พระเครื่อง/เครื่องรางทั่วไป

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย tee_tores, 18 พฤษภาคม 2020.

แท็ก: แก้ไข
  1. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,110
    ค่าพลัง:
    +53,094
    ปิด

    IMG_8817.jpeg IMG_8816.jpeg IMG_8812.jpeg IMG_8813.jpeg IMG_8814.jpeg IMG_8815.jpeg

    บูชา องค์ละ 700 บาท

    พระผงหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด "รุ่นหน่อพุทธภูมิ"พระรุ่นนี้อาจารย์ศุภรัตน์ แสงจันทร์ และคณะศิษย์ได้ร่วมกันจัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นการสร้างกุศลบุญและศิริมงคลในหมู่ลูกศิษย์ขององค์หลวงปู่ ทั้งนี้ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็น อาจาริยบูชา บูชาพระคุณครูบาอาจารย์ทุกท่านแต่อดีตสืบกันมา มีองค์หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด หลวงปู่ดู่วัดสะแกเป็นที่สุด ลักษณะขององค์พระมีขนาดและรูปร่างใกล้เคียงกับพระรุ่นเปิดโลกเนื้อผงของหลวงปู่ดู่ เพิ่มเติมโดยนำเอาคาถาภูตพระพุทธเจ้า ของหลวงปู่ดู่ มาพิมพ์ไว้ด้านหลังขององค์พระ มวลสารที่นำมาใช้ในการสร้างพระหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด รุ่นหน่อพุทธภูมิ 1. ผงมหาจักรพรรดิ์ (กำลังจักรพรรดิ์) ลูกแก้วมณีนพรัตน์ , สายสิญจนะเปิดโลก,กระจกโลงแก้ว ของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก จ.พระนครศรีอยุธยา 2. ผลจิตรลดา (กำลังแผ่นดิน) ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราชโดยสมเด็จพระญาณสังวรฯ ประทานแก่ พล.อ.ท.จิโรจน์ฉายะพงษ์ เจ้ากรมสื่อสารทหารอากาศ เพื่อจัดสร้างพระพุทธสิหิงค์ (ส.ทอ.) 3. ผลข้าวที่เหลือจากการเสวยและดอกไม้บูชาพระของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวโรกาสเสด็จพระราชดำเนิน ณ วัดดอนมูล จ.เชียงใหม่ 4. ปูนแท่นบัวพระประธานปางมหาจักรพรรดิ์ วัดหน้าพระเมรุ 5. ทองคำเปลวปิดองค์หลวงพ่อโตวัดพนัญเชิง หลวงพ่อพุทธชินราช และหลวงพ่อมงคลบพิตร 6. ผลกระเบื้องหลังคามณฑปพระพุทธบาทสี่รอย จ.เชียงใหม่ 7. ผงพระพุทธสิหิงค์ของกรมการสื่อสารทหารอากาศ พิธี 60 ปีธรรมศาสตร์ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม 8. ผลอธิษฐานจิตจาก 600 พระคณาจารย์ ในพิธีสมโภชน์ 600 ปี เจดีย์หลวงเชียงใหม่ 9. ผงพระธาตุ 500 พระอรหันต์ จากถ้ำตับเตา จ.เชียงใหม่ 10. ผงวิเศษจากถ้ำพระธรรมมาสน์ จ.พิษณุโลก 11. ผงพระธาตุพระสิวลีและพระอรหันต์สาวก 12. ดินสังเวชนียสถานทั้ง4 จากชมพูทวีป 13. ผงตะไบแผ่นทองชนวน พระพุทธสิหิงค์ ส.ทอ.ของพระคณาจารย์ 140 รูปทั่วประเทศ อาทิ หลวงปู่เทสก์ หลวงพ่อแพ หลวงปู่เหรียญ หลวงพ่อเปิ่น หลวงพ่ออุตตะมะ ฯลฯ 14. ผงว่าน 108 ชนิด 15. ผงว่านยาจากการสร้างพระกลีบบัวของหลวงปู่หล้า ตาทิพย์ 16. ผงพระพุทธคุณทั้ง 4 17. ผงสูรย์จันทร์ ผงนิพพานสูญ 18. ทรายเสก 8 พิธี มหาพุทธาภิเษก 19. ผงว่าน 108 และดินกากยายักษ์ของครูบากองแก้ว 20. ข้าวสารดำและข้าวสารหิน 21. ผลดินถ้ำบาดาล 22. ผลธูปและดอกไม้ บูชาพระแก้วมรกตและพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญฯ ทั่วประเทศ 23. ผงกันกรุ จ.อยูธยา 24. ปูนองค์พระธาตุดอยสุเทพ 25. ดินพระธาตุศรีจอมทอง 26. ผลเศษหยก, เครือสาวหลง,ผงกะลาตาเดียว, ผงฤาษีพนมไพร, ผลไม้งิ้วดำ, ผงไม้กาหลง ผลชนวนพระกริ่งวัดชิโนรส, ผงเกษตรดอกไม้มงคล 27. ผลธูปและปฐวีธาตุ หลวงปู่คำพันธ์ 28. ผงระฆังเงิน, ผงวัดสามปลื้ม 29. ผงพระวัดปากน้ำ รุ่น 1,2,3,4 30. แป้งเสกหลวงปู่บุดดา ถาวโร 31. ผงกาฝากทั้ง9 32. ผงยันต์เกราะเพชร หลวงปู่ป่าน 33. ผงอิทธิเจ หลวงพ่อเดิม 34. ผงพุทโธ หลวงพ่อเภา 35. ผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม จ.ระยอง 36. ผงพุทธคุณ หลวงปู่รุ่ง 37. ผงญาณวิลาศ หลวงพ่อแดง 38. ผงกระสังฆราชสุกไก่เถื่อน 39. ผงพระกรุวัดเงิน 40. ผงพระเนื้อดิน โคนสมอ 41. ทรายทองคำ พระธาตุพนม 42. ผงกระทับข้าว 43. ผงบ่อดิน เทวดา และผงวิเศษ หลวงปู่ดื้อ 44. ใบเลียบและดินที่ฝังรกหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด 45. ชันนะโรง หลวงเสดังคมุนี 46. ผงพระวัดป่าชัยวัน จ.ขอนแก่น พระอาจารย์สิงห์ วัดป่อสาลวัน และพระกรรมฐานกว่า 100 รูป ร่วมอธิษฐานจิต 47. ข้าวก้นบาตร หลวงปู่หล้า เขมปัตโต 48. ผงสมเด็จบางขุนพรหมที่ชำรุดครั้งเปิดกรุ ปี 2501 49. ผงพุทธคุณทั้ง 5 หลวงปู่เลี้ยง วัดหนองเต่า 50. ผงพุทธคุณ หลวงปู่กวย วัดโฆษิดาราม 51. พลอยเสกของหลวงปู่เกษม และครูบาชัยยะวงศา 52. น้ำมันจันทร์เสก หลวงปู่หล้า ตาทิพย์ 53. น้ำบ้วนปาก หลวงปู่มหาบัว 54. น้ำมนต์ 109 วัดน้ำมันชาตรีหลวงพ่อฤาษีลิงดำ 55. น้ำผึ้งเสาร์ 5 56. ไคลเสมาดิน โบสถ์วัดทรายขาว จ. ปัตตานี 57. ดินใจกลางประเทศซึ่งหลวงปู่ทวดเคยมาจำพรรษา ณ วัดราชานุวาส จ.พระนครศรีอยุธยา 58. หินเขี้ยวหนุมาน 59. ผงพุทโธ หลวงพ่อเภา 60. ข่าวสารเสกครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร วัดพระธาตุดอนเรือง ประเทศพม่า 61. หมากพลู และไม้โลงหลวงพ่อสนธิ์ วัดไทรย์ จ.อ่างทอง 62. ผงศักดิ์สิทธิ์ หลวงปู่กอง วัดสระมณฑล 63. อิฐยุทธหัตถี อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี 64. อิฐพระสถูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่เมืองงาย และเมืองหาง และมวลสารอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก รวมทั้งได้นำเกศา ชานหมาก อังคารธาตุ อัฐิธาตุ จีวร อังสะ ยาเส้นอย่างใดอย่างหนึ่ง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มีนาคม 2024
  2. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,110
    ค่าพลัง:
    +53,094
    ปิดครับ

