ "ขุนแผนผงพรายกุมาร" ล่ะครับ หลวงปู่ทิมท่านทำอย่างไรครับ?
    ขุนแผนนี้ท่านได้มาสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2517 ช่วงก่อนที่แกจะมรณภาพไม่กี่ปี ที่ทำก็เพราะมีไวยาวัจกรของวัด แกก็คิดว่าจะทำขุนแผน จึงไปปรึกษากับหลวงปู่จะทำอย่างไรดี แกก็ไม่บอก กลุ่มพวกนี้ก็หัวใสอยู่แล้ว ก็ไปเอาแบบที่จะสร้างขุนแผนมาให้ท่านดูว่าควรสร้างแบบไหนดี แบบนี้ได้ไหม แบบนั้นได้ไหม ในที่สุดก็จึงได้สร้างขุนแผนขึ้นมา เพื่อจะได้นำเงินมาก่อสร้างบำรุงวัด เนื่องจาก
    เมื่อก่อนบริเวณวัดแห่งนี้เป็นป่าทั้งนั้น
    หลวงปู่ทิมเป็นคนบอกให้ใช้ "ผงพรายกุมาร" มาทำใช่มั้ยครับ
    ไม่ใช่ แต่มาจากลูกศิษย์ อันนี้ ก็ได้ปรึกษาหารือกันแล้ว ว่าจะทำอย่างนี้ อย่างนี้นะ แล้วก็นำไปปรึกษาหารือกับหลวงปู่ทิม ว่าจะทำได้ไหม แกก็บอกว่าได้ ถ้ามีความสามารถทำมาได้ แกก็ทำให้ได้ พวกลูกศิษย์ก็จึงไปจัดหากันมา เพราะคนตายสมัยนั้นเขาจะเอาฝังดิน ไม่เหมือนสมัยนี้ที่ไม่มีการฝังแล้ว โยมปูน สัปเหร่อของวัดในสมัยนั้นก็เป็นคนไปเอาผงพรายกุมารมา ก็จะเป็น "ลิ้น" กับ "เส้นผม" ของเด็กที่อยู่ในท้องแม่ที่ตายท้องกลม
    แต่ไม่ได้เอาหัวกะโหลกอะไร
    ลูกศิษย์เป็นคนจัดการเองทั้งหมดเลยใช่ไหมครับ?
    ลูกศิษย์จัดการเอง โดยท่านไม่ได้บอก พวกนั้นได้ไปขุดหากันมา
    อย่างเส้นผมก็จะเอามาซอย ส่วนลิ้นก็จะเอาไปย่างแล้ว เอามาบด ให้ละเอียด แล้วก็เอามาให้ท่าน ซึ่งทางท่านก็มีส่วนผสมอยู่แล้ว
    เมื่อเอามาผสมกันแล้ว ก็ทำการปลุกเสก ที่จริง พลังจิตของท่านที่มีเจตนาเป็นกุศลแรง เป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องใส่ผงพรายกุมาร แต่ถ้ามีการใส่ผงพรายกุมารนี้ลงไป เขาบอกว่าถ้าทำอะไรผิดแหวกแนว คนใหม่ๆ มันชอบ มันก็เชื่อ เป็นอุปทานไป ตอนนั้น หลวงปู่ทิมปลุกเสกขุนแผนผงพรายกุมาร นานแค่ไหนครับ?
    ท่านปลุกเสกคนเดียว ประมาณ 1 อาทิตย์เศษๆ แล้วเขาก็เอาออกมาใช้กัน
    วิชาการสร้างขุนแผนผงพรายกุมารของหลวงปู่ทิม ก็ตกทอดมาถึงหลวงพ่อด้วยใช่มั้ยครับ?
    อาตมาก็ได้เรียนกับท่านมา และได้มาแบบท่านไม่ได้หวงเลย
    อาตมาไม่ได้อย่างเดียว คือ คาถาที่เรียกปลาเท่านั้นแหละ อย่างผงพรายกุมาร อาตมาก็ได้จากท่านมาบางส่วน ก็ขอท่านไว้หลังจากที่ท่านทำพิธีปลุกเสก เพราะตอนนั้น อาตมาก็ช่วยเขาทำอยู่ด้วย แต่ก็ได้มานิดเดียว ค่อนๆ ตลับยาหม่องเล็กๆ พออาตมาสร้างพระขุนแผน ก็เอาผงพรายกุมารที่ได้มาใส่เป็นเชื้อ แล้วก็จะหาผงอย่างอื่นเอามาผสมกัน
    วิชาเหล่านี้ นอกจากจะมีดีตามความเชื่อของแต่ละคนแล้ว
    จะมีผลที่ไม่ดีอะไรบ้างมั้ยครับ?
    อะไรที่เกี่ยวกับผี มันไม่ดีหรอก บอกได้เลยว่าไม่ดี ถ้าสมมติว่าเราทำให้ใครใช้ หากเราบังคับมันไม่อยู่ ไอ้คนใช้ก็จะอันตราย เป็นอย่างนั้น เพราะฉะนั้น ฉันเรียนมาก็จริง แต่ตัวฉันไม่เอานะ เข้ากับผี ไม่ว่าจะเป็นกระดูกหรืออะไร หลวงพ่อก็ทำได้ แต่ไม่ทำ ทำได้ เนื่องจากวิชาเหล่านี้เรียนมาทั้งนั้น แต่ไม่ทำ อะไรที่เกี่ยวกับผีเป็นไม่เอา จะเป็นสีผึ้ง หรืออะไรก็แล้วแต่ ไม่เอา มันจะเป็นอันตรายที่เกิดขึ้นได้ เพราะถ้าทำไม่ดี คนๆ นั้นอาจถึงขั้นวิปริต เสียสติไปเลย ส่วนพระขุนแผน พวกผงพรายกุมารนั้น ต้องเรียกว่าคนทำ คือ หลวงปู่ทิมท่านเก่ง ท่านบังคับอยู่เลย ท่านเสกบังคับไว้เสร็จเลย ฉะนั้น คนที่จะทำต่อไป ถ้าไม่แน่จริงอย่าไปทำ มันเป็นอันตรายถือว่าเล่นกับผีนะ เดี๋ยวเสกบังคับไม่ได้ ก็ยุ่งเลย
