พอใจรูม

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย ppojai, 3 ตุลาคม 2010.

  1. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,905
    ค่าพลัง:
    +16,489
    #10 ข้อปฏิบัติเพื่อการเติบโตของจิตวิญญาณ!!!

    1. ทดลองสละสิ่งของที่รัก ห่วงอะไรมาก ของสะสมอะไรที่รักที่สุด ลองยกให้คนอื่น ให้ชิ้นที่รักที่สุด ห่วงที่สุด สละมันออกไปให้บุคคลที่เหมาะสม แล้วเราจะเห็นการสั่นสะเทือนของใจ เมื่อตัดวัตถุที่รักห่วงแหนที่สุดได้แล้ว ความเป็นนักสะสมของเราจะลดลงมาก วัตถุอื่นๆ ย่อมลด ละ เลิก ได้ง่ายขึ้น

    2. ทดลองพูดเท่าที่จำเป็น พูดแต่ความจริงที่เป็นประโยชน์ ส่วนเรื่องไม่จริง และความจริงที่ไม่เป็นประโยชน์ให้งดเว้น เมื่อพูดน้อยลง เราจะเห็นใจตนเองชัดเจนขึ้น เห็นจังหวะ เห็นอัตตาพุ่งพล่าน เราจะเห็นเลยว่า การใช้คำพูดเท่าที่จำเป็น คือคุณธรรมขั้นสูงที่หาผู้ปฏิบัติได้ยากนัก

    3. ทดลองทำดีกับผู้ที่เราไม่ชอบ เมื่อทำเช่นนี้ เราจะปรากฏการณ์สามสิ่งหนึ่ง เราเห็นความเร้าร้อนในใจของตนเอง เมื่อฝ่ายตรงข้ามมีปฏิกริยาตอบสนองในทางที่ไม่ดีกลับมา ใจเราจะดิ้นพล่านเหมือนถูกน้ำร้อนราด สอง เราจะเห็นว่า บางครั้ง ที่เราไม่ชอบเขานั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการปรุงแต่งของเราเอง ไม่ใช่ความเลว หรือความชั่วของเขาทั้งหมด สาม เมื่อเราดีกับเขาแล้ว ไม่ว่าเขาจะเข้าใจ ไม่เข้าใจ ยอมรับ หรือปฏิเสธ เราจะเห็นความสุขที่ผุดขึ้นกลายใจของเราเอง เมื่อเราทำดีกับผู้ที่เราเกลียดได้ เราย่อมทำดีกับคนทั้งโลกได้ไม่ยาก

    4. ทดลองทำงานที่ตนเกลียด และรังเกียจด้วยความสุข ทำงานที่ต่ำที่สุดด้วยความสุข ทำงานที่เลอะเทอะ สกปรกที่สุดด้วยความสุข เมื่อเราทำงานที่ไม่ชอบได้อย่างมีความสุข ก็ไม่มีงานชิ้นใด ที่เราจะทำไม่ได้อีกต่อไป ใจของเราจะทำงานเพื่องานมากขึ้น แล้วงานที่เราทำ จะกลายเป็นงานที่เปิดโอกาสให้เราได้อยู่กับปัจจุบันมากขึ้นด้วย

    5. ทดลองกินน้อย ไม่ตามใจปาก คนทั้งโลกมักให้รางวัลตนเองด้วยการกิน แต่บางครั้งอาจได้ประโยชน์กว่า ถ้าเราลองปล่อยให้ตัวเองรู้สึกหิวในบางเวลา เมื่อหิว จงสังเกตความหิว สังเกตการเกิดและดับของมัน สังเกตการทำงานที่สัมพันธ์กันระหว่างความรู้สึกหิวและร่างกาย เมื่อเราสังเกตให้ดี ใจเราจะเห็นถึงความทุกข์อันเกิดจากความไม่เที่ยงแท้ของกาย จะกลายเป็นผู้ไม่ยึดติดในรสอร่อย แต่กินเพื่อประโยชน์ เพื่อแก่นสารของชีวิตอย่างแท้จริง

    6. ทดลองประกาศความเลวของตนเอง และประกาศความดีของผู้อื่น ทำได้เช่นนี้ เราจะกลายเป็นคนที่อ่อมน้อมถ่อมตนมากขึ้น เป็นมนุษย์มากขึ้น จริงใจมากขึ้น และเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น ไม่ต้องใส่หัวโขนที่ไม่ใช่ตนเองอีกต่อไป

    7. ทดลองปฏิเสธผลประโยชน์ ชื่อเสียง เงินทอง และสิ่งที่กิเลสโหยหา ทดลองเล่นกับความต้องการของตนเอง เล่นกับความปราถนาส่วนลึกของตนเอง ฝึกทำสิ่งเหล่านี้เป็นระยะๆ แล้วเราจะกลายเป็นผู้อยู่เหนือ ลาภยศ ชื่อเสียง เงินทอง เป็นผู้เห็นความจริงของชีวิต เป็นผู้อยู่เหนือสิ่งแวดล้อม เพราะมีใจเป็นอิสระ

