พระเครื่อง รัชกาลที่ ๙ , อนุสรณ์มหาราช ๓ รอบ ๒๕๐๖ !!!!!!!

ชื่อบัญชี พีรณัฐ ธรรมอินทร์
ธ.ธนชาต 518-6-03862-0 (เซ็นทรัลเชียงราย)
โทร. 085-7181799 , 087-3603374

ขออนุญาตให้สิทธิ์ในการจองไม่เกิน 3 วัน
และสามารถคืนพระได้ภายในเวลา 7 วัน
*รับประกันแท้ 100% หากเก๊ยินดีคืนเงินเต็มจำนวน พร้อมค่าเสียเวลา*

รบกวนค่าจัดส่ง แบบลงทะเบียน 30 บาท , EMS 50 บาท

 

รายการที่ ๑. เหรียญคุ้มเกล้า เนื้อนวะโลหะ ปี ๒๕๒๒ (ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ๒.๕ ซม.) *ยังไม่ได้แกะจากซอง* มีผู้จองแล้ว

เหรียญคุ้มเกล้า โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช พิมพ์ใหญ่ เนื้อนวโลหะ ดำเนินการจัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๒ โดยมูลนิธิมูลนิธิคุ้มเกล้าฯในพระบรมราชูปถัมภ์

วัตถุประสงค์ :
เนื่องในวาระครบรอบ ๓๐ ปีของการให้บริการ โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช เมื่อ ๒๗ มีนาคม ๒๕๒๒ กองทัพอากาศได้ดำริสร้างอาคารอุบัติเหตุและฉุกเฉินขนาดใหญ่สูง ๑๒ ชั้นที่ทันสมัย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลและเสริมสร้างบารมีปกเกล้าปกกระหม่อมบรรดาผู้ป่วยทั้งหลายไปชั่วกาลนาน โดยสิ้นค่าใช้จ่ายกว่า ๖๐๐ ล้านบาท จากเงินที่ประชาชนทั่วประเทศร่วมใจกันบริจาค

พุทธลักษณะ
ด้านหน้า : เป็นพระบรมฉายาลักษณ์
ด้านหลัง : มีพระปรมาภิไธยย่อ “ภ.ป.ร.”

พิธีลงอักขระแผ่นยันต์อักขระที่ใช้สร้าง ′เหรียญคุ้มเกล้า′
แผ่นแรกเป็นปฐมฤกษ์ เมื่อวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๒๖ โดยมี สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช ทรงเป็นประธาน พร้อมด้วยพระเถระอีก 60รูป ที่ได้มาร่วมสวดเจริญพระพุทธมนต์ในวันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ภายในพระอุโบสถของวัดราชบพิธ

หลังจากนั้นได้นำแผ่น ทอง นาก เงิน ไปให้พระเถราจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิทั่วประเทศ จารึกอักขระจนครบ ๑,๒๕๐ รูป อาทิ
- พระราชวุฒาจารย์(หลวงปู่ดุลย์) วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์
- พระคุณเจ้าหลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่
- พระสุพรหมยานเถร (หลวงปู่พรหมจักร) วัดพระพุทธบาทตากผ้า ลำพูน
- พระอุดมสังวรเถร(หลวงพ่ออุตตมะ) วัดวังวิเวการาม จ.กาญจนบุรี
- พระสุนทรธรรมภาณี(หลวงพ่อแพ) วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี
- พระนิโรธรังสี คัมภีรปัญญาจารย์ (หลวงปู่เทสก์) วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
- หลวงพ่อเกษม เขมโก วัดป่าช้าไตรรัตนาราม อ.เมือง จ.ลำปาง
- พระครูสุวรรณประดิษฐการ (หลวงพ่อจ้อย) วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ อ.ดอนสัก จ.สุราษฏร์ธานี
- สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศวิหาร กทม. เป็นต้น

