พระมหากรุณาธิคุณ ในหลวง

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ครึ่งชีวิต, 20 พฤศจิกายน 2007.

  1. ครึ่งชีวิต

    ครึ่งชีวิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,178
    ค่าพลัง:
    +15,103
    พระมหากรุณาธิคุณ 'ในหลวง'

    [​IMG] <TABLE class=news2006_topic cellSpacing=0 cellPadding=0 width=595 border=0><TBODY><TR><TD rowSpan=3> </TD><TD width=585 height=10><TABLE class=news2006_topic width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left>พระมหากรุณาธิคุณ 'ในหลวง' ทรงรับสั่งช่วย ด.ช.อายุ12 ถวายฎีกาพึ่งพระบารมี

    </TD><TD align=right width=100></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=news2006_graylight height=10>โดย มติชน<SCRIPT language=JavaScript src="/global_js/global_function.js"></SCRIPT> <!--START-->วัน จันทร์ ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 00:00 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=595 border=0><TBODY><TR><TD height=10></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=news2006_black cellSpacing=0 cellPadding=0 width=595 border=0><TBODY><TR><TD width=10 rowSpan=4></TD><TD width=575>ผู้ว่าฯ พิจิตร รับสนอง 'ในหลวง' ช่วยเด็กยากจนวัย 12 ปี ที่ถวายฎีกาขอความช่วยเหลือ ต้องช่วยพ่อทำงานรับจ้างจุนเจือที่บ้าน ครูเผยเป็นเด็กกตัญญู รักครอบครัว

    <CENTER><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ เด็กชายชาตรี นัดดา หรือน้องบุตร อายุ 12 ปีอยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ที่ 5 ตำบลท่าหลวง อำเภอเมืองพิจิตร ได้ทำหนังสือถวายฎีกา ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อขอความช่วยเหลือ เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2550 โดยในหนังสือที่ถวายฏีกานั้นมีเนื้อหาว่า

    'ขอพระราชทานความเมตตา กราบแทบเท้าพระพ่อหลวงของแผ่นดิน กระผมเด็กชายชาตรี นัดดา อาศัยอยู่บ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 5 ตำบลท่าหลวงอำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร ขณะนี้เรียนอยู่ชั้น ป.4 โรงเรียนวัดบึงสีไฟ ม.4 ต.ท่าหลวง มีพี่น้อง 3 คนพี่สาวเรียนอยู่ชั้น ป.6 น้องชายคนเล็กเรียนอยู่ชั้น ป.3

    [​IMG]'ครอบครัวของกระผมมีความเป็นอยู่ที่ยากจนมาก ประกอบกับคุณแม่สติไม่สมประกอบ คุณพ่อมีอาชีพรับจ้างทั่วไป วันใดโรงเรียนหยุดกระผมก็จะไปรับจ้างชาวบ้านเฝ้าเล้าเป็ด ได้คืนละ 40 บาท ถ้าวันใดเขาไม่จ้างกระผมก็จะไปรับจ้างแบกข้าวเปลือกขึ้นรถที่ชาวบ้านเก็บเกี่ยวข้าวเปลือกตั้งแต่เวลา 08.00 น -17.00 น จะได้ค่าแรงงาน 50 บาทเพื่อนำไปจุนเจือครอบครัว ถ้าวันใดไม่มีคนจ้างไปทำงาน เวลากลางคืนก็จะออกไปจับกบ จับเขียด และงู มาเป็นอาหาร บางวันที่ไม่สามารถหาอาหารได้ก็จะไปขออาหารจากหลวงพ่อ บุญเลิศ วัดบึงสีไฟ เพื่อนำไปให้พ่อแม่และพี่น้อง รับประทาน

    'กระผมทำอย่างนี้ทุกวัน ครอบครัวกระผม ยากจนมาก หมดที่พึ่ง กระผมพึ่งบารมีพระพ่อหลวงของแผ่นดิน เป็นที่พึ่งสุดท้ายของชีวิตและครอบครัวทางด้านการศึกษา และที่อยู่อาศัย กระผมและน้องๆอยากเรียนสูงๆ เมื่อจบแล้วก็จะได้มีงานทำเลี้ยงดูทดแทนพระคุณ พ่อ พระคุณแม่ ตั้งแต่ผมเกิดมาเห็นพ่อแม่สุดแสนลำบากกระผมจะขอพึ่งอาศัยพระพ่อหลวงของแผ่นดิน เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรตลอดชีวิตของกระผม กราบเท้าพระพ่อหลวงของแผ่นดิน'

