พระกริ่งไตรลักษณ์ ปี ๒๕๑๗ หลวงพ่อเกษม เขมโก หมายเลข ๙๖๔
สร้างเพียงเนื้อนวะเนื้อเดียว จำนวนสร้าง ๑,๕๙๙ องค์
วัตถุประสงค์ สร้างโบสถ์วัดอินทร์ประชาราษฎร์ ปราจีนบุรี
หลวงพ่อเกษมเททองหล่อด้วยองค์ท่านเอง ที่สุสานไตรลักษณ์เมื่อวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๗
อธิษฐานจิต วันที่ ๙ เมษายน ๒๕๑๗
พระและของมงคล...ที่สะสมพร้อมประสบการณ์ ^^
ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย poman, 18 ตุลาคม 2012.
หน้า 889 ของ 890
-
เมื่อปีพ.ศ.๒๕๒๐ คุณพ่อเพื่อนไปทำบุญที่วัด ๑๘๐ บาท ตอนนี้หลักแสนต้นแล้ว
เหรียญเยือนอินเดีย เนื้อเงิน หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพมหานคร
-
พระผงเกสรพุทธสิหิงค์ หลวงพ่อเกษม เขมโก ปี ๒๕๐๓
ผู้สร้างพระผงเกสรพุทธสิหิงค์ ได้พยายามที่จะสร้างพระเครื่องชุดนี้ให้ดีที่สุด จึงได้ตระเตรียมจัดหาวัสดุมวลสารที่มีความศักดิ์สิทธิ์ และเป็นมงคลหลายต่อหลายอย่างโดยเริ่มเตรียมการสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๐๐ ซึ่งมวลสารที่นำมาสร้างพระเครื่องนั้น ต้องใช้ความพยายามและอุตสาหะอย่างยิ่งยวดกว่าจะได้มาแต่ละสิ่ง แต่ทางคณะผู้จัดสร้างก็ได้ใช้ความพยายามหามาได้หลายอย่างเช่น ดินจากสังเวชนียสถานทั้งสี่แห่งจากประเทศอินเดีย ใบลานและสมุดข่อยที่จารึกพระธรรม คัมภีร์ พระพุทธมนต์ และตำราต่างๆที่ชำรุดแล้วใช้การไม่ได้ เอามาเผาและป่นให้ละเอียด ดอกไม้ธูปเทียนที่มีผู้นำไปกราบไหว้สักการะหลวงพ่อเกษม เพราะความเลื่อมใสศรัทธา ผงขี้ธูป ก้านธูป และดอกไม้แห้งที่หลวงพ่อเกษมท่านใช้จุดและบูชาขณะบำเพ็ญภาวนา ข้าวแห้งก้นบาตรของหลวงพ่อเกษมที่เหลือจากการฉันเอามาตากแห้งบดให้ละเอียด ผงพุทธคุณจากการนำเข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษกหลายวัด น้ำอ้อยเคี่ยว ยางไม้บางชนิด และที่สำคัญที่สุดก็คือ เส้นผมของหลวงพ่อเกษมที่ท่านได้ปลงผมไว้จำนวนหนึ่ง.
พระเครื่องที่พิมพ์ได้ทั้งหมด ได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกที่วัดหัวข่วง จังหวัดลำปาง เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๓ โดยนิมนต์หลวงพ่อเกษม มาเป็นประธานในพิธีร่วมกับพระเกจิอาจารย์ทางภาคเหนืออีกหลายท่าน เมื่อเสร็จพิธีแล้วทางคณะผู้จัดสร้าง จึงได้นำเอาพระเครื่องออกให้ประชาชนทำบุญ เพื่อนำเอาปัจจัยมาบูรณะซ่อมแซมถาวรวัตถุทางศาสนาในวัดหัวข่วง จนสำเร็จลุล่วงตามจุดประสงค์ที่ตั้งไว้ในตอนแรกทุกประการ สมกับที่เป็นพระเครื่องที่จัดสร้างขึ้นโดยมีเจตนาดีเป็นการกุศลอย่างแท้จริง
จากนิตยสาร”เซียนพระ” ฉบับที่ ๑๑๘ วันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๓๖ คอลัมน์” พระผงเกสร พุทธสิหิงค์ หลวงพ่อเกษม สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง”โดย…ทักษิณ หน้าที่ ๑๔ ถึง หน้า ๑๕