พิธีเททองหล่อ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถเสด็จฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปทรงเททองหล่อพระพุทธรูปคุ้มเกล้าฯ ณ วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ซึ่งตรงกับวันที่ ′หลวงปู่แหวน สุจิณโณ′ มีอายุครบ ๙๗ ปี เมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๒๗ โดยมีสมเด็จพระสังฆราช พร้อมด้วยพระเถระผู้ใหญ่ผู้ทรงคุณอีก ๙ รูป เจริญชัยมงคลคาถา ในโอกาสนี้ได้ทรงทำพิธีหลอมแผ่นทอง นาก เงิน ที่ได้ทำพิธีลงอักขระแล้ว เป็นชนวนนำไปสร้างวัตถุมงคลคุ้มเกล้าต่อไป

พิธีพุทธาภิเษก
ประกอบพิธีพุทธาภิเษกหมู่อย่างยิ่งใหญ่มโหฬาร ๔ วัน ๔ คืน ตั้งแต่วันที่ ๖-๙ เมษายน พ.ศ.๒๕๒๗ โดยทำการโยงสายสิญจน์จากพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามมายังปะรำพิธี ณ ท้องสนามหลวง นิมนต์พระเถรานุเถระผู้ทรงคุณ เกจิอาจารย์ดัง ๑๐๘ รูปจากทั่วประเทศผลัดเปลี่ยนกันนั่งปรกปลุกเสกตลอดรวม ๔ คืน อาทิ
- สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช ประธานฝ่ายสงฆ์จุดเทียนชัย
- สมเด็จพระญาณสังวรฯ เป็นประธานดับเทียนชัย
- หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง
- หลวงพ่อเกษม เขมโก ลำปาง
- หลวงปู่ดุลย์ วัดบูรพา สุรินทร์
- หลวงปู่สาม วัดป่าไตรวิเวก
- หลวงพ่อสิม วัดถ้ำผาปล่อง
- หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
- หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม
- หลวงพ่อหลุย วัดเจติยาวิหาร
- หลวงปู่ครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า
- หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
- หลวงพ่อพุธ วัดป่าสาลวัน
- หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่
- หลวงพ่อพวง วัดศรีธรรมาราม
- หลวงพ่อพุฒ วัดมณีสถิตย์
- หลวงพ่อเปรื่อง วัดบางคลาน
- หลวงพ่อฮวด วัดหัวถนนใต้
- หลวงพ่อคำแสน วัดถ้ำผาเงา
- หลวงพ่อโอด วัดจันเสน
- หลวงพ่อบุญมี วัดท่าสะต๋อย เป็นต้น

สำหรับวัตถุมงคลรุ่นคุ้มเกล้า ในวันแรกของพิธี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปทรงจุดไฟพระฤกษ์ ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม มอบให้ พล.อ.อ.ประพันธ์ ธูปะเตมีย์ ผบ.ทอ. อัญเชิญเข้าขบวนแห่มายังปะรำพิธี จากนั้นในเวลา ๑๙.๑๙ น. สมเด็จพระสังฆราช เสด็จมาจุดเทียนชัยจากไฟพระฤกษ์ เริ่มพิธีพุทธาภิเษกจนถึงรุ่งอรุณของวันที่ ๔ สมเด็จพระญาณสังวรฯ เป็นประธานดับเทียนชัย เป็นอันเสร็จสิ้นพิธีพุทธาภิเษก

แหล่งที่มา :
ข่าวสดออนไลน์ วันที่ ๙ เมษายน ๒๕๕๕ และ วันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๕๕

 

รายการที่ ๒. พระพุทธนราวันตบพิธ ปิดครับ มีผู้บูชาจากนอกเวปแล้วครับ

พระพุทธนราวันตบพิธ เป็นพระที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ ให้ประชาชนซึ่งเป็นพสกนิกรของพระองค์ได้มีไว้เป็น สายใยกับพระองค์ท่าน เพราะมีมวลสารสำคัญ คือเส้นพระเจ้า (พระเกศา) ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในมวลสารพระด้วย

