เรื่องเด่น มนุษย์ต่างดาวติดต่อเราหรือยัง-ควรบอกว่า เมื่อไหร่จะไป

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย chandayot, 18 เมษายน 2012.

  1. chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ไฟใต้‘ระรานทำกิน’ ‘ห้ามวันศุกร์’ เกมรุก? - แววแพ้? | เดลินิวส์

    “เรื่องนี้สะท้อนได้ 2 มุม!!”

    ...นี่เป็นมุมมองของ พ.อ.ดร.ธีรนันท์ นันทขว้าง ในฐานะนักวิชาการด้านความมั่นคง ต่อกรณี ’ห้ามวันศุกร์“ กรณีที่ขบวนการก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้นำเรื่องการ ห้ามประกอบกิจการงานต่าง ๆ ห้ามทำมาค้าขาย ในทุก ๆ วันศุกร์ มาข่มขู่ประชาชน และอีกนัยก็เป็นเครื่องมือสู้กับรัฐ

    ศุกร์ที่แล้วในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เงียบงัน

    มาถึงศุกร์นี้สถานการณ์เป็นเช่นไรก็ดังที่ทราบกัน...
     
  2. chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    1. นี่แน่น เจ้ามังกรน้อย101 เจ้ารู้หรือไม่ว่า อจเจษนะ สามรถเข้าญาณได้ในเสี้ยววินาที แค่ลมหายใจเข้า ญาณกก็เต็มเบ้าเต็มสูบแล้ว ต่างกับคนธรรมดาที่กว่าจะทำได้ ก็อีก 25,000ขั้นตอน "ครับ" "แล้วเราจะเริ่มไงก่อนครับ"
    2. มันเป็นเรื่องของความบังเอิญหรือสถานการณ์กรรมเลวร้ายที่มาบีบอาจารย์ จึงก่อเกิดให้เราต่อต้านกับมันโดยอัคโนมัติ คือไม่เก่งก็ต้องเก่งให้ได้ พิษของไสยศาสตร์ ทำให้เราเจ็บปวดแทบขาดใจและมันร้ายแรงมาก จิตมันรู้ดี ไม่งั้นเราก็นอนเน่าตาย
    3. อิทธิฤทธิ์เกิดจากการบังคับลมปราณแลละสมาธิจิตทำงานร่วมกัน ในสมัยก่อน ครูบาอาจารย์โยคี ได้เขียนมาเป็นคัมภีร์ปรณัมของ ปรัชญาฝ่ายโยคะ(การเดินทาง สู่ภายใน ตามแนวทางของโยคะ)
    ---สวัสดีชาวนักสู้ผู้กล้าท้ากิเลส มาดูปฏิทิน อาทิคย์แรกแห่งเดือนตุลา
    อย่าไำด้พลาดงานวัดแมม่ นวราตรี กินเจเก้าวัน ที่วัดแขกสีลม
    เทศกาลชยทัศมิ หรือฉลองความมีชัยของเทพต่ออสูร ในความรู้วสึกของผู้เขียนยังมีแต่คสววามเร่าร้อน ศึกไฟใต้ ไม่ได้ดับโดยง่ายแน่ จากโลกทิพย์ ยังมีเสียงบอก ข"จงพร่ำบ่นแต่คพำว่า "พุทธงสรณังคัจฉามิ สิ่งใดเกิดได้ มันก็ย่อมดับได้เป็นธรรมดา น่าสงสารกี่ดวงวิญญาณต้องดับดิ้น ตายจากสภาพมนุษย์ เทพเองยังต้องทำสงคราม สันติภาพ เสรีภาพเอง ก็ก็เป็นสิ่งที่เทพแสวงหาเช้่นกัน" เสียงสวสวดชยันโตจากพระสงฆ่ เสียงระเบิด เสียงผู้คนหนีตายกันิื้อึง ยังมีอยู่คลอดในโลกทิพย์ยามนี้ ถ้าจะถามว่า ในภพนี้นะก็มีระเบิดด้วยหรือ "นักวงิทยาศสสตร์ ผู้เป็นมิจฉาทิษฐิ มันก็มีทุกภพทั่วไป เห็นง่ายอย่างเดียวกับกลไกในหนังเรื่องแมททริกซ์ โลกหน้าฉากกับหลังฉาก
    นั้นต่างงกันมาก แต่ส่งสารกันด้วยระบบแมททริกซ์ คือคณิตศาสตร์ที่ละเอียดอ่อน
     
  3. chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    “ตุลาคม“ เดือนนี้ในประเทศไทยถือว่าเป็นหนึ่งใน ’เดือนแรง“ มาแต่อดีต โดยเฉพาะหลังจากประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตยตั้งแต่ปี 2475 ซึ่งกับคำว่า “เดือนแรง” สำหรับเดือน “ตุลาคม” นั้น โดยนัยแล้วก็จะยึดโยงอยู่กับเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับ “ประชาธิปไตย” เป็นส่วนใหญ่...

    โยงกับเรื่องแรง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ ’การเมือง“

    ทั้งนี้ เหตุการณ์แรง ๆ เหตุการณ์สำคัญ ๆ ที่เคยเกิดในเดือนตุลาคม ก็เช่น...11 ตุลาคม 2476 เกิดกรณี กบฏบวรเดช, 1 ตุลาคม 2491 เกิด กบฏเสนาธิการ หรือ กบฏนายพล, 20 ตุลาคม 2501 จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดขณะนั้น ยึดอำนาจการปกครองจากรัฐบาล จอมพลถนอม กิตติขจร

    14 ตุลาคม 2516 เกิดการลุกฮือของประชาชน นิสิตนักศึกษา เพื่อเรียกร้องรัฐธรรมนูญจากรัฐบาลจอมพลถนอม กิตติขจร จนเกิดวัน “มหาวิปโยค” มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก แต่จอมพลถนอม กิตติขจร รวมถึง จอมพลประภาส จารุเสถียร และ พ.อ.ณรงค์ กิตติขจร ก็ต้องสิ้นอำนาจ ต้องหนีออกนอกประเทศไป
     
  4. chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    แล้ว ’ตุลาคม“ ปีนี้ล่ะ...จะมีเหตุแรง ๆ หรือไม่???

    กับประเด็น “ตุลาคมเดือนแรง” หรือ “ตุลาฯ อาถรรพณ์” นี้ ในอีกด้านก็ยึดโยงอยู่กับการทายทักทางโหราศาสตร์มาเนิ่นนาน ซึ่งล่วงเลยมาถึงปี 2555 ทาง อ.เก่งกาจ จงใจพระ ก็ได้วิเคราะห์ “ดวงเมืองประเทศไทย” ในเดือนตุลาคมปีนี้ แล้วสะท้อนผ่าน “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” ว่า...เรื่องทางการเมืองก็มีประเด็นน่าจับตา

    ตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2555 ดาวอาทิตย์ย้ายเข้าราศีตุลย์ ร่วมกับดาวเสาร์และดาวพุธ ดาวอาทิตย์เป็นตัวแทนผู้นำ เมื่ออาทิตย์เสื่อม เพราะดาวเสาร์ในราศีตุลย์ได้ตำแหน่งมหาอุจจ์ มีพลังกดดันสูง ผู้นำจะถูกกดดันสูง ทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งดาวเสาร์เป็นตัวแทนผู้สูงอายุ เมื่อดาวเสาร์มาจากภพที่ 4 ตัวแทน ญาติ คนใกล้ชิด ขณะที่ดาวพุธมาจากราศีกันย์ภพวินาศ หมายถึงเรื่อง ลับ ๆ หรือ คนอยู่เบื้องหลัง ก็ทายทักได้ว่า…

    “ผู้นำรัฐบาลจะถูกกดดันทั้งจากดาวเสาร์และดาวพุธ จากผู้ที่บัญชาการอยู่เบื้องหลังอย่างลับ ๆ การปรับ ครม. อาจจะต้องมีขึ้นในเดือนตุลาคมนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็ต้องระวังจะนำความวินาศมาให้ภายหลังหากการดำเนินการต่าง ๆ ขาดหลักการและไม่มีเหตุผลชี้แจงต่อสังคม”
     
