มรรคาวิทยาคม....พ่อท่านทวี ฐิตธัมโม..วัดบ้านไร่พัฒนาราม ปัตตานี

มรรคาวิทยาคม....พ่อท่านทวี ฐิตธัมโม..วัดบ้านไร่พัฒนาราม ปัตตานี
ศิษย์พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์-พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้....หนึ่งพุทธาคม...รูปเหมือนเล็ก..คงกระพันกันภัย!!!


พ่อท่านทวี ศิษย์พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ อาจารย์ทิม วัดช้างให้​

เรื่องเหนือสามัญวิสัย อิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทพเทวดาในแง่มุมของพระพุทธศาสนา อิทธิปาฏิหาริย์ก็ดี เทพเทวดา ก็ดี จะมีจริงหรือไม่นั้น ถ้าหากเราถือตามตัวอักษรในพระไตรปิฏก รวมทั้งในพระพุทธประวัติ เราจะเห็นว่ามีระบุอยู่ทั่วไปในคัมภีร์ ก็คงยืนยันได้ว่า “มี” แต่การที่เราจะพิสูจน์ว่าเทพเทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ อำนาจลึกลับว่ามีจริงหรือไม่นั้น ยากที่จะทำให้คนทั้งหลายยอมรับหรือเห็นพ้องเป็นคำตอบเดียวกันได้ พระพุทธศาสนาไม่ประสงค์ให้ผู้คนเชื่อถือและงมงายในสิ่งเหล่านี้ ทั้งนี้ “พระพุทธศาสนากล้าท้าให้สิ่งเหล่านี้มีจริง เป็นจริง โดยประกาศอิสรภาพให้แก่มนุษย์ ท่ามกลางความมีอยู่ของสิ่งเหล่านี้” การที่เราจะพิสูจน์ว่าสิ่งเหล่านี้มีจริงหรือไม่นั้น ไม่สำคัญเท่ากับว่าในกรณีที่มีอยู่จริง สิ่งเหล่านั้นมีฐานะอย่างไรต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ และอะไรคือความสัมพันธ์อันถูกต้องระหว่างมนุษย์กับสิ่งเหล่านั้น และเพื่อให้รู้ถึงความเกี่ยวข้องของมนุษย์ เทพเทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างไรนั้น เราควรเปิดใจในการศึกษาต่อสิ่งเหล่านี้ เพื่อให้รู้ว่าอะไรเป็นอะไรและจำเป็นที่เราจะต้องพึงศึกษาให้รู้แจ้ง หากแต่ไม่ควรรีบปฏิเสธด้วยเพียงการใช้ “ความเห็น” เนื่องจากความเห็นไม่ใช่ “ข้อเท็จจริง” เพราะความเห็นนั้นขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแต่ละคน ส่วนความจริงคือเรื่องจริงถึงกระนั้นหากเราเชื่อ เราก็ไม่ควรเชื่อจนงมงาย หรือยึดติดในเทพ เทวดา เครื่องราง ของขลัง ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์จนเกินพอดี ดังนั้นการปฏิบัติต่อเทพ เทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งหลาย เราจึงควรคิดพิจารณาด้วยปัญญา ด้วยศิลปะ ด้วยความคิดที่ถูกต้อง ตามแต่ละสถานการณ์ แต่ละโอกาส ที่สำคัญที่สุดคือเราต้องรู้เท่าทันตามความเป็นจริง..

....เมื่อสิบปีก่อนละแวกภาคใต้ตอนล่างนั้นหากมีการจัดพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลกันเมื่อไร... ว่ากันว่าพิธีดังกล่าวถือว่าเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ ทางวัดเจ้าภาพที่มักจัดกันเองไม่เกี่ยวข้องกับนายทุนนักธุรกิจพระวัดก็มักจัดให้มีการปลุกเสกกันอย่างจริงจังบางวัดนิมนต์พระเกจิอาจารย์ให้เสกกันถึงดึกดื่น..เจ้าภาพเองก็ต้องจัดหาที่หลับที่นอนจำวัดให้พระเกจิอาจารย์กันด้วยเสมอ...

หลายพิธีดังกล่าวได้มีพระเกจิอาจารย์มาร่วมพิธีมากมาย พระผู้ใหญ่ในสาย“พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้” จังหวัดปัตตานี หนึ่งในพระผู้เข้าร่วมพิธีรูปหนึ่ง เมื่อท่านได้เห็นพระเกจิอาจารย์ที่มาร่วมพิธีแล้ว ท่านจึงได้ถามเจ้าภาพว่า

“ทำไมไม่นิมนต์ ท่านวีวัดบ้านไร่มาด้วยล่ะ ท่านวีท่านสมาธิดีนะ” ​

เล่ากันว่าด้วยคำยกย่องที่พระเกจิอาจารย์สายพระอาจารย์ทิมรูปนั้น มีต่อท่านวี..หรือพ่อท่านทวีอีกนามคือ พระครูพัฒนกิจประยุต เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่พัฒนาราม ตำบลปากล่อ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานีศิษย์พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์..พระอาจารย์ทิมวัดช้างให้..นี่เอง ทำให้หลังจากนั้นท่านเจ้าภาพต้องเร่งรีบไปนิมนต์พ่อท่านทวีมาร่วมในพิธีปลุกเสกเสียทุกครั้งเลยทีเดียว....

นี่คือ..พระเกจิท้องถิ่นอีกรูปที่ทางส่วนกลาง(กรุงเทพ)ไม่ทราบและจะไม่ทราบอีกต่อไป..หากผมซึ่งเป็นคนพื้นที่ เกิดและเติบโตที่นั่น ไม่เขียนถึงพระเกจิอาจารย์บ้านเกิดตัวเองแต่ในบัญชรนี้ผมได้เขียนถึงท่านแล้วเพื่อเป็นการบูชาพระคุณ..ร่วมบุญบริสุทธิ์ปราศจากอามิสใด ๆ ดังที่ปฏิบัติมาโดยตลอดที่อยู่ในวงการนี้....

ภาคใต้ของเรานอกจากจะมีความเป็นธรรมชาติที่สวยงามแล้ว ยังมีเรื่องราวของ “พระเกจิอาจารย์” ที่มากไปด้วยความขลังให้เล่าขานและตามหาไม่รู้จักจบครับ บางองค์เด่นทางด้านคาถาอาคม บางองค์มากบารมีเปี่ยมด้วยความศักดิ์สิทธิ์ สำหรับพ่อท่านทวีวันนี้ท่านอายุ 81 ปีแล้ว ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ถึงพร้อมในทั้งสองด้านครับ เชื่อถือกันเลยว่าคาถาของท่านศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก..โดยเฉพาะวิชาดูดวงชะตา ทำพิธีสะเดาะเคราะห์ แก้ดวงต่าง ๆแล้ว ท่านไม่เป็นรองอาจารย์ท่านอื่นใดเลยจริงแท้..

 

ด้านวัตถุมงคลก็ฉมังไม่น้อย!!

