มจร จัดประชาพิจารณ์ทั่วประเทศ ครั้งใหญ่ (ร่าง) แผนพัฒนามหาวิทยาลัยฯ ระยะที่ 13

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย โพธิสัตว์ ชาวพุทธ, 7 มีนาคม 2022.

  1. โพธิสัตว์ ชาวพุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    5,319
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,274
    ค่าพลัง:
    +9,590


    พระเมธีธรรมาจารย์ (เจ้าคุณประสาร) รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในฐานะประธานคณะทำงานยกร่างแผนพัฒนามหาวิทยาลัยฯระยะที่ 13 เผยว่า ในวันที่ 7-10 มีนาคมนี้ คณะทำงานยกร่างแผนพัฒนามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้กำหนดจัดประชาพิจารณ์ (ร่าง) แผนพัฒนามหาวิทยาลัยฯ ระยะที่ 13 ทั่วประเทศผ่านระบบ ซูม ออนไลน์ โดยกำหนดดังนี้

    7 มี.ค. มจร โซนภาคใต้

    8 มี.ค. มจร โซนภาคเหนือ

    9 มี.ค. มจร โซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

    10 มี.ค.มจร โซนภาคกลาง

    มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้ดำเนินการ จัดทำแผนพัฒนามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ระยะที่ 13 ตามพันธกิจ ยุทธศาสตร์ เป้าประสงค์ของมหาวิทยาลัยฯ ซึ่งก็เป็นไปตามการจัดกลุ่มมหาวิทยาลัย กลุ่มที่ 4 คือกลุ่มพัฒนาปัญญาและคุณธรรมด้วยหลักศาสนา

    พระเมธีธรรมาจารย์ กล่าวว่า คณะทำงาน ได้ดำเนินการระดมความคิดภายใต้หลักการ engaged Buddhist university ประกอบด้วย 1. บริการวิชาการทุกรูปแบบ สร้างหลักสูตรระยะสั้น ระยะยาว เหมาะแก่การเรียนรู้แต่ละวัยจากประชาคม 2. สร้างนวัตกรรมเพื่อแก้ปัญหา พัฒนาจิตใจและสังคม 3. สร้างสาธารณประโยชน์ อยู่ดีมีสุขรับผิดชอบต่อสังคม และรวมทั้งแนวคิด 13 หมุดหมายพลิกโฉมประเทศไทยเป็นองค์ประกอบในการจัดทำแผนในครั้งนี้

    ในการประชาพิจารณ์ในครั้งนี้ เริ่มต้นจากการระดมความคิดเห็น จาก ทุกภาคส่วนของมหาวิทยาลัย ประกอบด้วย

    ครั้งที่ 1 ส่วนงานภาคเหนือ ระหว่างวันที่ 14-17 มีนาคม 2564 ณ วิทยาลัยสงฆ์นครน่านเฉลิมพระเกียรติฯ โดยมีส่วนงานที่เข้าร่วมจำนวน 9 ส่วนงาน ได้แก่ วิทยาเขตเชียงใหม่ วิทยาเขตแพร่ วิทยาเขตพะเยา วิทยาลัยสงฆ์พุทธชินราช วิทยาลัยสงฆ์ลำพูน วิทยาลัยสงฆ์เชียงราย วิทยาลัยสงฆ์ลำปาง วิทยาลัยสงฆ์นครน่านเฉลิมพระเกียรติ วิทยาลัยสงฆ์พ่อขุนผาเมือง

    ครั้งที่ 2 ส่วนงาน ส่วนกลาง ภาคกลาง ภาคใต้ ระหว่างวันที่ 30-31 มีนาคม และวันที่ 1 เมษายน 2564 ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย โดยมีส่วนงานที่เข้าร่วมจำนวน 15 ส่วนงาน ได้แก่ ส่วนกลาง วิทยาเขตบาฬีศึกษาพุทธโฆส วิทยาเขตนครศรีธรรมราช วิทยาเขตนครสวรรค์ วิทยาลัยสงฆ์พุทธโสธร วิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี วิทยาลัยสงฆ์ราชบุรี วิทยาลัยสงฆ์ปัตตานี วิทยาลัยสงฆ์สุราษฏร์ธานี วิทยาลัยสงฆ์สุพรรณบุรีศรีสุวรรณภูมิ วิทยาลัยสงฆ์ระยอง วิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์ วิทยาลัยสงฆ์พิจิตร วิทยาลัยสงฆ์เพชรบุรี วิทยาลัยสงฆ์ชลบุรี

