อำเภอแม่แจ่ม
ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดเชียงใหม่
มีหมู่บ้านอยู่ตามที่ราบและกระจัดกระจายอยู่ตาม
หุบเขาใหญ่น้อยที่ล้อมรอบ เรียงรายอยู่ มองจากที่สูง
ลงมาจะเหมือนแอ่งกระทะ มีลำน้ำไหลผ่าน
อำเภอแม่แจ่มแบ่งเขตการปกครองย่อยออกเป็น 7 [FONT="]ตำบล[/FONT] 108 [FONT="]หมู่บ้าน[/FONT]
- ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอกัลยาณิวัฒนา
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอสะเมิง อำเภอ
- แม่วาง และอำเภอจอมทอง
- ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอจอมทอง อำเภอฮอด และ
- อำเภอแม่สะเรียง (จังหวัดแม่ฮ่องสอน)
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอแม่ลาน้อย อำเภอ
- ขุนยวม และอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน (จังหวัดแม่ฮ่องสอน)
พื้นที่ปลอดภัยยามเกิดอภิมหันตภัย ในจังหวัดต่าง ๆ ของประเทศไทย
ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย truethailove, 27 พฤศจิกายน 2011.
หน้า 9 ของ 43
-
-
การเดินทาง
เส้นทางแรก ถ้ามาจากเชียงใหม่ ให้ขับรถไปทาจอมทอง
โดยใช้ถนนเส้น 108 ครับ เมื่อถึง อ.จอมทองแล้ว จะมี
ป้ายบอกให้เลี้ยวขวาเข้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ คือ
เส้น 1009 จากนั้นผ่านด่านจุดตรวจที่ 1 เจ้าหน้าที่จะถามว่า
ไปไหน ให้เราบอกว่าไป อ.แม่แจ่มครับ เค้าจะให้ผ่านด่าน
เข้าไปในเขตอุทยาน ขับรถขึ้นดอยมาเรื่อยๆ ผ่านที่ทำการ
อุทยานฯ ผ่านตลาดม้ง ผ่านโครงการหลวง ไปจนถึงด่าน
จุดตรวจที่สอง จะมีป้ายบอกไป อ.แม่แจ่มโดยใช้ถนนเส้น
1192 ให้เลี้ยวซ้ายไปตามป้ายครับ เส้นทางจะเป็นเส้นทาง
ค่อนข้างแคบ ราดยาง ลงดอยลาดชัน ใช้ความระมัดระวัง
พอลงดอยมาก็ขับตรงมาเรื่อยๆเลยครับ ก็จะเข้าใน อ.แม่แจ่ม -
เส้นทางที่สอง หากมาจาก จ.ตาก ให้มาตามทางหลวง
หมายเลข 1 เมื่อถึง อ.เถิน จ.ลำปาง จะมีทางแยก
ให้เลี้ยวไป อ.ลี้ ให้เลี้ยวไปตามเส้นทาง 106 ขับตรงไปเรื่อยๆ
ผ่านแยกทีจะเลี้ยวไป อ.ทุ่งหัวช้าง ให้ขับตรงไปต่อ เมื่อถึง
แยกให้เลี้ยวซ้ายไป อ. ดอยเต่า ให้ขับรถเลี้ยวเข้าไปตาม
เส้น 1103 ขับตรงไปเรื่อยๆ ผ่าน อ.ดอยเต่า จนมาถึง อ.ฮอด
จะเจอแยกแรก มีปั๊มน้ำมันสองแห่ง แล้วก็มีท่ารถของ
