พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยานเถระ(หลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง) กับ หลวงปู่โลกอุดร

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย โมกขทรัพย์, 16 พฤษภาคม 2012.

  1. โมกขทรัพย์

    โมกขทรัพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    474
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,849
    <center> หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง กับ หลวงปู่โลกอุดร (จาก oknation.net)





    </center>


    <center>หลายคนคงได้อ่านเรื่องราวของท่านมามากมาย
    ลองมาฟังพระราชพรหมยาน หรือ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี พูดถึงเรื่องของท่านบ้าง...

    [​IMG]</center>
    [COLOR=#b00e]......ฉันฟังมาตั้งนาน โลกอุดร..โลกอุดร..ใครหนอ..?[/COLOR]
    [COLOR=#b00e]......มีวันหนึ่งก็เลยนั่งอยู่ ใครกันหนอ...? [/COLOR]

    [COLOR=#b00e]อ้อ...พอเจอหน้าก็ร้องอ้อเลย แต่ว่าท่านพวกนี้ทั้งหมด เดิมทีต้องมาจากพุทธภูมิก่อน พอใกล้จะเต็มก็ลา ลาจากพุทธภูมิเป็นสาวก ก็เลยต้องทำงานพุทธภูมิ [/COLOR]

    [COLOR=#b00e]ถ้าสาวกจริง เขาไม่เอาด้วยหรอก เขาทำงานเฉพาะเรื่องของเขา ที่เห็นว่ามีเยอะๆ ทำได้ก็เงียบฉี่ คืองานของเขาไม่มี พวกนี้ถ้าถึงจุดเขาเว้นงาน คือต้องทำงานตามหน้าที่ [/COLOR]

    มันมีเรื่องหนึ่งที่เราพูดกันแล้วเหมือนคนบ้า...

    .......ไอ้ก่อนที่จะลงมานี่มันมีสัญญาใจ ว่าจะมาทำงานอะไร เวลาลงมาเกิดใหม่ๆ ไม่รู้เรื่องหรอก จิตไม่ถึงที่สุด ถ้าจิตถึงที่สุดกระเทาะเปลือกสัญญา อีตอนนี้แหละงานอื่นที่เคยทำมาแล้วก็โยนทิ้งหมด เอาเฉพาะงานของตน

    ไปๆ มาๆ ก็ไปเจอะท่าน ไปเจอะกับท่าน ฉันอยากนึกจะเจอก็ชนปั้งเลย เมื่อชนปั๊บ ถามว่า

    "เป็นพุทธภูมิมาก่อนใช่ไหม ?"

    ........คือว่าพวกนี้ถ้าไม่สงสัยแกก็ไม่รู้เรื่องฉัน ถ้าสงสัยก็ชนกันเมื่อนั้นแหละ ต่างคนต่างขี้เกียจด้วยกัน มันไม่เก่งแล้ว มันต้องเก่งมาตอนต้นๆ ตอนต้นก็อยากเก่ง

    ........ไอ้นักมวยตอนที่หัดใหม่ๆ ไปไหนกำหมัดยิกๆๆ ฉันเป็นนักมวย เอาเข้าเป็นแชมป์แล้ว เขาก็เลิก พระก็เหมือนกัน แก่แล้วก็เลิก แก่ก็มีเรื่องเด็ก ขี้เกียจ จะรู้อะไรไปทางไหนก็ตายแหงๆๆ อย่างพวกนี้ ตายแล้วจะไปไหน หาทางให้มันให้ไปแล้วไม่มาใช่ไหม ?

    .........อะไรบ้าง...ที่เราจะเปลื้องความทุกข์ไอ้การเวียนว่ายตายเกิด ก็ภาวะจิตมุ่งตรงสู่นิพพาน คือไอ้การอยากรู้ อยากเห็นก็เลิกกัน แต่ว่าเหตุใหญ่มันชนกันเข้าก็ต้องรู้ สงสัยเขาก็พูดกันเรื่อยเลย โลกอุดรๆๆ คือใคร

    ........ก็มีคนหนึ่งบังเอิญเข้าไปพบ และก็ขอถ่ายภาพ ภาพแรกเป็นพระ กล้องเดียวกันถ่ายทีเดียว ขอถ่ายอีกทีกันเสีย มีภาพนุ่งโสร่ง ผ้าขาวม้าคาดพุงมีดเหน็บข้างหลัง

    ถามมึงถ่ายอะไร ?

    ฟิลม์เดียวกันครับ !