  5. chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ตัญชลีให้คำอธิบายประสบการณ์ทางจิตจากการฝึกโยคะขั้นสูงไว้ ค่อนข้างละเอียด บางช่วงบางตอนอาจมีคำอธิบายที่จำเป็นต้องใช้ประสบการณ์การฝึกโยคะ(จิต)หรือใช้ความรู้ความเข้าใจทางทฤษฎีที่สะสมมาในระดับหนึ่ง จึงจะพอทำความเข้าใจได้ สำหรับผู้ที่ยังไม่มีประสบการณ์ในการฝึกจิตหรือมีความรู้ทางทฤษฎีมากนัก อาจใช้ข้อเขียนของปตัญชลีเหล่านี้เป็นแผนที่สำหรับการเดินทางค้นหา ประสบการณ์ในการฝึกจิตของตนเองต่อไปในอนาคต”(ความในใจของผู้แปลและเรียบเรียง)
    ต่อมาในประโยคที่ ๑๙ กล่าวว่า “ภวะ-ปรัตยะโย วิเทหะ-ประกฤติ-ลยานาม” แปลว่า การเดินทางผ่านการฝึกโยคะของผู้ซึ่งพ้นไปจากร่างกาย และได้หลอมรวมเข้ากับประกฤตินำไปสู่ต้นกำเนิดของวิวัฒนาการแห่งโลก(การเกิดและชีวิตของสรรพสิ่ง)ในขั้นนี้ผู้ฝึกอาจได้รับประสบการณ์จากการฝึกโดยมีความรู้สึกว่าร่างกายของตนนั้นหายไป หรือความรู้สึกหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ(ประกฤติ)ความรู้สึกเช่นนี้นำไปสู่การแยกตัวออกจากสภาพความเป็นอยู่ในการใช้ชีวิตทางโลก
    ในประโยคที่ ๑๙ นี้สามารถแปลความได้สองทางขึ้นอยู่กับความหมายทั้งสองของคำว่า ภวปรัตยยะ หากพิจารณาคำว่า ภวปรัตยยะ คำว่า “ภว” มาจากคำกิริยา “ภู”หมายถึง เป็น ดังนั้น “ภว” จึงหมายถึง การเป็น ในสองความหมายคือ ๑)เป็นจากการดำเนินชีวิต และ ๒) เป็นมาแต่กำเนิด คำว่า “ปรัตยยะ”หมายถึง ประสบการณ์ (ด้านในจากการฝึกโยคะ)ดังนั้นความหมายแรกของภวปรัตยยะคือ ประสบการณ์ที่ได้รับในระหว่างการเวียนว่ายตายเกิดของชีวิตในแต่ละชาติ และความหมายที่สองคือประสบการณ์ที่สั่งสมมาในอดีตชาติและติดตัวมาตั้งแต่เกิด
    ตามการแปลความแบบแรก ความก้าวหน้าที่เกิดขึ้นจากการฝึกฝนของโยคีจริงๆ แล้วไม่ได้มีคุณค่าแต่อย่างใด เนื่องจากโยคีที่ก้าวหน้าเหล่านี้ยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายสูงสุด(ไกวัลยะ)ได้ในชาตินี้ จึงต้องประสบกับการเวียนว่ายตายเกิดอีกเพื่อฝึกฝนตนเองตามแนวทางของโยคะไปจนกระทั่งสามารถบรรลุไกวัลยะในชาติใดชาติหนึ่ง
     
  6. chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    โยคะ หรือโยคี เป็นศัพท์ที่มาจากเบื้องบน หมายถึงจุดเริ่ม เหมือนดั่งทุกวันนี้ในประเทศอาหรับก็รู้จักคพว่า "อารยัน ว่ามาจากคำว่า อารียา หรืออริยะ "ผู้เหนือมนุษย์ " นี่แค่สายต้นเช้อของพระพถุทธองค์ยังเก่ง ปกตรองยึดครองไปตั้งครึ่งค่อนโลก สภาพสมัยนัั้นก้คงไม่ต่างกับภาพยนตร์อินเดีย เช้พลังจิต ฤทธิ ปาฎิหารย์
    --คำมาจากเบื้อแงบนที่เราพบทั่วไป พูดทั่วไปก็คือ โอม ไม่ใช่ของเล่น คือการรวมความสั่นสะเทือนตั้งแต่เริ่มสร้างโลก โโย ชาวคริสต์เพื่อนเราเชื่อวา โลกสร้างจากคำพูด หรือ พระวัจจนะของพระเจ้า คำพูดนั้น คือคำว่าโอม นั่นเอง ซึ่งปัจจุบันได้มาเป็นคำที่แอ๊พพลายด์เข้าในวงการไสยศาสตร์ของไทย โดยพากครูพราหม์จ้าวิชาที่มาจากทางอินเดีย เข้ามเ็นครูในราชสำนัก เพื่อทำพิธีกรรมพลียูชาเททพ และสอนไสยศาตร์เป็นรายได้เสริม จนคำนี้เข้ามาประสานกับถ้อยคำคาถา อย่างเน่นแฟ้น เพราะมีพลัง เป็นคำย่อของเทพทั้งสามผู้เป็นต้นเค้าแห่งโลก ผู้ดูแลปกป้องโลก ทุกวันนี้คนอินเดีย ต้องท่องคำนี้ 21 ครั้ง เมื่อตื่นขึ้นเริ่มรับแสงสุริยา---โอม เจ(ชื่อเทพที่ศรัทธา) เจแปลว่า มีชัยชนะ ไทยมาเปลี่ยนเป็นคำว่า ชัยยะ ไชโย "อจ.เจษหยุดจิบน้ำชา ถึงเวลาาข้าต้องกินยาเบาหวานก่อน และยาเชื่อมต่อระบบประสาทอีก"

    --"อ,เจษ"-ข้าเจ้าเคยถามท่านพรหม ชินะปัญชะระ ว่า ศรพระรามคือขีนนาวุธใช่หรือไม่ อ้างอิงจากหนังสื่อ รถทรงเทพเจ้า ชาเรียตออฟ ก๊อด ของ อิริค ฟอน ดานิเก้น
    --"ในยุคนนั้นไม่มีเทคโนโลยี่แบบนี้ มีแต่เทคโนโลยี่ทางจิตที่สูงกว่ามนุษย์จะจินตนาการได้ " ท่านตอบแบบเหนือความคาดคิด แล้วศรพระราม ทำงานได้อย่างไร "เป็นเพียงคันธนู ไม่มีสายธนู เวลาใช้ก้เอาลูกศรวาง ตั้งจิต แล้ว ลูกก็วิ่งไปเข้าจุดหมาย แล้วมันเอาพลังมาจากไหน มันทำงานด้วย พลังงบุญญญฤิทธิ์
    (ไม่สงวนลิขสิทธิ์ใดๆ ถ้าทางทบวง กระทรวงใด จะนำไปเป็นตำราในระดับมัธยม หรือรั้วมหาวิทยาลัย--แต่ควรบอกมา เพื่อจะเติมเนื้อหาให้แน่นกว่านี้ เดี๋ยวบัณฑิตไสยศสาตร์ขะเแพ้ชาวเขมรเข้าให้ ของเค้าแรงดีจริงๆ" มีอจ.คนนึงแก่มากแล้ว มีเมียสาว8 คน อยู่บ้านเดียวกัน- อจ.ต้องทำงานหนักแน้นอนนอนเลยน่ะ ของเขมรขอ เร็คคอมเม็นด์With Full Recommendation กล้าเปิดตัวในเวทีโลกได้แน่ ไสยศาสตร์ไทย ก็ไม่แพ้ชาติใดในโลก คาถาของพวกยิปซี นะเด็กๆ) ฝรั่งว่า อะคาบราแดบบร้า--Acbradabra--คนจียว่า กูลูกูลี คือเมือนล้อเลียนภาษาต่างประเทศ ต่อมา รู้มากขึ้นย จนคิดว่า น่าจะเป็นวรรคแรกของคัมภีร์จากทิเบต คือ ฎโปเย โปโลเย" จนเอามาสร้างหนัง แต่ไม่เลยวครับ ถ้าเชื่อมั่นประโยคนี้ก็ไล่ผีได้สบาย เว้นแต่ผีตัวนั้น จะดูหนังเรื่องนี้มาก่อน ไม่งั้น ผีจะหัวเราะกลิ่ง ดับชีพไปเป็นรอบที่สอง ว่าแต่ว่านางเอกสาว หวังจูเสียน นั้สวยเซกซี่เหลอจะทน ควรนำมาดูเพื่อ ทดสอบกิเลสกันได้เลยนะเนี่ย
    --เจ้าม้าป่าลำพอง เฟอรารี่ หลบหนีเข้ปแระเทศ น่าจับมาขับขี่ให้หมดพยศ ค่าตัว 17ล้าบาท