-
ผ้ารอยมือรอยเท้าครูบาขาวปีมีจารดินสอ วัดพระพุทธบาทผาหนาม จ.ลำพูน
หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง จ.เชียงใหม่
ได้กล่าวรับรองไว้ด้วยองค์เองทีเดียวว่า
“ครูบาขาวปี วัดพระพุทธบาทผาหนาม เคยเป็นช้างนาฬาคิริง
ซึ่งในอนาคตกาลจะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้ามีพระนามว่า พระติสสสัมพุทธเจ้า"
-
พระขุนแผนเสด็จกลับ ปี 2511 หลังดาบฟ้าฟื้นไขว้ติดเหล็กไหล พระรอดเสด็จกลับติดเหล็กไหล มวลสารว่านยา 108 ชนิด ผงเลขยันต์ตำราวัดเขาอ้อ 108 ดวง อาจารย์ชุม ไชยคีรี
พิธีแรกที่วัดบ้านสวน อ.ควนขนุน จ.พัทลุง พระอาจารย์ รวม 108 อาจารย์ เชิญวิญญาณอาจารย์สมภารนอโมและวิญญาณอาจารย์เฒ่า เข้าประทับทรงปลุกเศก เกิดเป็นตัวต่อจำนวน 1,000 ตัว มาปิดรอบปริมณฑลพิธี มีความอัศจรรย์อย่างที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน
พิธีวันที่ 12 มีนาคม 2510 ปลุกเศกอยู่ 33 วัน แล้วเก็บไว้ไปเข้าพิธีที่วัดถ้ำเขาเงินในปีต่อมา กล่าวถึงพิธีพุทธาภิเษกที่วัดถ้ำเขาเงิน ชุมพร เมื่อ 8 กุมภาพันธ์ ปี 2511 เป็นพิธีใหญ่ที่รวมศิษย์สายเขาอ้อร่วมกันปลุกเสก ขุนพันธ์ฯเป็นประธานจัดสร้าง อ.ชุมและหลวงพ่อคล้อย วัดถ้ำเขาเงิน ร่วมกันสร้างเพื่อแจกจ่ายทหาร ตำรวจ ประชาชนที่ศรัทธา พระอาจารย์นำ ชินวโร วัดดอนศาลา จ.พัทลุง, หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน จ.พัทลุง, พระอาจารย์ปาล วัดเขาอ้อ, หลวงปู่หมุน วัดเขาแดงตะวันออก จ.พัทลุง, พระครูปลัดพวง วัดประสาทนิกร หลังสวน จ.ชุมพร, หลวงพ่อคล้อย วัดถ้ำเขาเงิน หลังสวน จ.ชุมพร, อาจารย์ชุม ไชยคีรี เขาไชยสน จ.พัทลุง ปลุกเสกตามตำรับไสยเวทย์ของเขาอ้อ
เหล็กไหล...จากบทความของท่านอาจารย์ ชุม ไชยคีรี
"พระฤาษีปลัยโกฎ ได้พรรณนาไว้ในพระคัมภีร์โบราณว่า หากผู้ใดพบเหล็กไหลแม้แต่เท่าเมล็ดข้าวโพด หรือเท่าเมล็ดพริกไทย ก็นับได้ว่าบุคคลเหล่านั้นเป็นผู้มีบุญญาอภินิหาร เพราะเป็นธาตุนิพพพานของธาตุทั้งหลาย ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ตน และเป็นประโยชน์แก่ชาติบ้านเมือง
ดังนั้นคุณค่าอันนับเป็นเอนกประการของเหล็กไหลนั้น จึงทำให้มนุษย์เรารู้สืบทอดติดต่อกันมาแต่ครั้งบรรพกาลแล้ว ต่างก็ได้พยายามสืบเสาะหามาไว้เพื่อเป็นศิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว
ด้วยเหตุที่เป็นธาตุสูงสุดของธาตุทั้งปวง เหล็กไหลจึงมักจะซ่อนหลบเร้นตนเองไม่ให้มนุษย์ได้เจอะเจอง่ายๆนัก เว้นแต่จะเป็นผู้มีบุญญาอภินิหารได้เจอะเจอโดยบังเอิญ หรือเป็นผู้ที่ทรงวิทยาคมแรงกล้าเท่านั้นจึงจะนำเหล็กไหลมาไว้บูชาแก่ตนเองได้
