พระเมตตาช่วยชาวประชาและบำรุงพระพุทธศาสนา

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD align=middle height=10></TD></TR><TR><TD>

​

</TD></TR><TR><TD align=middle height=10></TD></TR><TR><TD>
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงมีพระเมตตาต่อปวงประชาในหลายด้าน มาเป็นเวลาช้านานแล้ว โดยเห็นได้จากทรงก่อตั้งมูลนิธิกัลยานิมิต ช่วยเหลือผู้ยากไร้ที่มีปัญหาโรคหัวใจ โครงการช่วยลดการติดเอดส์จากแม่สู่ลูก กองทุนยาพระวรราชาทินัดดามาตุสำหรับผู้ติดเชื้อเอดส์ ให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเอดส์ และลูกซึ่งเกิดจากแม่ที่ติดเชื้อ มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย เป็นต้น

การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ได้ทรงเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2538 และทรงมีพระเมตตาช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ภาพเจนตาที่ชาวไทยมักจะได้เห็นอยู่บ่อยครั้งยามเกิดอุทกภัย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ จะทรงร่วมจัดถุงยังชีพพระราชทานด้วยพระองค์เอง ไม่เพียงเท่านั้นยังทรงเล็งเห็นถึงความสำคัญของอาหารและน้ำดื่มสะอาดสำหรับผู้ประสบภัย จึงทรงมีพระดำริให้มีการพัฒนาความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง จนได้ต้นแบบความช่วยเหลือหลายต้นแบบด้วยกัน ดังมีรายละเอียดพอสังเขปคือ





<CENTER></CENTER>

การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยด้านการยังชีพ ได้ประทานถุงยังชีพแก่ผู้ประสบอุทกภัยทั่วทุกภาคของประเทศเป็นจำนวนมาก เฉลี่ยปีละประมาณถึง 30,000 ครอบครัว ประทานอาหารสดปีละไม่น้อยกว่า 200,000 คน อีกทั้ง ยังมีพระดำริให้จัดทำรถประกอบอาหารต้นแบบที่สามารถประกอบอาหารสดๆ ร้อนๆ สร้างความรู้สึกฟื้นคืนสภาพชีวิตความเป็นอยู่ในภาวะปกติสุข รถประกอบอาหารดังกล่าว สามารถประกอบอาหารได้มื้อละอย่างน้อย 2,000 คน และรถประกอบอาหารนี้ยังสามารถใช้ในการช่วยเหลือเคลื่อนย้ายผู้พิการและผู้ป่วยออกจากบ้านเรือนที่ประสบอุทกภัยได้อีกด้วย

ในด้านการฟื้นฟู ทรงมีพระดำริให้จัดทำต้นแบบบ้านชั่วคราว เพื่อให้ผู้ประสบภัยที่บ้านถูกทำลายจากอุทกภัยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นการชั่วคราว ซึ่งต้นแบบบ้านชั่วคราวนี้สามารถสร้างให้แล้วเสร็จได้ภายใน 7-10 วัน เพื่อเป็นการเร่งฟื้นฟูสภาพจิตใจผู้ประสบภัยให้รู้สึกปลอดภัย มีที่พักพิง เมื่อผู้ประสบภัยมีที่พักอาศัยถาวรแล้ว บ้านชั่วคราวก็สามารถรื้อถอนเก็บไว้ใช้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในคราวต่อไปได้ โดยไม่สิ้นเปลืองงบประมาณการก่อสร้าง




<CENTER></CENTER>

เมื่อประชาชนมีความปลอดภัย มีที่อยู่อาศัยมั่นคงถาวรแล้ว พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ก็ยังไม่คลายความกังวลพระทัยที่มีต่อราษฎรผู้ประสบภัย ในด้านการทำมาหาเลี้ยงชีพ เนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกเสียหายจากภัยน้ำท่วม ทรงเป็นห่วงว่าพวกเขาจะฟื้นคืนสภาพในอาชีพของตัวเองได้อย่างไร จึงได้ทรงมีพระบัญชาให้มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภา) ยามยากฯ จัดทำโครงการฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยต้นแบบเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ยามยาก ตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง ที่มีทั้งการสนับสนุนให้ผู้ประสบอุทกภัยมีทักษะและความสามารถจะผลิตอาหารรับประทานเองได้ภายใน 45 วัน และฟื้นฟูอาชีพ