    IMG_8839.jpeg IMG_8840.jpeg IMG_8838.jpeg

    เหรียญรัชกาลที่ 5 ที่ระลึกสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ ณ ป้อมพระจุลจอมเกล้า ปี2535 ตอก 2 โค๊ต

    เหรียญที่ระลึก “สร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ ณ ป้อมพระจุลฯ” พ.ศ.2535 เพื่อเป็นที่ระลึกในการสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ที่ป้อมพระจุลจอมเกล้า ในวันที่ 23 ตุลาคม 2535 ด้านหน้าเป็นพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงชุดจอมพลเรือ ด้านหลังมีพระนามาภิไธยว่าสยามินทร์ นอกจากถุงแดงมีบทบาทในการคลี่คลายปัญหาวิกฤติการณ์ ร.ศ.112 แล้ว ป้อมพระจุลจอมเกล้าก็ได้มีบทบาทในการป้องกันประเทศด้วย ดังนั้น เมื่อวันที่ 10 เมษายน พ.ศ.2535 อันเป็นวาระครบ 99 ปีของป้อม หน่วยงานรัฐบาลและภาคเอกชนพร้อมด้วยประชาชน จึงพร้อมใจกันแสดงความกตัญญูกตเวทิตา และถวายความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ได้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอย่างใหญ่หลวงต่อพสกนิกรชาวไทย ในการป้องกันเอกราช และอธิปไตยของประเทศไทย จึงได้ตกลงที่จะสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระองค์ประดิษฐาน ณ ป้อมพระจุลฯ เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาของพระองค์ ผู้ทรงก่อสร้างสถานที่สำคัญทางยุทธนาวีแห่งนี้ โดยพระบรมราชานุสาวรีย์ ที่จัดสร้างนี้ ทรงชุดทหารเรือ ประทับยืนสูงสองเท่าครึ่งของพระองค์จริง เหรียญที่ระลึก “สร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ ณ ป้อมพระจุลจอมเกล้า” นับเป็นเหรียญที่ระลึกรุ่นแรกที่จัดสร้าง จึงเป็นที่นิยมของนักสะสม เพราะลวดลายคมชัด ด้านข้างเหรียญมีฟันเฟือง ทำพิธีปลุกเสก ที่ป้อมพระจุลฯ พระประแดง จ.สมุทรปราการ โดยมี สมเด็จพระสังฆราชฯ เป็นประธานในพิธี

    และมีเกจิคณาจารย์ชื่อดังร่วมปลุกเสกหลายท่าน เช่น หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง

    หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม

    หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ

    หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ หลวงพ่อวิเวียร วัดดวงแข

    บูชา 600 บาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มีนาคม 2024
  3. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,110
    ค่าพลัง:
    +53,094
    ปิดครับ

    IMG_8911.jpeg IMG_8913.jpeg IMG_8912.jpeg

    เหรียญรุ่นแรก ครูบาชุ่ม โพธิโก วัดวังมุย พิมพ์เล็ก เนื้อทองแดง สวยแชมป์

    บูชา 1,400 บาท

    เหรียญรุ่นแรกครูบาชุ่ม วัดวังมุย ท่านได้เมตตาออกแบบอักขระยันต์ด้านหลังเหรียญ และท่านได้ปลุกเสกเดี่ยวตลอดเจ็ดวัดเจ็ดคืนภายในวิหารวัดวังมุยก่อนที่ท่าน จะทำพิธีใหญ่ใน วันที่ 5 ธันวาคม 2517 โดยมีเจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัด พระเถระชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัดลำพูน มาร่วมเจริญพุทธมนต์ นั่งบริกรรมตลอดคืน จนถึงตอนเช้าได้วันที่ 6 ธันวาคม 2517 ได้สวดเบิกพระเนตรและมงคลสูตร แล้วเสร็จจึงทำบุญตักบาตรถวายภัตหาร เสร็จพิธีจากนั้นคณะกรรมการจึงได้แจกจ่ายเหรียญให้ทันที

    ยันต์ที่อยู่ด้านหลังเหรียญครูบาชุ่มนั้นชื่อว่า ยันต์ อิติปิโส 8 ทิศ หรือ อรหันต์8ทิศ
    ยันต์นี้เป็นยันต์ที่ครูบาชุ่มท่านผูกเป็นพระยันต์ขึ้นมาเอง โดยอาศัยการนำบทพุทธมนต์ที่ศึกษามาจากธรรมมูลกัจจาย(ในสมัยก่อน ครูบาชุ่มท่านเป็นผู้คงแก่เรียนศึกษาตำราทุกอย่าง และเป็นผู้แตกฉานเรื่องคัมภีย์มูลกัจจาย อย่างเออุท่านหนึ่งเลยทีเดียว)มาตีเป็นตารางยันต์ตามหลักแม่ธาตุหัวใจยันต์ ตรงใจกลางยันต์ถอดมาได้เป็นยันต์ หัวใจพระพุทธคุณ บางตำราท่านกล่าวว่าเป็นยันต์ สิริแปดเหลี่ยม ( หรือ สิริทั้ง 8) เน้น ทางชุ่มเย็นเป็นสุขด้วยสิริทั้ง8ประการ


    ล้อมด้วยพระคาถา หัวใจขึด (อุบาทว์ หรือความเชื่อที่เป็นข้อห้ามของชาวล้านนา) คาถาธรรมโลกะวุฒธิ ซึ่งเป็นต้นบทคาถาที่ใช้สวดการเทศนา คาถา หัวใจธรรมเกี่ยวกับการเกิดดับแห่งสรรพสิ่ง และคาถา หัวใจก่าสะท้อน(ท่านเพิ่งนำมาลงในยันต์ด้านหลังเหรียญนี้ครั้งแรก) ถัดขึ้นไป เขียนยันต์ที่ล้านนาที่ชื่อว่า ก๋ะ ย๊ะ ว๊ะ( ยักษ์3ตัว) ใช้สำหรับกันผี ผีกลัว ถัดไปเป็นคาถา มะ อะ อุ (หัวใจพระรัตนไตร ) ส่วนในยันต์รูปน้ำเต้านั้น ครูบาชุ่มท่านน่าจะคิดเป็นรูปแห่งพระอรหันต์ทั้งแปดทิศ ไว้บูชาสำหรับกันภัย และเพื่อคุณวิเศษต่างของพระอรหันต์เหล่านั้นที่พระพุทธเจ้าพระองค์ทรงยกย่องว่า เป็น เอตทัคคะในด้านต่างๆเช่น

    1.พระอัญญาโกณฑัญญะ ประจำทิศ ตะวันออก เป็นเอตทัคคะในด้าน รัตตัญญู เป็นพระสงฆ์องค์แรกแห่งพระพุทธศาสนา เด่นทางด้านเมตตามหานิยมมีความสำเร็จก่อนผู้ใด

    2.พระมหากัสสปะ ประจำทิศ ตะวันออกเฉียงใต้ เป็นเอตทัคคะในด้าน ถือธุดงค์วัตรเป็นเอก เด่นทางด้านคุ้มภัย

    3.พระสารีบุตร ประจำทิศ ใต้ เป็นอัครสาวกด้านขวาแห่งพระพุทธเจ้า เอตทัคคะเป็นผู้เลิศทางปัญญา เด่นทางด้านมีสติปัญญาแก้ปัญญา

    4.พระอุบาลี ประจำทิศ ตะวันตกเฉียงใต้ เอตทัคคะด้านพระวินัยเป็นเลิศ เด่นทางด้านมีสิ่งมงคลในชีวิตป็นเลิศ

