เอาละถึงเวลาเม้าท์แล้ว
หัวข้อของคืนนี้คือ คัมภีร์
ทานตะวันมาจากไหนกัน
แน่?
อ่ะ จะได้ทราบกันอีกไม่นานนี้แล้ว...
มามะเม้าท์กัน "คนที่คิดคัมภีร์ทานตะวันและฝึกสำเร็จคนแรกคือบูเช็คเทียน"
ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย อู่หยาจื่อ, 11 ตุลาคม 2012.
หน้า 1 ของ 4
-
-
อ่ะ เท่าที่ท่านๆ ได้ทราบมาก็คือ กิมย้งได้สืบค้นประวัติศาสตร์
จากข้อมูลมากมายไปเขียนนิยายกำลังภายใน ทว่า เท่าที่เขา
สืบค้นได้ ก็แค่
มีขันทีเฒ่าคนหนึ่ง สมัยราชวงศ์ถัง เป็นผู้รจนาคัมภีร์ทานตะวัน
ขึ้นมา และฝึกสำเร็จสมบูรณ์เป็นคนแรก อ่ะ จริงๆ แล้วมันมีมาก
กว่านี้นะ จะบอกให้ละ จุ๊ๆ อย่าไปบอกใครมากละ มันเป็นความ
ลับแบบว่าสุดยอดเลย ของสมัยราชวงศ์ถังเชียวนะ
เดี๋ยวจะค่อยๆ บอกละกัน ใจเย้นนนน เย้นนน -
นี่ยังไม่ใช่ต้นฉบับหรอกนะ -
มาเรื่องเป็นมาอย่างนี้ เริ่มต้นจากบูเช็คเทียนรู้สึกมีปมด้อยที่เกิดเป็นหญิง
ทำอะไรก็ไม่ได้ ทำดีก็หาว่าไม่ดี ผิดไปหมดเพียงเพราะแค่เกิดเป็นหญิงก็
เลยปรึกษาขันทีคนสนิทว่า มียาอะไรมั้ยที่กินแล้วเก่งเท่าผู้ชายได้ ขันทีก็
บอกว่า ผู้ชายเก่งเพราะมีธาตุหยาง ผู้หญิงอ่อนแอเพราะมีธาตุหยิน ถ้าจะ
ให้แข็งแกร่งเหมือนผู้ชาย ก็ต้องกินอาหารเสริมธาตุหยาง และยังมีวิธีของ
เต๋าโบราณที่จะเสริมธาตุหยางได้ด้วย คือ ๑. ปรุงยาเสริมธาตุหยาง (ซึ่ง
ยานี้ต่อมา บูเช็คเทียนให้แม่ทัพที่ตนนับถือกิน ทว่า แม่ทัพตายเพราะยานี้
โดยไม่เจตนา เพราะผู้ชายเสริมหยางมากไปเกินพอดี ไม่ควร) ๒. ให้เด็ก
หนุ่มผู้ชายมากๆ มาปรนนิบัติห้อมล้อมแล้วจะได้รับ ดูดซับพลังธาตุหยาง
จากเด็กหนุ่มเหล่านั้นได้ (ต่อมา บูเช็คเทียนเลยถูกกล่าวหาว่ามักมากใน
กามคุณ เพราะเรียกเด็กหนุ่มไปปรนนิบัติมากมาย เพราะพวกขุนนางไม่รู้
ว่าพระนางฯ ฝึกพลังหยางอยู่ โดยไม่มีกามกันเลย) ต่อมา พลังหยางใน
ตัวนางก็มากขึ้น ทำให้นางยิ่ง ๑. แข็งแกร่งดุจชาย ๒. เหี้ยมโหดผิดสตรี
๓. เก่งกล้า มีความสามารถ ๔. มีพลังความร้อนเพิ่มมากขึ้น ๕. ทะเยอ
ทะยานเกินกว่าปุถุชนปกติ อาวละ แต่ในที่สุด แม่นางฯ ก็ประสบความสำ
เร็จดังใจหมาย ทำให้ขันทีเฒ่าคนนั้น รวบรวมเอาหลักการที่นางคิดค้น ที่
ให้ทำขึ้นนี้ไปปรับและเขียนเป็น "คัมภีร์ทานตะวัน" ขึ้นมาคำว่าทานตะวัน
ก็อุปมาเหมือนหญิงที่หาญกล้าท้าดวงตะวัน นั่นเอง ทว่า เพราะพระนางก็
เคยให้ยาแก่แม่ทัพกินแล้วตาย ขันทีคนนั้นจึงเสริม, ปรับยาตัวใหม่ ให้มัน
เหมาะกับผู้ชายบ้าง คือ ยาที่ทำให้มีลักษณะเหมือนสตรี ผิวพรรณงดงาม
แล้วก็ขจัดอุปสรรคที่ผู้ชายทำไม่ได้ออกไป คือ "ตัดอวัยวะเพศชาย" ซึ่ง
เหล่าขันทีใช้สูตรที่ปรับจากพระนางฯ เหล่านี้แล้ว "ได้ผลยิ่งยวด" ทำให้มี
อำนาจมากขึ้นมากในเวลาต่อมา นอกจากนี้ ขันทีเฒ่ายังปรับให้คัมภีร์นั้น
กลายเป็นคัมภีร์ยุทธอีกด้วย (ต้นฉบับของบูเช็คเทียน ไม่มีเรื่องการต่อสู้)
และนี่ก็คือที่มาของคัมภีร์ทานตะวันที่แท้จริง ... -
พลังหยิน, หยาง, อิม, เอี้ยง เหมาะสมจะฝึกอย่างไร?