ในวาระอันเป็นมิ่งมงคลสมัยอย่างยิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระ ชนมพรรษา ๗๒ พรรษา ปี ๒๕๔๒ ทรงกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน พระบรมราชานุญาตให้จัดสร้างพระพุทธนราวันตบพิธขึ้น เนื่องจากพระองค์ทรงทราบว่า สมเด็จจิตรดาที่ทรงสร้างด้วยพระองค์เอง มีผู้ต้องการและเสาะแสวงหากันมาก เมื่อมีโอกาสที่เหมาะสมจึงพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้สร้างพระสำหรับ พสกนิกรผู้จงรักภักดีของพระองค์ท่าน โดยให้เป็นพระที่เกี่ยวเนื่องกับพระบาทสมเด็จเจ้าอยู่หัวที่ใครๆ ก็สามารถบูชาได้

เมื่อคราวที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงผนวชเมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๙ ที่วัดบวรนิเวศวิหาร และเสด็จมาประทับ ณ พระปั้นหยา วัดบวรนิเวศวิหาร ได้ทรงสถาปนาพระพุทธปฏิมาประจำพระองค์ไว้ในพระบวรพระพุทธศาสนา

เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๙๙ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ได้ถวายพระนามพระพุทธปฏิมานี้ว่า "พระพุทธนราวันตบพิธ" ได้เชิญขึ้นประดิษฐานไว้ ณ พระปั้นหยาเป็นพระราชกุศลสืบไป

องค์พระพุทธนราวันตบพิธ เป็นพระยืนยกพระหัตถ์ทั้งสอง ปางห้ามสมุทร อันเป็นพระประจำพระชนมวาร คือ วันจันทร์ ประทับยืนบนฐานกลมบัวคว่ำบัวหงายบนตั่งแข้งสิงห์เหนือหน้ากระดาน และมีฐานภัทรบิฐ สัญลักษณ์ประจำพระองค์รองอีกชั้นหนึ่ง ความสูงถึงสุดพระรัศมี ๓๖.๕ เซนติเมตร ลงรักปิดทองตลอดทั้งองค์พระและฐาน

คณะกรรมการจัดสร้างขณะนั้น คือ พลอากาศตรีกำธน สินธวานนท์ องค์มนตรี เป็นประธานกรรมการอำนวยการ และนายวัลลภ เจียรวนนท์ กรรมการบริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ เป็นกรรมการดำเนินงาน เพื่อเป็นอนุสรณ์ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระ ชนมพรรษา ๗๒ พรรษา และเพื่อให้พสกนิกรชาวไทยได้ร่วมบริจาคทรัพย์เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย โดยเสด็จพระราชกุศลสมทบทุนมูลนิธิชัยพัฒนา เมื่อนำความกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดสร้างพระพิมพ์เป็นพระเนื้อผง จากต้นแบบพระพุทธนราวันตบพิธพระพุทธรูปฉลองพระองค์

ประการสำคัญที่สุดได้พระราชทานมวลสารส่วนพระองค์ โดยเฉพาะเส้นพระเจ้า (เส้นพระเกศาของพระองค์) ให้นำมาผสมในเนื้อพระ เพื่อให้พสกนิกรได้อยู่ใกล้ชิดพระองค์ตลอดไป

พระเนื้อผงที่จัดสร้างเป็นพระประทับยืนยกพระหัตถ์สองข้างบนพื้นที่ทำเป็นรูป ซุ้มโค้งแหลม สูง ๓.๒ เซนติเมตร ด้านหลังประดิษฐานตราสัญลักษณ์เฉลิมพระชนมพรรษา ๗๒ พรรษา

เนื้อหามวลสาร นอกจากเส้นพระเจ้าและมวลสารส่วนพระองค์แล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยังพระราชทานมวลสารมหามงคลอีกประการหนึ่งคือ พระจีวรที่องค์ครองคราวเสด็จออกผนวชเมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๙ นอกจากนั้น คณะกรรมการยังได้รวบรวมมวลสารจากพระธาตุสำคัญทุกปีเกิด จากวัดสำคัญ ๑๔๓ วัดทั่วประเทศ สถานที่สำคัญอันได้แก่ ประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน ในอินเดียและศรีลังกา นอกจากนี้ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ก็ได้ทรงพระราชทานมวลสารพุทธมงคลสำคัญมาร่วมสร้างพระพิมพ์พระพุทธนราวันตบ พิธ อีกจำนวนมาก