    5.พระอานนท์ ประจำทิศ ตะวันตก เป็นพระอุปัฎฐากของพระสัมามสัมพุทธเจ้าและเป็นพระที่พระพุทธเจ้าพระองค์ท่านทรงยกย่องให้เป็นเอตทัคคะ5ประการด้วยกันคือ

    1.มีสติรอบคอบ 2.มีความทรงจำแม่น 3.มีความเพียรดี 4.ผู้เป็นพหูสูตร
    5.เป็นยอดพระภิกษุผู้อุปัฎฐากพระพุทธเจ้า

    6.พระควัมบดี (พระมหากัจจายนะ)หรือพระสิวลีเถระ ประจำทิศ ตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นเอตทัคคะด้านการมีลาภสักการะเป็นเลิศ

    7.พระโมคคัลลานะ ประจำทิศ เหนือ พระอัครสาวกด้านซ้ายแห่งพระพุทธเจ้าเป็นเอตทัคคะเรื่องการมีฤทธิ์ อิทธิปาฏิหาริย์มาก เด่นเรื่องคุ้มภัย มีตบะเดชะ

    8.พระราหุล ประจำทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นบุตรแห่งองค์พระสมเด็จสัมมาสัมพุทธะเจ้า เป็นเอตทัคคะ เรื่องการใฝ่รู้และการศึกษา เด่นทางด้านเจริญรุ่งเรือง

    นั่นคือเรื่องของพระอรหันต์ที่เป็นเลิศด้านต่างๆ ที่โบราณคณาจารย์ท่านกำหนดไว้ในเรื่องทิศทั้ง8มาแต่อดีตกาล


    ในส่วนยันต์ของครูบาชุ่มนั้นท่านจะไม่บอกอักษรใดที่แสดงชื่อของพระอรหันต์ทั้ง8 แต่จะใช้ลักษณะรูปยันต์น้ำเต้า(เหมือนพระนั่งทั้ง8ทิศ) ล้อมรอบด้วยตารางยันต์ที่กล่าวไว้ข้างต้น เพราะรูปลักษณะแห่งยันต์ของครูบาชุ่มนี้เป็นเอกลักษณ์ของครูบาชุ่มเอง โดยตรง


    แม้แต่ตัวโค๊ตรูปวงกลมที่ตอกนั้นยังเป็นอักษรย่อของยันต์กันขึด คือ ว๊ะ ม๊ะ ต๊ะ (คาถาเต็มคือ ว๊ะ ม๊ะต๊ะ ก๊ะม๊ะย๊ะ) รวมไปถึงพระเนื้อผงรุ่นแรกครูบาชุ่มที่เขียนเป็นตัวล้านนาที่อ่านว่า “วิวะ อะวะสุสัตตะ วิวะสวาหะ” ไม่ใช่คาถาบูชาครูบาชุ่มอย่างที่หนังสือต่างๆพิมพ์กัน นี่คือหัวใจคาถากันภัยนะครับ ชื่อว่า คาถาพระโพธิสัตว์พาแม่ข้ามฝั่ง


    ส่วนในด้านพุทธคุณโดยรวมแห่งเหรียญรุ่นแรกครูบาชุ่มนั้น มีครบทุกกระบวนความ ทั้งเรื่องมหาอุตย์ คงกระพัน เมตตา มหานิยมโชคลาภ กันภัย กันผี ก่าสะท้อน ชีวิตเจริญรุ่งเรือง ร่มเย็นเป็นสุข ทำมาค้าขายคล่องกันขึด แก้อุบาทว์แคล้วคลาดปลอดภัย เป็นที่รักของมนุษย์และเทวดาและก็ด้วยบารมีแห่งพระรัตนะไตร ครูบาศรีวิชัยตลอดจนครูบาอาจารย์ของครูบาชุ่มทุกองค์และบารมีของครูบาชุ่ม รวมถึงการปลุกเสกแห่งพระอริยะเจ้าที่ได้ชื่อว่าเป็นดั่งมือขวาของครูบาเจ้าศรีวิชัย


    ประเด็นเรื่องพุทธคณของเหรียญนี้ยังมีหลายท่านเข้าใจว่าเหรียญรุ่นแรกของครูบาชุ่ม เป็นมหาอุตย์ คงกระพันอย่างเดียว ด้วยในยุคสมัยนั้นยังมีเรื่องต่อสู้ เข้ารบสงคราม โจรผู้ร้ายยังชุกชุมอยู่ คนที่เล่ากันส่วนมากจะต้องแคล้วคลาดปลอดภัยเป็นหลักเกิดเป็นความเชื่อที่ว่า เหรียญของครูชุ่มเด่นเรื่อง มหาอุตย์ คงกระพันแคล้วคลาด ซึ่งความจริงแล้วหาเป็นเช่นนั้นไม่
    ขอบคุณข้อมูลจาก pralanna.com


    จำนวนการสร้างวัตถุมงคลประเภทเหรียญของท่าน...

    เหรียญรูปไข่ใหญ่(ไม่มีหูห่วง)
    - เนื้อทองคำ 30 เหรียญ
    - เนื้อเงิน 999 เหรียญ
    - เนื้อนวะ 999 เหรียญ
    - เนื้อทองแดง 13,629 เหรียญ

    เหรียญรูปไข่เล็ก(มีหูห่วง)
    - เนื้อทองคำ 19 เหรียญ
    - เนื้อนวะ 499 เหรียญ
    - เนื้อทองแดง 1,599 เหรียญ

    เหรียญกลมโภคทรัพย์
    - เนื้อเงิน 277 เหรียญ
    - เนื้อทองแดง 1,500 เหรียญ

    ...........................................................................................................................
    ประวัติครูบาชุ่ม โพธิโก วัดวังมุย จ.ลำพูน
    ครูบาชุ่ม โพธิโก ท่านเกิด ณ.บ้านวังมุย ต.ประตูป่า อ.เมือง จ.ลำพูน วันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ 2442 ปีกุน โยมบิดาท่านชื่อ พ่อบุญ โยมมารดาท่านชื่อแม่ลุน นามสกุล นันตละ ท่านเป็นบุตรคนที่ 3 ในจำนวนพี่น้องทั้งหมด 6 คน


    ท่านบรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุได้ 12 ปี โดยมีครูบาอินตา วัดพระขาวลำพูนเป็นพระอุปัชฌาย์ท่านได้เล่าเรียนหนังสือกับ ท่านเจ้าอาวาสวังมุย จนอ่านออกเขียนได้ จึงได้มุ่งสู่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อศึกษาเล่าเรียนไม่ว่าจะเป็น วัดพระสิงห์ วัดเจดีย์หลวง และสำนักต่างๆ ที่มีพระอาจารย์ เก่งๆ ประจำอยู่


    เมื่ออายุม่านย่างเข้า 20 ปี ท่านได้เดินทางกลับวัดวังมุยเพื่ออุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยมีครูบาอินตาเป็น พระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์หมื่นเป็น พระกรรมวาจาจารย์พระอาจารย์ หลวงจ้อยเป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายาว่า "โพธิโก" ท่านได้ออกเดินทางไปศึกษาหาความรู้ด้านวิปัสนา กัมมัฎฐานนอกจากนั้นหลวงพ่อได้สนใจที่จะศึกษาเล่าเรียนทางด้านวิชาอาคม และการพิชัยสงครามอีกด้วย ท่ายได้เดินทางไปศึกษากับครูบาสุริยะวัดท้าวบุญเรือง ต.หนองควาย อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ได้ศึกษาศาสตร์สนธิทั้งแปดมรรคแปดอรรคคาถาบาลี มูลกัจจาย จนท่านสามารถแปล และผูกพระคาถาได้