     
  7. มังกรน้อย101 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,376
    ค่าพลัง:
    +4,390
    สวัสดีครับพี่เจษอ่านกะทู้พี่เจษนี่มันจริงๆครับ จะว่าไปแล้วมันเหมือนเราอยู่ด้วยกันเลยอ่ะครับพี่พูดเหมือนเห็นตัวผมซ่ะงั้น ตอนที่บอกว่าผมนั่งสับมะละกอก็ใช่ผมชอบเป็นการส่วนตัวอยู่แล้วครับสับเองตำเองแซ่บดี และอีกเรื่องที่เตือนผมว่าอย่าเอาเงินให้คนอื่นผลาญจนสดุ้งเลยครับผมเคยมีประสบการณ์ และก็เข็ดมากๆเลยด้วย ขอพูดเรื่องแสงแห่งธรรมหน่อยครับอย่างที่พี่ว่ามาไม่มีอะไรสว่างเท่าแสงแห่งธรรม ผมก็พอได้ยินและได้อ่านศึกษามาก็ตรงอย่างที่พี่เจษพูดเลยครับ ผมขอถามหน่อยครับว่าเวลาผมนั่งสมาธินานๆไปมีแสงกลมเล็กๆเท่าเม็ดข้าววิ่งวนรอบดวงตามันคืออะไรครับ มันจะใช่อย่างที่ว่าหรือเปล่าครับถ้าใช่แล้วทำไมแสงมันถึงเล็กจัง หรือว่าบารมีธรรมผมมันน้อยครับ
     
  8. Isreal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +1,327
    ช่วงนี้รู้สึกได้ถึงความเข้มข้นทางจิตผ่านตัวอักษร
    ที่คุณ chandayot ได้ถ่ายทอดออกมา

    ราวกับควบม้าพยศฝ่าเข้าไปในพายุแห่งกิเลสเลยทีเดียว^^
     
  9. chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    -ต้องขอบคุณความ้จ็บปวดที่นำมาซึ่งสติ การพิจาร๖าทุกขณะจิตและถ้อยคำ ทำให้พลังฝึกปรือของ้ล่าฮู กลังร
    ---เมื่อวานนี้มีเรื่องทำใก้ขุ่นใจ มีคนดูหมิ่น ลองของกับพระพุทธเจ่้า ทำร้ายนักรบ มการ และลูกของท่าน ข้าพเจ้าขอแชร์เพราะเก็บไว้ไม่ไหว ต่อให้เป็นคุ๊ิืสรีลคงโกรธเนื้อเต้น
    --เมื่อวานนี้มที่คลาดสมุทรสาคร ชายไทยคนนึง เก็นพระหลวงตาแก่ๆ ก็สงสัยว่าเป็นพระปลอม ขอตรวจค้น ท่านก็ไม่ยอม จึงได่ด่า และฉุดกระชากไปขึ้นรถ จนที่บาดเจ็บ ทำจนประชาชนแถวนั้นทนดูไม่ได้ จึงทะเลาะกัน ตำรวจำด้มาำกล่เกลี่ย แต่กลับตรงข้าม เมื่อพบว่าท่านเป็นพระจริงไ มีใบสุธิ มาจากปราจีน และอาพาธด้วย
    ---ท่าบาดเจ็บด้วยจากการกรัทขิงคนใจทราม เพราะพระท่านมาบิณฑบาต ตามจริยวัตรตำสั่งของท่านพ่อพระพุทธองค์ แต่คนไๆนี้คิดว่าเป็นการผิด สมควรไล่ออกจากการเป็นคนไทย และสังคมชาวพุทธด้วย ในข่าวไม่ได้บอกว่านายคนนี้จะยอมขอขมากรรมกับทางพระ หรืือกับพุทธศาสนาหรือไม่ แต่คิดว่าคงไม่ เพราะชินกับการทำร้ายพระ เขาบอกว่าเป็นผู้ช่วยพระวินยาธิกรณ์ มีหน้าที่จับพระสึก โฆษกหญิงจึงได้ตอแหลหลบเกลื่อนว่า เป็นเรื่องเข้าใจผิดกันนะ แสดงว่าเป็นเป็นเรื่องธรรมดาๆ เข้าข้างโจรป่าไปซะงั้น
    --ข้าพเจ้าจึงคิดว่า คนเดี่ญวนี้เป็นอะำร ไม่กลัวภัยในการให้ร้ายพระรัตนตรัย กลับเห็นดีไปหับคนที่ทำร้าย ลองคิดดุสิ มีการใช้วาจา และอาการ ทำร้ายพระท่านมากมาย แม้ที่พม่าแีก่อไๆ มีการทุบตีทำร้ายพระสงฆ์จนเลือดสาเต็มพื้น ชาวโลกต่างประนาม อต่ปีนี้พี่ไทยกลับทำเสียเอง ปี 54 ยิงเข้าไปในวัดเพื่อฆ่าพยาล ซึ่งผืดจากอารยประเืทศทั้งโลกที่ทำกัน ขอร้องขอต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐ ถ้าท่ายังเป็นมนุษย์ลูกผู้ชายเช่นเดียวกันกับข้า เกิดเป็นคน หัดให้มีศีลธรรมประจำใจรน้นไม่ยาก อย่าไปหัดใส่หัวใจสัตว์ให้บ่อยนัก จะเป็นว่า ผู้ที่จะทำร้ายไทยจนสิ่นชาติ ก็คนไทยนี่แหละจะหมดจดดี ผู้ทำลายศาสนาพุทธ ก็คือคนพุทธมากะที่เคร่งไๆ นับถือแบบพวกเต่าไร้ปัญญา แถมยังเป็นไดโดนเสา เต่าตาบอด ทั่วโลกนับถือพุทธศนาว่าดี แต่พวกเรากับอิจฏาพระพุทธองค์ จ้องทำลายซะอย่งนั้น กราบวิวอนมหารเถร และกรศานา ซึ่ง เหมือนดังนำคนต่างศาสนามาเป็นอธิปดี หลวงปู่หลวงตาบ้านนอกฝากบแกวา่า ำม่ต้องมาปกครอง่านก็ได้ เพราะไม่ชอบที่ฆราวาสมาเบ่งคับฟ้ามาด่าพระ วางอำนาจสั่งการราวเป็นเจ้าของประเทศไทย หลวงตาผิดตรงไหนเหรอที่เป็นพระ มีพวกท่านออกเดินสายหาเงินอย่งมากมาย เงินที่มีก็ของวัด ของโยมทั้งนั้น ตำรวจทหารเวลาค้นพระ ก็ตีก็ด่า ค้นยาบ้าพระราวกับจับโจร ปกติทุกชีวิตคนไทยก็ถูกป้องป้งด้วยรัฐธรรมนุญไม่ใช่เหรอ หรือมันเป็นมาดของลูกผู้ชายใจหมา จากภาพยนต์ฮอลลรวู้4แผ่น 20บาื ซึ่งไปยึดมาจากคนจนๆ ยังงี้ต้องแช่งฮอลลีวู้ด หรือให้กุมารไปหักคอพวกท่านดี สังคมไทยเคยเคารพพระสงฆ จึงร่มเย็น อย่าช้ารีบออกมาแสดงตัว ไม่งั้นเจอสรยึทธเจาะข่าวตอนเย็นนี้ท่านจะหนาวๆแน่ขอจิต60ล้านคนแช่งท่าน----จึงเรียนมาเพื่อทราบลัวช่วยด่า อยากฟ้องถึงบรรดาเทพ ให้ส่งกุมารผีไปหลอกหลอน และจัดการคนพวกนี้ให้เป็นผีโดยเร็ววัน--ด้วยจิตเมตตาและคารวะตรับ--เมตตาต่อทุกคนและสัตว์ แต่บางครั้งเมตตาและอุเบกขาไม่ลง ต้องพิจ่รณาเป็รเคสไป ใช่ไหนมคุณอิสรีล เมื่อเย็นก็สาบานต่แหน้าหิ้งพระว่า จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับคนบางคน เช่น ลูกสาวภรรยาที่บ้ารักผัว จนทำร้ายจิตใจผมและปม่ของคน บังคับให้นับหนี้เป็นปสนๆ และซื้อรถให้ อ้างว่าจะไปทำมากากิน แต่กลายเป็รภาระเพิ่มอีก ค่าแุ้มท้องเช่ามลูกยังไม่ได้ เลี้ยงไว้ ก็เหมือนศัตรูไว้ฆ่าตัว้อง ๓รรยาว่า สิงโตเป็นลูกคนอื่น ยังดีกับ้รายิ่งกว่าลูกแท้ๆที่เบ่งออกมาเสียอีก ดีกว่าไม่ว่า นี่มันตรงข้ามกัน
    --ึน่ทำลายกำลังใจเรา ควรหลีกเลี่ยง คนที่เจ้าใจ้า ได้พบได้คุยเพียงแวบเดียว นับเ็ป็นบุญมหาศาลครับ ทั้งชีวิตหาคนรู้ใจ บางคนก็ไม่เจอ บางคนได่ คู่ที่รู้ใจ นับว่าโชคดีทมีกุศลครับ-
    --คกรวน้ำของโปราณมีว่า "คนชั่วไม่ขอเห็น คนเข็ญไม่ขอพบ --ขอให้พบเศรษฐี มนตรีเจ้าพระยา เดชะตัวข้า ขอพบพระศรีอารย์"- คุณอิรีลนี่ใช้ซอเซ้นส์ของผู้หญิง เป็ฯะรรสวรรค์โดยธรรมชาติ ทำให้เป็๋นเครื่องรับอย่างดี เรียกว่า คนมีญาณไว--ผมนั่งคืิดยังำง ภูมิจิตไปตรงไหน เธอก็รับ สื่อภาพึความคิดนั้นได้ครงกัน เป็นนักโยคีหญิงที่ออกตัวอรงขอบอก กำลังม้าของม้าป่าลำพองก็เทียบเธอยาก ทำใก้ผูเขียนกลัว้ธอจะกดไนตรัสเอร์โบมาแซงมาโค้งสักวันนึง จ้องรีบฉีบัยานด้วยกลังของรถบีเอ็ม บีเอ็ม้อ๊กซ?์ จักรยาน ล้ำกน้าไปก่อนละอิอิ---วันนี้สิงทุ่มด็นอน ตามคำสั่งเบื้องยน ตื่นมาส่งข่าวอยู่นี่ เขาเปล่ยนการนอนหลับให้เป็นยา--แถมยังว่าเราม่สดช่น ก็ต้องโปรแกรมชิตาำนึกลงไปใต้สำนึก ก็บอกซี่ กฬาทางจิตงี้พอทำได้ แต่ถ้าให้เก่งต้องมีหลวงตาคอยกระทุ้ง แบบว่าอยาดเก่งเหมือนกัน
    ปล.ผมไม่ได้สัมผัสญาณพระที่ไหนเลย นอกจากใบหน้าปูฤาษีลิงดำ นีเห็นจนติดตาเลย ลป.เณรคำท่านอาจมาช่วยรักษาผม แต่ท่านไม่ส่งภาพถ่ายก็ได้ จะไปหมิ่นท่านผมกลัวบาปครับ --วีนนนี้เจอคนที่รักมาก คือกุมารแก้วมณีแบบนี้แยู่ลำพังในโลกกับเค้าได้ ภรรยาบอกฝันเห็ฯแม่จินตนา คงม้ยี่ยมลููกชาย ซึ่งภรรยาก็รักแม่ผมเหมือนหรือมากกว่าแม่แท้ๆ และพวกเราก็รักเธอด้วย เพราะเกื้อกูลดูแลแม่ของเรา การพัฒนาของความรัก ความเมตตานับเป็นสิ่งสูงสุดในทุกศาสนาเพราะยิ่งใหญ่ที่สุด
     