“พระของดาโต๊ะ วัดบ้านไร่ ผมเคยไปหาท่าน ท่านเป็นพระที่เก่งมาก”

แบแซ..เจ้าของสวนยางพาราที่ยะลาเอ่ยขึ้น พร้อมกับยื่นตะกรุดดอกเล็กๆ พร้อมรูปเหมือนเล็กพ่อท่านทวีที่ร้อยเชือกเป็นพวงเดียวกันให้ผมดู เขาบอกว่าตะกรุดและพระรูปเหมือนเล็ก ๆ ของดาโต๊ะวัดบ้านไร่ชุดนี้เป็นสิ่งแรกที่เขาได้รับจากมือท่าน เขาก็พกพาติดตัวเรื่อยมาโดยไม่ให้คนใกล้ชิดทราบ.. ผมฟังแบแซพูดพลางหัวใจผมสดชื่นสดใสทันที เรื่องราวของพ่อท่านทวีที่ยังจาง ๆ อยู่ในความคิดของผม เริ่มมีชีวิตชีวาขึ้นมาราวกับกำลังชมภาพยนตร์ที่ฉายโดยมุสลิมเจ้าของสวนยางท่านนี้…

อีกเรื่องที่โจษจันกันมากเรื่องปาฎิหาริย์ของพระเครื่องของพ่อท่านทวี...ที่อำเภอบาเจาะจังหวัดนราธิวาส..แบเลาะ(นามสมมุติ) คือพระเอกของเรื่องเล่านี้

วันหนึ่งแบเลาะได้ออกไปทำงานตามปกติ... ตอนนั้นก็เหมือนตอนนี้กองโจรก่อการร้ายชุกชุมราวกับยุง บางกลุ่มเป็นเครือข่ายใหญ่ถึงขนาดมีรถนำขบวนคอยส่งข่าวล่วงหน้า ก็ให้บังเอิญว่า...ไม่รู้ว่าเป็นคราวเคราะห์อะไรของแบเลาะ..พระผู้เป็นเจ้าลงโทษเขาหรือไรกัน..ขณะที่เดินทางอยู่แบเลาะถูกลอบทำร้ายจากผู้ไม่หวังดี...ในจุดเกิดเหตุมีการใช้อาวุธปืนหมายสังหารแบเลาะถูกยิงเข้าอย่างจังแต่อนิจจาลูกตะกั่วร้อนๆ ที่ถูกขับออกจากกระบอกปืนไม่สามารถทำอันตรายได้แค่เฉียดไปเฉียดมา..หนำซ้ำแบเลาะแกกล้าสาบานว่าแกบังเอิญเห็นลูกปืนที่ยิงมาตกลงต่อหน้าต่อตาขณะที่ตัวนอนลงราบกับพื้น...

เขาไม่เป็นอะไรเลย... สอบสัมภาษณ์แล้วพบว่าทั้งเนื้อทั้งตัวมีรูปเหมือนเล็กของพ่อท่านวีเพียงองค์เดียว ให้ตายเถอะ …ครับ ปฏิเสธไม่ได้ว่าพุทธคุณในเครื่องรางของขลังมีอานุภาพปกป้องชีวิตของคนๆ หนึ่งได้และอิทธิพลของอำนาจพุทธคุณนี่เองที่ช่วยให้หลายต่อหลายคนยังคงยืนหยัดมีชีวิตและตัวตนได้ในทุกวันนี้…แม้ว่าเขาคนนั้นจะเป็นมุสลิมต่างศาสนาก็ตามทว่าคุณพระก็ยังแผ่บารมีให้อย่างถ้วนทั่วได้....
พ่อท่านเคยสอนธรรมะให้ผมว่า..

เกิดเป็นมนุษย์ต้องรู้จักให้ และต้องเป็นการให้แบบไม่ต้องสงสัยเพราะหากเราสงสัยเมื่อใดเราก็จะเกิดความทุกข์ทันที ... เมื่อทำความดีไม่จำเป็นต้องบอกใคร ใครไม่รู้แต่เรารู้เพราะความดีนั้นปรากฏอยู่ในใจของเรานั่นเอง...

มุสลิมมาหาพ่อท่านทวี วัดบ้านไร่พัฒนาราม ปัตตานี กันมากมาบูชาพระท่านไปติดตัวก็เยอะแยะ​

 

จากประวัติของพ่อท่านทวี...มีบันทึกไว้ว่า ท่านเกิดเมื่อ พศ.2474 ตรงกับปีจอ ณ จังหวัดนครศรีธรรมราช เดิมท่านชื่อ นายทวี รักษาศรี (มาเปลี่ยนเป็น วีระพันธ์ ในภายหลัง)

ถึงแม้ว่าหลังจากที่เด็กชายทวีเกิดได้ไม่กี่ปี ทางการจะเริ่มหันมาพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทย แต่นั่นก็ยังไม่สามารถทำให้ครอบครัว...ซึ่งประกอบอาชีพเป็นชาวสวนชาวนาลืมตาอ้าปากได้ เพราะความที่ครอบครัวของท่านยากจนเหลือลำเค็ญ ชีวิตในวัยเด็กของท่านจึงต้องช่วยเหลือพ่อแม่ทำงานทุกอย่าง จวบจน อายุประมาณ 10 ปีต่อมานั่นแหละครับเด็กชายทวี จึงได้มีโอกาสเดินทางมาทำงานช่วยเขากรีดยางพาราตั้งแต่เล็ก ที่อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช..จนต่อมาได้รับการอุปการะจากคุณแม่เดี้ยมและคุณพ่อสง นามสกุล ฉิมเพชร และมีพี่ฉลอง วีระพันธ์ เป็นผู้ดูแลอีกคนหนึ่ง...จึงต้องย้ายไปอยู่ที่จังหวัดตรัง

จนกระทั่งเมื่ออายุครบ21ปี จึงเข้าพิธีอุปสมบทในงานพระราชทานเพลิงศพ..หน้าศพ พ่อท่านเอียด.. พระครูวุฒิโสภณ วัดศรีรัตนาราม (หนองช้างแล่น)..ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน6 พศ.2502โดยมี พระครูโชติคุณาธรวัดเขาปูน เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ผุด อกิญจโน เป็นพระกรรมวาจา บวชแล้วก็เรียนพระธรรมวินัย..จนจบนักธรรมโทในพรรษาที่ 3 ก็ไปลาอุปัชฌาย์ว่า.จะไปทำวิปัสสนาที่วัดชัยชุมพลที่อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช กับอาจารย์ครูโย จากการฝึกกรรมฐานทำให้พ่อท่านทวีเลิกฉันหมากเลิกสูบบุหรี่ใบจากยาเส้น...จากที่เคยกลัวผีก็หมดไป..เพราะต้องอยู่ป่าช้าทำสมาธิมาโดยตลอด...พรรษาที่ 6 ไปจำพรรษาที่วัดหาดใหญ่ใน อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา..กับท่านพระครูพิศาลเป็นเวลา 2 พรรษา ระหว่างนั้นได้ดินทางธุดงค์รุกขมูล(ถือธุดงค์อยู่โคนไม้) มาตลอดโดยเฉพาะได้ไปอยู่ในป่าช้าปากหลาม อำเภอฉวางจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ไปอยู่กับพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ เป็นเวลานานหลายเดือน ไป ๆ มา ๆ กับท่านได้คาถาอาคมและกรรมฐานมาพอสมควรทำให้มีความสนิทสนมและได้รับความเมตตาจากพระครูรังสรรอธิมุต วัดหาดสูง อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นศิษย์ พ่อท่านกรายวัดหาดสูง ร่วมอาจารย์เดียวกับพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์...ระหว่างที่เดินธุดงค์อยู่ไม่เป็นที่ ได้ไปอยู่กับพระอาจารย์หับ ที่ ถ้ำนางหย่อน จังหวัดพังงา และได้ข่าวว่าพระอาจารย์เลื่อน พระกรรมฐานที่ ถ้ำพระหอ ท่านเก่งทางสมาธิละไสยศาสตร์นักจึงไปอยู่กับท่านอาจารย์เลื่อน...ได้สรรพวิชามาไม่น้อยแม้กระทั่งทางพม่า..พ่อท่านทวียังมีมานะอุตสาหะเดินทางไปเรียนกรรมฐานจากพระพม่าที่ถือว่าเคร่งครัดมากโดยลงเรือที่จังหวัดระนอง...

พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ ครูบาอาจารย์ของพ่อท่านทวี วัดบ้านไร่​

ท่านเดินทางธุดงค์อยู่ในป่าช้าทุกจังหวัดเพื่อทดสอบจิตใจเพราะท่านอาจารย์ท่านห้ามมิให้อยู่ใกล้ชุมชนเงินทองก็ไม่ให้รับจากญาติโยมเด็ดขาด...ขณะที่ท่านเข้าพักแขวนกลดไว้กับกิ่งไม้ในป่าช้าแห่งหนึ่งบริเวณใกล้ริมคลองป่าเรียบร้อยแล้ว ..ท่านก็เดินจงกลมคลายความเหน็ดเหนื่อยพอสมควรแล้ว ท่านก็นั่งสมาธิภาวนาในกลด เพราะเป็นช่วงพลบค่ำพอดี….ความอัศจรรย์เกิดขึ้นแก่จิตก็เกิดขึ้น..ขณะที่นั่งสมาธิจนจิตค่อยสงบลงแล้วสติสัมปชัญญะสมบูรณ์แจ่มใสมาก ท่านได้เล่าให้บรรดาศิษย์ฟังภายหลังว่าจิตสงบดีแล้วเหตุการณ์การอันอัศจรรย์ก็ปรากฏขึ้น ทำให้เห็นแสงสว่างโล่จ้าฉายลอยขึ้นเด่นชัด จากริมแม่น้ำลำป่า ไปอยู่ในท่ามกลางอากาศก็ได้กำหนดแสงเหล่านั้นมาพิจารณา แล้วทำอุบายเพ่งเป็นกสิณ โดยอาศัยแสงสว่างที่ปรากฏมาเป็นนิมิตรหมายแห่งการบำเพ็ญเพ่งเป็นองค์กสิณยิ่งนานวัน ความสงบยิ่งแนบแน่นตามลำดับ

การอยู่ป่านั้นต้องมีจิตที่เข้มแข็ง..เมื่อความมืดมาปกคลุมไปทั่ว บริเวณภายนอกกลดอากาศเย็นเป็นพิเศษ ขณะท่านนั่งกำหนดจิตอยู่ ทันใดนั้นความเงียบก็ถูกทำลายด้วยอำนาจสัตว์ร้ายไม่ทราบว่าเป็นตัวอะไร เสียงร้องของมันขู่ข่มขวัญ ทุกคนที่ได้ยิน มันเดินไปวนมาข้าง ๆ กลดเพราะได้กลิ่นมนุษย์ ท่านได้ปฏิบัติตามคำเตือนให้อยู่ในความสงบ นั่งปฏิบัติกันโดยปกติ สัตว์ร้ายหรือวิญญาณในป่าพงไพรเหมือนมาทดสอบจิตใจเมื่อพระธุดงค์ทุกท่านมีมานะอดทนที่แน่วแน่ พร้อมทั้งแผ่เมตตาไปยังสิ่งนั้นในที่สุดต้นเสียงที่น่าสะพรึงกลัวก็สิ้นความพยายามผละหายกลับไปในป่าลึก…จากการเดินธุดงค์ไปทั่วทั้งตอนบนของจังหวัดภาคใต้ ต่อมา พ่อท่านทวี ท่านได้จำพรรษาที่ วัดพระพรหม อำเภอพระพรหม จังหวัดนครศรีธรรมราช เพราะเล็งเห็นว่าเหมาะแก่การเจริญวิปัสสนาสมาธิเป็นอย่างยิ่ง ...จนกระทั่งมาอยู่วัดหมุนอำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราชและ..ได้ยินหนาหูว่า..ท่านพระครูวิสัยโสภณหรือพระอาจารย์ทิม วัดช้างไห้ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานีท่านมีพรหมวิหารสูงนัก...ท่านจึงเดินทางมาขอพึ่งพิงบารมีพระอาจารย์ทิม...จะว่าไปแล้ว..ท่านอาจารย์ทิมหรือท่านพระครูวิสัยโสภณ ได้ปลุกหลวงพ่อทวดให้ตื่นขึ้นมาในระยะเวลา 50 กว่าปีมานี้ ทำให้ผู้คนรู้จักวัดช้างให้ รู้จักพระเครื่องหลวงพ่อทวดแห่งจังหวัดปัตตานี แม้ว่าบางคนไม่เคยไปวัดช้างไห้แต่ก็รู้จักในชื่อได้ดี เมื่อท่านพระครูวิสัยโสภณหรือท่านอาจารย์ทิมมรณะภาพไปเสียแล้วเช่นนี้ ต่อไปหลวงพ่อทวดจะตื่นอยู่เหมือนอย่างท่านอาจารย์ทิมยังมีชีวิตหรือไม่ ก็เป็นเรื่องที่ไม่มีใครพยากรณ์ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับความเป็นอนิจจัง สิ่งที่แน่นอนที่สุดคือเรื่องอดีตที่ล่วงมาแล้ว ท่านอาจารย์ทิมหรือท่านพระครูวิสัยโสภณ ท่านมีคุณธรรมความเมตตาสูงมาก มีปฏิปทาน่าเลื่อมใส เสมอต้นเสมอปลายไม่ขึ้น ๆ ลง ๆ หรือเห่อเหิมไปตามความนิยมสรรเสริญของโลก แม้ว่าท่านจะหวั่นไหวไปบ้างในบางครั้งบางคราวตามวิสัยปุถุชนก็เพียงแต่น้อย เหมือนลมพัดถูกใบไม้จะไหวก็เพียงใบและกิ่งก้านเท่านั้น หาได้สะเทือนถึงลำต้นไม่ ในคราวที่ท่านถูกปลดออกจากเจ้าอาวาสเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2505 ฐานมีความผิดไม่ขออนุญาตในการปลุกเสกพระเครื่องหลวงพ่อทวด เนื้อโลหะซึ่งมีพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพร เป็นองค์อุปถัมภ์ประธานในพิธี ท่านก็มิได้แสดงอาการออกให้เห็นว่าเสียอกเสียใจอย่างไร ใครถามท่าน ท่านก็ตอบว่าดีแล้วไม่ต้องรับภาระ

นับว่าเป็นโชคดีที่พ่อท่านทวีได้มาอยู่กับพระอาจารย์ทิมผู้ทรงเมตตาบารมี...จึงได้รับการถ่ายทอดวิชาให้ยามปรนนิบัติพระอาจารย์ทิม..พระอาจารย์ทิมท่านเมตตาพ่อท่านทวีมากถึงกับฝากฝังพ่อท่านทวีไว้กับท่านพระครูมนุญสมณการ วัดพลานุภาพ(ทุ่งพลา) ว่าให้ดูแลพระรูปนี้ด้วย...

ท่านอาจารย์ทิมหรือท่านพระครูวิสัยโสภณ มรณะภาพด้วยโรคมะเร็งที่หลอดอาหาร ท่านอาจารย์ทิมหรือท่านพระครูวิสัยโสภณได้เริ่มอาพาธมาตั้งแต่ปี 2510 หลังจากเริ่มก่อสร้างพระเจดีย์ 1 ปี อาการของท่านได้ทวีความรุนแรงขึ้นทุกที เวลาฉันอาหารรู้สึกแสบที่หลอดอาหารเป็นอย่างนี้ประมาณ 1 ปี จนกระทั่งถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2512เวลา 0.37 น. ท่านพระครูวิสัยโสภณ หมดลม อัสสาสะ ปัสสาสะลา จากไป..

พระอาจารย์ทิมวัดช้างให้..อาจารย์ที่พ่อท่านทวีเคารพรักเหมือนพ่อในทางธรรม​

พ่อท่านทวีได้รับเมตตาจากท่านพระครูมนุญสมณการ วัดพลานุภาพ (ทุ่งพลา) ให้มาอยู่ด้วยหลังจากพระอาจารย์ทิมมรณภาพ...มาวันหนึ่ง นายอุ้ย ชูโต ได้ถวายที่ดิน1ไร่2งานให้หลวงลุง คือท่านพระครูมนุญสมณการ หลวงลุงจึงให้พ่อท่านทวีรับภาระมาสร้างวัดในเนื้อที่ดินที่โยมเขาถวายมาพร้อมกับเงิน7000 บาท ในปี 2513 ด้วยความเป็นพระที่ตั้งใจท่านจึงสร้างกุฏิไม้และขยายที่ดินวัดเพิ่มเติมเรื่อยโดยตัวท่านรูปเดียวกระทั่งได้รับการแต่งตั้งเป็น วัดบ้านไร่พัฒนาราม โดยมีท่านเป็นเจ้าอาวาสรูปแรก โบสถ์ ศาลา กุฏิพระ โรงครัว มณฑป สร้างเสร็จสิ้นเหลือเพียงเมรุเท่านั้นที่ยังกำลังหาปัจจัยสร้างในปัจจุบัน...พ่อท่านทวีเป็นผู้ที่เก่งในวิชาไสยศาสตร์ โดยเฉพาะวิชามหาลาภ ต้องถือเป็นที่สุด ท่านเล่าว่า…ท่านสร้างวัดได้ก็เพราะวิชาเหล่านี้

ในทางมหาอุด..