    8. ทดลองใช้ชีวิตตามธรรมชาติ ไม่ใช่ฝืนธรรมชาติ ตื่นนอน หลับตา ตามเข็มนาฬิกาของพระอาทิตย์และพระจันทร์ เราไม่อาจเข้าใจธรรมชาติจนถึงที่สุดได้ ถ้าไม่ไหลตามกระแสของธรรมชาติ อย่าตั้งกติกาใหม่ที่ขัดกับหลักธรรมชาติ จงฟังเสียงความเงียบให้เป็น ฟังเสียงลมให้เป็น เห็นความงามของความน่าเบื่อให้เป็น เห็นความงามของความน่าเกลียดให้เป็น เพราะทั้งขาวและดำคือธรรมชาติของชีวิต ให้สิ่งเหล่านี้บอกเล่า และสอนเรื่องราวเกี่ยวกับธรรมชาติของความจริง อย่าได้ใช้ชีวิตด้วยการทำสงครามกับธรรมชาติ อย่าได้เลือก หรือปฏิเสธทั้งความมืดและความสว่าง จงน้อมรับทั้งสองสิ่งด้วยความเบิกบาน จงตื่น นอน กิน ให้พอเหมาะ พอดี ลองถามธรรมชาติดูบ้าง ว่าอะไรกันแน่คือความพอดีที่แท้จริง

    9. ทดลองหาความแปลกใหม่จากการเดิน การนั่ง และการนอน ความจริงแล้ว การเดิน นั่ง และการนอนเป็นเรื่องของความสดใหม่ ไม่ใช่เรื่องซ้ำซาก ถ้าเรานั่ง เดิน และนอนให้เป็น สิ่งเหล่านี้จะสร้างสติปัญญาให้เราได้มากมาย อย่ามองหาความท้าทายจากกิจกรรมที่ต้องรอคอย จงมองหาความท้าทายจากกิจกรรมที่เป็นพื้นฐานของชีวิต ปราชญ์ทั้งหลายมีดวงตาเห็นธรรมก็เพราะกิจกรรมที่เป็นแก่น แกน ราก ไม่ใช่กิจกรรมที่เสกสรรค์ปั้นแต่งขึ้นจากกิเลสตันหา ผู้ใดมีสติปัญญาสามารถทำเรื่องธรรมดาที่สุด ให้กลายเป็นเรื่องพิเศษที่สุดได้ ผู้นั้นย่อมเป็นผู้ที่มีความสุขง่ายดายที่สุดในโลก

    10. ฝึกแยกกาย ความคิด และจิต อย่าให้จิตแนบอยู่กับความคิด ถอนตัวเราออกมาจากความคิด ทำทุกอย่างภายใต้ความนิ่งสงบ เมื่อมีสิ่งใดต้องทำ จงทำให้เร็ว ทำให้เร็วกว่าความท้อใจจะมาถึง ทำให้เร็วกว่าความเกียจคร้านจะมาเยือน ทำให้เร็วกว่ากิเลสตันหาจะมาครอบงำ เมื่อทำแล้ว ให้กลับสู่ความนิ่ง เงียบ และสงบ จงเป็นยอดดาบที่คมกริบ ชักจากฝักเมื่อคราวจำเป็น ตวัดดาบให้เร็ว แล้วนำกลับเข้าฝักทันที อย่าทำตนเป็นมีดพร้าราคาถูกที่มีเพียงเสียงขู่ แต่ไม่อาจสำแดงอานุภาพ การงานใดๆของชีวิต เมื่อต้องทำ จงทำให้เร็ว เมื่อทำหน้าที่จนสมควรแก่เหตุแล้ว ต้องรู้จักจบและพอ ทำได้เช่นนี้ การงานจะมีประสิทธิ์ภาพสูงสุด ไม่ถูกความโลภครอบงำ ช่วงเวลาแห่งการทำงาน จะกลายเป็นช่วงเวลาแห่งการบ่มเพาะสติปัญญา ยิ่งทำงานมาก สติปัญญายิ่งเพิ่มพูนเป็นเท่าทวี

    ทดลองฝึกสิ่งเหล่านี้ให้มากขึ้น
    เพิ่มน้ำหนักให้หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ
    จนสามารถรับได้ และคุ้นเคย
    เมื่อมีความคุ้นเคยแล้วระดับหนึ่ง
    สิ่งเหล่านี้จะพัฒนากลายเป็นอุปนิสัย
    กลายเป็นเนื้อเดียวกับชีวิต
    จริงอยู่ เมื่อแรกเกิด ลืมตาดูโลกเราทั้งหลายล้วนเป็นปุถุชน
    คิดแบบปุถุชน พูดแบบปุถุชน และทำแบบปุถุชน
    แต่ในเมื่อมนุษย์นั้นเป็นสัตว์โลกที่พัฒนาได้
    เรามิได้โง่งมดังหมู หมา กา ไก่
    เมื่อเป็นอย่างนี้
    เราจะรักและหวงแหนความเป็นปุถุชนของเราไว้ทำไม
    ทิ้งความเป็นปุถุชนของเราไว้ในโลก
    แล้วตายไปพร้อมกับความเป็นอริยชน จะดีกว่าไหม!!!

