มาร่วมกันฟัง-สวดบทอุปปาตะสันดิ บทสวดระงับเหตุร้าย เพื่อสันติสุขของบ้านเมืองกันนะคะ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย Toutou, 1 มกราคม 2007.

  1. Toutou

    Toutou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2005
    โพสต์:
    1,455
    ค่าพลัง:
    +8,107
    เหตุการณ์ก่อการร้ายที่เกิดขึ้นเมื่อคืนส่งท้ายปีเก่าที่ผ่านมา สร้างความเสียหายให้กับทั้งเลือดเนื้อชีวิต และขวัญกำลังใจของปวงชนชาวไทย เป็นที่น่าเศร้าสลดใจเป็นอย่างมาก จึงขอเรียนเชิญทุกท่านมาร่วมกันฟัง-สวด บทอุปปาตะสันติ หรือมหาติงสาหลวง เพื่อสงบเคราะห์กรรม สงบเหตุร้าย เสริมสร้างสันติสุขและศิริมงคลให้แก่บ้านเมืองกันนะคะ

    อ้างอิง http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01bud02031249&day=2006/12/03

    อ่านเพิ่มเติมได้จากกระทู้ที่สมาชิกได้โพสต์ไว้ก่อนหน้านี้คะ[music]http://www.suadmon.net/chanting/ooppasanti/ooppatasanti.wma[/music]
     
  2. Toutou

    Toutou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2005
    โพสต์:
    1,455
    ค่าพลัง:
    +8,107
    คำชี้แจงเรื่องคัมภีร์อุปปาตะสันติ

    คัมภีร์อุปปาตะสันติภาษาบาลีนี้ มีคำชี้แจงเพื่อทราบประวัติย่อต่อไปนี้
    ๑. อุปปาตะสันติ แยกเป็น ๒ คำ คือ อุปปาตะ คำ ๑ และ สันติ คำ ๑ อุปปาตะ แปลว่า เคราะห์กรรม, เหตุร้าย, อันตราย และแปลว่าสิ่งกระทบกระเทือน
    อุปปาตะสันติ แปลว่าบทสวดสงบเคราะห์กรรม แปลว่าบทสวดสงบอันตราย แปลว่าบทสวดสงบเหตุร้าย และแปลว่าบทสวดสงบสิ่งกระทบกระเทือน
    ๒. คัมภีร์อุปปาตะสันติ เป็นวรรณคดีบาลีลานนาไทย พระสีลวังสะมหาเถระ แต่งที่เชียงใหม่ สมัยกรุงศรีอยุธยา ระหว่าง พ.ศ. ๑๘๙๓ ถึง พ.ศ. ๒๐๑๐ เป็นคาถาล้วนจำนวน ๒๗๑ คาถา จัดเข้าในหนังสือประเภท “เชียงใหม่คันถะ” คือ คัมภีร์เชียงใหม่มีอายุประมาณ ๖๐๐ ปีเศษแล้ว
    มีคำเล่าว่า สมัยแต่งอุปปาตะสันตินั้น ที่เมืองเชียงใหม่นั้นมีโจรผู้ร้ายและ คนอัทธพาลชุกชุมมากผิดปกติ มีเหตุร้ายและสิ่งกระทบกระเทือนอยูเสมอ พระสีลวังสะ จึงให้พระสงฆ์ สามเณรและประชาชนพากันสวดและฟังอุปปาตะสันติ เพื่อกลับร้ายให้กลายเป็นดี มีผู้เลื่อมใสคัมภีร์นี้มาก และถือว่าเป็นคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ ต่อมาชาวพม่ามีความเลื่อมใสนำคัมภีร์นี้เข้าไปในประเทศพม่า เข้าใจว่านำเข้าไป ที่เมืองอังวะก่อนแล้วแพร่หลายไปทั่วประเทศพม่าสมัย ๕๐๐ ปีที่ล่วงแล้ว ชาวพม่าทั้งพระสงฆ์และประชาชนถือว่า คัมภีร์อุปปาตะสันติ มีความศักดิ์สิทธิ์มาก นิยมท่อง นิยมสวดและนิยมฟังอย่างกว้างขวาง มีคำเล่ากันว่า สมัยหนึ่งพวกจีนมาตีเมืองอ้งวะ ประเทศพม่า ชาวพม่าทั้งพระสงฆ์ ข้าราชการ และประชาชนพากันสวดคัมภีร์อุปปาตะสันติ พวกจีนได้ฟังอุปปาตะสันติโฆษณาคือ เสียงกึกก้องของอุปปาตะสันติ ก็มีความกลัวแล้วพากันหนีกลับไป
    ๓. บุคคลและสภาวะที่อ้างถึงในคัมภีร์อุปปาตะสันติมี ๑๓ ประเภทคือ
    ๓.๑ พระพุทธเจ้าทั้งหลายในอดีตถึงปัจจุบัน (เน้นที่ ๒๘ พระองค์)
    ๓.๒ พระปัจเจกพุทธเจ้า
    ๓.๓ พระพุทธเจ้าในอนาคต ๑ พระองค์ คือ พระเมตไตรย
    ๓.๔ โลกุตตรธรรม ๙ และพระปริยัติธรรม ๑
    ๓.๕ พระสังฆรัตนะ
    ๓.๖ พระเถระชั้นผู้ใหญ่ ๑๐๘ รูป
    ๓.๗ พระเถรีชั้นผู้ใหญ่ ๑๓ รูป
    ๓.๘ พยานาค
    ๓.๙ เปรตบางพวก
    ๓.๑๐ อสูร
    ๓.๑๑ เทวดา
    ๓.๑๒ พรหม
    ๓.๑๓ บุคคลประเภทรวม เช่น เทวดา ยักษ์ ปีศาจ คือผีที่ทำสิ่งใดๆ อย่างโลดโผน และวิชชาธรหรือพิทยาธร(สันสกฤตเรียกวิทยาธร) ถ้าเป็นภาษาอังกฤษเรียกพวก เซอเร่อคือพ่อมด แม่มด หรือผู้วิเศษ พวกวิชชาธร เป็นพวกรอบรู้เรื่องเครื่องรางและเสน่ห์ต่างๆ สามารถไปทางอากาศได้
    เรื่องราวเย็นอกเย็นใจที่สังคมมุ่งหวังและเสาะแสวงหา ที่กล่าวถึง ในคัมภีร์อุปปาตะสันติ มีประการที่สำคัญ ๓ อย่างคือ
    ก. สันติหรือมหาสันติ ความสงบ ความราบรื่น ความเยือกเย็น ความไม่มีคลื่น
    ข. โสตถิ ความสวัสดี ความปลอดภัย ความเป็นอยู่เรียบร้อย หรือตู้นิรภัย
    ค. อาโรคยะ ความไม่มีสิ่งเป็นเชื้อโรค ความไม่มีโรคหรือความมีสุขภาพสมบูรณ์
    คัมภีร์อุปปาตะสันติ มีข้อความขอความช่วยเหลือ ขอให้พระรัตนตรัยและบุคคล พร้อมทั้งสิ่งทรงอิทธิพลในจักรวาลรวม ๑๓ ประเภทดังกล่าวมาแล้วช่วยสร้างสันติ หรือมหาสันติ ช่่วยสร้างโสตถิและอาโรคยะ ช่วยปรุงแต่งสันติและอาโรคยะ ขอให้ช่วยรวมสันติ รวมโสตถิและรวมอาโรคยะ และขอให้ช่วยเป็นตู้นิรภัยคุ้มครองและ กำจัดเหตุร้ายอันตรายหรือสิ่งกระทบกระเทือนต่างๆ อย่าให้เกิดมีในตน ในครอบครัว ในหมู่คณะ หรือในวงงานของตน และในวงงานของคนอื่นทั่วไป
    ๔. อานิสงฆ์การสวดและการฟังอุปปาตะสันติ มีคุณประโยชน์ตามที่กล่าวไว้ ในท้ายคัมภีร์ มีดังนี้
    ๔.๑ ผู้สวดหรือผู้ฟังอุปปาตะสันติ ย่อมชนะเหตุร้ายทั้งปวงได้ และมีวุฒิภาวะคือ ความเจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ และปฏิภาณ
    ๔.๒ ผู้สวดหรือผู้ฟังอุปปาตะสันติ ย่อมได้ประโยชน์ที่ตนต้องการ คือ ผู้ประสงค์ความปลอดภัยย่อมได้ความปลอดภัย คนอยากสบายย่อมได้ความสุข คนอยากมีอายุยืน ย่อมได้อายุยืน คนอยากมีลูก ย่อมได้ลูกสมประสงค์
    ๔.๓ ผู้สวดหรือผู้ฟังอุปปาตะสันติ ย่อมไม่มีโรคลมเป็นต้นมาเบียดเบียน ไม่มีอกาละมรณะคือตายก่อนอายุขัย ทุนนิมิตรคือลางร้ายต่างๆมลายหายไป
    ๔.๔ ผู้สวดหรือผู้ฟังอุปปาตะสันติ เมื่อเข้าสนามรบย่อมชนะข้าศึก ทั้งปวงและแคล้วคลาดจากอาวุธทั้งปวง
    ๕. เดชของอุปปาตะสันติ การสวดอุปปาตะสันติเป็นประจำ ย่อมมีเดชดังนี้
    ๕.๑ อุปปาตะ คือเหตุร้ายหรือสิ่งกระทบกระเทือน อันเกิดจากแผ่นดินไหวเป็นต้น ย่อมพินาศไป (ปะถะพะยาปาทิสัญชาตา)
    ๕.๒ อุปปาตะ คือ คือเหตุร้ายหรือสิ่งกระทบกระเทือน อันเกิดจากลูกไฟที่ตกจากอากาศหรือสะเก็ดดาว ย่อมพินาศไป (อุปปาตะจันตะลิกขะชา)
    ๕.๓ อุปปาตะ คือ คือเหตุร้ายหรือสิ่งกระทบกระเทือน อันเกิดจากการเิกิดจันทรุปราคาหรือสุริยุปราคา เป็นต้น ย่อมพินาศไป (อินทาทิชะนิตุปปาตา)
    ๖. คัมภีร์อุปปาตะสันติ เป็นคัมภีร์ไทย แต่ต้นฉบับได้จากเมืองไทย ไปอยู่เมืองพม่าเสียนาน จนแทบกล่าวได้ว่า คนไทยสมัยหลังไม่มีใครรู้จัก ไม่เคยได้ยินแม้แต่ชื่อ ข้าพเจ้าจึงชำระและจัดพิมพ์เป็นอักษรไทย ด้วยวิธีเขียนให้คนอ่านคำบาลีทั่วไป สำหรับต้นฉบับนั้น ข้าพเจ้ามีแต่ฉบับเมืองพม่า และเป็นอักษรพม่า โดยท่านอาจารย์ธรรมานันทะธัมมาจริยะ ครูพระไตรปิฏก ประจำวักโพธาราม ได้กรุณาถวาย ข้าพเจ้าจึงขอขอบคุณอย่างยิ่งไว้ในที่นี้
    การที่ข้าพเจ้าได้ชำระและจัดพิมพ์อุปปาตะสันติ เป็นอักษรไทยขึ้นเป็นครั้งแรกนี้ ข้าพเจ้าถือว่าเป็นการนำคัมภีร์ไทยโบราณกลับคืนสู่เมืองไทย เพื่อให้คนไทยได้รู้จัก ได้ศึกษา ได้สวด และได้ฟังให้เกิดประโยชน์ทางสันติ ทางโสตถิและทางอาโรคยะ สืบไป ในที่สุดนี้ข้าพเจ้าขอถือโอกาสเชิญชวนมวลพุทธศาสนิกชนชาวไทย พร้อมกันยกมือสาธุแสดงความชื่นชมโสมนัสต่อการกลับมาโดยสวัสดีของคัมภีร์อุปปาตะสันติ โดยทั่วกันทุกท่านเทอญ
    พระเทพเมธาจารย์
    ๗ สิงหาคม ๒๕๐๕
    วัดโพธาราม จ.นครสวรรค์