    เมื่อท่านศึกษาจนจบแล้ว ท่านได้ไปศึกษากับพระครูบาศรีวิชัย (คนละคนกับครูบาศรีวิชัยที่เป็นตนบุญล้านนา) วัดร้องแหย่ ต.หนองแก๋ว อ.หางดง จ.เชียงใหม่ผู้เป็นพระอาจารย์ทางด้านวิปัสนากัมมัฎฐาน และเป็นพระนักปฏิบัติธรรมที่มีชื่อเสียงในยุคนั้น ท่านครูบาองค์นี้มีอายุถึง 70 ปี แต่ยังแข็งแรง มีผิวพรรณสดใสและเป็นพระผู้มีปฏิปทามากผู้หนึ่งท่านได้รับการถ่ายทอดอาคมไสยเวทย์ และการฝึกกระแสจิตควบคู่กันไป


    ในขณะที่ท่านอยู่ที่วัดร้องแหย่งนั้น ท่านครูบาศรีวิชัยแห่งวัดบ้านปาง อ.ลี้ จ.ลำพูน ก็ได้มาเยี่ยมเยียนสัการะท่าน ครูบาศรีวิชัย วัดร้องแหย่งเสมอ และบางครั้งท่านได้อยู่จำวัดและร่วมสวดมนต์ทำวัตรและปฎิบัติกัมมัฎฐานด้วย และเห็นว่าท่านครูบาศรีวิชัย วัดบ้านปางท่านมีความเคารพนับถือท่านครูบาศรีวิชัยวัดร้องแหย่งมาก ต่อมากท่านได้ไปศึกษากับ ครูบาแสนวัดหนองหมู จ.ลำพูน เป็นเวลา 2 ปี ท่านได้เดินทางกลับวัดวังมุย


    ต่อมาท่านได้ออกธุดงค์ไปยัง ต.บ้านก้อ อ.ลี้ จ.ลำพูน ซึ่งเป็นหมู่บ้านกะเหรี่ยงจนมีสานุศิษย์มากมายต่อจากนั้นท่านได้เดินทางไปถึงพระบรมธาตุดอยเกิ้ง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นพระธาตุเก่าแก่มีประวัติเล่าขาลกันตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวี ตอนนั้นพระธาตุดอยเกิ้งนั้นมีสภาพทรุดโทรมมาก ท่านจึงมีความตั้งใจที่จะบูรณะองค์พระธาตุโดยมีชาวบ้าน ชาวเขามาร่วมในการครั้งนั้นมากมาย กินเวลา 45 วัน จึงแล้วเสร็จ หลังจากนั้นท่านได้เดินทางต่อไปจนถึง อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง และอยู่บูรณะวัดห้างฉัตรเป็นเวลาถึง 3 พรรษา และท่านได้สร้างสะพานต่างๆ มากมายเช่นสะพาน ต.ยุหว่า, สะพาน ต.สันทราย, สะพานป่าเดื่อ, สะพานวัดชัยชนะ ฯลฯ


    ในปีพ.ศ.2478 ท่านครูบาศรีวิชัยได้สร้างทางขึ้นดอยสุเทพ ขณะนั้นหลวงพ่อมีอายุได้ 37 ปี ได้เข้าร่วมในการสร้าทางท่านได้มีโอกาสรับใช้อย่างใกล้ชิด คราวท่านครูบาศรีวิชัยถูกเรียกตัวเข้ากรุงเทพหลวงพ่อได้รับหน้าที่ดูแลรักษาวัด รับแขกที่มาทำบุญแทนท่านครูบาฯ ท่านได้ร่วมบูรณะวัดวาอารามต่างๆ กับท่านครูบาศรีวิชัยมากมายขณะที่ครูบาศรีวิชัยป่วยอยู่ที่วัดจามเทวี ท่านได้ไปเฝ้าพยาบาล และท่านได้ร่วมกับครูบาธรรมชัยวัดประตูป่า ให้ช่างมาปั้นรูปเหมือนครูบาศรีวิชัยเนื้อปูนปั้นและนำไปหาท่านครูบาที่วัดจามเทวี เมื่อครูบาท่านเห็นรูปของท่านแล้ว น้ำตาได้เอ่อคลอเบ้าตาและท่านได้เอามือลูบไล้รูปเหมือนของท่าน และได้มอบพัดหางนกยูงและไม้เท้าของท่านให้ครูบาชุ่มและได้สั่งเสียว่า ให้ท่านรักษาให้ดีให้ถือปฏิบัติเหมือนตัวแทนของท่าน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มีนาคม 2024
  4. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,110
    ค่าพลัง:
    +53,094
    ปิดครับ

    IMG_8923.jpeg IMG_8922.jpeg IMG_8921.jpeg IMG_8924.jpeg IMG_8925.jpeg

    พระยอดธง บุทองคำ กรุวัดไก่เตี้ย สมัยอยุธยา

    ทองคำเก่า 95% รับประกัน

    บูชา 6,000 บาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มีนาคม 2024
  5. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,110
    ค่าพลัง:
    +53,094
    ปิด

    IMG_8934.jpeg IMG_8935.jpeg IMG_8936.jpeg

    ปรอทกรอสัมฤทธิ์เปียกทองเครื่องรางเตือนภัยล้านนา

    ปรอทกรอล้านนา หรือ ทางเหนือเรียกกว่า "หน่วยบะป่อย"นั้นเป็นหนึ่งในเครื่องรางล้านนาที่ถือได้ว่าเป็นยอดเครื่องราง อันทรงค่าหายาก พบเจอได้น้อยชิ้น

    มีทั้งความเชื่อ ในทางด้าน ศาสนา
    และความเชื่อทางด้าน กลยุทธ์ การศึกสงครามโบราณ

    ความเชื่อในด้านศาสนา

    สมัยโบราณนั้นก็คือการสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสิ่งยึดเหนี่ยว จิตใจ เชื่อกันว่า มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สิงสถิตอยู่ในนั้น ใช้ฝัง ต้านฐานอุโบสถ หรือ ศาสนสถาน สถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา
    เชื่อในเรื่องป้องกันสิ่งชั่วร้ายและสิ่งอัปมงคลทั้งปวง รวมถึงโจรผู้ร้ายที่คิดจะมาขโมยของในวัดเมื่อมีขโมยหรือสิ่งผิดปกติเข้ามาปรอทกรอก็จะส่งเสียงดัง...

    ความเชื่อด้าน กลยุทธ์ ทางการศึกการสงคราม

    อีกในหนึ่ง จุดประสงค์ คนโบราณ การจัดสร้าง

    ปรอทกรอ มักใช้ในกลศึก เป็น เครื่องมือ หรือ เครื่องรางเตือนภัย ในยุคสงคราม ปรอทกรอจะทำหน้าที่ "สั่น " เมื่อมีภัยเข้ามาประชิด

    ปรอทกรอ สั่นสะเทือนได้ไหลลื่นเสียงดังยาว แปลว่า : ข้าศึกมีจำนวนค่อนข้างเยอะ และเข้าประชิดใกล้เข้ามามาก

    ปรอทกรอสั่นเสียงไม่ดังมาก แปลว่า: ข้าศึกมีจำนวนค่อนข้างน้อย และอยู่ไกล
    เพื่อเป็นสัญญาณ เตือนภัย ว่าข้าศึกมีจำนวนมากหรือน้อย หรืออยู่ไกลหรือใกล้.. นั่นเองครับ

    จากคำบอกเล่า จากชาวบ้าน, ผู้เฒ่าผู้แก่ ชาวล้านนา และ หลากหลายสถานที่

    หยิบยกมาเขียนมาเพื่อเล่าสู่กันฟัง กันน่ะครับ..

    ปรอทกรอภายในลูกปรอทกรอนั้นว่ากันว่าเป็นของวิเศษกายสิทธิ์จำพวกเหล็กไหล หรือปรอทเรียก หรือ ปรอทสำเร็จ ที่พระอาจารย์ผู้เรืองวิทยาคมได้เอาเป็นส่วนผสมของลูกกลมเล็กๆด้านในปรอทกรอ โดยนำเอามาหุงและหล่อเป็นลูกปรอทกายสิทธิ์ ฉะนั้นเวลาเขย่าปรอทกรอจะมีเสียงคล้ายมีกริ่งอยู่ข้างในปรอทกรอนั่นก็คือลูกกลมเล็กๆที่ว่านี่เอง...