    พศิน อินทรวงค์

    #healthyclub
    -----------------------------
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤษภาคม 2017
  2. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,647
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,017
    close eyes an d ear  to behappy.jpg
     
  3. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,905
    ค่าพลัง:
    +16,489
    [​IMG]

    :oops:ยังรู้สึกไม่คุ้นกับเวปบอร์ดใหม่เท่าไหร่คะ..พี่ต้อย
    ขอบพระคุณที่แวะมาทักทายพอใจบ้างนะคะ..
    ในเนทก็ข้อมูลเยอะมากค่ะ อ่าน ฟัง เท่าไหร่ก็ไม่หมด
    ก็ไม่มีอะไรต้องทำ ต้องห่วง แล้ว ก็หาข้อมูลไปเรื่อย ๆ แก้เหงานะคะ

    ;) เมื่อวันที่ 1 กพ.2560 ได้มีโอกาสไปทำบุญบวชพระหมู่ที่วัดชลประทานรังสฤษดิ์ ลูกชายเพื่อนมัธยมมารีย์ โคราชบวชค่ะ ก็เป็นปลื้ม..แล้วก็แวะเที่ยว วัดนิเวศธรรมประวัติฯ อ.บางปะอิน จ.อยุธยา เป็นโบสถ์คริสต์ สวยมาก ๆ ค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,647
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,017
    พี่ชอบเวปเก่ามากกว่าค่ะ สบายตาตามประสา สว โบสถ่ฝรั่งเขาทําสวยดีด้วยเสตนกลาส เที่ยวแบบนี้ดีคงไม่เหงาแล้วนะคะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 3Monkeys.jpg
      3Monkeys.jpg
      ขนาดไฟล์:
      19.8 KB
      เปิดดู:
      116
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2017
  5. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,905
    ค่าพลัง:
    +16,489
    คนทึ่ 4 นับจากด้านขวา ทายถูกไหมคะ พี่ต้อย
     
  6. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,647
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,017
    Brycecanyontop.jpg เก่งนิ
     
  7. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,647
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,017
    ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ 2 คน ( สมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
    1. pporjai
    2. ปีสองปีจะมีแบบนี้ทีนึง555:D
     
  8. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,905
    ค่าพลัง:
    +16,489
    :oops: กระทู้ไหนคะนี่ ใช่พอใจรูมไหม..คริ ๆ ๆ มันเป็นสัจธรรมมังคะ ต่อไป ถ้าเราสาบสูญ จะเหลือ ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ 0 คน o_O
     
  9. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,647
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,017
    จากกระทู้ อ ภูค่ะ:) ThursdayBlessing.jpg
     
  10. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,905
    ค่าพลัง:
    +16,489
    ทำ 3 ท่านี้ จะช่วยให้ท่านโบกมือลาการกินยาไปเลย
    โบกมือลาหลายโรค ทั้ง
    -เบาหวาน
    -ความดัน
    -ระบบทางเดินอาหาร
    -ระบบขับถ่าย
    -โรคปวดหลัง
    -ปวดเข่า
    -ต่อมลูกหมาก

    ทั้งหมดนี้เป็นผลงาน วิจัยของอาจารย์ มหาวิทยาลัยมหิดล

    ง่ายๆ แต่ได้สุขภาพดี "เริ่มทำทันทีนะ"


    กด>> http://bit.ly/2lGZPNb มีประโยชน์อย่างมาก
     
  11. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,905
    ค่าพลัง:
    +16,489
    เขาหนีกันไปหมดเลี้ยวววว เหลือสมาชิกจิตเกาะพระลำดับที่ 61 กับ 80 นะคะ
     
  12. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,647
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,017
    ยังมีท่านUncleGeeอีกค่ะ กับคุณน้องtjsค่ะ:)
     
  13. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,905
    ค่าพลัง:
    +16,489
    รักทรมาณ อรวี สัจจานนท์
    ส่งข่าวทิดมั่น ฝน ธนสุนทร

    [AUDIOPLUS=http://palungjit.org/attachments/raktoraman-orawee2017-mp3.4122083/][/AUDIOPLUS]