โดยมีหมู่บ้านต้นแบบอยู่ที่ ตำบลบ้านแห อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง มีชื่อว่า "ศูนย์เรียนรู้ฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยต้นแบบเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก ตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง" เพื่อเป็นสถานที่ฝึกฝนดูงานให้เกิดการสร้างอาชีพอย่างเป็นรูปธรรม ปัจจุบันผู้ประสบอุทกภัยได้รับการอบรมไปแล้วมากกว่า 2,000 ครอบครัว และอีกมากกว่า 4,000 ครอบครัวของผู้มีปัญหาด้านอาชีพที่ไม่ได้เกิดจากอุทกภัย มาร่วมฝึกอาชีพและดูงานที่แห่งนี้ด้วย




<CENTER></CENTER>

สำหรับผู้ประสบภัยที่มีอาชีพหลักในการทำนาข้าว พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ยังโปรดให้ทำแปลงนาเพื่อเพราะพันธุ์ข้าวและกล้าข้าว เพื่อแจกจ่ายให้กับเกษตรกรที่ประสบภัยไว้ใช้เป็นพันธุ์เพาะปลูก โดยแปลงนาดังกล่าวอยู่ที่จังหวัดสุพรรณบุรีและจังหวัดลพบุรี และคาดว่าปีนี้จะสามารถมีส่วนช่วยเหลือชาวนาและผู้ประสบอุทกภัยได้อีกจำนวนมาก

จากพระเมตตาที่ประทานให้กับผู้ประสบอุทกภัยมานานนับ 10 ปี นอกจากจะทรงพบผู้ประสบภัยที่ต้องสูญเสียบ้านเรือน ทรัพย์สินและอาชีพแล้ว พระองค์ยังทรงพบเห็นผู้เสียชีวิตจากน้ำป่า ดินโคลนถล่มจากฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของประเทศในหลายๆ ครั้งด้วยกัน จึงโปรดให้มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยากฯ ร่วมกับ กรมป้องกันสาธารณภัย กรมอุตุนิยมวิทยา และผู้ว่าราชการจังหวัด ในพื้นที่ประสบภัย จัดทำระบบเฝ้าระวังภัย เตือนภัย และการอพยพหลบภัยต้นแบบ เพื่อเป็นการป้องกัน บรรเทาการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน ที่จะเกิดกับราษฎรในพื้นที่เสี่ยงภัย

<CENTER></CENTER>

นอกจากพระกรณียกิจด้านการสาธารณกุศลแล้ว พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ยังทรงมีพระทัยใส่ในด้านทำนุบำรุงศาสนา ไม่ว่าจะเป็น พุทธ คริสต์ อิสลาม ทุกครั้งที่ประทานความช่วยเหลือผู้ประสบภัยทั่วไปแล้ว ยังประทานความช่วยเหลือศาสนสถาน วัดวาอาราม ภิกษุสงฆ์ ในพื้นที่ โดยโปรดให้มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภา) ยามยากฯ ไปให้ความช่วยเหลือตั้งแต่การถวายอาหาร และจตุปัจจัย ไทยธรรมแด่พระภิกษุ สิ่งของสำหรับผู้นำศาสนาทุกศาสนา โปรดให้บูรณะวัดวาอาราม มัสยิดหลายแห่งด้วยกัน ด้วยทรงเล็งเห็นถึงความสำคัญของทุกศาสนาซึ่งเป็นที่พึ่งที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจของคนในชุมชน

จากพระกรณียกิจนานัปการที่ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงปฎิบัตินั้น แสดงให้เห็นถึงความเสียสละ ความอุตสาหะ ความเอาพระทัยใส่ และมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือให้ประชาชนชาวทุกภาคของประเทศไทย มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี เพื่อเป็นการแบ่งเบาพระราชภาระของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พระบรมราชินีนาถ อย่างเต็มพระกำลัง ถึงแม้ว่าพื้นที่ที่เสด็จไปจะมีความยากลำบากสักเพียงใด ก็ไม่เคยที่จะทรงย่อท้อต่ออุปสรรค ซึ่งเป็นสิ่งที่ปวงชนชาวไทยต่างตระหนักและซาบซึ้งในพระเมตตาเสมอมา

���˹�� ��蹤� �ç�� �ç��




</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ทรงพระเจริญ