ภาพงานร่วมบุญทอดกฐินเพื่อซื้อที่ดินเเละเสาไฟฟ้า วัดป่าหนองเอี่ยน

ภาพงานร่วมบุญทอดกฐินเพื่อซื้อที่ดินเเละเสาไฟฟ้า วัดป่าหนองเอี่ยน

 

ขออนุโมทนา สาธุ ๆ
กับท่านทั้งหลายที่ได้ร่วมทำบุญสร้างกศลทุกอย่าง
ในกาลนี้ด้วยครับ
นิพพานัง ปัจจโย โหตุ
นิพพานัง ปรมัง สุขขัง<!-- google_ad_section_end --> <!-- / message --><!-- sig -->

 

รูปภาพ ที่ 1-2 เป็นภาพที่ชาวบ้านนำกองกฐินมาร่วมทอด และร่วมกันแห่กฐินรอบศาลาพระประธาน

รูปภาพ ที่ 3-4 เป็นภาพของกองกฐินทั่งหมดที่ตั้งบนศาลา

รูปภาพ ที่ 5 เป็นภาพพระประธานที่อยู่บนศาลาหลังเล็กนี้

รูปภาพ ที่ 6-7 เป็นภาพของชาวบ้าน และชาวกรุงที่ร่วมใจกันและช่วยกันถวายผ้าไตร

รูปภาพ ที่ 8 เป็นโรงทานทั้งของวัด และของผู้มีใจบุญใจกุศล นำมาเลี้ยงแขกและชาวบ้านที่มาร่วมทำบุญ

รูปภาพ ที่ 9 เป็นศาลาหลังเล็ก ที่ไว้พระพุทธรูปองค์ดำ

รูปภาพ ที่ 10 เป็นภาพที่ชาวบ้านผู้เฒ่าผู้แก่ผู้ใจบุญมาร่วมพร้อมใจกันทำบุญในครั้งนี้ และศาลาหลังนี้เป็นกฐินปีแรก ที่ขวัญนำกฐินามทอด ได้ศาลาที่เป็นต้นไม้ทั้งต้นที่ซื้อมาและเป็นหลังคามุงจาก ส่วนศาลาท่านเจ้าอาวาสและพระลูกวัดและชาวบ้านช่วยกันปลูก กฐิน ปีแรก ได้แค่เงินแสนกว่าบาท และได้เงินจากกฐินปี52 เปลี่ยนหลังคาศาลาเป็นกระเบื้อง และเพิ่มขนาดของศาลาให้ใหญ่ขึ้นอีกนิด

รูปภาพ ที่11 เป็นด้านหลังของศาลา ที่มีกุฎิพระหลังเล็กๆอยู่ในสวนป่า และจะเห็นพื้นดินซึ้งถมใหม่ และรอเงินจากกฐินปีนี้ ไปจ่ายเขา ส่วนเสาไฟต้องรอให้ดินแห้งก่อนจึงตั้งได้

เงินที่ได้จากกฐินปีนี้ได้ ทั้งหมด 475999 บาท ขวัญของอนุโทนาบุญกับทุกท่านด้วยนะค่ะ โดยเฉพาะผู้ใจบุญ ทั้ง 10 ท่าน ที่ได้ร่วมบุญ ขอขอบคุณมากคะทั้งผู้ที่อ่านและผู้ร่วมโมทนาบุญ

 

