มติพุทธโลกเสนอไทยเป็นศูนย์กลางแพร่ความรู้-สร้างสัมพันธ์นานาชาติ

​

มติพุทธโลกเสนอไทยเป็นศูนย์กลาง

แพร่ความรู้-สร้างสัมพันธ์นานาชาติ
​

นายพัลลภ ไทยอารี เลขาธิการองค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก (พ.ส.ล.) ให้สัมภาษณ์สรุปผลการประชุมใหญ่สามัญองค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก ครั้งที่ 23 ในหัวข้อเรื่อง "ขันติธรรมในพระพุทธศาสนา เพื่อสันติสุขของโลก" ที่วัดโฝวกวงซัน เมืองเกาสง เกาะไต้หวัน ระหว่างวันที่ 20-22 เมษายนที่ผ่านมาว่า สมาชิก 3 องค์กรภาคี ประกอบด้วย พ.ส.ล. องค์การยุวพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก (ย.พ.ส.ล.) และมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาแห่งโลก (มพล.) จากทั่วโลกได้เข้าร่วมประชุมเพื่อหาแนวทางการพัฒนาพระพุทธศาสนา 3 ประเด็นหลัก ได้แก่


1.หาแนวทางให้พ.ส.ล.ทำหน้าที่เชื่อมความสัมพันธ์องค์กรเครือข่ายพุทธศาสนาทั่วโลกให้มีความเข้มแข็ง โดยให้แต่ละประเทศสามารถนำแนวทางต่างๆ ไปปฏิบัติในประเทศของตนเองได้


2.ให้ ย.พ.ส.ล.เป็นผู้ขับเคลื่อนเรื่องการปลูกฝังเยาวชนให้เข้าใจและสามารถนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาไปปฏิบัติได้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งหากเยาวชนรู้จักแก้ปัญหาของตนเองแล้วการแก้ปัญหาอื่นๆ ก็จะง่ายขึ้น โดยเฉพาะการทำให้โลกมีเอกภาพ และ

3.ทำให้ มพล.เป็นองค์กรหลักในการสร้างองค์ความรู้ให้กับพระพุทธศาสนา โดยให้การศึกษากับพระสงฆ์ทุกนิกาย ทั้งมหายาน เถรวาท และวัชรยาน

นายพัลลภกล่าวต่อว่า ในที่ประชุมใหญ่ได้มีมติเห็นชอบร่วมกัน 3 ประการที่จะพัฒนาพุทธศาสนาให้เจริญก้าวหน้า คือ



1.ให้พุทธมณฑล จ.นครปฐม ของประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางพระพุทธศาสนาของโลก เนื่องจากมีพื้นที่กว้างขวางเอื้อต่อการพัฒนาให้พระพุทธศาสนาก้าวหน้าได้ ทั้งด้านความรู้และการสร้างความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ ทั่วโลก ที่สำคัญประเทศไทยมีประชากรนับถือพุทธศาสนามากถึง 90 เปอร์เซ็นต์ และยังมีประวัติศาสตร์ทางพระพุทธศาสนาที่ยาวนาน จึงทำให้มีข้อมูลพื้นฐานทางศาสนาที่มั่นคง จึงเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะเป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนาโลก


2.ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการสร้างความสัมพันธ์ สร้างความมีเอกภาพ สร้างความเข้าใจ และภราดรภาพระหว่างชาวพุทธด้วยกัน โดยใช้ระบบอินเตอร์เน็ตเป็นสื่อกลางในการเชื่อมความสัมพันธ์ จะทำให้เหล่าสมาชิกองค์กรภาคีมีความใกล้ชิดกันมากขึ้น โดยประเทศที่มีความพร้อมเรื่องเทคโนโลยีและงบประมาณต้องช่วยเหลือประเทศที่ด้อยกว่า


3.ใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาพัฒนาชีวิตประจำวัน โดยให้ประเทศสมาชิกร่วมกันพัฒนาทฤษฎีทางพระพุทธศาสนาสู่การปฏิบัติอย่างจริงจัง พร้อมทั้งสร้างเครื่องมือต่างๆ หรือจัดอบรมเชิงปฏิบัติการในรูปแบบกลุ่มพัฒนาสังคม ชุมชนในระดับโรงเรียน และมหาวิทยาลัย มุ่งเน้นให้ประชาชนอยู่ได้ท่ามกลางความเดือดร้อนวุ่นวาย


"สิ่งที่ผมเห็นในการประชุมครั้งนี้คือความเห็นที่แตกต่างหลากหลายจากผู้นำศาสนาพุทธ แต่ความแตกต่างเหล่านั้นไม่ได้นำไปสู่ความแตกแยก แต่เป็นการเรียนรู้ร่วมกัน โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้สมาชิกภาคีทั้งหมดได้ร่วมกันร่างเป็นธรรมนูญชุดใหม่ก่อนนำเสนอต่อคณะกรรมการบริหาร พ.ส.ล.เพื่อพิจารณาเห็นชอบ และนำเสนอต่อที่ประชุมใหญ่สามัญ พ.ส.ล.ครั้งที่ 24 ซึ่งจะจัดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น" เลขาธิการพ.ส.ล.กล่าว




ที่มา matichon.co.th