  10. chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ในม่ามกลางความเจ็บปวดมึนงง ข่าวส่งเข้ารหัส ส่งมาช้าๆในสายหมอก เป็นคำพูดมาว่า" อะหา เจ้ามนุษย์น้อย เจ้่กำลังเล่นเกม เวอร์ช่วล รีลลืตี้Virtual(เสมือนจริง)-Realiry(ความจริง)-ความจริง้สมือน--ของเบื้องบน เจ้าจะมีอะไรมาพนัน ข้าตอบไปว่า ลงเดิมพันดันด้วยชีวิต ถ้าเบื้องบนแพ้ จะมีอะไรทีจะชดใช้ หรือถอดประตูให้สักบาน ประตูตรงไหน เสียงทรงพลังมีอำนาจถาม ประตูสวรรค์ไง ว่ากันว่าเป็นทองเนื้อเก้า สูงใหญ่ทั้งหนาและหนัก ที่เห็นวันก่อนนะ มีอักษรจารึกไว้ทุกภาษาเลย บังอาจ ฮ่ะอ่ะๆ เสียงท่าน้นหัวเราอย่างถูกใจ เจ้ามีตาในญาณดีเหมือนกันนะ มิเสียแรงท่านพ่อศิวะท่าานไปดูแล เป่าหัวให้ตั้งหลายคืน ตื่นมา รับรองวปาหกหมาอีกแนนอน ดังคำว่า"งาช้างมิอาจงอกเงยในปากสุนัข" แล้วเบื้องบนมาวุ่นกับผมทำไม อยากให้เจ้าไปปรับบุคคลิกไปคามความฝัน อีกหน่อยเจ้าจะดังในหมู่ไฮโซ เป็นมายากรหมอผี ตามที่เจ้าอยากเป็น
    ห็นภาพขึ้นมทันทีข้าพเจ้าในชุดหมอผีสีขาว ลูกประคำดำสายยาว ยืนหน้างานแห่งหนึ่ง ฉายา อจ.เจษฏาเฟอรารี่ หรือ เจษฏาอินคอนเสิร์ต เจ้าของรายการทีวีแนวลึกลับ และเป็นหมอดู --หมอผีของชาวไฮโซแทนหมอ"หมูหยอง ในย่าม"แมงกุดจี่" ยังมีผ้ายันค์ สายสิญจนื์ -หม้อดินใบน้อยๆสามรถทำพิธีจับผีไล่ผีได้ทันที นักข่าวช่องต่งๆไ่กล้าวิจารณ์ กลัวโดนเสกหนังควายเข้าท้อง
    นักข่าวหนุ่มหน้าตาคล้ายมังกรน้อย เข้ามาพร้อมกล้องทีวี
    ท่านครับ ท่านเป็ฯใครมาจากไหน" "ผมเปป็นลูกชาวนาบ้านนอก" "ท่านว่าหมอผีควรเรียนวิชาการด้านไหดี "ก็พวกนิวเคลียร์ -แอสโตรและควอนตั้มฟิสิกส์ จึงจะดี" "วิชาโทก็แมธ-แสต็ท วิชาโทนี้ควรคล่องประมาณปริญญาโท ความจริงก็วิศวเคมี หรือฟิสิค่อล เค็ม ก็ดี" เหรอครับ แค่เรื่องของอะตอมต้องแม่น แล้วทางปิโตรเคมี สาขาใหม่ๆละครับ พวกนี้เรียนแล้ว จะได้เป็นพระเอกแบบเรื่อง30ยัวงแจ๋วได้นะ
    ผมตอบตามภูมิรูิ แม่นล้วนะครับ ญาณท่านแจ๋วมาก "แม่นสิ เพราะข้าดูหนังเนรื่องนี้แล้ว ท่านเล่นแผ่นผีเหรอ "หมอผีก็ดูของผี ก็ได้ แต่ผีบอกว่ให้โหลดมาโดยผ่านโปรแกรมพวกบิททอเร้นท์-จิณดสามณี กาพย์พระำชยสุริยายังมีเลย ธรรมะเพียบ" งั้นท่านก็มีหนังต่างดาวเพียบ ก็มี แต่อั๊วะไม่เก่งภาษาอังกฤษ โหลด โพรมีธุสมา ดูไม่รู้เรื่องเลย ต้องไปร้าน้เช่าสักวัน เมื่อวานยุ่งแทบตาย ซักผ้า พอภรรยาตากผ้าลวดขาดหมดสามเส้นเลย--ยุ่งดิครับ-
    ก็เลยออกไปซื้อใหม่มันมีมาร แต่เรามีบารมีระดับผอ.ไปไหนใครก็เรียกท่านผอ. ผอออ ของท่านย่อมาจากอะไรครับ มังกรน้อยจู่โจม ยิงคำถามมาไม่แพ้สรยุทธ- ผมอึ้ึ้ง รอคำตอบที่เหมาะสมจากเบื้องบน..
    ..และแล้ว เสียงกระซิบเบาๆ พร้อมภาพนางยักขะหมูขี ผู้มีปากเป็นอาวุธก็ปรากฏขึ้นในสายหมอก ผมจึงรวบรวมใจ พุดไปตามที่ได้ยินมา
    ผอออ ในแดนธรรมของผม เรียกง่ายๆ ก็ ผัวอีอ้วน เป็นฉายาที่เบื้องบนเรียกผม เป็นสัจจะธรรมล้วนๆ ทางเรื่องรูปนาม เธอบอกว่าชาติก่อนเธอสวย หุ่นดี มันสุดขำ ขำกว่าคำนี้เยอะ มังกรน้อยถึงกับปล่อยก๊ากเพราะรับมุกไม่ทัน
    "ก๊าก555" ั่นแหละจำไว้ ีวิตคนเรามีทุกรส แม้จะเศร้ายังไง สุดท้ายเสียงหัวเราะก็ยังมี ดังพระจี้กงว่า ชีวิตเป็นอนิจจัง ความแน่นอนก็คือความไม่แน่นอน การเปลี่ยนแปลงนั้นหรือคือนิรันดร์ เลิฟ อิส ฟอรฺ์เรฟเว่อร์ มังกรน้อยงง กับคำแปลนี้ แต่ึความรักก็คือคำตอบนี่นา แม่คนนึง ทำงานสารพัดก็เพื่อลูกน้อยของนาง ธรรมชาติได้ประกาศิตไว้ และนำความรักนี้มมาให้โดยไม่ต้องขอ
    -เธอจะรักผู้หญิง ต้องฝึกต้องซ้อมด้วยเหรอ ถึงบท คราวมันจะรัก มันก็คือองค์ญาณในอดีต บุพเพนิวาสญาณ หรืออีกอย่างก็ได้ใกล้ชิดกันในชาตินี้ อาจจะไม่ใช่คนที่โรงงานก็ได้นะ อาจเจอคนนอกก็ได้
     