ขออนุโมนาบุญ........
กราบนมัสการ และขอเจริญพร...พระเถรานุเถระ,สหธรรมิกทุกๆท่าน และคุณโยมทั้งหลาย
ตามที่อาตมาได้ส่งข้อความ และ PM ไปบอกบุญนั้น เพราะเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์กระทู้ของข้าพเจ้าให้ได้ทราบถึงงานบุญที่ข้าพเจ้าและคณะจะทำการบูรณะปฏิสังขรณ์เสนาสนะวัดบางใหญ่ทั้งหมดทั้งวัด เช่น พระอุโบสถ,ศาลาการเปรียญ,ศาลาโรงฉัน,กุฏิใหญ่สร้างด้วยไม้เก่าทั้งหลัง(สมัย พ.ศ.2482),กุฏิอดีตเจ้าอาวาส (ปัจจุบันใช้เป็นสถานที่รับสังฆทานและพิธีกรรมทางศาสนาเล็กๆ และใช้เป็นกุฏิรับรอง,หมู่กุฏิสงฆ์,ศาลาบำเพ็ญกุศลศพ (มีเพียง 1 ศาลาเท่านั้นแต่จะทำการปรับปรุงใหม่และขยายเพิ่มเป็น 2 ศาลา),ศาลาริมน้ำ 2 หลัง(สร้างปี พ.ศ.2501)จะปรับปรุงเป็นศูนย์การเรียนรู้หรือห้องหนังสือธรรมะ 1 หลัง และอีก 1 หลัง จะปรับปรุงเป็น"พิพิธภัณฑ์ศิลปะท้องถิ่นคนในบาง"จะเน้นการเปลี่ยนหลังคาทุกหลังทั้งหมด ทาสีใหม่ทั้งหมด ติดฝ้าเพดานใหม่ทั้งหมด ซ่อมแซมส่วนที่ผุพัง และเพิ่มเติมส่วนที่สมควรเพิ่ม เพราะที่ผ่านมาข้าพเจ้าได้เรี่ยไรปัจจัยทำบุญจากญาติๆของข้าพเจ้าในการปูกระเบื้องกุฏิ 1 หลังและติดฝ้าเพดาน 1 หลังแล้ว ซึ่งทั้งนี้อย่างที่ข้าพเจ้าได้เกริ่นนำเรียนว่า ข้าพเจ้าไม่ได้เป็นคนพื้นเพตำบลลีเล็ดแห่งนี้ เพียงแต่คณะชาวบ้านได้ไปกราบนิมนต์ต่อเจ้าคณะอำเภอพุนพินเพื่อขอพระ 1 รูปมาอยู่ช่วยพัฒนาวัดกับท่านเจ้าอาวาส และเจ้าคณะอำเภอได้นำเรียนท่านเจ้าคณะจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งขณะนั้นข้าพเจ้าก็ได้จำพรรษาอยู่ ณ สำนักวัดเจ้าคณะจังหวัดสุราษฎร์ธานี และพระเดชพระคุณท่านจึงได้สอบถามกับข้าพเจ้าว่าจะมาอยู่ช่วย ณ วัดบางใหญ่ได้หรือไม่ ข้าพเจ้าจึงตอบตกลงว่า"ได้ครับ" เพราะข้าพเจ้าเล็งเห็นว่าการที่พระเดชพระคุณท่าน ได้เรียกมาไต่ถามถึงเพียงนี้แสดงว่าพระเดชพระคุณท่านไว้ใจในตัวข้าพเจ้าว่าจะสามารถมาอยู่ช่วยท่านเจ้าอาวาสวัดบางใหญ่พัฒนาวัดบางใหญ่ได้ไม่มากแต่ก็คงจะไม่น้อยจนเกินไป และพระเดชพระคุณท่านก็เล็งเห็นว่าข้าพเจ้าเรียนจบนักธรรมชั้นเอก,บาลีประโยค 1-2,และปริญญาตรี คณะพุทธศาสตร์ สาขาปรัชญา (เกียรตินิยมอันดับ 2) มจร. จึงได้รับการไว้วางใจจากพระเดชพระคุณท่าน เพราะจากที่ข้าพเจ้าได้สัมผัสด้วยตนเอง จากคณะสงฆ์และชาวบ้านบ้าง ได้ความว่าวัดแห่งนี้เคยเป็นวัดที่รุ่งเรืองสมัยอดีตท่านเจ้าอาวาส พระครูชลาทรธำรง และเคยรุ่งเรืองอีกครั้งสมัยที่พระครูวิลาศนวกิจ อดีตเจ้าคณะตำบลศรีวิชัย เป็นเจ้าอาวาส แต่เมื่ออดีตท่านเจ้าอาวาสมรณภาพลง วัดได้ว่างเจ้าอาวาส ทางคณะชาวบ้านจึงนิมนต์เจ้าอาวาสรูปปัจจุบันมาเป็นเจ้าอาวาสแทน แต่ท่านเจ้าอาวาสรูปปัจจุบันท่านเน้นของรางของขลัง