พ.อ.ชม สุคันธรัต

มีท่านใดเคยไปบ้านพนเอกชมมาบ้างครับ พอดีผมได้ยินว่าหนังสือที่ท่านเขียนไว้ยังมีขายอยู่ที่บ้านท่านครับ ไม่ทราบว่าราคาเล่มละเท่าไรครับ
พอดีผมจะเดินทางไปบ้านท่านครับ ว่าจะลงสามแยกตาปูนแล้วถามทางไปบ้านท่านเอาครับผมมีที่อยู่บ้านท่านอยู่ครับ เบอร์โทรศัพก็มีแต่เคยโทรไปหลายครั้งไม่มีคนรับสายเลยครับ ท่านใดเคยไปมาก็บอกเส้นทางผมด้วยครับ ขอบคุณครับ

 

เคยไปครับนานแล้ว แล้วได้ไปเรียนกับท่าน
ท่านเองยังได้ให้หนังสือผมมา

 

เริ่มจากโรงงานปูนซีเมนต์ เลยสามแยกเตาปูนไปหน่อย ซ้ายมือมีถนนแยกซ้ายมือ เข้าไปนิดหนึ่ง บ้านอยู่ซ้ายมือ ที่ว่านี้ เคยไปเมื่อ20 ปีที่แล้วนะ.....คงไม่ยกบ้านหนีไปไหนมั๊ง...

 

ขอบคุณครับ พอดีผมไปมาละครับ เห็นมีรถจอดอยู่สามคันในบ้าน แต่กดกริ่งแล้วไม่มีคนออกมาเปิดประตูให้ สงสัยไม่มีคนอยู่บ้านคนแถวนั้นบอกมีแม่บ้านอยู่ ผมไปวันอาทิตย์สงสัยแม่บ้านคงกลับบ้านอะครับ ไปเสียเที่ยวเลย อากาศก็ร้อนมากครับวันนี้

 

พ.อ.ชม สุคันธรัต ท่านเป็นใคร และ ทำอะไรหรือคะ กรุณาเล่าให้ฟังบ้างจะได้ไหมคะ ศิลามณี ไม่เคยทราบมาก่อน...อืมร์..เสียใจแทนคุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->tamrongaod<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3898076", true); </SCRIPT> จริงๆที่ไม่ได้พบท่านดังที่ตั้งใจไว้...ครั้งนี้ไม่พบ ครั้งหน้าน่าจะได้พบนะคะ เอาใจช่วย..
<!-- google_ad_section_end -->

 

พ อ ชม ท่านเชี่ยวชาญด้านพลังจิตครับ ท่านเป็นศิษย์เดียวกับหลวงพ่อจรัญครับ เป็นศิษย์ในดง แต่ก่อนท่านสอนวิชา พลังจิต ที่บ้านท่านครับ ท่านสอนแล้วให้ทดลองเดี๋ยวนั้นได้เลยครับ แต่เดี๋ยวนี้ท่านอยุมากแล้วท่านไม่สอนละครับ และท่านไม่ได้อยู่บ้านท่านละครับลูกๆหลานๆให้ท่านไปพักอยู่ที่อื่นละครับ และท่านเขียนหนังสือไว้หลายเล่มครับชื่อหนังสือวิทยาศาสตร์ทางใจๆๆ อะครับ ไม่แน่ใจยังมีขายที่บ้านท่านอยู่หรือเปล่าแต่ผมอ่านเนื้อหาดีมากเลยครับ แต่เมื่อวานผมไปไม่มีคนอยู่บ้านเลยไม่รู้ว่ามีขายอยู่หรือเปล่า

 

เคยพบท่านสมัยเด็กๆนานละ จำได้ว่าท่านเมตตามาก ท่านเป็นศิษย์พระอาจารย์ชาญณรงค์ด้วยรึปล่าวไม่ทราบ แต่มาสายในดงลึก

 