บุราณจารย์แต่ครั้งก่อนท่านกล่าวไว้หากจะให้เกิดประโยชน์แก่ตนไซร้ ท่านให้เอาเหล็กไหลเท่าเมล็ดข้าวโพด หรือ เท่าเมล็ดพริกไทย อมไว้ในปากแล้วกลืนน้ำลายตนเองเป็นประจำทุกวัน ทำพิธีใช้อาคมเรียกเข้าไว้ในตัว ร่างกายจะคงทนแก่ปืนผาหน้าไม้ กฤช หอกทองแดง ขวากหนาม สัตว์ร้ายที่มีเขี้ยวงาและมีแรงฟัดขยี้ อาจต่อสู้กับคนหมู่มากและมีแรงมาก แม้จับตัวเราก็ไม่ติด แหวกวงล้อมและกรงขังขื่อคาไปได้ ทั้งเป็นยาอายุวัฒนะทำให้อายุยืน
อนึ่ง ท่านให้เอาเหล็กไหลเท่าเมล็ดข้าวโพด แช่น้ำผึ้งรวงกินเป็นประจำทุกเช้าเย็นจนครบ 7 วัน คงเนื้อคงหนัง 3 เดือนคงกระดูก คงถึงลูกที่เกิดมา 1 ปี หมดโรคภัยนานา 3 ปี เกิดปัญญาเรียนรู้ธรรมจบพระไตรปิฎก 7 ปี กายเบาดังสำลี หมดกิเลส (คัดจากสมุดข่อย 1,000 กว่าปี)
อาจารย์ชุม ไชยคีรี ได้ค้นพบเหล็กไหลในป่าลึกทางภาคใต้ของประเทศไทยเมื่อประมาณปี 2509 ทำพิธีตัดเหล็กไหลออกเป็นชิ้นเล็กเท่าเมล็ดพริกไทยถึงเมล็ดมะขามแห้ง ออกแจกจ่ายให้คณะศิษย์ทำหัวแหวนไว้เป็นเครื่องรางป้องกันตัว ส่วนหนึ่งฝังไว้หลังพระเนื้อว่านยา 500 กว่าชนิด ทรงขุนแผนออกศึก ทรงรูปอาจารย์วัดเขาอ้อ จ.พัทลุง ฯลฯ
-
พระพุทธภูมิประทานพร เนื้อดินดิบ
หลังจารเปียก จารยันต์เฑาะว์ จ้อย นฐ (นครปฐม)
หลวงพ่อจ้อย วัดบางช้างเหนือ จ.นครปฐม
ท่านเป็นพระอาจารย์สอนพระกรรมฐานเวทย์วิทยาคมให้กับหลาย ๆ ท่านแต่ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมี
๑. หลวงพ่อรุ่ง วัดดอนยายหอม ลาสิกขาช่วงสูงอายุเพื่อให้หลวงพ่อเงินเป็นเจ้าอาวาส พระเครื่องของท่านหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม บูชาในย่ามจนตลอดชีวิต พระเครื่องของท่านใส่ในน้ำขุ่น นี่ใสได้เลยเสือผาดลองให้ดูหลายครั้ง
๒. พระภิกษุพรหม บัวโต ลาสิกขาหลังจากหลวงพ่อจ้อยมรณภาพ โยมบิดาหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
๓. เจ้าคุณพรหม วัดกัลยา กรุงเทพ
๔. หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง นครปฐม
หลวงพ่อจ้อยท่านเป็นสหธรรมมิก หลวงปู่ทา วัดพะเนียงแตก หลวงปู่ช้าง วัดศิลามูล มรณภาพ ประมาณปี พ.ศ. ๒๔๔๐-๒๔๔๒ ๘๒ พรรษา
-
เหรียญเงินรุ่นแรก หลวงพ่อชา วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี
ผู้เผยแผ่พระธรรมของพระพุทธเจ้าสายพระอาจารย์มั่น มหานิกาย
มีสำนักปฏิบัติธรรม ในประเทศไทยซึ่งอยู่ทุกภาคของประเทศจำนวนทั้งสิ้น 82 สาขา
และในต่างประเทศอีก 7 สาขา
มีพลังจิตแก่กล้า จากงานเขียนของคุณอำพล เจน
https://ampoljane.com/2018/10/20/lpcha2518coin/
https://ampoljane.com/.../%e0%b8%9a%e0%b8%b8%e0%b8%8d%e0.../
-
พระกริ่งอะระหัง หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง จังหวัดเชียงใหม่
