พร 4 ข้อของท่าน ว.วชิรเมธี

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย แม่ลูกตาล, 12 มีนาคม 2010.

  1. แม่ลูกตาล

    แม่ลูกตาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    784
    ค่าพลัง:
    +1,206
    พร ๔ ข้อของท่าน ว.วชิรเมธี <table align="center" border="0" cellpadding="3" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr bgcolor="#ffffcc"><td valign="center"> </td></tr> <tr><td align="center" valign="top"><table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="95%"><tbody><tr><td class="A2" valign="top"> <table align="center" bgcolor="#f5f5f5" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"><tbody><tr><td>[​IMG]</td></tr><tr><td align="center">
    </td></tr></tbody></table>
    </td></tr></tbody></table></td></tr><tr><td align="center" valign="top"><table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="95%"><tbody><tr><td class="A2" valign="top">
    พร ๔ ข้อของท่าน ว.วชิรเมธี


    ๑. อย่าเป็นนักจับผิด

    คนที่คอยจับผิดคนอื่น แสดงว่า

    หลงตัวเองว่าเป็นคนดีกว่าคนอื่น ไม่เห็นข้อบกพร่องของตนเอง

    กิเลสฟูท่วมหัว ยังไม่รู้จักตัวอีก คนที่ชอบจับผิด จิตใจจะหม่นหมอง

    ไม่มีโอกาส" จิตประภัสสร " ฉะนั้นจงมองคน มองโลกในแง่ดี

    " แม้ในสิ่งที่เป็นทุกข์ ถ้ามองเป็น ก็เป็นสุข "


    ๒. อย่ามัวแต่คิดริษยา

    " แข่งกันดี ไม่ดีสักคน ผลัดกันดี ได้ดีทุกคน "

    คนเราต้องมีพรหมวิหาร ๔คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา

    คนที่เราริษยาเป็นการส่วนตัว มีชื่อว่า " เจ้ากรรมนายเวร "

    ถ้าเขาสุข เราจะทุกข์ ฉะนั้น เราต้องถอดถอนความริษยา

    ออกจากใจเรา เพราะไฟริษยา เป็น " ไฟสุมขอน " (ไฟเย็น)

    เราริษยา ๑ คน เราก็มีทุกข์ ๑ ก้อน เราสามารถถอดถอนความริษยา

    ออกจากใจเราโดยใช้วิธี " แผ่เมตตา " หรือ ซื้อโคมมา

    แล้วเขียนชื่อคนที่เราริษยา แล้วปล่อยให้ลอยไป


    ๓. อย่าเสียเวลากับความหลัง

    ๙๐ % ของคนที่ทุกข์ เกิดจากการย้ำคิดย้ำทำ

    " ปล่อยไม่ลง ปลงไม่เป็น "

    มนุษย์ที่สลัดความหลังไม่ออก เหมือนมนุษย์ที่เดินขึ้นเขา

    พร้อมแบกเครื่องเคราต่างๆ ไว้ที่หลังขึ้นไปด้วย

    ความทุกข์ที่เกิดขึ้นแล้ว จงปล่อยมันซะ

    อย่าปล่อยให้คมมีดแห่งอดีต มากรีดปัจจุบัน

    " อยู่กับปัจจุบันให้เป็น "

    ให้กายอยู่กับจิต จิตอยู่กับกาย คือมี " สติ " กำกับตลอดเวลา


    ๔. อย่าพังเพราะไม่รู้จักพอ

    " ตัณหา " ที่มีปัญหา คือ ความโลภ ความอยากที่เกินพอดี

    เหมือนทะเลไม่เคยอิ่มด้วยน้ำ ไฟไม่เคยอิ่มด้วยเชื้อ ธรรมชาติของตัณหา

    คือ ยิ่งเติมยิ่งไม่เต็ม ทุกอย่างต้องดูคุณค่าที่แท้ ไม่ใช่ คุณค่าเทียม

    เช่น คุณค่าที่แท้ของนาฬิกา คืออะไร คือ ไว้ดูเวลา ไม่ใช่มีไว้ใส่เพื่อความโก้หรู

    คุณค่าที่แท้ของโทรศัพท์มือถือ คืออะไร คือไว้สื่อสาร

    แต่องค์ประกอบอื่นๆ ที่เสริมมาไม่ใช่ คุณค่าที่แท้ของโทรศัพท์



    เราต้องถามตัวเองว่า เกิดมาทำไม คุณค่าที่แท้จริงของการเกิดมา

    เป็นมนุษย์อยู่ตรงไหน ตามหา " แก่น " ของชีวิตให้เจอ

    คำว่า "พอดี" คือถ้า "พอ" แล้วจะ"ดี" รู้จัก "พอ" จะมีชีวิตอย่างมีความสุข



    </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
     

แชร์หน้านี้

Loading...