  11. chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    คุณมังกรน้อยเป็นใครผมก็ไม่รู้นะ แต่ชอบที่คุณเปิดเผยตรงไปตรงมา ยอมรับเรื่องงกรรมเก่าที่ไม่ดีง่ายๆ เได้ป็นตัวอย่างให้แก่คนอื่นในหลักกรรมหลักธรรม นับว่าเป็นบุญหลายๆ ต่อไปก็จะได้สิ่งที่ชอบ เช่น มีผู้นำพระเครื่องมามอบให้ ครูบาอาจารย์พระเกจิก็จะใจอ่อนมอบวิชาดีๆให้ เพราะว่าใจเป็นธรรม มีธรรมทานการให้ แม้ว่าใจจะเจ็บปวดก็ตาม อีกคนก็คุณอิสรีล สาวน้อยพลังจิต ผู้ดำเนินวิชาตาสาตร์พลังชี่ --หยิน-หยาง-เจี่ย และ ได้ก้าวรุดกน้าไดก้ดี ตามที่เบื้องบนบอกมา เดินตามสายนักบวชจีน แม่กวนแิมนั้นประเสริฐแล้ว จะเห็นได้ คือสัญญลักษณ์ของเธอเป็น จิต12ราศี มีกิกรรมต่างงของโลกมนุษย์ ซึ่งปกติก็ประดับไว้ในยันต์โป๊ยข่วย เป็นของกันและแก้อาถรรพณ์ ซึ่งเธอเอาไว้แฝงความหมายเผื่อใครจะมาทัก ว่า เก่งหรือป่าว ฝ่าด่านปริศนานี้ได้ยัง ซึ่งบังเอิญอจ.เจษเป็นพวกวไต่อปริศนาแลละกล้าทักจุดนี้ คงไม่ต้องสงสัย เะราัเราเข้าใจกันแค่สองคน ฟังเหมือนจียมั้ยฮะฮ่า ธรรมในธรรม ก็คือจิตในจิต สหายสนิทมองหน้าก็รู้ใจ ถ้าเป็นผุ้ชายต้องยกสุราน้ำใจกันแน่นะ
    ----วันนี้ในตอนบ่าย สภาพในโกทิพย์เปิดโล่งโร้ผู้คน เหมือนลมหน่วาวโชยมาในยามนี้ ทำใหเรู้สึกวังเวง--ควมวังเวงก็เป็นธรรมมะ ผมก็บอกภรรยาไปว่า "คนเราเหมือนไร้ที่พึ่ง อาศัยคุ๊ณพระคุณเจ้าดป็นความหวังอย่างรางเลือน ถึงโลกจะแตกพรุ่งนี้ก็อย่าทิ้งความหวังเลย เพราะไร้คว่ทหวัง พลังใจจะไม่มี
    ---ทีวีเปิดภาพของชายจัน แป๊ะหัวหลิมออกมาพูดๆ ท่าทางของคำพูดนั้นดูน่าเชื่อถือ เหมือนนายนรินทร์คนบาปของเราไม่มีผิด เป้าหมายก็คือทำลายชาติศาสนาั้งหมดลงมา แต่ก็มีคนศรัทธเต้าเยอะ
    --ผมรีบใช้พลังจิตเข้าไปฆ่าเค้าทันที่ เบื้องบนบอกใจเย็น แก้แค้นสิบปีก็ไม่สาย กรรมอันใดที่ลิขิตเขามาเพื่อฆ่าคนเจ้ารู้มั้ย เขาเป็นคนมีบารมี เพื่อมาทำลายประเทศไทยดยตรง เออแล้วจะปล่อยไว้ทำไมล่ะเบื้องบนก็ "ต้องดูบุพพกรรม เราอาจจะเคยใส่ไฟ ทำร้ายำวกเขา ประเศบ้านใกล้เรานี้เอง เศษกรรมควรปล่อยผ่าน ผมตอบกลับอย่างเหลือกลั้น "ไม่อแผ่เมตตา ไม่เอาอะไรทั้งนั้นน เทพำไร้หัวใจ ไร้ความยุติธรรม ทีมันปิดสนามบิน ทำร้ายหัวใจไทย 70ล้านคน ยังจะปล่อยมันไว้อีกเหรอ --เขาคิดว่าเขาเจตนาดี และคนอื่นก็คิด จะอาฆาตเค้าทำไม ไม่กลับบาปเหรอ นาทีนี้ไม่กลัวละเว้ย บาปก็บาป ทหารพระรนเรศวรท่านทำศึกท่านลัวบาปกันมั้ย กลัวก็นอนอยู่บ้าน อย่่าสร้างกรรมสิ อาฆาตเค้าเทากับเราสร้างกรรม "ไม่สนเว้ย หลีกไป หน้าไหนก็ไม่ต้องมาขวาง ไม่อาฆาตแต่กรูเจ็บแล้วจำเว้ย" ไม่ใหอาฏฆาตคน อาฆาติกับรถยนต์ คอมพิวเตอร์ระบบทีวี สีดิโอ็ได ้ จอให้มันพังทุกครั้งวงที่พวกมึงไปแตะต้องมัน ถ้าไม่ใก้ใช้จิตไปทำแบบนี้ จะวานให้พวกมาร พลังผีไปทำงานก็ได้ ใช้พลังปี ทำกับของไม่มีตัวตน ไม่มีวอญญาณย่อมไม่บาป ผมก็เลยรีบทำไๆอยู่ในโลกต่างมิติ--ความจริงนั้นพวกนี้กฌรับกรรมไม่ใช่น้อย และั้งพวกนักการเมืองอีก พระสยามเทวาเจ้า แม้ท่านจะเป็นคนอินเดีย ้พื่อนกับพระกฤษณะ แต่ท่านเป็นระดับเทพสี่กร ญาณ พลัลงบารมีล้วนสุดยอด นำพาไทยมาได้ ไม่ถึงกับสิ้นชาติ
     
  12. chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    บางคนคิดว่าพวกแป๊ะยิ้มมีบารมี เอาอาร์พีจียิงก็ไม่ตาย รอดได้ ก็บารมีพวกมารไงครับ เรื่องเบ็ฯเพระจรวดหมุนไม่ครบหนึ่งรอยมัน มันก็ไม่ะเบิด แต่ถเาตครบรอย รอดก็เก่งครับ บางคนว่า เกิดตจากวัตถุมงคลหลวงตาบัว เรืองนี้ผมได้ต่อว่าท่านไปหลายครั้งแล้วครับ ท่านก็ไม่ได้ส่งจิตมาแก้ตัวใดๆ ผมจึงฝากอาฆาตไว้กับวัตถุ รถยนต์เงินทองของพวกมันครับ พวกมันว่า ผมทำไม่ได้หวังว่าเล่นการเมือง หืออะไรเลย บัดนี้ต้้งพรรคได้นานแล้วครับ-รอดคุก-- ถ้านับเป็นนักเลงก็เสียสัจจะลูกผู้ชายกลายร่างเป็นหมาหัวเน่าจ้าวตอแหลไปแล้ว นี่คือสัจจริง สาบานได้ต่อหน้าเจ้าพ่อยูทิ้วบ์อันศํกดฺ์สูง ซึ่งมีคลิปมากมายครับ
    หมอดูท่านหนึ่งที่เชียงใหม่ท่านได้ญาณ ฝันเห้นด้วยนะว่าพวกนี้เดิมอยู่นรกขึ้นต่ำ
     