    อุปปาตะสันติ

    บทสวดสงบเหตุร้าย
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (สามจบ) (นำ) หันทะ มะยัง อุปปาตะสันติ คาถาโย ภะณา มะเส ฯ

    คันถารัมภะ

    คำเริ่มต้นคัมภีร์
    (ก) สุทุททะโส อะยัง ธัมโม โลกัตถัง ชินะเทสิโต
    มหาสันติกะโร โลเก สัพพะส้มปัตติทายะโก.
    (ข) สัพพุปะปาตูสะมะโณ ภูตะยักขะนิวาระโณ
    อะกาละมัจจุสะมะโณ โสกะโรคะวินาสะโน.
    (ค) ปะระจักกะมัททะโนปิ รัญโญ วิชะยะวัฑฒะโน
    สัพพานิฏฐะหะโร สันติ ธัมมัง วักขามิ ภูตะโต.
    (ฆ) วัตถุตตะยัสสะ โย ยัตถะ สังวัณเณติ คุณุตตะเม
    ตัสสะ ตัตถะ สุขาโรคฺยะ โสตถิโย โหนติสัพพะทา.
    พระพุทธเจ้าในอดีต ๒๘ พระองค์
    ในสารมัณฑกัป ๔ พระองค์
    ๑. ตัณหังกะโร มหาวีโร สัพพะโลกานุกัมปะโก
    วันตะสังสาระคะมะโน สัพพะกามะทะโท สะทา.
    ๒. สัพพาภิภู สัพพะวิทู สัพพะเทวะคะรุตตะโม
    สัพพาสะวะปะริกขีโณ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๓. วะระลักขะณะสัมปันโน เมธังกะโร มหามุนิ
    ชุตินธะโร มหาสิรี สุวัณณะคิริสันนิโภ.
    ๔. ทิพพะรูโป มหากาโย มะหานาโถ มะหัพพะโล
    มะหาการุณิโก สัตถา มะหาสันติง กะโรตุ โน.
    ๕. มหาโมหะตะมัง หันตะวา โย นา โถ สะระณังกะโร
    เทวาเทวะมะนุสสานัง โลกานัญจะ หิตังกะโร.
    ๖. พฺยามัปปะภาภิรุจิโต นิโครธะปะริมัณฑะโล
    นิโครธะปักกะพิมโพฏโฐ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๗. อะสีติระตะนุพเพโธ ทีปังกะโร มะหามุนิ
    ปภา นิททาวะเต ตัสสะ ฐาเน ทะวาทะสะ โยชะเน.
    ๘. วัสสะสะตะสะหัสสานิ ฐัตตะวา โลเก วินายะโก
    โลกาโลกะกะโร สัตถา สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.

    ในสารกัป ๑ พระองค์
    ๙. อัฏฐาสีติหัตถุพเพโธ โกณทัญโญ นามะ นายะโก
    สัพพะธัมเมหิ อะสะโม สัพพะปาระมิตาคะโม.
    ๑๐. วัสสะสะตะสะหัสสานิ อายุ ตัสสะ มเหสิโน
    โมเจตุ โส สัพพะภะยา สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.