สำหรับการผสมมวลสารมหามงคลพระราชทานนั้น อาจารย์อนันต์ สวัสดิ์สวนีย์ ซึ่งเป็นนายช่างแห่งกองช่างสิบหมู่ กรมศิลปกร ได้นำมวลสารมหามงคลทั้ง ๓ ประการ มาซอยและย่อยให้เป็นผงละเอียดยิบ เพื่อจะได้ผสมมวลสารอย่างอื่นอย่างทั่วถึง เพราะฉะนั้นประชาชนทุกท่านมีสิทธิ์ได้รับมวลสารมหามงคลอย่างถ้วนทั่วกัน

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ทรงเป็นองค์ประธานประกอบพิธีมหาพุทธาภิเศก เมื่อวันจันทร์ที่ ๑๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๒ โดยสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ทรงมอบให้สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว) วัดสระเกศ เป็นประธานเจริญพระพุทธมนต์และจุดเทียนชัย มีพระเถระและพระคณาจารย์ รวม ๗๒ รูปทั่วประเทศ อาทิ

สมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม กรุงเทพมหานคร หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญบรรพตหนองคาย หลวงปู่ท่อน ญาณธโร วัดศรีอภัยวัน เลย หลวงพ่อพวง สุวีโร วัดป่าปูลู สกลนคร หลวงพ่อบุญเพ็ง กัปปโก วัดป่าวิเวกธรรม ขอนแก่น หลวงปู่หงส์ พรหมปัญโญ วัดเพชรบุรี สุรินทร์ หลวงพ่อม่วง วัดยางงาม ราชบุรี หลวงปู่ทิม วัดพระขาว พระนครศรีอยุธยา ฯลฯ

 

รายการที่ ๓. พระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ หลวงพ่อดำ พ.ศ.๒๕๓๙ เนื้อเงิน หมายเลข ๔๒๓ ๑๘๐๐ บาท

พระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ สร้างด้วยโลหะผสมรมดำทั้งองค์ ชาวบ้านจึงเรียกกันว่า “หลวงพ่อดำ” ประดิษฐานอยู่ในมณฑปทรงไทยแบบจตุรมุข พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเททองหล่อองค์พระ ณ กรมการรักษาดินแดน ทั้งนี้ ได้ทรงมีพระราชดำริให้จัดสร้างพระพุทธรูปขึ้นทั้งหมด ๔ องค์ เพื่อนำไปประดิษฐานยังทิศทั้งสี่ทั่วประเทศ รวม ๔ จังหวัด ได้แก่ ทิศเหนือ-จังหวัดลำปาง ทิศใต้-จังหวัดพัทลุง ทิศตะวันออก-จังหวัดสระบุรี และทิศตะวันตก-จังหวัดราชบุรี โดยสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๑

พระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ หรือพระสี่มุมเมือง ในประเทศไทยจึงมีอยู่ ๔ องค์ กล่าวกันว่า จัดสร้างขึ้นตามความเชื่อโบราณตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา ที่จะต้องมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกป้องขอบขัณฑสีมาทั้ง ๔ ทิศ โดยการสร้างพระพุทธรูปไว้ ๔ มุมเมือง หรือที่เรียกว่า “จตุรพุทธปราการ” คือ การนำเอาพระพุทธรูปไปประดิษฐานเป็นปราการทั้ง 4 ด้าน เพื่อปกป้องภยันตรายจากอริราชศัตรู ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย เสริมสร้างดวงชะตาเมือง และคุ้มครองพสกนิกรให้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข

พระพุทธนิรโรคันตราย ชัยวัฒน์จตุรทิศ รูปหล่อจำลองลอยองค์ สร้างปี ๒๕๓๙ ถอดแบบมาจากองค์จริง เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิที่มีลักษณะพุทธศิลป์ที่สวยงาม โดยได้รับพระบรมราชานุญาตให้ประดิษฐาน พระปรมาภิไธย ภปร. ไว้ที่ฐานพระพุทธรูป

 

จองครับ

 

รับทราบการจองครับ

 

ซองเดิมแบบนี้ไม่เคยเห็น

 