  13. chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ได้โอกาสามาเกิดสแล้วไม่แก้พฤตติกรรม ก็จะได้ตกไปในชั้นที่ต่ำกว่าเดิม แบบพระเทวัทัต ทำผิดซ้ำๆอีก ก็น่ายินดีที่ได้กลับนรกเดิม ไอ้คนที่อวดเอาศีลมากๆมาทำลายชาติและศาสนานี่ ไม่น่าเอาไว้ นรกน้ำกรด กับทองแดงหลอมเหลวนั้นาเหมาะจริงๆ และเบื้องล่างได้จัดสรรไว้แล้วครับ
    ---คุณอืสรีลครับ คอมพิวเตอรืของจิตใจ ทำงานด้วยระบบโปรแกรมด้วยภาพ หรรือระบบราฟฟิกแบบวินดโวส์ ไม่ใช่ดอส ไม่ต้องใช้คำสั่งแบบตัวอักษรหริก ใช้ถาพในใจ หรือภาพจากความคิด--Thought-Forms ไม่ราบว่าตรงกับจุดท่ี่คั่งค้างไหม ไม่งั้นโปรแกรมจะไม่โฟลว์--ตรงมะนั่น จะเห็นง่ายๆว่า เขียนตำรา หรือเขียนงานในสายงานอาชีพเะอ เขียนออกเป้นแผนผังรูปภาพแล้วลูกค้าจะเข้าใจเยอะเลย เพราะจิตชอบรูปภาพ ถ้าตรงกับภาพในจิตก็โป๊ะเชะเลย คลิกเลยอะจ้ะ--ข่าวสารนี้ไมตรงก้เพี้ยนนิดนึงลองแปลเอานะ
     
  14. chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    เปลือกของสภาวะนิโรธสมาบัติแบบเบาบาง<!-- google_ad_section_end -->
    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->(17 ธันวาคม 2011 , ขณะนั่งสวดมนต์ทำสมาธิในช่วงเวลาประมาณตั้งแต่ตี 1:00-4:00 นาฬิกา)

    ปกติแล้วผมจะสวดมนต์นั่งสมาธิเฉพาะช่วงเช้า เพราะเมื่อก่อนเคยนั่งก่อนนอนแล้วมันง่วง เลยเปลี่ยนมานั่งเฉพาะช่วงเช้า แต่ช่วงหลัง 2-3 สัปดาห์มานี้ผมรู้สึกเกิดอยากนั่งสมาธิขึ้นมาก่อนนอน แต่วันธรรมดานั่งได้แป๊ปเดียวอย่างมากก็ 1 ชั่วโมง เพราะวันรุ่งขึ้นต้องไปทำงาน และอีกอย่างมันดึกมากเลยไม่อยากนั่งนาน แต่คืนวันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม 2011(เข้าวันที่ 17 เสาร์อาทิตย์เป็นวันหยุด) ผมก็สวดชินบัญชร 1 จบและนั่งสมาธิจับอารมณ์หนึ่งเดียว(เอกัคคตารมณ์)เป็นปกติเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้กลับนั่งสมาธิได้นานกว่าเดิม และผมรู้สึกอยากจะนั่งไปเรื่อยๆ ไม่รู้ทำไม เพราะปกติแล้วเวลาผมนั่งสมาธิแค่ 1 ชั่วโมงเหมือนสมาธิยังไม่ลุ่มลึกเข้มข้นพอ ฉะนั้น ช่วงหลังๆ จากนั่งสมาธิ 1 ชั่วโมงผมจึงเพิ่มเป็น 2 ชั่วโมง ซึ่งชั่วโมงที่ 2 จิตผมจึงจะรู้สึกโปร่งโล่งเบาสบายขึ้นมาได้ ครั้งนี้ก็เช่นกัน ผมก็นั่้งไป 2 ชั่วโมงกว่า ซึ่งปกติผมนั่งสมาธิแค่ 2 ชั่วโมงก็ปวดขาแย่แล้ว นั่งต่อไม่ไหวแล้ว จะต้องเปลี่ยนอิริยาบทมาเป็นแบบนั่งสมาธิปล่อยขา แต่ครั้งนี้ผมกลับไม่รู้สึกปวดขาเลย ผมจึงนั่งไปเรื่อยๆ นึกว่ายังไม่ถึง 2 ชั่วโมง ซึ่งขณะนี้สมาธิของผมก็ลุ่มลึกเข้มข้นพอสมควร ต่อจากนั้นผมก็แผ่เมตตาในฌานสมาธิ เนื่องจากผมเคยไปอ่านในกระทู้หนึ่งมีผู้ปฏิบัติธรรมคนหนึ่ง เขาแนะนำว่า ควรจะแผ่เมตตาขณะอยู่ในฌานสมาธิ(จิตนิ่ง)เพราะบุญจะแรงกว่า ยิ่ิงถ้าจิตบริสุทธิ์และมีสมาธินิ่งลึกมากเท่าใดบุญก็จะแรงมหาศาลมากเท่า นั้น สัปดาห์นี้ผมจึงเปลี่ยนมาเป็นแผ่เมตตาในฌานสมาธิ แต่ผมใช้คำแผ่เมตตาว่า “เมตตาไร้ประมาณ” เพราะผมทดสอบแผ่ในฌานสมาธิแล้วผมรู้สึกว่าคำนี้มีพลังที่แรงมากกว่าคำว่า “เมตตา” เฉยๆ

    พอผมแผ่เมตตาไร้ประมาณอุทิศให้กับทุกจิตทุกวิญญาณใน ทั่วภพสามโลกัณฑ์รวมถึงญาติพี่น้องพ่อแม่ครูบาอาจารย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ต่างๆ ที่ผมนับถือจนครบแล้ว และก็ไม่ลืมที่จะอุทิศแผ่เมตตาถวายแด่พระนิพพานทั่วธาตุทั่วธรรมและพระ พุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พอแผ่เสร็จ ผมก็รู้สึกอยากจะภาวนาคำว่า “สัญญา เวทยิตนิโรธ” ซึ่งก่อนหน้านี้ผมเคยภาวนาคำนี้มาแล้วในฌานสมาธิ แต่ตอนนั้นภาวนาไม่ถูกประกอบกับจิตปรุงแต่งว่า สภาวะนี้ควรจะเป็นแบบนั้นแบบนี้(ไปอ่านในกระทู้มาว่าสภาวะนิโรธสมาบัติควร เป็นแบบนี้) และณ ตอนนั้นกำลังสมาธิยังไม่ถึงด้วย และอีกอย่างคงยังไม่ถึงวาระจิตด้วยเละ ที่รู้ว่าภาวนาผิด ก็เ้พราะว่ามีวันหนึ่งผมรู้สึกอยากจะคุยกับรุ่นน้องคนนี้ทางเอ็มขึ้นมา เหมือนมีบางสิ่งดลใจผม พอคุยเอ็มไปน้องเขาก็รู้สึกขึ้นมาและทักผมว่า ผมมีภูมิธรรมที่สูงขึ้น น้องเขารู้สึกได้(น่าจะเป็นที่ผมมีความเห็นที่เป็นความจริงที่ละเอียดขึ้น และปฏิบัติจริงได้ ก็คือ การรักษาจิตให้เป็นปกติสุขให้เป็นกุศลอยู่ตลอดเวลา รวมถึงการเห็นและเข้าใจถึงกฎแห่งธรรมดา) เขาจึงแนะนำให้ผมไปดูคลิปของดร. สนอง ซึ่งผมก็เข้าไปดูใน youtube และมีตอนหนึ่งที่ดร. สนองท่านพูดคำว่า “สัญญาเวทยิตนิโรธ” อ่านว่า “สัน-ยา-เว-ทะ-ยิด-นิ-โรด” ซึ่งเมื่อก่อนผมอ่านผิดมาโดยตลอด อ่านผิดเป็น “สัน-ยา-เวด-ยิด-นิ-โรด” ซึ่งในครั้งนี้ผมรู้สึกอยากภาวนาคำนี้จึงภาวนาได้ถูกต้อง