    [AUDIOPLUS=http://palungjit.org/attachments/songkhaotidman2017s-mp3.4122085/][/AUDIOPLUS]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,905
    ค่าพลัง:
    +16,489
    ดอกไม้สวย ๆ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 21700.jpg
      21700.jpg
      ขนาดไฟล์:
      69.5 KB
      เปิดดู:
      120
    • ed284.jpg
      ed284.jpg
      ขนาดไฟล์:
      39.1 KB
      เปิดดู:
      103
    • ed298.jpg
      ed298.jpg
      ขนาดไฟล์:
      41.5 KB
      เปิดดู:
      307
    • S__49709085.jpg
      S__49709085.jpg
      ขนาดไฟล์:
      100.4 KB
      เปิดดู:
      88
    • S__3195316.jpg
      S__3195316.jpg
      ขนาดไฟล์:
      139.1 KB
      เปิดดู:
      76
    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      37.2 KB
      เปิดดู:
      107
    • 2.jpg
      2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      42.1 KB
      เปิดดู:
      110
    • 3.jpg
      3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      41.4 KB
      เปิดดู:
      91
    • 4.jpg
      4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      21.4 KB
      เปิดดู:
      99
    • 5.jpg
      5.jpg
      ขนาดไฟล์:
      68.9 KB
      เปิดดู:
      106
    • 6.jpg
      6.jpg
      ขนาดไฟล์:
      84.1 KB
      เปิดดู:
      93
    • 7.jpg
      7.jpg
      ขนาดไฟล์:
      38.5 KB
      เปิดดู:
      84
    • 8.jpg
      8.jpg
      ขนาดไฟล์:
      53.3 KB
      เปิดดู:
      77
    • 9.jpg
      9.jpg
      ขนาดไฟล์:
      75.2 KB
      เปิดดู:
      100
    • 10.jpg
      10.jpg
      ขนาดไฟล์:
      42.4 KB
      เปิดดู:
      91
    • 11.jpg
      11.jpg
      ขนาดไฟล์:
      64.8 KB
      เปิดดู:
      90
    • 14.jpg
      14.jpg
      ขนาดไฟล์:
      48.7 KB
      เปิดดู:
      113
    • 15.jpg
      15.jpg
      ขนาดไฟล์:
      39.9 KB
      เปิดดู:
      93
    • 16.jpg
      16.jpg
      ขนาดไฟล์:
      45.8 KB
      เปิดดู:
      99
    • 17.jpg
      17.jpg
      ขนาดไฟล์:
      76 KB
      เปิดดู:
      109
    • 18.jpg
      18.jpg
      ขนาดไฟล์:
      87.8 KB
      เปิดดู:
      94
    • 19.jpg
      19.jpg
      ขนาดไฟล์:
      31.6 KB
      เปิดดู:
      109
    • baht.jpg
      baht.jpg
      ขนาดไฟล์:
      42.1 KB
      เปิดดู:
      88
    • baht2.jpg
      baht2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      111.2 KB
      เปิดดู:
      110
    • cry.jpg
      cry.jpg
      ขนาดไฟล์:
      50.7 KB
      เปิดดู:
      89
    • 12.jpg
      12.jpg
      ขนาดไฟล์:
      62 KB
      เปิดดู:
      105
  15. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,647
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,017
    มองโลกในแง่ดี

    ผม(หมอไพศาล) มีเพื่อนคนหนึ่งชื่อสมชาย เป็นเจ้าของร้านอาหารที่ชอบมองโลกในแง่ดี และมีอารมณ์ดีตลอดเวลา ทุกครั้ง ถ้ามีใครถาม เขาจะตอบว่า "ถ้ามีแฝดอีกคน คงดีกว่านี้" ลูกน้องทุกคนจึงรักในความเป็นผู้นำของเขา ถ้าลูกน้องคนไหนกำลังมีปัญหา เขาจะอยู่ใกล้ๆ และคอยปลอบให้รู้ว่า จะมองเห็นสิ่งที่ดีจากเรื่องร้ายๆ ที่กำลังเกิดขึ้นได้อย่างไร
    วันหนึ่งผมอดสงสัยไม่ได้ จึงถามเขา

    "เอ็งมีเคล็ดลับอะไรหรือเปล่า ถึงได้มีอารมณ์ดีอย่างนี้ได้ตลอดเวลา?"

    เขาตอบว่า "ทุกวันตอนเช้า ข้าจะถามตัวเอง วันนี้จะเลือกเป็นคนอารมณ์ดี หรืออารมณ์ร้าย ข้าจะเลือกข้อหนึ่งทุกที ทุกครั้งที่เกิดปัญหาขึ้น ข้ามีสิทธิ์ที่จะเลือก ตกเป็นเหยื่อของเหตุการณ์ หรือเลือกเรียนรู้จากเหตุการณ์ ทุกครั้งที่มีใครบ่นให้ฟัง ข้ามีสิทธิ์เลือกที่จะรับคำบ่น หรือชี้ให้เห็นอีกด้านหนึ่งของชีวิตที่ดีกว่า สุดท้าย ข้ามักจะเลือกด้านดีของชีวิตเสมอ"