เมืองฮอด - เชียงใหม่ ให้เลี้ยวขวาไป ขับไปประมาณ
700 เมตร มีแยกทางหลวงหมายเลข 108 ให้เลี้ยวซ้าย
ขับรถเลียบไปตามลำน้ำแม่แจ่ม เส้นทางนี้สวยงามมาก
ผ่านป่าเขา ลัดเลาะไปเรื่อยๆ ผ่านอุทยานแห่งชาติ
ออบหลวง ขับตรงมาอีกเรื่อยๆจะเจอแยก ให้เลี้ยวขวา
ไปอ.แม่แจ่ม เส้น 1088 แล้วจะผ่านบ่อน้ำร้อนเทพพนม
ขับตรงต่อไปอีกประมาณ 40 กิโลฯ เห็นจะได้ ก็จะถึง อ.แม่แจ่ม -
เส้นทางที่สาม หากมาจาก อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน
ให้ขับไปตามถนนเส้น 1263 เส้นทางจะคดเคี้ยวไป
ตามดอยนะครับ ผ่านบ้านปางอุ๋ง(คนละที่กับอ่างเก็บน้ำ
ปางตอง ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวนะครับ) บ้านปางเกี๊ยะ
บ้านแม่นาฮ่อง แล้วจะเจอแยกครับ ให้ขับตรงไปทาง
บ้านแม่นาจอน แล้วตรงไปเรื่อยๆก็จะถึง อ.แม่แจ่ม
เส้นทางที่สี่ หากมาจากวัดจันทร์ เส้นทางนี้ไม่แนะนำ
เนื่องจากเป็นทางลูกรัง ขับเวียนเข้าไปในป่าลึก มีแต่
บ้านชาวเขา ไม่มีปั๊มน้ำมันด้วย จึงขอไม่อธิบาย -
อำเภอแม่แจ่มหรือ "เมืองแจ๋ม" นั้นแต่เดิมเรียกกันว่า
"เมืองแจม" มีเรื่องเล่าครั้งโบราณกาลว่า สมเด็จ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระมหากัจจายนะได้จาริก
ผ่านมาทางยอดดอยอ่างกา (ดอยอินทนนท์) เช้าวันหนึ่ง
เมื่อพระองค์เสด็จออกบิณฑบาตโปรดสัตว์ มีย่าลัวะเฒ่า
(หญิงชราชาวลัวะ) คนหนึ่งนำปลาปิ้งเพียงครึ่งตัว
มาใส่บาตรถวายพระบรมศาสดาทอดพระเนตรด้วย
ความเมตตาและความสงสัย จึงตรัสถามย่าลัวะว่า
"แล้วปลาอีกครึ่งตัวล่ะอยู่ไหน" ย่าลัวะทูลตอบว่า
"เก็บไว้ให้หลาน"พระองค์จึงทรงรำพึงว่า "บ้านนี้
เมืองนี้มันแจมแต๊นอ" (=เมืองนี้ช่างอดอยากจริงหนอ)
ซึ่งต่อมาดินแดนนี้จึงได้ชื่อว่า "เมืองแจม"คำว่า
"แจม" เป็นภาษาลัวะ แปลว่า มีน้อย ไม่พอเพียง
หรือขาดแคลน ต่อมาเมื่อกลุ่มคนไท-ยวน (ไต)
มาอยู่ จึงเรียกชื่อตามสำเนียงไท-ยวนว่า "เมืองแจ๋ม"
และเพี้ยนเป็นเมืองแจ่มหรือ "แม่แจ่ม" อันเป็น
นามมงคลหมายถึงให้เมืองนี้เป็นเมืองแห่งความแจ่มใส
ลบความหมายของคำว่า "แจม"
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี -
วัดพระธาตุช่างเคิ่ง (เกศาธาตุ 4 เส้น)
วัดพระธาตุช่างเคิ่ง เป็นจุดศูนย์กลางของอำเภอ
แม่แจ่ม มีพระบรมธาตุเจดีย์บรรจุพระเกศาธาตุของ
พระโคตมะพุทธเจ้าถึง 4 เส้น นอกจากมีองค์พระธาตุ
