พระอภิธรรมเล่มที่ ๑๒ ปัจจนียานุโลมติกปัฏฐาน นกุสลัตติกกุสลัตติกะ

ในห้อง 'พระไตรปิฎก เสียงอ่าน' ตั้งกระทู้โดย Kob, 6 เมษายน 2011.

  1. Kob

    Kob เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    6,159
    ค่าพลัง:
    +19,884
    [MUSIC]http://audio.palungjit.org/attachment.php?attachmentid=61700[/MUSIC]

    45-106 นกุสลัตติกกุสลัตติกะ

    ที่มาไฟล์เสียงอ่าน ทดลองอ่าน พระไตรปิฎก เล่มที่ ๔๕ พระอภิธรรมเล่ม ๑๒ - หน้า 2 - Buddhism Audio


    <CENTER>ปัจจนียานุโลมติกปัฏฐาน
    </CENTER><CENTER>นกุสลัตติกกุสลัตติกะ
    </CENTER> [๑] ธรรมที่เป็นอกุศล อาศัยธรรมที่ไม่ใช่กุศล เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
    คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศล ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒
    ธรรมที่เป็นอัพยากฤต อาศัยธรรมที่ไม่ใช่กุศล เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
    คือ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากอัพยากฤต และกิริยา
    อัพยากฤต
    ธรรมที่เป็นอกุศล และธรรมที่เป็นอัพยากฤต อาศัยธรรมที่ไม่ใช่กุศล เกิดขึ้น เพราะ
    เหตุปัจจัย มี ๓ นัย
    [๒] ธรรมที่เป็นกุศล อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อกุศล เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
    ธรรมที่เป็นอัพยากฤต อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อกุศล เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
    ธรรมที่เป็นกุศล และธรรมที่เป็นอัพยากฤต อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อกุศล เกิดขึ้น เพราะ
    เหตุปัจจัย มี ๓ นัย
    [๓] ธรรมที่เป็นอัพยากฤต อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อัพยากฤต เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
    ธรรมที่เป็นกุศล อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อัพยากฤต เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
    ธรรมที่เป็นอกุศล อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อัพยากฤต เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
    ธรรมที่เป็นกุศล และธรรมที่เป็นอัพยากฤต อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อัพยากฤต เกิดขึ้น
    เพราะเหตุปัจจัย
    ธรรมที่เป็นอกุศล และธรรมที่เป็นอัพยากฤต อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อัพยากฤต เกิดขึ้น
    เพราะเหตุปัจจัย มี ๕ นัย
    [๔] ธรรมที่เป็นอกุศล อาศัยธรรมที่ไม่ใช่กุศล และธรรมที่ไม่ใช่อัพยากฤต เกิดขึ้น
    เพราะเหตุปัจจัย
    ธรรมที่เป็นอัพยากฤต อาศัยธรรมที่ไม่ใช่กุศล และธรรมที่ไม่ใช่อัพยากฤต เกิดขึ้น
    เพราะเหตุปัจจัย
    ธรรมที่เป็นอกุศล และธรรมที่เป็นอัพยากฤต อาศัยธรรมที่ไม่ใช่กุศล และธรรมที่ไม่ใช่
    อัพยากฤต เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย มี ๓ นัย
    [๕] ธรรมที่เป็นกุศล อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อกุศล และธรรมที่ไม่ใช่อัพยากฤต เกิดขึ้น
    เพราะเหตุปัจจัย
    ธรรมที่เป็นอัพยากฤต อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อกุศล และธรรมที่ไม่ใช่อัพยากฤต เกิดขึ้น
    เพราะเหตุปัจจัย
    ธรรมที่เป็นกุศล และธรรมที่เป็นอัพยากฤต อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อกุศล และธรรม
    ที่ไม่ใช่อัพยากฤต เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย มี ๓ นัย
