มายา:องค์หลวงปู่น้อย ญาณวโร วัดป่าห้วยริน ต.หัวนาคำ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น

“...พระองค์รู้ได้ไงว่าสิ่งที่อยู่ด้วยกันมานานนับหลายสิบอสงไขยนั้นเป็นมายา รู้ได้อย่างไง ก็รู้ได้เมื่อพระองค์ได้ตรัสรู้เป็นโพธิญาณ อ๋อ..ไอ้มายานี้เอง มายานี้เอง เป็นตัวรัดตรึงใจของสัตว์โลกข้ามภพข้ามชาติไม่มีที่สิ้นสุด สุขบ้างก็มายา ทุกข์บ้างก็มายา เข้าสู่ตระกูลราชาพระมหากษัตริย์ก็มายา ตระกูลยาจกขอทานก็มายา มายาทั้งนั้น ๆ ใครจะทราบไหมละลูก

นี่พระพุทธเจ้าจึงอัศจรรย์จริง อัศจรรย์แท้หนอพระองค์ค้นพบได้อย่างไงแล้วรู้ได้อย่างไงมันคือมายา นั่น รู้ได้เพราะการสร้างสมอบรมบารมีที่เรียกว่าอาวุธยุทโธปกรณ์ที่สมบูรณ์บริบูรณ ๓๐ ทัศ บารมีของพระพุทธเจ้าสั่งสมอบรมมาถึง ๓๐ ทัศ สมบูรณ์บริบูรณ์จึงสามารถทำลายโซ่ตรวนแห่งมายาได้ ข้ามภพข้ามชาติการก่อสร้างบารมีมาก็อยู่ด้วยมายา หากอยู่ด้วยกันก็ตามยังไม่ทราบว่าคือมายาเพราะมายามีทั้งดีและเลว มีทั้งบุญและบาป ไม่ใช่ว่ามายาจะมีเฉพาะแต่บาปโดยถ่ายเดียว มายาตัวเดียวมีทั้งความรักและความชัง มีทั้งบุญและทั้งบาป ทั้งชั่วทั้งดี แล้วพระองค์รู้ได้ไงนั่นจึงอัศจรรย์

พระพุทธเจ้าจึงอัศจรรย์จริงน่าอัศจรรย์จริง รู้ได้อย่างไง แล้วพวกเรานี่ได้สดับรับฟังธรรมของพระพุทธเจ้า ผู้ที่สามารถทำลายโซ่ตรวนแห่งมายาได้แล้วถึงได้เข้าใจทั้งที่อยู่กับมายาตลอด ก่อภพ ก่อชาติ ไม่มีที่สิ้นสุด โซ่นี้อย่าว่าแต่อาวุธยุทโธปกรณ์ล้ำเลิศขนาดไหน วิทยาศาสตร์ขนาดไหน ฟังให้ดีนะลูก เมื่อลูกอยู่กับมายาพึงเข้าใจมายา เมื่อเข้าใจมายาพึงอยู่กับมายา เมื่ออยู่กับมายาพึงเข้าใจมายา เมื่อเข้าใจมายาพึงสลัดมายา ได้ไหม ได้ ไม่ได้ก็เป็นทาสของมายาต่อไป งั้น เพ็ญ ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีพ.ศ. ๒๕๔๕ พ่อจึงทำลายโซ่ตรวนแห่งมายาได้อย่างสิ้นเชิง ประกาศก้องในไตรโลกธาตุปิดสวิตช์ภพชาติลงสมบูรณ์บริบูรณ์ เมื่อปิดสวิตช์ภพชาติแล้วมายาจะตามไปได้อย่างไงเพราะโซ่ตรวนของมายาถูกทำลายพินาศไปแล้ว เพราะไม่มีภพชาติอีก ก็ไม่มีมายา ถ้าต้องการภพชาติอีกก็มีมายา หากแม้นปิดสวิตช์ภพชาติแล้วเท่านั้นจึงสิ้นสุดมายา