    สำหรับที่ค้นพบปรอทกรอนั้น ส่วนมากจะพบเป็นเคยเป็นบริเวณวัดเก่า หรือ ที่คนทางเหนือล้านนาเรียกว่า วัดร้าง หรือ วัดห่าง หรือ เมืองเก่า ที่รกร้าง ศาสนสถานที่สำคัญ..
    บ้างจะพบโดยบังเอิญจากการขุดพบจากการขุดที่
    ถมที่, ทำการเกษตรบ้าง, บ้างก็ฝนตกหลายวัน ตกหนักๆๆ ซะล้างหน้าดินเปิด ก็จะพบเจออะไรแนวนี้ครับผม..
    การพบเจอก็ผ่านกาลเวลา ร่วม หลายสิบปี ที่เจ้าของพบเจอมา
    และบางท่านก็ได้รับเป็นมรดกตกทอดมาจากปู่ย่าตายาย เก็บบูชา สืบทอด กันมาจากรุ่นสู่รุ่น จนถึงปัจจุบันนี้

    อ่า ^^^อ่าน พอสนุก นะครับ. ^^^

    ปัจจัย เหล่านี้ บ่งบอกถึง การสร้าง ได้เป็นอย่างดี..

    ยุคสมัย ที่พบเจอ ปรอทกรอ..

    – สมัยก่อนสุโขทัย ( ราวพุทธศตวรรษที่ 12 – พุทธศตวรรษที่ 17 )
    – สมัยสุโขทัย พ.ศ.1792 – พ.ศ.2006
    – สมัยอยุธยา พ.ศ.1893 – 2310
    – สมัยธนบุรี พ.ศ.2310 – 2325
    – สมัยรัตนโกสินทร์ พ.ศ.2325 ถึงปัจจุบัน

    วิธีการใช้ : ใช้ห้อยคอหรือ พกพาติดตัว(ไม่ควรต่ำกว่าระดับเอว) ใส่พานบูชา หิ้งพระ หรือ บรรจุบนหัวเสาเรือน

    อาณุภาพ : คนสมัยก่อนเชื่อกันว่าปรอทกรอจะนำความร่มเย็นเป็นสุขมาให้ และป้องกันสิ่งอัปมงคลทั้งปวง เตือนเมื่อมีภัย บูชาไว้เป็นสิริมงคลให้ลาภ และคุ้มกันบ้านเรือนและผู้อาศัย เพื่อป้องกันสิ่งชั่วร้ายและสิ่งอัปมงคลทั้งปวง..

    บูชา 6,500 บาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2024
  6. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,110
    ค่าพลัง:
    +53,094
    IMG_8973.jpeg IMG_8974.jpeg IMG_8975.jpeg

    บูชา 3,500 บาท
     
  7. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,110
    ค่าพลัง:
    +53,094
    ปิด

    IMG_8964.jpeg IMG_8963.jpeg IMG_8961.png

    พระสังกัจจายน์ เนื้อเกสร บรรจุลงในกรุวัดพระธาตุสบฝาง ปี2522
    ปลุกเสกโดย หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ปี2522

    บูชา 1,000 บาท

    วัดพระธาตุสบฝาง จ.เชียงใหม่ หลวงปู่โต๊ะ ท่านเคยมาจำพรรษาที่วัดนี้และมีเจตนาจะช่วยในการบูรณะพระธาตุสบฝาง ซึ่งเก่าแก่ ทรุดโทรม ท่านมีดำริจะจัดสร้างพระผง,เหรียญให้เพื่อออกบูชาแก่ประชาชนไว้ใช้ เพื่อนำปัจจัยมาสมทบทุน จึงได้มีการจัดสร้าง และพุทธาภิเษกเหรียญนี้ขึ้นเมื่อปี 2522 ที่พิเศษกว่านั้นยังได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกถึง 3 วาระ คือครั้งที่ 2 ที่วัดต้นหนุน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ , ครั้งที่ 3 ที่วัดประดู่ฉิมพลี ซึ่งทั้ง 3 ครั้ง หลวงปู่เป็นประธานครับ
    พระราชสังวราภิมณฑ์อยู่ในสมณเพศมาตั้งแต่อายุได้ ๑๗ ปี ท่านได้เล่าเรียนพระธรรมวินัยมีความรู้จนแตกฉานลึกซึ้ง และถือวิปัสสนา
    ธุระเป็นหลักปฏิบัติ ในชีวิตอันยาวนานถึง ๙๔ ปี ของท่าน เป็นรัตตัญญูผู้รู้กาลนาน เป็นครูของสาธุชนทุกหมู่เหล่า เป็นที่เคารพบูชา
    ศรัทธาเลื่อมใสของบุคคลทุกเพศทุกวัย ทุกชาติชั้น นับแต่สามัญบุคคลจนถึงองค์พระประมุขของชาติ แม้อายุพรรษาจะมากเพียงใด ท่านก็
    มิได้ขัดศรัทธาของผู้ที่อาราธนาไปการบุญกุศลต่าง ๆ มีการนั่งเจริญสมาธิภาวนาอำนวยสิริมงคล เป็นต้น จึงในระยะหลัง ๆ นี้ทำให้สังขาร
    ร่างกายท่านต้องลำบากตราตรำมากเกินไป และเกิดอาพาธขึ้นบ่อย ๆ จนสิ้นลมด้วยอาการสงบดุจนอนหลับไป ณ กุฏิสายหยุด นับอายุได้
    ๙๓ ปี ๑๐ เดือน กับ ๒๒ วัน

    พระคาถาบูชาพระหลวงปู่โต๊ะ ดังนี้
    ตั้ง นะโม ๓ จบ ก่อน แล้วว่า
    คะวัมปะติ จะ มหาเถโร ลาภะ ลาโภ นิรันตะรัง คะ วัมปะติ จะ มหาเถรัง ลาภะ สุขัง ภะวันตุเม
    วัตถุมงคลของท่าน พุทธคุณเด่นในด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ปลอดภัย เป็นเยี่ยม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2024
  8. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,110
    ค่าพลัง:
    +53,094
    ปิดครับ

    IMG_9021.jpeg IMG_9022.jpeg IMG_9023.jpeg

    พระปิลันทน์วัดระฆังพิมพ์ครอบแก้วเล็ก

    ตัวจริง ถ้าเอาไปเช็คแล้วโดนตีเก๊ คืนได้เลยครับ

    ถ้าพูดถึงพระตระกูลพระสมเด็จแล้วนับว่าหามาครอบครองยากมาก บุคคลที่ได้ครอบครองต้องมีบุญวาสนาอยู่ทีเดียว เพราะนับวันก็จะร่อยหล่อเหลืออยู่น้อยเต็มที ส่วนพระองค์นี้นั้น สนนราคาเบากระเป๋ากว่าเยอะ พุทธคุณนั้นหาได้ด้อยหรือธรรมดาไม่..ว่ากันว่าพุทธคุณนั้นยอดเยี่ยมในเรื่องของเมตตามหานิยม และโดดเด่นมากในเรื่องโภคทรัพย์ทำมาค้าขาย "พระปิลันทน์วัดระฆังพิมพ์ครอบแก้วเล็ก" *** *** พิมพ์ครอบแก้วเล็ก ขนาดองค์พระประมาณ ๑ ซ.ม. สูงประมาณ ๒ ซ.ม. ตรงกลางเป็นองค์พระยืนปางห้ามแก่นจันทน์ยกพระหัตถ์ซ้าย พระกรขวาห้อยอยู่ข้างองค์ อยู่ภายในซุ้มครอบแก้ว ๒ เส้นหรือ ๒ ชั้น แตกต่างจากพิมพ์ครอบแก้วใหญ่ตรงที่ไม่ปรากฏมีอักขระยันต์หรืออักขระขอมเลย และในซุ้มจะมีเส้นรัศมีเหนือพระเศียรด้วย ซึ่งในส่วนนี้จะไปคล้ายคลึงกับพิมพ์เปลวเพลิง อย่างไรก็ดีลักษณะของเส้นรัศมีเหนือเศียร พิมพ์ครอบแก้วเล็กนี้จะไม่เหมือนกันเสียทีเดียว สามารถแยกความแตกต่างจากพิมพ์เปลวเพลิงได้ เอกลักษณ์อีกอย่างของพิมพ์นี้คือ พิมพ์ทรงจะตื้นไม่ชัดเจน เส้นสายลายละเอียดต่างๆ แทบจะแบนราบตื้นมาก การพิจารณาพิมพ์ทรงจึงดูได้เพียงคร่าวๆ เท่านั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มีนาคม 2024
  9. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,110
    ค่าพลัง:
    +53,094
    ปิดครับ