เล่าลือกันเคยมีชาวบ้านมายิงนกที่วัดบ้านไร่พัฒนารามโดยหันมาทางทิศที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหลวงพ่อเชียงแสน พระคู่บุญบารมีพ่อท่านทวี....แต่เจ้ากรรมยิงเท่าไรก็ยิงไม่ออกแต่พอหันปากกระบอกปืนไปทางอื่นกลับยิงออก มีบางคนเคยฝืนทดลองยิงต่อปรากฏว่าปืนแตกเล่นเอา หน้าแตก มือแตกเลือดไหลไปตาม ๆ กัน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เป็นที่เคารพยำเกรงของชาวบ้านเป็นอย่างมาก

 

พ่อท่านทวีวัดบ้านไร่ ศิษย์พ่อท่านคล้ายแท้ๆดูดวงชะแม่นที่สุดมีคาถาทางมหาลาภเป็นหนึ่ง ท่านสร้างวัดด้วยการดูดวงชะตา สะเดาะเคราะห์ ไล่คุณไสย ของขลังอิสลามยังแขวน..


ท่านเสกผ้าผูกหัวเรือประมงให้มหาเศรษฐีท่านหนึ่งของภาคใต้..(เสกด้วยมนต์พระสังข์)


แผ่อาคมบารมีเจิมรถ


พ่อท่านทวีทำพิธีสะเดาะเคราะห์แบบโบราณภาคใต้หาชมได้ยากเห็นพุทธคุณกันมาก..แม้มุสลิมยังเชื่่่อ...เสริมวาสนาดีนัก


พ่อท่านทวีเสกวัตถุมงคลมวลสารสร้างพระผงพ่อท่านคล้าย อาจารย์ใหญ่ของท่าน

​

อย่างไรก็ตามเพียงความเลื่อมใสศรัทธาในวิชาไม่อาจเพียงพอกับการเป็นที่รักของชาวบ้านได้เท่ากับการมีคุณธรรม เพราะพ่อท่านทวี เป็นคนมีจิตใจดี เป็นนักปฏิบัติธรรมตัวยง.. ท่านสามารถแยกระหว่างธรรมกับกิเลสออกเทียบเคียงกัน โดยถือเอาประโยชน์สาธารณะเป็นหลักมากกว่าจะเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว ท่านได้สอนคุณธรรมของผู้มีวิชาอาคมกับผมไว้ว่า....ให้ใช้วิชาเพื่อช่วยเหลือมนุษย์โดยเฉพาะผู้ตกทุกข์ได้ยาก...ห้ามใช้วิชาไปในการเบียนเบียนผู้อื่น...ห้ามใช้วิชาโดยเห็นแก่อามิสสินจ้าง

คำสอนของท่านถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดครับ เพราะในเรื่องของการสร้างและปลุกเสกวัตถุมงคลนั้น ปรัชญาและเงื่อนไขมิใช่เพียงแค่ยึดถือเฉพาะในตำราเท่านั้น ครับ

หากเริ่มต้นตั้งแต่ทำอย่างไรตนเองจึงจะมีคุณสมบัติในการสร้าง ทำอย่างไรจึงจะสร้างได้เข้มขลัง และเมื่อขลังแล้ว ทำอย่างไรความขลังนั้นจึงจะขลังแบบถาวร และเรื่องที่สำคัญที่สุดคือทำอย่างไรถึงจะให้ผู้ที่ได้รับวัตถุมงคลนั้น เป็นผู้ที่มีศีล มีคุณธรรมและมีสติตลอดเวลา ซึ่งประเด็นสุดท้ายนี้จะมีขึ้นไม่ได้หากผู้สร้างไม่เป็นตัวอย่างให้เห็นครับ...ทุกวันนี้เรื่องราวของพ่อท่านทวีในบางเรื่องจะเลือนหายไปตามกาลเวลา แม้ว่าท่านยังอยู่ก็ตาม ขออนุญาตบันทึกไว้นะครับว่า...ท่านพระครูพัฒนกิจประยุตหรือพ่อท่านทวีเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้มีความเคร่งครัดในการปฏิบัติศาสนธรรมและเมตตาบารมีธรรมสูง มีคณะศิษยานุศิษย์ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ....รู้จักในนามของพระเกจิอาจารย์เรืองวิทยาคม แก่กล้า และพลังจิตตานุภาพรูปหนึ่งของสายใต้..

รูปเหมือนและภาพวาดพ่อท่านทวีในกุฏิ​

 

เหรียญรุ่นแรกปี 2517 ด้านหน้า หลวงพ่อเชียงแสน


ด้านหลังเหรียญรุ่นแรกเป็นรูปพ่อท่านทวี​

ท่านได้จัดสร้างเหรียญ รุ่นแรกเมื่อปี2517 อธิษฐานจิตประจุพุทธาคมปลุกเสกเดียวเป็นเวลานานด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อเชียงแสนด้านหลังเป็นรูปท่านจารึกว่า...อาจารย์วัดบ้านไร่ สำหรับรุ่นสองเป็นเหรียญสร้างปี 2519 สร้างพร้อมกับผ้ายันต์ป้องกันอุบัติเหตุสีขาว (ผ้ายันต์ที่วัดยังเหลืออยู่) เหรียญทั้งสองรุ่นหมดนานแล้วนะครับ… รูปเหมือนเล็กพ่อท่านทวีสร้างปี 2553 มีอภินิหารมากครับอย่างที่ผมเขียนไปแล้วที่วัดยังมีอยู่ท่านมอบให้ผู้ที่ทำบุญสร้างเมรุ 100 บาท ขึ้นไปครับ..ตะกรุดสามกษัตริย์ที่มุสลิมก็แขวนได้เรียกกันในหมู่เขาว่า...อาซีมัสดาโต๊ะ วัดบ้านไร่และรูปเหมือนหลวงพ่อเชียงแสนมหาลาภขนาดห้านิ้วทำบุญ 1000 บาท คนทำการค้าจากทั่วสารทิศมาบูชากันไม่น้อยครับ...พ่อท่านสร้างและปลุกเสกเดี่ยวไม่เคยนำไปให้ใครเสกท่านมั่นใจของท่าน...

รูปเหมือนเล็ก..ที่มีประสบการณ์ยิ่งยวด


รูปเหมือนหลวงพ่อเชียงแสนขนาดห้านิ้ว
​

วัตถุมงคลนั้นมอบให้แก่ผู้ที่ร่วมบุญเท่านั้นได้โปรดติดต่อ...พระครูพัฒนกิจประยุต เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่พัฒนาราม ตำบลปากล่อ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี สั่งจ่ายธนาณัติ ไปรษณีย์โคกโพธิ์ ช่วยค่าส่งทางวัด 60 บาทด้วย...โทร.085-8982227 โทรถามพ่อท่านได้ตั้งแต่เวลาเช้าถึงเที่ยงเท่านั้นนะครับ ท่านอายุมากแล้ว การส่งพระให้ทางไปรษณีย์หากช้าก็ขออภัยทางใต้เกิดสถานการณ์ไม่สงบหวังใจว่าคงไม่ว่ากัน....อยู่ในบุญบริสุทธิ์เถอะครับ ทางที่ดีไปวัดด้วยตัวเองวิเศษสุด เส้นทางนั้น...วัดยางแดง วัดนาประดู่ วัดทรายขาว วัดช้างให้ วัดห้วยเงาะ วัดพลานุภาพ วัดบ้านไร่พัฒนาราม ไม่ห่างกันเท่าไร ไปทีเดียวคุ้มครับ....แต่ละวัดมีพระเกจิสายหลวงพ่อทวดทั้งสิ้นครับ.....ขออนุโมทนาบุญอย่างยิ่ง..ศรัทธาที่บริสุทธิ์แท้ย่อมทรงพลัง!!!