    แล้วคาถาที่หลวงปู่ทิมเสกบังคับเอาไว้ ไม่มีเสื่อมบ้างหรือครับ
    มันไม่เสื่อมหรอก เหมือนโบราณเขาว่าไว้ว่า ถ้าทำได้แน่จริง ดีจริงๆ มันไม่เสื่อมหรอก เช่นเดียวกับเพชรที่ตกไปในตม เอาขึ้นมาล้างมันก็คือเพชร ไม่เสื่อมหรอก
    ได้ข่าวว่า ตอนนี้ หลวงพ่อกำลังจะสร้าง "พิพิธภัณฑ์ยันต์" ขึ้นมาที่วัดหนองกรับ ไม่ทราบว่าเป็นอย่างไรครับ?
    ก็จะสร้างเป็นอาคาร 3 ชั้น ชั้นล่างก็จะเป็นกุฏิ ไว้ต้อนรับญาติโยมที่เดินทางมาทำบุญที่วัด ชั้น 2 ก็จะทำเป็นพิพิธภัณฑ์ ส่วนชั้น 3 จะใช้เป็นที่เก็บวัตถุมงคลต่างๆ ที่ได้ปลุกเสกแล้ว พิพิธภัณฑ์นี้จะใช้เวลาสร้างประมาณ 3 ปีได้ อาตมาคาดว่า เดือนพฤษภาคมปีนี้จะเสร็จสมบูรณ์
    พิพิธภัณฑ์ที่ว่านี้ เมื่อเสร็จแล้วจะเป็นแบบไหนครับ?
    จะทำเป็นที่เก็บเฉพาะ "ยันต์" เท่านั้น จะเป็นยันต์ขนาดใหญ่ที่ดูแล้วสวยงาม เป็นยันต์ที่อาตมาเขียนเองทั้งหมด ส่วนใหญก็เป็นยันต์ที่ได้เรียนมาจากหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ ก็มียันต์ หนุมาน ยันต์ชูชก และเป็นยันต์พวกดาวเดือน ฯลฯ ยันต์ต่างๆ ก็จะมีอยู่ในตำรา ลอกจากตำราแล้วเอาไปปั้นติดผนังเลย และคิดว่าถ้าปั้นจะแลดูขลังกว่า จะนูนออกมาสวยกว่า โดยจะมีการเขียนตัวหนังสือออกมาก่อน
    แล้วเอามาแกะตัวหนังสือทำแม่พิมพ์เลย แล้วเทเป็นตัวๆ ไปเลย ก ข ค ง จ ธ ท น ฯลฯ ไอ้เส้นยันต์เราก็เทเป็นร่องๆ ไป ประมาณ 40 ซม. หรือ 30 ซม.
    การเขียนยันต์ หลวงพ่อเรียนจากหลวงปู่ทิมท่านเดียวเลยเหรอครับ
    อาตมาก็ไปเรียนกับอาจารย์เรียง อยู่ที่กรมศิลปากรด้วย ก็ไปเรียนกับท่านตั้งแต่อายุประมาณ 15 ปี สมัยนั้น ท่านอาจารย์เรียงมาทำงานอยู่แถวชลบุรี ท่านก็เริ่มให้ฝึกตั้งแต่การแกะสลักไม้ หลังจากนั้นก็ได้ฝึกเขียนยันต์ ส่วนใหญ่จะให้หัดเขียนเป็นลายไทย พวกลายกนกต่าง ๆ ก็เรียนอยู่กับอาจารย์เรียง ประมาณ 5 ปีเห็นจะได้ ก็เป็นพื้นฐานในการเขียนยันต์ต่างๆ ในเวลาต่อมา
    เครื่องรางของขลังต่างๆ มีประโยชน์อย่างไรบ้างครับหลวงพ่อ
    ให้เป็นพุทธานุสติ ให้มีการระลึกถึงสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ คือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ให้ระลึกนึกถึงคุณงามความดี ไอ้ประโยชน์ของเขามันมองไม่เห็น แต่กรณีฉุกเฉิน มันก็สามารถทำให้เราแคล้วคลาดจากอันตรายต่างๆ ไปได้ หรือบางครั้งจากหนักก็ให้เป็นเบาได้ เรื่องแบบนี้พูดยาก ขึ้นอยู่กับความเชื่อ หรือคนต้องประสบเอง
    ในทางกลับกัน เครื่องรางของขลังต่างๆ มีโทษบ้างมั้ยครับ
    ถ้านำไปใช้ในสิ่งที่ผิด ก็จะเกิดโทษ เช่น คนที่ได้เครื่องรางของขลัง
    ไปแล้วคิดว่าตัวเอง ดีแล้ว เหนียวแล้ว คงกระพันแล้ว ก็เกิดความประมาท บางทีก็ไปหาเรื่องหาราวคนอื่น อย่างนี้ก็เป็นโทษ แต่ถ้าคนเรา เอาเครื่องราง ของขลังเอาไปใช้อย่างไม่ประมาท เอาไว้คุ้มครองตัวเอง เอาไว้เป็นที่ระลึก เป็นพุทธานุสติ คงไม่มีปัญหา
     