    [๖] ธรรมที่เป็นอัพยากฤต อาศัยธรรมที่ไม่ใช่กุศล และธรรมที่ไม่ใช่อกุศล เกิดขึ้น
    เพราะเหตุปัจจัย มี ๑ นัย
    [๗] ธรรมที่เป็นอกุศล อาศัยธรรมที่ไม่ใช่กุศล เกิดขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย
    ธรรมที่เป็นอัพยากฤต อาศัยธรรมที่ไม่ใช่กุศล เกิดขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย
    ธรรมที่เป็นกุศล อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อกุศล เกิดขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย
    ธรรมที่เป็นอัพยากฤต อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อกุศล เกิดขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย
    ธรรมที่เป็นกุศล อาศัยธรรมที่เป็นอัพยากฤต เกิดขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย
    ธรรมที่เป็นอกุศล อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อัพยากฤต เกิดขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย
    ธรรมที่เป็นอกุศล อาศัยธรรมที่ไม่ใช่กุศล และธรรมที่ไม่ใช่อัพยากฤต เกิดขึ้น
    เพราะอารัมมณปัจจัย
    ธรรมที่เป็นกุศล อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อกุศล และธรรมที่ไม่ใช่อัพยากฤต เกิดขึ้น
    เพราะอารัมมณปัจจัย
    ธรรมที่เป็นอัพยากฤต อาศัยธรรมที่ไม่ใช่กุศล และธรรมที่ไม่ใช่อกุศล เกิดขึ้น
    เพราะอารัมมณปัจจัย
    [๘] ในเหตุปัจจัย มีวาระ ๑๘
    ในอารัมมณปัจจัย มี " ๙
    ในอธิปติปัจจัย มี " ๑๘
    ในอวิคตปัจจัย มี " ๑๘
    [๙] ธรรมที่เป็นอกุศล อาศัยธรรมที่ไม่ใช่กุศล เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะเหตุปัจจัย
    ธรรมที่เป็นอัพยากฤต อาศัยธรรมที่ไม่ใช่กุศล เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะเหตุปัจจัย ฯลฯ
    ธรรมที่เป็นอัพยากฤต อาศัยธรรมที่ไม่ใช่กุศล และธรรมที่ไม่ใช่อกุศล เกิดขึ้น ไม่ใช่
    เพราะเหตุปัจจัย
    [๑๐] ธรรมที่เป็นอัพยากฤต อาศัยธรรมที่ไม่ใช่กุศล เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะ
    อารัมมณปัจจัย ฯลฯ
    ธรรมที่เป็นอัพยากฤต อาศัยธรรมที่ไม่ใช่กุศล และธรรมที่ไม่ใช่อกุศล เกิดขึ้น ไม่ใช่
    เพราะอารัมมณปัจจัย
    [๑๑] ในปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย มีวาระ ๖
    ในปัจจัยที่ไม่ใช่อารัมมณปัจจัย มี " ๖
    ในปัจจัยที่ไม่ใช่อธิปติปัจจัย มีวาระ ๑๘
    ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิคตปัจจัย มี " ๖
    [๑๒] ในปัจจัยที่ไม่ใช่อารัมมณปัจจัย กับเหตุปัจจัย มีวาระ ๖
    [๑๓] ในอารัมมณปัจจัย กับปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย มีวาระ ๖
    สหชาตวารก็ดี สัมปยุตตวารก็ดี เหมือนกับปฏิจจวาร
    [๑๔] ธรรมที่เป็นกุศล อาศัยธรรมที่ไม่ใช่กุศล เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
    ธรรมที่เป็นกุศล อาศัยธรรมที่ไม่ใช่กุศล เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
    ธรรมที่เป็นอัพยากฤต อาศัยธรรมที่ไม่ใช่กุศล เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
    ธรรมที่เป็นกุศล และธรรมที่เป็นอัพยากฤต อาศัยธรรมที่ไม่ใช่กุศล เกิดขึ้น เพราะ
    เหตุปัจจัย
    ธรรมที่เป็นอกุศล และธรรมที่เป็นอัพยากฤต อาศัยธรรมที่ไม่ใช่กุศล เกิดขึ้น เพราะ
    เหตุปัจจัย มี ๕ นัย
    ธรรมที่เป็นอกุศล อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อกุศล เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย มี ๕ นัย