พระที่หลวงปู่โต๊ะ ไม่ยอมอธิษฐานจิตซ้ำ จากคำบอกเล่าของอาจารย์เบิ้ม ลูกศิษย์ใกล้ชิดหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ เวลาอยู่กับหลวงปู่โต๊ะจะมีผู้นำพระจากคอ มาให้หลวงปู่โต๊ะอธิษฐานจิตเพิ่มให้ แต่มีพระคณาจารย์หนึ่ง ซึ่งหลวงปู่โต๊ะไม่ยอมอธิษฐานจิตซ้ำ ไม่ว่าจะดูกี่ครั้งกี่หนก็ตาม
ก็มีแต่พระหลวงปู่แหวน องค์เดียวเท่านั้น ที่หลวงปู่โต๊ะไม่ยอมอธิษฐานจิตซ้ำให้หลวงปู่โต๊ะท่านจะหยิบออกมาแยกต่างหาก อาจารย์เบิ้มท่านยืนยันหนักแน่น
ผมโตมาในยุคหลวงปู่แหวน มีชื่อเสียงมาก ๆ ไม่มีใครไม่รู้จักหลวงปู่แหวน ในช่วงนั้น อ่านประวัติท่าน และพระเครื่องต่าง ๆ ที่ท่านอธิษฐานจิต ตั้งใจว่าจะต้องเก็บให้ได้สองอย่างคือ ๑.พระกริ่งอะระหัง ๒.รูปเหมือนพิมพ์เสมา เนื่องจากเป็นคนที่ชอบพระหล่อ และทั้งสองพิธีนี้สุด ๆ มาก พระกริ่งอะระหัง นี่ หลวงปู่แหวนเททองหล่อด้วยองค์ท่านเอง หลังจากทุบเบ้า ตอนเย็นก็นำมาให้หลวงปู่แหวนอธิษฐานจิต และเมื่อตบแต่งเรียบร้อยแล้วก็นำมาให้หลวงปู่แหวนอธิษฐานจิตอีกครั้ง รวมหลวงปู่แหวนอธิษฐานจิต ถึง ๓ ครั้ง
-
ของดีราคาถูก รุ่นแรกหลายตังค์ หารุ่นนี้บูชาแทนได้ครับ
พระปรกโพธิ์พิมพ์สะดุ้งกลับหลวงพ่อวัดเขาตะเคราจ.เพชรบุรี ปี ๒๕๑๖ เอวเล็กสองขอบ รุ่นยกครู
เจตนาการสร้างดี พระเพื่อทูลเกล้าถวายในหลวงร.๙
พระที่เตรียมการส่วนหนึ่งเพื่อทูลเกล้าถวายในหลวงรัชกาลที่ ๙ จะต้องพิถีพิถันมากเป็นพิเศษ ผงอะไรมีเท่าไหร่ใส่ให้หมดจัดเต็ม เพราะนำไปแจกทหารหาญ และข้าราชบริพาร พระคณาจารย์ที่มาพุทธาภิเษกต้องอธิษฐานจิตเต็มที่ ให้สมกับในหลวงร.๙ ท่านเสด็จมาด้วยพระองค์เอง
พระคณาจารย์ที่ร่วมพุทธาภิเษกเสกล้วนแต่เก่งทางด้านสมาธิ วิปัสสนาเวทย์มนต์ และพลังจิตแก่กล้า พระรุ่นนี้ประสบการณ์คนเพชรบอกว่าแคล้วคลาดคงกระพัน รถคว่ำยับเยินคนไม่มีแผลเลย คนในพื้นที่ถูกลอบยิงไม่เข้า เด็กวัยรุ่นไปเที่ยวข้ามอำเภอเจอคู่อริแทงจนคู่อรินึกว่าตายแล้วพากันหนีปรากฎว่าชาวบ้านแถวนั้นนำตัวส่งโรงพยาบาลไม่พบบาดแผล
พ่อค้าในตลาดถูกหวยสองตัวมาสามสี่ครั้งแกบอกนอกจากจะคงกระพันแล้วยังมีด้านโชคลาภมาเกี่ยวข้องอีกด้วยพระรุ่นนี้ได้ปลุกเสกที่วัดเขาตะเคราและได้นิมนต์พระอาจารย์ชื่อดังทั่วประเทศมาร่วมปลุกเสก อาทิ...
๑.หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ จ.เพชรบุรี
๒.หลวงพ่อแล วัดพระทรง จ.เพชรบุรี
๓.หลวงพ่อทอง วัดใหม่บางจาน จ.เพชรบุรี
๔.หลวงพ่อแผ่ว วัดโตนดหลวง จ.เพชรบุรี
๕.หลวงพ่ออินทร์ วัดยาง จ.เพชรบุรี
๖.หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก จ.ประจวบคิรีขันธ์
๗.หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง
๘.หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม
๙.หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี จ.สมุทรสงคราม
๑๐.หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา
๑๑.หลวงพ่อคลิ้ง วัดถลุงทอง จ.นครศรีธรรมราช