  11. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,982
    ค่าพลัง:
    +53,093
    หลายท่านอาจจะสงสัยว่า ทำไม พระขุนแผนหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ถึงไม่ได้บรรจุอยู่ในหนังสือ มหัศจรรย์ พลังพระขุนแผนแห่งสยามประเทศ ?? แต่กลับมีพระขุนแผน (รุ่นทอดผ้าป่าปี 2546 )หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ ศิษย์เอกท่านลงโชว์ในหนังสือแทนซะเอง ผมเองก็แปลกใจมากๆเช่นกัน เลยได้มีโอกาสสอบถาม ท่านผู้เขียน ดร.มายด์ ก็ได้คำตอบว่า พระขุนแผนหลวงปู่ทิม รุ่นที่คิดว่าชัวร์ๆ แต่เบื้องลึกเบื้องหลังแทบจะไม่มีข้อมูลอันใดตรงกับที่ท่านได้ไปค้นคว้าหาๆ เหมือนๆ กันเลย พระขุนแผนแต่ละรุ่นท่านต้องไปศึกษา อย่างละเอียด และรู้ อย่างจริงจึงจะนำมาลงเขียน ท่านผู้เขียนเลยนำพระของศิษย์ท่าน ที่ประวัติการสร้างชัดเจนมาลงแทนนะครับ แต่หลายๆ พิมพ์ หลายๆ องค์ที่เป็นพระขุนแผนของหลวงปู่ทิม ท่านผู้เขียนเองก็ให้การยอมรับและชื่นชอบในพุทธศิลป์และพุทธคุณเช่นกัน
     