ขอบูชารายการที่ ๒ ครับ

 

จำได้ว่า บูชาจากที่ทำการไปรษณีย์ เมื่อ ๗ ปีที่แล้ว (๒๕๕๒) สมัยยังเรียน ม.ปลาย ครับ (deejai)

 

ขอกราบอภัยอย่างสูงครับ รายการนี้มีผู้โทรมาจอง จากนอกเวปแล้วครับ (ขอโทษด้วยนะครับ ช่วงก่อนหน้านี้ ผมไม่ได้เฝ้าอยู่หน้าจอคอมฯ เลยครับ) :'''(

 

รายการที่ ๓. พระพุทธกาญจนพรสยามภูมิ พ.ศ.๒๕๓๙ ๑๕๐ บาท


พระพุทธกาญจนพรสยามภูมิ พระพุทธรูปประจําพระชนมวาร พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ เนื่องในวโรกาสครองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปี ในปีพุทธศักราช ๒๕๓๙ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ศิษย์ วปอ. โดยสมาคมวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร จัดสร้างพระพุทธกาญจนพรสยามภูมิ โดยจำลองแบบจากพระพุทธรูปประจำพระชนมวารองค์จริง ที่ประดิษฐาน ณ หอสุลาลัยพิมาน หมู่มหามณเฑียร ในพระบรมราชวัง

การนี้ได้พระราชทานพระมหากรุณาเชิญอักษรพระปรมาภิไธย ภปร ประดิษฐานที่พระพุทธรูปและพระเครืองประจำพระชนมวาร กับทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานโลหะชนวน และพระราชทานนามว่า พระพุทธกาญจนพรสยามภูมิ พร้อมกับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้กระทำพิธีเททอง และพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถพระศรีรัตนศาสดาราม

ผงพุทธคุณและโลหะชนวนอันศักดิ์สิทธิ์ นำมาประกอบพิธีมีดังนี้
๑.โลหะชนวน ผงมงคลชนวน ได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๒.ชนวนโลหะสร้างพระ ภปร เมื่อ พศ ๒๕๐๙ ได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ
๓. พระเกศา สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช
๔.ทองคำเปลวปิดทอง หลวงพ่อวัดบ้านแหลม หลวงพ่อโต วัดป่าเลไลย์วรวิหาร หลวงพ่อโสธร
๕.แผ่นโลหะเงิน ทอง นาค ตะกั่ว ลงยันต์อักขระ โดย หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ , หลวงปู่หลอด , หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ , อาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป , หลวงพ่อพุธ ฐานิโย , พระอาจารย์จำเนียร สีลเสฎโฐ , หลวงปู่แปลง สุนทโร , หลวงพ่ออั้น อภิปาโล หลวงพ่อพวง สุวีโร , หลวงพ่อแพ
๖.เกศาหลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
๗.ดินเขาใหญ่
๘.ชานหมาก ครูบาดวงดี สุภัทโท วัดท่าจำปี จ.เชียงใหม่ , พ่อท่านคลิ้ง วัดศรีสุวรรณ จ.ตรัง
๙.ผงชนวนสร้างพระเครื่อง หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
๑๐.ผงบูชาวัดพระศรีอุมาเทวี (วัดแขก) ก.ท.ม
๑๑.ผงปูนขาวและเศษผงมงคล สร้างสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังษี กทม
๑๒.โลหะชนวน สร้างพระเง็กเฃียนฮ่องเต้ (พระอิศวรเทวรเทวราชเจ้า)
๑๓.แผ่น เงิน ทอง นาค ลงยันต์อธิษฐานจิต แผ่เมตตาได้รับจาก สมเด็จพระสังฆราช ศรีลังกา
๑๔.มวลสารศักดิ์สิทธิ์ จากวัดกัลยาณี วัดมหิทเล ดอกไม้บูชา พระบรมธาตุเขี้ยวแก้ว ประเทศศรีลังกา
๑๕.ดอกไม้บูชา พระแก้วมรกต , หลวงพ่อโต , หลวงปู่มั่น , หลวงปู่ขาว , หลวงปู่เทศก์ , หลวงปู่ชอบ , หลวงพ่อสด , หลวงปู่มหาบูญมี , หลวงปู่ดุลย์ , พระสยามเทวาธิราช , หลวงพ่อทวด , สมเด็จพระนเรศวรมหาราช , สมเด็จพระปิยมหาราช , สมเด็จพระปิยมหาราช , สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช , หลวงพ่อวัดไร่ขิง
๑๖.ผงว่านชนวนโลหะ จากสมเด็จพระญาณสังวร สกลมหาสังฆปริณายก วัดบวรนิเวศวิหาร