เอาละ บางคนอาจคิดว่าพลังหยางกะเอี้ยง คือ อันเดียว
กัน แท้แล้วไม่ใช่ คือ มันอยู่ในกลุ่มเดียวกัน คล้ายกันแต่
ไม่เหมือนกัน กล่าวคือ ผู้ชายมีธาตุหยางมากอยู่แล้ว ถ้า
ฝึกเพิ่มมากเกินไปจะเกินพอดี และกลายเป็นภัยได้ ดังนั้น
ถ้าจะฝึกพลังสายร้อน ต้องฝึกพลังเอี้ยง เหมือนเตียบ่อกี้
ผู้หญิงถ้าฝึกพลังหยาง จะเหมือนบูเช็คเทียน จึงไม่เหมาะ
ที่จะฝึก พลังหยินหยาง นั้น ฝึกได้จำกัด มากเกินไปไม่ได้
แต่ผู้ชายยิ่งมีพลังเอี้ยงยิ่งดี ผู้หญิงยิ่งมีพลังอิม ก็ยิ่งดี นั่น
เหมาะแก่การฝึก ส่วนพลังหยินหยางนั้น ควรมีอย่างพอดี
พอเหมาะ สมดุล เช่น ในชายควรมีพลังหยางมากกว่าหยิน
แต่ถ้าไม่มีหยินเลยจะไม่เข้าใจสตรีเป็นคนแข็งกร้าวเกินไป
ดังนั้น จึงควรมีพลังหยินบ้าง บางส่วน จึงจะสมดุลพอดีได้ -
Oh my god โหดแท้ตัดตอนกันเลยรึนี่ 5555555rabbit_run_awaydannce_
-
อีกประการ พลังหยาง ขับดันไปสู่การทำลาย
ในขณะที่พลังเอี้ยง ขับดันไปสู่การรักษา
ดังนั้น แม้พลังทั้งสองจะมีลักษณะที่คล้าย
กันที่ "ร้อน" เหมือนกัน ทว่า ใช้ในทางที่ต่าง
กัน กล่าวคือ ร้อนแบบเอี้ยง ใช้รักษา แต่ร้อน
แบบหยาง ใช้ทำลาย นั่นเอง ... -
คัมภีร์ทานตะวัน..น่าฝึกมากมาย..(good)
-
การมีกามกัน ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนกันของพลังหยินหยาง
เมื่อชายหญิง มีกามกัน ทำให้ฝ่ายชายได้รับพลังหยินบางส่วน
ฝ่ายหญิงได้รับพลังหยางบางส่วน แต่ "อิม, เอี้ยง" ไม่ใช่เช่น
นี้ มันไม่แลกกัน กล่าวคือ ฝ่ายชายจะ "ให้พลังเอี้ยง" แก่ฝ่าย
หญิง โดยไม่ได้รับพลังอิมจากฝ่ายหญิง จากการมีกามเลย ก็
คือ สรุปว่า การมีกามกันนั้น ฝ่ายชายจะเป็นฝ่ายให้พลังเอี๊ยง
ฝ่ายหญิงจะเป็นผู้รับพลังเอี๊ยง ทว่า พลังเอี๊ยงนั้น ยิ่งให้ ก็ยิ่ง
เพิ่มพูนมากขึ้นกว่าเดิม (แม้ช่วงให้แรกๆ พลังจะลดลงไปก็
ตาม) ส่วนพลังหยินหยางนั้น มีทั้งให้และรับ แลกเปลี่ยนกัน -
รากฐานก็มาผิดแต่แรกนะครับ
ถ้าจะฝึกพลังสายร้อน เก้าเอี๊ยง
กับ "ฝ่ามือหกสุริยัน" จะเหมาะ
สมกว่า ฝึกแล้วไม่มีปัญหาครับ -
-
ผู้ชายบางคนทำไม มีกามกับผู้หญิงหลายคน?
อาจเป็นเพราะ "พลังหยาง" มากเกินไป จึงใช้
กามในการแลกเปลี่ยน ปรับสมดุลของพลังหยิน
หยาง ก็ได้ครับ ยิ่งพลังหยางมาก ก็ยิ่งต้องมีเมีย
มาก เช่น เจงกิสข่าน เป็นต้น ถ้าไม่เช่นนั้นแล้วก็
จะเป็นคนดุร้ายและทะเยอทะยานสูงมากไปครับ -
ผู้ชายมีกามกับผู้หญิงมากเกินไป สุดท้ายอาจกลับเพศได้?
