ประมาณนั้นแหละครับ ผมเองความรู้ยังน้อย แถมความจำยังไม่ค่อยดี
เลยจำผิดจำถูกว่าเป็นพระของที่ใดกันแน่ ไม่แน่ใจว่าเป็น ซุ้มกอ หรือพระรอด
ขอบคุณที่ให้ความกระจ่าง
มาดูสมเด็จกัน
ในห้อง 'วิธีดูพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง' ตั้งกระทู้โดย wasabi san, 25 พฤศจิกายน 2009.
หน้า 20 ของ 560
-
ปกติในกระทู้นั้นเขามีไว้เพื่อสอบถามเกี่ยวกับพระเครื่อง...กรณีที่ไม่รู้ก็เข้ามาถามกัน
จะมีก็แต่คุณ tomie_pattaya<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2900184", true); </SCRIPT>
นี่แหละที่เข้ามาโชว์พระมากกว่าที่จะยอมรับความคิดเห็นของเพื่อนในกระทู้....
ตกลงคุณเข้ามาถามว่าพระคุณแท้หรือไม่แท้ ?
หรือคุณเข้ามาอวดพระของคุณว่าแท้กันแน่หละครับ ?
ผมหละงง กับวัตถุประสงค์ในการนำเสนอพระสมเด็จของคุณเหลือเกิน
ในกระทู้นี้ผมแนบภาพพระมาให้คุณได้ยลแล้ว...เป็นพระที่ผมใช้ห้อยติดตัวประจำ.....คุณก็ลองดูเถอะครับว่าเป็นพระอะไร ?
หรือถ้าไม่ถูกใจก็ตีว่าเป็นพระปลอมระดับเกรด Z-- เลยก็ได้นะครับ...
(บางทีมันอาจจะช่วยสนองอัตตาอีโก้ที่กำลังพุ่งพล่านของคุณให้มันสงบลงก็ได้)ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ในพระสมเด็จนั้นจะมีน้ำมันตั่งอิ๋วผสมอยู่ ซึ่งก็คือ "น้ำมัน" หรือ "ไขมัน" ตัวเดียวกันครับ
เวลาที่น้ำมันตั่งอิ๋วลอยขึ้นมาจากองค์พระจะจับตัวเป็นแผ่นแข็ง
ถ้าผุดออกมาน้อยจะดูเหมือนเป็นเม็ดๆ กระจายไปทั่วจำนวนมาก
แต่ถ้าน้ำมันตั่งอิ๋วผุดออกมามาก + กาลเวลากลีเซอรอนจะเสื่อมสภาพคราบนี้จะนิ่มครับ
เนื้อพระจะร่วนซุย แห้งจัด เนื้อแทบจะผุ พัง ได้เลยครับ
บางท่านก็อาจจะเรียกคราบนี้ว่า "คราบฟองเต้าหู้"
ซึ่งก็แล้วแต่ว่าใครจะเข้าใจความหมายของคำนี้ได้กว้างขวางเพียงใด
เพราะเนื้อหาตำราต่างๆ ก็ล้วนแล้วแต่เขียนขึ้นมาตามความเข้าใจของตัวเองทั้งสิ้นครับ
สรุปคือ คุณวาซาบิ มีพระสวยๆ หลายองค์เลยครับ ไม่ชอบองค์ไหนแบ่งผมบ้างก็ได้นะครับ....หุหุหุ -
พระสมเด็จยุคกลาง สมเด็จโตท่านไม่หวงผงวิเศษหรอกครับ เพราะผงวิเศษมีตั้ง 5 ชนิด คือ สูตรสร้อยรัตนมาลา สูตรอิธะเจ สูตรผงนะปัตถมัง สูตรผงมหาราช สูตรผงยันต์ตรีสิงเหและยันต์นะ 108 ซึ่งแต่ละสูตร มีพุทธคุณแตกต่างกันไป จึงเป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะในพระองค์เดียวมีพุทธคุณหลายอย่าง
ซึ่งคุณจะเห็นว่า ผงวิเศษเหล่านี้รวมทั้งมวลสารต่างๆที่มีอยู่ทั่วองค์พระ มีเยอะมากหรือน้อยไปกว่าก็ตามแต่ตอนผสมแล้วกดพิมพ์พระว่า มวลสารคลุกเคล้าจนทั่วดีขนาดไหน การจะให้มีเยอะเท่ากันทุกองค์คงเป็นไปไม่ได้ครับ
บางองค์มีน้อยแต่ก็ต้องมีให้เห็น ซึ่งพระสมเด็จยุคกลางจะมีผงวิเศษมากกว่าพระยุคหลังที่มีหลวงวิจารณ์เป็นผู้แกะพิมพ์ ซึ่งปัจจุบันเล่นพิมพ์หลวงวิจารณ์กันมากในหมู่สากลนิยม โดยตัวผมเองเมื่อเห็นพระยุคหลังแล้วมวลสารสู้พระยุคกลางไม่ได้เลย ให้ผมเล่นพระสมเด็จก็ต้องหาพระยุคกลางใช้ครับ