  12. PraKhoonPhan

    PraKhoonPhan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2010
    โพสต์:
    881
    ค่าพลัง:
    +6,624
    แสดงว่าพระเนื้อขาวที่เรามีอยู่ก็เป็นของที่หลวงปู่สร้างใช่ไหมครับพี่
    แล้วทำไมพระเนื้อขาวถึงไม่เคยมีคนถ่ายทอดนะขนาดประวัติก็มีชาวบ้านก็ยืนยันได้เสียดายที่พระดีๆกำลังจะสุูญหายไป
     
  13. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,982
    ค่าพลัง:
    +53,093

    อันนี้ผมคงไม่กล้าบอกได้ว่าใช่ ส่วนตัวผมเคยโพสต์ในเฟรช แล้ว ท่านดร.มายด์ เห็นเองในเฟรชบุ๊ค ท่านก็ กด Like แทบจะทุกพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็น พระห้าเหลี่ยม ลูกอม หรือ เศียรโต โดยที่ผมไม่ได้บอกเลยว่าเป็นพระหลวงปู่ทิมอะไร พอหลังๆ มีคนมาถามผมๆ ก็จะตอบในนั้นว่า พระที่เซียนไม่เล่น ไม่คิดว่าใช่ อีกอย่างผมก็ไม่ได้คิดว่า แค่ท่าน ดร.คนเดียวเห็นชอบแล้วจะคิดเอาเองว่าแท้แน่ๆ แต่ที่ผมภูมิใจด้วยตัวเอง เพราะพระที่แขวนๆ ด้วยใจศรัทธามั่น ผมฝันจริงๆ ว่า ลุงสาย แก้วสว่าง มาบอกในฝันว่า พระที่ผมแขวน เป็นของ หลวงปู่ทิม แน่นอน ข้อความนี้เป็นเรื่องจริงที่ผมได้รับและเกิดขึ้นจริง ต้องขอให้ทุกท่านที่อ่านแล้ว ใช้วิจารณญานด้วยตัวเองนะครับ

    [​IMG]
     
  14. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,982
    ค่าพลัง:
    +53,093

    พระเนื้อขาว ถ้าไปอ่านในห้องหลวงปู่ทิม บ่อยๆ จะเห็นว่า แต่ละคนมีประสบการณ์ที่เด่นชัดกันหลายๆ คนนะครับ บางคนอาจจะไม่กล้าเล่าด้วยซ้ำ ที่เคยอ่านแน่ๆ คือ ครูที่อ่างทอง ในเวบพลังจิตนี่่แหละ แขวนพระเนื้อขาว แล้วโดนหมากัดหรือขย้ำ ไม่เป็นอะไรเลย ผมว่าถ้าเราศรัทธาจริงๆ ด้วยใจมั่นแขวนแล้วไม่ต้องลังเล ถึงแม้พระนั้น ใครเห็นจะถามหรือเค้าไม่ยอมรับ หรือโดนคำถามว่า ใช่หรือ มีหลวงหรือ ไม่เคยเห็น

    และคิดกลับกัน ถ้าเป็นพระที่เค้ายอมรับกัน ราคาเป็นหมื่น เป็นแสน ถามว่า เราๆ จะมีปัญญาเช่า หรือหามาแขวนได้หรือแบบนี้หรือครับ
     
  15. coolsunny

    coolsunny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    1,237
    ค่าพลัง:
    +1,474
    พระขุนแผนสายอยุธยาที่มีอยู่ครับ
    หลวงพ่อต่วน อินทปัญโญ วัดกล้วย


    [​IMG]


