✨ พระอาจารย์เตือน คนชอบเที่ยว ชอบแวะ ✨
เรื่องของการไปเที่ยว สมัยก่อนอาตมาฝึกมโนมยิทธิได้ใหม่ ๆ จะแวะทุกที่เลย ดูนรกทีละขุม สวรรค์ทีละชั้น พรหมทีละชั้นเลย พอทำไป ๆ รู้สึกเบื่อขึ้นมาเฉย ๆ
❓ มีใครเคยไปธุสเจดีย์ซึ่งอยู่พรหมชั้นที่ ๑๖ บ้าง ❓ พวกเราคงไม่รู้จักกันหรอก เพราะไม่ช่างสงสัยเหมือนกับอาตมา จำไว้เลยนะว่า สวรรค์มีจุฬามณีเจดีย์สถานเป็นที่สำคัญที่สุด คือ เป็นที่ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้ว กับพระเมาลีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
แต่ในพรหม ๑๖ ชั้น มี ✨ ธุสเจดีย์เป็นที่ประดิษฐาน ผ้าครองของเจ้าชายสิทธัตถะ ✨ เมื่อครั้งที่ท่านสละออก เพื่อนุ่งห่มผ้ากาสาวพัสตร์ อยู่ที่อกนิษฐพรหม (รูปพรหมชั้นที่ ๑๖) ถือว่าเป็นสถานที่สำคัญที่สุดของพรหมเหมือนกัน เพราะฉะนั้น .. ถ้าใครไม่เคยไป ก็ไปกราบชมเสีย .. จะได้รู้ว่าที่อาตมาพูดนั้น ไม่ได้นอกตำราเลย เพียงแต่ว่าเราจะไปถึงหรือเปล่าเท่านั้นเอง
เมื่อไปเข้าบ่อย ๆ ความรู้สึกกลับจืดไปเฉย ๆ รู้สึกเหมือนกับว่ากี่ครั้ง ๆ ก็มาแค่ตรงนี้ แล้วสถานที่ซึ่งจะไปก็ลดลงไปเรื่อย เหลือแค่ไปกราบท่านปู่ท่านย่า กราบพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่บัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ ไปกราบพระที่จุฬามณี แล้วก็ไปที่พระนิพพานเลย ที่อื่นไม่แวะแล้ว
จากที่เคยแวะกราบท่านปู่สหัมบดีพรหมเป็นประจำ ก็กลายเป็นว่า ถึงเวลาก็น้อมจิตอัญเชิญท่านไปที่พระนิพพาน แล้วก็กราบท่านที่นั่น ตอนหลังด้วยความขี้เกียจมากเข้า แม้แต่บัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ก็ไม่ไปแล้ว ถึงเวลาก็ขึ้นพระนิพพาน แล้วน้อมจิตอัญเชิญท่านทั้งหลายขึ้นมา แล้วกราบท่านทีเดียวทั้งหมดข้างบนพระนิพพานนั้นเลย
มานั่งคิดถึงตัวเองอยู่ตั้งนานว่า นี่เราเพี้ยนไปหรือเปล่า ❓ เทวดาพรหมท่านไม่ได้มีสิทธิ์ที่จะอยู่บนพระนิพพาน แล้วทำไมเวลาเราเชิญท่านจึงมาได้ ❓ เพิ่งจะมาทราบตอนที่หลวงพ่อเทศน์เรื่องชวน เทวดา นางฟ้า พรหม ไปพระนิพพาน ✨
ด้วยกำลังของแต่ละท่านจริง ๆ แล้ว ถึงจะสามารถไปได้ แต่ว่าโดยมารยาทและโดยบุญบารมีของท่านแล้ว ชั้นที่สูงกว่ามีสิทธิ์ที่จะลงมาชั้นที่ต่ำกว่าได้ ส่วนท่านที่อยู่ชั้นที่ต่ำกว่า ถ้าไม่ได้รับเชิญให้ขึ้นไปชั้นที่สูงกว่า จะขึ้นไปไม่ได้ อาตมาก็เพิ่งจะรู้ว่า การที่ตัวเองทำด้วยความขี้เกียจ ก็คือสิ่งที่หลวงพ่อท่านทำเพื่อสงเคราะห์พรหมเทวดาเป็นประจำอยู่แล้ว