วันนี้จึงเป็นวันที่เรารู้เราเห็นหลวงปู่รู้หลวงปู่เห็นต้นตอแห่งมายาทั้งโคตรเหง้าเหล่ากอของมายา เมื่อเพ็ญ ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ ปี พ.ศ. ๒๕๔๕ โคตรเหง้าเหล่ากอเป็นอย่างไง โคตรเชื้อของมายามันเป็นอย่างไงแล้วแต่จะเรียกตามสมมติ เรียกมายาก็ไม่ผิด จะเรียกว่าอวิชชาก็ไม่ผิด มันก็หากเป็นสมมติที่เรียก แล้วแต่ที่จะเรียกว่าสมเหตุสมผลหรือไม่ งั้นการเวียนว่ายตายเกิดจึงเป็นทาสของมายาร่ำไป

ลูกยอมสลัดมายาไหม ลูกคิดที่จะทำลายมายาไหม เพราะมายามันอิ่งอ้อย ออเซาะ ตอแหล กล้าสลัดมายาไหม ประจบประแจง ประจบสอพลอ เลียแข้งเลียขา เราก็เอ็นดูมายาซิ ลูบหัว เอ็นดู ให้ข้าวให้น้ำให้ที่พักพิงอาศัยเพราะหลงกลมายา ถ้าลูกหลงกลมายามันก็ต้องต่อภพต่อชาติต่อไปดั่งที่พูดให้ฟัง พ่อจึงรู้เห็นสิ่งที่เรียกว่ามายาตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าและทำลายมายา สลัด ตัดทิ้ง ทำลาย ล้างโคตรเหง้าเหล่ากอของมายา โซ่ตรวนใหญ่ขนาดไหนก็ตาม ทำลาย เผาทิ้ง ไม่มีเยื่อใยดังที่พูดให้ฟัง รัก อิ่งอ้อย ออเซาะ ตอแหล มายาตัวนี้ลูกมันข้ามยากที่สุด มายาความโกรธยังพอที่จะข้ามได้ง่าย มายาแห่งบาปอกุศลก็พอที่จะข้ามได้ง่าย แต่มายาแห่งความรักอิ่งอ้อยคุณงามความดี ประจบประแจง น่าสงสาร ตัวนี้นะซิลูก สัตว์โลกหลงมายา ยากมากนะลูก ยาก

แต่ถ้าลูกเห็นมายาแล้วนะมันแค้นไม่หาย โอ..โห... ไอ้มายานี่เองมันทำเราให้หลง ทำเราให้ทุกข์ยากลำบากข้ามภพข้ามชาติ รัดตรึงใจอยู่ตลอด หนีไปไหนก็โซ่ตรวนของมายารัดตรึงใจนั่นหละ ไปอยู่สวรรค์มันก็รัดตรึงใจ ไปอยู่พรหมโลกมันก็รัดตรึงใจ อะไรกันหนักกันหนาสัตว์โลกไม่ทราบ ที่ไหนได้มันตามไปทุกจุดแห่งไตรโลกธาตุยกเว้นเมืองพระนิพพาน เห็นไหมลูกมายาไหม ลูกคิดว่ามายามันเป็นตัวน่าเกลียดที่แท้มายามันเป็นตัวบริสุทธิ์ บริสุทธิ์ สะอาดสะอ้าน น่าเคารพเลื่อมใส น่าทะนุทนอมกล่อมเกลี้ยง อิ่งอ้อยนี่มายาใครจะสลัดได้ง่ายๆละลูก ยาก

