พระศรีอาริย์

ผู้ถาม – เมื่อกี้ได้ยินว่า พระศรีอาริย์มาสวดถอนโรคให้หลวงพ่อ หลวงพ่อโปรดเมตตาเล่าให้ฟังหน่อยเถิดครับ

หลวงพ่อ – คือว่า พอลงไปตึกรับแขกปั๊บ แทนที่จะรับแขกอื่น กลับมีพระศรีอาริย์นั่งในดอกบัว พอไปถึงปั๊บ ท่านก็บอกว่า ผมจะมาถอนโรคให้ หาโอกาสมานานแล้ว หลวงพ่ปานไปขอร้อง ก็ร่ายโองการ ให้ลูกน้องสวด มีชี ๔ คน ฆราวาส ๑ คน พระศรีอาริย์ที่ว่า พระศรีอาริย์ทรงนะ

ผู้ถาม – โธ่ นึกว่าพระศรีอาริย์จริง

หลวงพ่อ – อ้าว เขาบอกว่า พระศรีอาริย์นี่ แกก็ดี ลีลาดีนะ แขกก็มามาก แกก็บอกขอเวลาเดี๋ยวเดียว หมดไปครึ่งชั่วโมง ก็เลยบอก พอแล้วๆ ถอนแค่นี้พอ

ผู้ถาม – มาจากสํานักไหนครับ

หลวงพ่อ – ข้างรถ เขาเขียนว่า เขาตะพาบ

ผู้ถาม – แล้วหาดอกบัวที่ไหนมานั่งครับ

หลวงพ่อ – เอาผ้าทํา แต่ชอบใจ ยายชี แกสวดเพราะจริงๆ ตั้งครึ่งชั่วโมงนี่ เสียงไม่ตก และมีลีลา ๓ ทํานอง เขาสวดเพราะจริงๆ แต่ว่าแกสวดนานเกินไป ถ้าไม่มีใคร จะให้สวดทั้งวันเลย ฟังเพลินดี เราก็ไม่ต้องเสียเวลาคุย ไม่เหนื่อยใช่ไหม ทีนี้มาหลายร้อยคนวันนั้น แล้วคนที่เขาตั้งใจจริงมี

ผู้ถาม – แล้วเป็นพระศรีอาริย์แท้ มาทรงหรือเปล่าครับ

หลวงพ่อ – อาริย์แท้ แต่คนละองค์ เห็นพระศรีอาริย์ท่านมา ถามว่าใคร ท่านบอกไม่ใช่ผมหรอกครับ แต่ว่าเขาหวังดี เขาเป็นเทวดาชั้นต่ำ คนเขาบูชาใช่ไหม ท่านก็รับอาสา แต่ว่าของเขาไม่ผิดนะ ถึงได้ปล่อยให้สวดตั้งครึ่งชั่วโมง ถอนออกหรือไม่ออกก็ตาม แต่การสวดเขาไม่ผิดแน่ ตั้งแต่ร่ายโองการ โองการก็ภาษาสวรรค์ผสมกับภาษาบาลี

ผู้ถาม – เมื่อสวดจบแล้ว มีผลอะไรต่อหลวงพ่อหรือเปล่าครับ

หลวงพ่อ – หาย โรคหาย

ผู้ถาม – โอ้โฮ เฮี้ยนขนานนั้นเลยหรือครับ

หลวงพ่อ – ใช่ ไอ้โรคที่ผ่านไป หายหมด

ผู้ถาม – อีกท่านหนึ่ง ถามว่า

ผู้ถาม – กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง เมื่อ ๒ - ๓ วันนี้ ผมไปที่ซอยอินทรามระ ๑๕ สะพานควาย กรุงเทพฯ ไปเจอพระศรีอาริย์เป็นผู้หญิง อายุ ๖๐ - ๖๕ ปี แกบอกว่า ขณะนี้มีหน้าที่มาโปรดสัตว์ในโลก ฉันมาเกิดแล้ว แต่มาในร่างชี ผมเคยฟังหลวงพ่อบอกว่า พระศรีอาริย์ในปัจจุบันนี้อยู่ชั้นดุสิต ก็เลยสงสัยว่า ที่มีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นนั้น เป็นของจริงหรือ ของปลอมขอรับ