 

มีวัตถุมงคลแบบใดบ้างครับที่ให้บูชา

 

ติดต่อกับทางพ่อท่านได้โดยตรงเลยครับ
ยังมีวัตถุมงคลต่าง ๆ ที่ไม่ได้กล่าวถึง เช่น สมเด็จวัดระฆัง สมเด็จนางพญา วัตถุมงคลพ่อท่านคล้าย

 

ต่อจากตอนที่แล้ว...

เรื่องเล่าอ่านให้รู้...พระมั่นคงทรงวิชา ในจิตอันทรงพลังแห่งลังกาสุกะ
พ่อท่านทวี วัดบ้านไร่ ปัตตานี ศิษย์พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ที่เหลืออยู่​

โดย ทีมข่าวพระพุทธศาสนา พุทธาคม​

ศีลสิบโดยตั้ง รักษาโดยหวัง
องค์ศีลทั่วผอง สองร้อยยี่สิบเจ็ด
สิ้นเสร็จควรตรอง ศีลสิบหม่นหมองสองร้อยมรณา
บทกลอนกำดัดสอนนาคประพันธ์โดย...พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์​

....ท่านที่รัก!!!...พ่อท่านคล้ายแห่งเมืองนครศรีธรรมราชรูปนี้ท่านเป็นพระสงฆ์ธรรมดาแต่ลึกล้ำด้วยบุญญาอภินิหารเหนือคนธรรมดา...ท่านคือพระรูปเดียวที่ถูกยกย่องให้เป็นเทพเจ้าแห่งเมืองนครอย่างแท้จริง...ผมขอแย้มว่า...ศิษย์ยานุศิษย์และประชาชนที่เคารพนับถือ ศรัทธาพ่อท่านคล้ายได้เชื่อถือถึงความศักดิ์สิทธิ์ของวาจา พูดอย่างไรเป็นอย่างนั้น พ่อท่านคล้ายจะพูดจากับทุกคนด้วยใบหน้ายิ้มแย้มและแจ่มใสอารมณ์เยือกเย็นอยู่ตลอดเวลา ท่านมักจะให้พรกับทุกคน "ขอให้เป็นสุข เป็นสุข" ผู้ที่เคารพนับถือท่านต่างพากันกลัวคำตำหนิ เพราะผู้ที่ถูกตำหนิทุกรายล้วนแต่พบความวิบัติ คนส่วนมากจึงหวังที่จะได้รับคำอวยพร เพราะคำเหล่านั้นเป็นการพยากรณ์ที่แม่นยำทั้งในทางดีและทางเสื่อมเสีย คนที่ไปนมัสการ "พ่อท่านคล้าย" หวังที่จะได้วัตถุมงคล พระเครื่อง บ้างขอน้ำมนต์ ชานหมาก แหวน ผ้ายันต์ เหรียญ รูปหล่อ รูปพิมพ์ ซึ่งพ่อท่านคล้ายก็ได้มีเมตตาให้กับทุกคน ยิ่งชานหมากของท่านหากใครได้รับจากมือท่านเป็นต้องหวงแหนอย่างที่สุด

พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์...อรหันต์เมืองนครผู้วิเศษ


ภาพจากอดีต...ขบวนแห่พ่อท่านคล้าย​

โอ้..อนิจจา...ทุกชีวิตถูกกำหนดกฎแห่งสังสารวัฏ...แม้ผู้ทรงคุณธรรมวิเศษอย่าง...พ่อท่านคล้าย...หรือพระครูพิศิษฐ์อรรถการ ซึ่งเมื่อครั้นถึงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2513 ตรงกับแรม 9 ค่ำ เดือน 12 ปีจอ พ่อท่านจะต้องเดินทางไปจังหวัดสุรินทร์ เนื่องในงานพุทธาภิเษกที่คณะพุทธบริษัท จังหวัดนั้นนิมนต์ใว้ เวลา 16.00 น. ของวันเดินทาง คณะศิษย์เป็นว่าพ่อท่านอาพาธกระทันหัน จึงนิมนต์พ่อท่านขึ้นรถด่วนเข้ากรุงเทพ ถึงวันรุ่งขึ้นได้นำพ่อท่านเข้าโรงพยาบาลพระมงกุฎในวันนั้น แพทย์ได้พยายามรักษาจนเต็มความสามารถ เป็นเวลา14วัน อาการมีแต่ทรงกับทรุด ครั้งถึงวันที่ 5 ธันวาคม 2513 เวลา 23.05 น. พ่อท่านคล้าย มรณภาพด้วยอาการสงบ รวมอายุได้ 96 ปี เมื่อบำเพ็ญกุศลครบ 100 วัน จึงได้บรรจุสรีระของท่านไว้ในโลงแก้ว ประดิษฐานอยู่ในองค์พระเจดีย์ในวัดพระธาตุน้อยจนถึงปัจจุบัน

นครศรีธรรมราช... นอกจากจะได้ชื่อว่าเป็นเมืองโบราณที่มีความสําคัญทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม การปกครองและศาสนามากที่สุดเมืองหนึ่งแล้ว นครศรีธรรมราชยังมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางว่า เป็นจังหวัดที่มีพระเกจิอาจารย์ผู้แก่กล้าคาถาอาคมมากมายหลายท่านเป็นอันดับ ต้นๆ ของเมืองไทย โดยเฉพาะในยุคหลังกึ่งพุทธกาล อาทิ พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน, หลวงพ่อเขียว วัดหรงบน, พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง, พ่อท่านมุ่ย วัดป่าระกำเหนือ, พ่อท่านจันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ, พ่อท่านสังข์ วัดดอนตรอ, พ่อท่านแก่น วัดทุ่งหล่อ ฯลฯ ซึ่งแต่ละท่านละสังขารไปหมดแล้ว คงเหลือเพียงวัตถุมงคลอันเข้มขลัง และเรื่องราวของความศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นตำนานให้กล่าวขานจนถึงทุกวัน....

​

....คนมีบุญจึงจะได้พบพระพุทธศาสนา ได้เจอพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ อย่างสมัยพุทธกาลก็มีบางคนทำบุญกับพระที่ธุดงค์ผ่านมา โดยที่ไม่รู้ว่าเป็นพระอรหันต์ที่เพิ่งออกจากฌาณสมาบัติ ทำให้ที่นาของตนกลายเป็นทองคำเป็นต้น ดังนั้นถ้ามีบุญก็ย่อมนำพาให้ได้ไปพบคนดี คนมีศีลมีธรรม

- พระที่ไม่มีฤทธิ์ แต่มีศีลมีธรรม ก็ย่อมมีปัจจัยหลั่งไหลมาอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องมาแสดงอิทธิฤทธิ์เพื่อเรียกหาสิ่งเหล่านั้น

- เรื่องพระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันตธาตุก็เป็นสิ่งที่เป็นประจักษ์พยานได้จริง มีปาฏิหาริย์เรื่องเหล่านี้ให้ได้พบเห็นอยู่เรื่อยๆ

- แม้พระท่านจะไม่ได้เหาะเหินเดินอากาศก็จริง แต่คิดว่าคนมีปัญญาก็ย่อมจะรู้ได้ว่าสิ่งที่ท่านสั่งสอนมีประโยชน์และนำไปสู่ความสุขที่แท้จริงได้หรือไม่

- แม้ว่าพระท่านจะไม่แสดงฤทธิ์เอง แต่เพราะความวิเศษอัศจรรย์ของศาสนาก็มีอยู่ การเกิดปาฎิหาริย์ต่าง ๆ ก็ยังมีอยู่ให้แม้แต่เทวดาก็ยังเคารพศรัทธา

พลังความเคารพศรัทธาเลื่อมใสของมหาชนที่มีต่อ...พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ ก็คงไม่แปลกอะไรหากจะมีปาฏิหาริย์หรือความอัศจรรย์บางอย่างเกิดขึ้น เพราะแม้ท่านไม่ได้ตั้งใจจะแสดงแต่เพราะความวิเศษของท่านมีมากจนแม้ไม่แสดงเราก็สามารถรับรู้ได้....พ่อท่านคล้ายท่านประสิทธิพรอำนาจศักดิ์สิทธิ์ให้แก่ผู้ใด..ย่อมเป็นมหามงคลเลิศยากที่จะพรรณนา...