เพราะว่า ในเมื่อพระสมเด็จพุฒาจารย์โตสร้างพระสมเด็จ ท่านไม่ได้ทำพิธีปลุกเสก เพราะท่านถือว่าพระสมเด็จของท่านสำเร็จอยู่ในองค์พระทุกองค์เพราะมีผงวิเศษผสมอยู่
พระยุคหลังพิมพ์ของหลวงวิจารณ์ หลายองค์เนื้อพระใช่ พระเก่าตามกาลเวลา พิมพ์ถูกต้อง แต่ไม่มีผงวิเศษให้เห็นเลย ผมก็ต้องบอกได้คำเดียวว่าไม่ถึงยุคสมเด็จโตสร้าง เพราะถ้าสมเด็จโตสร้าง ผงวิเศษต้องมีให้เห็น จะมีเม็ดเดียว หรือหลายเม็ดก็ตามต้องมีให้เห็นครับถึงจะเรียกว่าทันยุคสมเด็จโตสร้าง เพราะผมยึดเอาพุทธคุณเป็นหลัก ในเมื่อไม่ได้ทำพิธีปลุกเสก การที่ไม่มีผงวิเศษอยู่องค์พระ ก็เท่ากับเราแขวนปูนเปลือกหอยเท่านั้น
ทางด้านคุณ xlman ที่ผมเคยเห็นในกระทู้ที่คุณเชื่อในบันทึกหลวงปู่คำ ไม่ทราบว่าคุณได้เข้าใจในเนื้อหาบันทึกนี้ดีแล้วใช่ไหมครับ ว่ามวลสารมีกี่ชนิดที่สมเด็จโตใช้เป็นส่วนผสม น้ำที่ใช้ผสมในพระสมเด็จมีกี่ชนิด พระสมเด็จมีกี่พิมพ์ คุณทราบดีแล้วใช่ไหมครับ
เมื่อคุณทราบดีแล้ว แต่ผมฝากเตือนคุณ xlmen อย่างครับ ว่าคุณจะเน้นพระเรื่องความเก่าไม่ได้ครับ เพราะเห็นหลายองค์ คุณดูจะเน้นเรื่องความเก่าเป็นพิเศษ เห็นได้จาก พิมพ์ใช่ เนื้อหาใช่ แต่ทำไมดูใหม่จัง อะไรประมาณนี้นะครับ ผมขออธิบายดังนี้ พระผ่านหลายปีเป็นร้อย ๆ ปี ทำไมไม่ค่อยเก่า
ตามที่ทราบว่าพระสมเด็จสร้างก็ไม่น้อย ไม่มาก ในสมัยก่อนได้พระสมเด็จ ก็ไม่ได้ห้อยแขวนกันเหมือนดั่งสมัยนี้หรอกครับ ส่วนใหญ่เก็บไว้บนหิ้งพระบูชา
กันทั้งนั้น เก็บมาจนชั่วลูกชั่วหลาน ก็เก็บรักษากันชนิดลืมกันได้เลยว่าบนหิ้งมีพระสมเด็จก็เป็นได้ โอกาสที่จะเจอพระสวย ๆ ไม่ได้ใช้ มีไม่น้อยหรอกครับ
อย่างพระสมเด็จที่คุณ tomie เอามาให้ชมกันนั้น ก็เก็บรักษาเป็นอย่างดีทั้งนั้น
พิมพ์พระปลอมกันได้ การทำพระให้ดูเก่า ก็สามารถทำกันได้ครับไม่มากก็น้อย แต่สิ่งหนึ่งปลอมไม่ได้หรอกครับ มวลสาร ผงวิเศษ ที่ผสมอยู่ในองค์พระปลอมกันไม่ได้หรอกครับ
หากคุณคิดว่าพระที่คุณเห็นของคุณ tomie พระเลียนแบบเกรด A หรือ D- คุณพอจะมีแบบนี้ไหมครับ หรือคุณเคยเห็น หรือคุณสามารถจะหาได้ไม่ยาก ผมรบกวนด้วยครับ ขอเช่าพระแบบนี้ในราคาพระเลียนแบบนะครับ ขอแบบไม่เก่าด้วยนะครับ เก่ามาก ใช้แล้วก็ไม่ค่อยชอบครับ ผมชอบกริ๊บ ๆ ครับ -
ผมเห็นด้วยว่าท่านสมาชิกที่ วิเคราะห์วิจารณ์ พระของคนอื่น ให้นำรูปพระสมเด็จของตัวเองที่คิดว่า แท้...มาลงให้คนอื่นได้ชมด้วยนะครับ...การนำเสนอรูปพระของคุณ xlmen ภาพมืดไปนะครับ วิเคราะห์ลำบาก...กรุณาทำให้สว่างและใหญ่ๆหน่อยก็จะดีมากครับ...( อยากเห็นพระสมเด็จของคุณ Best wish ด้วยครับ )
-
ทำตัวเป็นมนุษย์เจ้าปัญหากันจังเลยครับ....พอได้คืบก็จะเอาศอก.....
