<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headnews vAlign=top> </TD></TR><TR><TD vAlign=top height=4></TD></TR><TR><TD class=dessubmmenu1><CENTER></CENTER>
ในขณะที่จำนวนภิกษุสงฆ์ลดลงจาก ๓ แสนรูป เหลือเพียง ๑.๘ แสนรูป มิหนำซ้ำยังมีข่าวว่าวัด ๒.๕ หมื่นแห่งทั่วประเทศนั้นร้างไปถึง ๖,๐๐๐ แห่ง โอกาสในการที่ผู้หญิงจะเข้ามาเสริมพระศาสนาจึงมีอยู่อย่างแท้จริง
ภิกษุณีสงฆ์ ซึ่งเป็นคณะสงฆ์ใหม่ อาจจะเรียกว่าเป็นคณะสงฆ์ทางเลือก ที่จะให้ญาติโยมที่สูญเสียศรัทธาไปกับภิกษุสงฆ์ ได้รื้อฟื้นศรัทธากลับมาเข้าวัด ฟังธรรมปฏิบัติธรรม เพื่อคลายทุกข์ตนเอง จึงเป็นทางเลือกที่มีความเป็นไปได้สูงมาก
อย่างไรก็ตาม แม้การบรรพชาของฝ่ายสตรีในสายเถรวาทเกิดขึ้นครั้งแรกใน พ.ศ.๒๕๔๔ ก็จริง แต่นับถึงวันนี้ เราได้พบปรากฏการณ์ที่น่าสนใจเกินกว่าที่จะหันหลังให้อีกต่อไป
<CENTER></CENTER>
ในสายเถรวาทที่ประเทศศรีลังกานั้น มีภิกษุณีถึง ๔๐๐ รูปแล้ว การเติบโตอย่างรวดเร็วที่ศรีลังกามีปัจจัยหลายประการ แต่ที่แน่ๆ ก็คือพระผู้ใหญ่ระดับสมเด็จ ซึ่งศรีลังกาเรียกว่า มหานายก ท่านเป็นประธานในการอุปสมบทให้เอง นับตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๔๑ เป็นต้นมา และ พ.ศ.๒๕๕๑ นี้ ประเทศไทยมีภิกษุณีกว่า ๑๐ รูป สามเณรีร่วม ๓๐ รูป
จำนวนภิกษุณีและสามเณรีที่เพิมขึ้น นับว่าเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ธรรมดา ทั้งที่ผู้หญิงที่บวชเหล่านี้ ไม่ว่าจะบวชเป็นแม่ชี หรือสามเณรี ภิกษุณี ล้วนไม่มีสถานภาพนักบวชทั้งสิ้น ตามมาตรฐานของรัฐบาลไทย ทุกรูปยังอยู่ในสถานะเป็นอุบาสิกา
การออกบวชทั้งๆ ที่ไม่มีสถานภาพรองรับนี้ เรียกว่าไม่ได้เข้ามาเพื่อหวังประโยชน์จากการบวชโดยสิ้นเชิง เพียงแต่ทำด้วยแรงศรัทธาที่จะเข้ามารับใช้พระศาสนา และด้วยความเคารพในพระพุทธองค์ที่ทรงเป็นผู้ประดิษฐานพุทธบริษัททั้งสี่เอาไว้ นั่นคือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา
<CENTER></CENTER>
สถานที่ที่ภิกษุณีเหล่านี้อยู่ก็มิได้เป็นวัดในความหมายของคณะสงฆ์ไทย เพราะตราบเท่าที่ไม่มีการยอมรับสถานภาพของภิกษุณี วัดของภิกษุณีก็ไม่ได้รับการยอมรับเช่นกัน
จุดกำเนิดภิกษุณีแห่งแรกในประเทศไทย คือที่ วัตรทรงธรรมกัลยาณี ริมถนนเพชรเกษม ต.พระประโทน อ.เมือง จ.นครปฐม โดย รศ.ดร.ฉัตรสุมาลย์ กบิลสิงห์ ในขณะนั้นออกบวชเป็นสามเณรีที่ประเทศศรีลังกาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๔๔ ใช้ฉายาว่า "ธัมมนันทา"
ต่อมาอุปสมบทเป็นภิกษุณีเดือนเดียวกัน คือ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๖ ต่อมาหลังจากเป็นภิกษุณีแล้ว ท่านนิมนต์พระภิกษุณีผู้เป็นอุปัชฌาย์และคณะภิกษุณีสงฆ์รวม ๖ รูป มาจำพรรษาอยู่ด้วยทั้งในพรรษาปี ๒๕๔๖ และ ๒๕๔๗