๑๒.หลวงปู่เขียว วัดหรงบล จ.นครศรีธรรมราช
๑๓.หลวงพ่อทบ วัดชนแดน จ.เพชรบูรณ์
๑๔.พระอาจารย์ตื้อ วัดป่าอรัญวิเวก จ.นครพนม
๑๕.หลวงพ่อเกษม สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง
๑๖.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ
๑๗.หลวงปู่ฝั้น วัดถ้ำขาม จ.สกลนคร
๑๘.หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม
๑๙.หลวงพ่อเขียน วัดสำนักขุนเณร จ.พิจิตร
๒๐.หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค จ.นครสวรรค์
๒๑.หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม จ.ชัยนาท ฯลฯ
-
พระนาคปรก ๗ ชั้นพิมพ์นิยม เจ้าคุณนร วัดเทพศิรินทร์ กรุงเทพฯ
พิมพ์นิยมต่างจากพิมพ์ธรรมดาตรง ด้านขวามือด้านบนจะมีเข็มเป็นเส้นเล็ก ๆ และที่คอนาคด้านขวามีเส้นขวาง(มีอีกหลายจุดแต่สองจุดนี้จะดูง่าย)
ย้อนกลับไปสามสิบกว่าปีที่แล้ว ได้อ่านหนังสือประวัติเจ้าคุณนร ท่านได้บอกว่าใครไม่มีพระสมเด็จโต บูชาพระที่ฉันอธิษฐานจิตแทนได้ เพราะอธิษฐานจิตด้วยพระคาถาชินบัญชรเหมือนกัน และท่านยังได้บอกว่าให้เก็บพระนาคปรกไว้นะดี
-
มีดหมอชาตรี หลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี ปีพ.ศ.๒๕๓๕
-
พระสมเด็จแก่นจันทน์ หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม นครปฐม
เป็นพระที่อ่านประวัตินะโม ในสมัยก่อนแล้วอยากได้มากที่สุดของหลวงพ่อเงิน เพราะเป็นรุ่นเดียวเท่านั้นที่เด่นทางมหาเสน่ห์ มหานิยม เมตตาสูงมาก
สร้างปี พ.ศ.๒๔๙๖ ตอนที่มีการตัดถนนสายพระประโทน-บ้านแพ้วแล้วไม่ผ่านวัด ทำให้หลวงพ่อเงิน หาทุนซื้อที่ส่วนที่ติดถนนแล้วต้องขยายกำแพงออกมา ได้มีการขอแรงชาวบ้านมาช่วยสร้างกำแพงแล้ว จึงสร้างพระมาแจกหลายรุ่น โดยเหล่าแม่ครัว พ่อค้า แม่ขายที่ได้มาช่วยงาน ช่วยจัดหาอาหารการกิน และวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างนั้น ท่านจะมอบสมเด็จแก่นจันทน์ให้
เนื่องจาก พ่อค้า แม่ขาย แม่ครัว มีความประสงค์อยากได้พระที่เด่นทางมหาเสน่ห์ เมตตา มหานิยม ซึ่งหลวงพ่อเงิน ท่านเข้าใจในจุดประสงค์ว่า พ่อค้า แม่ขาย แม่ครัว ไม่ได้สู้รบปรบมือกับใคร ดังนั้น จึงต้องการเรื่องเมตตามากที่สุด
ด้วยหลวงพ่อเงิน ท่านไม่มีความชำนาญด้านนี้ จึงได้ไปขอบิณฑบาต สีผึ้งจากปู่เนียมน้องชายหลวงพ่อเงิน มาผสม พร้อมทั้งนิมนต์มาอธิษฐานจิตพระรุ่นนี้ด้วย เพราะหลวงพ่อเงินบอกว่า วิชาจากพ่อพรหม โยมพ่อหลวงพ่อเงิน ผู้ที่สำเร็จวิชามหาเสน่ห์นวด สีผึ้ง ปู่เนียมทำขึ้นที่สุด พร้อมทั้งมีผู้ถวายไม้แก่นจันทน์ หลวงพ่อเงินจึงนำบดผสมจึงเป็นสีของไม้แก่นจันทน์(การบดไม่ละเอียดเวลาส่องจะปรากฎเสี้ยนไม้อยู่ในเนื้อพระสมเด็จ) และจึงทำให้เรียก พระนามพระรุ่นนี้
