หลายๆ ท่านเมื่อฝึกจิตไประยะหนึ่งแล้ว
อาจเริ่มมีพลังพิเศษเกิดขึ้น โดยรู้ตัวหรือ
ไม่รู้ตัวก็ได้ เพราะสิ่งนี้เป็นสิ่งใหม่ ดังนั้น
ทำอย่างไร จึงจะปลุกพลังพิเศษให้ตื่นขึ้น
และทำกิจของมันได้
ลองมาคุยกันครับ?
พลังพิเศษที่ "หลับใหล" อยู่ในตัวคุณ จะดึงมันมาใช้ได้อย่างไร?
ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย โปเย, 14 มีนาคม 2012.
หน้า 1 ของ 2
-
1. การยอมรับใน "ธรรมชาติภายในตัวคุณ" ทุกๆ อย่าง
ปัญหาอย่างหนึ่งของการไม่สามารถดึงเอาความสามารถภายใน
ออกมาใช้ได้คือ "การไม่ยอมรับสิ่งที่ตนเองเป็นอยู่" การปฏิเสธ
ธรรมชาติภายในของตัวเอง ทั้งๆ ที่สิ่งนั้น อาจมีพลังช่วยเหลือ
คุณได้มากมาย แต่เพราะคุณปฏิเสธมัน, พยายามบังคับควบคุม
มันมากเกินไป ไม่ปลดปล่อยให้มันดำเนินไปอย่างเป็นธรรมชาติ
ทำให้มันถูกกดข่มซ่อนอยู่ระดับลึกเกินไป กว่าที่คุณจะดึงมันมา
ใช้ได้ ดังนั้น อย่างแรกเลยต้อง "เปิดใจของคุณเอง ให้ยอมรับ
ในตัวคุณเอง" ทุกอย่างที่คุณเป็น ทั้งด้านมืดและด้านสว่าง ทั้ง
ด้านดีและด้านชั่ว ทั้งด้านถูกและด้านผิด ทุกๆ อย่างก็คือ ตัวคุณ
ซึ่งไม่ว่าคุณจะปฏิเสธมันอย่างไร มันก็เป็นส่วนหนึ่งของคุณอยู่แล้ว -
2. การหาเวทีให้ "ธรรมชาติภายในแสดงตัว" ให้คุณเข้าใจมัน
ขั้นตอนต่อไปคือคุณต้องหา "เวทีให้พลังธรรมชาติที่ซ่อนอยู่ระดับลึก
แสดงตัวออกมา" ให้ตัวคุณเองได้เห็น และเข้าใจมัน อย่างที่มันเป็น
โดยไม่ต้องพิพากษาว่ามันถูกหรือผิด, ดีหรือชั่ว, เหมาะสมหรือไม่?
ปล่อยให้มันแสดงตัวเองออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ โดยคุณจะทำหน้า
ที่ดูและรับรู้อย่างเป็นกลางเท่านั้น ไม่ต้องไปปรุงแต่ง หรือตีค่ามันเลย
แล้วก็ค่อยๆ ตั้งสติและทำสมาธิ พิจารณา ทำความเข้าใจมันทีละนิดๆ
อย่างช้าๆ ไม่ต้องรีบร้อน ค่อยเป็นค่อยไป ละเอียดๆ เหมือนค่อยๆ ทำ
ความเข้าใจตัวคุณเเองในระดับลึก ไปทีละน้อยๆ เหมือนทำความรู้จัก
ใครคนหนึ่ง อย่างรอบด้าน เหมือนสิ่งนั้นเป็นคนๆ หนึ่ง (อุปมาหรือใช้
การสมมุติเอาก็ได้) ว่าคนๆ นี้ มีความสามารถอะไร ทำอะไรได้บ้าง มี
จุดเด่น จุดด้อย อย่างไร ถ้าคุณจะใช้เขาทำงานควรใช้เขาอย่างไรบ้าง
จุดนี้ จะมีการ "กระตุ้นพลังภายใน" ด้วยวิธีพิเศษ เช่น วิธีของตันตระ
เพื่อให้สิ่งที่ซ่อนอยู่ในระดับลึก แสดงตัวออกมา ให้คุณศึกษาได้ชัดขึ้น
ดังนั้น คุณอาจต้องหาเวทีที่ช่วยในกระบวนการนี้ จึงจะสามารถทำได้ -
3. ฝึกใช้ "พลังธรรมชาติภายใน" ในด้านต่างๆ
ขั้นตอนต่อไปคือ การฝึกใช้พลังภายในที่ได้รับการปลุก
ให้ตื่นขึ้นมาแล้วนั้น ในการทำกิจต่างๆ ซึ่งคุณอาจต้อง
ทดลอง ลองผิดลองถูก เรียนรู้ด้วยตัวของคุณเอง ว่ามี
อะไรบ้าง ทำอะไรได้บ้าง อย่างไร? พลังภายในของคน
แต่ละคนแตกต่างกัน และใช้ได้ในงานที่แตกต่างกัน เช่น
พลังธาตุน้ำ ช่วยด้านเมตตามหานิยม, พลังธาตุไฟ ช่วย
ด้านการเผาผลาญทำลายเชื้อโรค, พลังธาตุลม ช่วยใน