    ธรรมที่เป็นอัพยากฤต อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อัพยากฤต เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย มี ๕ นัย
    ธรรมที่เป็นอัพยากฤต อาศัยธรรมที่ไม่ใช่กุศล และธรรมที่ไม่ใช่อัพยากฤต เกิดขึ้น
    เพราะเหตุปัจจัย มี ๓ นัย
    ธรรมที่เป็นอัพยากฤต อาศัยธรรมที่ไม่ใช่อกุศล และธรรมที่ไม่ใช่อัพยากฤต เกิดขึ้น
    เพราะเหตุปัจจัย มี ๓ นัย
    ธรรมที่เป็นกุศล อาศัยธรรมที่ไม่ใช่กุศล และธรรมที่ไม่ใช่อกุศล เกิดขึ้น เพราะ
    เหตุปัจจัย มี ๕ นัย
    [๑๕] ในเหตุปัจจัย มีวาระ ๒๖
    ในอารัมมณปัจจัย มี " ๑๓
    ในอวิคตปัจจัย มี " ๒๖
    [๑๖] ในสังสัฏฐวาร ในเหตุปัจจัย มีวาระ ๙ ฯลฯ
    ในอวิคตปัจจัย มี " ๙ ฯลฯ
    [๑๗] ธรรมที่ไม่ใช่กุศล เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่เป็นอกุศล โดยเหตุปัจจัย
    ธรรมที่ไม่ใช่กุศล เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่เป็นอัพยากฤต โดยเหตุปัจจัย
    ธรรมที่ไม่ใช่กุศล เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่เป็นอกุศล และธรรมที่เป็นอัพยากฤต โดย
    เหตุปัจจัย
    ธรรมที่ไม่ใช่อกุศล เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่เป็นกุศล โดยเหตุปัจจัย มี ๓ นัย
    ธรรมที่ไม่ใช่อัพยากฤต เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่เป็นอัพยากฤต โดยเหตุปัจจัย มี ๕ นัย
    ธรรมที่ไม่ใช่กุศล และธรรมที่ไม่ใช่อัพยากฤต เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่เป็นอกุศล โดย
    เหตุปัจจัย มี ๓ นัย
    ธรรมที่ไม่ใช่อกุศล และธรรมที่ไม่ใช่อัพยากฤต เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่เป็นกุศล โดย
    เหตุปัจจัย มี ๓ นัย
    ธรรมที่ไม่ใช่กุศล และธรรมที่ไม่ใช่อกุศล เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่เป็นอัพยากฤต โดย
    เหตุปัจจัย มี ๑ นัย
    [๑๘] ธรรมที่ไม่ใช่กุศล เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่เป็นกุศล โดยอารัมมณปัจจัย มี ๓ นัย
    ธรรมที่ไม่ใช่อกุศล เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่เป็นอกุศล โดยอารัมมณปัจจัย มี ๓ นัย
    ธรรมที่ไม่ใช่อัพยากฤต เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่เป็นอัพยากฤต โดยอารัมมณปัจจัย มี ๓ นัย
    ธรรมที่ไม่ใช่กุศล และธรรมที่ไม่ใช่อัพยากฤต เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่เป็นกุศล โดย
    อารัมมณปัจจัย
    ธรรมที่ไม่ใช่กุศล และธรรมที่ไม่ใช่อัพยากฤต เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่เป็นอกุศล โดย
    อารัมมณปัจจัย
    ธรรมที่ไม่ใช่กุศล และธรรมที่ไม่ใช่อัพยากฤต เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่เป็นอัพยากฤต
    โดยอารัมมณปัจจัย มี ๓ นัย
    ธรรมที่ไม่ใช่อกุศล และธรรมที่ไม่ใช่อัพยากฤต เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่เป็นกุศล โดย
    อารัมมณปัจจัย
    ธรรมที่ไม่ใช่อกุศล และธรรมที่ไม่ใช่อัพยากฤต เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่เป็นอกุศล โดย
    อารัมมณปัจจัย
    ธรรมที่ไม่ใช่อกุศล และธรรมที่ไม่ใช่อัพยากฤต เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่เป็นอัพยากฤต
    โดยอารัมมณปัจจัย มี ๓ นัย
    ธรรมที่ไม่ใช่กุศล และธรรมที่ไม่ใช่อกุศล เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่เป็นกุศล โดย
    อารัมมณปัจจัย มี ๓ นัย
    [๑๙] ในเหตุปัจจัย มีวาระ ๑๘
    ในอารัมมณปัจจัย มี " ๑๘
    ในอธิปติปัจจัย มี " ๒๓
    ในอวิคตปัจจัย มี " ๒๒