ช่างเคิ่ง ซึ่งเป็นที่บรรจุพระเกศาธาตุ 4 เส้นแล้ว
วัดนี้ก็ยังมีสถานที่สำคัญอื่นๆ อีกเช่น บ่อน้ำทิพย์
อันเป็นที่ทรงใช้เสวยในคราวที่พระพุทธเจ้าเสด็จมา
ครั้งนั้น พร้อมทั้งสระน้ำ ซึ่งเป็นสถานที่ทรงสนาน
พระวรกาย ส่วนวิหารพระมหากัจจายนะ ก็เป็นสถานที่
พระเถระเคยมาอาศัยอยู่เช่นกัน
ในอำเภอแม่แจ่ม มีพระบรมธาตุเจดีย์บรรจุพระเกศาธาตุ
จำนวน 8 เส้น อันประดิษฐานอยู่รอบเมืองทั้ง 4 ทิศ ได้แก่[FONT="]
[/FONT]ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ทิศเหนือคือพระธาตุดอยสะกาน
ทิศใต้ได้แก่พระธาตุดอยกู่ใต้
ทิศตะวันออก ได้แก่พระธาตุดอยรวก
ทิศตะวันตกได้แก่พระธาตุดอยกู่
พระธาตุทั้ง 4 องค์นี้ บรรจุพระเกศาธาตุแห่งละ 1 เส้น
โดยมีจุดศูนย์กลาง คือ พระธาตุช่างเคิ่ง บรรจุ
พระเกศาถึง 4 เส้น อยู่ใจกลางเมืองอำเภอแม่แจ่ม
การเดินทางไปวัดพระธาตุช่างเคิ่ง จากตัวเมือง
เชียงใหม่ ใช้เส้นทางสายเชียงใหม่-แม่แจ่มระยะทาง
จากตัวเมืองประมาณ 156 กิโลเมตรซึ่งวัดพระธาตุช่างเคิ่ง
อยู่ใกล้กับโรงพยาบาลแม่แจ่ม
http://www.dannipparn.com/thread-750-1-1.html
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=kumpine&month=02-02-2006&group=6&gblog=62 -
วัดพระธาตุดอยสะกาน (รอยพระพุทธบาท และ พระเกศาธาตุ 1 เส้น)
[FONT="]สำนักปฏิบัติธรรมกรรมมัฏฐาน วัดพระธาตุดอยสะกาน
[/FONT][FONT="]ตั้งอยู่บ้านต่อเรือ หมู่ที่ [/FONT]2 [FONT="]ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่[/FONT]
[FONT="]การเดินทางไปวัดพระธาตุดอยสะกาน [/FONT][FONT="]ใช้เส้นทาง
ดอยอินทนนท์ [FONT="]แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปทาง อ.แม่แจ่ม[/FONT]
[FONT="]มุ่งสู่ทิศเหนือของอำเภอแม่แจ่ม ทางไปทางเดียวกับ
น้ำออกฮู อ.แม่แจ่ม ป้ายชื่อวัดอยู่ด้านซ้ายของถนน[/FONT][/FONT]
http://www.dannipparn.com/thread-744-1-1.htmlไฟล์ที่แนบมา:
-
-
วัดพุทธเอิ้น
มีชื่อเดิมว่า “วัดศรีสุทธาวาสเอิ้นมงกุฎ” สิ่งที่น่าสนใจ
ภายในวัดแห่งนี้ก็คืออุโบสถที่สร้างขึ้นกลางสระน้ำ
หรือที่เรียกว่าอุทกสีมา สร้างในสมัยต้นรัตนโกสินทร์
อุทกสีมานั้นก็คืออุโบสถที่ใช้น้ำเป็นสิ่งแสดงอาณาเขต
ในการทำสังฆกรรมตัวอุโบสถเป็นไม้ทั้งหลัง หลังคามุง