ใช่ครับ ท่านกล่าวถึงพระอาจารย์ชาญณรงค์...และอาจารย์ในดง บ่อย ๆ ผมไปเรียนกับท่าน ยกครูด้วยการเอาตำราของท่านใส่พานทีเดียวทั้งเล่ม บอกท่านว่าผมไม่มีเวลามาเรียนบ่อย ขอยกครูทั้งหมดนี่แหละครับ......ท่านหัวเราะแล้วก็ยกให้

แต่ก็ไม่ได้ฝึกฝนเอาแค่ ข้าฯ เป็นศิษย์มีครู...พอแล้ว หนังสือ และ ตำราของท่านยังอยู่ครบ ท่านบอกว่าต้องเป็นศิษย์ท่านครบ 5 ปีแล้วจึงถ่ายทอดให้คนอื่นได้ โถ..ก็ผมไม่ได้ฝึกต่อ ผลงานก็ไม่มี มีแต่ตำราที่รับจากท่านมา ศิษย์ไม่เอาไหน มีหรือจะกล้า..........

ในเวปนี้ที่เป็นศิษย์อาจารย์ พ.อ.ชม ฯ น่าจะเป็น Thamsak และ หมอพล..ลอง ๆ ถามดูอาจได้หนังสือไปอ่านก็ได้....

รูปท่านผมถ่ายไว้ นุ่งขาวห่มขาว ต้องไปค้นหาดู ถ้าเจอแล้วจะเอามาลงให้ดู อยู่ต่างจังหวัดรูปท่านก็นึกถึงท่านขุนพันธ์ ฯ ที่โกนหนวดออก ลักษณะเดียวกัน รูปร่างแบบเดียวกัน นั่นเลย....................

 

เรียนผู้พันจุ่น
ดิฉันเองนับถือสายในดงลึกเช่นกันค่ะ สายนี้ทดสอบกำลังจิตกำลังใจกันสุดๆ ไม่แน่จริงฝึกไม่ได้ ทราบว่าท่านจะเลือกผู้มีวาสนาไปฝึกด้วย มีทั้งคนไทยและคนต่างชาติ มีพระอาจารย์ที่สำเร็จเป็นทิพย์มากมาย อย่างท่านขรัวตีนโต หลายคนยังสงสัยว่า ท่านคือหลวงปู่โลกอุดรหรือไม่
เท่าที่ทราบมาว่าก่อนจบมีการโดดเหวโดยห้ามถอดจิตออกจากร่างด้วย พระอาจารยชาญณรงค์ ศิษย์ใกล้ชิดเจอกันทั้งเสกหัวปลีเป็นกระต่าย ทั้งเสกประคดเป็นงู ร่างของท่านหลังมรณภาพก็ไม่เน่าเปื่อย เพราะสำเร็จฌานแล้ว

 

ครับผม ผมก็อยากได้หนังสือท่ามาอ่านมาศึกษามาก อยากเห็นรูปท่านจังๆๆครับ
ถ้าเจอเอามาลงให้ดูบ้างนะครับ ขอบคุณไท่นี้ด้วยครับ

 

ผมไม่รู้เรื่องอะไรมากไปกว่าที่เขียนแล้วนั้น เพราะผมไปครั้งเดียว ท่านสอนวิธีการรวมจิต การส่งจิตออกไปเพื่อใช้งาน การอธิษฐานก่อนเพื่อบูชาพระคุณครู แล้วท่านก็ให้ทำเดี๋ยวนั้นเลย มา 4 คนก็ช่วยกันทำท่านหันหลังไม่สนใจ ทำอะไรก็ทำกันไป

เริ่มแรกเลยก็คือ วิชาดับพิษไฟ เอาเตาแก๊สและหม้อใส่น้ำต้มให้น้ำเดือดพล่าน เรา 4 คนตั้งใจทำสมาธิเพื่อดับพิษไฟของน้ำที่เดือดนั้น....จนมั่นใจ ท่านก็บอกให้เราเอามือจุ่มลงไปดูว่าร้อนไหม ???? ทุกคนก็เอามือจุ่มดูในน้ำต้มที่กำลังเดือด ก็ไม่ร้อนมือ อุ่นนิด ๆ