    ในสารมัณฑกัป ๔ พระองค์
    ๑๑. อัฏฐาสีติ ระตะนานิ อัจจุคคะโต ชุตินธะโร
    มังคะโล นามะ สัมพุทโธ นะวุติสะหัสสายุโก.
    ๑๒. ฉัพพัณณะรังสิโย ทะสะ สะหัสสะโลกะธาตุยา
    ผะรันตา ตัสสะ ฉาเทนติ เอสะ โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๓. นะวุติระตะนุพเพโธ สุมะโน นามะ นายะโก
    กัญจะนาจะละสังกาโส นะวุติสะหัสสายุโก.
    ๑๔. อุเปโต พุทธะคุเณหิ สัพพะสัตตะหิเตสะโก
    กะโรตุ โน มหาสันติง อาโรคะยัญจะ สุขัง สะทา.
    ๑๕. อะสีติระตะนุพเพโธ สัฏฐีสะหัสสะอายุโก
    เรวะโต นามะ สัมพุทโธ สัพพะโลกุตตะโร มุนิ.
    ๑๖. ตัสสะ สะรีเร นิพพัตตา ปะภามาลา อะนุตตะรา
    ผะรันตา โยชะเน นิจจัง สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๗. โสภิโต นามะ สัมพุทโธ นะวุติสะหัสสายุโก
    สังสาระ สาคะเร สัตเต พะหู โมเจติ ทุกขะโต.
    ๑๘. อัฏฐะปัญญาสะระตะนัง อัจจุคคะโต มะหามุนิ
    โอภาเสติ ทิสา สัพพา สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ในวรกัป ๓ พระองค์
    ๑๙. อะโนมะทัสสี สัมพุทโธ เตชัสสี ทุระติกกะโม
    อัฏฐะปัญญาสะระตะโน โอภาเสนโต สะเทวะเก.
    ๒๐. นิพพานะปาปะโก โลเก วัสสะสะตะสหัสสายุโก
    กะโรตุ โน มหาสันติง สุขิตา จะ มะยัง สะทา.
    ๒๑. ปะทุโม นามะ สัมพุทโธ โลกะเชฏโฐ นะราสะโภ
    อัฏฐะปัญญาสะระตะโน อาทิจโจวะ วิโรจะติ.
    ๒๒. วัสสะสะตะสะหัสสานิ อายุ ตัสสะ มเหสิโน
    โสปิ พุทโธ การุณิโก สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๒๓. อัฏฐาสีติระตะนุพเพโธ นาระโท สัพพะกามะโท
    นิรันตะรัง ทิวารัตติง โยชะนัง ผะระเต ปะภา.
    ๒๔. นะวุติวัสสะสะหัสสานิ ฐัตฺวา โลเก วินายะโก
    โมเจติ ทุกขะโต สัตเต โสปิ โสตถิง กะโรตุ โน.
    ในวรกัป ๓ พระองค์
    ๒๕. อัฏฐะปัญญาสะระตะโน ปะทุมุตตะโร มหามุนิ
    ตัสสะ ปากะติกา รังสี ผะรันติ ทฺวาทะสะ โยชะเน.
    ๒๖. วัสสะสะตะสะหัสสานิ ฐัตฺวา โลเกมะตันทะโท
    โมเจติ พันธะนา สัตเต โสปิ ปาเลตุ โน สะทา.
    ๒๗. อัฏฐาสีติระตะนานิ อัจจุคคะโต มหามุนิ
    สุเมโธ นามะ สัมพุทโธ นะวุติสะหัสสายุโก.
    ๒๘. ตัสสะ ปากะติกา รังสี ผะรันติ โยชะนัง สะทา
    ปาเลตุ โน สะทา พุทโธ ภะเยหิ วิวิเธหิ จะ.
    ๒๙. ปัญญาสะระตะนุพเพโธ สุชาโต นามะ นายะโก
    เหมะวัณโณ มะหาวีโร มะหาตะมะวิโนทะโน.
    ๓๐. นะวุติวัสสะสะหัสสานิ อายุ ตัสสะ มะเหสิโน
    โสปิ พุทโธ การุณิโก สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ในวรกัป ๓ พระองค์
    ๓๑. อะสีติระตะนุพเพโธ ปิยะทัสสี มหามุนิ
    นะวุติวัสสะสะหัสสานิ ฐัตฺวา โลกัคคะนายะโก.
    ๓๒. โสปิ สัพพะคุณูเปโต สัพพะโลกะสุขัปปะโท
    สัพพะโทสัง วินาเสนโต สะพัง โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๓๓. อะสีติระตะนุพเพโธ อัตถะทัสสี นะราสะโภ
    วัสสะสะตะสะหัสสานิ โลเก อัฏฐาสิ นายะโก.
    ๓๔. ตัสสะ ปากะติกา รังสี ผะรันติ โยชะนัง สะทา
    นิรันตะรัง ทิวารัตติง นาโถ โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๓๕. ธัมมะทัสสี จะ สัมพุทโธ อะสีติหัตถะมุคคะโต
    อะติโรจะติ เตเชนะ สะเทวาสุระมานุเส.
    ๓๖. วัสสะสะตะสะหัสสานิ ฐัตฺวา โลเก มะหายะโส
    สัพพะสัตเต ปะโมเจติ ภะยา รักขะตุ โน สะทา.

    ในสารมัณฑกัป ๔ พระองค์
    ๓๗. สิทธัตโถ นามะ สัมพุทโธ สัฏฐิระตะนะมุคคะโต
    ติภะเว โสตถิชะนะโก สะติสสะหัสสะอายุโก.
    ๓๘. สังสาระสาคะรา โลเก สันตาเรตฺวา สะเทวะเก
    นิพพาเปติ จะ โส สัตถา สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๓๙. สัฏฐิระตะนะมุพเพโธ ติสโส โลกัคคะนายะโก
    อะนูปะโม อะสะทิโส อะตุโล อุตตะโม ชิโน.
    ๔๐. วัสสะสะตะสะหัสสานิ อายุ ตัสสะมะเหสิโน
    อาโรคฺยัญจะ มหาลุขัง โหตุ โน ตัสสะ เตชะสา.
    ๔๑. อัฏฐะปัญญาสะระตะโน ผุสโส โลกัคคะนายะโก
    ชะนัมพุชัง วิโพเธนโต นิพพาเปนโต สะเทวะเก
    ๔๒. นะวุติวัสสะสะหัสสานิ ฐัตฺวา โลเก มะหายะโส
    อุทธะรันโต พะหู สัตเต สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๔๓. อะสีติระตะนุพเพโธ วิปัสสี โลกะนายะโก
    ปะภา นิทธาวะเต ตัสสะ สะมันตา สัตตะ โยชะเน.
    ๔๔. โสปิ เทวะมะนุสสานัง พันธะนา ปะริโมจะยิ
    อะสีติสะหัสสายุโก นาโถ โสตถิง กะโรตุ โน.

    ในมัณฑกัป ๒ พระองค์
    ๔๕. สัตตะตีหัตถะมุพเพโธ สิขี นาเมสะ นายะโก
    ปภา นิทธาวะเต ตัสสะ สะมันตา โยชะนัตตะเย.
    ๔๖. โสปิ อะตุลฺโย สัมพุทโธ สัตตะตีสะหัสสายุโก
    กะโรตุ โน มะหาสันติง สุขิตา จะ มะยัง สะทา.
    ๔๗. เวสสะภู นามะ สัมพุทโธ เหมะรูปะสะมูปะโม
    สัฏฐีิระตะนะมุพเพโธ สัฏฐี จะ สะหัสสายุโก.
    ๔๘. พฺรัหฺมะเทวะมะนุสเสหิ นาคาสุระทิเชหิ วา
    ปูชิโตปิ สะทา นาโถ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.

    ในภัททกัป ๔ พระองค์
    ๔๙. ตาฬีสะระตะนุพเพโธ กะกุสันโธ มหามุนิ
    ตัสสะ กายา นิจฉะรันติ ปะภา ทฺวาทะสะ โยชะนา.
    ๕๐. จัตตาลฬีสะ สะหัสสานิ ตัสสะ อายุ อะนุตตะโร
    กะโรตุ โส สะทา นาโถ อายุ สุขัง พะลัญจะ โน.
    ๕๑. โกนาคะมะนะ สัมพุทโธ ติงสะหัตถะ สะมุคคะโต
    ติงสะวัสสะ สะหัสสานิ อายุ ตัสสะ มะเหสิโน.
    ๕๒. ธัมมามะเตนะ ตัปเปตา เทวะสังฆัง สุราละเย
    มะหีตะเล จะ ชะนะตัง สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๕๓. กัสสะโป นามะ สัมพุทโธ ธัมมะราชา ปะภังกะโร
    วีสะตีหัตถะมุพเพโธ วีสะสะหัสสะอายุโก.
    ๕๔. อะนูปะโมสะมะสะโม เทวะสัตถา อะนุตตะโร
    กะโรตุ โน มะหาสันติง อาโรคฺยัญจะ ชะยัง สะทา.
    ๕๕. อัฏฐาระสะหัตถะถุพเพโธ โคตะโม สักกะยะวัฑฒะโน
    สัพพัญญู สัพพะติละโก สัพพะโลกะสุขัปปะโท.
    ๕๖. สัมพุทโธ สัพพะธัมมานัง ภะเคหิ ภาคฺยะวายุโก
    วิชชาจะระณะสัมปันโน โสตถฺยาโรคฺยัง ทะทาตุ โน.
    ๕๗. อัพภะตีตา จะ สัมพุทธา อะเนกะสะตะโกฏิโย
    สัพพะโลกะมะภิญญายะ สัพพะสัตตานุกัมปิโน.
    ๕๘. สัพพะเวระภะยาตีตา สัพพะโลกะสุขัปปะทา
    สัพพะโทสัง วินาเสนตา สัพพะโสตถิง กะโรนตุ โน.

    พระพุทธเจ้าในอนาคต ๑ พระองค์
    ๕๙. อะนาคะเต จะ สัมพุทโธ เมตเตยโย เทวะปูชิโต
    มะหิทธิโก มหาเทโว มะหาสันติง กะโรตุ โน.

