พฤษภาสยอง

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 17 มีนาคม 2006.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,172
    คอลัมน์ ขนหัวลุก

    ใบหนาด

    "คนมีนา" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกเมื่อครั้งพฤษภาทมิฬ

    บ้านเมืองของเราตอนนี้ไม่ทราบว่าเป็นอะไรนะครับ มีแต่ความเดือดร้อนวุ่นวาย ผู้คนทะเลาะเบาะแว้งกันไม่หยุดหย่อน แบ่งเป็นก๊กเป็นเหล่า ต่างฝ่ายต่างก็อ้างว่าตนคิดถูกทำถูก ฝ่ายตรงข้ามล้วนผิดหมด...แต่ทุกๆ ฝ่ายคงจะลืมนึกถึงคติที่ว่า

    "จงหาความดีในความเสียหาย แต่อย่าหาความเสียหายในความดี"

    ผมเองก็คงเหมือนกับประชาชนส่วนใหญ่ ที่ไม่ค่อยรู้ตื้นลึกหนาบาง หรือรายละเอียดต่างๆ เท่ากับคนวงใน แต่ที่แน่ๆ คือความเป็นห่วงบ้านเมืองว่าจะย่อยยับเสียหาย ชาวบ้านร้านช่อง คนเดินดินกินข้าวแกงอย่างพวกผมจะต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น

    "วันมหาวิปโยค" เมื่อปี 2516 กับเหตุการณ์ที่เหมือนฝันร้ายในปี 2519 อาจจะเนิ่นนานเกินไป จนหลายๆ คนลืมเลือนไปแล้ว แต่ไม่น่าจะลืมเรื่องเศร้าสลดของคนไทยเมื่อปี 2535 นี่เอง

    "พฤษภาทมิฬ" เพิ่งจะผ่านไปยังไม่ครบ 14 ปีด้วยซ้ำ ลืมรอยเลือดและคราบน้ำตาประชาชนไปหมดสิ้นแล้วหรือ?

    หวังว่าคงจะไม่เกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกนะครับ!

    ผมเป็นคนวันชาติ หรือให้แคบเข้าอีกคืออยู่ในซอยวัดตรีทศเทพ ใกล้ๆ กับถนนราชดำเนินกลางนั่นเอง เหตุนองเลือดสองครั้งแรกผมยังเด็กรุ่นๆ ได้แต่เห็นในทีวีกับหนังสือพิมพ์เท่านั้น แต่ครั้งพฤษภาทมิฬน่ะมีครอบครัวแล้ว ลูกชายอายุได้ห้าขวบพอดี

    ตอนที่มีการชุมนุมอยู่ที่ถนนราชดำเนินกลาง และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยผมก็จูงลูกข้ามสะพานวันชาติไปดูเหตุการณ์กับเขาด้วย

    ขณะนั้นตกเย็น แดดอ่อนแล้ว ผู้คนคึกคัก พ่อค้าแม่ค้าขายดิบขายดีไปตามๆ กัน ไม่ว่าน้ำส้มน้ำหวาน ผลไม้ดอง ปลาหมึกปิ้ง โดยเฉพาะน้ำขวดแช่เย็นขายดีที่สุด

    ผมกับลูกชายเดินปะปนผู้คนไปจนถึงรถสีแดงสองชั้นที่อนุสาวรีย์!

    เขาเรียกว่ารถอับดุลราฮิม เคยเห็นพวกสมัครส.ส.เช่าไว้ยืนปราศรัยบนหลังคา เพื่อหาเสียงที่ท้องสนามหลวง ขณะนี้จอดอยู่หน้าร้านอาหารศรแดง แต่ตอนนั้นปิดกิจการไปชั่วคราว เห็นพลตรีจำลองกับเพื่อนๆ นั่งพักอยู่บนหลังคา ได้ข่าวว่าจะขึ้นปราศัยอีกครั้งก่อนค่ำ

    เมื่อเดินไปถึงหน้าร้านศรแดงก็เห็นโรงครัวกำลังทำอาหารแจกกัน มีข้าวราดแกงเนื้อหอมฟุ้ง มีถังน้ำเย็นดับกระหาย ผมกับลูกชายก็เดินดูบ้าง นั่งดูตามม้ายาวริมถนนบ้าง...แสงแดดหายไปแต่ยังสว่างอยู่ เห็นผู้คนหลั่งไหลมาจากทุกทิศทุกทาง...มากขึ้นๆ มีเสียงไชโยโห่ร้องคล้ายจะปลุกใจอยู่ในที

    ครั้นเราเดินไปถึงสะพานผ่านฟ้า ก็พบกับตำรวจทหารกลุ่มใหญ่ หน้าตาท่าทางขึงขัง สะพายปืนน่ากลัวทุกคน พวกหนุ่มๆ ที่มาประท้วงก็ร้องทักทายบ้าง ส่งส้มเขียวหวานให้บ้าง ทหารก็เอื้อมมือมารับ

    ...นึกเอะใจที่เห็นรั้วลวดหนามแบบม้วนกลมขวางสะพานไว้ตลอด เขาพูดกันว่าฝ่ายรัฐบาลต้องการขัดขวางผู้ประท้วง ไม่ให้ข้ามสะพานไปทำเนียบฯ อย่างเด็ดขาด

    วูบหนึ่ง ผมสังหรณ์ใจว่าคงจะเกิดเรื่องรุนแรงขึ้นแน่ๆ ไม่ช้าก็เร็ว!