อธิษฐานจิต พุทธาภิเษก ๑๖ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๔๐ โดย
สมเด็จสังฆราช วัดบวรนิเวศ , พระ อ.จําเนียร จ.กระบี่ , หลวงพ่อสมชาย วัดเขาสุกิม , หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ , หลวงพ่อพูล นครปฐม , หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ , หลวงพ่อดํา วัดใหม่นภาราม , พระครูอนุกูลปริยัติกิจ วัดช้างให้ , หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง , หลวงพ่อเก๋ วัดแม่น้ำ จ.สมุทรสงคราม รวมเกจิอาจารย์ ๕๔ รูป

ขอบคุณข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต

 

สวัสดีน้อง ฉลองเปิดร้านใหม่ ขอให้ร่ำรวย ๆ ^^

 

โอนแล้วครับ 950 บาท วันที่ 10/11/59 เวลา 16.57 น. เช็คดูนะครับ
ส่งที่ จิรัฏฐ์ ฉัตรศิริสกุล
571 หมู่4 นิคมอุตสาหกรรมบางปู ซอย 11 บี
ต.แพรกษา อ.เมือง สมุทรปราการ 10280

 

รับทราบการโอนครับ เดี๋ยวรีบจัดส่งให้ครับผม

 

รายการที่ ๔. เหรียญอนุสรณ์มหาราช พ.ศ.๒๕๐๖ หน้าสวย ๒,๕๐๐ บาท


สร้างในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเฉลิมพระชนม์พรรษาครบ 3 รอบ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2506 เหรียญเสมา (รูปอาร์มหรือโล่ห์) ขนาด 1.8 X 1.6 ซ.ม. เป็นเนื้ออัลปาก้า ผ่านพิธีปลุกเสกใหญ่ ณ อุโบสถวัดราชบพิธ 2 วาระด้วยกัน 1. ครั้งแรกวันที่ 29-30 พ.ย.2506 2. และระหว่างวันที่ 5-6-7 เมษายน 2507

รายนามพระคณาจารย์ที่ปลุกเสกวันที่ วันที่ 29 - 30 พฤศจิกายน 2506 ณ พระอุโบสถวัดราชบพิธ (พิธีครั้งที่ 1)
1. หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก อยุธยา
2. หลวงพ่อพระครูโพธิสารประสาธน์ วัดโพธิสัมพันธ์ บางละมุง ชลบุรี
3. หลวงพ่อพระวรพจรน์ปัญญาจารย์ วัดอรัญญิกาวาส ชลบุรี
4. หลวงพ่อเมือง วัดท่าแหน แม่ทะ ลำปาง
5. หลวงพ่อพระราชหระสิทธิคุณ วัดราชธานี สุโขทัย
6. หลวงพ่อเงิน (พระราชธรรมาภรณ์ )วัดดอนยายหอม นครปฐม
7. หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม นครปฐม
8.พ่อท่านคล้าย วัดสวนขวัญ ฉวาง นครศรีธรรมราช
9. พระครูวิสัยโสภณ (อาจารย์ทิม) วัดช้างไห้ ปัตตานี