ปรับแสงเองไม่เป็นหรืออย่างไรครับ....ถ้าอยากให้ภาพใหญ่คุณก็คลิกไปที่รูปสิครับ....
ดูไปดูมาสำนวนคุณ
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->โอม สรณัง<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2902159", true); </SCRIPT>
ชักจะเหมือนคุณโทนี่ พัทยาซะแล้วนะครับ....
ในเมื่อผมพิจารณาว่าพระแนวนั้นไม่ถูกใจผมแล้วผมจะเช่าหามาทำรัยหละครับคุณโอม สรณัง...คุณนี่พูดตลกจริงๆ ถ้าคุณชอบและอยากได้ มือ เท้า คุณก็มี....ดิ้นรนหาเองไม่ดีกว่าหรือขอรับ
ขยันหน่อยครับ.....อย่าเที่ยวยืมจมูกคนอื่นหายใจบ่อยนักมันจะแสดงนิสัยเคยตัว.....ไม่ดีครับไม่ดี -
อ่านแล้ว งง อ่ะค่ะ
จอยไม่มีความรู้เรื่องพระสมเด็จเลยสักนิดแต่ชอบเข้ามาอ่าน
การแสดงออกทางความคิดเห็น ของแต่ละบุคคล ความคิดย่อมไม่เหมือน กันแน่ ๆ
ในเมื่อคุณนำพระมาลงก็ต้องระบุด้วยค่ะ ว่าต้องโชว์ หรือต้องการให้วิเคราะห์
ผู้วิเคราะห์แต่ละท่านก็ใช่ได้ค่าเหนื่อยอะไร ก็เหมือนร้อยพ่อพันแม่ ร้อยคนร้อยความคิด ถ้าเอาลงก็ต้องยอมรับในการวิเคาระห์ ใช่ว่าคุณจะเชื่อคำวิเคราะห์ของบุคคลนั้น เขาแค่เข้ามาวิเคราะห์ตามหลักที่พวกเราศึกษากันมา
เบื่อ ค่ะ จะมาถกเถียงกันทำไม แทนที่จะมีคำขอบคุณ ที่พวกเขามาช่วยกันวิเคราะห์
ช่วยกันออกความคิด เหอะสังคมไทยเปลี่ยนไป๊จริงๆๆๆ จ้องแต่จับผิดกันแบบนี้ใครเขาจะกล้เข้ามาตอบกันละค่ะ
(แนะนำตั้งกระทู้ โชว์พระสมเด็จ-พระสมเด็จที่สะสม จะได้ไม่มีใครกล้าเขาไปวิเคราะห์ ) จะได้ไม่มีการกระทบกระทั่งกัน ถ้าว่างกันมากแนะนำให้ไปบวชค่ะเห็นมีโครงการบวชพระอยู่ เพื่อจิตจะได้สงบกันขึ้นนะคะ -
ชอบอ่านการวิเคราะห์ของพี่ครับ เขียนบ่อยๆๆนะครับ -
OK !!! OK !!! OK !!! ครับ...ผมยอมแพ้ พวกคุณ แล้วหล่ะ...ขอบคุณทุกๆคนครับ...