    พอเริ่มบริกรรมภาวนาในใจว่าสัญญาเวทยิตนิโรธ” ๆๆๆๆๆ พอภาวนาไป 2-3 ครั้ง กายสังขารหรือทั่วร่างกายของผมก็เริ่มซาบซ่านชาเบาขึ้นมาตามลำดับคำภาวนาที่ มากขึ้น จนสุดท้ายความซาบซ่านชาเบานั้นคงที่ไปทั่วร่างกาย ต่อมาหัวใจผมก็เริ่มเต้นแรงๆ ขึ้นมาอย่างฉับพลัน ตุ๊บๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อย่างกับรัวกลอง เหมือนหัวใจมันจะวิ่งออกมาเต้นข้างนอกซะให้ได้เลย ซึ่งหัวใจมันเต้นรัวแบบนี้หลาย 10 วินาทีเหมือนกัน แต่ผมก็ยังรู้สึกถึงลมหายใจที่เข้าออกอยู่ทุกขณะจิต ทันใดนั้นผมก็พูดขึ้นมาในใจว่า “ถ้าจะตายก็ให้มันตายไปเลยตรงนี้” หัวใจมันก็ยังเต้นรัวๆ อยู่เหมือนเดิม และผมก็นึกในใจว่าจะต้องประคองอารมณ์นี้ให้ได้ ผมจึงหันเปลี่ยนมาพิจารณาธรรมที่ผมพิจารณาอยู่บ่อยๆ ให้ อารมณ์ของจิตหรือใจเป็นปกติไม่ตื่นเต้นไม่งั้นหลุดจากสภาวะนี้แน่นอน โดยพิจารณาในใจ เช่น ทุกอย่างเป็นเรื่องธรรมดา ทุกข์เป็นเรื่องธรรมดา สุขก็เป็นเรื่องธรรมดา ความดีความชั่วก็เป็นเรื่องธรรมดา เราจงรักษาอารมณ์ของจิตหรือใจให้เป็นปกติสุขให้เป็นกุศลอยู่ตลอดเวลา นิพพานก็เป็นเรื่องธรรมดาเป็นแค่สภาวะหนึ่งเท่านั้น สิ่งสำคัญที่สุดที่ยิ่งกว่า ก็คือ การช่วยเหลือคนหรือผู้อื่น แต่เราจะช่วยเหลือผู้อื่นได้นั้น เราจะต้องหลุดพ้นในระดับหนึ่งเสียก่อน ฉะนั้น สำหรับเราแล้วการช่วยเหลือคนมาเป็นอันดับ 1 ส่วนนิพพานเป็นอันดับ 2 ต่อจากนั้น ผมก็พิจารณาธาตุทั้ง 4 ในกายสังขารตนเองต่อ ว่าส่วนใดคือธาตุดิน,ธาตุน้ำ,ธาตุไฟ,ธาตุลม เช่น หัวใจ ตับ ไต ไส้ หัวสมอง ผิวหนัง ฟันเล็บ ขน สมอง เลือด ลมปราณ ลมหายใจเข้าออก อุณหภูมิ เป็นต้น พิจารณาเท่าที่ตนเองจะนึกขึ้นได้ ณ ขณะนั้น

    ซึ่งขณะที่ผมพิจารณากายสังขารอยู่นั้น หัวใจผมมันก็เริ่มเต้นช้าลงๆๆๆๆๆๆๆ และช้าลงมาก เหมือนหัวใจมันเต้นช้าลงและเบามากกว่าปกติ แต่ผมก็รู้สึกถึงการเต้นของหัวใจได้ แต่อาการซาบซ่านทั่วร่างกายของผม มันก็ยังปรากฎอยู่ ผมจึงหันมาแผ่เมตตาไร้ประมาณแบบเมื่อกี้อีกครั้ง เพราะในสภาวะเช่นนี้น่าจะได้บุญอย่างมหาศาลเลย พอผมแผ่เมตตาไร้ประมาณไปสักพัก อาการซาบซ่านทั่วร่างกายเริ่มค่อยๆ สลายหายไป จนหายไปหมด ทันใดนั้นอาการปวดขาเริ่มปรากฎขึ้นแต่ไม่มาก แล้วผมก็แช่อยู่ในฌานสมาธิอีกสักพักหนึ่งจึงค่อยลุกขึ้นมาดูเวลา ปรากฎว่า ผมนั่งสมาธิไปเกือบ 3 ชั่วโมง ซึ่งขณะนั่งสมาธินั้นผมไม่รู้สึกปวดขาเลย แต่ผมค่อยมารู้สึกได้หลังจากออกนิโรธสมาบัติแล้ว ซึ่งขณะอยู่ในฌานรองลงมา ผมรู้สึกได้ว่าขามันกำลังปวดอยู่แต่จิตมันไม่สนใจมันละเวทนาทางกายสังขารได้ ผมจึงไม่รู้สึกเจ็บปวดใดๆ การเข้าฌานสมาธิในครั้ง นี้ถือว่า เข้าได้นานที่สุดเท่าที่เคยเข้ามา และจิตกับสมองก็รู้สึกโล่งโปร่งเบาสบายมากเลย หลังออกจากฌาน อีกอย่างตั้งแต่นั่งสมาธิมาไม่เคยเกิดอาการทางกายสังขารเลย ครั้งแรกที่เข้าถึงฌานสมาบัติได้ ตนเองอยู่ๆ ก็พูดในใจขึ้นมาขณะอยู่ในสมาธิว่า “ฌานสมาบัติ” เหมือนรู้ล่วงหน้าถึงสภาวะดังกล่าวที่จะเกิดขึ้น แล้วทันใดนั้นจิตกับสมองก็โล่งโปร่งเบาสบายขึ้นมาทันที หลังออกจากสมาธิ จิตกับสมองก็ยังรู้สึกโล่งโปร่งเบาสบายเหมือนเดิมโล่งสบายไปทั้งวันเลยวัน นั้น ผมจึงตั้งข้อสังเกตุพิจารณาว่า การที่ผมเข้านิโรธสมาบัติได้เป็นเวลา 5-10 นาทีในครั้งนี้ น่าจะเป็นสาเหตุจากพุทธจิตหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ครูบาอาจารย์ท่านมาสงเคราะห์ ดลใจให้ผมบริกรรมภาวนาคำดังกล่าวได้ถูกต้องและถูกวาระจิต และท่านก็ดลใจให้ผมเข้าฌานสมาธิไปเรื่อยๆ เพื่อสะสมกำลังสมาธิให้มากพอ และกำลัง แห่งสมาธิที่เข้มข้นที่สำคัญที่ท่านดลใจมาก็คือ การดลใจให้ผมแผ่เมตตาไร้ประมาณในฌานสมาธิมาหลายวันหลายคืน ซึ่งทุกอย่างมีเหตุมีปัจจัยเชื่อมโยงกันทั้งสิ้น ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมให้เกิดเปลือกของสภาวะสัญญาเวทยิตนิโรธแบบเบาบางเกิด ขึ้น ถึงแม้จะเป็นแค่เปลือกหรือประตูทางเข้าของสภาวะนิโรธสมาบัติที่ใช้เวลาแค่ 5-10 นาทีก็ตาม เพื่อให้ผมได้รู้สึกและเข้าใจในสภาวะของนิโรธสมาบัติในเบื้องต้น เพื่อต่อยอดให้เข้าถึงสภาวะนี้อย่างเข้มข้นในวาระจิตต่อไป

    คืนถัดมาผมก็เข้าฌานสมาธิจับอารมณ์หนึ่งเดียว(เอกัค คตารมณ์)ต่อ ซึ่งครั้งนี้แปลกมาก พอจับอารมณ์นี้แป๊ปเดียวจิตก็นิ่งลึกร่างกายก็ซาบซ่านไปทั่ว แต่หัวใจเต้นเป็นปกติ ซึ่งผมไม่เคยเข้าฌานสมาธิได้รวดเร็วเช่นนี้มาก่อนเลย และในคืนนี้ผมก็บอกกับจิตของตนเองว่า ให้นั่งสมาธิแบบปกติไม่ต้องสนใจในเปลือกของสภาวะนิโรธสมาบัติแบบเบาบางที่ เกิดขึ้นเมื่อวาน ถ้ามันจะเข้านิโรธได้อีกก็ปล่อยมันให้เป็นไปตามวิถีแห่งจิต ผมบอกเตือนตนเองอยู่เสมอว่า “อย่ายึดติด” “อย่ามีโมหะหรือความหลง” ซึ่งมันจะเป็นอุปสรรคที่สำคัญที่ขัดขวางมิให้เราได้พบเจอหรือเข้าถึงสภาวะ นั้นได้อีก ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติของจิต ซึ่งในคืนนี้ผมก็สังเกตุเหมือนเดิมว่าขาไม่ปวด แต่จิตผมรู้สึกได้ว่า ขามันปวดอยู่แต่จิตไม่สนใจหรือละเวทนาทางกายสังขารอยู่ พอออกจากฌานสมาธิ จิตจึงรู้สึกปวดขาขึ้นมา และรู้สึกว่านั่งตอนกลางคืนจิตจะมีสมาธิมากกว่ากลางวัน เพราะกลางวันมีเสียงก่อสร้างอาพาร์ทเม้นต์และเสียงรถเสียงอื่นๆ ดังมาตลอดเลย จึงเป็นสิ่งที่ก่อกวนสมาธิของจิตไม่ให้นิ่งสงบอยู่ตลอดเวลา แต่ผมก็จะเพียรพยายามฝึกฝนจิตต่อไปให้ดีขึ้นกว่าเดิม และให้มีกำลังสมาธิที่เข้มข้นกว่าเดิมด้วยเช่นกัน...