    ขอถ่ายครั้งที่ ๒ แกร็ก...กันเสีย ก็ไม่เสีย ได้อีกภาพหนึ่ง ถ้าได้ซ้ำก็เสียฟิลม์เปล่าใช่ไหม ?

    ........พวกตกใจใหญ่ เป็นไปได้รึ เขาเป็นจะถามทำเกลืออะไร ก็เพราะมันเอง มันเห็นเอง ถามเป็นไปได้หรือ เป็นไปได้แล้ว ไม่น่าจะมาถามเลย



    <center>พระโสณะอุตตระ</center>
    ........"โลกอุดร" ชื่อจริงๆ ก็ "อุตตระ" พระที่นำพระไตรปิฎกเข้ามาสุวรรณภูมิ อุตตระกับโสณะ หลังจากที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว...ถ้าถามว่าอยู่ได้ยังไง อย่าลืมคำหนึ่ง พระพุทธเจ้าตรัสว่า

    "ผู้ใดถ้าคล่องอิทธิบาท ๔ สามารถจะอธิษฐานร่างกายอยู่ถึงกัปหนึ่ง"

    .......อย่าลืมนะผู้ที่คล่องอิทธิบาท ๔ คือ พระอรหันต์ พระอนาคามีนี่ถือว่ายังไม่คล่อง เพราะอะไร ยังตัดสังโยชน์อีก ๕ ไม่ได้ ถ้าพระอรหันต็ก็ถือว่าคล่อง ไอ้คล่องไม่ใช่ว่าเฉยๆ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา อั๊วะก็ว่าได้นี่...นี่ไม่ได้นะ"

    จาก : หนังสือ ธัมมวิโมกข์ ปีที่ ๖ ฉบับที่ ๕๖ หน้า ๔๗-๔๘
    (อ่านเรื่องของพระโสณะอุตตระได้ที่ "ประวัติพุทธศาสนา" )

    Posted by เบญจพร
    วันจันทร์ ที่ 19 ตุลาคม 2552
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง กับ หลวงปู่โลกอุดร




    หลวงปู่บุดดา ถาวโร และหลวงปู่โลกอุดร


    [​IMG]




    เล่าเรื่องหลวงปู่เทพโลกอุดร......




    คืนหนึ่งในเดือนพฤษภาคม 2527 หลวงปู่(บุดดา ถาวโร)นอนให้ลูกศิษย์นวดอยู่ หลวงปู่ก็จะเล่านิทานธรรมะ ให้ลูกศิษย์ฟังไปด้วย พวกเรานั่งฟังธรรมะหลวงปู่ ราว 6-7 คน
    ข้าพเจ้ามีความสงสัยเรื่องของหลวงปู่เทพโลกอุดร ซึ่งลงในหนังสือ"คนพ้นโลก" ของอาจารย์ปถัมภ์ ในหนังสือเล่าว่า หลวงปู่โลกอุดร มีอายุเป็นพันปี และท่านเป็นพระอรหันต์องค์หนึ่ง ที่มีญาณวิเศษ ท่านสามารถเปลี่ยนร่างเป็นคนแก่ คนหนุ่ม หรือ ฆราวาส แล้วแต่ท่านจะสงเคราะห์บุคคลนั้นๆ เพราะเหตุใด เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ค้างคาใจข้าพเจ้าตลอดมา เมื่อมีโอกาส ข้าพเจ้าจึงถามหลวงปู่ว่า.....
    ข้าพเจ้า-หลวงปู่เจ้าคะ หลวงปู่เทพโลกอุดรมีจริงไหมคะ?


    หลวงปู่- มีจริงซิ โอ!!!! รูปร่างท่านสูงใหญ่ สูงแปดศอกโน่น !!! เวลานอน ท่านนอนหนุนขอนไม้ เราไม่เคยเจอท่านหรอก
    ข้าพเจ้า-หลวงปู่เจ้าคะ อายุเป็นพันปี ท่านอยู่ได้อย่างไร?


    หลวงปู่- อยู่ได้ด้วยญาณวิชา อยู่ในจอมปลวก ในถ้ำ ในภูเขา อยู่ได้เป็นพันๆปี อยากรู้เรื่องของท่าน ไปถามหลวงปู่วัยซี โน่น!! ท่านอยู่หินกองโน่น หลวงปู่ใหญ่ ท่านมาหาหลวงปู่วัยบ่อยๆ
    ข้าพเจ้า-หลวงปู่เจ้าคะ หลวงปู่วัย ที่เอาจีวรหลวงปู่โลกอุดร มาถวายหลวงปู่ใช่ไหมเจ้าคะ?
    หลวงปู่- อือ.....