    "พระครูอินทรวุฒิกร" หรือ "หลวงพ่อต่วน อินทปัญโญ" อดีตเจ้าอาวาสวัดกล้วย ต.กะมัง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง และยังเป็นพระอรหันต์อีกองค์หนึ่งแห่งเมืองกรุงเก่า

    หลวงพ่อต่วน เกิดที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา อุปสมบทที่วัดโสริยาวงศ์ ประเทศเขมร ก่อนเดินทางเข้ามาในประเทศไทย เพื่อธุดงค์ และปฏิบัติธรรม หลวงพ่อท่านมีพระที่เป็นสหายร่วมเดินธุดงค์หลายรูป แต่ส่วนใหญ่กลับสู่ประเทศเขมรหมด คงเหลือสหายธรรมอยู่ในประเทศไทยเพียง 2 รูป คือ หลวงปู่หิน วัดระฆัง ธนบุรี กับ หลวงปู่สร้อย วัดทางหลวง อ.บางซ้าย จ.อยุธยา

    ในปีพ.ศ. 2469 ได้มาอยู่จำพรรษาที่วัดหัวโนน อ.หนองแค จ.สระบุรี เพื่อเรียนวิปัสสนากรรมฐาน วิทยาคมกับหลวงปู่ทา เจ้าอาวาสวัดหัวโนน ซึ่งเป็นชาวจังหวัดอุทัยธานี เป็นเวลา 3 พรรษา หลวงปู่ทาท่านก็เป็นพระอาจารย์ที่มีวิชาอาคมมาก ท่านเป็นพระสหาย(สหธรรมิก) ที่ร่วมเดินธุดงค์กับหลวงปู่กลั่น วัดพระญาติ จ.อยุธยาหลวงพ่อต่วน ท่านได้เรียนวิชาอาคม เวทมนต์คาถาต่างๆ มากมาย ร่างกายของท่านมีรอยสักยันต์และอาบน้ำยาว่านเต็มไปหมด

    ต่อมาหลวงปู่ทาได้ให้หลวงพ่อต่วนมาอยู่จำพรรษาที่วัดกล้วย เพื่อพัฒนาวัดกล้วยให้เจริญ เมื่อเดินทางออกจากวัดหัวโนนแล้วท่านได้ไปพักกับ หลวงปู่หิน พระสหธรรมิก เพื่อเรียนวิชากับหลวงปู่นาค วัดระฆัง เมื่อออกจากวัดระฆังแล้ว ก็มาพำนักอยู่ที่ และได้เริ่มพัฒนาเสนาสนะจนวัดกล้วยมีความเจริญทุกวันนี้ จนเมื่อปีพ.ศ.2514 ท่านก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดกล้วย

    หลวงพ่อต่วนได้ละสังขารเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2529 สิริอายุ 85 ปี หลังจากวันพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่ต่วน แล้ว ก็ทำพิธีสามหาบเก็บอัฐิธาตุ และทำพิธีบรรจุอัฐิลงในรูปเหมือนของท่าน ในการทำพิธีบรรจุอัฐินั้น หลายคนสงสัยว่าทำไมอัฐิของท่านจึงมีสีขาวสะอาดและมีสีสันสวยงาม และที่แปลกอีกอย่างหนึ่งคือ ทำไมบริเวณกระดูกหน้าแข้งของท่านจึงเป็นหินสีน้ำตาล และกระดูกศีรษะเป็นสีเขียว สีฟ้า ขณะนั้นยังไม่มีใครรู้จักเรื่องกระดูกที่แปรเป็นพระธาตุกันมากนัก พระครูประภัศรญาณสุนทร ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสองค์ต่อมา จึงได้เก็บกระดูกส่วนศีรษะไว้ชิ้นหนึ่ง และส่วนหน้าแข้งที่เป็นหินชิ้นหนึ่ง โดยไม่นำไปบรรจุในรูปเหมือนของท่าน ต่อมาเมื่อไปเก็บเศษขี้เถ้า จึงได้พบฟัน และลูกตาสีนิลทั้ง 2 ข้าง ส่วนเศษกระดูกนั้นในระยะแรกก็มีไขมันจับเยิ้มอยู่ แต่พอนานๆไปก็กลายเป็นผลึกหยกสีต่างๆและกลายเป็นพระธาตุเม็ดเล็กๆ กระดูกส่วนอื่นๆ ก็จับตัวเป็นเหมือนปะการังสีขาว