เพื่อตอบสนองพระธรรมวินัยที่ระบุว่าภิกษุณีบวชใหม่ควรอยู่กับพระอุปัชฌาย์อย่างน้อย ๒ ปี (สำหรับพระภิกษุ ๕ ปี) นับเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยมีการสวดภิกษุณีปาฏิโมกข์ ๒ พรรษาติดต่อกัน
จุดเด่นของวัตรนี้ คือบรรยากาศในการเป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้พระพุทธศาสนานานาชาติ ทั้งนี้ ท่านธัมมนันทานั้นดั้งเดิมเป็นอาจารย์สตรี ที่จบทางศาสนาเป็นคนแรกในประเทศไทย มีชั่วโมงบินในวงการพุทธศาสนานานาชาติมากว่า ๓ ทศวรรษ
ท่านจึงเน้นการสอนพุทธศาสนาแก่กลุ่มนานาชาติ ในช่วงเข้าพรรษามีหลักสูตรพุทธศาสนาเข้มข้น ๗ วัน ในแต่ละเดือน ตลอดพรรษา อบรมธรรมวินัยให้แก่สตรีที่สนใจมาอยู่ในช่วงเข้าพรรษาด้วยกัน เป็นต้น
ปัจจุบันนับว่า ภิกษุณีธัมมนันทา เป็นภิกษุณีที่มีพรรษาอาวุโสที่สุดในบรรดาภิกษุณีสายเถรวาทที่อุบัติขึ้นในประวัติศาสตร์พุทธศาสนาในประเทศไทยในสหัสวรรษนี้
ภิกษุณีธัมมนันทา บอกว่า เดิมทีนั้นคนอาจจะเข้าใจว่าวัตรทรงธรรมกัลยาณีเป็นวัดแห่งเดียวที่มีภิกษุณี แต่ปัจจุบันกลับกลายเป็นว่ามีทั้งวัดและสถานปฏิบัติธรรมหลายแห่งมีภิกษุณี และมากกว่าที่วัตรทรงธรรมด้วยซ้ำ
โดยเฉพาะ สำนักปฏิบัติธรรม นิโรธาราม อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ซึ่งมี ภิกษุณีนันทญาณี (รุ้งเดือน) อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยที่เชียงใหม่ เป็นเจ้าสำนัก
ที่สำคัญคือพระภิกษุสงฆ์ที่เป็นพระผู้ใหญ่ระดับเจ้าคณะจังหวัดสนับสนุนดูแลภิกษุณีสงฆ์เป็นอย่างดี
ในครั้งแรกกลุ่มของท่านก็ได้สามเณรีอย่างน้อย ๑๓ รูป ในปี ๒๕๔๙ โดยการเดินทางไปบรรพชาที่ศรีลังกา ครั้นอีกสองปีต่อมาท่านก็กลับไปอุปสมบทเป็นภิกษุณี คราวนี้ที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมของมีภิกษุณี ๕ รูป สามเณรี ๑๙ รูป
นับเป็น คณะภิกษุณีสงฆ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พรรษานี้เป็นพรรษาแรกที่จะมีการสวดภิกษุณีปาฏิโมกข์ที่ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ โดย ภิกษุณีนันทญาณี นิมนต์อาจารย์ภิกษุณีจากศรีลังกามาอบรมในด้านพระวินัยให้ โดยมี พระภิกษุณีสุเปชลา ชาวศรีลังกาเป็นล่าม
ขณะเดียวกันที่ จ.สมุทรสาคร เป็นอีกจุดหนึ่งที่มีเทียนดวงน้อยๆ ในภิกษุณีสงฆ์เกิดขึ้น ท่านพูนสิริวรา เป็นสตรีไทยที่ไปบวชที่ศรีลังกาเช่นกัน ทั้งในระดับสามเณรีและภิกษุณี
ในชีวิตช่วงแรกของท่านพูนสิริวราอยู่ที่สหรัฐอเมริกา จึงเป็นภิกษุณีชาวไทยอีกรูปหนึ่งที่ใช้ภาษาอังกฤษได้ดี เมื่อเดือนเมษายน ๒๕๕๑ มีการบรรพชาสามเณรีที่สำนักของท่านที่ จ.สมุทรสาคร ท่านพูนสิริวราเคยให้สัมภาษณ์บางกอกโพสต์ไปเมื่อเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๑ เช่นกัน ติดต่อเยี่ยมเยียนท่านได้ที่ bhikkhunipoonsirivara@gmail.com