อันนี้ เป็นผลมาจากการสูญเสียพลังหยางไปเรื่อยๆ จนไม่
ทันระวังตัว และได้รับพลังหยินจากฝ่ายหญิงมาด้วย ทำให้
ผู้ชายค่อยๆ อ่อนลง นิ่มนวลลง สุภาพมากขึ้น พูดคุยก็จะ
มีความอ่อนโยนมาก จนบางคนมองว่า "ไม่แมน" ก็มีครับ
แต่เขาเป็นชายแท้นะครับ เพียงเพราะเขาได้รับพลังหยินมา
จากผู้หญิงมากไป นั่นเอง และถ้ามันมากเกินไปจริงๆ ก็อาจ
จะกลายเพศ กลับเป็น... ได้นะครับ ๕๕๕ อันนี้ ไม่แน่ดอก
นาย ดังนั้น การมีกามแต่พอดี ก็ช่วยให้ไม่เกิดปัญหานี้ได้คับ -
ผู้รู้วานบอกหน่อยนะคะ ชอบอ่านพวกกำลังภายในค่ะ -
ผู้หญิงมีกามกับผู้ชายมากๆ จะกลายเป็นผู้หญิงเก่งและกล้าเกินไป
อ่ะ อันนี้ก็เป็นปัญหาของผู้หญิงบ้างละ คนที่มีพลังหยางมากไป ก็
จะกลายเป็นผู้หญิงเก่ง, กล้า, แกร่ง และทะเยอทะยานมากเกินไป
จำเป็นต้องหา "ผู้ชายที่มีพลังหยิน" เกินไป มาปรับกัน คือ ให้พลัง
หยินของชายที่มากเกินไป ไปสู่ฝ่ายหญิงและให้พลังหยางของหญิง
ที่มีมากเกินไป ไปสู่ผู้ชาย ก็จะปรับสมดุลกันได้ ถ้านึกภาพไม่ออก
ก็ลองนึกถึง ผู้หญิงเก่ง ทะเยอทะยาน จนผู้ชายเอาไม่อยู่ นั่นควรมี
คู่กับ "ผู้ชายที่มีวิสัยคล้ายสตรี" เช่น อยู่กับบ้าน ทำงานบ้าน ไม่ได้
ต้องการแย่งแก่งอะไรใคร พอใจในความสุขที่เรียบง่ายในครอบครัว -
เก้าเอี้ยงก็แบบเตียบ่อกี้ไง (ดาบมังกรหยก)
หกสุริยันก็แบบซีจุ๊ (แปดเทพอสูรมังกรฟ้า) -
พลังความร้อนที่ดี และไม่ดี กับ "อาการร้อนในกำเริบ" ในชาย?
เอาละ ในผู้ชายที่มักเป็นโรคร้อนใน เพราะพลังร้อนฝ่ายทำลาย
หรือก็คือ "พลังหยาง" มากเกินไปนะครับ ส่วนพลังเอี๊ยงนั้น ไม่
ใช่ตัวปัญหา ไม่ใช่สาเหตุครับ วิธีแก้ก็คือ ปรับถ่ายพลังหยางที่มี
มากเกินไปสู่ผู้หญิง หรือก็คือ ผู้ชายคนไหนร้อนใน ก็ให้เข้าใกล้
พูดคุยกับสตรีเพศให้มากขึ้น ก็จะช่วยปรับพลังหยางให้ลดลงได้
(สองสามวันมานี้อาการร้อนในผมกำเริบ เพิ่งจะทุเลานี่แหละคับ) -
พลังเย็นแบบอิม กับเย็นแบบหยิน ต่างกันอย่างไร?
เอาละ สองอย่างมีลักษณะเย็นเหมือนกัน ทว่า พลัง
เย็นอิม เป็นแบบดึงดูด ไม่มีถ่ายให้ นอกจากจะตั้งใจ
ถ่ายให้จริงๆ จึงจะได้รับพลังอิมครับ ส่วนพลังหยินนี้
เป็นพลังที่แม้ไม่ตั้งใจจะถ่ายให้ ก็สามารถแลกเปลี่ยน
ได้ระหว่างชายและหญิงอยู่แล้ว ไม่ใช่พลังสายดึงดูด
ครับ อนึ่ง พลังหยินจะใช้ทาง "รักษา" แต่พลังอิม จะ
ใช้ในทาง "ทำลาย" ครับ (ผู้หญิงที่ทำหน้าที่รักษาจึง
ควรมีพลังหยิน-เอี๊ยง หรือผู้หญิงที่มีพลังความร้อนดี)
ส่วนผู้ชายคนไหนมีพลังหยาง-อิม ก็จะเป็นมือทำลาย -
คำภีร์ทานตะวัน นี่ มหาเวทย์ดูดดาว กัน ไม่ไช่หรือคะ
ที่พากันเข้าใจผืดว่า รู้จิตรุ้ใจ คนอื่น บรรลุธรรมกันแล้ว คิดกันไปเอง -
ลงตัวเลย พอดี๊ พอดี :cool:
หน้า 1 ของ 4