    [​IMG]

    เล่าเรื่อง... หลวงปู่ใหญ่ (หลวงปู่เทพโลกอุดร)

    โดย พระราชญาณวิสิฐ (เสริมชัย ชยมงฺคโล)



    อาตมาภาพเคยได้ยินเรื่องราว และกิตติศัพท์เกี่ยวกับ “หลวงปู่ใหญ่” (หลวงปู่เทพโลกอุดร) มานานแล้ว
    และเคยได้รับอาราธนาไปประกอบพิธีเททองรูปหล่อ (รูปเหมือน) ของหลวงปู่ท่าน
    ที่วัดเขาตะเกียบ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ ๙ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๓๙
    โดยพระเดชพระคุณเจ้าประคุณ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์
    เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ องค์ปัจจุบัน เป็นประธาน
    และได้ไปร่วมประดิษฐานรูปเหมือนหลวงปู่ ที่วัดเขาตะเกียบอีกครั้งหนึ่ง เมื่อต้นปี พ.ศ.๒๕๔๐


    เมื่อเวลาเจริญสมถวิปัสสนากัมมัฏฐานก็ดี
    เวลาเจริญภาวนาอธิษฐานจิตบรรจุพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ
    และอิทธิมงคล...ลงในพระพุทธรูป หรือวัตถุมงคลทั้งหลายก็ดี

    นอกจากอธิษฐานขอ บารมีธรรม (บุญศักดิ์สิทธิ์ บารมี รัศมี กำลังฤทธิ์ อำนาจ สิทธิ เฉียบขาด)
    จาก พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
    ถึง...พระพุทธเจ้าต้นธาตุต้นธรรม
    หลวงพ่อวัดปากน้ำ (สด จนฺทสโร)
    และ พระอุปัชฌาย์อาจารย์ แล้ว

    ก็ได้อธิษฐานถึง...
    หลวงปู่ใหญ่ (หลวงปู่เทพโลกอุดร)
    หลวงปู่ทวด
    หลวงปู่สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต)
    หลวงปู่ศุข
    หลวงปู่มั่น
    หลวงปู่ปาน
    ฯลฯ

    เป็นประจำเสมอมา


    ครั้นต่อมาในเทศกาลเข้าพรรษา พ.ศ.๒๕๔๐
    อาตมาภาพได้สร้าง “สมเด็จพระธรรมกาย” รุ่นต่างๆ ได้แก่
    - รุ่น เทพนิมิต (๑๙๙๙๙)
    - รุ่น ๒๐๗
    - รุ่น ๙๙
    - รุ่น ๙๙๙
    และ รุ่น ๔๐
    (หมายเลขของรุ่น แสดงจำนวนพระที่สร้างแต่ละรุ่นนั้นๆ เท่าที่มวลสารพิเศษจะมีให้สร้างได้)

    โดยได้นำพระภิกษุสามเณร วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม เจริญภาวนาวิชชาธรรมกายชั้นสูง
    บรรจุพลังพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณ
    อธิษฐานจิตเพื่อให้เป็นสิริมงคลแก่ผู้มีพระนี้ไว้ในครอบครอง...ตลอดพรรษา

    และยังกระทำต่อมาอีก ๑ เดือนเศษ


    ขณะเจิญภาวนาแต่ละครั้ง ก็ได้อธิษฐานรวมบารมีธรรมของบูรพาจารย์ (ดังที่กล่าวข้างต้น)
    มาช่วยเจริญภาวนาให้เกิดพลังเป็นมหิทธิผล...เป็นประจำ

    ก็ปรากฏนิมิตของบูรพาจารย์ทุกท่านดังที่กล่าวข้างต้น
    ได้หมุนเวียนกันมาปรากฏองค์ให้เห็นชัดๆแก่ผู้นำเจริญภาวนา ในขณะเจริญภาวนาอยู่ทุกรอบ

    ......นี้เป็นการแสดงถึง
    การอธิษฐานรวมญาณ และบารมีธรรมของบูรพาจารย์...ขณะเจริญภาวนาวิชชาธรรมกายชั้นสูงนั้น
    มีความสอดคล้องกัน เป็นสายธาตุธรรมเดียวกัน ตามธรรมปฏิบัติตามแนววิชชาธรรมกาย
    ถึงพระนิพพาน(นิพพานถอดกาย) และถึงพระพุทธเจ้าต้นธาตุต้นธรรม...ในอายตนะนิพพานเป็น