แต่เมื่อเจอแล้วสลัดได้แล้วๆ โอ..โห..อันนี้เอง นั่น มายาตัวนี้เองที่ทำให้สัตว์โลกหลงงมงาย ก่อภพก่อชาติไม่มีที่สิ้นสุดแล้วสัตว์โลกจะรู้ได้อย่างไงว่ามันคือมายา นี่ซิ.....นี่เรียกว่าสัตว์โลกหูหนวกตาบอด ก็เพราะมายาตัวเดียวนี้เอง ตัวเดียวนี้เองที่ทำให้สัตว์โลกหูหนวกตาบอด ลืมตาไม่ขึ้น หูก็ไม่ได้ยิน หูหนวกตาบอดมีความรักหรือความชัง เข้าไปทำลายล้างเรียกว่ามายา สัตว์โลกยังหูหนวกตาบอดก่อภพก่อชาติไม่มีที่สิ้นสุด ฟังก็ได้สักแต่ว่าฟังเพราะมายามันก็ฟังเทศน์อยู่ มายามันพาเดินจงกรม นั่งภาวนา รักษาศีล มายามันพาให้ทำ พาให้พูดเพราะ พาให้พูดหยาบ มายาทั้งนั้นลูกเราถึงอัศจรรย์พระพุทธเจ้าไง พระพุทธเจ้ารู้ได้อย่างไงนั่นแหละลูก ศาสดาของโลกเก่ง นี่แหละสัตว์โลกจึงถูกพวกมายาพวกนี้กล่อม หูหนวกตาบอดอยู่ตลอดเวลาไม่เลือกกาลเวลา เดิน ยืน นั่ง นอน พูด คิด ดื่ม ทำ มายาก็เข้าไปครอบงำทุกกาลเวลา นี่แหละจึงอัศจรรย์พระพุทธเจ้าเพราะเรื่องนี้

อย่างงั้นผู้ที่ถึงธรรมชั้นสูงสุดจึงมีความเคารพเทิดทูนพระพุทธเจ้า โสสุด โสเป็น โสตาย กับพระองค์ มอบกายถวายชีวิต สละชีวิต อุทิศให้กับพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เลย จะไม่อุทิศได้ไงเล่าลูกนั่นก็อัศจรรย์ขนาดนั้น ถ้าไม่อุทิศมายาก็รัดตรึงใจเหมือนเดิมนอกจากที่จะอุทิศชีวิตนี้ให้กับพระพุทธเจ้าเสีย มอบกาย ถวายชีวิตเสีย นั่นแหละลูกมายาจึงจะตามไม่ถึง กล้าไหม กล้าสลัดไหม มันอิ่งอ้อย ออเซาะ ตอแหล บริสุทธิ์ สะอาด สะอ้าน ยากนะลูก คือไม่มีช่องโหว่ทุกจุดเป็นของมายาทั้งหมด ทั้งรัก ทั้งชัง ทั้งบริสุทธิ์ ผุดผ่อง นี่แหละลูก พุทธศาสนาจึงเป็นศาสนาที่เลิศที่ประเสริฐก็เรื่องนี้ ศาสนาอื่นศาสดาอื่นไม่รู้จักมายาเลย พระพุทธเจ้าเท่านั้นที่พระองค์ทรงรู้จักมายาว่ามันเป็นเฉกเช่นไร และทำลายโซ่ตรวนแห่งมายาได้อย่างสิ้นเชิง ตรัสรู้เป็นโพธิญาณ ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า เราจะกล้าไหม พ่อเราเลิศพ่อเราประเสริฐแต่ลูกไม่เลิศไม่ประเสริฐเหมือนพ่อนี่ซิ ก็ต้องเป็นทาสของมายาร่ำไป ฟังก็ได้สักแต่ว่าฟัง ปฏิบัติก็ได้สักแต่ว่าปฏิบัติ หากมายามันก็ปฏิบัติอยู่ด้วย ยกเว้นผู้ที่โสสุด โสเป็น โสตาย มอบกายถวายชีวิตกับพระพุทธเจ้าเท่านั้นจึงจะสามารถทำลายมายาแห่งความรักความชัง ความอิ่งอ้อย ความบริสุทธิ์ผุดผ่องได้ ไม่งั้นก็เป็นทาสของมายาตลอดไป ฟังธรรมต้องฟังให้เป็นฟังแล้วต้องพินิจพิจารณาไตร่ตรองและนำไปประพฤติปฏิบัติก็จะสามารถหลุดพ้นจากมายาได้อย่างสิ้นเชิง”

โอวาทธรรม:องค์หลวงปู่น้อย ญาณวโร
วัดป่าห้วยริน ต.หัวนาคำ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น
๒๔ กันยายน ๒๕๖๑