พระเพลิงเผาหอสมุดหลังใหญ่วัดพนัญเชิงวรวิหารเสียหายกว่า 100 ล้านบาท

เวลา 15.00 น. วันที่ 24 เมษายน พ.ต.อ.สมบัติ ชูชัยยะ รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ที่วัดพนัญเชิงวรวิหาร ที่เป็นวัดอันเป็นที่ตั้งของพระพุทธไตรรัตนนายก หรือ หลวงพ่อโต ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ที่สุดของจังหวัดสร้างมาก่อนสถาปนาแผ่นดินกรุงศรีอยุธยา อยู่ที่จุดบรรจบของแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสัก เขต ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลกในการเข้ากราบไหว้พระบุญขอพรพระโบราณ ซึ่งพบว่าเพลิงลุกโหมไม้ที่อาคารทรงปราสาทจัตุรมุข ชื่อเป็นอาคารหอสวดมนต์และอาคารหอสมุดของวัดที่เป็นสำนักเรียนพระปริยัติธรรมซึ่งเป็นตำราทางพระพุทธศาสนาและพระไตรปิฎกส่วนหนึ่งของวัด โดยเป็นอาคารทรงหลังคาโบราณ หลังใหญ่ กว้างประมาณ 40 x 40 เมตร ขนาด 2 ชั้น ซึ่งชั้นบนทำจากไม้สัก ชั้นล่างเป็นปูน ตกแต่งสวยงาม ด้านทรงหลังคาเป็นทรงปราสาท ติดกระจกรอบอาคาร และตกแต่งรอบอาคารอย่างวิจิตร โดยอาคารหลังดังกล่าวมีมูลค่ากว่า 100 ร้อยล้านบาท และกำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุงจากอาคารเก่า ซึ่งผลการปรับปรุงพบว่าเกือบเสร็จสิ้นสมบูรณ์ 95 % เช่นกัน อยู่ระหว่างการตกแต่งเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

เพลิงลุกไหม้จากจัตุรมุขทางดานทิศใต้ โดยเกิดกลุ่มควันก่อนและเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็วและลุกลามไปทั่วอาคารทั้ง 2 ชั้น โดยเฉพาะวัสดุอุปกรณ์และวัสดุก่อนสร้างที่กำลังตกแต่งเช่นสีและทินเนอร์เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ระดับรถดับเพลิงกว่า 20 คันใช้น้ำดับเพลิง เพราะเกรงว่าเพลิงจะลุกลามไปติดกลุ่มกุฎิเรือนไทยไม้สักหลังใหญ่ 2 หลังริมน้ำ และกลุ่มกุฏิเรือนไทยอีกจำนวนมาก รวมถึงวิหารหลวงพ่อโตและพระอุโบสถของวัด โดยระหว่างดับเพลิงพบว่ามีลมแรง และมีประชาชนรวมถึงนักท่องเที่ยวมามุงดูจำนวนมาก โดยกระเบื้องหลังคาได้ร่วงหล่นลงมาตลอดเวลาที่ถูกน้ำฉีดเข้าใส ทั้งนี้มีการใช้น้ำดับเพลิงนานกว่า 30 นาทีสามารถดับเปลวเพลิงลงได้ และใช้เวลาอีกกว่า 30 นาทีในการดับเพลิงลงอย่าสิ้นเชิง คาดเสียหายกว่า 100 ร้อยบาทแน่นอน โดยในที่เกิดเหตุไม่พบผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถสรุปสาเหตุของเพลิงไหม้ได้ว่ามาจากเหตุใด โดยจะเร่งให้เจ้าหน้าที่วิทยาการเข้าตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงโดยด่วน ทั้งนี้ตั้งข้อสมมุติฐานว่าไฟฟ้าลัดวงจรและอุบัติเหตุขณะการปรับปรุงก่อสร้าง

พระเทพรัตนากร(นพปฏล กตสาโร) หรือเจ้าคุณแวว เจ้าอาวาสวัดพนัญเชิงวรวิหาร เจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า เดิมอาคารนี้เป็นอาคารหลังเก่าและมีการปรับปรุงอย่างดี ใกล้จะแล้วเสร็จสมบูรณ์แล้ว สาเหตุยังไม่ทราบว่ามาจาสาเหตุใด ซึ่งต้องรอผลการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

<object width="420" height="315"><param name="movie" value="https://www.youtube-nocookie.com/v/pighMrD9UAg?version=3&amp;hl=en_US"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param


มติชนออนไลน์

 

ไฟไหม้ "กุฏิ" ไม้สักทรงไทยวัดพนัญเชิงวอด-คาดต้องใช้เงินบูรณะถึงร้อยล้าน!