การจินตนาการ-ความคิดสร้างสรรค์ ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมี
พลังธาตุชนิดพิเศษที่แตกต่างจากธาตุพื้นฐานเหล่านี้ด้วย
เช่น พลังธาตุทอง, พลังธาตุวัชระ, พลังธาตุเหล็กไหล ฯ
ซึ่งคุณต้องค้นหามันเอง และปลุกมันขึ้นมา ให้เวทีมันได้
แสดงตัว แล้วคุณจึงจะสามารถใช้พลังภายในเหล่านี้ของ
คุณได้ และเมื่อคุณยิ่งใช้มัน คุณจะยิ่งมีความชำนาญมาก
ยิ่งขึ้น พลังภายในนั้นๆ ก็ยิ่งมีพลังมากยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ ด้วย -
4. ฝึกประสาน "พลังธรรมชาติภายใน" ซึ่งอาจมีหลายอย่าง
ขั้นตอนต่อไปคือ การประสานตัวคุณเอง เข้ากับพลังภายในได้อย่าง
ชำนาญขึ้น เช่น การใช้พลังภายในจำนวนมากเคลื่อนรวมไว้ที่อวัยวะ
บางอย่าง เช่น ปลายนิ้ว เพื่อใช้ปลายนิ้วทำงาน, การรวมพลังภายใน
ไว้ที่ดวงตาแล้วใช้สายตาทำงาน (Eye contact) การรวมพลังภาย
ในไว้ที่ "หัวใจ" แล้วแผ่กระแสใจให้คนรับรู้, การรวมพลังภายในไว้ที่
ทั่วผิวกายแล้วปกป้องคุ้มครองทั่วร่าง เป็นต้น ฯลฯ ซึ่งพลังภายในแต่
ละชนิดย่อมมีความเหมาะสมในการใช้แตกต่างกัน เช่น พลังธาตุวัชระ
คุ้มครองทั่วร่างได้เหมาะสม แต่แผ่จากดวงใจ ไม่เหมาะสม, พลังธาตุ
ไฟ แผ่ออกจากดวงใจได้เหมาะสมแต่ถ้าใช้พุ่งออกจากอวัยวะบางส่วน
ไม่เหมาะสม (จะมีฤทธิ์ทำลายมากเกินไป) อนึ่ง พลังธรรมชาติภายใน
ชนิดต่างๆ มีคุณสมบัติต่างกัน เหมาะสมในการใช้ทำกิจแตกต่างกันไป
คุณจำเป็นต้องเรียนรู้และศึกษามันเอง ทดลอง และลองผิดลองถูกเอา
เอง หรือจะอ้างอิงจากตำราก็ได้ (ถ้ามี ซึ่งปัจจุบันไม่น่าจะมีให้มากนัก)
เมื่อถึงขั้นนี้แล้ว คุณสามารถทดลองใช้พลังหลากหลายชนิด ประสาน
กันในขณะเดียว หรือในขณะที่คุณทำกิจเพียงหนึ่งเดียวได้ เช่น ใช้พลัง
เมตตามหานิยมในการค้าขาย ในขณะเดียวกันก็ใช้พลังธาตุไฟ ทำครัว
ทำกับข้าวขายไปด้วย ก็สามารถทำได้ (ถ้าทำไม่ได้ ทำครัวไป ก็จะเกิด
อารมณ์ร้อน เผลอด่าลูกค้าได้) ณ จุดนี้ จะช่วยทำให้คุณใช้พลังภายใน
ได้เหมือนอวัยวะหลายๆ อย่างร่วมกัน เช่น ใช้มือเท้า, สมอง ร่วมกันได้ -
5. ฝึกควบคุม "พลังธรรมชาติภายใน" ด้วยจิตใจ (ขั้นสูง)
ขั้นตอนต่อไปคือ การฝึกสั่งการพลังธรรมชาติภายในนี้โดยไม่ต้อง
ใช้สังขารร่างกาย หรือก็คือ การสั่งด้วยจิตใจ เพื่อให้พลังธรรมชาติ
ภายในนั้นทำกิจของมันเอง เช่น การนั่งอยู่เฉยๆ แล้วแผ่พลังธาตุน้ำ
(เมตตามหานิยม) ออกมา เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาหา เป็นต้น ซึ่ง
การสั่งการโดยจิตใจนี้ อาจสั่งการได้อย่างไม่มีจำกัด ขึ้นอยู่กับว่าจะ
ฝึกใช้อย่างไร เช่น สั่งการให้ส่งผลข้ามประเทศ, สั่งการให้ข้ามเวลา
ย้อนไปหาข้อมูลในอดีต เป็นต้น ซึ่งจะเกิดขึ้นได้จากการทดลอง ซึ่ง
คุณ "ต้องกล้าที่จะลอง" ลองผิด-ลองถูก ดูเอง ว่ามันสามารถทำได้
มากน้อยแค่ไหน ทำอะไรได้บ้างและส่งผลอย่างไร (มีกรรมในการใช้
มากน้อยแค่ไหน) จุดนี้ จะทำให้คุณสามารถใช้พลังธรรมชาติได้อย่าง
มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะบางสถานการณ์ ร่างกายนั้นไม่อาจทำได้
เช่น การใช้พลังข้ามประเทศโดยที่ร่างกายของคุณนั้นไม่ได้เดินทางไป
เป็นต้น ในกรณีนี้ คุณจึงจำเป็นต้องใช้พลังภายในข้ามประเทศโดยไม่
ใช้สังขาร หรือไม่ผ่านสังขารใดๆ ของคุณ หรือแม้กระทั่งการใช้พลังนี้
ผ่านสังขารอื่นที่ไม่ใช่ตัวของท่านเองคือ ขับดันให้ให้ผู้อื่นกระทำแทน
เมื่อฝึกถึงขั้นนี้แล้ว พลังภายในจะ "ข้ามพ้นขีดจำกัดของสังขาร" ได้ -
5. ฝึกพัฒนา-เปลี่ยนแปลง "พลังธรรมชาติภายใน" ให้สูงขึ้น
ขั้นตอนต่อไปคือ การฝึกพัฒนาพลังธรรมชาติภายในของตัวคุณ จาก
ที่เป็นอย่างหนึ่งให้เปลี่ยนแปลงไปเป็นอีกอย่างหนึ่ง หรือพัฒนาให้สูง
ขึ้น มีระดับดีขึ้นในด้านต่างๆ เช่น ทำให้ละเอียด, สว่างไสว, โปร่งใส
มากยิ่งขึ้น ซึ่งในการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงนี้ จะมี "จิต" เป็นตัวผู้นำ
คือ เหมือนจิตนั้นเป็นประธานสั่งการและพลังงานภายในแต่ละชนิดนั้น
รับคำสั่งโดยตรงจากจิต ทั้งนี้ จิตจะแสวงหา "ต้นแบบ" ชนิดใหม่ๆ ให้
กับพลังธรรมชาตินั้นๆ เช่น พลังธาตุดิน อาจมีข้อเสียเรื่องไม่ได้ลาภผล
มากนัก เมื่อพัฒนาเป็นธาตุทองแล้ว ก็จะนำมาซึ่งลาภมรรคผลมากกว่า
ก็สามารถพัฒนาพลังธาตุดินขึ้นเป็นพลังธาตุทองได้ โดยการนำเอาธาตุ
ทองมาพิจารณาเป็นต้นแบบ แล้วใช้จิตเป็นผู้นำทาง น้อมนำพลังธาตุนั้น
ให้ค่อยๆ แปรเปลี่ยนไปสู่ธาตุทอง เป็นต้น ซึ่งในท้ายที่สุดของการพัฒนา
พลังธรรมชาติภายในนี้ก็คือ "ความหลุดพ้นทุกข์" หรือ "นิพพาน" นั่นเอง
ซึ่งในกระบวนการสุดท้าย ก็คือ การใช้จิตเหนี่ยวนำซักฟอกพลังภายในให้
สะอาด, สว่างไสว นั่นเอง (ไม่ได้เปลี่ยนแปลงจิต แต่เปลี่ยนพลังภายใน) -
อืม.......อ่ะนะ....... -
คุณบรรลุแล้วออกมาตั้งลัทธิของคุณเองเถอะ
คุณจะรุ่งกว่านี้มากเลย -
เวลาทำก็ทำแบบเล่นๆ ไม่ต้องจริงจัง
นะครับ แบบจริงจัง จะไม่ได้ผลเลย
แต่ถ้ามันจะได้ผล มันจะได้เองอย่าง
ไม่ตั้งใจ เหมือนได้ตอนเผลอๆ น่ะครับ -
[ame="http://www.youtube.com/watch?v=wuR1Mo-rMbo&feature=related"]Mark Handler | Antique Tibetan Singing Bowls - YouTube[/ame]
สำหรับสิ่งที่กระตุ้นพลังที่หลับใหลได้ดีมากๆ ก็คือ "คลื่นเสียง" ครับ
โดยเฉพาะคลื่นเสียงพิเศษ เช่น เสียงกลอง, เสียงระฆัง, เสียงที่มี
ความถี่คงที่และเป็นระลอกๆ เช่น เสียงการหมุนขันทิเบต ก็ได้ครับ -
เสียงจากขันคริสตันหละครับได้เปล่า
-
ได้ครับ
บางท่านได้ง่าย บางท่านได้ยาก
บางทีต้องทดลองคลื่นเสียงเฉพาะ
ตัวดู ที่เหมาะกับตัวเองดูนะครับ -
[ame="http://www.youtube.com/watch?v=nPL3B-F-UfM&feature=endscreen&NR=1"]Choi Joon Young Ost ตำนานเดชนางพญางูขาว 2011 - YouTube[/ame]
อย่างผม ก็ใช้เสียงแบบนี้ครับ
รู้สึกว่าพลังบางอย่างจะปลุกขึ้น
เมื่อปีที่แล้ว มีงูเหลือมมาติดตาข่าย
ที่บ้านตัวหนึ่ง ปีนี้ ก็มาอีกตัวหนึ่ง แปลกดี?