    ผมแย้งกลับไป "แต่อะไรๆ ไม่ได้ง่ายอย่างนั้นนะซิ"

    "ถูกต้อง ชีวิตคือการเลือก เมื่อเอ็งตัดสิ่งต่างๆ ที่ไม่จำเป็นออกไป สุดท้ายจะเลือกแค่การเลือก เอ็งมีสิทธิ์ที่จะเลือก ตอบสนองกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ว่า จะทำให้คนอื่นตอบสนองอารมณ์เอ็งได้อย่างไร เอ็งมีสิทธิ์เลือก ที่จะสบายใจ หรือหัวเสียตลอดเวลาได้ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับว่า เอ็งจะเลือกใช้ชีวิตอย่างไร?" เขาตอบ

    หลังจากนั้นไม่นาน ผมได้รับข่าวร้าย เพื่อนผมคนนี้ ถูกโจรยิงขณะเข้าปล้นร้านอาหารของเขา และได้รับบาดเจ็บสาหัส โชคยังดีที่มีคนมาพบ และนำส่งโรงพยาบาลทัน หลังจากการผ่าตัดนานกว่า 18 ชั่วโมงผ่านไป และนอนพักรักษาตัวเป็นเวลากว่าหนึ่งอาทิตย์ หมอก็อนุญาตให้เขากลับบ้านได้ ในระหว่างที่ผมไปเยี่ยม ผมถามเขาว่าเป็นอย่างไรบ้าง?

    เขาตอบ "ถ้ามีแฝดอีกคน คงดีกว่านี้แน่" และถามผม "เอ็งอยากดูบาดแผลหรือเปล่า"

    "ไม่ๆ...แต่อยากรู้ เอ็งผ่านเรื่องร้ายๆ อย่างนี้มาได้อย่างไร?"

    "สิ่งแรกที่ข้านึกได้คือ น่าจะล็อคประตูหลังร้านไว้" สมชายว่า "แต่หลังจากถูกยิง ขณะที่นอนอยู่บนพื้น ข้าบอกตัวเองว่า ข้าเหลือทางเลือกเพียงสองทาง คือมีชีวิตอยู่ต่อหรือไม่ก็ตาย แน่นอนที่สุด ข้าเลือกที่จะมีชีวิตอยู่"

    "แล้วไม่รู้สึกกลัวบ้างเลยหรือ?" ผมถาม

    "พวกที่มาช่วยเก่งมาก พวกเขาบอกข้าตลอดเวลา ไม่ต้องห่วง ทุกอย่างต้องเรียบร้อย แต่ระหว่างที่ข้าถูกเข็นเข้าไปในห้องผ่าตัด ข้ามองเห็นสีหน้าของหมอ และพยาบาลแล้ว รู้สึกได้จากสายตาของพวกเขาว่า ข้ากำลังจะตาย เลยบอกตัวเองทันที ต้องทำอะไรสักอย่าง"

    "แล้วเอ็งทำอะไร?" ผมถาม

    "ข้าโชคดี ที่ยังมีลมหายใจ และพอจะมีแรงถามหมอ กระสุนโดนจุดสำคัญหรือเปล่าครับหมอ"

    "หมอตอบว่า โชคยังดีที่กระสุนไม่โดนจุดสำคัญ แต่คงต้องตัดแขนออกไปข้างหนึ่ง เพราะเลือดไม่ได้ไปเลี้ยงที่แขนซ้ายนานกว่าชั่วโมง"

    "แล้วเอ็งจะทำยังไง" ผมถาม

    สมชายตอบ "โชคยังดีที่ข้าเหลือแขนขวาอีกข้าง ทำให้ข้ามีกำลังใจต่อไป พอดีมีนางพยาบาลคนหนึ่งตะโกนถาม แพ้อะไรหรือเปล่า ข้าก็ร้องบอก หมอ หมอ ผมแพ้อยู่อย่างหนึ่งครับ"

    "ทั้งหมอ และพยาบาลหยุดชะงัก ทั้งห้องเงียบกริบเพื่อรอฟังคำตอบ ข้ากัดฟันหายใจเข้าลึกๆ บอกว่า ผมแพ้หัวลูกปืนครับ" สมชายเล่าต่อ "ทุกคนทั้งหมอและพยาบาลหัวเราะออกมาดังลั่นไปหมด จากนั้น ข้าก็บอกหมอ ผมอยากมีชีวิตอยู่ ช่วยกรุณาผ่าตัดอย่างคนมีชีวิต ไม่ใช่อย่างคนที่ตายไปแล้ว"

    ในที่สุดการผ่าตัดก็สำเร็จ หมอสามารถช่วยชีวิตของสมชายเพื่อนผมไว้ได้อย่างปาฏิหาริย์ และสมชายก็สามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข เพราะเขาเลือกที่จะคิดในสิ่งที่ดี