นอกจากนี้แล้วใน จ.ปทุมธานี มีสามเณรี ๒ รูป ที่ไปบวชมาจากศรีลังกาในสายดัมบุลละ รูปหนึ่งคือ ท่านธัมมวิชชานี เดิมเป็นสถาปนิก จบการศึกษาระดับปริญญาโทจากอเมริกา ท่านอยู่ที่วัดบางปลากด รังสิต-นครนายก คลอง ๑๔ จ.ปทุมธานี
ที่ จ.ระยอง ก็มีข่าวดีว่า ภิกษุณีรัตนาวลี อุปสมบทที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับถวายที่ดิน ๙ ไร่ เพื่อจัดเป็น ศูนย์ปฏิบัติธรรมนานาชาติ ที่ จ.ยโสธร ก็มี ภิกษุณีธัมมมิตตา อยู่ที่วัดนาแสบง ทุ่งนางโอก
ในขณะที่ มหาวิทยาลัยนานาชาติ ที่ หาดใหญ่ ก็มีภิกษุณีชาวไทยศึกษาระดับปริญญาโทที่นั่น ในประเทศศรีลังกาก็ยังมีภิกษุณีชาวไทยที่ยังศึกษาในระดับปริญญาโทเช่นกัน บางรูปก็กลับไปอยู่กับพระอุปัชฌาย์เพื่อรับการฝึกฝนอบรมให้สมบูรณ์แบบ ก่อนที่จะกลับประเทศไทย
"ในสายการบวชภิกษุณีที่ดัมบุลละ ซึ่งเป็นสายสยามวงศ์นั้น การอุปสมบทจะยากกว่าที่อื่น เพราะจะต้องผ่านการสอบด้วย ปี ๒๕๕๐ มีสามเณรีไทยสอบไม่ผ่าน ต้องรอจนปีรุ่งขึ้น สามเณรีไทยที่รอการบวชสายดัมบุลละมักจะเลือกใช้เวลาสองปี ขณะเป็นสามเณรีเพื่อศึกษาเล่าเรียนที่ศรีลังกา เป็นการเตรียมความพร้อมในการอุปสมบทนั่นเอง ในขณะที่การบวชของสตรีไม่ว่าจะเป็นระดับสามเณรี หรือภิกษุณี จะเห็นว่าเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ด้วยความศรัทธา ด้วยความมุ่งมั่น ต่างคนต่างเดินทางไปบวชที่ศรีลังกา ตามสายที่ตนสามารถทำได้ ไม่มีเอกภาพ กล่าวคือไม่มีผู้ใดผู้หนึ่งเป็นผู้รับผิดชอบ ปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยหลังจากอุปสมบทกลับมาแล้ว ดูจะเป็นอุปสรรคปัจจัยสำคัญ เพราะวัดทั่วไปไม่ยอมรับให้ภิกษุณีอาศัย ด้วยเกรงอำนาจจากคณะสงฆ์" ภิกษุณีธัมมนันทา กล่าว"ไตรเทพ ไกรงู"</TD></TR></TBODY></TABLE>
ภิกษุสงฆ์ลด ภิกษุณีเพิ่ม ปรากฏการณ์ที่สวนทางในพุทธศาสนา
ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย คนมีกิเลส, 29 กรกฎาคม 2008.
หน้า 1 ของ 4
-
อื่ม...! น่าคิด
แม้ว่าพระสงฆ์ในประเทศไทยลดลงก็จริง แต่ในประเทศตะวันตกและที่อื่นๆจำนวนกลับเพิ่มขึ้น โดยภาพรวมยังงัยก็อยู่ได้ ๕,๐๐๐ ปีแน่ ผมเชื่ออย่างนั้นครับ -
เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ
อนาคตในประเทศไทยไม่รู้จะมีการบวชภิกษุณีหรือเปล่า
. -
อะไร จะเป็นไป ก็ ปล่อยให้เป็นเช่นนั้นเถิด
ขอเพียง แต่ตัวเราเอง อย่าทิ้งการกระทำความดี แล้ว หันไปหาความชั่ว แทนก็แล้วกัน สาธุ -
อนุโมทนาสาธุค่ะ......เราก็อยากบวชเป็นภิกษุณีค่ะ....ถ้าเชื่อแม่รุ้งตั้งแต่แรก....ก็คงจะมีความสุขมากกว่านี้ค่ะ.....