หลวงพ่อ – ก็ไปพบเอง ทําไมจะไม่จริงล่ะ

ผู้ถาม – เอ๊ะ พระศรีอาริย์ปกติเป็นผู้ชายไม่ใช่หรือครับ

หลวงพ่อ – ไม่ใช่ ฉันหมายถึงว่า ไปพบเอง คือพระศรีอาริย์ แต่องค์พระศรีอาริย์จริงๆ ไม่ได้มา อย่างนี้เขาเรียก ภาษีอาน ภาษีถ้าเสีย ก็เสียทางด้านนี้ มันก็อานไปเลย

ผู้ถาม – จริงๆ ท่านคงจะอยู่ข้างบน ไม่ได้ลงมายุ่งเกี่ยวเลย นะครับ

หลวงพ่อ – นี่เราพูดถึงท่าน ท่านก็มองหน้าแล้ว ท่านอยู่ที่ของท่าน ท่านรู้เรื่อง ความจริงพระศรีอาริย์นี่พบทุกคืนนะ ฉันขึ้นไปไหว้ท่านผู้มีคุณ ระหว่างบัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ กับพระจุฬามนี ท่านก็มาทุกคืน แต่สงสัยว่า ชื่อเหมือนกัน แต่คนละพ่อคนละแม่ก็ได้นะ บังเอิญไปตั้งชื่อตรงกันเข้า หัวเราะ

ผู้ถาม – ขอแทรกสักนิดนะครับ หลวงพ่อกับท่านเคยช่วยเหลือสงเคราะห์อะไรกันบ้างหรือเปล่าครับ

หลวงพ่อ – เมื่อสัก ๒ - ๓ เดือนที่ผ่านมา ฉันป่วยหนัก งานของฉันก็หนักขึ้นมา จะเร่งให้มันเสร็จใช่ไหม ค่าใช้จ่าย สูงมาก ก็ไม่สามารถจะทํางานต่อไปได้ ใช่ไหม แต่ว่างานจะคั่งค้างหรือไม่คั่งค้าง มันไม่เกี่ยวกับเรา เราอยู่เราก็ทํา มีแรงเราทํา ตายก็ตายไป หมดเรื่องหมดราว ก็ปรากฏว่าวันนั้นพระท่านมา ท่านเรียกประชุมพระโพธิสัตว์ทั้งหมด แล้วก็บอกว่า "พระโพธิสัตว์ทุกองค์ขอให้ช่วย" ก็เป็นอันว่า พระศรีอาริย์ ท่านร่วมด้วย พระโพธิสัตว์มีเยอะนะ

ผู้ถาม – อ๋อ ม่ใช่มี ๕ องค์ อย่างที่หลวงพ่อว่าหรือครับ

หลวงพ่อ – ไม่ใช่ พระโพธิสัตว์จริงๆ เวลานี้มีเกือบแสนที่ยังติดแอ้เต็มอัตราอยู่เยอะแยะ เต็มอย่างพระศรีอาริย์นะ เต็มคอยคิวน่ะ นั่งยิ้มอยู่ชั้นดุสิต

ผู้ถาม – เป็นอันว่า ท่านสงเคราะห์หลวงพ่ออยู่เสมอ

หลวงพ่อ – ท่านมาสงเคราะห์หมด วันที่ท่านเรียกประชุม พระโพธิสัตว์ ไม่น้อยเลยนะ ขนาดที่เต็มแล้วนี่สวยจริงๆ แพรวพราวเป็นระยับ ทั้งเต็มและไม่เต็ม ท่านเรียกมาหมด ท่านบอกให้ช่วยกันนะ งานของฉันเอง ทุกองค์ก็เลยรับ

ผู้ถาม – อย่างนี้ ถ้าหากลูกหลานระลึกถึง และขอให้ท่านสงเคราะห์ จะเป็นไปได้ไหมครับ

หลวงพ่อ – ก็ทําได้เลย แต่เรื่องหวยท่านบอก ไม่ตกลง

ผู้ถาม – ปิดประตูตีแมวทุกที

หลวงพ่อ – ไม่ปิดหรอก ที่กําลังพูดพระศรีอาริย์ท่านก็มอง พออาจารย์พูดปั๊บ ท่านยิ้มบอก เรื่องหวยไม่เกี่ยวนะโว้ย

 

เรื่องหวยไม่เกี่ยว อิๆๆ