✨ นี่เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนอย่างหนึ่ง ก็คือ ในระยะสุดท้ายแทบจะเหลือแต่พระนิพพานที่เดียวเป็นที่ไป ✨
ประการที่สอง ที่อยากจะกล่าวถึงก็คือ โดยปกติทั่วไป เวลาไปธุระหรือไปงานอะไร พอเสร็จธุระแล้ว อาตมาจะกลับเลย พยายามกลับวัดให้ทันทำวัตรค่ำ ต่อให้ไม่ทัน เหลือทำวัตรค่ำอยู่ครึ่งเดียว ก็จะโดดลงจากรถ ขึ้นไปทำวัตรก่อน
สมัยนั้น ท่านอาจารย์สมพงษ์ยังเป็นเจ้าอาวาสวัดท่าขนุนอยู่ อาตมาได้รับคำสั่งให้ไปช่วยบูรณะวัดท่าขนุน อาตมาจึงอยู่ในฐานะลูกวัด แต่เป็นลูกวัดที่เป็นอาจารย์ของเจ้าอาวาสอีกทีหนึ่ง
แรก ๆ ท่านอาจารย์สมพงษ์เห็นอาตมาไปไหน ท่านก็ขอตามไปด้วย โดดขึ้นรถตามไปทันที ไปด้วยกันสักสองสามครั้ง พอครั้งที่สี่ท่านไม่ไปแล้ว เพราะเวลาท่านอาจารย์สมพงษ์ไปไหน ท่านจะแวะตลอด พูดง่าย ๆ ว่า ไม่หมดวันไม่กลับวัดหรอก ตะวันไม่ตกดินหาทางกลับวัดไม่เจอ..!
มานึกเปรียบเทียบกับตัวเองว่า ทำไมอาตมาเป็นอย่างนี้ไปได้ ไม่คิดที่จะไปแวะไปเที่ยว ไปสนุกกับใครบ้างเลย ถ้าไม่ใช่ธุระปะปังที่จำเป็นจริง ๆ เสร็จธุระเมื่อไรก็กลับทันที แล้วก็มานึกถึงพวกเราที่เพิ่งไปเที่ยวภูเก็ตกันมา ความรู้สึกแบบนี้เคยเกิดกับตัวเองบ้างหรือไม่ ❓ แล้วสังเกตบ้างไหมว่า อะไรที่ยุ่งยากมากความของเรา ลดน้อยลงไปเรื่อย ๆ หรือว่ามีแต่เพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ ด้วยความมันในชีวิต ❓
⛅️ ที่กล่าวมาถึงตรงจุดนี้ จะเปรียบเทียบให้ฟังว่า การที่เราจะหลุดพ้นไปพระนิพพานได้ เราต้องจับจุดความเป็นพระโสดาบันให้ได้ก่อน เรายึดพระโสดาบันเป็นหัวหาด พระโสดาบันก็มีตั้ง ๓ ระดับ ก็คือ
สัตตักขัตตุปรมะ ท่านจะเกิดระหว่างมนุษย์กับเทวดาหรือพรหม จากมนุษย์ .. ไปเป็นเทวดา ลงมาเป็นมนุษย์ ... ขึ้นไปเป็นเทวดา ลงมาเป็นมนุษย์..ไปเป็นเทวดา ทั้งหมด ๗ ครั้ง ครั้งสุดท้ายก็ไปพระนิพพานเลย
โกลังโกละ เกิดระหว่างมนุษย์กับเทวดาหรือพรหม ๓ ครั้งเท่านั้น จากมนุษย์ .. ไปเป็นเทวดา ลงมาเป็นมนุษย์ แล้วจึงไปพระนิพพาน และ
เอกพีชี ยังอุตส่าห์ลงมาเกิดได้ ลงมาเป็นมนุษย์แล้วก็ไปพระนิพพานเลยทีเดียว
เห็นไหมว่า ในแต่ละระดับจิตของท่าน การแวะจะน้อยลงไปเรื่อย ๆ ที่แวะน้อยลงไปเรื่อย ๆ เพราะที่แวะสำหรับท่านหมดลงไปเรื่อย ๆ .. ‼️
⁉️ เราลองมาเปรียบเทียบกับตัวเราเองว่า ปัจจุบันที่แวะของเรา ยังเยอะเท่าเดิม หรือว่าน้อยลงไปเรื่อย ๆ ❓ ในการดำเนินชีวิตประจำวัน สิ่งที่เราไปเกี่ยวข้องด้วยนั้น ลดน้อยถอยลง หรือว่ามีแต่มากขึ้น ๆ ❓