    ข้อคิดจากเรื่องนี้ก็คือ

    "คุณมีสิทธิ์ที่จะชื่นชมกับชีวิต ในขณะที่คุณกำลังมีชีวิตขมขื่นได้ด้วยความคิดในแง่บวกของคุณเอง ถ้าคุณจัดการเรื่องนี้ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต ก็ไม่จำเป็นต้องยุ่งยากเสมอไป"
     
  16. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,905
    ค่าพลัง:
    +16,489
    :cool: สุดยอดข้อคิด เติอนใจของพี่ต้อยเลยคะ
    มองโลกในแง่ดี ทำให้จิตใจดี มีความสุขมากขึ้น
    อารมณ์เรามีหลายขั้ว ใน 1 ปี 1 เดือน 1 วัน
    อยู่ที่เราเลือกจริงๆ ค่ะ ทดสอบได้จริงอย่างที่พี่ต้อยบอก

    เมื่อวานไปตรวจสุขภาพ โดยรวมก็ดูดี
    หมอยังชมว่าอายุน้อยนะคะ ปลื้มคุณหมอจัง
    นัดคราวหน้าคุณหมอบอกอาจจะหยุดยา
    อารมณ์ก็เลยดีเป็นพิเศษ แต่เราก็รู้ร่างกายเรานะคะว่าชำรุดทรุดโทรมตรงไหนบ้าง ที่รู้ ๆ จะไปออกกำลังกายแบบหักโหมแบบตอนมัธยมไม่ได้ค่ะ


     
  17. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,905
    ค่าพลัง:
    +16,489
    พบสุขที่จิต พบมิตรที่ใจ

    “มิตรที่ประเสริฐที่สุดก็คือใจของตน เมื่อนั้นเราก็มีความสุขได้ในทุกหนแห่ง เจออะไรก็ไม่ทุกข์ มีเท่าไรก็ไม่รู้สึกยากไร้ อยู่คนเดียวก็ไม่รู้สึกอ้างว้าง ใครจะมองเราอย่างไรใจก็ไม่หวั่นไหว สูญเสียเท่าใดใจก็ไม่เสียศูนย์ ภาวะเช่นนี้ย่อมประเสริฐกว่าชีวิตที่ร่ำรวยมั่งคั่ง มียศศักดิ์อัครฐาน ชื่อเสียงขจรไกล แต่ข้างในกลับไร้สุข ไม่รู้สึกพอในสิ่งที่ได้มา หวั่นไหวเพราะกลัวสูญเสีย และหงอยเหงาอ้างว้างเพราะไร้เพื่อนแท้”

    พระไพศาล วิสาโล
     
  18. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,647
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,017
    พูดถึง สว อิอิคนร้องเพลงมักจะอายุยืน
    แต่บางทีก็อยากรวยนะจะได้รู้ว่าเป็นอย่างไร
    เป็นแบบท่านเทพก็ดีนะ มีอารมณ์ขันตลอดเวลา
     
  19. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,905
    ค่าพลัง:
    +16,489
    :):p น่าจะจริงนะคะ พี่ต้อย เราทำในสิ่งที่เราชอบ เรารัก เราก็มีความสุข ก็หาวิธีเอานะคะ ความสุขแต่ละคนก็คงไม่เหมือนกัน อายุยืนแน่ ๆ ค่ะ ขอบพระคุณ คนร้อง ชอบร้อง คนฟัง ชอบฟัง อายุยืนไปคู่ ๆ กัน อย่าหนีหายกันไปก่อนนะคะ จุ๊ฟ ๆ ๆ ...

    :oops:;) ท่านเทพ คงชอบสนุก ๆ ขำ ๆ ชีวิตอาจเครียดจัด ก็ต้องหาวิธีคลายเครียดให้ตัวเอง พอใจก็แวะไปอ่านอยู่บ่อย ๆ นะคะ ชอบภาพขำขัน ๆ ที่ท่านเทพกับเพื่อน ๆ สมาชิกไปโพสไว้อยู่บ่อย ๆ นะคะ...
     
  20. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,905
    ค่าพลัง:
    +16,489
    ความลึกซื้งของคำสอนในพุทธศาสนาที่นับวัน แม้แต่นักควอนตัมฟิสิกซ์จะค้นพบข้อพิสูจน์ทางวิทย์ที่ยืนยันความเป็นจริงได้อย่างน่าทึ่ง....

