พระเทวทัตจองเวรพระพุทธเจ้า

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย เทพออระฤทธิ์, 20 กุมภาพันธ์ 2013.

  1. เทพออระฤทธิ์

    เทพออระฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,573
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +22,047
    เรื่อง ต้นเหตุพระเทวทัตจองเวรพระพุทธเจ้า



    (เสริววาทนิชชาดก)



    “อันธะตะมัง ตะฑา โหติ ยัง โลโภ สะหะเต นะรัง



    เมื่อความโลภเข้าครอบงำคน เวลานั้นก็มีแต่ความมืดตื้อ”



    คือในอดีตนับถอยหลังจากกัปนี้ลงไป มีพ่อค้าเร่ขายเครื่องประดับอยู่ ๒ คน คนหนึ่งเจ้าเล่ห์ คนหนึ่งซื่อสัตย์ ทั้งคู่อยู่ในเมืองเสรีวะ อยู่มาคราวหนึ่งทั้ง ๒ ได้เดินทางข้ามแม่น้ำนีลวะหะ เข้าไปยังเมืองอริฏฐบุรี ไปถึงตำบลหนึ่งพร้อมกัน พ่อค้าคนซื่อสัตย์เข้าทางตะวันออก ส่วนพ่อค้าเจ้าเล่ห์เข้าทางตะวันตก ฝ่ายพ่อค้าเจ้าเล่ห์ที่เข้าทางตะวันตกได้ไปถึงบ้านเศรษฐีตกยาก (ล้มละลาย) คนหนึ่งก่อน ซึ่งในบ้านนี้มีเหลือยู่แค่ยายกับหลานสาวเท่านั้น ภายในบ้านยังมีถาดทองคำอยู่ถาดหนึ่ง ซึ่งนำไปเก็บปะปนกันกับเศษภาชนะที่ไม่ใช้แล้ว

    เมื่อหลานสาวเห็นพ่อค้าเร่ขายเครื่องประดับก็อยากได้เครื่องประดับจึงบอกกับยายว่า “ยายจ๋า เรามีถาดเก่าอยู่ใบหนึ่ง พอจะเอามาแลกเครื่องประดับกับพ่อค้าได้ไหม ?” ยายจึงบอกหลานสาวให้เชิญพ่อค้าเข้ามาในบ้าน แล้วบอกกับพ่อค้าว่า “นายจ๋า เรามีถาดเก่าอยู่ใบหนึ่ง พอจะแลกเครื่องประดับเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ไหม ?” จึงนำถาดเก่าสนิมจับเกรอะกะใบหนึ่งมออกมาแลก ฝ่ายพ่อค้าเจ้าเล่ห์ด้วยความที่เป็นพ่อค้าเร่มานานได้เห็นและจับดูก็สงสัยเนื่องจากน้ำหนักผิดปกติที่ควรจะเป็น จึงได้เอาเข็มกรีดดู ก็รู้ว่าเป็นทองคำ

    เมื่อรู้ว่าเป็นทองคำแน่แล้ว ได้ชั่งน้ำหนักดู เห็นว่าถาดใบนี้มีมูลค่าตั้ง ๑๐๐,๐๐๐ กหาปณะ ก็ดีใจมากคิดอยากได้เปล่า จึงแกล้งบอกว่า “ถาดของพวกเจ้านี้ไม่มีราคาเท่าไหร่เลย ราคามูลค่าไม่ถึงสลึง จะมาแลกเอาอะไรกับของ (เครื่องประดับ) ๆ ข้าได้” แล้วก็โยนถาดลงกับพื้นเสมือนของไม่มีราคา แล้วออกเดินเร่ขายเครื่องประดับต่อไป ด้วยคิดจะย้อนกลับมาเอาเปล่าหรือเอาอย่างราคาถูกที่สุดในภายหลังก่อนกลับ (ด้วยคิดจะทำให้ยายและหลานสาวตายใจก่อน)

    แต่พอไปสักครู่ใหญ่พ่อค้าเร่ขายเครื่องประดับคนที่ซื่อสัตย์ที่เข้าทางตะวันออกก็มาถึงที่บ้านเศรษฐีตกยากหลังนี้ เมื่อหลานสาวเห็นก็อยากได้เครื่องประดับอีกจึงบอกกับยายว่า “ยาย มีพ่อค้ามาอีกคนแล้ว เราลองเอาถาดเราไปแลกดูอีกครั้งจะดีไหม ?” ยายบอกกับหลานว่า “ขนาดเมื่อกี้เขายังโยนถาดของเราทิ้ง แถมยังตีราคาให้ไม่ถึงสลึงเลย พ่อค้าคนนี้เขาจะรับของเราหรือ” หลานได้บอกกับยายว่า “แต่พ่อค้าคนนี้ดูท่าทางใจดี ไม่เหมือนพ่อค้าคนก่อนซึ่งพูดหยาบไม่น่านับถือ เดี๋ยวหนูไปเชิญเขาเข้ามาในบ้านนะยาย” เมื่อพ่อค้าเร่ได้เข้ามาในบ้าน ยายก็นำถาดเก่าสนิมจับเกรอะกะใบนั้น (ถาดทองคำ) มาขอแลก