ส่วนพ่อ ก็เหนื่อยใจแล้ววันหนึ่ง ก็พูดแปลกๆ ว่า
"จะไม่ขอเกิดเป็นคนอีกแล้ว?" (ไม่รู้ไปเอาความคิดมาจากไหน) -
พลังพิเศษ จะดึงมาใช้เพื่ออะไร?
ดึงปัญญามาใช้ เพื่อชำระกิเลสจากดวงจิต จะไม่ประเสริฐกว่าหรือท่าน! -
ตามมา
ตามมา อนุโมทนา
สาธุ ครับ -
พลัง ไม่ ดี ดึง ออก มา จะ เป็น แบบ นี้
เพราะ มี ทั้ง ดี และ ไม่ ดี (พวก วิญญาณ ที่มีรูปร่าง เป็น สัตว์เดรัจฉาน สัตว์นรก เปรต ) -
ท่องคาถา "โปเย โปโลเย" หลายๆครั้งครับ
แล้วเรียกนางมาร หรืองนาง พญางูขาวมาช่วย -
ท่านโปเยนี้ ความรอบรู้สูงส่ง กว้างขวาง รู้ลึกดีนะครับผม
แสดงว่าปฏิบัติมาดีนะครับ ขออนุโมทนาด้วย
คนทั่วไปเขามักยึดหลักการของตัวเองว่าถูกแล้ว ดีแล้ว ไม่เป็นอื่นแล้วหน่ะครับ
คล้ายกับคำกล่าวที่ว่า "บุคคลนั้นย่อมแสวงหาสิ่งคล้ายความยึดติดแห่งตน เท่านั้นเอง"
หากเราก้าวข้ามความคิดคับแคบเหล่านั้นออกมาแล้ว อาณาจักรแห่งสัจธรรมช่างกว้างใหญ่นัก
บุคคลส่วนใหญ่ที่ผมพบเห็น เขามักยินดีสัจธรรมที่พอให้พ้นทุกข์ได้เท่านั้นเองครับ
เค้าพากันเรียกว่า "สัจธรรมใบไม้กำเดียว" ที่ทำให้พ้นทุกข์ได้
แต่ใบไม้กำเดียวก็พันธนาการเขาไว้เองในข้อธรรมเหล่านี้คือ
อริยสัจสี่ ไตรลักษณ์ กรรม บุญบาป เกิด แก่ เจ็บ ตาย และนิพพาน
แต่เค้าควรเรียนรู้ได้ว่า แท้จริงสรรพธรรมนั้นล้วนนำไปสู่อนัตตาธรรมได้เฉกเช่นเดียวกัน
ขึ้นอยู่กับระบบปัญญาญาณของคนผู้นั่นเท่านั้นเอง
:VO :VO :VO
ดังนั้นเราควรเห็นถึงว่า " ความเสมอภาคแห่งธรรมธรรมทั้งปวงที่อนัตตา " เหมือนกันหมดนั่นเป็นเช่นไร เท่านั้นเองครับ
dannce_:z6;k04 -
เสียงที่ผมใช้ก็มีนะครับ ผมใช้เสียงเพลงนี้นะครับ คุณโปเยลองฟังดูนะครับผม ;aa17;aa53;aa47
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=aeYTBvanFmE]THE MOST RELAXING MUSIC IMAGINABLE - YouTube[/ame]
หน้า 1 ของ 2