พระอริยะขั้นต้น เช่นพระโสดาบัน พระสกิทาคามี ท่านมีความโลภในใจมั้ยคะ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย บ้องแบ้ว, 29 มีนาคม 2018.

  1. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ไม่ได้จะลองภูมิใคร แต่ขออ่านไว้เป็นความรู้ค่ะ พระอริยะขั้นต้น ท่านละโลภ โกรธ หลง ได้แค่ไหนคะ

    เคยอ่านพระอาจารย์เล็กท่านกล่าวว่าพระโสดาบันโกรธ แต่ไม่ผูกโกรธ

    คืออยากทราบรายละเอียดค่ะ ช่วยยกตัวอย่างให้เห็นภาพด้วยจะดีมากค่ะ

    _/\_
     
  2. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    ไม่ได้ มันขัดแย้งกับทุกสิ่ง
     
  3. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    ทุกท่านรู้และทราบที่มาที่ไปแห่งกรรมชัดเจน จึงยากที่จะกล่าวว่าเหตุใดท่านยังติดและสาละวนกับสิ่งเหล่านั้น
     
  4. ชั่งเถอะ

    ชั่งเถอะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2017
    โพสต์:
    253
    ค่าพลัง:
    +339
    ท่านยัง โลภ อยากรวย อยากได้ อยากมีอยู่ครับ เพราะยังละได้ไม่หมด แต่น้อยลง ไม่เท่า คนธรรมดา

    โกรธก็ตอบโต้บาง แต่ไม่ผูกใจเจ็บ พยาบาท แต่จะเลี่ยงๆ คนที่ทำให้ท่านโกรธแทน ไม่เข้าไปยุ่งอีก ผิดศีลแบบ ไม่รู้ตัวไม่ทันสังเกตุก็มี แต่เดี๋ยวนั้น พอท่านรู้ได้ ท่านก็ทุกข์เอง มันตีกลับเอง
     
  5. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    หึหึหึ...พิจารณาดีดี
     
  6. ศิษย์โง่ V2

    ศิษย์โง่ V2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2017
    โพสต์:
    254
    ค่าพลัง:
    +243
    โกรธ อยากต่อยคืนหน้าเหมือนคนปกติ
    แต่จิตคิดแค่อยากต่อยให้เจ็บสนองกิเลสตัวเอง
    ไม่ได้อยากให้หนักกว่านั้นถึงขั้นสาหัสหรือตาย
    เจตสิกตัวพยาบาทยังมีเหลือ เป็นเหมือนอารมณ์ค้าง
    แต่ไม่ได้พยาบาทแล้วอยากจะทำให้ตายอีกเหมือนกัน

    โดยรวมไม่ใช่นักเลง แค่โกรธตอบเป็น
    ยังไม่ได้ประหารเจตสิกตัวพยาบาทออกไป พยาบาทจึงยังเหลืออยู่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มีนาคม 2018
  7. ใต้สรวงสวรรค์ ตรีเอกภาพ

    ใต้สรวงสวรรค์ ตรีเอกภาพ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2017
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +11
    เป็นพระเห็นนิมิต;ย้อมเห็นความหมายของมันอยู่แล้ว ; นิมิตจินตรานาการของพระสงฆ์มีทุกคืน
    แล้วกิตที่ควรทำก็ไม่ใช่น้อย ;ส่วนเรื่องการสวดมนต์ ; ตี 5ก็รุกทำวัดเช้าและ เรื่องความโลภในใจ
    ยิ่งไม่ต้องไปพูดถึง ตู้วัดบริจาควัดก็อยู่แล้ว
    ท่านคงโลภกลางดึกตื่นขึ้นมาลักขโมยตู้บริจาค
    และมั้ง...
     
  8. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    พูดแบบทั่วๆไปนะครับ
    มีทั้ง โทสะ โมหะ โลภะ ทั้ง ๓ ตัวนั้นระครับ
    ไม่ว่าระดับไหน เพียงแต่จะเหลือเชื้อที่จะให้
    มันเกิดขึ้นแล้วส่งตัววิญญานไปดึงภายนอกเข้ามา
    มากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง

    มันหายไปจากจิตไม่ได้หรอกครับ
    ถ้าไม่ถึงระดับปัญญาญาน
    หรือกำลังสมาธิระดับเข้า
    นิโรธสมาบัติได้แบบนานโคตรๆ


    พวกที่คิดว่าตัวเองไม่มี แล้วพยายามอัพเดท
    กิริยา ไปฝืน ไปสร้างภาพหลอกหลวงชาวโลกอยู่
    เนี่ยคือ กำลังโดนมันหลอกอยู่ทั้งนั้นหละครับ
    บวกกับหลงสภาวะ หลงตัวเองอย่างแรง


    โทสะ โมหะ โลภะ มันอยู่ในจิตโง่ๆของเรา
    ตั้งแต่เราจะมีร่างกายนี้ขึ้นมาแล้วครับ ย้ำว่าก่อนจะมีร่างกาย
    ถ้าไม่มี ๓ ตัวนี้ในจิต จะไม่มีหน้าโง่ๆ
    อย่างเราๆมาถามอะไรโง่ๆ
    หรือแสดงความเห็นอะไรโง่ๆ
    แบบนี้หรอกครับ...


