พระพุทธอังคีรส วัดราชบพิธฯ หนึ่งในสถานที่บรรจุพระบรมราชสรีรางคารในหลวงรัชกาลที่ 9

ในห้อง 'วัดและศาสนสถาน' ตั้งกระทู้โดย ธรรมวิวัฒน์, 21 มีนาคม 2018.

  1. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,272
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,095
    33_20171030102222..jpg

    พระพุทธอังคีรส วัดราชบพิธฯ หนึ่งในสถานที่บรรจุพระบรมราชสรีรางคารในหลวงรัชกาลที่ 9


    พระพุทธอังคีรส พระประธานในพระอุโบสถวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เป็นพระพุทธรูปหล่อปางสมาธิ ขัดสมาธิราบ ทรงผ้ามีกลีบ วัสดุสำริดกะไหล่ทองเนื้อแปด ขนาดหน้าตักกว้าง ๒ ศอกคืบ หรือ ๖๐ นิ้ว น้ำหนัก ๑๘๐ บาท พระฉวีวรรณเป็นทองคำทั้งองค์ ซึ่งเป็นทองคำที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ทรงใช้แต่งพระองค์เมื่อทรงพระเยาว์ ประดิษฐานอยู่บนฐานชุกชีหินอ่อนที่สั่งมาจากประเทศอิตาลี ‘พระพุทธอังคีรส’ เป็นพระนามของพระพุทธเจ้าพระนามหนึ่ง ซึ่งแปลว่า มีพระรัศมีแผ่ซ่านออกจากพระวรกาย

    พระพุทธรูปองค์นี้มีประวัติการสร้างบันทึกไว้ต่างกันเป็น ๒ ความ

    ความที่หนึ่ง สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงเล่าประวัติพระพุทธรูปสำคัญพระองค์นี้ไว้ว่าหล่อเมื่อสถาปนาวัดราชบพิธฯ

    ส่วนอีกความหนึ่ง พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า (หม่อมเจ้าภุชงค์ ชมพูนุท สิริวฑฺฒโน) ทรงนิพนธ์ไว้ว่าหล่อในระหว่างช่วงปลายรัชกาลที่ ๔ ต่อต้นรัชกาลที่ ๕ การหล่อทำเป็นพระราชพิธี เป็นพระพุทธรูปกะไหล่ทองคำทั้งองค์ สิ้นเนื้อทองแปดน้ำหนัก ๑๘๐ บาท เดิมพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้หล่อขึ้น เพื่อจะนำไปประดิษฐานยังพระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม แต่มาสิ้นรัชกาลเสียก่อน ภายหลังพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้นำมา ประดิษฐานในพระอุโบสถแห่งนี้ เมื่อวันที่ ๑๒ กันยายน พุทธศักราช ๒๔๑๕

    ต่อมาโปรดเกล้าฯ ให้หล่อฐานบัลลังก์กะไหล่ทองเนื้อหก หนัก ๔๘ บาท ขึ้นรองรับองค์พระพุทธรูป เบื้องบนเหนือองค์พระพุทธรูปมีเศวตฉัตรกั้น คือ นพปฎลมหาเศวตฉัตร ซึ่งเดิมเป็นเศวตฉัตรกั้นพระโกศพระบรมศพ ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ เมื่อถวายพระเพลิงแล้ว พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้นำมากั้น ‘พระพุทธอังคีรส’ พระประธานในพระอุโบสถ และได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงประกอบพิธีชักเชือกเศวตฉัตรนี้ เมื่อวันที่ ๒๓ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๔๕๗

    ใต้ฐานชุกชีของพระพุทธอังคีรส พระประธานในพระอุโบสถ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ โปรดให้บรรจุพระบรมอัฐิและพระอัฐิในครอบครัวของพระองค์ ประกอบด้วยพระบรมอัฐิของรัชกาลที่ ๒ ถึง รัชกาลที่ ๕ คือ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

    พระอัฐิสมเด็จพระศรีสุลาลัย พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาสุดารัตนราชประยูร พระธิดาในรัชกาลที่ ๓ ผู้เป็นพระอภิบาลในรัชกาลที่ ๕ ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์

    พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ เมื่อเสด็จสวรรคต ณ ประเทศอังกฤษ ได้อัญเชิญพระบรมอัฐิกลับเมืองไทย เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๒ มาบรรจุไว้ที่ใต้ฐานชุกชีของพระพุทธอังคีรสนี้ และในปี พ.ศ. ๒๕๒๘ ก็ได้บรรจุพระบรมอัฐิสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ ไว้เช่นกัน

    อนึ่ง เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา ได้มีพระราชพิธีอัญเชิญผอบพระบรมราชสรีรางคารของพระบาทสมเด็จพระเข้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ไปบรรจุไว้ที่ฐานพุทธบัลลังก์พระพุทธอังคีรส วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามด้วย

    เมื่อเรากราบพระพุทธอังคีรส นอกจากจะได้สักการบูชาพระพุทธเจ้าแล้ว ยังเท่ากับได้ถวายสักการะพระมหากษัตริยาธิราชเจ้า แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ และพระบรมวงศ์ไปในขณะเดียวกัน

    ที่มา dhammajak.net/
     

แชร์หน้านี้

Loading...