    <CENTER>ปัญหาวารพึงให้พิสดาร</CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER>ที่มาเนื้อหา
     
  2. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    อารมณ์อัพยากฤต - อารมณ์ของใจที่เป็นกลาง

    [​IMG]


    อัพยากตาธรรม-ธรรมที่เป็นอัพยากฤต สภาวะที่เป็นกลางๆ ชี้ขาดลงไปไม่ได้ว่าเป็นกุศล หรืออกุศล ได้แก่ นามขันธ์ ๔ (เวทนา-สัญญา-สังขาร-วิญญาณ) ที่เป็นวิบากแห่งกุศลและอกุศล เป็นกามาวจรก็ตาม รูปาวจรก็ตาม อรูปาวจรก็ตาม โลกุตตระก็ตาม อย่างหนึ่ง ธรรมทั้งหลายที่เป็นกิริยา มิใช่กุศล มิใช่อกุศล มิใช่วิบากแห่งกรรม อย่างหนึ่ง รูปทั้งปวง อย่างหนึ่ง อสังขธาตุ คือ นิพพาน อย่างหนึ่ง กล่าวสั้นๆ คือ วิบากในภูมิ ๔ กิริยาอัพยากฤตในภูมิ ๓ รูปและนิพพาน....

    อารมณ์อัพยากฤต -อารมณ์ของใจที่เป็นกลาง มีได้เฉพาะในพระอริยเจ้า ที่ไม่ยึดติดกับโลกิยสมบัติ ในบางส่วนหรือทั้งหมด (๒๕ - ๕๐ - ๗๕ -๑๐๐%) แล้วเท่านั้น.....

    โลกียะ- คือ โลก มายา ของปลอม หลอกลวง สภาวะที่ไม่จริง เกิดได้-ตั้งอยู่ได้(ชั่วคราว )-เปลี่ยนแปลง ได้-แล้วก็ดับสลายหายไปได้ ไม่จีรังยั่งยืน เหมือนจิตและพระนิพพาน

    โลกุตตระ-คือ สภาวะที่เป็นจริง ไม่ปลอม ไม่เสื่อม หากยังไม่ถึงที่สุด เป็นอริยมรรค-อริยผล ก็มีแต่เจริญขึ้นไปโดยส่วนเดียวจนถึงพระนิพพาน แดนอมตะนิรันดร์

    อุเบกขาญาณ-ทรงไว้ด้วยสติและปัญญาตลอดเวลา คือ นิ่งและรู้ด้วยปัญญา ว่าอะไรควรพูด-ทำอะไรหรือไม่ เมื่อไร และอย่างไร......



    [​IMG]




    กราบมหาอนุโมทนาบุญ "วิริยะบารมี" คุณพี่กบค่ะ
    สาธุ สาธุ สาธุการ


    อนุโมทนาสาระศึกษาประกอบจาก
    ๑) อารมณ์อัพยากฤต และ ๙ อารมณ์อัพยากฤต :: i-dhamma
    ๒) ผังภาพ และ ภาพวาดฝีมือคุรุศิลปิน ท่านเฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์
     

แชร์หน้านี้

Loading...