    ต่อมาเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2550 สำนักราชเลขาธิการสำนักพระราชวังในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยนายอินทร์จันทร์ บุราพันธ์ เลขาธิการคณะองคมนตรีปฎิบัติราชการแทนราชเลขาธิการได้ตอบหนังสือกลับมายังทางผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรว่า เด็กชายชาตรี นัดดา ลงวันที่ 10 สิงหาคม 2550 ด้วยเด็กชายชาตรี นัดดา ติดต่อที่โรงเรียนบึงสีไฟ ถนนบึงสีไฟ-วัดขนุน หมู่ที่ 4ตำบลท่าหลวง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร ทูลเกล้าถวายฎีกา ความว่า เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบึงสีไฟ อาศัยอยู่ที่บ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 5 ตำบลท่าหลวง กับบิดา ซึ่งมีอาชีพรับจ้างทั่วไปมารดาสติไม่สมประกอบ และพี่สาวกับน้องชายซึ่งเรียนอยู่ที่โรงเรียนบึงสีไฟ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และปีที่ 3 ตามลำดับ

    [​IMG]ครอบครัวมีฐานะยากจน ได้รับความลำบากด้วยเหตุผลดังกล่าว จึงขอพระราชทานทุนการศึกษาและที่อยู่อาศัย ความละเอียดตามสำเนาฎีกา ที่แนบมาพร้อมนี้จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา หากมีหนทางคลี่คคลายปัญหาหรือมีข้อคิดเห็นประการใดกรุณาแจ้งให้ทราบด้วย จะขอบพระคุณยิ่ง ทั้งนี้ เพื่อจักได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาต่อไป

    จนกระทั่งเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2550 เวลา 09.00 น.นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรและ นางปิยะธิดา เรืองจันทร์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพิจิตรพร้อมคณะ ได้เดินทางไปยังบ้านเด็กชายชาตรี หรือน้องบุตรก็ต้องพบกับความอนาถ เนื่องจากบ้านของเด็กชายดังกล่าวเป็นกระต็อบ สร้างด้วยไม้ไผ่แต่ฝาบ้านและหลังคามุงด้วยกระเบื้องที่เก็บมาจากกองขยะที่มีคนนำมาทิ้ง และมีรูโหว่จำนวนมาก พื้นเป็นไม้ไผ่สับ และมีช่องโหว่ นอกจากนี้ในบ้านยังพบเพียงที่นอนหมอนมุ่งเก่าๆเท่านั้นสร้างความอนาถใจแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก

    โดยเบื้องต้น นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้เร่งให้ความช่วยเหลือโดยนำเครื่องอุปโภคบริโภคไปมอบให้เป็นการเบื้องต้น และให้องค์การบริหารส่วนตำบลท่าหลวงก่อสร้างบ้านตามโครงการบ้านเทิดไท้องค์ราชันให้บนที่ดินขององค์การบริหารส่วนตำบล ที่หมู่ 5 ซึ่งเป็นที่ดินสาธารณะติดหนองน้ำ และให้เหล่ากาชาดให้ความช่วยเหลือในส่วนของการศึกษา

    จากนั้น นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่จะสามารถช่วยเหลือเด็กชายชาตรีได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ก็พบว่าครอบครัวเด็กชายชาตรี ได้รับความเดือดร้อนและอยู่ในฐานะที่ลำบากมากซึ่งการช่วยเหลือต้องดูที่เด็กเป็นหลัก โดยพ่อมีอาชีพรับจ้างทั่วไป เนื่องจากสภาพสติไม่สมประกอบ ทั้งพ่อและแม่จึงทำได้เพียงหาเลี้ยงตัวเองไปวันๆ แต่ที่น่าเป็นห่วงก็คือลูกๆ ทั้ง 3 คนที่ลำบากทั้งที่หลับที่นอน อาหารการกิน และทุนการศึกษาซึ่งในเรื่องเรียนก็จะหาทุนการศึกษาเป็นกรณีพิเศษตลอดไปจนกว่าเด็กจะไม่อยากเรียน ส่วนทางเหล่ากาชาดจะนำเครื่องอุปโภคบริโภคช่วยเหลือเบื้องต้นใน1- 2 วันนี้ไปก่อนและจะดูแลเรื่องการศึกษาเพิ่มเติมให้อีกเป็นกรณีพิเศษ ผมในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดก็จะดูแลในภาพรวมและระยะยาวต่อไป
    <CENTER><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>
    นายปรีชา กล่าวอีกว่า
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...