ด้วยแป้นเกล็ดไม้ มีขนาดไม่ใหญ่นักสร้างขึ้นในสระน้ำ
รูปสี่เหลี่ยมซึ่งล้อมรอบด้วยกำแพงศิลาแลง ภายในโบสถ์
ห้ามผู้หญิงเข้าเหมือนกับหลายๆ วัดในล้านนา
ส่วนจุดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ของวัดแห่งนี้ นั่นก็คือ
ภายในวัดจะมี“บ่อน้ำพุทธเอิ้น” ซึ่งมีน้ำใสไหลเย็น
ไหลออกมาจากพื้นดินตลอดเวลาไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ตามตำนานของวัดแห่งนี้เล่ากันมาว่า เมื่อสมัยพุทธกาล
พระพุทธเจ้าได้เสด็จโปรดเวไนยสัตว์ผ่านมาบริเวณนี้
และได้หยุดพักผ่อนที่ดอนสกานต์ ซึ่งตั้งอยู่ทาง
ทิศตะวันออกของวัดในปัจจุบันและได้ทรงตรัสเรียกหา
พระอานนท์ พระพุทธอุปัฏฐากให้หาน้ำมาเสวย
เสร็จแล้วทรงบ้วนพระโอษฐ์ลง ณ บริเวณที่เป็นบ่อน้ำ
ในปัจจุบันซึ่งบ่อน้ำนี้มีลักษณะเป็นน้ำผุดออกจาก
ใต้พื้นดินและไหลออกมาไม่ขาดสายไม่ว่าบ้านเมือง
จะแล้งเพียงใดและต่อมาได้มีภิกษุสองรูปคือ
พระติวิทวังโสและพระชมภูวิทโย ได้ธุดงค์ผ่านมา
จึงได้ร่วมมือกับชาวบ้านละแวกนั้นสร้างวัดขึ้น
ตรงบริเวณที่น้ำผุดขึ้นนี้[FONT="]
[/FONT] -
“บ่อน้ำพุทธเอิ้น” นี้ชาวแม่แจ่มถือว่าเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์
ชาวบ้านต่างพากันนำน้ำจากบ่อแห่งนี้ไปใช้เป็นน้ำดื่ม
น้ำกิน โดยในแต่ละวันชาวบ้านก็จะนำภาชนะใส่น้ำมา
รองน้ำในบ่อแห่งนี้กลับไปใช้ดื่ม ที่บ้าน จนทางวัด
ต้องติดป้ายข้อกำหนดในการรองน้ำใช้ไว้ว่าให้รองน้ำ
ตามลำดับก่อน -หลัง และควรนำภาชนะที่มีขนาด
5 ลิตรขึ้นไปมาใช้รองน้ำ ไม่ควรใช้ขวดน้ำขนาดเล็ก
มารองเพื่อความรวดเร็ว รวมไปถึงห้ามทิ้งขยะ อาบน้ำ
และซักผ้าบริเวณนี้โดยเด็ดขาด อีกทั้งน้ำจากบ่อ
บริเวณนี้ ก็ได้ต่อท่อลงไปที่สระซึ่งเป็นที่ตั้งของ
อุโบสถ ก็ทำให้น้ำเต็มสระอยู่ตลอดปีอีกด้วย
[FONT="]http://teawchiangmai.com/chiangmaiboard/index.php?topic=2391.0[/FONT] -
วัดเจียง (บรรจุผ้าจีวรของพระพุทธเจ้าและประดิษฐานพระเจ้าแสนตอง)
บ.สันหนอง ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่
[FONT="]วัดเจียง[FONT="]ตั้งอยู่[/FONT][FONT="]เลขที่ ๕๓ หมู่ ๑๘ ถนนสุคสนิท ตำบล
ช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม [/FONT][FONT="]ห่างจากที่ว่าการอำเภอไป
ทางทิศเหนือประมาณ[/FONT] 2 [FONT="]ก.ม.