    วัตถุมงคลที่หลวงพ่อต่วนจัดสร้างทุกรุ่นหายากมาก เพราะมีจำนวนสร้างไม่มาก แต่กลับได้รับความนิยมจากประชาชนเป็นอย่างสูง หลายต่อหลายครั้งมีไม่เพียงพอให้ประชาชนได้เช่าบูชา วัตถุมงคลของท่านจึงไม่ค่อยมีให้เห็นหมุนเวียนในวงการนัก ถือว่าเป็นวัตถุมงคลอีกสำนักหนึ่งที่หาได้ยากอย่างยิ่ง แน่นอนว่าค่าเช่าบูชาในพื้นที่ย่อมต้องสูงเป็นธรรมดา พระขุนแผนรุ่นนี้เป็นพระขุนแผนรุ่นแรกของท่าน หลวงพ่อต่วนท่านได้สร้างแจกในช่วงที่ท่านได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดกล้วยแล้ว และดูจากประวัติของท่านแล้ว แน่ใจได้เลยว่า พระขุนแผนที่ทรงอิทธิคุณทางด้านเมตตา มหาเสน่ห์อย่างเอกอุ รุ่นนี้ ต้องมีผงวิเศษของท่านสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ผสมอยู่ด้วยอย่างแน่นอนครับ

     
  16. PraKhoonPhan

    PraKhoonPhan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2010
    โพสต์:
    881
    ค่าพลัง:
    +6,624
    ส่วนผมก็มีไม่รู้ว่าจะเรียกประสบการณ์หรือเปล่า
    ส่วนตัวผมขี้เกียจรอพ่อเลี่ยมพลาสติกให้เลยหากรอบพระที่ใส่ขุนแผนไว้
    ก็ถอดออกแล้วนำพระห้าเหลี่ยมพิมพ์หลวงตารอดที่ได้รับจากพี่เก่งมาห้อยไว้วันนี้แม่ผมก็ให้เงินไปซื้อน้ำยาทำผมกับเอากรรไกรตัดเล็บไปลับในตัวตอนนั้นมี650ซึ่งไม่รู้ว่าจะให้อะไรเยอะขนาดนั้นระหว่างรอกรรไกรผมก็ขี่รถไปหาแฟนและเล่นกับน้องของแฟนซึ่งปกติน้องสาวตัวเล็กเนี่ยมักจะกลัวคนแปลกหน้าแต่มาวันนี้แอบมองผมจากข้างหลังของแฟนและสุดท้ายเจ้าตัวเล็กก็ไม่กลัวผมแถมพูดอะไรก็ทำตามอีกด้วย

    นี่แหละครับประสบการณ์วันนี้ โภคทรัพย์กับเมตตา
     
  17. kengnaja

    kengnaja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,961
    ค่าพลัง:
    +16,850
    ขอนำประสบการณ์ไปแชร์ในกระทู้หน่อยนะครับ:cool::cool::cool:
     
  18. night_club

    night_club เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    710
    ค่าพลัง:
    +1,134

    ผมเป็นคนหนึ่งที่ได้ศึกษาสายหลวงปู่ทิมครับ
    ต้องได้ว่าของบางอย่างหรือสุดยอดของหลวงปู่ทิม อาจจะไม่มีราคา หรือมูลค่าใดๆ เพราะพระที่ท่านเสกเป็นสมบัติของโลกผู้ที่มีบุญวาสนาเท่านั้นที่จะได้ครอบครอง 5555 ยิ่งเล่นยิ่งงง โดยเฉพาะขุนแผน
     
  19. PraKhoonPhan

    PraKhoonPhan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2010
    โพสต์:
    881
    ค่าพลัง:
    +6,624
    ได้ครับพี่เก่ง
    เมื่อคืนก็ฝันเกี่ยวกับพระเนื้อขาวแต่นึกไม่ออก
     
  20. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    18,982
    ค่าพลัง:
    +53,093
    [​IMG] [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...