    พระปัจเจกพุทธเจ้า
    ๖๐. สัพเพ ปัจเจกะสัมพุทธา นิโรธะฌานะโกวิทา
    นิราละยา นิราสังกา อัปปะเมยยา มเหสะโย.
    ๖๑. ทูเรปิ วิเนยเย ทิสฺวา สัมปัตตา ตังขะเณนะ เต
    สันทิฏฐิกะผะเล กัตฺวา สะทา สันติง กะโรนตุ โน.

    นวโลกุตตรธรรม ๙ และพระปริยัติธรรม ๑
    ๖๒. สฺวากขาตะตาทิสัมปันโน ธัมโม สะปะริยัตติโก
    สังสาระ สาคะรา โลเก ตาเรติ ชินะโคจะโร.
    ๖๓. กิเลสะชาละวิทธังสี วิสุทโธ พุทธะเสวิโต
    นิพพานะคะมะโน สันโต สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.

    พระสังฆรัตนะ
    ๖๔. สีลาทิคุณะสัมปันโน สังโฆ มัคคะผะเล ฐิโต
    ชิตินทฺริโย ชิตะปาโป ทักขิเนยโย อะนุตตะโร.
    ๖๕. อะนาสะโว ปะริสุทโธ นิราสาโส ภะวาภะเว
    นิพพานะโคจะโร สันโต สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    พระเถระชั้นผู้ใหญ่ ๑๐๘ รูป
    ๖๖. อัญญาตะโกญทัญญัตเถโร รัตตัญญูณังอัคโค อะหุ
    ธัมมะจักกาภิสะมะโย สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๖๗. วัปปัตเถโร มะหาปัญโญ มะหาตะมะวิโนทะโน
    มะหาสันติกะโร โลเก มะหาสันติง กะโรตุ โน.
    ๖๘. ภัททิโย ภัททะสีโล จะ ทักขิเนยโย อะนุตตะโร
    โลกัตถะจะริโต เถโร สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๖๙. มะหานาโม มหาปัญโญ มะหาธัมมะวิทู สุโต
    มะหาขีณาสะโว เถโร มะหาสันติง กะโรตุ โน.
    ๗๐. อัสสะชิตะเถโร มหาปัญโญ ชิตะมาโร ชิตินทฺริโย
    ชิตะปัจจัตถิโก โลเก สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๗๑. อะนุปุพพิกะถัง สุตฺวา ยะโส เอกัคคะมานะโส
    อัคคะธัมมะมะนุปปัตโต โสตถฺยาโรคฺยัง ทะทาตุ โน.
    ๗๒. จัตฺวาธิกา จะ ปัญญาสะ เถรา คิหิสะหายะกา
    ปัตฺวานะ ปะระมัง สันติง สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๗๓. เย ติงสะ ภัททะวัคคิยา รูเปนาตุละวัณณิโน
    ขีณาสะวา วะสีภูตา เต กะโรนตุ อะนามะยัง.
    ๗๔. อุรุเวลละกัสสะโปปิ มะหาปะริสานะมุตตะโม
    ฐะปิโต อัคคะฐานัมหิ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๗๕. โย นะทีกัสสะปัตเถโร ปุญญักเขตโต อะนุตตะโร
    สาสังโฆ สีละสัมปันโน สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๗๖. ธัมมะปัชชะลิโต สันโต โย เถโร คะยากัสสะโป
    สังยุตโต ภะวะนิเสนโห สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๗๗. โลกะนาถัง ฐะเปตฺวานะ ปัญญะวันตานะ ปาณินัง
    ปัญญายะ สารีปุตตัสสะ กะลัง นาคฆะติ โสฬะสิง.
    ๗๘. สาริปุตโต มะหาปัญโญ ปะฐะโม อัคคะสาวะโก
    ธัมมะเสนาปะติ เสฏโฐ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๗๙. ปาทังคุลิกะมัตเตนะ เวชะยันตะปะกัมปะโน
    ปะถะวิง มะหะติง สัพพัง สะมัตโถ ปะริวัตติตุง.
    ๘๐. โมคคัลลาโน มะหาเถโร ทุติโย อัคคะสาวะโก
    อิทธิมันตานัง โส อัคโค สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๘๑. มะหากัสสะปัตเถโรปิ อุตตัตตะกะนะกะสันนิโภ
    ธุตะคุณัค คะ นิกขิตโต ตะติโย สัตถุสาวะโก
    ๘๒. อะรัญญะวาสาภิระโต ปังสุกูละธะโรมุนิ
    สุคะตะสาสะนะธะโร สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๘๓. อาปัตติอะนาปัตติยา สเตกิจฉายะ โกวิโท
    วินะเย อัคคะนิกขิตโต อุปาลิ สัตถุวัณณิโต.
    ๘๔. วินะเย ปาระมิปปัตโต วินะยัคโคจะโร มุนิ
    กะโรตุ โน มหาสันติง โสตถฺยาโรคฺยัง ทะทาตุ โน.
    ๘๕. อะนุรุทธะ มะหาเถโร ทิพพะจักขู นะมุตตะโม
    ญาติเสฏโฐ ภะคะวะโต โสตถฺยาโรคฺยัง ทะทาตุ โน.
    ๘๖. อุจจากุลิกานัง อัคโค ภัททิโย สุสะมาหิโต
    กาฬิโคธายะ ปุตโต จะ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๘๗. อานันโท พุทธุปัฏฐาโก สังคีติสาธุสัมมะโต
    พะหุสสุโต ธัมมะธะโร สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๘๘. กิพิิโล สิริสัมปันโน มะหาสุขะสะมัปปิโต
    มะหาขีณาสะโว ชาโต มะหาสันติง กะโรตุ โน.
    ๘๙. คะรุวาสัง วะสิตฺวานะ ปะสันโน พุทธะสาสะเน
    ภะคุ จะระหะตัง ปัตโต สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๙๐. กุลัปปะสาทะชะนะโก กาฬุทายี มะหิทธิโก
    เอตะทัคคัฏฐิโต เถโร สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๙๑. เสฏโฐ ธัมมะกะถิกานัง ติณณัง เวทานะ ปาระคู
    ปุณโณ มันตานิยา ปุตโต เถโร โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๙๒. ภาระทฺวาโช มะหาเถโร สีหะนาทานะมุตตะโม
    ฐะปิโต อัคคะฐานัมหิ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๙๓. สังขิตตะ ภาสิตะมัตถัง วิตถาเรนะ วิชานะโก
    กัจจายะโน ภะวะนิเสนโห เถโร โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๙๔. ละกุณฏะกะภัททิโย เถโร มัญชุสสะรานะ มุตตะโม
    ฐะปิโต อัคคะฐานัมหิ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๙๕. อะระณะวิหารีณัง อัคโค ทักขิเนยโย อะนุตตะโร
    สุภูติ ภูตะทะมะโน เถโร โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๙๖. อะรัญญะวาสีนัง อัคโค เรวะโต ขะทิระวะนิโย
    วิเวกาภิระโต เถโร สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๙๗. ณายีนัง อุตตะโม เถโร กังขาเรวะตะนามะโก
    สะมาธิฌานะกุสะโล สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๙๘. โสโณ จะ โกฬิวีโสปิ อารัทธะวีริยานะ มุตตะโม
    ปะหิตัตโต สะทา เถโร โสตถิง ผาสุง กะโรตุ โน.
    ๙๙. กัลยาณะวากกะระณานัง โสโณ กุฏิกัณโณปิ จะ
    อัคโคติ วัณณิโต เถโร โสตถิง ผาสุง กะโรตุ โน.
    ๑๐๐. ลาภีนะมุตตะโม เถโร สีวะลิ อิติ วิสุโต
    โส ระโต ปัจจะยาทิมหิ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๐๑. สัทธาธิมุตตานัง อัคโค วักกะลิ อิติ นามะโก
    ปาโมชชะพะหุโล เถโร สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๐๒. ราหุโล พุทธะปุตโตปิ สิกขากามานะ มุตตะโม
    ทายาโท สัพพะธัมเมสุ มะหาสันติง กะโรตุ โน.
    ๑๐๓. สัทธายะ ปัพพะชิตฺวานะ รัฏฐะปาโล ปะรักกะมี
    เอตะทัคเค ฐิโตเยวะ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๐๔. กุณฑะธาโน มะหาเถโร สะลากัง ปะฐะมัง คะโต
    ฐะปิโตเยวะ ฐานัมหิ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๐๕. ปะฏิภานะวันตานัมปิ อัคโคติ พุทธะวัณณิโต
    วังคีโส อะระหา เสฏโฐ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๐๖. สะมันตะปาสาทิกานัง อัคคัฏฐานัมหิ ฐะปิโต
    อุปะเสโน วังคันตะปุตโต สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๐๗. ทัพโพ มัลละปุตโต เถโร เสนาสะนะปัญญาปะโก
    ฐะปิโต อัคคัฏฐานัมหิ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๐๘. ปิลินทะวัจฉะสะมะโณ เทวะตานัง ปิโย อะหุ
    ฐะปิโต อัคคัฏฐานัมหิ โสตถฺยาโรคฺยัง ทะทาตุ โน.
    ๑๐๙. พาหิโย ทารุจีริโย ขิปปาภิญญานะ มุตตะโม
    กะโรตุ โน มะหาสันติง อาโรคฺยัญจะ ชะยัง สะทา.
    ๑๑๐. กุมาระกัสสะปัตเถโร จิตตะกะถีนะ มุตตะโม
    มิจฉาวิตักกุปัจเฉโท สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๑๑. ปฏิสัมภิทาปัตตานัง อัคคัฏฐานัมหิ ฐะปิโต
    โกฏฐิโต อะระหา เสฏโฐ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๑๒. อัปปาพาโธ มะหาเถโร อัปปาพาธานะ มุตตะโม
    พากุโล อะระหา ชาโต สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๑๓. ปุพเพนิวาสะเวทีนัง อัคโคติ พุทธะวัณณิโต
    โสภิโต นามะโส เถโร สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๑๔. มหากัปปินัตเถโรปิ ภิกขุโอวาทะโก อะหุ
    กุสะโล โอวาททะทาเน สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๑๕. ภิกขุโนวาทะกานัค โค นันทะโก อิติ วิสสุโต