รายนามพระคณาจารย์ที่ปลุกเสกวันที่ 5 เมษายน 2507
1. พระสุเมธมุนี เจ้าคณะวัดบางหลวง ปทุมธานี
2. พระสุนทรศีลสมาจาร (หลวงพ่อผล) วัดหนัง ธนบุรี
3. พระครูปลัดบุญรอด วัดประดู่พัฒนาราม นครศรีธรรมราช
4. หลวงพ่อทบ วัดสว่างอรุณ ชนแดน เพชรบูรณ์
5. พระครูนนทกิจวิมล ( หลวงพ่อชื่น) วัดตำหนักเหนือ นนทบุรี
6. หลวงพ่อบัว วัดป่าบ้านตาด อุดรธานี
7. พระครูพุทธมนต์วราจารย์ (พระปลัดสุพจน์) วัดสุทัศน์ พระนคร
8. พระครูบวรธรรมกิจ (หลวงปู่เทียน) วัดโบสถ์เชียงราก ปทุมธานี
9. หลวงพ่อหอม วัดขากหมาก ระยอง

รายนามพระคณาจารย์ที่ปลุกเสกวันที่ 6 เมษายน 2507
1. พระครูพิทักษ์วิการกิจ (หลวงพ่อสา) วัดราชนัดดา พระนคร
2. พระครูสถาพรพุทธมนต์(หลวงพ่อสำเนียง) วัดเวฬุวนาราม บางเลน นครปฐม
3. พระครูธรรมิตรนุรักษ์ วัดเขาหลัก ท่าศาลา นครศรีธรรมราช
4. พระครูรักขิตวันมุนี (หลวงพ่อถีร์) วัดป่าเลไลย์ สุพรรณบุรี
5. พระเทพสังวรวิมล (หลวงพ่อเจียง) วัดเจริญสุขาราม สมุทรสงคราม
6. หลวงพ่อสำเภา วัดหงส์รัตนาราม บางกอกใหญ่ ธนบุรี
7. พระครูบาวัง วัดบ้านเด่น จ.ตาก
8. พระมุจรินทร์โมลี (หลวงปู่ดำ) วัดมุจรินทร์ หนองจิก ปัตตานี

รายนามพระคณาจารย์ที่ปลุกเสกวันที่ 7 เมษายน 2507
1. หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก บางไทร อยุธยา
2. พระครูโพธิสารประสาธน์ (อาจารย์บุญมี) วัดโพธิสัมพันธ์ ชลบุรี
3. พระวราพจน์ปัญญาจารย์ (หลวงพ่อวัดป่า) วัดอรัญญิกาวาส ชลบุรี
4. หลวงพ่อเมือง วัดท่าแหน แม่ทะ ลำปาง
5. พระราชประสิทธิคุณ (หลวงพ่อทิม) วัดราชธานี สุโขทัย
6. พระราชธรรมาภรณ์ (หลวงพ่อเงิน) วัดดอนยายหอม นครปฐม
7. หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม นครปฐม
8. พระมงคลเทพมุนี (หลวงพ่อเมี้ยน) วัดพระเชตุพน พระนคร
9. พระครูวิสัยโสภณ (อาจารย์ทิม) วัดช้างไห้ โคกโพธิ์ ปัตตานี

การเริ่มพิธีนั้น พระเจริญคาถาภารวาณจะ ตั้งแต่เวลา 15.00 น.ของแต่ละวัน พระคณาจารย์ทุกรูปจะผลัดเปลี่ยนกันนั่งปรกบริกรรมกันตลอดเวลา จนตลอดรุ่งของทุกวัน จนถึงเช้าตรู่วันที่ 8 เมษายน 2507 เวลา 6.00 น. พระอาจารย์ที่นั่งปรกวันที่สามทั้งหมดทุกรูปประชุมพร้อมกันปลุกเสกเงียบเป็น เวลา 30 นาทีพอครบเวลาตามที่กำหนด เจ้าหน้าที่ลั่นฆ้องชัย พราหมณ์ เป่าสังข์แกว่งบัณเฑาะว์ ปี่พาทย์ทำเพลง 3 ลา พระคณาจารย์ทุกรูปประพรมน้ำพุทธมนต์เหรียญเสมาทั้งหมดที่เข้าพิธีเสร็จแล้ว เจิม พระพิธีธรรมเจริญคาถาดับเทียนชัย สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ดับเทียนชัย พราหมณ์เริ่มพิธีเบิกแว่นเวียนเทียนสมโภชเป็นเสร็จการพิธี

ขอบคุณข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต

 

แจ้งเลขพัสดุครับ

EQ569663586TH