แล้วก็อีกวิชา คือ เสกปูนคาดคอ เอาปูนกินหมากมาเสกด้วยพระคาถาที่ท่านบอกให้ จนมั่นใจ ก็ป้ายคอ เสร็จแล้วท่านเอาดาบปลายปืนมา ดึงเนื้อใต้ท้องแขนมา กดปลายดาบลงบนเนื้อใต้ท้องแขนจนยู่ลงไปในเนื้อนั้น ก็ไม่เข้า แค่บุบนิดหน่อย .....

จุดประสงค์ที่สอนและทดลอง ท่านจะสอนเคล็ดวิชาให้ มิได้สอนแต่ตัวคาถาอย่างเดียว นั้นก็คือ..........

1.การตั้งจิตอธิษฐานถึงครูอาจารย์ขอให้ท่านช่วย แล้วแต่เราจะต้องการทำอะไร
2.วิธีการ ตั้งจิต รวมจิต และส่งพลังจิตเข้าสู่สิ่งของ เช่น เสกปูน ดับพิษไฟ

ท่านได้ถ่ายทอดวิชา และทดลองให้เรามั่นใจแล้ว จากนั้นก็ทำการมอบตัวเป็นศิษย์ผ่านท่านอาจารย์ พ.อ.ชม สุคันธรัต แห่งซอยประชานฤมิตร สามแยกเตาปูน บางซื่อ กทม. ผมก็ได้เป็นศิษย์มีครู วันนั้นเอง ..........

การทดลองลับหลังอาจารย์ก็เกิดขึ้น ผมกลับไปบ้านก็ได้ไปทำการทดลอง ซึ่งก็ได้ผล ด้วยการดับพิษไฟ..... แล้วก็ไม่ค่อยได้ฝึกอะไรต่อไปอีกเลย ทุกวันนี้มุ่งแต่ สมาธิ-วิปัสสนา หนีทุกข์ ไม่ได้ใส่ใจสิ่งใด ๆ เร้นกาย หนีสังคม บ่มจิตตัวเอง รอวันแหกค่าย หนีคุกต่อไป.......

 

อ้อ...มีอีกวิชาหนึ่ง คือการเสกปรอทเข้าตัว โดยการเอาปรอทที่ฆ่าแล้วมาใส่ฝ่ามือจากนั้นก็ทำการเสกด้วยตัวเองเพื่อให้ปรอทซึมเข้าสู่ฝ่ามือ........ไม่สำเร็จครับ ท่านต้องช่วยด้วยการขยี้ปรอทแล้วเสกบนฝ่ามือให้ ซึงก็ซึมเข้าไปไม่เหลือ หรือซึมเข้านิ้วอาจารย์ก็ไม่รู้แฮะ..................ปรอทที่ท่านมอบให้ก็ยังเก็บไว้สองขวดเล็ก ๆ เป็นที่ระลึกถึงท่าน

ก็มีอาจารย์ ฆราวาสคนเดียวในดวงใจท่านนี้แหละ......ผมก็ศิษย์มีครูนะคร๊าบ อาจารย์ผมเก่งใครก็รู้จัก แต่ผมไม่ได้เรื่องแม้ปลายเล็บท่านเลย

เพื่อบูชาพระคุณท่าน จะพยายามหารูปท่านมาให้ชมนะครับ......