พ่อท่านคล้าย ท่านช่วยประชาชนปลุกเสกของดีให้ยิงไม่ออกจะปราบปืนให้หมด มันกำลังยิงกันอยู่ หากไม่ทำอะไรเลยอย่างเช่นสามจังหวัดชายแดนภาคใต้..พวกเราที่เป็นชาวพุทธก็ตายไปเรื่อย จำเป็นต้องลุกขึ้นต่อสู้แบบใดแบบหนึ่งขึ้นมา แต่ไม่ต้องจับอาวุธ พระสงฆ์และประชาชนหลั่งไหลไปขอให้พ่อท่านคล้ายท่านช่วยปลุกเสกของช่วยป้องกันให้ยิงไม่ออก...สร้างขวัญกำลังใจ

พ่อท่านทวีเล่าว่าสมัยยังหนุ่มแน่นท่านเองได้ยินกิตติศัพท์เกี่ยวกับศีลาจารวัตรอันงดงามของ พ่อท่านคล้าย จันทสุวัณโณ วัดสวนขัน ( ภายหลังท่านมาสร้างวัดพระธาตุน้อย ตำบลช้างกลาง อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช ) หรือที่ชาวบ้านนิยมเรียกว่า พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ทั่วภาคใต้ได้มีการโจษขานถึงอิทธิปาฏิหาริย์ของท่านอยู่เสมอ ดูเหมือนวาจาของท่านนั้นประดุจมีมนต์หรืออาถรรพณ์อันมหัศจรรย์ เคยมีเรื่องเล่ากันว่า ถ้าหลวงพ่อคล้ายให้ศีลให้พรใครไปแล้วว่า จงร่ำรวยเป็นเศรษฐี มหาเศรษฐีเถิด บุคคลที่ได้รับพรวิเศษแล้ว บุคคลนั้นจะเป็นบุคคลที่โชคดีที่สุด หากทำอาชีพค้าขายก็จะทำมาค้าขายขึ้นหรือเกิดโชคลาภต่าง ๆ มันเป็นโชคลาภที่เกิดขึ้นจากอาชีพและโชคลาภที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน...มีหลายคนที่ได้รับพรวิเศษจากท่านได้กลายเป็นเศรษฐีไป แต่ก็น้อยคนอีกเหมือนกันที่จะได้รับพรวิเศษเช่นนั้น บางทีท่านอาจมีเจโตปริยญาณ หรือ อนาคตังสญาณ คือมีฌานอันมหัศจรรย์มองเห็นเหตุการณ์ในอนาคตว่าบุคคลนั้น ๆ มีบุญกุศลส่งมาในอดีตหรือไม่...การที่หลวงพ่อคล้ายมีวาจาศักดิ์สิทธิ์ หรือมีอนาคต ตังสญาณอันมหัศจรรย์นี้ ทำให้เข้าใจว่าท่านต้องสำเร็จฌาน หรือโลกุตตรฌานอย่างแน่แท้ เพราะบุคคลจะมีวาจาศักดิ์สิทธิ์ หรือมีเจโตปริยญาณได้นั้น จะต้องมีความสำเร็จโลกิยฌาน หรือไม่ก็โลกุตตรฌานอย่างแน่นอน....ท่านจึงได้มีวาจาศักดิ์สิทธิ์ และมีอำนาจจิตสูง.....น้ำมนต์ท่านก็มีความศักดิ์สิทธิ์ บุคคลที่ได้มีการเจ็บป่วยด้วยโรคาพยาธิต่าง ๆ ถ้าได้รดน้ำมนต์ของหลวงพ่อคล้าย เจ้าโรคร้ายเหล่านั้นก็จะหายเป็นปลิดทิ้ง จนเป็นที่โจษขานกันทั่วทุกจังหวัดภาคใต้...พ่อท่านทวีได้ไปกราบพ่อท่านคล้ายขอพรจากองค์ท่านให้เป็นผู้ที่มีสติปัญญาดีและขอเรียนวิชาอาคมจากพ่อท่านคล้ายที่ในยุคนั้นเล่ากันว่าท่านศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในปักษ์ใต้..พ่อท่านคล้ายมีเมตตาอย่างเหลือล้นต่อพระหนุ่มจึงได้ถ่ายทอดวิชาต่างๆ แบบปากต่อปากแบบโบราณให้พ่อท่านทวีจดจำไปใช้เอาเอง..ท่านได้เล่าเรียนวิชาอาคมจากพ่อท่านคล้าย เช่น การเสกพระ เสกน้ำมนต์ เสกสายสิญจน์ เสกปากให้ศักดิ์สิทธิ์ คาถามหาลาภ วิชาทำนายดวงชะตา ขับไล่ภูตผีปีศาจ การขับไล่คุณไสยต่างๆ อีกมากมายจากพ่อท่านคล้าย

พระครูพัฒนกิจประยุตหรือพอท่านทวี วัดบ้านไร่พัฒนาราม ปัตตานี​

พระที่ไปหาพ่อท่านคล้ายนั้นมีมากแต่ที่ได้คาถาจากท่านมีน้อยรูปเพราะต้องมีความพยายามอย่างที่สุด พ่อท่านทวีใช้ความเพียรไปหากราบนมัสการเรียนวิชากับพ่อท่านอยู่เป็นแรมปีก็ได้วิชาสำคัญตามใจประสงค์..เพิ่งมาค้นพบว่าการที่จะทำให้ปืนมันยิงไม่ออกหรือทำน้ำมนต์ให้ศักดิ์สิทธิ์นั้นใครทั่วไปหาใช่จะเสกคาถาเป่าเพี้ยง ๆ แล้วจะทรงพลานุภาพ..แต่มันอยู่จิตใจของตนต่างหากคาถาไม่ได้ขลังหรอกแต่ใจคนต่างหากที่มันขลัง..นั่นมันเป็นอย่างนี้...