    และเนื่องด้วยที่เป็นพ่อค้าเร่มานานเช่นกัน เมื่อพ่อค้าก็หยิบถาดทองคำขึ้นดู ก็รู้สึกว่าหนักผิดปกติก็เอาเข็มกรีดดู พอรู้ว่าเป็นทองคำแน่แล้ว แล้วชั่งน้ำหนักดู ก็บอกตามความเป็นจริงกับยายและหลานสาวว่า “ยาย จ๋า ถาดนี้เป็นทองคำนะยาย เราตีราคาถาดทองคำนี้เท่ากับ ๑๐๐,๐๐๐ กหาปณะ” ยายตกใจและค่อย ๆ พูดขึ้นอย่างใจเย็นว่า “พ่อค้าเร่ขายเครื่องประดับคนก่อนตีราคาถาดนี้ไม่ถึงสลึงเลย และเราไม่อยากเชื่อเลยว่าเราจะมีถาดทองคำที่มีมูลค่าทรัพย์ถึง ๑๐๐,๐๐๐ กหาปณะ อยู่ในมือ ถ้าอย่างนั้นก็เห็นจะเป็นบุญของหลาน เราจะให้ถาดนี้แก่หลานชาย ขอให้หลานชายให้เครื่องประดับแก่หลานสาวของยายสักเล็กน้อยก็แล้วกัน”

    พ่อค้าเร่ผู้ซื่อสัตย์นั้นจึงบอกว่า “วันนี้จากการขายเครื่องประดับและเงินทั้งหมดของเราก็มีเพียงประมาณ ๕๐๐ กหาปณะเท่านั้น หลานจักยกให้หมด แล้วจักแถมของ (เครื่องประดับ) ให้อีก” ว่าแล้วก็ยกเครื่องประดับที่เหลือทั้งหมดมีมูลค่ารวมประมาณ ๕๐๐ กหาปณะ กับเงิน ๕๐๐ กหาปณะให้ เหลือเงินไว้เดินทางกลับถึงบ้านเพียงแค่ ๘ กหาปณะ แล้วพ่อค้าเร่ที่ซื่อสัตย์ก็เอาถาดทองคำใบนั้นไป หมายจะขึ้นเรือเดินทางกลับเมืองเสรีวะ

    ห่างไปไม่นานอีกด้านหนึ่ง ฝ่ายพ่อค้าเจ้าเล่ห์ที่เข้าเมืองทางด้านตะวันตก ก่อนกลับก็ย้อนกลับมาที่บ้านเศรษฐีตกยากนี้อีกครั้งหนึ่ง ด้วยหวังว่าจะมาเอาถาดทองคำให้ได้ ยายได้บอกกับพ่อค้าเจ้าเล่ห์ว่า “ถาดเก่าของยายมีมูลค่าถึง ๑๐๐,๐๐๐ กหาปณะ แต่เจ้ากลับตีราคาให้ไม่ถึงสลึง พอดีมีพ่อค้ายุติธรรมผ่านมา ข้าเลยมอบให้เขาไปแล้ว โน้นเขาขึ้นเรือกลับไปแล้ว” เมื่อพ่อค้าเจ้าเล่ห์รู้เรื่องก็เสียใจล้มลงทั้งยืน เมื่อตั้งสติได้พ่อค้าเจ้าเล่ห์ก็ทิ้งข้าวของที่ติดตัวมากระจัดกระจายระเนระนาด คว้าไม้คันชั่งหมายทำเป็นค้อนออกวิ่งไล่ตาม เมื่อไปถึงริมตลิ่ง แล้วตะโกนเรียกให้เรือกลับมารับตน

    พ่อค้าซื่อสัตย์ซึ่งกำลังนั่งเรือข้ามน้ำจวนจะถึงฝั่งโน้นแล้ว สังเกตเห็นพ่อค้าเจ้าเล่ห์มีอาการโกรธ ฉุนเฉียว ไร้สติ จึงสั่งให้คนพายเรือแจวต่อไปไม่ต้องกลับเรือไปรับ เมื่อฝ่ายพ่อค้าเจ้าเล่ห์เห็นเรือไม่กลับมารับตน ได้แต่มองเรือกำลังลับตาไปทุกขณะ ก็เกิดความพยาบาทอาฆาตแค้นเป็นอย่างมาก ก็กล่าวคำจอเวรขึ้นว่า “ขอให้เราได้ทำร้ายท่านในชาติต่อ ๆ ไปให้จงได้” ว่าแล้วก็ถึงกับหัวใจล้มเหลว โลหิตพุ่งออกจากปากถึงแก่ความตาย มาชาติสุดท้ายพ่อค้าเจ้าเล่ห์ที่เข้าเมืองด้านตะวันตกนั้นได้มาเกิดเป็นพระเทวทัต ส่วนพ่อค้าอีกคนที่ซื่อสัตย์ที่เข้าเมืองด้านตะวันออกได้มาเกิดเป็นพระพุทธเจ้า จบเรื่องนี้ใน เสริววาทนิชชาดก เอกนิบาท เท่านี้.

    ธรรมนิทานชาดกเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

    “ความคดโกงไม่ดีเลย”

    “โลภนักมักฉิบหาย โลภนักมักตัวตาย”

    “ความโลภอยากได้ของเขา ทำให้เกิดความโกรธ”

    ที่มา
    ชาดก ๕๐๐ ชาติ > เรื่อง ต้นเหตุพระเทวทัตจองเวรพระพุทธเจ้า [Engine by iGetWeb.com]
     
  2. Jt Odyssey

    Jt Odyssey เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,684
    ค่าพลัง:
    +12,591
    การจองเวรพระโพธิสัีตว์ ปัจจุบันนี้สังเกตว่ามีบางคนกระทำอยู่ โดยไม่ได้ฉุกคิดเลยว่าการจองเวรนั้น จะมีผลทำให้เกิดการจองเวรข้ามภพข้ามชาติ

    ถ้าพระโพธิสัตว์นั้นได้เป็นพระพุทธเจ้าในชาติสุดท้าย กระแสแห่งเวรนั้นก็จะทำให้มีจิตประทุษร้ายคิดร้ายต่อพระพุทธเจ้าด้วย และจะนำให้ตนตกนรกอเวจี อย่างเช่นพระเทวทัตและสมุน
     
  3. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,993
    จองเวรกันเอาไว้นี่ ถ้าคนที่จองเวรไว้นี่ดันเป็นพระโพธิสัตว์เข้านี่ก็ซวยสุดขั้วเลยนะ ทางที่ดีเพื่อความปลอดภัยแล้ว ไม่ควรจองเวรกะใครๆเลยจะดีกว่า จะได้ไม่ต้องกลัวว่าจะไปจ๊ะเข้ากับพระโพธิสัตว์หรือเปล่า..แต่จะว่าไปท่านเทวฑัตนี่ก็ไม่ธรรมดานะ ถ้าจะตามจองเวรพระพุทธเจ้าได้นี่ก็ต้องทำบุญมาใกล้เคียงกัน ต้องตามมาเกิดร่วมชาติกันได้นี่บุญก็คงทำมามิใช่น้อย เรียกว่าน่าจะกวดกันมาติดๆ ขนาดว่าชาติสุดท้ายนี้ ท่านได้ 5 ในอภิญญา 6 เล่นฤทธิ์ เนรมิตกายได้เลยนะ ผมว่าท่านก็ไม่ธรรมดาคนนึงเหมือนกัน จะว่าไปจะดีกว่าผมซะอีก ที่เอาอภิญญาอะไรก็ไม่ได้กะเขาสักกะอย่างหรอกนะครับ บางทีก็อดนึกไม่ได้เหมือนกันนะ ไปว่าๆท่านเข้านี่อนาคตท่านเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าเชียวนะ แล้วไอ้เรานี่ถ้าจะฝึกจนวันตายนี่จะเอาแต่อภิญญานี่จะยังไม่ได้เท่าท่านเลยนะ..เฮ้อ..เลยแทนที่จะว่าท่านกลับมานึกด่าตัวเองเลยนะว่า เรานี่ถ้ามันจะยังเลวกว่าพระเทวฑัตซะอีกนะ...
     
  4. BukKhaek

    BukKhaek Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +31
    คนเรานี่ก็แปลกนะ ไม่รู้จะจองเวรกันไปทำไม มีแต่จะบาปติดตัว
    หาได้ดีกับเขาไม่ ชิวิตไม่เจริญแถมยังล่มจมอีก หากปล่อยวางได้ จิตก็จะไม่เป้นทุกข์
    อย่าคิดโลภในสิ่งที่ไม่ใช่ของตน เป็นแค่ของนอกกาย " ละ " ได้ ก็ไม่เป็นทุกข์....
     
  5. นโม ตัส สะ

    นโม ตัส สะ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +4
    ย่อไปนิด..แต่ก็โอ.เค
     
  6. saekue20

    saekue20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +757
    No comment.
    No comment.
    No comment.
     
  7. Reynolds

    Reynolds เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    578
    ค่าพลัง:
    +1,501
    ผู้ใดคิดทรยศ ปรามาสในหลวง ระวังให้ดี พระอริยะรับรองหลายองค์ และมีพระอริยะมากมายอธิษฐานจิตปกป้องคุ้มครองในหลวงหลายองค์นะครับ คนที่น่าเคารพคือในหลวงไม่ใช่นักการเมือง
     
  8. ชุนชิว

    ชุนชิว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +780
    บางคนคิดสั้น ถ้าไม่มีเทวทัต ก็จะไม่มีพระพุทธเจ้าจะคนเข้าใจกี่คนกัน รู้หรือเปล่าว่าเทวทัต บำเพ็ญบารมีมามากกว่าคุณอีก เขาเหลืออีกแค่ไม่กี่ชาติก็นิพพานแล้ว คุณล่ะเหลืออีกกี่ชาติ
     

แชร์หน้านี้

Loading...