 

ผมน่าจะเกิดเร็วกว่านี้จะได้เรียนกับท่าน ครับ
ขอบคุณมากเลยตรับท่านผู้พันจุ่นที่บอกกล่าวเล่าเรื่องมาครับ

 

ชลินทร์

ผมเคยไปเรียนกับท่านเหมือนกัน ท่านเป็นผู้ใหญ่ที่น่านับถือมาก มีเมตตาสูง ถ้าสนใจก็น่าจะเอาหนังสือไปอ่านแล้วศึกษาดูได้ครับ ความรู้เหล่านี้ก็อยู่ในกรรมฐาน 40 และพระไตรปิฏกบางส่วน นั่นแหละครับอันเดียวกัน พื้นฐานของฤทธิ์ก็คือกสิณต่าง ๆ ของวัดท่าซุงก็บอกไว้ละเอียดเลยครับลองไปศึกษาและทำให้ได้ก็เข้าถึงได้เหมือนกันครับ

 

ขอบพระคุณครับสำหรับข้อมูลๆๆ

 

เคยเรียนกับท่าน ท่านสอนการเสกปรอทเข้าตัว การทำน้ำมนต์ ดับพิษร้อน เสกปูนคาดคอเพื่อทำคงกระพันแล้วดึงหนังที่แขนออกมาวางบนเขียง แล้วใช้มีดปลายแหลมแทงลงไปจะเป็นรอยแดง
พอสอนเสร็จก็บอกว่า คาถาที่ท่องไปเป็นแค่ส่วนประกอบ หลักใหญ่คือการอาราธนา พลังคุณพระทั้ง5มาช่วย และที่สำคัญคือจิตที่มีสมาธิ
และท่านก็บอกให้ไปปฏิบัติสมาธิกันให้มาก
ผมเลยเข้าใจว่าท่านพยายามสอนให้คนเห็นความสำคัญการปฏิบัติ แล้วใช้การเล่นฤทธิ์เพื่อเป็นกุศโลบายในการโน้มน้าวคนเข้ามา
อีกด้านนึงคือ สิ่งที่ทำไปเป็นบททดสอบจิตถ้ามีพลังก็จะทำสิ่งต่างๆได้

 

ช่วงที่ผมไปนั้น ทีแรกไปเจอท่าานในงานวิทยาศาสตร์ทางจิต ครั้งที่2หรือ3 นี่แหล่ะ ม.เกษตร ก็สนใจว่าสอนใช้พลัง ดับพิษร้อน คงกระพัน ทำให้ดูตอนนั้นเลย ท่านก็นัดไปบ้านท่านกัน
วันที่ไปก็มีหลายคนที่ไป พระก็สี่รูป ผู้ใหญ่หลายคน
พอสอนจบ มีผู้ใหญ่หลายคนติดต่อขอให้ท่านพาพวกเขาเหล่านั้นไปวัดเสนานฤมิตร เพื่อไปดูพระเหาะได้ ท่านรับปากพาไปได้ แต่ต้องจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินให้ท่าน ตอนนั้นที่ผมไปท่านก็อายุ 70กว่าแล้ว

 

หลังจากกลับมาก็ได้อ่านหนังสือของท่าน เกี่ยวกับพระอาจารย์ในดง
ผมก็กลับไปหาท่านพร้อมกับเตรียมคำถามไว้ เกี่ยวกับต้องการที่จะรู้ว่าหลวงปู่เทพโลกอุดร
มีจริงไหม
พอได้คุยกับท่านหลังจากท่านรักษาคนเสร็จ
ผมถามท่านขึ้นว่า '' อาจารย์ครับ เรื่องหลวงปู่เทพโลกอุดรไม่มีจริงใช่ไหมครับ เป็นเรื่องที่คนแต่ง ขึ้นใช่ไหมครับ''
ท่านตอบใส่ผมด้วยคำพูดแรงๆ '' คุณรู้ได้ยังไง ''

ผมคิดในใจเลย ผมคิดไว้แล้วยังไงท่านต้องมีตัวตนจริง

 

เสียดายนะ ที่ตอนนั้นไม่ได้รู้เรื่องหลวงปู่โลกอุดร ไม่งั้นรู้กันไปแล้วว่าหมู่หรือจ่า....

 

ถ้าใครสนใจ ที่จะรู้มากกว่านี้เท่าที่รู้น่าจะลองถามจากหมอพล เพราะท่านไปเรียนอยู่บ้านอาจารย์ชม หลายวันครับ