    อวิชาคือเหตุ "เวียนว่ายตายเกิด"

    ↔↔↔↔
    ขออนุญาตแชร์บทความ จากผู้เผยแผ่ครับ.....
    อ่านจบ จะแชร์หรือไม่แชร์ ก็ได้บุญไปเรียบร้อยแล้ว ถ้าแชร์ต่อ ก็เป็นธรรมทาน อันยิ่งใหญ่ครับ สาธุ....อนุโมทนาบุญกับบทความดีๆ ✒✒✒ ✒✒✒✒

    10 ความจริงสูงสุดที่ทุกคนควรตระหนัก!!!
    ***********
    1. แท้จริงแล้วสุขทุกข์ไม่ได้เกิดจากใครทำ ไม่ได้เกิดจากปัจจัยภายนอก แต่เกิดจากการกระทบกันของตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ปัจจัยภายนอกเป็นเพียงตัวแปร ปัจจัยภายในได้แก่ สติ คือสาเหตุใหญ่ ถ้าสติไม่แข็งแรง ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใด เป็นใครมาจากไหน ก็มีความทุกข์ได้ทั้งนั้น เมื่อสติแข็งแรง ย่อมเห็นกระบวน การทำงานของตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เมื่อเห็นกระบวนการดังกล่าว จิตย่อมไม่เสวยอารมณ์ อันเป็นต้นเหตุของสุข ทุกข์ สุขทุกข์จึงถูกปรับสมดุลให้อยู่ในภาวะเป็นกลาง สิ่งนี้เรียกว่า ความเบิกบาน

    2. ความเป็นเรา เป็นเขา คือ กระบวนการปรุงแต่งของจิต แท้จริงแล้ว ตัวเราไม่มีอยู่ คำว่าตัวเราไม่มีอยู่นี้ ไม่ใช่คำอุปมาอุปไมย แต่เป็นสิ่งที่สามารถตรวจสอบได้เอง จากการฝึกจิต ความเป็นตัวเรานั้นเปรียบ
    เหมือนรถยนต์หนึ่งคัน เมื่อจับล้อไว้ทางหนึ่เครื่องยนต์ไว้ทางหนึ่ง ประตู ตัวถังไว้ทางหนึ่ง เมื่อจับแยกส่วนได้เช่นนี้ สภาพความเป็นรถยนต์ก็หมดไป เมื่อฝึกสติจนแยกกาย ความคิด และจิต ออกจากกันได้ ความเป็นตัวเราก็หมดไปด้วย เมื่อความเป็นตัวเราหมดไป ผู้ยึดมั่นถือมั่นก็หมดไปด้วย ความทุกข์ทั้งปวงก็เป็นอันยุติ

    3. เราทั้งหลาย ล้วนเกิดมาหลายล้านชาติ เป็นจำนวนที่นับไม่ได้ เคยเกิดเป็นคนรวย คนจน ราชา พระ ยาจก เป็นคนฉลาด เป็นคนโง่เขลา เป็นคนพิการ เป็นคนรูปงาม เป็นชาย เป็นหญิง เป็นกระเทย เป็นทอม เป็นนักบุญ เป็นมหาโจร เคยเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน สัตว์นรก เปรต เทวดา เคยเป็นมาทุกอย่าง ดังนั้น ถ้าชาตินี้เกิดมาดี ก็ไม่ได้แปลว่าชาติหน้าจะดี ชาตินี้อาจเป็นมหาเศรษฐี ชาติหน้าอาจเกิดเป็นสัตว์นรก ชาตินี้อาจเป็นสัตว์เดรัจฉาน ชาติหน้าอาจเกิดเป็นมนุษย์อยู่ในตระกูลสูงก็เป็นได้ ตราบใดที่ยังเวียนว่ายตายเกิด จงอย่าลำพองใจว่า เรานั้นดีแล้ว ประเสริฐแล้ว เพราแท้จริง ไม่มีใครเลยที่ดีกว่าใคร ทุกคนล้วนอยู่ในความสุ่มเสี่ยงทั้งสิ้น

    4. จิตสุดท้ายก่อนตาย เป็นสิ่งชี้วัดว่าชาติหน้าเราจะไปเกิดเป็นอะไร ขณะที่จิตสุดท้ายเป็นสิ่งที่ควบคุม
    ได้ยากที่สุด ในวินาทีสุดท้ายความเศร้า ความกลัว ความสงสัย การยึดติด และความเจ็บปวด สิ่งเหล่านี้ จะดึงมนุษย์ให้ไปปฏิสนธิจิตในภูมิเบื้องต่ำ ได้แก่ นรก เปรต เดรฉาน พระพุทธเจ้าตรัสว่าผู้ที่ได้เกิดเป็นมนุษย์อีกครั้งหลังจากตายไปแล้ว มีเท่าจำนวนเม็ดทรายที่ปลายนิ้ว ส่วนทรายที่เหลือบนปฐพี เทียบได้กับผู้ที่ตายแล้วไปจุติในอบายภูมิ ถ้าเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์แล้ว คงน้อยกว่า 0.000000001เปอร์เซ็นต์ นั่นเท่ากับว่า เป็นไปได้มากเหลือเกินว่า คนทั้งหมดที่เรารู้จัก จะไม่มีใครเลยที่จะได้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีก ไม่เว้นแม้กระทั้งเราเอง!!!