จึงไม่นิยมการบูรณะพัฒนาวัด ระยะหลังๆ5-6 ปีที่ผ่านมาจึงมีพระจำพรรษาเพียง 1-2 รูปเท่านั้น แต่เมื่อปี 2552 ที่อาตมาได้รับนิมนต์ให้เข้ามาจำพรรษามีพระภิกษุ-สามเณร ถึง 8 รูป และข้าพเจ้าได้ทำโครงการบรรพชาสามเณรฤดูร้อน ปี 2552 ข้าพเจ้าได้ขอแรงผู้ใจบุญสนับสนุนจากคณะพระเถรานุเถระและญาติโยมจากเว็บพลังจิต จนได้รับการช่วยเหลือบริจาคสิ่งของต่างๆเข้าโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน จนสำเร็จลุล่วงด้วยดีซึ่งขณะนั้นข้าพเจ้าไม่ขอรับเป็นปัจจัยเพราะเกรงจะเป็นการไม่สมควร และในปี พ.ศ.2553 ได้มีพระภิกษุ-สามเณร จำพรรษา 12 รูป ข้าพเจ้าจึงได้ทำการปรับปรุงทัศนียภาพและบูรณะเสนาสนะตามอัตภาพไปแล้วบางส่วน ถ้าหากโครงการบูรณะเสนาสนะสำเร็จลุล่วงด้วยดี ต่อไปที่จำเป็นจะต้องทำอย่างเร่งด่วนมากๆ คือ การซ่อมแซมเพิ่มเติมตลิ่ง เพราะวัดบางใหญ่อยู่ติดกับแม่น้ำตาปี และคลองบางใหญ่ดังนั้นน้ำจะกัดเซาะตลิ่งอย่างเนืองๆ ทั้ง 2 ฝากฝั่งซึ่งการนี้จะต้องใช้กำลังกาย กำลังทรัพย์เป็นจำนวนมาก ซึ่งจะบอกบุญในโอกาสต่อไป...และที่ข้าพเจ้าได้เกริ่นมาซะยาวยืดเพราะอยากจะเล่าและอธิบายให้พระเถรานุเถระและคณะคุณโยมทั้งหลายได้รับทราบว่าอันที่จริงวัดบางใหญ่แห่งนี้มีความลำบากมาก เพราะเสนาสนะมีอยู่ไม่กี่หลัง แต่ก็ผุพังเป็นอย่างมากแล้วตามกาลเวลาที่ใช้งานและไม่ไดรับการบูรณะมาก่อนเลย ถ้าหากไม่รีบเร่งในการบูรณะปรับปรุงเกรงว่าจะไม่ทันการณ์ ศาสนสถานคงจะผุพังไปตามกาลเวลาอันรวดเร็ว และที่ข้าพเจ้าได้ส่งข้อความ และ PM ไปนั้นข้าพเจ้าก็คิดว่าคงจะเป็นการรบกวนพระเถรานุเถระและคณะคุณโยมทั้งหลาย แต่ข้าพเจ้ามีคิดเห็นส่วนตัวว่าหากไม่ทำเช่นนี้แล้ว ทางพระเถรานุเถระและคุณโยมทั้งหลายคงจะไม่ทราบว่ามีวัดบางใหญ่แห่งนี้ที่รอการบูรณะปรับปรุง ศาสนสถานเก่าๆ ให้กลับมาใหม่เช่นเดิม เพราะวัดแห่งนี้ไม่มีศาสนสถานที่ปลูกสร้างมาใหม่เลย มีแต่ของเก่าๆผุพังทั้งนั้น และด้วยยิ่งข้าพเจ้าเป็นพระที่มีอายุน้อย (26ปี) พรรษาน้อย (พรรษา5) จึงทำให้โดนเพ็งเล็งว่าจะสามารถทำการบูรณะเสนาสนะและทำโครงการฯใหญ่ได้สำเร็จลุล่วงหรือไม่ ข้าพเจ้าจึงขอฝากประชาสัมพันธ์และบอกบุญพระเถรานุเถระและคุณโยมทั้งหลาย มาด้วยประการฉะนี้.........

ข้าพเจ้าขอฝากกระทู้..."ร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่า1,000กองกองละ500บาทเพื่อบูรณะเสนาสนะ วัดบางใหญ่ จ.สุราษฎร์ธานี"

ตาม link : http://palungjit.org/threads/ร�...��.268183/

ขอขอบพระคุณ และขอเจริญพร พร้อมกับอนุโมทนาทุกๆท่าน
พระปลัดวิษณุ ฐานธมฺโม
เลขานุการ เจ้าอาวาสวัดบางใหญ่
ผู้ดำเนินงานโครงการฯ<!-- google_ad_section_end -->