ส่วนผสมก็มีผงพระสมเด็จวัดระฆัง ที่เหลือจากสร้างพระรุ่นแรก(ตามประวัติของหลาย ๆ ท่านบอกผงพระสมเด็จ วัดบางขุนพรหม ซึ่งน่าจะสื่อสารผิดเพราะเปิดกรุบางขุนพรหม ปี พ.ศ. ๒๕๐๐ แต่สร้างพระแก่นจันทน์นี้ปี พ.ศ.๒๔๙๖) ผงปถมัง ผงต่าง ๆ ที่หลวงพ่อเงินได้ลบผงเก็บไว้ ไม้แก่นจันทน์บด สีผึ้งปู่เนียม
อธิษฐานจิต โดยหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม และปู่เนียม
พุทธคุณ ด้านเมตตา มหานิยม มหาเสน่ห์ เป็นที่ล่ำลือมาก ๆ
จนมีคนขอร้องให้จัดสร้างอีก หลวงพ่อเงินก็นำผงที่เหลือจากรุ่นแรก มาสร้างอีก ผสมใบลานจึงทำให้รุ่นสองมีสีดำ ผงใบลานเผา และลดเรื่องทางมหาเสน่ห์ (เพราะพวกผู้ชายเอาไปใช้จีบสาวแทน ผิดวัตถุประสงค์ เจตนารมณ์ของหลวงพ่อเงินที่เน้นเมตตาเท่านั้น แต่ปู่เนียมท่านเด่นทางเสน่ห์จึงอัดพลังไปเต็มที่เพื่อให้พระพี่ชายรับรู้เหมือนประลองวิชากันไปด้วยจึงใส่กันเต็มที่เลย) โดยหลวงพ่อเงินอธิษฐานจิตเดี่ยว เน้นทางด้านป้องกันแทน
-
พระยอดขุนพล บุเรงนอง หลังกบ(พระมหามัยมุนี) พิมพ์ใหญ่
พระยอดขุนพลบุเรงนอง ของเก่าแก่ดั้งเดิมนั้น เป็นพระพิมพ์ดินดิบผสมว่านยาวิเศษ โดยได้จำลองพุทธลักษณะจาก "พระมหามัยมุนี " ซึ่งในอดีตนั้น เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของ ยะไข่ ก่อนที่เป็นพระเครื่องที่ พระเจ้าบุเรงนอง ได้โปรดให้ พระมหาฤาษี ภูภูอ่อง ผู้เป็นพระราชครูผู้ใหญ่ ประจำพระราชสำนัก ซึ่งได้สำเร็จมหิทธิฤทธิ์ขั้นสุดยอดด้วยองค์คุณ ๔ ประการ คือ ยา ยันต์ ปรอท และ ประคำ จนมีฤทธิ์ มีเดชสูงส่งอย่างยิ่งยวด
เป็นผู้จัดสร้างและปลุกเสกขึ้น เพื่อทรงพระราชทานแก่ข้าราชบริพาร และเหล่าทหารหาญ เพื่อใช้ในการศึกสงครามโดยทั่วไป และสืบทอดพระพุทธศาสนา
โดย พระยอดขุนพลบุเรงนอง นี้ พระมหาฤาษีพู่ พู่ อ่อง ได้บรรจุไว้ที่ถ้ำแถวเมือง มะละแหม่ง ใกล้ชายแดนไทย-พม่า อยู่ ๒ ถ้ำด้วยกัน คือ ถ้ำผาบง และ ถ้ำผาพะ
ส่วนการที่ พระยอดขุนพลบุเรงนอง ได้ออกปรากฏต่อวงการนักสะสม พระเครื่อง นั้น เพราะความเมตตาของ หลวงพ่ออุตตมะ นั่นเอง ด้วยว่า ท่านนั้น ได้ช่วยชีวิตเด็กน้อยชาวกะเหรี่ยงไว้ ซึ่งได้ป่วยเป็นโรคร้าย จนเพื่อนบ้านต่างพากันทอดทิ้ง ไม่มีใครกล้ามาดูแล และบังเอิญท่านได้ธุดงค์มาพบเข้า ด้วยความเมตตาหลวงพ่อจึงได้ช่วยรักษาจนหาย ทำให้เด็กชายคนนี้นับถือหลวงพ่ออุตตมะเป็นอย่างยิ่ง ต่อมา เด็กชายคนนั้น ได้กลายเป็นหัวหน้ากะเหรี่ยงคริสต์
ได้มาเล่าให้ หลวงพ่ออุตตมะ ฟังว่า ตอนนั้นหลวงพ่อมาอยู่เมืองไทยใหม่ ๆ ราวปี พ.ศ.๒๔๙๐ โดยประมาณ ข้อมูลจากคำบอกเล่านั้น กล่าวไว้ว่า วันหนึ่งขณะที่พวกตนถูกพวกพม่าตามไล่ล่า จนกระทั่งหนีเข้าไปหลบซ่อนในถ้ำ ๆ หนึ่ง แถวเมืองมะละแหม่ง