-
เรื่องลบผงทะลุกระดานนั้นเท่าที่ผมทราบ......ก็มีหลวงพ่อเริ่ม วัดจุกกะเฌอ ลบผงทะลุกระดาน แล้วนำผงวิเศษมาผสมกับผงกระดูกมาผสมทำพระพิมพ์ 12 นักษัตรครับ
และการทำผงวิเศษของเจ้าประคุณสมเด็จนั้นท่านจะนำดินสอพองมาผสมกับน้ำยางตำลึง (ตามตำราที่ ลป.คำบันทึกไว้เช่นนั้น) ส่วนจะผสมอะไรอีกนั้นจำไม่ได้หมดครับ
เมื่อปั้นเป็นแท่งแล้วก็เขียนอักขระเลขยันต์ แล้วก็ลบผงนำมาปั้นใหม่ แล้วก็เขียน แล้วก็ปั้นใหม่ ทำแบบนี้ไม่น้อยกว่า 108 คาบ
ดังนั้นถ้าผงวิเศษไม่ละเอียดแล้ว...เวลาปั้นเป็นแท่งท่าจะลำบากน่าดูเลยครับ....ดินสอช๊อคถ้ามีเหลี่ยมเยอะๆ มันก็จะน่าแปลกอย่างยิ่งว่า
ทั้งตำ ทั้งบด ทั้งเขียน ผงมันจะเป็นสี่เหลี่ยมได้ยังงัย ??
ถ้าใครว่างๆ ช่วยลองหาช๊อคเขียนกระดานมาลองเขียนและลบผงดูแล้วตอบหน่อยเถอะครับว่าผงที่ลบแล้วมันเหลี่ยม หรือมันกลมหละครับ หุหุหุ -
(ส่วนพระที่เอามาให้ชมนั้น ทำเผื่อไม่อยากผิดคำพูดก็เท่านั้นครับ) -
ผมได้อ่านหลายกระทู้ของทุกท่าน ใน มาดูสมเด็จกัน
จึงขอแสดงความคิดเห็น เพื่ออธิบายความรู้สึกส่วนตัว ในสิ่งที่ผมสัมผัสได้จากการเข้ามาในเวปพลังจิต
1) เริ่มจากผมเข้ามาเพื่อลองของกับคนในเวปนี้ เพื่อต้องการให้คนอ่านรู้ว่าอย่าหลงเชื่อในสิ่งที่อ่านทั้งหมด ควรเชื่ออย่างมีเหตุผล
2) ผมไม่ชอบสังคมที่อวดรู้ แต่ไม่มีความรู้ และไม่มีแม้แต่ของ(พระเครื่อง)อย่างที่รู้ หรือที่อวดว่ารู้เพื่อยกหางตัวเอง
3) บางครั้งอ่านกระทู้แล้ว รู้สึกว่าเรารู้ต่างกัน หรือนำเสนอต่างจากที่เรารู้
4) ต้องการให้คนอ่านได้เห็นพระที่มีอยู่จริง เห็นมวลสารจริงๆ มากกว่าเห็นพระที่เข้ามาถาม แล้วปลอม แต่ต้องการให้พระนั้นจริงโดยการโพสต์ภาพให้ผู้อื่นจำ
เวลาผ่านไป ความคิดของผมก็เปลี่ยน
1) ผมไม่ต้องการที่โพสต์รูปพระเครื่องอีก เนื่องจากได้รับกระแสทางลบ แต่ผมรู้ว่าที่มาของพระเป็นอย่างไร ประกอบกับไม่ต้องการจะสร้างศัตรู
2) ผมได้รู้จักตัวเอง กับคำว่า"ยอมรับ" และความสับสน ทำให้ผมนำอารมณ์แห่งความสับสน วุ่ยวาย ร้อนใจ มาปรับเปลี่ยนกับการทำงานชีวิตประจำวัน
3) ผมได้เข้าใจในสังคมแห่งความวุ่นวาย ความไม่แน่นอน ความไม่ยุติธรรมของสังคม สิ่งนี้เป็นสัจจะที่ผมต้องอยู่กับมันให้ได้ โดยที่ต้องมีอุเบกขา รู้จักว่างเฉย เป็นการทดสอบความคิดอ่านในตัวผมเอง
4) เมื่อมีแรงบีบคั้นเข้ามาในชีวิต ผมรู้วิธีที่จะรับมัน แล้ววางมัน
5) ศัตรูที่เรารู้สึก กับเป็นสิ่งที่เราต้องลดอัตตา มานะในตัวเราเอง
เพียงเท่านี้ ความรู้สึกที่ไม่ดีก็เริ่มจางหายไป เปลี่ยนเป็นการยอมรับ และเป็นการสร้างความเข้าใจที่ดี ในการดำรงค์ชีวิตต่อไป
ส่วนเรื่องความรู้นั้น เรารู้ได้เฉพาะตน คำว่าหลักสากล เป็นเพียงดัชนีชี้วัดเท่านั้น ถ้าเรารู้ผิดหรือรู้ถูก เราก็ต่างหนีความจริงไปไม่ได้
ทองแท้ย่อมเป็นทองแท้ ไม่กลัวไฟ ไฉนจึงกลัวคำคน
ที่ระบายความรู้สึกทั้งหมดนี้ หวังว่าทุกท่านจะหันหน้ามาคุยกัน เพราะเราต่างรู้อุปนิสัยกันแล้ว บางครั้งแรง บางครั้งก็กลับมาให้กำลังใจกัน ของอย่างนี้คิดผิดแก้ไขได้ -
หันหน้าเข้าหากันครับ มารักกันดีกว่าครับ อย่ามาทะเลาะกันเลยครับ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันดีกว่าครับ ทองแท้ย่อมเป็นทองแท้ ไม่กลัวไฟ ไฉนจึงกลัวคำคน เห็นด้วยกับพี่วาซาบิครับ
-
- หมดความคิดเห็นครับ -
-
กระทู้นี้เข้ามาติดตามอ่าน ตั้งแต่ต้นแล้ว
มีความเห็นหลากหลายดี เป็นประโยชน์กับผู้ที่ต้องการศึกษาพระสมเด็จในมุมกว้างครับ.....