-
ภิกษุสงฆ์ลด ภิกษุณีเพิ่ม ปรากฏการณ์ที่สวนทางในพุทธศาสนา
<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message --><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headnews vAlign=top></TD></TR><TR><TD vAlign=top height=4></TD></TR><TR><TD class=dessubmmenu1><CENTER></CENTER>
ในขณะที่จำนวนภิกษุสงฆ์ลดลงจาก ๓ แสนรูป เหลือเพียง ๑.๘ แสนรูป มิหนำซ้ำยังมีข่าวว่าวัด ๒.๕ หมื่นแห่งทั่วประเทศนั้นร้างไปถึง ๖,๐๐๐ แห่ง
</TD></TR></TBODY></TABLE>
โอ..ถือเป็นตัวเลข ที่น่าเป็นห่วง สำหรับพุทธศาสนา ในบ้านเรานะครับ ฆราวาสอย่างเรา ๆ ควรช่วยกันสืบทอดพระศาสนาในทุก ๆ ด้านครับ..
อนุโมทนาท่านเจ้าของกระทู้สำหรับข่าวคราวดีๆ ..สาธุ
-------------------------------------------------------
สุโข ปุญฺญสฺส อุจฺจโย
ความสั่งสมบุญนำสุขมาให้
(ขุททกนิกาย ธรรมบท)
ขอความเจริญในธรรมจงมีแด่ทุกท่านครับ..สาธุ -
>>>>> พระเครื่อง <<<<<
>>>>> เครื่องรางของขลัง <<<<<
>>>>> พระขุนแผน <<<<< -
เคยได้ยินมาว่า ในนิกายเถระวาท มีกล่าวกันว่า ผู้หญิง ไม่สามารถสำเร็จ อรหันต์ ได้ ไม่ทราบว่า เท็จจริงเป็นประการใด ขอถามท่านผู้รู้ ช่วยตอบคำถามให้สักนิดเถอะครับ แต่โดยส่วนตัวของผมแล้ว ผมคิดว่า ไม่ว่าจะเป็นเพศใด ๆ ก็ตาม ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ปฏิบัติธรรม ล้วนแล้วแต่สามารถสำเร็จอรหันต์ ได้ด้วยกันทุกผู้ทุกคน.....สาธุ
-
ขออนุโมทนา...กับการสั่งสมบุญบารมีเพื่อความหลุดพ้นของทุกท่านด้วยค่ะ...สาธุ...
;aa9 -
อยากรู้ว่าสถิติชาวเว็บพลังจิต ผู้หญิงมากกว่าผู้ชายป่าว
-
โสภา จาเรือน เป็นที่รู้จักกันดี
อนุโมทนาสาธุบุญ
<O:p
นรชนควรสละทรัพย์เพื่อรักษา อวัยวะ<O:p</O:p
นรชนควรสละอวัยวะเพื่อรักษา ชีวิต<O:p</O:p
นรชนควรสละทรัพย์ อวัยวะ ชีวิต เพื่อรักษา ธรรม<O:p</O:p -
ผู้ที่บวชเป็นภิกษุณีรุ่นแรกๆ
คงต้องฝ่าอุปสรรคนานัปการเลยนะคะ
ต้องยอมรับว่า ท่านๆ ต้องมีจิตใจมั่นคง แน่วแน่ ตัดแล้วซึ่งกิเลสได้จริงๆ
แถมยังเป็นผู้ที่มีพื้นฐานความรู้ ความเข้าใจในพระธรรมอย่างลึกซึ้งซะด้วย
อนุโมทนา..สาธุการค่ะ -
-
อยากรู้เหมือนกันค่ะ ว่าสมาชิกเวปพลังจิต ชาย/หญิง มากกว่ากัน -
เคยแวะเข้าไปถวายเทียนพรรษา ที่สำนักปฎิบัติธรรม ที่ท่านแยกออกมาที่ทางเข้าเขื่อนแม่กวง อ.ดอยสะเก็ด ค่ะ มีแม่ชี และภิกษุณีด้วยท่านออกมาพูดคุยด้วยยังคิดว่า จะหาเวลาไปปฎิบัติธรรมกับแม่ชีท่านเลยค่ะ -
ทำไมประเทศไทยไม่สามารถบวชภิกษุณีได้เองครับ เพราะอะไร มีเหตุปัจจัยอะไรมาเกี่ยวข้องหรือครับ ผมว่าไม่ว่าจะเพศไหนก็สำเร็จอรหัตได้นะ น่าจะไม่มีการกีดกั้น