    การปฏิบัติธรรมในแนวทางของผมที่ผ่านมา

    เปิดญาณบารมี(ปัญญาญาณของเก่า)โดยไม่รู้ตัว --> กุศโลบายหรือความฉลาดของปัญญาญาณชี้นำผ่านความรู้สึก(ความรู้สึก=ปรมัตถ์) --> รักษาพรหมจรรย์หรือบวชเนกขัมมะในคราบฆราวาส(งดมิให้เกิดอารมณ์ทางเพศ ปฏิบัติธรรมจะไปได้อย่างรวดเร็วเป็นอัศจรรย์) เป็นกำลังแห่งสมาธิ --> ศีล 5 บริสุทธิ์ เป็นกำลังแห่งสมาธิ --> เพียรให้จิตมีสมาธิในทุกอิริยาบท --> พิจารณาเห็นความเป็นจริงเกิดวิปัสสนาญาณ --> เข้าสู่ธรรมกายหาตัวช่วย(ประตูสู่จิตเดิมแท้หรือพุทธจิต) --> พบเจอพุทธจิตชี้นำกุศโลบาย มั่นคงในความรู้สึกยิ่งขึ้น --> สร้างเหตุปัจจัยเพื่อชี้นำควบคุมและดลใจให้ปฏิบัติตาม ทำให้เกิดผลต่างๆ ในการปฏิบัติธรรม --> พุทธจิตและวิปัสสนาญาณชี้นำเกิดฌานสมาบัติจนครบ 8 --> วิปัสสนา ญาณพิจารณาเห็นความเป็นจริงในระดับที่ละเอียดขึ้น เช่น รักษากายวาจาใจให้เป็นปกติสุขให้เป็นกุศลอยู่ตลอดเวลา,กฎแห่งธรรมดา,เกิด ขึ้นตั้งอยู่และดับไป และอื่นๆ --> วิปัสสนาญาณเห็นความเป็นจริง+พุทธจิตชี้นำให้เกิดฌานที่เข้มข้นเพียงพอ = เกิดสัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติอย่างเบาบาง เพื่อต่อยอดสู่ระดับเข้มข้นต่อไป --> …… (อนาคต) ……

    เจริญสติในธรรม !
    ธรรมภูมิ
     
  15. chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ผมหลงเข้าไปในกระทู้คุณธรรมภูมินานมาก โดย เข้าใจผิด คิดว่าเป็นกระทู้ของผมเอง เนื้อหาสละสลวยอ่านแล้วหลงเหมือนคนหลงรักหญิงสาวสวยๆ--
    ต้องขอโทษด้วย งานที่ออกมาเหมือนคนไปป่วนกระทู้เขาเลย นี่แหละคำว่าอัตตา หรืออหังการ ไม่ดีเลยนะ
    --ดูอีกที่ เป็นข่าวสารแฝง ที่จะเป็นบทเรียนสินใจ ราวกับเพลงของภูสมิงและปุ้ม ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมากๆเรียกว่า กำลังหาไม้จิ้มฟัน แต่ได้ไม้ตะพดมา มีไว้ข้างกาย หรือเอาไว้ขายก็ดี
    --แต่ในทางครุบาคือเอาไว้แพ่นกระบาลจขกท.ยามที่เพี้ยนจากแนวทางธรรมมะต่างหาก
     
  16. chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    มังกรน้อย กับข้าว อาหารของคุณธรรมภูมิ กินำได้หลายวันเลยนะ อาจารย์เองก็กินอาหารธรรมอาหารจิตตรงนี้ได้ดีไม่มีอด ของดีของแท้ทนทานต่อการพิสุจน์์ครับ สุดยอดแห้่งการธรรมมะปฏิบัติในระยะนี้ ทอดตาทั่วเว็ปแล้วเป็นคนใหม่มาแรง
    ที่น่าสนใจมากๆเสนอให้ระดับ ป.โท นำไปเป็นตำราเรียนกัน
    --แืมข้อเขียนปม ผิดแล้ว ตรงที่บุพเพ คืออาการของกรรม ส่วนบุพเพนิวาสญาณฯ คือญาณชั้นสูง ของพระเกจิ ที่ทราบได้วาอดีตใครพัวพันกับใคร เป็นญาติก้ได้ ไม่จำเป้นต้องเป้นคู่ผัวเมีย ผิดมากๆ ซึ่งผมขอแก้ไขนะครับ ปล่อยนานๆ เดี๋ยวผมจะเป็นบาปทางโลกทิพย์เขาบอกมาแบบนี้
    --พี่สาวเป้นนักวิทยาศาตร์ พิมพ์ว่า พระภูมิ คือผีจำพวกนึง กำลังเย็บเล่มอยู่ ก็ทำใหเกระบวนการนี้ผิดพลาดหมด และโทรหา อจงว.กรม อ.วืกรมก็ไม่ได้นอน เพราะทางเทพดูท่านจะโกรธมาก มากวนในจิตทันทีจนป่วนไปหมด พี่เค้าก็ได้ข้อความมาจากเนตเช่นกัน จึงค่อนข้างจะเข็ดครับงานแบบนี้
     
  17. chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    เจ้าม้าป่า ตัวใหญ่ วัยคะนอง
    ใจคน ฤา มันลำพอง กว่าม้าป่า
    ม้าตัวนี้ เก่งกล้าและเกรียงไกร
    ฝึกให้ได้ ด้วยข้อธัมม์ พระสัมมา..
     
  18. chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    • เมิงสปา Spa กรูสบายตา อิอิ[
     
  19. chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    racehouse แทนที่จะอ่านว่า (ม้าแข่ง) เพราะเมื่อสายตาเห็นศัพย์ยาว มันก็เดาเอาว่าเป็นศัพท์ตัวนี้ คือภาพลวงตานั้นสร้างขึ้นมาจากสมองเลยทีเดียว จึงมาบังคับประสาทตาให้เห็นเป็นอะไรต่างๆ ถังนั้นถ้าคนที่มีจิตพลังเก่งๆ จะชี้นำ เอ่าจิตมากวนให้เราเห็นอะไรขึ้นมาเป็นภาพหลอนก็คงไม่ยาก วิชาจิตน่าศึกษา วิชช่าแปดประการน่าอัศจรรย์ เป็นกีฬาของผู้ใด้ญาณสมาบัติ เช่นแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ผู้ได้ญาณชานเป็นปกติธรรมมดา เจริญไว้ในจิตตลอด มีพลังปาฏิหารย์อันน่าอัศจรรย์ เป็นสิ่งเน้นยำ้คำสอนพระพุธองค์ ทำดีได้ดี ฝึกดีๆ วิชาดีๆ ก็จะได้เป็นเกจิ เมืองไทยมีของี ฝรั่งมังค่าอยากได้ จะเแาไปก้ไมได้ มีทหารฝรั่งหลายกรมกอง พยายามเข้ามาบวชเรียน แต่ก็ไม่ได้วิชาทางจิตไปดดังใจ เช่นในเรื่อดำน้ำบางช่วงก็จะใช้คลื่นวิทยุไม่ได คลื่นโซน่าร์ก็ไม่ได้ ต้องใช้พลังจิตเอา ทางรัสเซียก็มีคนเก่งๆ แต่จะเทียบำพระเกจิเรากไ็ไม่ได้ ดังนั้นสงครามพลังจิตก็รางเลือน ไอ้กลจักรพลังจิตคือคลื่นวิทยุที่ผสมคำพุด หรืแ ความหดหุ๋เข้าไป มันไม่ดีสำหรับมนุษย์ จะเป็นโทษภัยร้ายแรงต่อธรรมชาติมากกว่า
     
  20. chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    จะพิมพ์ ช กระเชอได้ยีังไงใครรู้บ้าง ตัวหนังสือไทยจะหายหมดแล้ว
     

แชร์หน้านี้