    ปาเลตุ โน สะทา เถโร โสตถิง ผาสุง กะโรตุ โน.
    ๑๑๖. อินทฺริเยสุ คุตตะทฺวาโร อัคคัฏฐาเน ฐิโต อะหุ
    นันทัตเถโร วะสิปปัตโต สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๑๗. เตโชธาตุกุสะลานัง อัคคัฏฐานัมหิ ฐะปิโต
    สาคะโต นามะ โส เถโร โสตถิง ผาสุง กะโรตุ โน.
    ๑๑๘. สัญญาวิวัฏฏะกุสะโล ปะธาโน ภาวะนาระโต
    พุทธะสิสโส มหาปันโถ มะหาสันติง กะโรตุ โน.
    ๑๑๙. จูฬะปันถะกัตเถโรปิ มะโนมะยาภินิมมิโต
    ฐะปิโต อัคคัฏฐานัมหิ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๒๐. ปฏิภาเนยยะกานัง ตุ อัคคัฏฐานัมหิ ฐะปิโต
    ราโธ เถโร มหาโสตถิง กะโรตุ โน อะนามะยัง.
    ๑๒๑. ลูขะจีวะระธะรานัง ภิกขูนัง อุตตะโม อะหุ
    โมฆะราชะมะหาเถโร มะหาสันติง กะโรตุ โน.
    ๑๒๒. วิมะโล วิมะสัปปัญโญ สุรูโป สุสะมาหิโต
    ระโช นะ ลิมปะติ ขันเธ มะหาสันติง กะโรตุ โน.
    ๑๒๓. ธัมมะปาโล มะหาปาโล มะหาธัมมะธะโร ยะติ
    มะหาขีณาสะโว โลเก มะหาสันติง กะโรตุ โน.
    ๑๒๔. จักขุปาโล มะหาเถโร ปะธาโน สีละสังวุโต
    ปะหิตัตโต มะหากาโย มะหาสันติง กะโรตุ โน.
    ๑๒๕. สัพพะเวระภะยาตีโต นาระโท อาสะวักขะโย
    มหาสันติกะโร โลเก สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๒๖. พุทธะปูชายะ นิระโต ชินะภัตติปะรายะโน
    สัทธัมมะสะวะโน เถโร สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๒๗. ปัจฉิมะภะวะสัมปัตโต โคตะโม ภาวะนาระโต
    ราคักขะยะมะนุปปัตโต สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๒๘. เสนาสะเนสุ สัปปายัง สัทธา ฌานัง สะมาระภิ
    โคธิโก พุทธะฌายันโต สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๒๙. พุทเธ ปะสันนะมานะโส สุพาหุ ปัญชะลีกะโต
    ขีณาสะโว วะสีภูโต มะหาสันติง กะโรตุ โน.
    ๑๓๐. วิปัสสะนายะ ปะสุโต วัลลิโย สุสะมาหิโต
    สะโต ณายี วะเนวาสี สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๓๑. อุตติโย วินะยะธะโร อะติกกันโต นะรามะเร
    ธาเรณโต อันติมัง เทหัง สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๓๒. วิมะโล วิระโชชัลโล ชาโต ปัญฑะระเกตุนา
    พิมพิสารัทธะโช เถโร สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๓๓. รัมมารัญเญ วะสีตฺวานะ ภาเวนโต กุสะลัง พะหุง
    โยคักเขมะมะนุปปัตโต สะภิโย สันติง กะโรตุ โน.
    ๑๓๔. ปุพเพนิวาสัง ชานันโต ทิพพะจักขุ วิโสธะโน
    นาคีโตระหะติง ปัตโต โสตถฺยาโรคฺยัง ทะทาตุ โน.
    ๑๓๕. ปาติโมกขะมะนุปปัตโต วิชะโย รัญญะโคจะโร
    ลาภาลาภี ตะถาสังสี สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๓๖. ตัณหาชะฏัง วิชะเฏตฺวา วัฑเฒตฺวานะ วิปัสสะนัง
    สังฆรักขิโต มะหาเถโร มะหาสันติง กะโรตุ โน.
    ๑๓๗. อะรัญญะวาสาภิระโต ภะวะเนตติสะมูหะโต
    ธัมมานัง ปาระมิปปัตโต อุตตะโร ปาตุ โน ภะยา.
    ๑๓๘. ปุพเพ ปุญญานิ กัตตฺวานะ ปุพพะโยคัง สะมาระภิ
    อุสสะโภ ระหะตัง ปัตโต สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๓๙. สะมาปัตติ สะมาปันโน ฉะฬะภิญโญ มหิทธิโก
    สิวะโก พุทธะฌายันโต สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๔๐. สัตตาริยะธะโน เถโร ธะนิโย ธัมมะสาคะโร
    วันตะสังสาระคะมะโน สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๔๑. ปัญจักขันเธ ปะริญญายะ ภาวะยิตฺวานะ นิพพุตัง
    ปัตฺวานะ ปะระมัง สันติง โปสิโย ปาตุ โน ภะยา
    ๑๔๒. อุปะนิสสะยะสัมปันโน อุชชะโย พุทธะมามะโก
    โลกัตถะปะสุโต เถโร สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๔๓. พุทธัปปะสาทะสัมปันโน ปัพพะชิ ชินะสาสะเน
    สัญชะโย นามะ โส เถโร สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๔๔. มารัญชะโย มะหาเถโร รามะเณยโย มะหิทธิโก
    นิพพานะนินนะจิตโต โส สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๔๕. อุโภ ปาปัญจะ ปุญญัญจะ วีติวัตโต อะนาสะโว
    วีรัตเถโร ระหัปปัตโต สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๔๖. ปุณณะมาสะมะหาเถโร ปังสุกูละธะโร ยะติ
    ปุพพะกิจจะวิธิง กัตฺวา มะหาสันติง กะโรตุ โน.
    ๑๔๗. ปัญจะฉินโน ปัญจะชะโห ปัญจะ จุตตะริภาวะโน.
    ปัญจะสังคาติโค เถโร สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๔๘. ปุพเพ ราคัง วิจาเรนโต ชินะภัตติปะรายะโน
    เพลัฏฐะสีโส วังสะธะโร สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๔๙. ปัญจุปันนานิ อะภะโย นิกันติ นัตถิ ชีวิเต
    อะชิโต โส มะหาเถโร มหาสันติง กะโรตุ โน.
    ๑๕๐. วิวัฏฏะนิสสะเย ปุญเญ กัตฺวา สัมพุทธะภัตติมา
    กุลลัตเถโร ระหัปปัตโต มหาสันติง กะโรตุ โน.
    ๑๕๑. วิปัสสี ธัมมะทายาโท เถโร นิโคฺรธะนามะโก
    นิพพานาคะมะสันทิฏโฐ สะทา สันติง กะโรตุ โน.
    ๑๕๒. ติสโส วิชชา อะนุปปัตโต สุคันโธ นามะ โส ระโห
    สัพพะปาปะปะริกขีโณ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๕๓. นันทิโย สัทธาสัมปันโน ชิตะเกลโส มะหาเถโร
    อะภิญญา ปาระมิปปัตโต สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๕๔. กิเลสา ฌาปิตา เยนะ ชิตะธัมมะระเตนะ โส
    กัมมาระปุตตะวิมะโล สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๕๕. เทวะโลกะมะนุสเสสุ อะนุภุตฺวา วิภูติโย
    ติสสัตเถโร มะหาภูโต มะหาสันติง กะโรตุ โน.
    ๑๕๖. สุวิมุตโต มะหานาโค ตีหิ วังเกหิ มุตตะโก
    สุมังคะโล มะหาเถโร มะหาสันติง กะโรตุ โน.
    ๑๕๗. นิรัคคะโฬ นิราสาโส มะละขีละวิโสธะโน
    วิเวกาภิระโต คุตโต สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๕๘. ปะวิเวกะมะนุปปัตโต คิริมานันทะนามะโก
    ภาเวนโต กุสะเล ธัมเม สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๕๙. พุทธะสาสะนะมารัทโธ สะมิทธิ ภาวะนาระโต
    สะมิทธิคุณะสัมปันโน สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๖๐. อาราธิตะชิโน สันโต โชติตเถโร มหาระหา
    วิมุตโต สัพพะสังสารา สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๖๑. เสนาสะนานิ ปันตานิ เสวันโต ฌานะมาระภิ
    ฉะฬะภิญโญ มะหาจุนโท สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๖๒. ฉันนัตเถโร สะหะชาโต สุณันโต ชินะสาสะนัง
    โยคักเขมะมะนุปปัตโต สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๖๓. เมฆิโย พุทธุปัฏฐาโก ชินะภัตติปะรายะโน
    มิจฉาวิตักกุปัจเฉโท สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๖๔. อุปะวาโณ มะหาเถโร มะหากาโย มะหาระหา
    มะหิทธิโก มะหาเตโช สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๖๕. สังกิจโจ โจระฑะมะโน สัพพะสังโยชะนักขะโย
    ปาเลตุ โน สัพพะภะยา โสตถฺยาโรคฺยัง ทะทาตุ โน.
    ๑๖๖. ปัญหะพฺยากะระเณ เฉโก เมตตาฌานะระโต ยะติ
    โสปาโกปายะสัมปันโน สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๖๗. เขตตะสัมปัตติสัมปัตโต วัฑฒะมาโนวะ โสตถินา
    สุมะโน อะระหา ชาโต สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๖๘. ปิโย เทวะมะนุสสานัง สานุตเถโร พะหุสสุโต
    เมตตาฌายี ตะโมฆาตี สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๖๙. โย จะ ปุพเพ กะตัง ปาปัง กุสะ เลนะ ปะหียะติ
    อังคุลิมาโล โส เถโร สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๗๐. วิปัสสะนาธะรา เยปิ เถรา สะมะถะยานิกา
    ขีณาสะวา มะหาเตชา มะหาตะมะวิโนทะนา.
    ๑๗๑. ฌานิกาฌานิกา เยปิ ธัมมาภิสะมะยาทะโย
    สัพเพ โสตถิง สะทา เทนตุ ชะยะมาโรคฺยะมายุโน