-
ได้เคยฟังธรรม จากท่าน สมัยท่านเป็นแม่ชี
จากนั้นท่านก็ไปบวชเป็นสามเณรี ปัจจุบันเป็นภิกษุณีแล้ว
ท่านแสดงพระอภิธรรมเก่งมาก
เรื่อง ดิน น้ำ ไฟ ลม
เรื่อง รูป รส กลิ่น เสียง
เรื่อง จิต
เรื่อง เจตสิก
เรื่อง ความหลง เพลิดเพลิน ชอบมาก (ท่านชอบพูด)
เสียงท่าน ลีลาเทศน์ท่าน ดีมาก เก่ง
ได้ทุกระดับชั้น
ตอนเช้าๆ ลืมไปแล้วว่าวิทยุของเชียงใหม่ คลื่นไหน จะนำเสียงท่านมาเปิด
ตอนนี้ตื่นสายไม่ค่อยได้ฟังแล้ว
ฟังตอนนั้นยังไม่รู้หรอกว่านั่นเรียกว่าพระอภิธรรมจนได้มาศึกษาเพิ่มเติมจึงรู้ว่า
อ้อ นี่ที่เราเคยฟัง ไปดาวน์โหลดได้ครับที่
http://www.fungdham.com/sound/maecheeroong.html
ท่านเล่าว่าจะไปบวชเป็นภิกษุณีต้องไปบวชที่ศรีลังกา
เพราะที่ ประเทศไทยไม่มีกฎหมาย
การที่ท่านไปบวช นั้น ท่านได้เข้าปรึกษากับท่าน พระพุทธพจนวราภรณ์
ที่เพิ่งมรณภาพไปนี้ แล้วว่า อย่างท่าน จะมีคุณสมบัติได้หรือไม่
หลวงปู่จันทร์ พระพุทธพจนวราภรณ์ ท่านก็ไม่ขัดข้อง
แต่ต้องไปบวชสามเณรี ก่อน จึงบวชเป็นภิกษุณีได้
กราบอาจารย์ มา ณ ที่นี้ด้วยครับ -
ในครั้งพุทธกาล มีพระภิกษุณีที่เป็นพระอรหันต์จำนวนนับไม่ถ้วน ค้นหาได้ในพระไตรปิฎก และภิกษุณีพระอรหันต์ที่มีฤธิ์มากคือพระน้านาง (เป็นพระน้าและแม่นมของเจ้าชายสิททัตถะขณะยังทรงพระเยาว์) ภิกษุณีประชาบดีโคตมี และภิกษุณีอุบลวรรณา ตอนที่พระภิกษุณีประชาบดีท่านไปลาพระพุทธเจ้าเพื่อนิพพาน(ละสังขาร) พระพุทเจ้าขอให้ท่านแสดงอิทธิปาติหารชนิดที่สุดจะหาดูที่ไหนได้ ย้ายภูเขาเป็นลูก ๆ ท่านต้องการให้ท่านแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงที่เป็นภิกษุณีเมื่อบรรลุธรรมแล้วมีคุณวิเศษได้เหมือนกัน
แม่ชีศีล 8 ของไทยเรา ที่เป็นพระอรหันต์มีให้ประจักหลายท่าน
ฆารวาสศีล 8 ก็มีที่เป็นพระอรหันต์ -
ศีลของภิกษุณีมี ๓๑๑ ข้อ เป็นของภิกษุณีแท้ ๆ ๑๓๐ ข้อ ส่วนอีก ๑๘๑ ข้อ นำมาจากศีล ๒๒๗ ข้อของภิกษุ
ต้องยอมรับความอดทนของท่านนะ การครองศีลมาก ๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ท่านก็เลือกที่จะปฏิบัติ แสดงว่าจิตใจท่านเหล่านั้น ถึงแม้จะเป็นผู้หญิง ก็ถือว่าไม่ธรรมดาเลย
อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ -
ภิกษุสงฆ์ลด ภิกษุณีเพิ่ม
น่าจะยอมรับมานานแล้ว พุทธศาสนาจะดำรงอยู่ได้ก็ต้องมาจากพุทธบริษัท๔ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ในไทยมีแค่๓มานาน ภิกษุเลยชักจะหลงตัวเอง ถ้าเกิดมีภิกษุณีจะมีตัวเปรียบเทียบระวังเถอะพวกคนห่มเหลืองจะไม่มีคนใส่บาตร พุทธศาสนาจะได้มั่นคงกว่าปัจจุบัณ สาธุ สาธุ
หน้า 1 ของ 4