===========================
ความเห็นที่แตกต่าง ย่อมก่อให้เกิดองค์ความรู้ใหม่เสมอครับ -
ต้องใจเย็นๆกันนิดนึงครับกรุณาอยู่ในความสงบ.....แล้วจบพบความสุขเมื่อได้เข้ามาอยู่ในเวปแห่งนี้
-
อีกหน่อยเธอคงเข้าใจ ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่า รักกัน
อ่านกระทู้นี้มาตั้งนาน ก็ไม่เห็นจะต้องใส่ใจอะไรมากเลย แค่ความคิดเห็นใหม่ๆที่เราไม่เข้าใจ ก็เท่านั้น เดี๋ยวอ่านมากๆ มีข้อเปรียบเทียบมาก ก็ดูเป็นเองนั่นแหละ -
จริงแล้ว....กระทู้นี้ร้อนครับ แต่ก็ชอบเข้ามาอ่านครับ ได้ความรู้ดีมากเลย อนุโมทนาทุกๆ comment ด้วยครับ จากใจจริง
ผมไม่เคยมีพระสมเด็จครอบครองเลย มีแต่พระของปู่/พ่อที่ได้รับต่อๆมา (เพิ่มมรดกของภรรยาอีกนิดหน่อย อิอิอิ)
อ่านกระทู้นี้แล้ว...อยากได้พระสมเด็จของหลวงพ่อโตแท้ๆไว้บูชาสักองค์ขึ้นมาในใจครับ...หวังว่าสักวัน คงได้ครอบครองดั่งใจนึกครับ อนุโมทนา...สาธุ -
ช่วยดูพระสมเด็จองค์นี้ให้ด้วยครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับไฟล์ที่แนบมา:
-
-
คุณBoonyanus ผมว่าองค์นี้ดูจากคราบแล้วมีข้อสงสัยพอสมควร
พระสมเด็จองค์นี้เป็นพิมพ์เจดีย์ แต่ดูจากภาพแล้ว
เรามาวิเคราะห์กัน
พระองค์นี้ผมไม่เห็นมวลสารเลย เป็นเพียงผิวสีขาวนวล ผิวไม่มีการสลายเหมือนพระสมเด็จ มีบางส่วนแตก การแตกของพระสมเด็จในลักษณะนี้เท่าที่เห็นจะพบน้อยมาก เพราะท่านผสมและนวดผงแป้งจนเหนียว แล้วจึงนำไปกดพิมพ์ จากนั้นจึงใช้ตอกตัดเป็นสี่เหลี่ยมชิ้นฝัก ฉนั้นผิวพระจะไม่ร่วนหลุดเป็นผง หรือเป็นชิ้นอย่างนี้
ส่วนด้านหลัง ดูแล้วเหมือนสมเด็จเก่า แต่ขาดมวลสารบนพื้นผิว จึงไม่น่าสนใจ
การทำคราบเหลืองให้ดูเก่า ทำง่ายมากๆ ถ้าเก่าขนาดนี้ ผิวจะมีปูนตาย
ผิวกับการแตก ไม่มีการหดตัวยุบตัวแบบเนื้อพระสมเด็จทั่วไป
ผมเห็นพระองค์นี้ผมนึกถึง พระของหลวงปู่ดู่ วัดสระแก มากกว่า
ทั้งหมดเป็นเพียงการวิเคราะห์ ผมให้คุณอ่านเพื่อพิจารณาว่าเป็นอย่างไร
ดูพระให้แม่น ต้องสัมผัสจริงเท่านั้น จึงจะมีข้อยุติไฟล์ที่แนบมา:
-
หน้า 20 ของ 560