[/FONT][/FONT][FONT="]ประวัติพระเจ้าแสนตอง
[FONT="]พระเจ้าแสนตอง[/FONT][/FONT] [FONT="]พระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง
ของเมืองแจ่ม[FONT="]แต่เดิมประดิษฐานที่วัดร้าง ทุ่งเชียงใหม่[/FONT][FONT="]
ต่อมาชาวอำเภอแม่แจ่มจึงได้อันเชิญอาราธนาแห่
เพื่อขอฝน กระทั่งปีพ.ศ. ๒๕๐๙[/FONT][FONT="]พระธรรมโมลีเจ้า
คณะภาค ๗[/FONT][FONT="] มีคำสั่งให้อาราธนาพระพุทธรูปแสนตอง
มาขึ้นทะเบียนและประดิษฐาน ณ วัดเจียง[/FONT][FONT="] พระพุทธรูป
มีความศักดิ์สิทธิ์มากเคยแสดงปาฏิหาริย์ให้เห็นเป็น
ประจักษ์แก่[/FONT][FONT="]ชาวอำเภอแม่แจ่มหลายครั้ง เช่น ครั้งที่
อาราธนามาประดิษฐาน ณ วัดเจียง[/FONT][FONT="]ทำให้เกิดฝนตก
โดยฉับพลัน เป็นต้น[/FONT][/FONT]ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
วัดสองยอด
ม.6 ต.แม่ศึก อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่
http://www.dannipparn.com/thread-755-1-1.htmlไฟล์ที่แนบมา:
-
-
วัดกองกาน
อยู่ห่างจากวัดพุทธเอิ้นประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นวัดสำคัญ
ของชาวแม่แจ่ม เนื่องจากภายในวิหารมีพระเจ้าตนหลวง
ซึ่งเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองแม่ แจ่ม ในช่วงเทศกาล
สงกรานต์ชาวแม่แจ่มจะไปสรงน้ำองค์พระกันทุกปี
พระเจ้าตนหลวงนี้ เป็นแบบล้านนา และมีขนาดใหญ่ที่สุด
ในอำเภอแม่แจ่ม ตัววิหารเป็นไม้ และหลังคามุงแป้นเกล็ดแบบโบราณ
[FONT="]วัดก๋องกาน หมายถึง[FONT="]วัดที่มีผู้มีจิตศรัทธามาทำบุญ
เป็นจำนวนมาก[/FONT][FONT="]หาบข้าวของมาแล้วเอาไม้คาน
ที่หาบของมากองไว้
[/FONT][FONT="]ในเวลาต่อมาได้ยึดถือเอาวันขึ้น [/FONT][FONT="]15 [/FONT][FONT="]ค่ำ[/FONT][FONT="]เดือน [/FONT][FONT="]8 [/FONT][FONT="]เหนือ
(เดือน [/FONT][FONT="]8 [/FONT][FONT="]เป็ง) เป็นวันทำบุญสักการบูชาพระเจ้าตนหลวง
[/FONT][FONT="]จนเป็นประเพณีสืบมาจนถึงปัจจุบัน[/FONT][/FONT][FONT="]
[/FONT]ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ประวัติพระเจ้าตนหลวง วัดกองกาน
พระเจ้าตนหลวง มีประวัติความเป็นมา ตามคำบอกเล่าว่า
ในราวพุทธศตวรรษที่ 19-20 ผู้ครองนคร ในล้านนาประเทศ
อันได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย และเชียงแสน ซึ่งเป็นผู้ที่นับถือ
ในพระพุทธศาสนา ได้มาแผ้วถางป่าในบริเวณนี้ และสร้าง
เป็นวัดพร้อมกับได้ก่อพระพุทธรูปขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช
๑๙๗๔ ได้ให้ชื่อวัดที่สร้างขึ้นใหม่นี้ว่า "วัดศรีเมืองมา"
ในการก่อสร้างพระพุทธรูปนั้น ช่างผู้ก่อสร้างได้ก่อองค์พระ
จนมาถึงพระเศียรและพระเกศเมาลีแล้ว แต่พอจะแต่งพระพักตร์
(ขะเบ็ดหน้า) ขององค์พระ ช่างได้พยายามแต่งพระพักตร์
อย่างไรก็ไม่มีความสม่ำเสมอสวยงาม ได้ทำใหม่ถึง 2-3 ครั้ง
ก็ทำไม่ได้ จึงได้ปรึกษากันว่า ควรจะทำพิธีบวงสรวงเทพยดา
ขอให้มาช่วยสร้างพระให้สำเร็จ พอได้ตั้งขันหลวงทำพิธี
บวงสรวงอย่างนั้นแล้ว ช่างก็ลงมือช่วยกันทำต่อไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ในขณะนั้นปรากฏว่า มีสามเณรน้อยรูปหนึ่งมาจากไหน
ไม่มีใครทราบ ได้มาช่วยทำพระพักตร์พระพุทธรูปจนได้
พระพักตร์เสมอกันดี มีท่าทียิ้มแย้ม จนเป็นที่พอใจกันแล้ว
แต่ปรากฏว่า สามเณรน้อยที่มาช่วยสร้างพระพุทธรูปนั้น
ก็อันตรธานหายไป จนเป็นที่โจษขานกันว่า คงจะเป็น
พระอินทร์เนรมิตเป็นสามเณรน้อยลงมาช่วยสร้าง
พระพุทธรูป ทำให้ได้พระพุทธรูปที่มีสัดส่วนสวยงาม
และมีพระพักตร์แย้มยิ้มอิ่มเอิบ ที่มีชื่อว่า "พระเจ้าตนหลวง"
ดังที่ปรากฏให้เห็นกันทุกวันนี้
[FONT="]พระพุทธรูปเจ้าตนหลวง[/FONT] [FONT="]เป็นพระที่ศักดิ์สิทธิ์และมี
อภินิหารมาก เล่าสืบต่อกันมา ว่า [FONT="]หากบุคคลใดได้ทำบาป
อกุศลร้ายแรงไว้ทั้งอดีตและปัจจุบัน[/FONT] [FONT="]เวลามาสักการบูชา
พระเจ้าตนหลวง จะมองไม่เห็นพระเจ้าตนหลวง[/FONT] [FONT="]
ต้องให้คนอื่นนำพาไปลูบคลำพระพุทธรูปจึงจะรู้สึก[/FONT][/FONT]
http://teawchiangmai.com/chiangmaiboard/index.php?topic=242.0
[FONT="]http://www.tumsrivichai.com/index.php?lay=show&ac=article&Id[/FONT].
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=659854 -
อำเภอแม่วางตั้งอยู่ทางตอนกลางของจังหวัด มี
อาณาเขตติดต่อกับอำเภอและจังหวัดใกล้เคียงดังต่อไปนี้
- [FONT="]ทิศเหนือ [FONT="]ติดต่อกับ[/FONT][FONT="]อำเภอสะเมิง[/FONT][/FONT]
- [FONT="]ทิศตะวันออก [FONT="]ติดต่อกับ[/FONT][FONT="]อำเภอหางดง[/FONT][FONT="]และ[/FONT][FONT="]อำเภอสันป่าตอง[/FONT][/FONT]
- [FONT="]ทิศใต้ [FONT="]ติดต่อกับ[/FONT][FONT="]อำเภอดอยหล่อ[/FONT][FONT="]และ[/FONT][FONT="]อำเภอจอมทอง[/FONT][/FONT]
- [FONT="]ทิศตะวันตก [FONT="]ติดต่อกับ[/FONT][FONT="]อำเภอแม่แจ่ม[/FONT][/FONT]
-
[FONT="]วัดพระธาตุศรีพุทธิวงศ์ ( ดอยธาตุ )
ต.แม่วิน อ.แม่วาง[/FONT]
[FONT="]สำหรับป้ายชื่อที่ทางวัดพระธาตุศรีพุทธิวงศ์ (ดอยธาตุ)