พ่อท่านทวี วัดบ้านไร่พัฒนาราม อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ..พ่อท่านเป็นชาวนครศรีธรรมราชลงมาสร้างวัดบ้านไร่พัฒนารามเพียงลำพังจากคำบัญชาของพ่อท่านคิ้ม (หลวงลุงคิ้ม)วัดพลานุภาพ(ทุ่งพลา)ท่านเป็นเจ้าอาวาสรูปแรกที่สร้างวัดท่ามกลางป่าเขาและหมู่บ้านมุสลิม.. ภายใต้บารมีครูบาอาจารย์ที่รำลึกถึงพร้อมวิชากับมีดหมอที่อาจารย์ท่านให้คุ้มกันอันตราย...พ่อท่านเสก วิชามหาลาภ สู่ญาติโยมและอัญเชิญบุญบารมีของพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ วัดสวนขัน นครศรีธรรมราช และเสกด้วย วิชามหานิยมตามที่เรียนมาจาก พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ ด้วยรวมทั้ง วิชาทางเขาอ้อ พัทลุง ให้ผู้ศรัทธา เป็นที่รู้กันว่าท่านเป็น พระตาทิพย์ ดูดวงชะตาด้วยสมาธิที่สุดแม่นยำทายตรงไม่มีผิดแม้แต่ของหาย คนหาย ธุรกิจ การค้า อนาคตท่านทายแบบโต้งๆด้วยญาณสัมผัสที่ถูกต้อง...เลื่องชื่อลือนามในด้านเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ มหาโชคมหาลาภ พลิกดวง หนุนดวง กลับชะตาจากร้ายให้กลายดี ที่ดีอยู่แล้วจะหนุนส่งให้เจริญรุ่งเรืองอย่างรุ่งโรจน์ ทำให้ชีวิตครอบครัวร่มเย็นเป็นสุข กิจการงานอาชีพก็ก้าวไกลดั่งที่หวัง อันเป็นที่ประจักษ์แก่ผู้คนนับรายไม่ถ้วนมาแล้วจนเกิดนิยามว่า “เพียงผ่านวาจาเป่ามนต์พรมน้ำมนต์ตำราพ่อท่านคล้ายต่างได้ก้าวย่างขึ้นสู่ที่สูง”
ท่านเป็น “ผู้ปลุกเสกพุทธคุณ” การทำเครื่องรางรูปแบบตะกรุดมหาลาภ(ดอกเดียวดอกโทน) และตะกรุดสามกษัตริย์(ดอกเล็กห้อยคอ)มอบให้ญาติโยมติดตัว

ของท่านลั่นฟ้าสะเทือนแผ่นดิน ชนิดที่ว่าในแต่ละวันตั้งแต่เช้ามืดฟ้ายังไม่ทันเปิดไปจนถึงตะวันลับฟ้า เดือนดาวพรั่งพราย มีผู้คนจากทัวสารทิศไปจองคิวเฝ้ารอดูดวงชะตาและบูชารับวัตถุมงคลรับตะกรุดจากท่านจนวัดบ้านไร่แน่นขนัดแทบแตก...สรรพคุณที่คนทั้งหลายยอมรับในด้านปกป้องคุ้มภัย แคล้วคลาดจากเหตุร้ายอันตราย ยามฉุกเฉินวิกฤตเป็นมหาอุด...คงกระพัน ผู้คนรอดตาย ชีวิตปลอดภัยมาไม่ใช่น้อยๆ เลย แม้ทหารตำรวจ พ่อค้าชาวบ้านทั้งหลายในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่อยู่ในภาวะล่อแหลมเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายตลอด ต่างก็ปลอดภัยอย่างปาฏิหาริย์ ด้วยมีตะกรุดดาโต๊ะวัดบ้านไร่ติดกาย

พลังเวทพุทธาคม...!! ท่านบอกว่าขณะที่ท่านนั่งอธิษฐานเสกตะกรุดมหาลาภนั้นท่านเห็นดวงแก้วใสสว่างปรากฏขึ้นมาจากองค์พระ แผ่แสงสว่างเจิดจ้าเป็นดั่งรัศมีที่เจิดจรัสขององค์พระ!!!

ท่านบอกอย่างนั้น และบอกว่าให้เก็บศิษย์เก็บไว้บูชาเองบ้างอย่าเอาไปแจกหมดจะทำให้เกิดสิ่งดีๆ เข้ามาหาดั่งมีแก้วสารพัดนึก

แขวนพกติดตัวจะสวัสดีมีชัย ไปไหนมาไหนมีแต่คนรักใคร่ยำเกรง คือทั้งรักทั้งเกรง มีคุณทางโภคทรัพย์ อำนาจตบะเดชะ คุ้มภัยอันตรายได้ทั้งปวง ควรใส่พานบูชาไว้บนหิ้งพระในบ้านด้วย จะทำให้คนในบ้านปรองดองรักใคร่กลมเกลียวเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว บ้านเรือนก็จะอยู่เย็นเป็นสุข บูชาไว้ในสำนักงานก็เช่นกัน จะหนุนนำให้ทำมาค้าขึ้น กิจการเจริญรุ่งเรือง

พ่อท่านทวีวัดบ้านไร่ประกาศให้โลกาล่วงรู้ว่าพระหัวใจเพชรหัวใจทองแท้ ๆ ศิษย์พ่อท่านคล้าย พระอาจารย์ทิมสร้างบุญประกาศธรรมของศาสนาให้ศาสนิกอื่นได้ประจักษ์เห็นถึงความยิ่งใหญ่...ว่า..

ความดีความบริสุทธิ์คุณธรรมมีอำนาจเหนือสิ่งใดและเมตตาธรรมเท่านั้นที่ค้ำจุนโลกใบนี้...​

 

วัดศรีรัตนารามหรือวัดหนองช้างแล่น พ่อท่านทวีอุปสมบทที่วัดนี้


โบสถ์วัดบ้านไร่พัฒนาราม สร้างโดยพ่อท่านทวี ปัจจัยทุกบาททุกสตางค์ของญาติโยมมีค่ามากนัก...



มณฑปรูปเหมือนพ่อท่านทวี


ครูบาอาจารย์ที่พอท่านทวีเทิดทูน...พ่อท่านเอียดวัดหนองช้างแล่น


เหรียญหลวงพ่อเชียงแสน ด้านหน้า รุ่นสอง


ด้านหลัง พ่อท่านทวี


ขี้เทียนชัยบรมครูพ่อท่านทวี


​

 

พุทธคุณ ตะกรุดมหาลาภ พ่อท่านทวีวัดบ้านไร่พัฒนาราม


ตะกรุดมหาลาภเงินเรียกเงิน พ่อท่านทวี วัดบ้านไร่ บูชาติดตัวเถอะคล่องตัวทางการเงินนัก รวยโคตรโคตร..​

ตะกรุดมหาลาภของพ่อท่านทวีดังด้วยสรรพคุณที่คนทั้งหลายยอมรับในด้านปกป้องคุ้มภัยแคล้วคลาดจากเหตุร้ายอันตราย ยามฉุกเฉินวิกฤตเป็นมหาอุด...คงกระพัน ผู้คนรอดตายชีวิตปลอดภัยมาไม่ใช่น้อยๆ เลย แม้ทหารตำรวจพ่อค้าชาวบ้านทั้งหลายที่อยู่ในภาวะล่อแหลมเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายตลอดต่างก็ปลอดภัยอย่างปาฏิหาริย์ ด้วยมีตะกรุดของพ่อท่าน ท่านเป็นพระที่มั่นในวิชาในจิตอันทรงพลัง ท่านจึงทำอะไรๆ ก็ขลัง !!!!

พ่อท่านเมตตา "ตั้งใจ" ปรกปลุกเสกเดี่ยววัตถุมงคลของท่าน อย่างเต็มที่เต็มพลังจิต พลังเวทอาคมของท่านทีเดียวพร้อมทั้งอัญเชิญบารมีหลวงพ่อเชียงแสนพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำวัด แผ่บารมีให้ด้วยซึ่งพระพุทธรูปองค์นี้เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ที่ก่อปาฏิหาริย์ให้เป็นที่ปรากฏหลายเหตุการณ์ ศักดิ์สิทธิ์ในทุกทาง อย่างที่เขาว่า "บนได้ไหว้รับ" ให้ด้วย