    ครั้งที่ 3 ส่วนงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ วิทยาเขตขอนแก่น ระหว่างวันที่ 7-9 เมษายน 2564 โดยมีส่วนงานที่เข้าร่วมจำนวน 12 ส่วนงาน ได้แก่ วิทยาเขตหนองคาย วิทยาเขตขอนแก่น วิทยาเขตนครราชสีมา วิทยาเขตอุบลราชธานี วิทยาเขตสุรินทร์ วิทยาลัยสงฆ์เลย วิทยาลัยสงฆ์นครพนม วิทยาลัยสงฆ์บุรีรัมย์ วิทยาลัยสงฆ์ศรีสะเกษ วิทยาลัยสงฆ์ชัยภูมิ วิทยาลัยร้อยเอ็ด และวิทยาลัยสงฆ์มหาสารคาม


    หลังจากนั้นคณะทำงานฯ ได้ประชุมเพื่อทำการวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลจากการประชุมเชิงปฏิบัติการดังกล่าว ไม่น้อยกว่า 10 ครั้ง เมื่อได้ร่างแผนพัฒนาแล้ว ได้นำเสนอผู้บริหารระดับสูงของมหาวิทยาลัย รวมถึงผู้ทรงคุณวุฒิภายนอก จึงได้กำหนดยุทธศาสตร์ เป้าประสงค์ ตัวชี้วัด และกลยุทธ์ เพื่อให้สามารถนำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จตามวิสัยทัศน์ที่ได้กำหนดไว้ จำนวนทั้งสิ้น 5 ประเด็นยุทธศาสตร์ 17 เป้าประสงค์ 32 ตัวชี้วัด 29 กลยุทธ์ โดยมีรายละเอียดดังนี้

    วิสัยทัศน์

    “มหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาที่สร้างพุทธนวัตกรรมเพื่อพัฒนาจิตใจและสังคม”

    Buddhist university with Buddhist innovation for mental and social development


    ประเด็นยุทธศาสตร์ 5 ประเด็น

    ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 1 การพัฒนาบัณฑิตให้มีคุณภาพและคุณธรรม ประกอบด้วย 4 เป้าประสงค์ 16 ตัวชี้วัด 11 กลยุทธ์

    ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 2 พัฒนางานวิจัยหรือสร้างพุทธนวัตกรรมให้มีคุณภาพทั้งในระดับชาติและนานาชาติ ประกอบด้วย 4เป้าประสงค์ 9 ตัวชี้วัด 7 กลยุทธ์

    ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 3 เป็นศูนย์กลางการบริการวิชาการด้านพระพุทธศาสนาและปรัชญาเพื่อสร้างชุมชนและสังคมสันติสุข ประกอบด้วย 2 เป้าประสงค์ 4 ตัวชี้วัด 4 กลยุทธ์

    ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 4 อนุรักษ์ สืบสาน ส่งเสริมและพัฒนาศิลปะวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างยั่งยืน ประกอบด้วย 2 เป้าประสงค์ 2 ตัวชี้วัด 2 กลยุทธ์

    ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 5 การพัฒนาระบบการบริหารจัดการองค์กรเชิงพุทธบูรณาการ ประกอบด้วย 2 เป้าประสงค์ 5 ตัวชี้วัด 5 กลยุทธ์

    พระเมธีธรรมาจารย์ กล่าวในตอนท้ายว่า การประชาพิจารณ์ในครั้งนี้ เป็นการประชาพิจารณ์ (ร่าง) แผนพัฒนาระยะที่ 23 เพื่อให้เกิดความรอบคอบ สมบูรณ์และให้ทุกองคาพยพมีส่วนร่วม ซึ่งจะนำไปสู่ภาคปฏิบัติและบรรลุผลได้อย่างแท้จริง และแผนพัฒนามหาวิทยาลัยนั้นจะต้องอยู่บนพื้นฐานของการมีส่วนร่วม คือร่วมคิด ร่วมทำ เข้าใจและตรงกับบริบทที่แท้จริงของมหาวิทยาลัย ไม่ใช่เขียนไว้สวยงาม เลิศหรูแต่ยากต่อการปฎิบัติ ไม่บรรลุผล จากนี้ไปก็จะนำแผนพัฒนาฯดังกล่าวเสนอสภามหาวิทยาลัยเพื่อขออนุมัติและประกาศใช้ต่อไป

    ขอขอบคุณที่มา
    https://www.matichon.co.th/education/religious-cultural/news_3220773
     

แชร์หน้านี้