พวกทหารพม่าได้ใช้ปืนกล และอาวุธสงครามยิงกรอกปากถ้ำ เพื่อฆ่าพวกตนให้ตายคาถ้ำ นับเป็นพัน ๆ หมื่น ๆ นัด จนพวกทหารพม่าคิดว่าพวกกะเหรี่ยงที่อยู่ในถ้ำคงจะตายกันไปหมดแล้ว จึงได้ถอยทัพกลับไป ครั้นพอรุ่งเช้าพวกบรรดากะเหรี่ยงที่ไม่ได้รับอันตรายใด ๆ เลยแม้แต่น้อย ก็ออกจากที่ซ่อนในถ้ำมาสังเกตุการณ์ เห็นปลอกกระสุน และลูกปืนตกกระจายอยู่เต็มไปหมด แต่ไม่มีกระสุนแม้แต่เพียงนัดเดียว ที่จะวิ่งผ่านเข้ามาถึงข้างในที่พวกตนซ่อนอยู่ได้ ก็แปลกใจ
เลยคิดว่าถ้ำแห่งนี้คงต้องมีของดีของวิเศษเป็นแน่ เลยสำรวจในถ้ำดูว่ามีอะไรดี จึงได้เจอกับ กองพระขนาดย่อม ๆ ที่วางกองกันไว้อยู่ในถ้ำนั้น แต่พวกตนเป็นกะเหรี่ยงคริสต์ จึงไม่ทราบว่าคืออะไร
และได้นำมาให้หลวงพ่ออุตตมะดู เมื่อได้พิจารณาดูหลวงพ่อก็ทราบทันทีว่านี่คือ พระยอดขุนพลบุเรงนอง ที่เคยได้ยินเรื่องราวมานั่นเอง จึงได้สั่งให้หัวหน้ากะเหรี่ยงคนนี้ พาคนไปช่วยกันขนพระออกมาจากถ้ำ และนี่เองคือปฐมเหตุแห่งการ แตกกรุ ของ พระยอดขุนพลบุเรงนอง
-
ลูกอมติดวิญญาณ อาจารย์แน่น วัดหนองขาว กาญจนบุรี
ใช้ผ้าขาวที่ใช้คลุมศพของหญิงมีครรภ์ที่ตายท้องกลม คนในสมัยโบราณเมื่อนำศพลงโลงแล้วจะใช้ผ้าขาวคลุมศพไว้และจะไม่ปิดฝาโลงศพ งานสวดอภิธรรมศพก็จัดขึ้นน้อยคืน ในรายของศพหญิงมีครรภ์ที่ตายท้องกลมนั้นก็จะใช้วิธีการฝังศพแทนการประชุมเพลิงศพและตอนที่มีการฝังศพนี้หลังจากพิธีต่าง ๆ จบลง
ก็จะมีลูกศิษย์ ลูกหาพระในวัดและท่านอาจารย์แน่นเองเป็นผู้ชักผ้าขาวออกจากโลงศพ เพื่อนำผ้าขาวที่ได้มาใช้ในการทำลูกอมและเมื่อได้ผ้าขาวมาแล้วท่านจะนำมาตัดเป็นชิ้นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าเท่า ๆ กันแล้วแต่ขนาดของลูกอม นำผ้าที่ตัดแล้วมาเขียนยันต์โดยท่านอาจารย์แน่นจะลงมือเขียนเองเสร็จแล้วก็นำผ้ามาม้วนแล้วจึงมัดด้วยสายสิญจน์มงคลที่ได้จากการปลุกเสกไว้แล้ว จากนั้นก็จะใช้ลวดทองแดงที่ถักเป็นตาข่ายมัดให้แน่นแล้วใช้ลวดทองแดงขึ้นเป็นหูด้วยในตัวแล้วจึงนำเชือกด้ายมาถักเป็นลูกอมที่มีขนาดแตกต่างกันไป
แล้วต้องเสกจนเหมือนมีวิญญาณปรากฎในนิมิต และลูกอมต้องเคลื่อนไหวได้ โดยต้องลูกอมต้องวิ่งวนทั้งในมือ และในบาตร ดีทางคุ้มครองป้องกันภัยอันตรายต่าง ๆ และโชคลาภสามารถบนได้
-
รูปภาพหลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล ขนาดหนึ่งนิ้ว หลังจารดินสอ(ภาพที่มีจารหายากมาก ๆ)
-
พระยอดฉัตรหลังพระโพธิจักร ท่านพ่อลี ออกวัดทรายงาม จันทบุรี พ.ศ.๒๔๙๖
สร้างจากข้าวก้นบาตรท่านพ่อลี(มีคำบอกเล่าว่าท่านพ่อลีอธิษฐานจิตข้าวคำแรกไว้ให้ด้วย) เกสรดอกไม้ที่บูชาพระท่านพ่อลี พระที่ชำรุดแตกหักที่มีผู้บริจาค มีทั้งชิ้นส่วนพระสมเด็จวัดระฆัง ชิ้นส่วนพระสมเด็จวัดเกศไชโย และพระกรุต่าง ๆ องค์นี้เจ้าของเดิมได้นำเกศาท่านพ่อลีติดสีผึ้งที่เข่าซ้ายองค์พระไว้ด้วย
-
พระกริ่งประทานพรจีวรลายดอกพิกุล หลังเลข๙ เนื้อนวโลหะ เจ้าคุณนรอธิษฐานจิต
(มีแป้งกระแจะจันทร์เจิมติดที่ฐานด้านหน้า หลัง) ออกวัดวังกระโจม ๒๕๑๒