    IMG_9010.jpeg IMG_9009.jpeg IMG_9008.png

    สีผึ้งพรายเเม่น้ำฝน อาจารย์เปล่ง บุญยืน ยุคต้น

    ตัวจริงที่มาดี ไม่ต้องยัด บูชาได้สนิทใจ รับประกัน

    สีผึ้งพรายแม่น้ำฝน สร้างก่อนพราย59ตนหายากโคตรๆเเละน้อยคนนักที่จะได้ครอบครอง สีผึ้งพรายเเม่น้ำฝนนี้ว่ากันว่าหากป้ายใครไมมีคำว่าพลาดเเน่นอนเขาตามเรามาเลย ครูในตำนานบอกเล่าว่าหากชอบสาวคนไหนเเล้วสาวไม่ชอบให้มาปรึกษาเรื่องนี้กับอาจารย์เปล่งรับรองว่าสมหวัง(ในอดีตสมหวังกันไปหลายคนเเล้วจากสีผึ้งพรายเเม่น้ำฝนนี่ประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์แก่ตาของตัวเอง

    บูชา 1,000 บาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2024
  10. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,110
    ค่าพลัง:
    +53,094
    ปิด

    IMG_9018.jpeg IMG_9019.jpeg IMG_9020.png

    พระผงพิมพ์พระประทานพร หลังยันต์หมึก ปี13 เจ้าคุณนร

    พระผงพิมพ์พระประทานพร หลังยันต์หมึก(น้ำเต้า) วัดสรรเพชญ์ (จัดสร้างโดยพระอาจารย์ทองเจือ วัดปากน้ำ) เจ้าคุณนรฯอธิษฐานจิต ปี๒๕๑๓

    จัดสร้างโดย พระอาจารย์ทองเจือ ธัมมธีโร วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ และ คุณหมอสุพจน์ ศิริรัตน์
    ที่ได้รับอนุญาต จากท่านเจ้าคุณนรฯ ให้สร้างเพื่อหาทุนสร้างพระอุโบสถวัดสรรเพชญ นครปฐม

    พระรุ่นนี้มีหลายพิมพ์ด้วยกัน แต่ที่เด่นๆ คือ
    1. พิมพ์ประทานพร เป็นพระเนื้อผงรูปห้าเหลี่ยม องค์พระนั่งยกมือประทานพร
    ด้านหลังปั๊มตรายางเป็นยันต์องค์พระ และมีภาษาไทยกำกับอยู่ข้างล่างว่า “ สุโข วิเวโก ”
    2. พิมพ์สมาธิซุ้มเรือนแก้ว เป็นพระเนื้อผงรูปห้าเหลี่ยม ขนาดใหญ่กว่าพิมพ์ประทานพรเล็กน้อย
    องค์พระนั่งสมาธิในซุ้มเรือนแก้วเหนืออาสนะบัวคว่ำบัวหงาย
    ด้านหลังปั๊มตรายางองค์พระและมีภาษาไทยเขียนไว้ข้างใต้ว่า “ ธมฺมวิตกฺโก ”
    3. พิมพ์สมเด็จ สร้างไว้หลายแบบ บางพิมพ์มีไม่ถึง 100 องค์
    เช่น พิมพ์จันทร์ลอย พิมพ์สาม เหลี่ยมหน้าหมอน แต่ที่สร้างไว้มากมีอยู่ 2 พิมพ์ คือ
    1) พิมพ์สมเด็จวัดสรรเพชญ เป็นพระสมเด็จฐาน 3 ชั้น มีพระพักตร์ชัดเจน ด้านหลังเป็น
    ยันต์องค์พระปั๊มนูน และมีตัวหนังสือว่า “ ธมฺมวิตกฺโก ” สร้างโบสถ์วัดสรรเพชญ
    จำนวนสร้าง พิมพ์ใหญ่พิเศษ (กรรมการ) มีโมเสสและพลอยเมืองจันทร์อยู่ด้านหลัง 200 องค์
    พิมพ์ธรรมดา 8,000 องค์
    พิมพ์พระประธานพร (พิมพ์เล็ก) 10,000 องค์
    2) พระสมเด็จพิมพ์นิยม เป็นพระสมเด็จฐาน 3 ชั้นทั่วไป ด้านหลังปั๊มตรายางรูปองค์พระ
    และมีภาษาไทยเขียนไว้ข้างใต้ว่า “ ธมฺมวิตกฺโก ” แบบเดียวกับพิมพ์สมาธิซุ้มเรือนแก้ว
    มวลสารประกอบด้วย
    1. เส้นเกศาเจ้าคุณนรฯ และผงเสกไตรมาสวัดวิเวกวนาราม (ประมาณปี๊บครึ่ง)
    2. ผงลบถม 12 คัมภีร์ ของ อ.รอด สุขเจริญ ได้แก่
    - ผงปถมัง - ผงอิทธิเจ
    - ผงมหาราช - ผงสุกิตติมา
    - ผงนอโม - ผงอาการวัตตาสูตร
    - ผงอิติปิโสรัตนมาลา - ผงธรรมคุณ
    - ผงสังฆคุณ - ผงพระสิวลี
    - ผงพาหุง - ผงนะ 108
    3. ผงศิลาธิคุณ หรือ ผงฤาษีผสม ที่เขาเจียก ดีทางรักษาโรค เมตตา มหานิยม แคล้วคลาด
    4. ผงดินสอฤาษี (สีเหลือง) มีอานุภาพทางเมตตา มหานิยม แคล้วคลาด
    5. ผงจันทรประภา ทำได้เฉพาะในคืนวันเพ็ญ เดือน 12 ที่ตรงกับวันจันทร์เท่านั้น มีอานุภาพทางมหาเสน่ห์ เมตตา มหานิยม อย่างเอกอุ
    6. ผงสุริยประภา ผงนี้ทำจากกะลามะพร้าวตาเดียวแกะเป็นรูปราหูอมจันทร์นำมาเสกแล้วเผาตำ
    ให้เป็นผง และต้องทำในวันที่เกิดสุริยุปราคาเท่านั้น ผงนี้มีอิทธิคุณทางกันภัยและโชคลาภ
    7. แร่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เช่น
    - แร่เกาะล้าน ดีทางแคล้วคลาด คงกระพัน กันอสรพิษ
    - แร่นกกาสัก (ขี้นกกาสัก) พบมากที่ อ.อู่ทอง สุพรรณบุรี
    ตามตำนานกล่าวไว้ว่า แร่นี้เกิดจากพระฤาษีได้สร้างนกกาสักขึ้นด้วยอาคม
    แล้วให้นกนี้ไปกินแร่ที่ศักดิ์สิทธิ์ตามที่ต่างๆ แล้วถ่ายออกมาเป็นแร่นี้
    มีคุณทางคงกระพันและแคล้วคลาด
    - สะเก็ดดาว หรือ อุลกมณี
    - แร่เขาสารพัดดี อยู่บนเทือกเขาสารพัดดี ชัยนาท วันดีคืนดีจะได้ยินเสียงดนตรีประโคมดัง
    - แร่เขาสามยอด
    8. พลอยเมืองจันทบุรี
    9. น้ำมันหอม 9 กลิ่น ลพ.จ่าย วัดรุ้ง ที่ท่านเสกจนเดือด
    10. ผงลพ.สด วัดปากน้ำ และผงพระวัดปากน้ำ รุ่น 1-3 ที่แตกหักชำรุดจำนวนมาก
    11. ผงพระชุดเบญจภาคีที่ชำรุดแตกหัก
    12. ผงพระกรุเก่าจากที่ต่างๆ ทั่วประเทศ
    13. กระเบื้องโมเสค หลวงพ่อโต วัดอินทรวิหาร
    14. ผงพระสมเด็จวัดสามปลื้ม