    จิตมันสร้างเป็นร่างกายส่วนหนึ่งจากฐาน โทสะ โมหะ โลภะ
    อย่างใดอย่างหนึ่ง
    เพื่อเป็นช่องทางให้ตัววิญญาน
    ที่ส่งออกจากจิตไปดึง เอาลาภ ยศ สุข สรรเสริญ
    เข้ามาเก็บไว้ในจิต แล้วปรุงแต่งจนกลายเป็นตัวเอง
    หรือที่เรียกว่า กิเลสนั่นหละครับ
    จิตเนี่ยมันมีผัสสะ เพราะความไม่รู้ หรือ ความโง่ของมัน
    มันชอบที่จะส่งออกไปกระทบ แล้วก็เอามาเก็บเป็นปกติ
    นี่คือเรื่องทั่วๆไปครับ............

    ขนาดพระอรหันต์บางวิสัยตามตำรา
    ตัวโทสะ โมหะ โลภะ ในจิตท่านยังมีอยู่เป็นปกติ
    ่แต่มันไม่มีเชื้อ ไม่ว่าจากภายในหรือภายนอก
    ที่จะทำให้สามตัวนี้มันเกิดได้อีก

    ยกเว้นว่าระดับพระอรหันต์ วิสัยความสามารถทางสมาธิสูง
    ถึงจะกำจัด เอาโทสะ โมหะ โลภะ ออกจากจิตได้
    ซึ่งแทบจะนับได้.....


    ดังนั้นอย่าไปหลง วิธีทางโลก กับทางจิต
    ทางโลกมันมีตำรา ให้อ่านเปรียบเทียบ เทียบเคียง
    เพื่อเอาไว้ให้ดูเป็นแนวทางเฉยๆ
    แต่มันเอาพฤติกรรมภายนอก มาชี้วัดเลยไม่ได้

    เพราะถ้าเดินปัญญาจนถึงขั้นจิตมีปัญญามากแล้ว
    ไม่ยึดทั้งบุญและปาบได้แล้ว


    การเคลื่อนไหวทางร่างกายทั้งหมด ของจิตนั้น
    มันจะเป็นเพียงแค่กิริยา
    และก็ทำหน้าที่ของตนไป แบบไม่ต้องมีใครมาบอก

    สรุป มีทุกระดับนั่นหละครับ
    เพียงแต่จะเหลือเชื้อให้มันยังเกิดได้มากน้อยแค่ไหน
    ส่วนพฤติกรรมทางกาย มันเอาอะไรมาชี้วัดแท้จริง
    ไม่ได้หรอกครับ เพราะเด่วไปอ่านตำรามา
    ไปฟังโน้นนี่นั้นมา แล้วก็มาคิด วิเคราะห์ นึกเอา
    แล้วมาสร้างภาพ มาดัดจริตทางจิต ส่งผลให้ดัดจริตทางกาย
    ดัดจริตทางกิริยา ดัดจริตทางวาจาตนเองต่อมา
    ก็จะเผลอหลงว่าตัวเองเป็นระดับโน้นนี่นั้นได้(เชื่อเหอะลึกจะแอบคิด)
    อย่างคาดไม่ถึง จะกลายเป็นโง่แล้วก็โง่อีก
    นานๆไปก็จะโง่อย่างนี้ไปเรื่อยๆอีกนั่นหละครับ


    ปล. แค่เพียงแต่เล่าให้ฟัง
     
  9. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
     
  10. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    อาจมีข้อผิดพลาดทั้งการแปลและการสื่อเป็นบัญญัติตามสมมุติ หลวงปู่ไม่ถือสมมุติ ตอนเจอหลวงปู่ไม่เห็นเคยเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง จำได้ว่าหลวงปู่ถามว่ามากันไกลนะ ฮ้อนบ่ เราก็ยิ้ม แบบตอบๆว่า คงอย่างนั้นกระมังคับ ประเทศไทยมันร้อน555 แล้วหลวงปู่ก้อหัวเราะให้ แต่เข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร เราเป็นผู้หนึ่งที่ปราถนาทางใจเพื่อพบหลวงปู่และหลวงปู่รอที่จะพบ ทั้งๆที่ชราภาพมาก แม้คนนอกไม่อาจรับรู้ได้ จึงไม่มีคำตอบเพราะหลวงปู่ดับขันธ์เสียแล้ว...
     