ใช้ปัจจุบันนี้ (๒๕๕๒) ได้ใช้ชื่อว่า[FONT="]สำนักวิปัสสนา
พระธาตุศรีสมเด็จพระพุทธชินวงศ์[/FONT][FONT="] ต.แม่วิน
อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ [/FONT][/FONT]
[FONT="]การเดินทางไปวัดพระธาตุศรีพุทธิวงศ์ (ดอยธาตุ)[FONT="]
จากตัวเมืองเชียงใหม่ใช้เส้นทางหมายเลข ๑๐๘
สายเชียงใหม่-ฮอด[/FONT][FONT="]ผ่านอำเภอสันป่าตองประมาณ
๗๐๐ เมตร[/FONT][FONT="]ให้เลี้ยวขวาที่สามแยกบ้านกาดและเข้าสู่
เส้นทางหมายเลข ๑๐๑๓[/FONT][FONT="]ผ่านอำเภอแม่วางและ
ปางช้างแม่วิน ไปประมาณ ๔๗ กิโลเมตร[/FONT][FONT="]ก็จะถึง
วัดพระธาตุศรีพุทธิวงศ์ ตั้งอยู่ด้านขวาของถนน
รวมระยะทางประมาณ ๘๕[/FONT][FONT="]กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง
ประมาณ ๒ ชั่วโมง
[/FONT][/FONT]ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
[FONT="]พระบรมธาตุเชียงลม[/FONT]
[FONT="]วัดโสภาราม (หัวฝาย) [/FONT][FONT="]ตั้งอยู่ เลขที่ ๑ หมู่ที่ ๒
บ้านหัวฝาย ตำบลบ้านกาด อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่
[FONT="]การเดินทางไปวัดโสภาราม (หัวฝาย)[/FONT][FONT="]ใช้เส้นทาง
หลวงสายเชียงใหม่ - ฮอด แล้วเลี้ยวขวาทางสามแยก
สันป่าตอง[/FONT][FONT="]เข้าสู่ถนนสายสันป่าตอง - แม่วิน ระยะทาง
ประมาณ ๑๐ กิโลเมตร[/FONT][FONT="]วัดโสภารามจะอยู่ติดถนน
ด้านขวาของถนนทางไปปางช้างแม่วินเลย
[/FONT][/FONT]
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
อำเภอสารภี
เป็นอำเภอหนึ่งในเขตปริมณฑลของนครเชียงใหม่
ที่มีความเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว มีการพัฒนาทุกๆด้าน
จนเป็นอำเภอขนาดใหญ่ในแง่ของสถานประกอบการ
และอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ของจังหวัดเชียงใหม่
ที่ได้รับอานิสงค์มาจากนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือลำพูน
ปัจจุบันอำเภอสารภีถือได้ว่ามีการพัฒนาจนสภาพ
ความเจริญเป็นเขตเมืองที่เชื่อมต่อกับนครเชียงใหม่
มีประชากรหนาแน่นรองจากอำเภอเมืองเชียงใหม่และ
เป็นอำเภอที่รองรับความเจริญของนครเชียงใหม่
เพื่อขยายไปยังเมืองลำพูน
อำเภอสารภี เป็นอำเภอที่มีพื้นที่เล็กที่สุด และเป็น
เพียงอำเภอเดียวในจังหวัดเชียงใหม่ที่ไม่มีภูเขา
แต่มีจุดเด่น คือ ถนนสายต้นยางซึ่งมีอายุกว่าร้อยปี
เรียงรายตลอดสองข้างทาง มีความยาวเริ่มตั้งแต่
เขตอำเภอเมืองเชียงใหม่ไปจรดถึงเขตอำเภอเมืองลำพูน
หน้า 9 ของ 43