    ครั้นปลายเดือนมกราคม พ.ศ.๒๕๔๑ ใกล้วันเทศกาลตรุษจีน
    ขณะเมื่ออาตมาภาพเดินตรวจงานเตรียมจัดนิทรรศการพระบรมสารีริกธาตุ
    เพื่อให้สาธุชนได้มานมัสการบูชาระหว่างเทศกาลตรุษจีน
    ครั้นเดินผ่านไปถึงด้านหน้าศาลาอเนกประสงค์
    โดยตั้งใจว่าจะเลยไปกราบนมัสการ หลวงพ่อวัดปากน้ำ...ที่วิหารหลวงพ่อสด ฯ


    ก็พลันเห็นนิมิต “หลวงปู่ใหญ่” (หลวงปู่เทพโลกอุดร)
    ...นั่งอยู่บนอาสนสงฆ์ที่หน้าพระประธานในอุโบสถ
    ตรงที่อาตมาภาพกราบพระ และเคยนั่งสอนภาวนาอยู่เป็นประจำ
    เห็นท่านนั่งหันหน้าไปทางทิศตะวันออกตามพระประธาน
    ห้อยเท้าลง ชันเข่าเอียงไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือเล็กน้อย เหมือนกับท่านนั่งรออาตมาภาพอยู่

    รูปร่างสูงใหญ่ขนาดฝรั่งตัวโต หน้าตาคล้ายๆกับที่เคยเห็นในรูป แต่แสดงสีหน้ายิ้มนิดๆ
    ทักทายอาตมาภาพด้วยความเมตตา เหมือนกับรับทราบว่าอาตมาภาพเห็นท่านแล้ว
    ท่านครองจีวรพาดสังฆาฏิบนไหล่ซ้าย สีย้อมฝาด ดูเก่าแต่เรียบร้อยมาก
    กิริยาที่นั่งก็เรียบร้อย ดูสง่าและทรงอำนาจ


    อาตมาภาพขณะเดินไปที่วิหารหลวงพ่อสดฯ ก็ได้อธิษฐานเรียนท่านว่า...
    “กระผมขอโอกาสไปกราบหลวงพ่อสดฯก่อนนะครับ แล้วจะรีบมากราบหลวงปู่”

    เห็นท่านยิ้มนิดๆ แสดงอาการรับทราบและเข้าใจความรู้สึกของอาตมาภาพ
    ที่มีความเคารพเทิดทูนต่อ หลวงพ่อสดฯ ผู้สอนวิชชาธรรมกายอย่างสูง
    และความรู้สึกของอาตมาภาพที่มีต่อ หลวงปู่ใหญ่ ด้วยเป็นอย่างดี


    ครั้นได้นมัสการบูชาหลวงพ่อที่วิหารหลวงพ่อสดฯ เรียบร้อยแล้ว
    ก็เดินกลับไปที่กุฏิพัก สั่งให้พระมหามณฑล อตฺตทนฺโต จัดดอกไม้ธุปเทียน
    และเปิดอุโบสถไว้รออาตมาภาพมานมัสการบูชาพระ
    เมื่อเตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว ก็ได้ไปถวายเครื่องสักการะนมัสการบูชา “หลวงปู่ใหญ่” ...ในอุโบสถ


    แล้วขออาราธนาหลวงปู่ใหญ่...ขอให้ท่านอยู่เจริญวิชชา
    ช่วยให้การศึกษาอบรมและเผยแพร่ที่วัดหลวงพ่อสดฯ นี้ด้วยอีกแรงหนึ่ง
    พร้อมด้วย หลวงปู่ทวด และ หลวงปู่สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต)

    เพราะที่นั่นเป็น “ปราสาททำวิชชา...ของพระพุทธเจ้าต้นธาตุต้นธรรม”
    โดยมี หลวงพ่อวัดปากน้ำ (สด จนฺทสโร) นั่งอยู่ตรงกลางเป็นประธานอยู่แล้ว


    เพราะเหตุนั้น ผู้ปฏิบัติภาวนาถึงธรรมกายแล้ว
    จึงเห็นท่านได้มีเมตตาอยู่เจริญภาวนาที่ในปราสาททำวิชชานี้ด้วยเสมอ......นับแต่นั้นเป็นต้นมา