  11. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    มีอีกท่านนึงที่ทราบ คือ คุณย่าโยมอุปฐากหลวงปู่เพราะหลวงปู่ท่านสั่งไว้ว่า...วันนี้เวลาประมาณบ่ายๆ จะมีคนมาขอพบ...ซึ่งน่าแปลกที่คุณย่าท่านนั้นพอบอกว่ามาหาหลวงปู่...ท่านบอกว่าหลวงปู่บอกไว้แล้ว...ไม่เชื่อไปถามคุณย่าน้องสาวของหลวงปู่ดูสิว่า...เรื่องเหลือเชื่อนี้มันมีจริงๆ ที่คำชะอี
     
  12. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    แต่ที่จริงก้อไม่เคยคิดทำอะไรเล่นๆ หรอก เพราะถ้ากำลังจิตกำลังใจเพียงพอที่จะส่งถึงกันก็คงทำได้
    แรงส์อะ555
     
  13. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    เอ่อข้อความข้างบนลบทิ้งไปแล้วแต่มันไม่ยอมลบ...อย่าไปสนใจนะคับ
     
  14. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    โลภะ โมหะ โทสะ จริงอยู่ว่ามีแต่ดูเหมือนไม่มีสำหรับพระอริยเจ้าจริงๆ ที่บอกว่าเราแยกแยะระหว่างปุถุชนกับพระพระอริยะเจ้ายังไงก็จะบอกว่า โดยความเห็นส่วนตัวคือ สิ่งที่เห็นได้ด้วยตา หู หรืออายตนะทั่วไป ไม่ใช่เลย แต่ถ้าอายตนะทั่วไปไม่อาจตัดสินได้นั่นเพราะเราไม่อยู่ในฐานะจะรับรููู้้เพราะ ไม่จำเป็นต้องให้คนรับรู้ ถามว่ามีไหม เรื่องกิเลสยกเว้นไว้เฉพาะพระขีณาสพคือไม่มีแบบร้อยเปอร์เซนต์แต่ห่างไกลนักที่เราจะรับรู้ อย่างที่บอกถ้าเห็นง่ายเข้าใจง้ายใครๆคงพากันเป็นไปเต็มบเานเต็มเมืองแล้วแต่ที่ทราบเพราะมีไม่มากจึงทำให้ภาพรวมยังเป็นทุกข์ เพราะประกอบด้วยความโลภความเห็นแก่ตัวกันอยู่ นี่แหละเรียกว่า ควรเร่งเพียรปฏิบัติดีให้ไม่ต้องทุกข์กับสภาวะที่เกิดอยู่และกำลังจะเกิดขึ้นอีก
     
  15. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    เมื่อก่อนเคยสมมุติเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างคนธรรมดากับพระเจ้าแผ่นดิน...ที่พูดแบบนั้นเพราะมันไกลมาก...ถ้าเทียบระหว่างโลกียะกับโลกุตระ รู้ไหมว่ามันห่างกันแค่ไหน..ห่างยิ่งกว่าที่รู้เสียอีก
     
  16. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    อยากจะเป็นขนโคหรือเขาโคจงเลือกเอาตามใจปารถนาเถิด อนุโมทนา
     
  17. รัศมีสุริยา

    รัศมีสุริยา สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2018
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +53
    มีครับท่านค่อยๆละไปจนถึงพระอรหันต์จึงมีแต่จิตส่วนดีถ้ามีความคิดพุ่งขึ้นมาให้ใช้จิตตัวรู้กำหนดรู้ก็พอครับเพราะเราไม่สามารถควบคุมความคิดได้ให้ติดตามดูมันพอเดี่ยวก็จะหายครับ เคยมีคนไปถามหลวงพ่อคูณว่าหลวงพ่อหลวงพ่อมีความโกรธไหมหลวงพ่อคูณตอบว่า “มีมันก็เหมือนมึงนั่นแหละมันมาแป๊บๆเดี๋ยวมันก็ไป”
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 เมษายน 2018
  18. น้ำเกลี้ยง

    น้ำเกลี้ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +505
    ในตำราท่านว่า

    พระอริยะบุคคลทั้งสองขั้น ละสังโยชน์เบื้องต้น สามตัว คือ

    1. สักกายทิฏฐิ - มีความเห็นว่าร่างกายนี้เป็นของเรา มีความยึดมั่นถือมั่นในระดับหนึ่ง
    2. วิจิกิจฉา - มีความสงสัยในคุณของพระรัตนตรัย คือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
    3. สีลัพพตปรามาส - ความถือมั่นศีลพรต โดยสักว่าทำตามๆ กันไปอย่างงมงาย เห็นว่าจะบริสุทธิ์หลุดพ้นได้เพียงด้วยศีลและวัตร...

    เราไม่มีใครในโลกมาบอกว่าท่านนั้นท่านนี้เป็นขั้นนั้นขั้นนี้ เพราะพระพุทธเจ้าไม่อยู่แล้ว

    เหลือแต่ ยนิโสมนสิการ นะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...