    การกดพิมพ์ กระทำโดยพระเณรในวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ โดยในขณะกดพิมพ์จะต้องภาวนาว่า “ พระสัมมา อรหัง จุติ ”
    เมื่อเสร็จเป็นองค์พระเรียบร้อยแล้วก็นำใส่กล่องห่อด้วยผ้าขาวนำไปให้ท่านเจ้าคุณนรฯ ท่านอธิษฐานจิต
    แต่ท่านเจ้าคุณนรฯ กลับตอบว่า
    “ ในพรรษานี้จะไม่มีการปลุกเสกพระใดๆ (ที่วัดเทพศิรินทร์) ทั้งสิ้น
    ขอให้คุณนำกลับไปไว้ ณ ห้องชั้นบนโรงเรียนภาวนานุสรณ์ พร้อมจัดตั้งอาสนะไว้
    เวลา 2 ทุ่มตรง ให้จุดเทียนชัยและธูป อาตมาจะสวดมนต์แผ่เมตตาไปให้ "

    พุทธาภิเษก 2 วาระ
    วาระที่ 1 ที่วัดชิโนรส กทม. มี หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี , หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม , หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ ร่วมปลุกเสก
    วาระที่ 2 อธิษฐานจิตเดี่ยวโดยท่านเจ้าคุณนรฯ ซึ่งท่านได้เมตตาปลุกเสกให้ถึง 3 วาระ ด้วยกัน คือ
    1) ท่านเจ้าคุณนรฯ ได้เมตตาปลุกเสกผงวัดวิเวกวนารามให้ตลอดไตรมาสเมื่อ ปี 2511
    ซึ่งท่านได้กล่าวไว้ว่า
    เมื่อสร้างเป็นพระเครื่องแล้ว ไม่จำเป็นต้องนำมาให้ท่านปลุกเสกอีกก็ได้ เพราะผงนี้เป็นผงวิเศษที่ดีอยู่แล้ว
    2) ปลุกเสกโดยญาณ โดยท่านเจ้าคุณนรฯ ได้สั่งให้พระอาจารย์ทองเจือ จัดอาสนะไว้ให้ท่านเพื่อปลุกเสกให้
    ซึ่งเมื่อได้จุดธูปเทียนบอกกล่าวนิมนต์ท่านแล้ว ก็มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นทันที คือ
    เปลวเทียนที่จุดไว้ลุกสว่างจ้าขึ้น และเอนลู่ไปคล้ายมีลมพัดอย่างแรง
    ทั้งๆ ที่ขณะนั้นประตูห้องทุกบานและหน้าต่างปิดหมด
    ซึ่งพระอาจารย์ทองเจือได้ทำแบบนี้ตลอดพรรษาปี 2513
    3) พิธีพุทธาภิเษก ณ วัดเทพศิรินทร์ กทม. เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2513 ซึ่งเป็นการอธิษฐานจิตเดี่ยวครั้งใหญ่และเป็นสุดท้ายของท่านเจ้าคุณนรฯ
    ซึ่งเมื่อท่านอธิษฐานเสร็จท่านได้เปล่งเสียงออกมาดังๆว่า
    “ พระเมตตา พระมหานิยม พระอุดมลาภ พระมหาลาภ พระมหาอุด พระแคล้วคลาด พระคงกระพันชาตรี พระล่องหนหายตัวได้ ”
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มีนาคม 2024
  11. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,110
    ค่าพลัง:
    +53,094
    IMG_9062.jpeg IMG_9063.jpeg

    กุมารทองหลวงพ่อกวย ปี2521

    ตัวจริง รับประกันสากลทุกสนามครับ
     
  12. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,110
    ค่าพลัง:
    +53,094
    IMG_9233.jpeg IMG_9229.jpeg IMG_9230.jpeg IMG_9231.jpeg IMG_9232.jpeg

    เหรียญหลวงปู่เอี่ยม100 ปี

    บล๊อคนิยมผิวเดิมๆ ก่อนนั้นราคาเช่ากัน14,000-16,000 อนาคตราคาขยับไปเรื่อยๆ แน่นอนครับ

    บูชาองค์ละ 12,000 บาท รับประกันสากล
     
  13. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,110
    ค่าพลัง:
    +53,094
    ปิด

    IMG_9301.jpeg IMG_9303.jpeg IMG_9304.jpeg IMG_9302.jpeg IMG_9224.png

    รูปหล่ออุดกริ่ง สมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ขนาด 1 นิ้ว วัดชิโนรส พ.ศ. 2512 เป็นรูปหล่อที่หายากอีกพิมพ์นึงที่ในสนามพระแทบไม่เจอ ไม่มีวางให้เห็นครับ

    บูชา 2,500 บาท

    พระดี พิธีใหญ่ ประวัติ พระชุดนี้ จัดสร้างโดย พระปลัดมานพ วัดชิโนรสาราม กรุงเทพฯ (มีพระฝากพิธีของ อาจารย์แก้ว และ พระมหาประดับด้วยครับ)ได้จัดสร้างเมื่อปี 2512 พิธีพุทธาภิเษก 22 - 31 ส.ค.2512 จัดเป็นชุดพระเครื่องที่มีรูปแบบสวยงาม พิธีใหญ่ มีพระเกจิดังๆ ร่วมงานเพียบ อาทิ...

    หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค
    หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม
    หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    หลวงพ่อสุข วัดโพธิ์ทรายทอง
    อาจารย์นำ วัดดอนศาลา
    หลวงพ่อมิ่ง วัดกก ธนบุรี
    หลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม
    หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
    หลวงพ่อดี วัดพระรูป
    เป็นต้น

    โดยมีนิตยสารนิตยสารเกี่ยวกับพระเครื่องฉบับหนึ่งเป็น Sponsor ใหญ่
    (ข่าวตามประวัติว่าหามวลสารดีๆ มาเยอะเหมือนกัน) ซึ่งพระชุดนี้ เกจิอาจารย์ที่ร่วมงานถึงกับออกปากว่าเป็นของดี ที่น่าใช้ และทำให้ศิษย์สายหลวงพ่อสุข วัดโพธิ์ทรายทอง สะสมกัน เนื่องจาก หลวงปู่สุข ธมมโชโต ได้นำกลับมาทำการปลุกเสกเดี่ยวให้อีกครั้งใน วันที่ 1 ก.ย.2512 (บางส่วน) พิธีเดียวกับรูปหล่อหลวงปู่สุข พิมพ์หน้าบากใหญ่ และหน้าบากเล็ก ซึ่งพระปลัดมานพ (ชาวบุรีรัมย์ จัดสร้างให้เป็นพิเศษ) ส่วน ลูกศิษย์ลูกหา สายหลวงพ่อกวย ก็เก็บสะสมกันไม่ได้น้อยหน้า เนื่องจากหลวงพ่อกวยท่านอัดพลังให้ทั้งคืนยันแจ้ง... แถมเอากลับมาแจกให้ลูกศิษย์ลูกหาที่วัด พร้อมกับบอกว่าเป็นของดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มีนาคม 2024
  14. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,110
    ค่าพลัง:
    +53,094
    ปิด