    *** คัดลอกบางตอนจาก หนังสือ เหตุมหัศจรรย์ที่วัดหลวงพ่อสดฯ
    และ นิตยสารธรรมกาย ฉบับที่ ๔๗ มกราคม – มีนาคม ๒๕๔๑
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2012
  2. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,019
    [​IMG]

    กราบโมทนา สาธุ ท่านผู้มีใจบุญใจกุศล เสียสละเวลาหาบทความ นำบทความที่ดี มีสาระประโยชน์ ให้ผู้อ่านได้ศึกษา อันก่อให้เกิดปัญญาในการพิจารณา เมื่อปัญญาพิจารณาแล้ว จิตจะเป็นผู้กำหนด เป็นผู้เลือกความถูกต้อง ถือว่าเป็น จาคะ คือการให้และการให้นั้น ให้ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน อีกทั้ง ถือว่าการให้นั้น เป็นธรรมทาน เป็นบุญใหญ่ สมดั่งพระธรรมคำสั่งสอนของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตอบปัญหาท้าวสักกะผู้เป็นจอมเทพยดา ปรากฏใน ตัณหาวรรค ธรรมบท ว่า “การให้ธรรมทาน ชนะการให้ทั้งปวง ผู้ใดให้ธรรมะเป็นทาน ผู้นั้นชื่อว่าให้พระนิพพานแก่คนทั้งหลาย“ ขอโมทนาสาธุ
     
  3. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,019
    [​IMG]
    ๑ กัป เท่ากับเวลาเท่าใดในโลกมนุษย์ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ มีคำตอบ
    การนับกัปหนึ่ง... คำว่ากัปหนึ่งนั้น มีปริมาณนับปีไม่ได้ องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาทรงเปรียบเทียบไว้อย่างนี้ว่า มีภูเขาลูกหนึ่ง เป็นหินล้วนไม่มีดินเจือปน ถึงเวลา ๑๐๐ ปี เทวดาเอาผ้ามีเนื้ออ่อนเหมือนสำลีมาปัดยอดเขานั้นครั้งหนึ่ง ทำอย่างนี้ ๑๐๐ ปีปัด ๑ ครั้ง ๑๐๐ ปีปัด ๑ ครั้ง จนกระทั่งหินนั้นหมดไป หาหินไม่ได้ เหลือแต่ดินล้วน นั่นจึงจะมีอายุได้ครบ ๑ กัป และอีกประการหนึ่ง ท่านพรรณนาไว้ในพระวิสุทธิมรรคว่า มีอุปมาเหมือนกับว่ามีถังใหญ่ลูกหนึ่งมีความสูง ๑ โยชน์ กว้าง ๑ โยชน์ ยาว ๑ โยชน์เหมือนกัน มีคนเอาเมล็ดพันธุ์ผัดกาดมาใส่ในถังนั้นจนเต็ม ถึงเวลา 100 ปีก็เอาเมล็ดพันธุ์ผักกาดนั้นออก ๑ เมล็ด ทำอย่างนี้จนกว่าเมล็ดพันธุ์ผัดกาดนั้นจะหมดไป เป็นการเปรียบเทียบกันได้กับระยะเวลา ๑ กัป นี่เป็นอันว่า กัปหนึ่งเราจะนับเวลาประมาณไม่ได้ เช่นกัปหนึ่งเราจะนับเวลาประมาณไม่ได้ เช่นกัปในปัจจุบันนี้สามารถจะทรงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ถึง ๑๐ พระองค์ เป็นระยะยาวนานมาก
    [/COLOR][/SIZE]
     
  4. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    สาธุ ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูงครับ

    เชิญแวะอ่านธรรมะของหลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง ที่
    เฟสบุ๊ค ศูนย์พุทธศรัทธา
    และร่วมกันแบ่งปันธรรมะของหลวงพ่อฯ ไปยังกระดานของท่านเพื่อเป็นธรรมทาน

    เว็บทางนิพพาน เว็บไซด์ เผยแพร่ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น<O[​IMG]
    ที่รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน<O[​IMG]
    ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่www.tangnipparn.com<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com[​IMG]ขอเชิญแวะเยี่ยมชมและโมทนาบุญเว็บศูนย์พุทธศรัทธา

    [​IMG]</O:p><!-- google_ad_section_end -->
     
  5. ละโลก

    ละโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    188
    ค่าพลัง:
    +654
    อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ ครับ
     
  6. สมิตา

    สมิตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2011
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +189
    ขออนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ เราจะไปนั่งมโนอาทิตย์ละครั้งที่วัดท่าซุง
     
  7. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,678
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,017

แชร์หน้านี้

Loading...