    พระเถรีชั้นผู้ใหญ่ ๑๓ รูป
    ๑๗๒. รัตตัญญูณัง ภิกขุนีนัง โคตะมี ชินะมาตุจฉา
    ฐะปิตา อัคคัฏฐานัมหิ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๗๓. มะหาปัญญานะมัคคัฏฐา เขมาเถรีติ ปากะฏา
    สาวิกา พุทธะเสฏฐัสสะ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๗๔. เถรี อุปปะละวัณณา จะ อิทธิมันตีนะ มุตตะมา
    สาวิกา พุทธะเสฏฐัสสะ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๗๕. วินะยัทธะรีนัง อัคคา ปะฏาจาราติ วิสสุตา
    ฐะปิตา อัคคัฏฐานัมหิ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๗๖. ธัมมะกะถิกะปะวะรา ธัมมะทินนาติ นามิกา
    ฐะปิตา อัคคัฏฐานัมหิ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๗๗. ฌายิกานัง ภิกขุนีนัง นันทา เภรีติ นาเมสา
    อัคคัฏฐาเน ฐิตา อะหุ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๗๘. อารัทธะวีริยานัง อัคคา โสณาเถรีติ นามิกา
    ฐะปิตา ตัตถะ ฐานัมหิ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๗๙. ทิพพะจักขุกานัง อัคคา พะกุลา อิติ วิสสุตา
    วิสุทธะนะยะนา สาปิ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๘๐. กุณฑะละเกสี ภิกขุนี ขิปปาภิญญานะมุตตะมา
    ฐะปิตาเยวะ ฐานัมหิ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๘๑. เถรี ภัททะกาปิลานี ปุพพะชาติมะนุสสะรี
    ตาสังเยวะ ภิกขุนีนัง อัคคา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๘๒. เถรี ตุ ภัททะกัจจานา มะหาภิญญานะมุตตะมา
    ชิเนนะ สุขะทุกขัง สา สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๘๓. ลูขะจีวะระธารีนัง อัคคา กิสาปิ โคตะมี
    ฐะปิตา อัคคัฏฐานัมหิ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๑๘๔. สิงคาละมาตา ภิกขุนี สัทธาธิมุตตานะ มุตตะมา
    กะโรนตุโน มะหาสันติง อาโรคะยัญจะ สุขัง สะทา.
    ๑๘๕. อัญญา ภิกขุนิโย สัพพา นานาคุณะธะรา พะหู
    ปาเลนตุ โน สัพพะภะยา โสกะโรคาทิสัมภะวา.
    ๑๘๖. โสตาปันนาทะโย เสกขา สัทธาปัญญาสีลาทิกา
    ภาคะโส เกลสะทะหะนา สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.