ใครได้ไว้บูชาติดตัวจะเป็นมงคลมาก ดีทุกทางทั้งโชคลาภ กันภัยและเมตตามหานิยมมหาเสน่ห์
ก่อนอื่นผู้เขียนต้องขออภัยท่านนักปราชญ์ผู้มีความรู้ ในเรื่องเครื่องรางของขลังทุกท่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ชำนาญความรู้ในเรื่องตะกรุดโทน ผู้เขียนมิได้มีเจตนาในการอวดอ้างความรู้ในเรื่องนี้แต่อย่างใด เพียงแต่ได้ยินได้ฟังจากเถราจารย์หลายท่าน และประกอบกับประสบการณ์ที่ได้พบมา จึงขออนุญาตเขียนเพื่อเล่าเรื่องราวตามที่ได้เรียนมาเท่านั้นในบรรดาเครื่องรางของขลัง ที่เกจิอาจารย์ทั่วทุกสารทิศยอมรับว่าทำได้ยากมากชนิดหนึ่ง คือ ตะกรุด ที่ผู้เขียนบอกว่าทำได้ยากนั้น เพราะถ้าจะทำให้ตะกรุดมีความเข้มขลังเอกอุแล้ว ต้องใช้ความพยายามในการทำมาก ขอยกความพยายามที่ว่ายากในการทำตะกรุดโทน พอเป็นการเรียกน้ำย่อยสักเล็กน้อย เช่น การลงอักขระเลขยันต์นั้น ผู้ลงอักขระขอมต้องใช้สมาธิอย่างสูง ขณะเขียนอักษรขอมแต่ละตัว ต้องภาวนากำกับอักษรและภาวนาพุทธคุณของอักษรขอมตัวนั้น จะเขียนเส้นแต่ละเส้นก็ต้องภาวนากำกับเช่นเดียวกัน และแผ่นโลหะที่นำมาทำตะกรุดนั้น ก็มีความยากง่ายในการเขียนไม่เหมือนกัน ถ้าเป็นประเภทตะกั่วหรือเงินจะมีความนิ่มและยืดหยุ่นสูงจึงเขียนง่าย แต่ถ้าหนักมือเกินไปทำให้เสียรูปทรง ถ้าเป็นประเภทโลหะแข็งเช่น นาก ทองแดง ทองเหลือง จำพวกนี้มีความแข็งความยืดหยุ่นน้อย แต่มีความลื่นบนผิวมาก จึงต้องใช้ความพยายามในการเขียนสูง และที่ขาดไม่ได้เลยคือโลหะที่ใช้เขียนหรือเหล็กจาร การทำเหล็กจารของเกจิอาจารย์แต่ละท่านมีความแตกต่างกันไป แต่พูดรวมๆ ว่าเห็นจารมีลักษณะเหมือนดินสอที่ช่างไม้ใช้ขีดเส้นในงานช่างไม้ แต่ต่างกันที่ใช้โลหะแทนไส้ดินสอ(แท่งกราไฟท์) ไม้ที่ใช้ทำด้ามก็แตกต่างจากเล่มดินสอ เพราะต้องใช้ไม้มงคลหรือกาฝากที่หายากมาทำด้าม นี่คือความยากอย่างแรกต่อมา เมื่อลงอักขระบนแผ่นโลหะแล้ว นำมาม้วนให้มีลักษณะเป็นหลอดกลม ๆ แล้วจึงอธิษฐานจิตปลุกเสกซึ่งก็แตกต่างกันออกไป

พ่อท่านทวีศิษย์ของพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ เมื่อท่านได้ฝึกจิตตามแนวทางของตำรับตำรา ทำให้การเรียนด้านวิชาอาคม บังเกิดความก้าวหน้า และได้รับความศรัทธาจากชาวบ้านที่ประสบเคราะห์ซ้ำกรรมซัดต่าง ๆ นานา โดยท่านได้ใช้อำนาจแห่งพุทธคุณ ธรรมคุณ และสังฆคุณ รวมทั้งวิทยาคม ใครถูกคุณไสยมนต์ดำ อวิชชาชั้นต่ำ สรรพวิญญาณดุร้ายเข้าสิงร่าง ใช้มนต์คาถากำราบ ใครเจ็บป่วยเป็นไข้ป่า ใช้ยาสมุนไพรรักษา สามารถพลิกผันเปลี่ยนขาวเป็นดำ บำบัดปัดเป่าเคราะห์ร้ายได้ผลเป็นที่น่าอัศจรรย์ ชื่อเสียงร่ำลือระบือไกล

หัวใจแห่งการร่ำเรียนวิชา โดยเฉพาะพระคาถาอาคม เมื่อรำลึกถึงคำสอน พ่อท่านจึงเร่งในการภาวนาจิตอย่างจริงจัง และเริ่มทำการจัดสร้างของขลังเป็นครั้งแรก เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ที่ใกล้ชิดเอาไว้เพื่อเป็นการป้องกันและคุ้มครองตัวเอง ได้แก่ "ตะกรุด" กว่าจะสำเร็จเป็นตะกรุด มิใช่เรื่องง่ายดาย

ตะกรุดของพ่อท่านได้รับความนิยมว่า..เป็นสุดยอดเจ้าตำหรับมงคลมหาลาภชั้นครูเป็นบทสวดที่ท่านเสกลงไปแบบโบราณเจ้าคาถาพระปัจเจกพระพุทธเจ้า..เสริมดวงเสริมลาภ วิชานี้ใช้สวดมนต์เสริมดวง เสริมเมตตามหานิยม เงินธนสมบัติ” ตามศาสตร์คัมภีร์โบราณที่เด่นด้วยพลังอานุภาพเป็นยิ่งนัก ถ้าใครมีโอกาสไม่ควรพราดต้องไปกราบให้พ่อท่านรดน้ำมนต์มหาลาภที่สวดคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้าให้ได้เลยทีเดียว เพราะลูกศิษย์และผู้ศรัทธาที่เข้ารับน้ำมนต์ดังกล่าวต่างมีประสบการณ์และการดำเนินชีวิตประจำวันดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มาพูดถึงวัตถุมงคลของพ่อท่านก็คงไม่แคล้วจะเล่าเรื่องตะกรุดมหาลาภ “ที่เป็นดอกน้อย ๆ แขวนติดตัวได้ไม่ลำบาก..ทำให้ท่านมีชื่อเสียงและประสบการณ์ของผู้เช่าบูชามากที่สุด ตะกรุดมหาลาภยังโดดเด่นเอามาก ๆ เด่นเรื่อง เมตตามหานิยม ไม่ผิดหวังจริง ๆ ผู้ที่ได้ไปต่างพากันเล่าประสบการณ์จนเป็นที่ฮือฮามาแล้ว ตะกรุดลงด้วยอักขระนะหัวใจแห่งความสำเร็จ หมายถึง ชัยชนะในด้านความรัก หน้าที่การงาน หรือธุรกิจการค้าขาย เข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่เข้ารักและเอ็นดูเหมือนลูกในไส้ ใครที่ทำธุรกิจการงาน การค้าขายของตนเองก็จะมีมหาเสน่ห์ พูดสิ่งใดก็เป็นที่ถูกอกถูกใจแก่ลูกค้า ทำให้ธุรกิจและการค้านั้นมีความเจริญรุ่งเรืองขายดิบขายดีและขายดีมีกำไร เป็นที่ทำให้ลูกค้าขายติดอกติดใจ ถูกอกถูกใจที่จะมาอุดหนุนร้านค้าเรา ที่จะมาเป็นลูกค้าประจำและชักชวนเพื่อนฝูงและญาติที่น้องมาเป็นลูกค้าอุด หนุนท่านใดที่มีปัญหาเรื่องเมตตามหา นิยม เมตตามหาเสน่ห์ในตัวเองไม่มีเจ้านายคอยแต่เขม่นจ้องจับผิด การงานเลยไม่เจริญก้าวหน้า หรือมีปัญหาเรื่องความรัก ความรักไม่ลงตัวรักเขาเขาไม่รู้ หรือพูดคุยกับใครก็ไม่ค่อยมีใครสนใจจะทำการค้าขาย ก็ค้าขายไม่ดี ลูกค้าไม่ติด โชคลาภก็ไม่มี ก็ต้องบอกว่าลองมาบูชาตะกรุดมหาลาภกับหลวงพ่อ แล้วท่านที่มีปัญหาต่างๆเหล่านี้จะรู้ว่าเรื่องเมตตามหานิยมนั้นไม่ใช่ เรื่องยากอีกต่อไป...