❌ ถ้ามากขึ้น ก็มีแต่จะร้อยรัดให้เราติดอยู่มากขึ้นไปเรื่อย ๆ แต่ ✅ ถ้าลดน้อยถอยลงไปได้ โดยเฉพาะ พวกที่จะไปพระนิพพาน กำลังใจจะรวบรัด เล็งเป้ามุ่งตรงอย่างเดียวเลย จบแล้วจบกัน ไม่เอาอย่างอื่นอีกแล้ว ✅
⭕️ ถ้าเราสามารถทำอย่างนี้ได้ เราก็จะตรวจสอบ ความก้าวหน้าของเราเองได้ด้วยว่า กำลังใจปัจจุบันของเราอยู่ในลักษณะไหน ? อย่างที่เมื่อคืนบอกว่า เราตรวจสอบตัวเองด้วยอิทธิบาท ๔ หรือสัมมัปปธาน ๔ ก็ได้
แต่นี่ ให้ตรวจสอบง่าย ๆ ด้วยนิสัยของเราว่า เวลาไปไหน ยังเป็นลูกคุณช่างแวะอยู่หรือเปล่า ? ถ้ายังเป็นอยู่ ให้รู้ไว้เลยว่า แวะมากเท่าไร ถ้าเปรียบไปแล้ว ก็คือ เกิดมากเท่านั้น ได้ยินแล้วสยองบ้างไหม ? กรณีนี้บังคับไม่ได้นะ จะไปคิดว่าเราเองไม่แวะแล้วเราจะเกิดน้อยลง .. ก็ไม่ใช่
ต้องเกิดจากน้ำใสใจจริง กลายเป็นคนที่ว่า นอกจากเป้าหมายที่ตั้งใจไว้แล้ว ที่อื่นไม่เอา สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ จะเป็นพัฒนาการที่ค่อย ๆ ปรับปรุงตัวของเราเอง ให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งท้ายสุด พอไม่มีที่ไหนให้ไปอีกแล้ว ก็แวะพระนิพพานที่เดียวพอ
ถาม : กรณีที่เดินทางเพราะเป็นหนึ่งในเป้าหมายอยู่แล้ว ?
ตอบ : ถ้าหากว่าตั้งเป้าไว้แล้ว ถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้านอกเหนือจากนั้น จะไม่มีอารมณ์อยากแวะที่ไหนจริง ๆ ขอยืนยัน
เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ เราไม่สามารถที่จะรู้แล้วทำอย่างนั้นได้ ต้องเกิดจากน้ำใสใจจริง กำลังใจจะเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ✅ ไม่อย่างนั้น จะเป็นประเภทวิ่งผ่านไป ไม่ได้แวะแล้วก็รู้สึกเสียดาย ❌
ไม่ใช่บังคับให้ทำอย่างนั้น และไม่ใช่เป็นแนวทางว่าต้องเป็นอย่างนั้น เพียงแต่เล่าประสบการณ์ แล้วเปรียบเทียบ ให้ฟังว่า การปฏิบัติที่ผ่านมา มีลักษณะเป็นอย่างนั้น เราไม่จำเป็นต้องเลียนแบบตามทุกอย่าง แต่ขณะเดียวกัน อะไรที่รุงรังมากเรื่อง ถ้าสามารถตัดให้น้อยลงได้ ก็จะเป็นคุณแก่ตัวเองอย่างมหาศาล
พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ช่วงบ่าย ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันเสาร์ที่ ๗ มกราคม ๒๕๕๔
ที่มา : เว็บวัดท่าขนุนดอทคอม
ภาพประกอบ : เครดิตตามลายน้ำในภาพ
พระอาจารย์เตือน คนชอบเที่ยว ชอบแวะ
ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย Komodo, 9 กุมภาพันธ์ 2017.