    5. ชีวิตที่เราเห็นอยู่ เป็นชีวิตชั่วคราว เมื่อเราตาย สิ่งที่เราหามาด้วยความลำบาก สิ่งที่เราเคยมั่นหมายว่าสำคัญ ทั้งความสามารถ เกียรติภูมิ ลูก เมีย ผัว หน้าที่การงาน สมบัติพัสถาน เงินทอง บ้านช่อง ที่ดิน ความภาคภูมิใจ ทั้งหมดนี้ ไม่มีอะไรเลยที่เราสามารถนำติดตัวไปได้ คำถามสำคัญที่เราควรต้องคิด คือ "ทุกวันนี้เราใช้เวลาที่มีเพื่อสิ่งใด" แน่นอนว่า เวลาเกือบทั้งหมดของเรามุ่งไปสู่สิ่งที่เราไม่สามารถนำติดตัวไปได้ เหล่านี้ คือเรื่องอันตรายที่เราสมควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างเร่งด่วน

    6. บุญบาปเป็นของมีจริง ทุกการกระทำของเรา ย่อมส่งผลสะท้อนกลับ ไม่วันนี้ก็วันหน้า ไม่ชาตินี้ก็ชาติหน้า คำพูด และการกระทำ จึงเป็นสิ่งสำคัญมากกว่าที่เราคิด พูดสิ่งใด ทำสิ่งใดลงไป มิได้จารึกไว้เพียงโลกนี้ หากแต่มันจะจารึกไว้ในสังสารวัฏ ในจิตของเรา และเราจะต้องเป็นผู้รับผลแห่งการกระทำของตนเอง ตลอดการเวียนว่ายตายเกิด ดังนั้น จงระวังคำพูด และการกระทำของเราไว้ให้มากกว่าที่เป็นอยู่

    7. ทุกคนที่เราเห็น พ่อ แม่ พี่ น้อง เพื่อน ผู้คน ทั้งคนที่รู้จัก และไม่รู้จัก ตลอดการเวียนว่ายตายเกิด ไม่มีใครเลยที่ไม่รู้จักกัน ไม่มีใครเลยที่ไม่เกี่ยวข้องกัน และตราบใดที่เรายังเวียนว่ายตายเกิด เราและเขา จะได้พบกันอีก ไม่ฐานะใดฐานะหนึ่ง ทำดีกับเขาวันนี้ จะพบกันในเส้นทางที่ดี ทำร้ายเขาในวันนี้ ก็จะต้อง
    ตามจองเวรกันต่อไปไม่สิ้นสุด ดังนั้น คำว่า "เพื่อนร่วมทุกข์เกิดแก่เจ็บตาย"จึงเป็นคำที่มีนัยยะสำคัญ
    กว่าที่เราคิดไว้หลายเท่า จงมองผู้อื่นให้เหมือนครอบครัวของท่าน นั่นคือ หนทางที่ดีที่สุด

    8. เมื่อการเวียนว่ายตายเกิดมีจริง การบริหารจัดการชีวิตของเรา ก็สมควรเป็นการบริหารจัดการชีวิตที่ครอบคลุมทุกมิติ ไม่เน้นหนักในชาติใดชาติหนึ่ง ชาตินี้ก็ต้องกินต้องใช้ แต่ชาติหน้าก็ต้องเผื่อเหลือเผื่อขาด กิจกรรมบางอย่าง อาจส่งผลดีสูงสุดในชาตินี้ แต่ชาติหน้าอาจทำให้ท่านไม่เหลืออะไรเลยแม้แต่อัตภาพ ความเป็นมนุษย์ ดังนั้น ในทุกวัน เราควรถามตนเองว่า วันนี้เราได้เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัวในชาติหน้า
    เป้าหมายการเกิดเป็นมนุษย์คือการดับกิเลส และทำที่สุดแห่งทุกข์ให้แจ้ง คือการดับความไม่รู้ หรืออวิชชา อันเป็นต้นเหตุแห่งการเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏ
    ถ้าชาตินี้เรายังตั้งเป้าหมายเก่าๆ ซ้ำๆ เดิมๆชีวิตของเราคงไม่ต่างอะไรกับนิยายน้ำเน่าที่นำมา เล่าซ้ำเปลี่ยนแต่เพียงชื่อแซ่ หน้าตา เสื้อผ้า หน้า ผม
    เช่นนี้แล้ว การเกิดของเราคงเป็นการเกิดที่ไร้ค่า

    หยุดคิด พินิจ ใคร่ครวญ ด้วยสัมปชัญญะ อัตภาพความเป็นมนุษย์ คือ สิ่งล้ำค่าอันหาที่สุดมิได้ ทุกวันนี้ท่านกำลังใช้สิ่งล้ำค่าที่ว่า เพื่อแสวงหาสิ่งใดอยู่หรือ!!!
     

แชร์หน้านี้

Loading...