    IMG_9235.jpeg IMG_9236.jpeg IMG_9237.jpeg IMG_9238.jpeg

    พระกริ่ง 7 รอบ รุ่น 2 วัดบวรนิเวศฯ เนื้อเหลือง ปี 2517 สภาพสวย จมูกโด่ง กริ่งดังกังวาน ปลุกเสกพิธีใหญ่ ในหลวง ร.๙ เสด็จเททอง ใช้ชนวนเก่าของวัดบวรและของรุ่นแรก ปี 2499 ครับ


    "พระพุทธชินสีห์" แปลตามความหมายว่า พระผู้ชนะพระยาราชสีห์ หรือพระผู้ชนะซึ่งงามสง่าประดุจพระยาราชสีห์ เป็นพระพุทธรูปสำคัญพระองค์หนึ่งของหัวเมืองฝ่ายเหนือ สร้างขึ้นคราวเดียวกับพระพุทธชินราช และพระศาสดา ในปี พ.ศ.1500 โดยพระเจ้าศรีธรรม ไตรปิฎกมหาราช แห่งเมืองเชียงแสน ประดิษฐาน ณ พระวิหารด้านเหนือ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก

    จนถึงต้นสมัยรัตนโกสินทร์ สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพย์ โปรดให้อัญเชิญมาประดิษฐานที่มุขหลังของพระอุโบสถ วัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อปี พ.ศ.2372

    สมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ครั้งเมื่อยังทรงผนวชและครองวัดบวรนิเวศวิหารอยู่ ทรงเคารพนับถือพระพุทธชินสีห์มาก พระองค์ทรงทูลขอพระบรมราชานุญาตพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 เพื่ออัญเชิญ "พระพุทธชินสีห์" มาเป็นพระประธานในพระอุโบสถ และโปรดให้กะไหล่รัศมีองค์พระด้วยทองคำ ฝังพระเนตรฝังเพชรที่พระอุณาโลม แล้วปิดทองทั้งองค์พระ เมื่อปี พ.ศ.2393 และในปี พ.ศ.2397 โปรดให้หล่อฐานด้วยทองสำริด ปิดทองใหม่ทั้งองค์พระและฐาน แล้วให้จัดการสมโภช 5 วัน

    พระกริ่งพระพุทธชินสีห์ 7 รอบ วัดบวรนิเวศฯ ถือว่าเป็นพระกริ่ง 7 รอบ วัดบวรนิเวศฯ รุ่น2 สร้างปี 2517 พิธีใหญ่มากๆ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเสด็จ เป็นองค์ประธานเททอง ในครั้งนี้

    พระชุดนี้เป็นพระที่สร้างย้อน รุ่น 2499 โดยใช้ชนวนเก่าของวัดบวรและชนวน ของรุ่นแรก 2499 นำมาผสมในการหลอม โดยมีพระเกจิจากทั่วประเทศเข้าร่วม ปลุกเสกมากมาย ทั้งเช่น หลวงปู่โต๊ะ , หลวงพ่อเทียม , เจ้าคุณผล และอีกมากมายหลายรูปครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มีนาคม 2024
  15. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,110
    ค่าพลัง:
    +53,094
    ปิด

    IMG_9243.jpeg IMG_9244.jpeg IMG_9245.jpeg IMG_9246.png

    พระปิดตาเนื้อเมฆพัตร พิมพ์จอบ หลวงปู่ศรี วัดหลวง สรรพยา จ.ชัยนาท พิมพ์นี้เนื้อเมฆพัตร

    เจ้าคุณศรีท่านเป็นศิษย์หลวงปู่ทับ วัดอนงค์ผู้สร้างพระเนื้อเมฆสิทธิ์อันเกรียงไกร แต่พระปิดตาของเจ้าคุณศรีจะออกมาเป็นเนื้อเมฆพัตต่างจากของอาจารย์ท่าน ปิดตามหาอุดรุ่นนี้เองที่ถือว่าเป็นพระรุ่นแรกของวัดหลวง ที่ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าลือกันว่า หลวงปู่ศุข หลวงพ่อเฟื่อง มาร่วมปลุกเสกร่วมกับเจ้าคุณศรี พิจารณาแล้วก็พอเห็นความเป็นไปได้ เพราะในประวัติวัดหลวงฯระบุว่าสร้างโบสถ์ในปี ๒๔๖๖ แสดงว่าเจ้าคุณศรีท่านต้องเข้ามาบุกเบิกวัดหลวงฯซึ่งในขณะนั้นเป็นวัดร้างก่อนหน้านั้นอยู่หลายปีพอควร จึงเป็นช่วงเวลาที่ทันอายุของหลวงปู่ศุขที่จะมาร่วมปลุกเสกได้ ปิดตามหาอุดเมฆพัตรุ่นแรกของวัดหลวงนี้เท่าที่พบมี ๒ พิมพ์คือพิมพ์ลอยองค์และพิมพ์จอบ มีรูปทรงเอกลักษณ์สวยงามไม่ซ้ำใคร ทางด้านเนื้อหาเป็นเนื้อเมฆพัต ซึ่งเป็นเนื้อเมฆพัตสูตรหมายถึงเมฆพัตที่สร้างและผสมตามสูตรโบราณเนื้อหาจะดูหนึกแน่น สีสันวรรณะจะออกดำมันมีกระแสคล้ายปีกแมลงทับ ไม่ใช่เมฆพัตโรงงานแบบทั่วๆไปซึ่งเนื้อจะออกฟ่ามๆและสีสันวรรณะออกจะดำด้านๆ ด้านหลังเป็นยันต์กระต่ายสามขาลงอักขระทั้งห้าช่องด้วยนะโมพุทธายะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2024
  16. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,110
    ค่าพลัง:
    +53,094
    ปิด

    IMG_9252.jpeg IMG_9254.jpeg IMG_9255.jpeg IMG_9253.jpeg

    ปิดตาหลวงพ่อลมูลวัดเสด็จ ฝังตะกรุด3 ดอก

    หลวงพ่อลมูลวัดเสด็จ ท่านเป็นพระเกจิเมืองปทุม ท่านเป็นศิษย์สืบทอดวิทยาคมจากหลวงปู่เทียน วัดโบสถ์ วัตถุมงคลของท่านประสบการณ์เรื่องเมตตาค้าขายเยี่ยมครับองค์นี้เป็นพระปิดตาลอยองค์ หลวงพ่อลมูล วัดเสด็จ ปทุมธานี เนื้อผงสอดตะกรุด 3k มีตะกรุดทองคำ 1ดอก จัดสร้างปี2512 พระชุดนี้ใด้ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี และหลวงปู่สังข์ วัดดอนตรอ อธิฐานจิตให้ รับประกันสากล
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2024
  17. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,110
    ค่าพลัง:
    +53,094
    ปิด

    IMG_9147.jpeg IMG_9145.jpeg IMG_9146.jpeg IMG_9142.jpeg IMG_9141.jpeg IMG_9143.jpeg IMG_9290.png

    บูชา 68,500 บาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มีนาคม 2024
  18. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,110
    ค่าพลัง:
    +53,094
    ปิด

    IMG_9272.jpeg IMG_9273.jpeg IMG_9275.jpeg IMG_9274.jpeg

    บูชา 1,800 บาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มีนาคม 2024
  19. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,110
    ค่าพลัง:
    +53,094
    ปิด

    IMG_9291.jpeg IMG_9292.jpeg IMG_9289.jpeg IMG_9288.jpeg IMG_9284.jpeg IMG_9285.jpeg

    เหรียญชนวนทองแดง จารหน้าหลัง เจ้าของเดิมบอกว่าเป็น ของ อาจารย์ ชุม ไชยคีรีจาร ได้มา2 เหรียญครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2024
  20. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,110
    ค่าพลัง:
    +53,094
    IMG_9293.jpeg IMG_9294.jpeg IMG_9295.jpeg


    เหรียญแจกแม่ครัวหลวงพ่อกวย ปี 2521 รับประกันแท้สากล

    บูชา 18,500 บาท
     

แชร์หน้านี้

Loading...