    พญานาค
    ๑๘๗. สุมะโน สุมะนะจะโล อะระวาเฬระปัตตะโก
    จัมเปยโย มุจะลินโท จะ กัมพะโล ภุชะคิสสะโร.
    ๑๘๘. กาละนาโค มะหากาโฬ สังขะปาโล มะโหทะโร
    มะณิกัณโฐ มะณิอัคขิ นันทะนาโคปะนันทะโก.
    ๑๘๙. วะรุโณ ธะตะรัฏโฐ จะ กุงคุวิโล ปะลาละโก
    จิตฺระนาโค มะหาวีโร ฉัพฺยาปุตโต จะ วาสุกี.
    ๑๙๐. กัณหาโคตะโม ภุชะนินโท อัคคิธูมะสิโข ตะถา
    จูโฬทะโร อะหิจฉัตโต นาคา เอราปะถาทะโย.
    ๑๙๑. อาสิวิสา โฆระวิสา เย สัพเพ นะยะนาวุธา
    ชะลัฏฐา วะ ถะลัฏฐา วา ปัพพะ เตยยา นะทีจะรา
    กะโรนตุ โน มะหาโสตถิง อายุมาโรคิยัง สะทา.
    เปรต
    ๑๙๒. นิชฌามะตัณหิกา เปตา อุสุสัตติ จะ โลมะกา
    มังสะปิณฑาทะโย เปตา เปตา เวมานิกาทะโย
    ปาเลนตุ โน สัพพะภะยา สะทา เต สุขิโน สะทา.
    อสูร
    ๑๙๓. เย ปะหาราทะสัมพะรา พะละยาสุระคะณา จะ เย
    เวปะจิตตาสุระคะณา จันทาสุระคะณาทะโย.
    ๑๙๔. สัพเพ เตปิ มหาเตชา ภูตะยักขะนิวาระณา
    กะโรนตุ โน มะหาโสตถิง อาโรคะยัญจะ ชะยัง สะทา.
    เทวดา
    ๑๙๕. เย ยักขา สัตตะสะหัสสา ภุมมา กาปิละวัตถุกา
    อิทธิมันโต ชุติมันโต วัณณะวันโต ยะสัสสสิโณ.
    ๑๙๖. สัพเพ ติสะระณา ยักขา มะเหสักขา ชุตินธะรา
    กะโรนตุ โน มะหาโสตถิง อาโรคะยัญจะ ชะยัง สะทา.
    ๑๙๗. ฉะสะหัสสา เหมะวะตา ยักขา นานัตตะวัณณิโน
    พุทธะปูชายะ นิระตา สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
    ๑๙๘. สาตาคิรา ติสะหัสสา ยักขา นีลาทิวัณณิโน
    นานาปะภายะ สัมปันนา สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
    ๑๙๙. เวสสามิตตา ปัญจะสะตา ยักขา นานัตตะวัณณิโน
    อิทธิมันโต ชุติมันโต วัณณะวันโต ยะสัสสิโณ
    โมทะมานา อะภิกกามุง สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
    ๒๐๐. กุมภีโร ราชะคะหิโก เวปุลลัสสะนิเวสะนัง
    ภิยโย นัง สะตะสะหัสสัง ยักขานัง ปะยิรุปาสะติ
    โส ยักเขหิ ปะริวาโร สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
    ๒๐๑. ปุริมัญจะ ทิสัง ราชา ธะตะรัฏโฐ ปะสาสะติ
    คันธัพพานัง อะธิปะติ มะหาราชา ยะสัสสิ โส.
    ๒๐๒. ปุตตาปิ ตัสสะ พะหะโว อินทะนามา มะหัพพะลา
    โส ราชา สะหะ ปุตเตหิ สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
    ๒๐๓. ทักขินัญจะ ทิสัง ราชา วิรุฬโห ตัง ปะสาสะติ
    กุมภัณฑานัง อะธิปะติ มะหาราชา ยะสัสสิ โส.
    ๒๐๔. ปุตตาปิ ตัสสะ พะหะโว อินทะนามา มะหัพพะลา
    วิรุฬโห สะหะ ปุตเตหิ สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
    ๒๐๕. ปัจฉิมัญจะ ทิสัง ราชา วิรูปักโข ปะสาสะติ
    นาคานัญจะ อะธิปะติ มะหาราชา ยะสัสสิ โส.
    ๒๐๖. ปุตตาปิ ตัสสะ พะหะโว อินทะนามา มะหัพพะลา
    วิรูปักโข สะปุสเตหิ สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
    ๒๐๗. อุตตะรัญจะ ทิสัง ราชา กุเวโร ตัง ปะสาสะติ
    ยักขานัญจะ อะธิปะติ มะหาราชา ยะสัสสิ โส.
    ๒๐๘. ปุตตาปิ ตัสสะ พะหะโว อินทะนามา มะหัพพะลา
    กุเวโร สะหะ ปุตเตหิ สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
    ๒๐๙. ปุริมัง ทิสัง ธะตะรัฏโฐ ทักขิเณนะ วิรุฬหะโก
    ปัจฉิเมนะ วิรูปักโข กุเวโร อุตตะรัง ทิสัง.
    ๒๑๐. จัตตาโร เต มะหาราชา สะมันตา จะตุโร ทิสา
    ทัททัฬหะมานา อัฏฐังสุ สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
    ๒๑๑. เตสัง มายาวิโน ทาสา อาคุง วัญจะนิกา สะฐา
    มายา กุเฏณฑุ เวเฏณฑุ วิตุจจะ วิตุโฏ สะหะ.
    ๒๑๒. จันทะโน กามะเสฏโฐ จะ กินนุฆัณฑุ นิฆัณฑุ จะ
    ปะนาโท โอปะมัญโญ จะ เทวะสูโต จะ มาตะลิ.
    ๒๑๓. จิตตะเสโน จะ คันธัพโพ นะโฬราชา ชะโนสะโภ
    วะโร ปัญจะสิโข เจวะ ติมพะรู สุริยะวัจฉะสา.
    ๒๑๔. เอเต จัญเญ จะ ราชาโน คันธัพพา จะ มะหัพพะลา
    โมทะมานา สะทา โสตถิง โน กะโรณตุ อะนามะยัง.
    ๒๑๕. มะหันตา นาคะสา นาคา เวสาลา สะหะ ตัจฉะกา
    กัมพะลัสสะตะรา จาปิ เมรูปาทะสิตา พะลา.
    ๒๑๖. ยามุนา ธะตะรัฏฐา จะ สัพเพ นาคา ยะสัสสิโน
    เอราวะโณ มะหานาโค โน กะโรณตุ อานามะยัง.
    ๒๑๗. มะหิทธิกา สุปัณณา เย นาคะราเช มะหัพพะเล
    คะเหตตะวา ชินะเขตเตวะ ปักขันทิงสุ นะเภ พะลา.
    ๒๑๘. ปะฐัพฺยาโป จะเตโช จะ วาโย เทวา มะหิทธิกา
    อุปะจาเรนะ นิพพัตตา สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
    ๒๑๙. วะรุณา วาระณา เทวา โสโม จะ ยะสะสา สะหะ
    เมตตาการุณิกา สัพเพ สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
    ๒๒๐. ปัณณาสะโยชะนายาเม วิมาเน ระตะนามะเย
    ฐิโต ตะเม วิหันตะวานะ สุริโย โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๒๒๑. จันโท สีตะกะโร โลเก ปะภายุชชะลิโตทะโย
    มะหันธะการะวิทธังสิ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
    ๒๒๒. เวณฑู จะ สะหัสสี เทวา อะสะมา จะ ทุเว ยะมา
    จันทัสสูปะนิสา เทวา เทวาสูริยะนิสสิตา
    พุทธัสสะ มามะกา สัพเพ สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
    ๒๒๓. นักขัตตานิ ปุรักขิตฺวา เทวา มันทะวะลาหะกา
    สักโก ปุรินทะโท เสฏโฐ สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
    ๒๒๔. มะหันตา สะหะภู เทวา ชะละมัคคิสิขาริวะ
    อะริฏฐะกา จะ โรชา จะ อุมาปุปผะนิภาสิโน.
    ๒๒๕. วะรูณา สะหะธัมมา จะ อัจจุตา จะ อะเนชะกา
    สุเลยยะรุจิรา เทวา เทวา วาสะวะเนสิโน
    ทะเสเต ทะสะธา กายา สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
    ๒๒๖. สะมานา มะหาสะมานา มานุสา มานุสุตตะมา
    ขิฑฑาปะโทสิกา เทวา เทวา มะโนปะโทสิกา.
    ๒๒๗. อะถาปิ หะระโย เทวา เทวา โลหิตะวาสิโน
    ปะระคา มะหาปาระคา สัพเพ เทวา ยะสัสสิโน
    ทะเสเต ทะสะธา กายา สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
    ๒๒๘. สุกกา กะรุมหา อะรุณา อาคุง เวฆะนะสา สะหะ
    โอทาตะคัยหา ปาโมกขา อาคุง เทวา วิจักขะณา.
    ๒๒๙. สะทามัตตา หาระคะชา มิสสะกา จะ ยะสัสสิโน
    ถะยะนัง อาคะปัชชุนโน โย ทิสาสะวะภิวัสสะติ.
    ๒๓๐. ทะเสเต ทะสะธา กายา สัพเพ นานัตตะวัณณิโน
    อิทธิมันโต ชุติมันโต วัณณะวันโต ยะสัสสิโน
    โมทะมานา ชินะทานา สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
    ๒๓๑. โลกะธาตุสะหัสเสสุ ทะสะเสววะ สะมันตะโต
    เทวาทะโย ปาณะคะนา สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
    ๒๓๒. เขมิยา กัฏฐะกายา จะ โชตินามา มะหิทธิกา
    ลัมพีตะกา ลามะเสฏฐา สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
    ๒๓๓. ชะลัฏฐา จะ ถะลัฏฐัญเญ เทวากาสัฏฐะกาทะโย
    ยักขะคันธัพพะกุมภัณฑา ปิสาจา เย มะโหระคา
    เมตตะจิตตา จะ สัพเพ เต โสตถิง ผาสุง กะโรนตุ โน.
    ๒๓๔. ตาวะติงสา จะ เย เทวา ยามา เทวา มะหิทธิกา
    ตุสิตา จะ มะหา เทวา นิมมานะระติโนมะรา.
    ๒๓๕. วะสะวัตตีสุ ระติโน สัพเพ เทวา สะวาสะวา
    พุทธะปูชายะ นิระตา สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.