[ame="http://www.youtube.com/watch?v=pighMrD9UAg&feature=player_embedded"]เพลิงไหม้หอสมุดวัดพนัญเชิงวรวิหาร - YouTube[/ame]

เวลา 15.00 น. วันที่ 24 เม.ย. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า พ.ต.ท.โกศล ภาคาหาญ พนักงานสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ภายในวัดพนัญเชิงวรวิหาร ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จึงพร้อมด้วยพ.ต.อ.วุฒิพงศ์ เพ็ชรกำเหนิด รองผบก. พ.ต.อ.ชัยณรงค์ สมเพราะ ผกก. พ.ต.ท.พิชา รุจินาม รองผกก.สส. สภ.พระนครศรีอยุธยา นายสุริยะ รื่นเวช ปลัดเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา นำรถดับเพลิงจำนวน10คันและเรือดับเพลิง 2 ลำ ไปยังที่เกิดเหตุ พบเพลิงกำลังลุกไหม้กุฎิทรงไทยจตุรมุขไม้สักครึ่งตึกไม้ 2 ชั้น อยู่ติดกับกุฎิพระเทพรัตนากร เจ้าอาวาสวัด ที่มีพื้นที่ขนาดกว้าง150 ตารางวา เพลิงได้ลุกไหม้ชั้นบนอย่างรวดเร็ว เนื่องจากกุฎิอยู่ระหว่างการบูรณะ มีการทาแลกเกอร์เคลือบเงาตัวกุฎิจึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว กระจายไปทั่วอาคาร รอบๆตัวอาคารมีกระจกปิดทุกด้านทำให้เพลิงลุกไหม้ภายใน เจ้าหน้าที่ต้องทำการทุบกระจกแล้วระดมฉีดน้ำเพื่อควบคุเพลิงใช้เวลากว่า 1 ชม.จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ พระเทพรัตนากร เจ้าอาวาสวัดพนัญเชิงและเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตัวอาคารหลังนี้ชั้นล่างก่ออิฐถือปูนส่วนชั้นที่สอง ใช้ไม้สัก และไม้หอม ในการปรับปรุงเพื่อเป็นอาคารห้องสมุดเฉลิมพระเกรียติ ยังบูรณะไม่เสร็จ กำลังวางระบบไฟฟ้า และติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ยังไม่มีพระจำพรรษา มีตู้พระไตรปิฎกและตู้ไม้สักโบราณอยู่จำนวนหนึ่ง ยังไม่มีหนังสือ อาคารหลังนี้ อาคารหลังนี้ใช้งบประมาณในการบูรณะไปแล้วกว่า 20 ล้านบาท ดูจากภาพแล้วคงจะต้องทำการบูรณะใหม่ทั้งหมด ยังไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากอะไร คงต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการเข้ไปตรวจสอบ เดิมอาคารนี้ใช้เป็นอาคารเรียนปริยัติธรรมของพระเณร เป็นอาคารเก่าแก่ เกือบ 100 ปี ต้องขอชมเชยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงทุกหน่วยที่มาช่วยกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างเกิดเพลิงไหม้ได้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าไปไหว้หลวงพ่อโตต่างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่างๆวิ่งออกมาดูบางคนถึงกับสวดมนต์ให้หลวงพ่อโตช่วยปัดเป่าให้ไฟดับ สำหรับวัดพนัญเชิงเพิ่งจะทำบุญครอบรอบวันเกิดให้กับหลวงพ่อโต เมื่อวันที่ 11 เม.ย. ที่ผ่านมา เป็นปีที่ 688 คาดว่าในการบูรณะใหม่หลังจากไฟไหม้น่าจะต้องใช้งบประมาณกว่า 100 ล้านบาท พ.ต.อ.ชัยณรงค์ กล่าวว่า สาเหตุของเพลิงไหม้ ต้องรอให้ไฟดับจนสนิทจึงจะให้เจ้าหน้าที่วิทยาการเข้าไปตรวจสอบ ทราบว่าก่อนเกิดเหตุไม่มีผู้ใดอยู่ในอาคาร โดยจะให้พนักงานสอบสวนสอบสวนผู้ที่เห็นเหตุการณ์ภายในวัด เป็นอาคารที่กำลังบูรณะไม่ทราบว่าคนงานที่กำลังก่อสร้าง ได้ตรวจสอบอย่างละเอียดหรือไม่ในการปิดเปิดไฟ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าอาจจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร

 

เสียดายนะครับ..โดยเฉพาะหนังสืออันมีค่าทางศาสนาที่สูญเสียไป....