    ถ้าไม่มีลูกเล็กๆ มาด้วย ผมคงปักหลักรอดูเหตุการณ์ต่อไปแน่นอน แต่อารามเป็นห่วงลูกชายเลยคิดว่าจะต้องพาแกกลับบ้านก่อน ถ้าเกิดเรื่องชุลมุนวุ่นวาย เฮโลสาระพากันอาจจะเกิดอันตรายได้

    เวลาใกล้จะโพล้เพล้แล้ว...ผมรีบจูงลูกเดินผ่านแบงก์กรุงเทพมุ่งหน้าไปสะพานวันชาติ แต่พอเลี้ยวขวาเท่านั้นก็ยืนตะลึงไป

    บนสะพานที่ผมจูงลูกข้ามมา บัดนี้ไม่อาจจะข้ามกลับไปได้แล้ว เพราะมีรั้วลวดหนามขึงกลางสะพานแบบเดียวกับที่ผ่านฟ้า...ได้ยินว่าที่นี่ป้องกันคนแห่แหนข้ามสะพานวันชาติ ไปรวมกลุ่มกับผู้ชุมนุมประท้วงรัฐบาลที่ถนนราชดำเนินกลาง

    เสียงพูดอ้าวๆ ผ่านลำโพงดังขึ้น ตามด้วยเสียงเฮๆ ไม่ขาดระยะ ขณะที่เวลาพลบค่ำพอดี!

    ผมขอร้องทหารที่ยืนสะพายปืนอยู่ฝั่งโน้น แต่เขาบอกห้ามเด็ดขาด

    ทั้งสองฝั่งมีผู้คนบางตา ผมคิดว่าเหลือทางเดียวที่จะกลับบ้านได้คือพาลูกเดินไปทางวัดบวรฯ แล้วข้ามสะพานที่บางลำพู ลงตลาดนานา หาทางซิกแซ็กเลียบคลองโอ่งอ่างไปถึงบ้านแถววัดตรีฯ แต่คิดอีกทีก็สงสารลูกเพราะเดินไกลเหลือเกิน ไหนจะย่ำต๊อกกันมาเป็นชั่วโมงอีกล่ะ

    "พ่อๆ เราจะกลับบ้านยังไง?" ลูกชายเขย่ามือผม เงยหน้าขึ้นถาม...ยังไม่ทันตอบลูกก็พอดีมีเสียงหัวเราะอย่างคนใจดีดังขึ้นใกล้ๆ นั่นเอง

    "พาลูกลงบันไดไปข้างล่างซีคุณ ใครเอาไม้กระดานมาทอดข้ามคลองไว้ก็ไม่รู้...ผมเองก็จะข้ามไปวัดตรีฯ เหมือนกัน"

    ผมหันไปเจอชายวัยกลางคน แต่งตัวสีทึบๆ ยิ้มฟันขาว แล้วร่างสูงๆ ก็ผละเดินเลี้ยวซ้ายลงบันไดปูน ผมรีบจูงลูกเดินตามไปติดๆ ปรากฏว่ามีกระดานแผ่นยาวกว้างราวศอกเศษทอดอยู่เหนือคลองโอ่งอ่าง ใกล้ๆ กับสะพานวันชาตินั่นแหละ

    ตัดสินใจอุ้มลูกเดินข้ามคลองบนสะพานไม้อ่อนยวบน่าเสียวไส้ บางทีลูกกอดแน่นจนชะงัก มองไปเห็นชายที่เดินนำหน้าหันมามอง พยักพเยิดให้ตามมาจนเราข้ามคลองได้สำเร็จ

    วางลูกลง ถอนหายใจยืดยาวอย่างโล่งอก...เงยหน้าอีกทีก็ไม่เห็นใครเลยนอกจากทหารบนสะพานกับคนที่เดินอยู่ไกลๆ เท่านั้นเอง!

    เสียงโห่ร้องดังแว่วมาตามสายลม ผมขนลุกซ่าไปทั้งตัว รีบอุ้มลูกเดินจ้ำอ้าวข้ามถนนเข้าบ้าน...หน้าร้อนแท้ๆ แต่ทำไมผมหนาวยะเยือกจับใจก็ไม่รู้ซีครับ
     
  2. kikkapoozuza

    kikkapoozuza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +261
    ไม่ว่าคุณคนนั้นเขาจะเป็นใคร หรือเป็นอะไรก็ตาม เขาก็ใจดีนะคะที่ช่วยให้คุณพาลูกชายกลับบ้านได้ แถมยังช่วยนำทางให้อีก ต้องขอบคุณเขาล่ะค่ะ เวลาทำบุญก็อุทิศให้เขาบ้างละกันนะคะ
     
  3. kikkapoozuza

    kikkapoozuza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +261
    ไม่ว่าคุณคนนั้นเขาจะเป็นใคร หรือเป็นอะไรก็ตาม เขาก็ใจดีนะคะที่ช่วยให้คุณพาลูกชายกลับบ้านได้ แถมยังช่วยนำทางให้อีก ต้องขอบคุณเขาล่ะค่ะ เวลาทำบุญก็อุทิศให้เขาบ้างละกันนะคะ
     
  4. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,312
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,002
    หลอนดีครับ เล่าซะเห็นภาพเลยครับ แหะ ๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...