    พรหม
    ๒๓๖. พฺรัหฺมาโน ปาริสัชชา จะ เย จะ พฺรัหฺมะปุโรหิตา
    มะหาพฺรัหฺมา จะ สัพเพ เต ปะฐะมัชฌานะสัณฐิโน.
    ๒๓๗. เมตตาวิหาริโน สันตา สัมพุทธัสสะ ปะรายะนา
    กะโรนตุ โน มะหาโสตถิง เสกขาเสกขะปุถุชชะนา.
    ๒๓๘. ปะริตตาภัปปะมาณาภา พฺรัหฺมา จาภัสสะรา ตะถา
    พุทธะปูชายะ นิระตา ทุติยัชฌานะสัณฐิโน.
    ๒๓๙. เมตตาการุณิกา สัพเพ สัพพะสัตตะหิเตสิโน
    กะโรนตุ โน มะหาสันติง โสตถิมาโรคฺยะมายุวัง.
    ๒๔๐. ปะริตตะสุภาพฺรัหฺมาโน อัปปะมาณะสุภา จะ เย
    สุภะกิณหา จะ พฺรัหฺมาโน ตะติยัชฌานะสัณฐิโน.
    ๒๔๑. ปะภายะ ผะระณา โลเก พุทธะฌานะระตา สะทา
    อะหิงสา สัพพะสัตเตสุ สะทา สันติง กะโรนตุ โน.
    ๒๔๒. เวหัปผะลาปิ พฺรัหฺมาโน จะตุถถัชฌานะสัณฐิโน
    เสกขะปุถุชชะนาเสกขา สะทา สันติง กะโรนตุ โน.
    ๒๔๓. สัมปัตติยา นะ หายันติ พฺรัหฺมาโน ชินะสาวะกา
    อะวิหานามะกา สัพเพ สะทา สันติง กะโรนตุ โน.
    ๒๔๔. อะตัปปา นามะ พฺรัหฺมาโน จะตุถถัชฌานะสัณฐิโน
    พฺรัหฺมะวิหาริกา สัพเพ โสตถิง ผาสุง กะโรนตุ โน.
    ๒๔๕. สุทัสสา นามะ พฺรัหฺมาโน ภิรูปา ฌานะโภคิโน
    อะปุนาคะมะนา กาเม สันติง ผาสุง กะโรนตุ โน.
    ๒๔๖. พฺรัหฺมะวิหาระสัมปันนา ชินะภัตติปะรายะนา
    พฺรัหฺมาโน สุทัสสี นามะ สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
    ๒๔๗. อะกะนิฏฐา จะ พฺร้หฺมาโน เชฏฐา สัพพะคุเณหิ จะ
    ปะหีนะภะวะนิเสนหา สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
    ๒๔๘. ปะฐะมารูปะพฺรัหฺมาโน สัพพะรูปะวิราคิโน
    ชินะภัตติระตา สัพเพ สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
    ๒๔๙. ทุติยารูปะพฺรัหฺมาโน เหฏฐาฌานะวิราคิโน
    ชินะภัตติระตา สัพเพ สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
    ๒๕๐. ตะติยารูปะพฺรัหฺมาโน เหฏฐาฌานะวิราคิโน
    ชินะภัตติระตา สัพเพ สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
    ๒๕๑. จะตุตถารูปะพฺรัหฺมาโน เหฏฐาฌานะวิราคิโน
    ชินะภัตติระตา สัพเพ สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.

    บุคคลประเภทรวม
    ๒๕๒. เวเทเหปะระโคยาเน ชัมพูทีเป กุรุมหิ จะ
    เทวะยักขะปิสาเจหิ สัทธิง วิชชาธะราทะโย.
    ๒๕๓. อากาสัฏฐา จะ พฺรัหฺมาโน ชะลัฏฐา จันตะลิกขะชา
    ทะวิปะทาทะโย เย สัตตา สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
    ๒๕๔. มาระเสนะวิฆาตัสสะ ชินัสสะ สุขะฌายิโน
    เตโชพะเลนะ มะหะตา สะทา มังคะละมัตถุ โน.
    ๒๕๕. นานาคุณะวิจิตตัสสะ รูปะกายัสสะ สัตถุ โน
    สัพพะเทวะมะนุสสานัง มาระพันธะวิโมจิโน
    เมตตาพะเลนะ มะหะตา สะทา มังคะละมัตถุ โน.
    ๒๕๖. สัพพัยญุตาทิกายัสสะ ธัมมะกายัสสะ สัตถุโน
    จักขาทะยะโคจะรัสสาปิ โคจะรัสเสวะ ภูริยา
    เตโชพะเลนะ มะหะตา สัพพะ มังคะละมัตถุ โน.
    ๒๕๗. รูปะกายะสะทิสัสสะ นิมมิตัสสะ มะเหสิโน
    ธัมมัสสะ วัตตุโน สัคเค เทวานัง สุคะตา ปะติ
    เตโชพะเลนะ มะหาตา สะทา มังคะละมัตถุ โน.
    ๒๕๘. สิกขิตฺวา มานุเส เทเว โมจะวิตฺวา สะเทวะเก
    สังขาเร ปะชะหันตัสสะ นิพพุตัสสะ มะเหสิโน
    มหันเตนานุภาเวนะ สัพพะ มังคะละมัตถุ โน.
    ๒๕๙. จะตุราสีติสะหัสสะ ธัมมักขันธัสสะ เตชะสา
    นะวังคะสาสะนัสสาปิ นะวะโลกุตตะรัสสะ จะ
    สัพพะปาปะปะวาเหนะ สัพพะ มังคะละมัตถุ โน.
    ๒๖๐. มะหะโตริยะสังฆัสสะ ปัญญักเขตตัสสะ ตาทิโน
    ปะหีนะสัพพะปาปัสสะ สีลาทิกขันธะธาริโณ
    มะหาเตชานุภาเวนะ สัพพะ มังคะละมัตถุ โน.
    ๒๖๑. ปาตาเล ภูตะลากาเส เทวะยักขะปิสาจะกา
    วิชชาธะรา จะ คันธัพพา นาคะกุมภัณฑะรักขะสา
    สัพเพสะมานุภาเวนะ สัพพะ มังคะละมัตถุ โน.

    อานุภาพของอุปปาตะสันติ
    ๒๖๒. อิจเจวะมุปปาตะสันติง โย วะเทยยะ สุเณยยะ วา
    วิเชยยะ สัพพะปาปานิ วุทธัตตัญจะ ภะวิสสะติ.
    ๒๖๓. โสตถิกาโม ละเภ โสตถิง สุขะกาโม สุขังละเภ
    อายุกาโม ละเภยยายุง ปุตตะกาโม ละเภปุตตัง.
    ๒๖๔. นะ ตัสสะ โรคา พาเธนติ วาตะปิตตาทิสัมภะวะ
    อะกาละมะระณัง นัตถิ นะ เทโว วิสะโมสะเร.
    ๒๖๕. นะ จุปปาตะภะตัง ตัสสะ ดนปี ปัตตะภะยัง ตะถา
    นัสสันติ ทุนนิมิตตานิ ปาปะกัมมัฏฐิตานิ จะ
    ทีฆะมายุ มะหาโสตถิง อาโรคฺยัญจะ สะทา ภะเว.
    ๒๖๖. โย สุตฺวาปิ มะหาสันติง สังคามัง ปะวิเส นะโร
    วิชะเย เวริโน สัพเพ นะ สัตเถหะยะภิภูยะเต.
    ๒๖๗. สัพพะทา ละภะเต ปิติง นะวิปัตติง นาวะคาหะติ
    โรเคหิ นาภิภูยะเต สะวัตถูหิ วิวัฑฒะเต.
    ๒๖๘. ยัตฺระ เทเส วะโกวะกา พาฬหะกา รักขะสาทะโย
    อุปปาตะสันติโฆเสนะ สัพเพ ตัตถะ สะมันติ เต.
    ๒๖๙. ยะมุททิสสะ วะเท สันติง สะชีวัญจาปะยะชีวิตัง
    โส มุจจะเต มะหาทุกขา ปัปโปติ สุคะติง สะทา.
    ๒๗๐. เทวัฏฐาเน นาคะเร วา นิจจะมุปปาตะสันติยา
    ปาละกา เทวะราชาโน เตชะสิรีวิวัฑฒะนา.
    ๒๗๑. ปะถะพะยาปาทิสัญชาตา อุปปาตา จันตะลิกขะชา
    อินทาทิชะนิตุปปาตา ปาปะกัมมะสะมุฏฐิตา
    สัพพุปปาตา วินัสสันติ เตชะสุปปาตะสันติ.
    อุปปาตะสันติ นิฏฐิตาฯ
    จบอุปปาตะสันติ
    มนต์สำหรับระงับเหตุร้ายทั้งปวง



    ที่มา
    • จากกระทู้ของคุณ Fourthman
     

แชร์หน้านี้

Loading...