เจ้าคุณอุดม สร้างไว้เป็นการส่วนองค์ เพื่อแจกกรรมการ
-
พระสิบทัศน์ เนื้อเงินโบราณ(เงินยวง) หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม นครปฐม
ได้ปรึกษาลูกศิษย์หลวงพ่อเงินท่านหนึ่ง ว่าพระที่หลวงพ่อเงิน ท่านแนะนำให้ลูกศิษย์ลูกหาบูชาติดตัวว่า เป็นพระอะไร เขาตอบแบบไม่ต้องคิดเลยว่า พระสิบทัศน์ ผมเลยคิดว่าควรหาเก็บบูชาไว้ซักองค์ ตอนแรกบอกเขาว่า เก็บเนื้อดินรุ่นแรก พอเห็นองค์จริง ป๊าด เกือบเท่าฝ่ามือเลย ไม่ไหว ๆ ใหญ่เกิ๊น เลยศึกษาเห็นว่าเนื้อที่ดีนอก ดีใน สำหรับความคิดผม น่าจะเป็นเนื้อเงินโบราณนี่แหละ
เพราะเป็นแท่งเงินโบราณที่ขุดได้จากกรุพระบริเวณพื้นที่วัดดอนยายหอมพร้อมกรุพระเครื่อง และแม่พิมพ์พระสิบทัศน์ กรรมการวัดนำมาให้หลวงพ่อเงินดู พร้อมขออนุญาตสร้างพระ หลวงพ่อเงินอนุญาตพร้อมอธิษฐานจิตแท่งเงินนั้นให้ด้วย
แท่งเงินนี้สันนิษฐานว่า เป็นเหมือนแท่งเงินที่วางศิลาฤกษ์ฝังไว้เพื่อเป็นมงคล กันแก้คุณไสย กันผีสาง ป้องกันภัยอันตรายต่าง ๆ ป้องกันสิ่งที่เป็นอวมงคลต่าง ๆ ผ่านการสวดมนต์อธิษฐานจิตมาเป็นร้อย ๆ ปีจึงเป็นมวลสารที่ดีใน ส่วนดีนอกคือผ่านการอธิษฐานจิตจากหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอมเมื่อเป็นองค์พระแล้วอีกครั้งหนึ่ง
กรรมการวัดไปจัดสร้างครั้งแรกได้ ๕๐ องค์ เหลือก้านชนวนกับที่ตัดขอบ ๆ นำไปหลอมใหม่ได้อีก ๒๐ องค์ รวมทั้งสิ้น ๗๐ องค์
-
พระผงรุ่นแรกหลวงปู่ดู่ผสมอัฐิหลวงพ่อกลั่น วัดสะแก พระนครศรีอยุธยา ๒๔๙๒ หลังเกศาหลวงปู่ดู่
(ขออนุญาตยืมภาพเจ้าของลูกศิษย์สายตรงหลวงปู่ดู่ครับ)
เพิ่งรู้ข้อมูลจากลูกศิษย์สายตรงหลวงปู่ดู่ ว่า พระรุ่นแรกหลวงปู่ดู่ ปี๒๔๙๒ ผสมอัฐิหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ หลวงปู่ดู่ท่านได้ผงอัฐิหลวงพ่อกลั่นมาจำนวนหนึ่ง แล้วเพื่อระลึกถึงคุณของพระอาจารย์จึงนำผงอัฐิหลวงพ่อกลั่นผสมทำพระขึ้น เพราะหลวงปู่ดู่พูดเสมอว่า สร้างพระจะใหญ่จะเล็กมีอานิสงส์ ๕ กัปป์ ดังนั้นการน้อมบูชาคุณพระอาจารย์ท่านจึงนำอัฐิพระอาจารย์หลวงพ่อกลั่นเพื่อสร้างพระ เพื่อได้อานิสงส์สูงสุดในความกตัญญูกตเวที
-
เหรียญเสมาพระ๒๕พุทธศตวรรษ
บล็อกทองคำแขนโตยันต์อุชิด๒เหรียญ แขนโตยันต์อุห่าง๑เหรียญ
บล็อกธรรมดา๔เหรียญ
ถ้าจะเก็บให้รีบเก็บตอนนี้นะครับ...เพราะเนาว์ นรญาณนักเขียนเขาจะเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ว่าเหรียญเสมา๒๕พุทธศตวรรษนี้ มีหลักฐานว่าได้รับการอธิษฐานจิตมากกว่า เนื้อชิน เนื้อดิน
เพราะตอนเตรียมผง ดิน เกสร โลหะ ตะกรุดต่าง ๆ มีการพุทธาภิเษก
เหรียญเสมาได้สร้างเสร็จแล้วเลยเข้าพิธีนี้ด้วย...พิธีหลอมตะกรุดที่มีตะกรุดไม่หลอมหลายคณาจารย์
และก็นำเหรียญเสมา เข้าอีกสองพิธี รวมเป็นสามพิธี
หน้า 889 ของ 890